แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
ชูวว-
อีกาสยายปีกหยุดอยู่ที่ด้านหน้ากำแพงสีทอง เมื่อเทียบกับกองทัพยานพาหนะที่โดดเด่นขององค์กรใหญ่ทั้งห้าแล้ว
อีกาสยายปีกก็ดูทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อประตูห้องโดยสารเปิดขึ้น ฮั่นหลางได้พบกับทหารในรูปลักษณ์แปลก ๆ
หลายพันแบบ
แม้จะเป็นศัตรู องค์กรใหญ่ทั้งห้าก็มีการพบปะกันนับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาจึงรู้จักกันและกันเป็นอย่างดี
ฮั่นหลางเป็นคนแปลกหน้าคนเดียวที่นั่นและทุกคนก็อยากรู้เกี่ยวกับเขา
"เจ้าเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ทองคำ?" ชายหนุ่มผิวซีดร่างผอมบางที่มีกลิ่นอายเย็นชาแผ่ออกมา
เขามีรอยคล้ำสีดำระหว่างคิ้วของเขา ได้ถามคำถามออกมา
ฮั่นหลางรู้ว่าคนคนนี้ต้องเป็นคนขององค์กรเหล่าปีศาจ หรือไม่ก็ องค์กรฝันร้าย
เพราะในทั้งห้าองค์กรมีเพียงสององค์กรนี้เท่านั้นที่มีสายเลือดมืดและอีกสามองค์กรล้วนมีสายเลือดแดงเหมือนฮั่นหลาง
โดยไม่ต้องพูดถึงว่าเบื้องหลังของชายคนนี้ ไม่เพียงแต่จะมีนักรบมนุษย์เท่านั้น
แต่ยังรวมถึงสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างประหลาดและชั่วร้ายมากมาย
สัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมขององค์กรสายเลือดมืด
พวกเขาชอบที่จะหลอมรวมมนุษย์และสัตว์เพื่อสร้างสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า ออร์ค
ได้มีการกล่าวกันว่านักรบที่ทำงานภายใต้องค์กรทั้งสองนั้น ต้องปรับปรุงตัวเองอย่างไม่ลดละ
ถ้าพวกเขาถูกมองว่าไม่มีการพัฒนาการทางด้านศักยภาพที่ดีขึ้น พวกเขาจะได้รับการดำเนินการอย่างแข็งขันและกลายเป็นทาสที่ไร้สติซึ่งไม่รู้จักความเจ็บปวดและความเศร้าโศก
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ องค์กรใหญ่ทั้งห้าจะทำทุกอย่าง
ในคำพูดของ 9527 องค์กรใหญ่ทั้งห้าไม่ใช่องค์กรที่ดี เพียงแต่ว่าองค์กรเหล่าปีศาจร้ายและองค์กรฝันร้ายจะแสดงความชั่วร้ายออกมาอย่างชัดเจน
ในขณะที่อีกสามองค์กรจะยังรักษาภาพลักษณ์ที่ดีอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่เจรจาข้อเสนอในดาร์คเน็ต
ฮั่นหลางยิ้มเล็กน้อยและพูดกับคนที่แต่งตัวประหลาดว่า "เจ้าเข้าใจผิด
ข้าคือฮั่นหลาง ข้าไม่ใช่ตัวแทนของเผ่าพันธุ์ทองคำ"
"เจ้าคือฮั่นหลาง!?"
"เจ้า ฮั่นหลาง!?"
มีคนสองคนร้องอุทานออกมาพร้อมกัน หนึ่งในสองคนคือชายหนุ่มที่มีไฝและอีกคนเป็นชายชรา
ชายชรามีรูปร่างไม่สูงนัก แต่เขาดูทะมัดทะแมงและตื่นตัว
ผมสีเงินของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยและเขาสวมชุดเกราะสีขาว
ฮั่นหลางยิ้ม "เจ้ารู้จักข้า?"
ชายหนุ่มพูดว่า "ไม่ แต่ข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้า ข้าชื่อลั่วช็อคสเกล
ข้าเป็นญาติของลั่วอิ๋ง"
ในขณะที่ชายชรายิ้มและพูดว่า "ข้าชื่อ ลูชุ่ยชิวหลิน"
ฮั่นหลางรู้สึกหดหู่ใจ..นี่เป็น ลูชุ่ยชิวหลิน? ปู่ของเจี่ยเจียซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ทรงอำนาจในชุดขาว!?
ฮั่นหลางเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนเดียวในองค์กรเหล่าเทพเจ้าที่ไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ
เพราะเทพเจ้าของเหล่าเทพเจ้า ฌาคส์ เชื่อว่าเขาจะสามารถแก้ไขทุกอย่างได้ ถึงแม้ว่าองค์กรจะมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้
มันอาจจะแก้ไขได้โดย ลูชุ่ยชิวหลิน
เห็นได้ชัดว่าสถานะและความสามารถของเขาไม่ใช่แค่ตำนานเท่านั้น
ฮั่นหลางได้ทักทายเขาอย่างเคร่งขรึม "เป็นเกียรติที่ได้พบท่าน"
เช่นเดียวกับลั่วช็อคสเกล ฮั่นหลางไม่ยอมรับเหตุผลง่าย ๆ ที่ว่าเขาไม่รู้จักฮั่นหลาง
ฮั่นหลางเห็นเจียนเจีย เป็นพี่น้องของเขา อย่างน้อยก่อนที่เธอจะเปิดเผยเพศของเธอออกมา
เขาได้ปฏิบัติต่อเจียนเจียอย่างนั้นซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาเคารพลูชุ่ยชิวหลินอย่างมาก
ลูชุ่ยชิวหลินพยักหน้าเล็กน้อย "คาร์บรี่ บอกข้าเกี่ยวกับเจ้า เจ้าเป็นเช่นที่เขาอธิบายไว้"
ฮั่นหลางตอบอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว "ขอบคุณ เจียนเจียเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าไม่ได้มีโอกาสพูดคำอำลา"
ลูชุ่ยชิวหลินยิ้มก่อนกล่าวออกมาว่า "คนที่มาจากตระกูลลูชุ่ย จะไม่สบายดีได้อย่างไร? เจ้าไม่ต้องห่วง เจียนเจียอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญในองค์กร
การผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มันก็เป็นการทดสอบเพื่อปรับปรุงทัศนคติของเธอให้มากขึ้น เธอจะต้องมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคต
เธอดีพอที่จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อไปของข้าได้"
ลูชุ่ยชิวหลินยกย่องเจียนเจียอย่างไม่ลดละ เหตุผลง่าย ๆ ก็เพื่อที่จะทำให้ฮั่นหลางยอมแพ้
เจียนเจียจะได้ใช้ชีวิตที่สวยงามของเธอและฮั่นหลางก็จะถูกลืมไป
ขณะที่ฮั่นหลางไม่ได้คิดอะไรมากนักแค่ยิ้มและพูดว่า
"ตราบเท่าที่เธอมีความสุข"
"เจ้าคิดเช่นนั้นจริงหรือ?"
ลูชุ่ยชิวหลินขมวดคิ้วและถามออกไป
"แน่นอน ..ในฐานะที่เป็นเพื่อนของเธอ แน่นอนข้าต้องการเห็นว่าเธอมีความสุข"
ฮั่นหลางตอบออกไปอย่างจริงใจ
ลูชุ่ยชิวหลินกล่าวว่า "เจ้าเป็นศัตรูขององค์กร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจียนเจีย
ต้องฆ่าเจ้าในวันหนึ่ง?"
ฮั่นหลางพูดออกไปอย่างอ่อนโยนว่า "เรายังคงเป็นเพื่อนกันแบบส่วนตัว
..นอกจากเสียแต่ว่าเธอจะไม่เห็นข้าเป็นเพื่อนอีกต่อไป หรือมิฉะนั้นข้าก็ยังคงเรียกเธอว่าเป็นเพื่อนของข้าได้ทุกที่และทุกเวลา"
ลูชุ่ยชิวหลินถามออกไปอีกครั้งว่า "ถ้าเธอยังคงต้องฆ่าเจ้าล่ะ?"
"นี่เป็นทางเลือกของเธอ ถ้าถึงวันที่ข้าต้องตาย การตายในมือของเพื่อนก็คงจะไม่เลวร้ายเกินไป"
ลูชุ่ยชิวหลินยังถามออกไปอีกว่า
"แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งชีวิตของ เจียนเจียตกอยู่ในมือของเจ้า?"
ฮั่นหลางยักไหล่ "ข้าไม่มีนิสัยในการฆ่าเพื่อนของข้า..ไม่ใช่ในตอนนี้
และก็ไม่เคย"
ฮั่นหลางไม่ได้สังเกตว่าในขณะที่เขาพูด ใครบางคนในหมู่นักรบของชิวหลินสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถควบคุมได้ราวกับว่าพวกเขาถูกไฟฟ้าช๊อต
ลูชุ่ยชิวหลินหัวเราะและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"อย่างไรก็ตามข้าชอบวิธีที่เจ้าพูด เป็นคำพูดที่ดีแม้ว่าเจ้าจะอายุยังน้อย"
"แต่ข้าขอแนะนำให้เจ้ายอมแพ้ซะ..ไม่มีใครสามารถต่อต้านองค์กรได้ ถ้าเจ้าตาย เจ้าจะอยู่ในมือของเจียนเจีย สำหรับคนอื่นมันก็คงไม่สำคัญหรอก"
"ขอบคุณ" ฮั่นหลางตอบ
ฮั่นหลางรู้สึกซาบซึ้งในการสนทนากับลูชุ่ยชิวหลิน เขาไม่ได้สังเกตเห็น
ลั่วช็อคสเกล ซึ่งได้กลายเป็นศัตรูกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงปากของเขาที่อ้าอยู่
ราวกับว่าเขากำลังกลืนกินหนูที่ตายแล้ว
ลั่วช็อคสเกลเคยได้ยินมาว่าฮั่นหลางและญาติของเขาลั่วอิ๋งมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แต่เขาไม่ค่อยคิดว่า แม้แต่หลานสาวของผู้มีอำนาจในชุดขาว ลูชุ่ยชิวหลิน ก็เช่นกัน!
ถ้าเขาไม่ได้มาที่นี่และได้ยินบทสนทนา เขาจะไม่เชื่อเรื่องนี้
ใครคือ ลูชุ่ยชิวหลิน?
เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในองค์กรเหล่าเทพเจ้า! แม้ว่าเขาจะมีความสามารถในการรบเช่นเดียวกับลูชุ่ยชิวหลิน
แต่ลั่วช็อคสเกลก็ไม่ใช่หนึ่งในผู้ก่อตั้งเช่นชิวหลิน และบทสนทนาที่พวกเขาได้พูดคุยกัน
แสดงให้เห็นว่าฮั่นหลางมีสัมพันธ์ที่ดีงามกับเจียนเจีย
ทำไม!?
ลั่วช็อคสเกลมองไปฮั่นหลางและคิดว่า เขาเป็น...คนที่ดูธรรมดามาก และ ลั่วช็อคสเกลเองก็ดูดีกว่ามาก!
ลูกสาวสองคนของลั่วช่วยหาน มีความงามที่ไม่สามารถมองผ่านเลยไปได้
มันเป็นเพียงเพราะอารมณ์ที่แปรปรวนของบิดาของพวกเธอ ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้พวกเธอ
ในความเป็นจริงจำนวนของผู้ที่ชื่นชมพวกเธอในองค์กรก็เยอะมาก มันอาจมากเท่ากับผู้คนในสนามกีฬาและหนึ่งในนั้นคือลั่วช็อคสเกล
เมื่อเทียบกับคนอื่น ลั่วช็อคสเกลมีพรสวรรค์ นอกจากลั่วช่วยหานแล้ว เขาก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดและเขาหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกับลั่วอิ๋ง
หรือลั่วจิน
ตอนนี้ลั่วจินตายแล้ว แต่ลั่วช็อคสเกลก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนักเพราะ ลั่วจินนั้นชอบแต่ลูเอียว
ถ้าลูเอียวไม่ได้ทรยศต่อองค์กรเขาอาจจะได้กลายเป็นคนที่ ลูชุ่ยชิวหลิน ยอมรับ
ส่วน ลั่วอิ๋ง ไม่สำคัญว่าเธอจะเป็นอะไรกับฮั่นหลาง ในตอนนี้มันทำให้ลั่วช็อคสเกลอารมณ์เสียมาก!
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้รังเกียจฮั่นหลาง
ฮั่นหลางได้สังเกตเห็นว่าทั้งสามคนที่อยู่ติดกับลูชุ่ยชิวหลิน
มีอารมณ์ที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ คิดว่าพวกเขาต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ ฮั่นหลางจึงกล่าวคำทักทายว่า
"และนายพลทั้งสามนี้ ... ?"
ทั้งสามคนให้ความสนใจกับบทสนทนาของชิวหลินและฮั่นหลาง โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาสนใจเรื่องของฮั่นหลางหรือไม่
แต่พวกเขาต้องเคารพต่อลูชุ่ยชิวหลิน
ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำตัวเองว่า ดาร์คนอร์ทจากองค์กรฝันร้าย
ไทม์แอ็คเตอร์จากองค์กรสวรรค์ และบรูซจากองค์กรจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
เกี่ยวกับระดับฝีมือ พวกเขามีฝีมือเหมือนผู้มีอำนาจในชุดขาว พวกเขานั้นมีพลังน้อยกว่าชิวหลินเพียงเล็กน้อย
พวกเขาเป็นนายพลที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในอันดับต้น ๆ ในองค์กรของพวกเขา
อาจจะไม่น่าแปลกใจเลยที่สถานะของลั่วช็อคสเกลเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดในบรรดาคนทั้งสี่
แม้ว่าเขาจะเป็นหลานชายของลั่วช่วยหาน แต่เขาก็ไม่ใช่สมาชิกผู้ก่อตั้ง
ถ้าพวกเขาต้องจัดอันดับให้ดีที่สุด เขาจะอยู่ที่อันดับที่ 10 ในขณะที่อีก 4
คนเป็นอันดับ 4 หรือแม้แต่สามอันดับแรกในองค์กร
เมื่อเหล่านายพลทั้งหมดเหล่านี้มองไปที่ ลูชุ่ยชิวหลิน ฮั่นหลางก็วางแผนที่จะยืนขึ้นเพื่อทักทายพวกเขา
อย่างไรก็ตามเขามาเพื่อตรวจสอบ ไม่ใช่เพื่อแสดงตัวโอ้อวด
ลั่วช็อคสเกลหัวเราะอยู่ภายใจ ก่อนกล่าวออกไปว่า "เราอยู่ที่นี่ในฐานะตัวแทนขององค์กรใหญ่ทั้งห้า
เจ้าเป็นใคร? เจ้าคิดว่าเจ้ามีฐานะอะไร? ถึงมายืนอยู่ที่นี่กับเราทุกคน?"
ฮั่นหลางเหลือบตามองเขา เขาสามารถบอกได้อย่างหนึ่งว่า ลั่วช็อคสเกล
ไม่ชอบเขามากนัก แต่ฮั่นหลางก็ยังเข้าใจผิดอยู่ดีเพราะลั่วช็อคสเกลไม่เพียงแต่ไม่ชอบฮั่นหลางเท่านั้น
เขายังเกลียดความกล้าของฮั่นหลาง! นั่นเป็นสาเหตุที่ทำไมเขาถึงพยายามทำให้ฮั่นหลางลำบากในเวลานี้?
ในขณะนี้มีเสียงพูดออกมาจากที่ไกล ๆ
"ฮั่นหลางเป็นแขกของข้า เขามาเป็นตัวแทนขององค์กรเขี้ยวหมาป่า ตัวแทนผู้ปกครองของดินแดนต้องสาป"
ตามเสียงที่ดังออกมา พวกเขาเห็นกลุ่มคนสวมหน้ากากกำลังเดินเข้ามาใกล้ ๆ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกคลุม
พวกเขาดูเหมือนกลุ่มของนักบวช
เฉพาะผู้นำของพวกเขาได้เปิดเผยใบหน้าของเขาเท่านั้น ฮั่นหลางขมวดคิ้วและจำชายคนนี้ได้ดี
ศึกสงครามที่ผ่านมาเขาได้ยิงชายคนนี้ด้วยคันธนูขนนกเวหา ชายคนนี้ยังมีชีวิตรอด
มันย่อมไม่ธรรมดา
"เขี้ยมหมาบ้านะสิ!" ลั่วช็อคสเกลพูดออกมา "พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มผู้แพ้ที่เคยอยู่ภายใต้เหล่าเทพเจ้า! ว่าแต่ว่าเจ้าเป็นใคร?"
“ข้าเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ทองคำ ชื่อของข้า หุบเหวเดียวดาย!"
เขายืนอยู่ที่สูงกว่าและกล่าวออกมาว่า “ข้าสามารถกำจัดพวกเจ้าทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการที่ข้าเชิญเจ้ามาที่นี่!”
ลั่วช็อคสเกล กัดลิ้นของเขา นี่คือหุบเหวเดียวดาย!
เขาพูดถูก เผ่าพันธุ์ทองคำก่อตั้งขึ้นก่อนองค์กรใหญ่ทั้งห้า ลั่วช็อคสเกล นึกถึงเรื่องนี้และยังคงนิ่งเงียบ
ฮั่นหลางกล่าวออกไปว่า "แผลของเจ้ายังคงเจ็บจากครั้งก่อนหรือไม่? ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์ทองคำข้าจะเล็งมันให้ดีกว่านี้"
ชูวว-
ลูชุ่ยชิวหลินมองไปที่ฮั่นหลาง อย่างน่าตกใจฮั่นหลางยิงหุบเหวเดียวดาย? เมื่อไหร่!?
ไทม์แอ็คเตอร์และบรูซต่างรูสึกแปลกใจด้วย ทุกองค์กรต่างล้วนส่งตัวแทนที่ดีที่สุดของพวกเขามา
เมื่อได้รับคำเชิญจากเผ่าพันธุ์ทองคำ พวกเขาทุกคนมีความเคารพและกลัวเผ่าพันธุ์ทองคำ
ฮั่นหลางเป็นคนใหม่ในสนามเด็กเล่น แต่เขาได้สู้กับคนอย่างหุบเหวเดียวดาย
แม้กระทั่งทำร้ายเขา!? พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ฮั่นหลางด้วยมุมมองใหม่
หุบเหวเดียวดายถอนหายใจออกมา เขาตกอยู่ในสภาพร่อแร่ก็เพราะฮั่นหลาง ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าใครบางคนจากเผ่าพันธุ์ทองคำได้รับบาดเจ็บจากมือสมัครเล่น
การปรากฏตัวของเขากลายเป็นอ่อนแอมาก!
จากความฉลาดของฮั่นหลาง เขาต้องพูดมันอย่างตั้งใจ
หุบเหวเดียวดาย แกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ได้ยินในสิ่งที่ฮั่นหลางพูด และก้าวไปสู่กำแพงสีทอง
เมื่อฝ่ามือของเขาสัมผัสที่กำแพง กำแพงได้เปิดออกเป็นทางเข้าที่ตระหง่าน
"เชิญ ทุกคน!" หุบเหวเดียวดายผายมือต่อฝูงชน
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้าใน แต่ก็ไม่มีใครอยากแสดงให้เห็นว่าพวกเขากลัวเผ่าพันธุ์ทองคำ
และพวกเขาก็เดินผ่านมันโดยไม่มีคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งลั่วช็อคสเกล เขาเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไป
เขาไม่อยากแพ้ฮั่นหลางอีกครั้ง
"เซอร์ พวกเขาได้เข้าหอคอยทองคำหมดแล้ว!" ไม่นานหลังจากนั้น
หุบเหวเดียวดาย ก็ได้ยินเสียงรายงานออกมา
มุมของปากของหุบเหวเดียวดายยกขึ้น มันเป็นรอยยิ้มที่แฝงความน่ากลัว
เวลานี้เขาไม่ได้ไปเล่นอะไรภายใต้โต๊ะ แต่ภายใต้แสงแดดในตอนกลางวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น