แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
ฮั่นหลางเดินออกมาจากศูนย์บัญชาการของ 9527 ด้วยความกังวล
เขาไม่ได้กังวลเรื่องการที่จะไปประชุมกับเผ่าพันธุ์ทองคำที่ลึกลับ
ในฐานะที่เป็นนักรบคนหนึ่ง เขาต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง กระหายการผจญภัย
และเรียนรู้ที่จะเติบโตจากประสบการณ์ที่อันตราย
แต่ฮั่นหลางกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอี่เว่ยเว่ย
เหตุผลที่เขาพยายามด้วยพลังทั้งหมดของเขาตลอดการเดินทางนี้
เพื่อให้ทุกคนมีความสุข ฮั่นหลางหวังว่าคนในบ้านเกิดของเขาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขและหวังว่าเพื่อนของเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
และฮั่นหลางย่อมหวังว่าอี่เว่ยเว่ยจะมีความสุขในทุก ๆ วัน
แต่ถ้าอี่เว่ยเว่ยกลายเป็นภัยคุกคาม คนอื่นจะถูกบังคับให้อยู่ห่างจากเธอ
สิ่งนี้จะทำให้อี่เว่ยเว่ยจมลงในความเหงาอีกครั้ง
ฮั่นหลางไปหาอี่เว่ยเว่ย และอยากจะได้ยินว่าเธอคิดอะไรอยู่
ฮั่นหลางคิดว่าสิ่งที่เขาทำได้ก็มีอยู่อย่างจำกัด และการได้ยินความต้องการจากอี่เว่ยเว่ยก็เป็นหนึ่งในสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้
แต่อี่เว่ยเว่ยก็ไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวกับสถานการณ์ของเธอออกมาแม้แต่คำเดียว
เธอเพียงพูดคุยเกี่ยวกับการที่ทุกคนดูแลเธอ และมันทำให้เธอมีความสุข และความก้าวหน้าในอนาคตของดินแดนต้องสาป
เห็นได้ชัดว่าอี่เว่ยเว่ย ไม่ต้องการให้ฮั่นหลางเป็นห่วง
แต่ยิ่งเธอทำแบบนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
และค่อยๆพัฒนากลายเป็นความรู้สึกผิดขึ้นมา
เมื่อทุกคนในค่ายรู้ว่าฮั่นหลางรู้สึกตัวแล้ว ทุกคนก็มาเยี่ยมเขาอย่างต่อเนื่อง
คนส่วนใหญ่ประหลาดใจที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณ
พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการใด ๆ
เพื่อปรับปรุงความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขานอกเหนือจากเพิ่มพลังจากแหล่งต้นกำเนิด
ในหมู่กลุ่มมีเพียงฮั่นหลาง พลูโต ซือหม่าฮั่นเฟิงและ 9527
ที่รู้เรื่องการดำรงอยู่ของพลังจิตวิญญาณ แต่พลูโตไม่ค่อยปรากฏตัว 9527 เองก็ยุ่งมากและซือหม่าฮั่นหลางเฟิงก็เป็นอัจฉริยะที่เรียนรู้ด้วยตัวเองซึ่งไม่สามารถอธิบายกลไกเบื้องหลังของพลังจิตวิญญาณได้จริง
ๆ
ทุกคนจึงรบกวนให้ฮั่นหลางสอนพลังจิตวิญญาณ
ฮั่นหลางสามารถทำซ้ำสิ่งที่เจียบอกให้คนอื่นได้
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงมิติการฝึกอบรมเช่นหนังสือทองคำได้ หากสามารถเข้าไปได้แล้วพวกเขาก็จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างช้า
ๆ ผ่านการทดสอบและความผิดพลาดเหล่านั้น
เมื่ออธิบายถึงพลังจิตวิญญาณ ฮั่นหลางกล่าวว่า "หากพูดให้ชัดพลังจิตวิญญาณคือจิตตานุภาพ
เมื่อพลังอำนาจของบุคคลถึงระดับสูงมันจะมีวิวัฒนาการไปสู่พลังจิตวิญญาณ"
"พลังจิตวิญญาณจะยังคงพัฒนาไปสู่ชีวิตนิรันดร์
..แม้ว่าร่างกายของเจ้าจะถูกทำลาย ดวงวิญญาณของเจ้าจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป"
“จากประสบการณ์ของข้า การที่จะได้รับพลังจิตวิญญาณ
หนึ่งต้องเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ และบังคับให้ตัวเองไม่ยอมแพ้
แม้แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีความหวังเท่านั้น
แล้วเจ้าจะสามารถบังคับพลังจิตวิญญาณได้"
โอ้ ~
ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน และดูเหมือนจะมีความเข้าใจในบางอย่าง
พลังสูญสิ้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทุกคนคิดว่าฮั่นหลางเป็นคนเก่ง
แต่ที่สำคัญทุกคนชอบความดื้อรั้นและความยึดมั่นของฮั่นหลาง
เมื่อเขาได้พบกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งฮั่นหลางก็กลายเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้
"งั้นเราก็ต้องกลายเป็นมนุษย์บ้าบิ่นเหมือนเจ้า?" บ่อยาคิดและโพล่งออกมาในขณะที่ตบหน้าอกตัวเอง
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายปลายไม่รู้สึกประทับใจในคำพูดดังกล่าว
"มนุษย์บ้าบิ่น?? ฮั่นหลางเป็นคนฉลาดมาก เขาเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว"
แม้ว่าจะไม่มีการจัดพิธีที่ถูกต้อง แต่คนบ้าคลั่งเช่นไร้จุดหมายก็ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นอาจารย์ของฮั่นหลาง
ดังนั้นต้นกำเนิดไร้จุดหมาย จึงไม่ชอบให้ใครมาพูดคำหยาบคายเกี่ยวกับฮั่นหลาง
ฮั่นหลางยิ้มและพูดว่า "บ่อยาพูดถูกเพียงแค่เล็บข่วน พลังจิตวิญญาณไม่เกี่ยวข้องกับสติปัญญา
มันเกี่ยวข้องเฉพาะกับพลังจิตโดยไม่คำนึงถึงสติปัญญา
ถ้าเจ้ามีจิตใจที่ดื้อรั้นเจ้าจะสามารถบังคับพลังจิตวิญญาณให้ออกมาได้"
ปัง ~
บ่อยากระโดดขึ้นโดยใช้แรงส่งจากเท้าของเขา เขาเป็นคนที่น่าเกรงขาม
เมื่อเขาเข้าใจวิธีการที่จะได้มาซึ่งพลังจิตวิญญาณแล้ว เลือดของเขาก็เดือดพล่าน
"จากนี้ไปข้าจะสู้กับความตาย ไม่ว่าข้าจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามแบบใดข้าจะสู้กับพวกเขาให้ถึงที่สิ้นสุด!"
บ่อยายกกำปั้นขึ้น ใบหน้าสีฟ้าของเขาเริ่มปรากฏเป็นสีคล้ำเนื่องจากการไหลเวียนโลหิตในขณะที่เขาตะโกนออกมา
"ข้าด้วย!"
"ข้าด้วย!"
"จากนี้ไปข้าจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด!"
ทุกคนตะโกนออกมาเหมือนเหล่าวายร้ายที่เริ่มบ้าคลั่ง
ผู้เล่นยามค่ำคืนพยักหน้าและกล่าวว่า "ข้ายังกังวลเกี่ยงกับเรื่องที่เจ้าจะไปเช้าร่วมประชุมกับเผ่าพันธุ์ทองคำคนเดียว
เจ้าควรนำยาเทพเจ้าคลั่งติดตัวไปด้วย มีเพียงร่างกายที่ต่อต้านพิษเช่นเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถทนต่อมันได้
ส่วนของคนอื่น ๆ ข้าปรับปริมาณและความเข้มข้นให้น้อยลงไปเพื่อให้เหมาะกับร่างกาย"
เฟิงไทจีกล่าวว่า "ข้ายังมีต้นแบบพืชต่อสู้บางส่วนกับข้า มันเป็นรุ่นที่สามของพืชที่กลายพันธุ์
แม้ว่าจะยังคงเป็นตัวอย่างที่เอาไว้ใช้ในการทดลอง แต่การโจมตีของมันก็นับว่ารุนแรงกว่ารุ่นที่สองของเถาราชาสวรรค์
เจ้าควรนำมันติดตัวไปด้วย"
อู้หวินส่ายหัวอย่างงุ่มง่าม "ข้าล้าหลัง ข้ายังไม่เสร็จรุ่นที่สองของสัตว์เทพผู้พิทักษ์..ข้าได้ทำต้นแบบเสร็จบ้างแล้ว
แต่ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าสัตว์พันธุกรรมของเจ้า
ข้าจะไม่พาพวกมันออกมาเพื่อโชว์โง่ของตัวข้าเอง"
ฮั่นหลางกล่าวกับอู้หวินว่า "ไม่ต้องรีบร้อนกัน
พวกเราต้องมาปรึกษาหารือกันสักวัน พื้นหลังทางพันธุกรรมของเจ้าและเทคนิคฟิวชั่นของข้า
เราอาจจะประสบความสำเร็จได้ นอกจากนี้บริเวณดินแดนต้องสาปไม่มีทรัพยากรจำพวกสัตว์มากนัก
แม้ว่าจะเป็นคนอื่นก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้"
พิษ พืชกลายพันธุ์ สัตว์พันธุกรรม เหล่านี้เคยเป็นสามอาวุธที่ร้ายแรงของฮั่นหลาง
ในขณะนี้ฮั่นหลางมีเทคนิคฟิวชั่นของเขา แต่มันกลับมีสัตว์จิตวิญญาณระดับสูงเพียงเล็กน้อยในบริเวณดินแดนต้องสาป
มันเหมือนกับพ่อครัวที่ดีที่ไม่มีส่วนผสม ไม่ว่าพวกเขาจะมีฝีมือแค่ไหนพวกเขาก็จะไม่สามารถทำอาหารที่ดีได้
ตรงกันข้าม ผู้เล่นยามค่ำคืนและเฟิงไทจีโชคดีมาก สวนที่ยักษ์เทียนจางทิ้งไว้เบื้องหลังเป็นสมบัติล้ำค่าของเหล่าพืชทั้งหลาย
พวกเขาทั้งสองประสบความสำเร็จในการอัพเกรดผลิตภัณฑ์ของตน มีเพียงอู้หวินที่ไม่สามารถหาสัตว์ใด
ๆ ที่เหมาะสมได้ มันทำให้เขากังวลแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก บริเวณดินแดนต้องสาปไม่ได้มีสัตว์จิตวิญญาณหรือสัตว์ดาวมากมายนัก
ตามที่คนในเผ่าเล่า มันไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป มันเป็นเพียงเมื่อไม่นานก่อนที่ฮั่นหลางและคนอื่น
ๆ จะมาถึง สัตว์ได้สูญหายไปจากดินแดนนี้เป็นจำนวนมาก
ฮั่นหลางจำภาพวาดของจิ้งจอกเงินได้ มันคือลินดา สัตว์จิตวิญญาณ
หญิงที่หลอกฮั่นหลาง ซึ่งอยู่กับหุบเหวเดียวดาย ฮั่นหลางไม่ทราบว่าการหายตัวไปของสัตว์จิตวิญญาณจำนวนมากในบริเวณดินแดนต้องสาปนี้จะเกี่ยวข้องกับลินดาหรือเผ่าพันธุ์ทองคำหรือไม่?
ต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์แปลก ๆ เหล่านี้
ดังนั้นฮั่นหลางจึงได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ในพริบตา ก็มาถึงวันที่ฮั่นหลางจะต้องออกเดินทาง
เหตุผลที่ฮั่นหลางยืนยันว่าจะไปตามลำพังนั้นง่ายมาก
ผลลัพธ์ไม่สามารถคาดเดาได้ ถ้ามันเป็นกับดัก มันเป็นการดีสำหรับเขาที่จะตกลงไปในกับดักโดยลำพัง
ดีกว่าจะลากคนทั้งกลุ่มลงไปด้วย
9527 ได้ตกลงกับฮั่นหลางแล้ว เขายืนออกมาหน้าคนทั้งกลุ่มและพูดว่า
"ข้ารู้ว่าทุกคนกังวลเกี่ยวกับฮั่นหลาง แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี ถ้าพวกเราทุกคนร่วมเดินทางไปด้วย
..ระบบติดตามได้ถูกติดตั้งลงในร่างกายของฮั่นหลางแล้ว ถ้ามันจำเป็น เราทุกคนจะสามารถไปหาฮั่นหลางได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที"
"ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เราส่งไป
แต่ความเร็วของการเสริมกำลังของเรา"
"นอกจากนี้องค์กรใหญ่ทั้งห้า ก็ได้ส่งนักรบชั้นนำของพวกเขาไปประชุมเขาสามารถจัดการกับฮั่นหลาง
แต่ฮั่นหลางจะสามารถจัดการกับนักรบที่มีประสบการณ์อย่าง ลูชุ่ยชิวหลิน ซือกังฉีได้หรือไม่? ข้าไม่คิดอย่างนั้น"
"มันมีคำพูดที่ว่า เรือลำเล็กสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ง่ายกว่า ความแข็งแกร่งของฮั่นหลางที่มุ่งหน้าไปที่นั่นเพียงอย่างเดียวก็คือความคล่องตัว
องค์กรใหญ่ทั้งห้า คือกลุ่มใหญ่ทั้งหมด แต่ฮั่นหลางเป็นคนเดียว ถ้ามีการต่อสู้จริงเผ่าพันธุ์ทองคำจะจัดการกับองค์กรก่อน
เนื่องจากฮั่นหลางเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด"
"มันแย่มากที่พวกเขาไม่ทราบว่าฮั่นหลางสามารถเรียกกำลังเสริมจากพวกเรา
พี่น้องของเขาเปรียบเสมือนไพ่แห่งความกล้าหาญ ในช่วงเวลาที่สำคัญเราจะโผล่ออกไปในทันที
และจัดการทุกคนที่เผชิญหน้ากับเรา"
แม้ว่าทุกคนยังมีข้อสงสัยอยู่ภายในใจ แต่พวกเขาก็เห็นด้วยกับเหตุผลบางอย่างในคำพูดของ
9527
ในสถานการณ์ที่เหล่านักรบชั้นนำจำนวนมากยืนอยู่ มันเป็นการจงใจให้ความรู้สึกของนักรบที่อ่อนแอ
นี่คือกลเม็ดในด้านเทคนิค ถ้าทุกคนไปด้วยกันมันก็จะเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่และเผ่าพันธุ์ทองคำจะให้ความสำคัญกับพวกเขามากขึ้น
ถ้าฮั่นหลางไปคนเดียวคนอื่นจะมองข้ามเขาและฮั่นหลางจะปลอดภัย
9527และซือหม่าฮั่นหลางเฟิงได้คุยเรื่องนี้กับฮั่นหลางแล้ว หลังจาก 9527
พูดเสร็จแล้ว ซือหม่าฮั่นหลางเฟิงก็ได้พูดออกมาสองสามคำ คำพูดของเขาคล้ายกับ 9527
มันเป็นความคิดที่ดีสำหรับฮั่นหลางที่จะไปคนเดียวมากกว่าที่ทุกคนที่จะไปด้วย
หลังจากที่มีการหยั่งรู้ความคิดของหลาย ๆ คน ทุกคนก็ตกลงที่จะให้ฮั่นหลางไปประชุม
ไม่น่าแปลกใจที่เสี่ยวบ่าวไม่เห็นด้วย มันกอดฮั่นหลางด้วยอ้อมแขนและไม่ว่าฮั่นหลางจะพูดอะไรมันก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากตัวฮั่นหลาง
เหตุการณ์สองครั้งก่อนหน้านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อเสี่ยวบ่าว มันตัดสินใจที่จะเป็นเด็กที่แข็งแรงและจะไม่ปล่อยให้ฮั่นหลางปกป้องมันอีกต่อไป
มันต้องการที่จะช่วยฮั่นหลาง
"ไม่เป็นไรปล่อยให้มันไปกับเจ้า ..เสี่ยวบ่าวติดเจ้า" ซือหม่าฮั่นหลางเฟิง
ถอนหายใจและกล่าวออกไป
ฮั่นหลางรู้สึกท้อแท้และยอมให้เสี่ยวบ่าวเข้าไปในจันทราทมิฬของเขาและสั่งให้จิ้งจอกเงินดูแลมัน
จิ้งจอกเงินตบหน้าอกเหมือนพี่ชายคนโตและบอกฮั่นหลางให้สบายใจได้
เหตุผลที่ทุกคนเห็นด้วยกับฮั่นหลางที่จะไปคนเดียวก็คือฮั่นหลางมีเทคนิคหลายอย่างในแขนเสื้อของเขา
เมื่อเขาเปิดจันทราทมิฬ เขาจะมีทีมที่เยี่ยมยอดไม่ว่าจะเป็น ไข่ดำ จิ้งจอกเงินและบลูสตาร์
ต่างก็เป็นฝ่ายตรงข้ามที่น่ากลัว
โดยเฉพาะจิ้งจอกเงินซึ่งเป็นนักสู้ชั้นนำที่สามารถต่อสู้กับไข่ดำ
หลังจากที่ได้รับพลังจากพืชจิตวิญญาณ
ฮั่นหลางมีทั้งจิ้งจอกเงินและไข่ดำในพื้นที่มิติของเขา นี่เท่ากับการซ่อน
ซือหม่าฮันเฟิงไว้สองคนไว้ในพื้นที่มิติ! ฮั่นหลางเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
แน่นอนทุกคนก็คิดว่าการที่พาเสี่ยวบ่าวไปนั้นเป็นภาระของฮั่นหลาง
เสี่ยวบ่าวมีมารยาทดี แต่มันไม่เหมาะที่จะเป็นนักรบ
ฮั่นหลางไปบอกลาทุกคนและนำเรือรบดาร์คเน็ต
ที่ได้รับการตกแต่งใหม่เข้าสู่จุดนัดพบ
เรือรบดาร์คเน็ตชนิดนี้ได้รับการขนานนามว่า อีกาสยายปีก โดย 9527 มันมีโครงสร้างมาจากเรือรบดาร์คเน็ต
และเป็นเรือรบขนาดใหญ่ มีรูปอีกาสีดำมืดบนพื้นสีเทาขาวที่ด้านบนของเรือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พิเศษของเรือรบดาร์คเน็ต
สำหรับการควบคุมไม่มีความแตกต่างระหว่างเรือรบดาร์คเน็ตกับเรือรบธรรมดา
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเรือรบดาร์คเน็ตเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมของดาร์คเน็ตมากขึ้น
แม้แต่ในจักวาลปกติ อีกาสยายปีก ก็ยังคงเป็นเรือรบที่โดดเด่น
ชูวว ~
อีกาสยายปีกเดินทางผ่านช่องมิติและกระโดดข้ามไปยังดาร์คเน็ต
ในพริบตา ฮั่นหลางได้มาถึงกระแสน้ำวนภูมิภาคที่ A17 แล้ว
ทั้งความเร็วและแรงทำลายของกระแสน้ำวนนั้นน่าทึ่ง ไซเรนส่งสัญญาณเตือนอย่างต่อเนื่องและระบบช่วยนำทางอัจฉริยะบางส่วนเตือนฮั่นหลางว่าเรือรบได้เดินเข้ามาในบริเวณน้ำวนแล้ว
เรือรบดาร์คเน็ตอาจถูกพังทะลายโดยพายุพลังเหล่านี้
แต่จากพิกัดที่เผ่าพันธุ์ทองคำได้ให้ไว้ เส้นทางจุดนัดพบอยู่ที่นี่
ฮั่นหลางปิดการใช้งานระบบนำทางและควบคุมเรือด้วยตนเอง เขาใช้มือของเขาควบคุมด้วยความแม่นยำสูงเพื่อดำเนินการต่อไปอย่างช้า
ๆ ยังเส้นทางที่ระบุไว้
เมื่อเรือรบดาร์คเน็ต เข้าหากระแสน้ำวน พลังงานมหัศจรรย์เกิดขึ้น ทางลับปรากฏขึ้นระหว่างกระแสน้ำวน
สภาพแวดล้อมมีความผันผวน แต่เส้นทางเดินกลับสงบนิ่ง
ฮั่นหลางควบคุมเรือรบดาร์คเน็ตได้อย่างปลอดภัยด้วยมือของเขาและเดินผ่านกระแสน้ำวนพลังงานไปยังทางเข้ามิติ
หลังจากที่เรือรบดาร์คเน็ต ได้ผ่านม่านพลังงาน ฮั่นหลางก็ได้เห็นกำแพงเมืองสีทองและนักรบนับหมื่นคนที่ยืนอยู่ใต้กำแพงโดยมีสัญลักษณ์ของ
องค์กรใหญ่ทั้งห้าอยู่บนเกราะของพวกเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น