เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

EGT 009 ครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ Part 3




ภายในห้องโถงหลัก ดูเงียบสงบ ที่ด้านหน้าตรงทางเข้า ชายชราในวัยหกสิบปี เฉินเฟิง ดวงตาของเขาเป็นเหมือนคบเพลิง ในขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้ที่ดูสง่างามทรงเกียรติ ผมหงอกบนขมับของเขาเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมและยังให้ความรู้สึกกดดันแปลก ๆ ที่มองไม่เห็น

เขานั่งหลังตรงและมองตรงมา ทั้งสองด้านของห้องโถงหลักเป็นรุ่นที่สองของตระกูลหงส์ไฟ สำหรับคนส่วนใหญ่พวกเขาทั้งหมดมีอายุราว ๆ สี่สิบปี และทุกคนในพวกเขาต่างมีบุคลิกที่หาได้ยากและดูโดดเด่น อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินเฟิง พวกเขาไม่กล้าที่จะทำการใด ๆ

กลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขาเป็นคนที่ได้รับการพิจารณาว่าจะเป็นฐานอำนาจที่เกิดขึ้นใหม่จากรุ่นที่สามของตระกูลหงส์ไฟ โดยที่แต่ละคนมีลักษณะแข็งแกร่ง บนใบหน้าของพวกเขาเผยสีหน้าที่ดูหยิ่งยโสของคนรุ่นหลัง หลังจากที่ทุกคนที่มีความสามารถ ได้มายืนอยู่ภายในห้องโถง ต่อหน้าผู้นำตระกูล ทุกคนเป็นที่รู้จักกันดีในตระกูลหงส์ไฟ สำหรับคนที่ต่ำต้อยและอ่อนแอ เฉินเฟิงจะเตะพวกเขาออกจากตระกูลและพวกเขาก็จะต้องดำรงชีวิตด้วยตัวของพวกเขาเอง ในขณะนี้เฉินเจียอี้ และเฉินเจียเว่ยกำลังยืนอยู่ด้านหลังชายวัยกลางคนหนึ่ง ซึ่งเขากำลังเงยหน้าขึ้นมองไปที่เฉินหยานเซียวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องโถง

ภายในห้องโถงหลัก ทุกสายตาต่างมองไปที่เธอ เด็กสาวผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเฟิง ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน ใบหน้าที่ดูธรรมดาสามัญและร่างกายที่ดูอ่อนแอ มันไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับลูกหลานของตระกูลหงส์ไฟ ร่างกายอ่อนแอที่ไม่สามารถแม้แต่จะทนต่อการปะทะกันหนึ่งครั้ง และใบหน้าที่น่าเกลียด มันก็ห่างไกลเกินกว่ารูปลักษณ์ของคนรุ่นที่สามของตระกูลหงส์ไฟ และในรูปลักษณ์น่าเกลียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือความโง่เขลาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่ดูบื้องงงวย

ไม่นานหลังจากที่เฉินหยานเซียวถูกเรียกตัวเข้ามา คนรุ่นที่สองของตระกูลหงส์ไฟ ต่างพากันแสดงสีหน้ารังเกียจออกมากับการปรากฏตัวของลูกสาวของคนที่พวกเขาเคยอิจฉาอย่างสมบูรณ์ อัจฉริยะและรูปลักษณ์ที่งามของทายาทคนสำคัญของตระกูลหงส์ไฟ

พ่อของหยานเซียว เฉินอู๋ เป็นน้องคนสุดท้อง "ที่อายุน้อยที่สุด" ของตระกูลหงส์ไฟ มีคนเคยกล่าวไว้ว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่รูปงามราวกับหยกสลัก และระหว่างช่วงเวลาที่เขาก้าวย่างผ่านไปที่ใด ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันสง่างามและงดงามออกมา ซึ่งจะมีหญิงสาวมากมายที่ชื่นชมเขา นอกจากนี้ความสำเร็จในทางพลังเวทของเขาค่อนข้างสูง ในปีนั้นก็ถือได้ว่าเป็นปีที่มีผู้มีพรสวรรค์จำนวนมากในตระกูลหงส์ไฟ แต่เฉินอู๋ก็ยังเป็นดาวเด่นและเป็นที่โปรดปรานสูงสุดของเฉินเฟิง ภรรยาของเฉินอู๋ก็เป็นหญิงงามที่นับได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของจักรวรรดิหลงซวนในปีนั้น ความงามอันล้ำเลิศของเธอไม่มีคำใดพอจะอธิบายออกมาได้ ในช่วงเวลาที่เธออยู่ที่จุดสูงสุดของเธอ ในตอนนั้นเธอยังไม่ได้แต่งงาน กลุ่มขุนนางต่างพากันมาติดพันเธอ มันเป็นเหมือนฝูงเป็ดที่วิ่งเข้ามา เพื่อที่จะเอาชนะใจเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ที่จะสามารถได้รับรอยยิ้มจากหญิงงามอันดับหนึ่ง บรรดาผู้ชายทั้งหลายต่างพากันอวดอ้างความมั่งคั่งของครอบครัวของพวกเขาออกมา

เฉินหยานเซียวเป็นลูกสาวของคู่รักที่สมบูรณ์แบบดังกล่าว แต่ทว่ารูปลักษณ์ของเธอไม่ได้งดงามจนสั่นสะเทือนแผ่นดิน ที่แย่ไปกว่านั้น มันน่าจะเรียกเธอว่า 'ลูกเป็ดขี้เหล่' เสียมากกว่า

ในเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตของเฉินหยานเซียว ครอบครัวตระกูลหงส์ไฟต่างได้พูดถึงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวค่อนข้างบ่อยมาก เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่พวกเขาจะต้องเลี้ยงดูเธอ แต่ทว่าพวกเขาก็สามารถพูดพึมพำออกมาได้เพียงไม่กี่คำเท่านั้นเนื่องจากเฉินเฟิงไม่เคยออกความคิดเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้

หลังจากทั้งหมด เฉินเฟิงเป็นคนฉลาดอย่างแท้จริง พลังอำนาจภายในตระกูลหงส์ไฟทั้งหมดอยู่ในมือของเขา

ในขณะนี้ เฉินเฟิงได้จ้องมองด้วยสายตาที่ห่างเหินและแหลมคมไปยังร่างของหลานสาวของเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้า พร้อมกับที่แผ่กลิ่นอายกดดันออกมาบนใบหน้าของเขา

สายตาที่จ้องมองของเขาคมกริบ หลังจากมองขึ้นและลงบนหลานสาวของเขาที่เขาไม่ได้เห็นมานาน คิ้วของเฉินเฟิงเริ่มขมวดเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงขมวดคิ้ว กลุ่มคนในตระกูลหงส์ไฟต่างพากันหัวเราะเยาะอยู่ภายในใจ

มันเป็นที่ชัดเจนว่า แม้ว่าเฉินเฟิงจะรับทราบถึงตัวตนของเฉินหยานเซียว แต่เขาก็ไม่ค่อยมีความสุขกับคราบสกปรกนี้

ห้องโถงหลักทั้งห้องยังคงเงียบ ขณะที่ทุกคนกำลังรออยู่อย่างเงียบ ๆ เพื่อรอให้เฉินเฟิงเป็นฝ่ายเริ่มพูดออกมา

ขณะที่สายตาของเฉินเฟิงละออกจากร่างของเฉินหยานเซียว เขาได้กล่าวว่า "เฉินหยานเซียว เมื่อไม่กี่วันก่อน เจ้าได้เข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามและทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นความผิดร้ายแรง"

จากเสียงที่มืดมนและหนักแน่นของเฉินเฟิง มันเป็นที่ชัดเจนว่าเขากำลังสอบถาม และต้องการคำยืนยัน

ภายในห้องหลัก เฉินหยานเซียว กระพริบตาของเธอ ขณะที่เธอมองไปที่ปู่ 'ของตัวเอง' โดยไม่ได้แสดงอาการหรืออารมณ์ใด ๆ ออกมาแม้แต่น้อย


1 ความคิดเห็น: