เช้าวันรุ่งขึ้น
ก่อนที่จะออกไปจากห้องของเขา
ซูไห่โม่ตัดสินใจที่จะตรวจสอบสถานะของเขา "สถานะ!"
[ซูไห่โม่: 6 ปี]
[Hp: 100%] [Mp: 233]
[กำลัง: 15.1]
[ต้านทาน: 9.2] [ความคล่องตัว: 19.4]
[ความชำนาญ: 20.2]
[ปัญญา: 23.3] [ภูมิปัญญา: 26]
[ดินแดน: หลอมรวมกายา]
[ขั้น: หลอมรวมเลือด]
[Skills:
[การข่มขู่ lv_1], [กระโดด
lv_1].]
[สถานะ:
ยังอ่อนเกินไป!]
[สถิติสูงสุดสำหรับ
หลอมรวมเลือด คือ 55!]
"ดูเหมือนสถิติของข้ามากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
... อาจเป็นเพราะการเดินจากบ้านหลังนั้นมาถึงที่นี่ ..."
ซูไห่โม่พึมพำกับตัวเองก่อนเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องของเขา
จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่ห้องรับแขกเพื่อรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัวของเขา
เมื่อเขาไปถึง
คนอื่นต่างหันมามองเขาอย่างแปลกประหลาดอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่าพวกเขากำลังพยายามจะยืนยันอะไรบางอย่างและครู่ต่อมาพวกเขาก็ชะงักอึ้ง
เมื่อเห็นขั้นของการบ่มเพาะของเขา
"เมื่อวานนี้
เจ้าไม่ได้อยู่ที่ขั้นหลอมรวมกล้ามเนื้อหรอกหรือ มันเป็นอย่างไรบ้าง
ที่ตอนนี้เจ้าทะลวงผ่านมาอยู่ขั้นหลอมรวมเลือดในตอนนี้? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต่อสู้กับสามนักเพาะและมันก็ยังนับว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่ตอนนี้เจ้ากระโดดจากขั้นหลอมรวมกล้ามเนื้อไปยังขั้นหลอมรวมเลือด
เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าไม่ได้อยู่ที่หลอมรวมเลือดตั้งแต่แรก
แล้วเพียงแค่แกล้งพวกเราสนุก ๆ?”
ทุกคนต่างคิดเช่นนั้น
พวกเขาทั้งหมดต่างรอคำตอบและคาดหวังว่าจะได้คำอธิบายที่ยอมรับได้บ้าง
แล้วพวกเขากลับได้ยินคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน
"ข้าเดาว่า
ตั้งแต่ก่อนที่ข้าจะถูกลักพาข้าก็อยู่ที่ระดับหลอมรวมเลือด
เมื่อข้าเริ่มต้นทำการบ่มเพาะอีกครั้งมันก็ก็สามารถทะลวงผ่านได้ง่ายขึ้น”
มันเป็นไปไม่ได้!
มันทำให้พวกเขาต้องการที่จะกรีดร้องออกมาอย่างขัดใจ
แต่ไม่พบคำอธิบายอื่นใดที่พวกเขาสามารถยอมรับได้
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
เมื่อหายตกใจจากระดับการบ่มเพาะของ
ซูไห่โม่ แล้ว ทุกอย่างก็เงียบสงบ ก่อนจะกลับมาสนทนากันปกติ
แตกต่างจากอาหารมื้อเย็นของวันก่อน แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็พังพินาศโดยวลีจาก
ซูไห่โม่
"ข้าจะไปที่ลานประลองในวันนี้"
ทุกคนต่างชะงักอึ้งและเริ่มมองไปที่ ไห่โม่
แต่ละคนต่างมีสีหน้าการแสดงออกที่แตกต่างกัน แม่และพ่อของเขามีสีหน้าดูเป็นห่วง
พี่ชายของเขามีสายตาแปลก ๆ ในดวงตาของเขามองไปทางซูไห่โม่
แต่คนที่มีปฏิกิริยามากที่สุดคือน้องสาวของเขาที่ตกใจจากคำพูดของเขาและกระโดดไปหาเขาในทันที
"ไม่ได้อย่างแน่นอน!"
ทุกคนคาดหวังคำพูดดังกล่าวจากพ่อแม่
แต่คนที่บอกกลับเป็นอาเรียน้องสาวของเขา เขาสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง
ซูไห่โม่ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาและเห็นน้องสาวตัวน้อยของเขากอดเขาและเฝ้าดูเขาขณะร้องไห้และรีบพูดออกมาว่า
"อย่าไป ... ถ้าเจ้าไปเจ้าจะตาย ... ได้โปรด ..."
ซูไห่โม่รู้สึกมีความสุขและอบอุ่นที่น้องสาวของเขาดูห่วงเขามาก
ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลไป
ไม่มีใครที่จะสามารถแม้แต่จะสัมผัสตัวข้าได้"
ความเชื่อมั่นของเขาทำให้ทุกคนในห้องต่างตื่นตะลึง
แต่มันก็ยังไม่พอที่จะโน้มน้าวอาเรีย จนกระทั้งน้องสาวตัวน้อยของเขากล่าวออกมาว่าว่า
"ถ้าอย่างนั้น เรามาทำสัญญากัน
ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะท่านพ่อที่มีระดับการบ่มเพาะในขั้นหลอมรวมทะลวงเปิดจุดได้
แล้วเจ้าจะต้องพาข้าไปดูด้วย ข้าถึงจะไว้ใจให้เจ้าไป"
ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การเดิมพันที่เป็นไปไม่ได้
เพราะไม่เพียงแต่ ซูโม่จะสามารถสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีระดับสูงกว่าสองขั้นได้
แต่พ่อของเขาที่อยู่ในระดับควบแน่นแก่นตันเถียน สายที่ 7 และแม้แต่จะสามารถชนะได้
เขาก็จะต้องมีการตอบสนองต่อร่างกายที่ดีกว่าและมีประสบการณ์มากกว่า
โดยไม่นับการสะกดข่มพลังตามธรรมชาติ บางคนอาจจะรู้สึกเมื่อต่อสู้กับผู้อื่นข้ามระดับดินแดนที่สูงกว่าตนเอง
แม้ว่าพวกเขาจะมีความสามารถเอาชนะที่โดดเด่นในระดับเขตแดนเดียวกันก็ตาม
กับเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้เหล่านี้ทุกคนคิดว่า
ซูไห่โม่จะปฏิเสธ
แต่ความคาดหวังของพวกเขาก็ได้ทรยศอีกครั้งเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตอบรับกลับมาว่า
"แน่นอนว่าข้าอยากต่อสู้กับท่านพ่อสักหน่อย"
เสียงที่ดูไม่กระตือรือร้นจากขั้นหลอมรวมเลือด
ที่อ้างว่าอยากจะต่อสู้กับระดับควบแน่นแก่นตันเถียน สายที่ 7
แม้ว่าเขาจะระงับระดับการบ่มเพาะของเขาเอาไว้ แต่ก็ยังเป็นการต่อสู้ที่ไม่เป็นธรรม
และเป็นไปไม่ได้ เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไม่?
คำถามเดียวกันได้ผุดขึ้นมาภายในใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
แม้อาเรียสร้างเงื่อนไข
ในความเป็นจริงเธอสร้างเงื่อนไขขึ้นมาก็เพื่อที่จะหยุดไห่โม่ไม่ให้ไป
แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะยอมรับการประลองนี้!
---
ด้านนอกของที่พัก
มักใช้สำหรับการฝึกซ้อมของสมาชิกในครอบครัว
"ตกลง
ข้าจะระงับระดับการบ่มเพาะของข้าที่ขั้นหลอมรวมทะลวงเปิดจุด ไห่โม่ถ้าเจ้าต้องการที่จะหยุด
พูดได้ทุกเมื่อ" เขาหวังว่าความแตกต่างในดินแดนบ่มเพาะจะกดดันซูไห่โม่
ในฐานะพ่อที่ใส่ใจเขา เขาอดที่จะเตือนซูไห่โม่ไม่ได้
"แน่ใจ
แต่ท่านพ่อไม่จำเป็นต้องลดระดับการบ่มเพาะ
โปรดทำดีที่สุดเพื่อหยุดข้าเพื่อไม่ให้ข้าทำร้ายท่าน" ซูไห่โม่ยิ้มออกมา
มันตรงกันข้ามกับความคาดหวังของซูโม่
ไห่โม่ไม่ได้ดูเหมือนจะสังเกตเห็นแรงกดดันจากดินแดนอื่น!
สังเกตเห็นว่าซูไห่โม่เริ่มเอาจริงเอาจังและไม่สะทกสะท้าน
ซูโม่จึงตัดสินใจที่จะทำอย่างดีที่สุดและทำการโจมตีในทันที
พวกเขาทั้งสองใช้ดาบไม้
ซูโม่ฟาดดาบไม้ไปที่ซูไห่โม่ มันเกือบจะหายตัวไปจากมุมมองของคนในครอบครัว (นอกจาก
ซูอาเช่ ที่อยู่ในสายที่ 7 ระดับควบแน่นแก่นตันเถียน) และเฉือนไปที่คอของไห่โม่
เขาเชื่อว่าเขาน่าจะเอาชนะได้ ในขณะที่กำลังจะหยุดดาบของเขา ซูโม่ก็สังเกตเห็นว่า
ซูไห่โม่ไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉับพลันเขารู้สึกเหงื่อเย็นที่ด้านหลังของเขา
เขาสัมผัสได้ในทันทีว่า ซูไห่โม่อยู่ข้างหลังเขา!
เขาสามารถผ่านการรับรู้ของระดับควบแน่นแก่นตันเถียนสายที่ 7 ได้อย่างไร? คำตอบก็ง่ายมาก ซูโม่กำลังประเมินไห่โม่ต่ำเดินไป
เขาตระหนักถึงความผิดพลาดของเขาได้ในทันทีและหันไปรอบ
ๆ และตวัดดาบไม้ออกไปเพื่อตอบโต้การโจมตีของซูไห่โม่ โดนดาบไม้อย่างเต็มแรง!
แต่แปลก สัมผัสจากดาบส่งถึงซูโม่
เขารู้สึกว่ามันลื่นเป็นน้ำเมือกและทันทีงอก่อนที่จะกระเด็นห่างไปราว ๆ 4 เมตร
เขาสังเกตเห็นว่า ซูไห่โม่ได้ทิ้งดาบของเขาให้มันปลิวออกไปไม่ไกลเกินไป
พร้อมกับที่เขากำลังเตรียมที่จะชกหมัดออกมา!
จากนั้นซูไห่โม่ก็มองไปทางซูโม่
ด้วยดวงตาที่หนาวเย็นโดยใช้ [การข่มขู่ lv_1]
เพื่อทำให้เขาหยุดชั่วขณะเพื่อชกออกไป แต่แทนที่จะเป็นตามที่เขาคาดหวังไว้
ซูโม่ไม่ได้ขยับเขยื่อน! นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนต่อต้าน [การข่มขู่] ของเขา
น่าจะเป็นเพราะความแตกต่างในดินแดน ซูโม่จึงสามารถปัดป้องหมัดของเขาได้
ดังนั้น
ซูไห่โม่จึงกระโดดไปข้างหลังเพียงเพื่อดูว่า
ซูโม่กำลังพยายามคว้าเขาและเฉือนดาบไม้ออกมา
รู้ว่าเขาไม่ได้มีทางเลือกอื่น
ๆ เขาได้ใช้สิ่งที่เขายังไม่ได้ใช้ออกมาในทันที ทักษะ [กระโดด]
ในพื้นดินกลับเพื่อกระโดดถอยหลังแทนที่จะโจมตี หลักการทำงานก็เหมือนกัน
แต่ไม่สามารถมองเห็นเบื้องหลัง แต่มันได้ให้ความรู้สึกตื่นเต้นในแบบที่ ซูไห่โม่
ไม่คุ้นชิน
เพื่อหนีจากการโจมตีของซูโม่
ซูไห่โม่รีบคว้าดาบไม้และใช้ [กระโดด] พร้อมกับฟาดดาบไปที่ซูโม่อีกครั้ง
เพียงเพื่อหยุดและเปลี่ยนทิศทางในวินาทีสุดท้าย ซูโม่แน่ใจว่าจะมีการโจมตีโดยตรง
ดังนั้นเขาจึงต้องปรับตำแหน่งอีกครั้งเพื่อสกัดกั้นการโจมตีที่เป็นไปได้
แต่ซูไห่โม่จะให้เวลากับเขาได้อย่างไร? ทันทีที่เขาใช้
[กระโดด] สองครั้งเพื่อไปปรากฏตัวที่ข้างหลังซูโม่ จากนั้นจึงใช้ [กระโดด]
ที่สามเพื่อกระโดดสูงกว่าหัว ซูโม่ เล็กน้อยจากนั้นเขาก็หมุนรอบอากาศ
เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงและส่งต่อไปที่ ซูโม่! ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 0.5
วินาทีโดยไม่ให้เวลาตอบสนอง!
ด้วยการตอบสนองที่รวดเร็วของซูไห่โม่
ซูโม่ทำได้แต่เพียงปัดป้องการเตะด้วยแขนของซูไห่โม่
ซูโม่รู้สึกว่าพลังเตะนั้นดูหนักหน่วง
มันดูน่าเหลือเชื่อว่าเป็นการเตะมาจากนักบ่มเพาะขั้นหลอมรวมเลือด
มันทำให้เขาตกใจและถอยหลัง แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าที่บ่าของเขามีดาบไม้พาดชี้มาที่คอของเขา
เมื่อเขามองไปทางซูไห่โม่ผู้ที่ยิ้มออกมาให้เขา
เขาก็สังเกตเห็นว่าตัวเขาพ่ายแพ้แล้ว!
สมาชิกทุกคนในครอบครัวของเขาต่างตกใจอย่างสุดขีด!
ซูโม่ยิ้มออกมาแล้วกว่าวว่า
"ดูเหมือนว่าเจ้าจะชนะพนันแล้ว เจ้าสามารถไปที่ลานประลองได้
แต่ถ้าเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี ก็รีบยอมแพ้ในทันที!"
แม้ว่าซูโม่จะรู้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกผลักให้พ่ายแพ้ในการประลองฝีมือกับลูกชายของเขา
ในฐานะที่เป็นพ่อ เขาก็ต้องกล่าวตักเตือนออกมา
"แน่นอน อาเรีย
เราไปกันเถอะ เจ้าอยากจะไปกับข้าหรือไม่?" ไห่โม่ยิ้มให้น้องสาวตัวน้อยของเขาที่ยังตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง
จนเขาเริ่มเดินตรงไปที่ประตูของคฤหาสน์
"อ่า แน่สิ
รอข้าด้วย!" อาเรียรีบวิ่งตามพี่ชายของเธอไปในทันที อาเรียรู้สึกตื่นเต้นมาก
"พี่ชายใหญ่ไห่โม่! เจ้าดูน่าทึ่งมาก!"
ทันทีทันใดเธอเปลี่ยนสถานะของพี่ชายของเธอ ในเรื่องของความแข็งแกร่ง
เธอไม่ได้กังวลอีกต่อไป
ขณะที่สองพี่น้องเริ่มเดินไปที่ลานประลอง
พวกเขาถูกแอบตามมาโดยพ่อและแม่ของพวกเขา
ผู้ซึ่งต้องการเห็นซูไห่โม่บนเวทีลานประลองว่าจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ยืนอยู่ข้างหน้าลานที่ซูไห่โม่ต่อสู้
มีพี่ชายของเขา ซูอีท่า แววตาของเขาเปล่งประกายแสงประหลาดออกมา
ขยี้พี่ชายทุกตอนแบบนี้มีปมแน่นอนฮะ ว่าแต่จะออกหน้าไหนเท่านั้นเองระหว่างเป็นผู้งการการลักพาตัว
ตอบลบสมคบกับตระกูลอื่น
หรือว่า เป็นบราคอนติดน้องชายแต่ซึนเลยแสดงออกแบบเกลียดๆ เพื่อปิดบังห้องลับของตัวเองที่มีรูปน้องเต็มไปหมด!!!!!