แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
สิงโตปีกอินทรีมีความสามารถในการชุบชีวิตคนตาย? ข้อเท็จจริงนี้ทำให้ฮั่นหลางและทีมของเขาตกใจ
"ไม่มีทาง! ยาพิษของข้าไม่ได้อ่อนด้อยเช่นนี้" ผู้เล่นยามค่ำคืนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ฮั่นหลางจับมือเขาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและพูดออกมาด้วยเสียงแหบ ๆ ว่า
"อย่าหุนหันพลันแล่น! ดูสีหน้าของพวกเขาสิ ยังเป็นสีเทา ไม่มีร่องรอยของชีวิต
นั่นหมายความว่าสิ่งที่สิงโตปีกอินทรีฟื้นคืนชีพขึ้นมา เป็นเพียงกลุ่มของคนตาย
เขาเพียงแค่ทำให้พวกเขาขยับตัวได้อีกครั้ง"
หลังจากได้ฟังสิ่งที่ฮั่นหลางกล่าว
ผู้เล่นยามค่ำคืนก็เริ่มสังเกตสภาพแวดล้อมและพวกเขาอย่างละเอียด
ศพเหล่านั้นที่ยืนขึ้นอีกครั้งก็ยังคงเหมือนศพที่มีใบหน้าสีเทาเย็น
ราวกับว่าพวกเขาเป็นกลุ่มของซากศพผีดิบ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ~
สิงโตปีกอินทรีกำลังหัวเราะอยู่บนท้องฟ้า
"เจ้ามีทักษะการสังเกตที่ละเอียดมาก
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถป้องกันหรือหยุดข้าได้"
"ข้าจะบอกอะไรให้ ชื่อของข้าคือ สิงโต แต่ที่ถูกแล้วมันคือผีดิบ (TL: ในภาษาจีน สิงโตและผีดิบ
มีการออกเสียงแบบเดียวกัน แต่มีการเขียนแตกต่างกัน)!"
"ข้าอาศัยอยู่ในความสันโดษมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
เพราะความสามารถของข้านี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจ ..ข้ากลัวคนอื่น ๆ
จะพูดเรื่องของข้าและข้าอยากจะให้ลูกชายของข้าเป็นอนาคตที่ข้าอยากจะเป็น
แต่มันน่าผิดหวังจริง ๆ"
"แต่วันนี้ มันเป็นเจ้าที่บังคับให้ข้าทำเช่นนี้! ด้วยความอาฆาต!
ข้าต้องการที่จะแก้แค้น!"
บูมมม ~
ร่างของสิงโตปีกอินทรีพองตัวขึ้น
ร่างสีทองของเขาก็เริ่มลอยขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยแสงสีทองที่สว่างออกมา
ร่างกายของเขาดูเหมือนจะอยู่เหนือการรควบคุม ข้อต่อของเขากำลังส่งเสียงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะใช้พลังของเขาอย่างเต็มศักยภาพ
และในขณะที่พลังอำนาจดังกล่าวก็เริ่มมีผลต่อศพที่ยืนขึ้นทั้งหมด
พวกมันยกศีรษะตั้งตรง ดวงตาของพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดง
และเล็บสีดำเริ่มยื่นยาวออกมาจากนิ้วของพวกเขา
"ทำไม เขาถึงได้ดูหยิ่งยโส! นี่เป็นความโชคร้ายของเขาที่วิ่งเข้ามาหาเจ้า!
ใช้พลังสูญสิ้นของเจ้าริบพลังทั้งหมดของเขา!" ผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวออกไป
"แต่ เดี๋ยวก่อน" ฮั่นหลางกล่าวออกมาว่า
"พลังของสิงโตปีกอินทรีมีมากเหมือนกับตำนานที่ข้าเคยได้ยินมา"
"ตำนาน?" ผู้เล่นยามค่ำคืนรู้สึกสับสนมาก
"ใช่แล้ว ลูเอียวได้ทิ้งความทรงจำไว้มากมายให้ข้า
หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับศพที่ถูกครอบงำโดยวิญญาณชั่วร้าย ..ตามตำนาน
นักรบบางคนที่มีพลังแห่งความมืดที่สะสมในร่างในระดับสูง
จนสามารถทำสัญญากับปีศาจได้หลังจากมีศักยภาพสูงสุดแล้วมันจะสร้างปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมาก"
ราชาแห่งความมืดลูเอียวได้ทิ้งข้อมูลจำนวนมากไว้ให้กับฮั่นหลางและข้อมูลนี้ถูกปิดผนึกไว้ในสมองของฮั่นหลาง
โดยปกติแล้วข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์กับฮั่นหลางตั้งแต่แรก ประการแรกเขาไม่มีร่างกายที่เต็มไปพลังแห่งความมืด
ประการที่สองฮั่นหลางไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกของดาร์คเน็ตเช่นที่ลูเอียวจากมา
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่เขาจะได้สัมผัสกับสิ่งแปลกประหลาดเช่นที่ลูเอียวอธิบายไว้
แต่ตอนนี้สิงโตปีกอินทรีสามารถเรียกความทรงจำของฮั่นหลางได้ เขาจำได้ว่า
การครอบงำโดยวิญญาณชั่วร้ายเป็นความสามารถที่มีประสิทธิภาพมากในระบบดาร์คเน็ต
ในความทรงจำที่ทิ้งไว้ข้างหลัง
ดูเหมือนว่าจะมีวิธีที่จะดึงพลังงานที่เป็นเอกลักษณ์ออกมาจากปีศาจที่ผ่านวิวัฒนาการพิเศษบางอย่าง
การต่อสู้เป็นเรื่องที่เรียบง่าย
การฆ่าสิงโตปีกอินทรีไม่ควรที่จะเป็นเรื่องยาก เพียงแค่ว่าฮั่นหลางลังเลว่าเขาควรพยายามที่จะใช้ทักษะที่ลูเอียว
ได้ทิ้งไว้ข้างหลัง ถ้าเขาประสบความสำเร็จเขาจะสามารถได้รับพลังแห่งความชั่วร้ายแบบใหม่ที่อาจมีประโยชน์ในภายหลัง
ขณะที่ฮั่นหลางลังเล บรรยากาศก็เปลี่ยนไป!
ทันใดนั้นร่างกายสิงโตปีกอินทรีก็ระเบิด!
ผิวมนุษย์ของเขาแตกออกเป็นล้านชิ้น
โครงร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศและในเวลาเดียวกันเขาได้เผยสิ่งอื่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผิวหนังของมนุษย์
ชายผิวดำที่มีดวงตาสีแดงเลือดลึกลับ ที่บนหัวล้านของเขามีเขาอยู่สองข้าง
เขามีฟันที่เป็นเหมือนเล็บเหล็ก ส่วนเล็บของเขามีความยาวอย่างน้อยครึ่งเมตรเช่นเดียวกับเคียวแห่งความตาย
นี่คือร่างกายเดิมของสิงโตปีกอินทรี! ที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังของมนุษย์
คนธรรมดา!
ร่างกายสิงโตปีกอินทรีสว่างไสวด้วยแสงสีดำ
แม้แต่ลูกชายของเขาก็ตะลึงกับเหตุการณ์ครั้งนี้ พวกเขาไม่เคยคิดว่าพ่อของพวกเขาจะมีลักษณะเช่นนี้
ถ้านี่เป็นพ่อของพวกเขา
แล้วใครที่เป็นคนดูแลพวกเขาจนเติบโตขึ้นมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา?
สิงโตปีกอินทรีดูเหมือนจะกลายเป็นอวตารของปีศาจ ในบางแง่มุม
สิ่งนี้จะอธิบายได้ว่าเขาสามารถฟื้นจากความตายและมีอำนาจชั่วร้ายได้อย่างไร
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ สิงโตปีกอินทรีเป็นผีดิบปีกอินทรี
และชื่อนี้ไม่เพียงแต่แปลก แต่ยังมีร่องรอยของความผิดปกติ
"ข้าต้องจับเป็นเขา!" ฮั่นหลางคิดกับตัวเอง
สิงโตปีกอินทรีก็แค่เล่นไพ่ใบหนึ่งของเขาและสิ่งนี้ก็ทำให้ฮั่นหลางอยากรู้อยากเห็นมาก
เขาเริ่มสงสัยว่าลูเอียวทิ้งอะไรไว้ให้เขา?
มันเกี่ยวกับความทรงจำของความมืด? บางทีลูเอียวต้องการที่จะเป็นเช่นสิงโตปีกอินทรีในตอนนี้?
เช่นเดียวกับที่ฮั่นหลางตั้งใจแน่วแน่ที่จะดูดซับพลังอันยิ่งใหญ่ของสิงโตปีกอินทรี
ทันใดนั้นรัศมีแสงก็ถูกลดทอนลงไปครึ่ง
ท่ามกลางรัศมีแสง ปรากฏโลงศพขนาดใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน
โลงศพสีดำมีหัวกะโหลกฝังอยู่จำนวนมาก
มันบินตรงไปยังสิงโตปีกอินทรีราวกับว่ามันต้องการจะจับตัวเขา
อ่า !!
สิงโตปีกอินทรีร้องออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว ดวงตาสองข้างของเขากลอกไปมา
และมองไปที่โลงศพสีดำและริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง
เกือบจะดูเหมือนว่าเขารู้จักโลงศพนี้และรู้สึกกลัวมาก
สิงโตปีกอินทรีดูเหมือนว่าเขาถูกตรึงด้วยพลังงานที่หาได้ยาก
เขาไม่ได้ต่อสู้ แต่กลับอยู่ในสภาพที่สั่นไหว ขณะที่โลงศพพาเขาเข้าไปและล็อกตัวเขาเอาไว้
บูม ~
โลงศพใหญ่หล่นลงไปที่พื้นตรงหน้าฮั่นหลาง ฝุ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณ
เมื่อฝุ่นละอองหายไป ฮั่นหลางก็สังเกตเห็นโลงศพหายไป และแทนที่จะเป็นโลงศพ
กลับมีกลุ่มคนที่สวมด้วยเสื้อคลุมสีดำ
พวกเขาไม่ได้แสดงใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขาออกมา
แต่พวกเขากำลังแผ่กระจายความเย็นออกไปทั่วบริเวณรอบ ๆ
ชูวว ~
นักรบผิวดำถือโลงศพขนาดเล็กไว้ในมือเกือบราวกับว่ามันเป็นโลงศพที่ถูกหดตัวในก่อนหน้านี้
เขายิ้มเล็กน้อยและเก็บโลงศพลงบนสร้อยคอที่สวมอยู่บนคอ
"ขอบคุณมาก ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขา
เราก็คงจะไม่สามารถจับตัวเขาได้อย่างง่ายดาย" นักรบผิวดำยิ้มและพูดออกมา
ฮั่นหลางมองลูกชายของสิงโตปีกอินทรี
พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตด้วยเหตุผลบางอย่าง เลือดไหลออกจากปากของพวกเขา และศพที่ฟื้นขึ้นมาจากเทคนิคของสิงโตปีกอินทรีในก่อนหน้านี้
พวกมันก็ล้มลงไปทีละศพ ตอนนี้พวกมันตายไปแล้ว
พวกเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของความเศร้าโศกดังออกมาจากระยะไกล นั่นคือชนเผ่ากริฟฟอน
พวกเขาเฝ้าดูสงครามจากด้านหลัง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาก็เริ่มล้มลงไปทีละคน
ปากของพวกเขามีเลือดออกเป็นเลือดดำเช่นเดียวกับลูกชายของสิงโตปีกอินทรี
ชายผิวดำเริ่มหัวเราะอีกครั้ง เขากล่าวออกมาว่า "แทนคำขอบคุณจากใจของข้า
ข้าได้ช่วยพวกเจ้าจัดการกวาดล้างเผ่านี้ เอาละ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ากำลังมองหาอสูรใต้น้ำ? พวกเจ้ารีบไปซะ จากสิ่งที่ข้ารู้
อสูรใต้น้ำตัวเล็กเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ถูกกักขังไว้ที่เผ่ากริฟฟอน อีกสองตัว
พวกมันถูกส่งไปยังกลุ่มพันธมิตรเผ่า"
"เลือดของสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตา อสูรใต้น้ำ
คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าฟ้าทองคำ มันมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต ดังนั้นข้าคิดว่า
กลุ่มพันธมิตรเผ่าจะไม่มอบพวกมันให้กับพวกเจ้าง่าย ๆ ถ้าพวกเจ้าต้องการพวกมันคืน
การสู้รบย่อมต้องเกิดขึ้นอีกครั้ง"
ฮั่นหลางยังคงไม่ตอบอะไรออกมา ชายผิวดำเอียงศีรษะของเขาและพูดว่า "อะไร? เจ้าไม่ยอมไป? ถ้าเจ้าจะไปช่วยอสูรใต้น้ำหลังจากที่เราต่อสู้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะพันธมิตรเผ่าทั้งหมดได้?
ฮั่นหลางยังไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาคิดว่าเรื่องนี้แปลกมาก
สิงโตปีกอินทรีมีความสามารถในการชุบชีวิตคนตาย ซึ่งสอดคล้องกับตำนานที่ลูเอียวได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง
เมื่อถึงเวลาที่ฮั่นหลางต้องการจะจัดการสิงโตปีกอินทรี
กลุ่มบุคคลที่สวมที่สวมหน้ากากกลับพาเขาไปต่อหน้าต่อตาของฮั่นหลาง
พวกเขาเป็นใคร?
แล้วใครคือ สิงโตปีกอินทรี?
"อย่าตกหลุมกับดักของพวกมัน!" ผู้เล่นยามค่ำคืนดึงฮั่นหลางกลับมาและกระซิบกระซาบที่หู
"คนเหล่านี้ใช้พิษได้เป็นอย่างดี และทักษะพิษของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ดีและมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้า"
ฮั่นหลางเข้าใจในสิ่งที่ผู้เล่นยามค่ำคืนกำลังพยายามจะพูดอะไร
เลือดสีดำที่ไหลออกจากปากของคนตายเหล่านี้เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด
ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวการโจมตีด้วยพิษของพวกเขา ฮั่นหลางจะขึ้นไปสู้กับพวกเขาในทันที
ในเวลานี้ชายผิวดำหัวเราะอย่างเย็นชาอีกครั้ง ด้วยเสียงของเขามันทำให้คนขนลุกได้
"เจ้าก็น่าที่จะฟังเขา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยาพิษ
หลังจากทั้งหมดยาพิษของข้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา เราอาจจะเสมอกัน
เหตุผลเดียวที่ข้าสามารถฆ่าสิงโตเหล่านั้นได้เป็นเพราะพวกเจ้าได้วางยาพิษไว้ก่อน"
"แต่มีความแตกต่างกันมากระหว่างยาพิษที่แตกต่างกัน
ถ้าเจ้ายังคงต้องการที่จะหยุดข้า เราทั้งสองจะสูญเสีย
ข้าจะแนะนำให้เจ้าไปช่วยเพื่อนของเจ้า สองอสูรใต้น้ำ อย่ามาเสียเวลาของเจ้ากับข้า รีบหน่อยก็ดี
พวกมันอาจถูกกินโดยคนเหล่านั้นถ้าพวกเจ้าไปสายเกินไป
..เจ้าควรเข้าใจความโลภของมนุษย์ที่มีปัญญาที่ดีกว่าข้า”
เห็นได้ชัดว่านักรบผิวดำคนนี้ฉลาด เขาคำนวนว่าพวกเขาจะไม่สามารถต่อสู้ได้
เพราะถ้าทั้งคู่ต่อสู้กันด้วยยาพิษ ยาพิษของตัวเองก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
ดังนั้นเขาขโมย สิงโตปีกอินทรี ต่อหน้าฮั่นหลาง
ทันใดนั้น ~
โดยไม่มีคำเตือน คันธนูปรากฏในมือของฮั่นหลาง ลูกธนูบินพุ่งออกไป!
เขาดึงคันธนูเพื่อปล่อยลูกธนู!
แสงสีขาวเปล่งประกายและเล็งไปที่นักรบผิวดำที่ยังคงหัวเราะอยู่
เขาเกือบจะลืมไปแล้ว ฮั่นหลางไม่ใช่แค่ผู้บัญชาการของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า
แต่เขายังมีความเชี่ยวชาญในการโจมตีจากระยะไกล
ฟิ้ว ~
ลูกธนูเหมือนจะกระทบอะไรบางอย่าง แต่ฮั่นหลางไม่แน่ใจ
เนื่องจากควันสีเหลืองเริ่มพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดินที่ยืนอยู่รอบ ๆ ตัวเอง
“อย่าเข้าใกล้พวกเขา อย่าเข้าใกล้พวกเขา พวกเขารู้วิธีใช้ยาพิษ!"
ผู้เล่นยามค่ำคืนตะโกนเสียงดังออกไปเพื่อพยายามที่จะดึงทุกคนที่เริ่มโกรธให้กลับมามีสติ
"ฮั่นหลาง? ตกลง ข้าจะจดจำชื่อของเจ้า เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าที่ลอบโจมตีข้า
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้" เสียงของชายผิวคนดำลอยมาจากที่ไกล ๆ
พวกเขาได้หลบหนีไปแล้วภายใต้ควันที่หนาแน่น
ฮั่นหลางหันหลังกลับก่อนจะหันไปอุ้มเสี่ยวบ่าวขึ้นมา
ทุกคนตามฮั่นหลางเพราะรู้ว่าสงครามสิ้นสุดลงแล้ว
พวกเขายังต้องเร่งรีบไปที่กลุ่มพันธมิตรเผ่าเพื่อช่วยพ่อแม่ของเสี่ยวบ่าว
ซือหม่าฮันเฟิง ใช้โอกาสนี้เข้ามาใกล้กับฮั่นหลางและกล่าวว่า
"เจ้าห่ามเกินไป กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้พวกเขาไป
ไม่มีใครจะชนะจากการต่อสู้แบบนั้น"
เหตุผลที่ ซือหม่าฮันเฟิง กล่าวอย่างเงียบ ๆ กับ ฮั่นหลาง
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำร้ายอัตตาของฮั่นหลาง อัตตาอาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้บัญชาการสงคราม
ฮั่นหลางไม่ตอบสนอง เขาเช็ดแผลที่ด้านหลังของ เสี่ยวบ่าว เบา ๆ
ท่อถูกฝังลึกเข้าไปในร่างกายของมัน เลือดออกมาก เจ้าตัวเล็กอ่อนแอมาก
ในตอนนี้มันยังคงกระตุกอยู่ใกล้ ๆ กับแขนของฮั่นหลาง
ฮั่นหลางขยับริมฝีปากว่า "ข้าไม่ชอบท่าทีที่หยิ่งยโสของเขา
เขาทำตัวเหมือนว่าเขารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และสามารถควบคุมชีวิตของทุกคนได้
เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ทุกคนสามารถกำหนดชีวิตของตัวเองได้!"
ซือหม่าฮันเฟิง รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อรู้ถึงสิ่งที่ทำให้ฮั่นหลางหงุดหงิด
ยิ่งพวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันนาน เขาก็ยิ่งมองเห็นด้านกบฏของฮั่นหลางมากขึ้นเท่านั้น
"ไปกันเถอะ ไปหากลุ่มพันธมิตรเผ่า!"
ฮั่นหลางกระโดดขึ้นไปบนเรือรบดาร์คเน็ตในขณะที่ตะโกนออกไปว่า "ไปฆ่าคนที่ชอบกักขังอิสรภาพของผู้อื่น!"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น