แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
ฮั่นหลางและเฟิงไทจีเดินสังเกตไปรอบ ๆ ในสวนใต้ดินที่ลึกลับ
แม้ว่าฮั่นหลางชอบเรียนชีววิทยา แต่ก็ไม่ถึงระดับขั้นหลงใหล
ในขณะที่เฟิงไทจีนับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งในสาขาชีววิทยาของกาแลคซีทางช้างเผือก
เขาตะโกนออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เขามาถึงที่นี่
นอกจากนี้เขายังชี้มือไปที่พืชที่ไม่มีอยู่ในทางช้างเผือก ในลักษณะตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากมันอาจเป็นพืชที่อาจมียีนพิเศษที่เขาต้องการ
ต้องใช้สามารถเพื่อทำการตรวจสอบสวนใต้ดินนี้ที่มีพื้นที่ราว ๆ 10,000
ตารางกิโลเมตรมากขนาดไหน? ฮั่นหลางคิดและพูดออกไปว่า
"พวกเราจะเก็บพืชที่มีประโยชน์บางส่วนไว้ก่อน
สำหรับขั้นตอนต่อไปข้าจะอธิบายให้ยุนซานรับรู้ และลงมาตรวจสอบหลังจากนั้นอีกครั้ง"
"เนื่องจากเราจะไม่ออกเดินทางในเร็ว ๆ นี้ มันยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียด"
เฟิงไทจีพยักหน้าซ้ำ ๆ ก่อนกล่าวว่า "เจ้าต้องโน้มน้าวยุนซาน!
ถ้าเขาไม่เห็นด้วยข้าจะสู้กับเขา!"
ฮั่นหลางยิ้มและพูดออกไปว่า "ยุนซานไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตผล
..เก็บพืชที่เราต้องการก่อน แล้วเราค่อยสอนให้คนอื่น ๆ มาเก็บเกี่ยวพวกมัน
มันจะเร็วกว่าการที่เราจะทำเอง เจ้าเพียงแค่ต้องบอกพวกเขาว่าจะทำอย่างไร"
ที่กล่าวเช่นนั้น เนื่องจากในความเป็นจริง ในตอนนี้มีเพียงบลูสตาร์ที่เริ่มทำงานเก็บเกี่ยว
จิ้งจอกเงินที่ฉลาดตัดสินใจที่จะเดินตามฮั่นหลาง มันสังเกตไปรอบ ๆ ในขณะที่ไข่ดำ
มันไม่อยากทำงานให้กับเฟิงไทจี
โชคดีที่บลูสตาร์มีความสามารถมาก นอกไปจากความเร็วของมันแล้ว
มันยังมีความแม่นยำสูงมาก หลังจากที่ผ่านการเปลี่ยนแปลง บลูสตาร์ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ของปีศาจกรงเล็บและภูตกรงเล็บ
ในตอนนี้มันกลายเป็นมือสังหารที่มีความแม่นยำ
พืชใดที่เฟิงไทจีจ้องมองไป
บลูสตาร์จะกระโดดเข้าไปเก็บเกี่ยวด้วยกรงเล็บของมันได้อย่างถูกต้อง
มันจะขุดพืชออกมาพร้อมกับรากและมอบให้เฟิงไทจี มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่ เฟิงไทจี เก็บพืชที่มีมูลค่าทางการวิจัย ฮั่นหลางก็เดินไปรอบ ๆ พร้อมกับจิ้งจอกเงินและไข่ดำ
แม้ว่าฮั่นหลางจะไม่ได้รู้จักพืชหลายชนิดนัก แต่การสำรวจไปรอบ ๆ เพื่อเปิดทรรศนะของเขามันก็ไม่เลวร้ายอะไร
ขณะที่ฮั่นหลางเดินต่อไป เขาและเฟิงไทจีเริ่มเดินแยกห่างกันออกไปเรื่อย ๆ
ฮั่นหลางเดินดูไปรอบ ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย โดยจะหยุดเพื่อศึกษาเมื่อเขาเจอพืชที่น่าสนใจ
ตรงกันข้ามกับเฟิงไทจี เขากำลังเก็บตัวอย่างพืชอย่างตะกละตะกลาม เขาต้องการสิ่งเหล่านี้
ความแตกต่างในความคิดส่งผลให้พวกเขาเดินห่างกัน
"พวกเจ้าคิดว่าใครเป็นคนสร้างสวนใต้ดินนี้?" ฮั่นหลางถามจิ้งจอกเงิน
และไข่ดำออกไป "ทำไมพวกเขาถึงสร้างสวนแห่งนี้ขึ้นมา?"
จิ้งจอกเงินและไข่ดำไม่มีคำตอบ นอกจากนี้ไข่ดำกินพลังงานและจิ้งจอกเงินก็กินเนื้อ
ทั้งสองไม่มีความสนใจในพืชที่กินไม่ได้เหล่านี้
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถตอบฮั่นหลางได้
ฮั่นหลางกำลังคิดและเดินต่อไป สำหรับเขาแล้วการจัดเก็บพืชไม่สำคัญเท่ากับการสืบหาที่มาของสวนใต้ดินนี้
เนื่องจากเขาเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก
พรึบ
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังมาจากระยะไกล
ราชาเถาสวรรค์สองต้นพุ่งออกมาจากพื้นดินและดูเหมือนจะต่อสู้กับอะไรสักอย่าง
เฟิงไทจีถึงกับต้องปล่อยพืชประหลาดออกมาเพื่อปกป้องตัวเอง
"ไป!" เขาตะโกนออกมา
ฮั่นหลางพร้อมด้วยจิ้งจอกเงินและไข่ดำก็ตกใจและรีบไปทางที่เถาราชาสวรรค์ขึ้นอยู่
พวกเขาพบเฟิงไทจี
เขาถูกปกคลุมด้วยน้ำมูกโปร่งใสตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับว่าใครบางคนเทมันลงมาที่ตัวเขา
ไม่ไกลออกไปนัก ดอกไม้แปลกประหลาดที่มีปากยักษ์ถูกฟันทิ้งโดยบลูสตาร์และเถาราชาสวรรค์
จากรอยตัดปรากฏของเหลวใสไหลออกมาจากพวกมัน
"มันเป็นดอกไม้กินคนกลายพันธุ์"
เฟิงไทจีกล่าวออกมาด้วยความรำคาญ "ข้าไม่ได้ระวัง จึงถูกมันกลืนกิน
เมือกนี้เป็นกรดและสามารถกัดกร่อนเหยื่อของพวกมัน มันจะละลายเหยื่อจนกลายเป็นคาร์โบไฮเดรต
จากนั้นดอกไม้เหล่านี้ก็จะสามารถดูดซับสารอาหารคาร์โบไฮเดรต"
“มันอาจจะเป็นดอกไม้กินคนนี้ที่ทำให้ปู่ของยุนซานตกใจ
เพราะฉะนั้นห้ามไม่ให้ผู้คนเข้ามาในสวน แต่ข้าไม่เป็นไร ข้าเป็นขุนศึกและได้รับการป้องกันจากเสื้อเกราะ
มันจะกลับมาปกติหลังจากที่ข้าล้างมันด้วยสารทำความสะอาด"
หลังจากที่เฟิงไทจีกล่าว เขาเอาสารทำความสะอาดออกมา
และสาดลงบนร่างกายของเขา
สารทำความสะอาดช่วยล้างกรดที่มาจากดอกไม้กินคนและชำระกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออก
ฮึม?
ฮั่นหลางตกใจเล็กน้อย เมื่อเขามองไปข้างหน้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ชนิดหนึ่ง เลยออกไปมีจัตุรัสกลางเป็นลานหิน
ตรงกลางเป็นเก้าอี้แกะสลักที่ทำมาจากหินสีฟ้า
ด้านหลังมีอนุสาวรีย์หินสามเหลี่ยมจารึกข้อความบางอย่าง
"สิ่งนี้คืออะไร?" เฟิงไทจีมองตามฮั่นหลางไปที่จัตุรัสและถามออกมา
ฮั่นหลางบุ้ยปากและพูดว่า "ข้าเดาเหตุผลที่ปู่ของยุนซานไม่อนุญาตให้คนเข้ามาในสวนนี้เนื่องจากดอกไม้กินคน
แต่สิ่งนี้คืออะไรกัน..."
"ดูเหมือนจะมีข้อความจารึกที่อนุสาวรีย์นี้"
"มันเป็นอัตชีวประวัติ!?"
เฟิงไทจีมองมันและตะโกนออกมาในทันที
มันเป็นเรื่องอัตชีวประวัติของผู้สร้างสวนใต้ดิน เขาได้ทิ้งมันไว้เบื้องหลัง
ผู้สร้างสวนใต้ดินคนนี้มีชื่อว่า เทียนจาง ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเผ่ายักษ์
เขาเป็นคนโง่เขลาเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กหนุ่ม
เขาใช้พลังอันยิ่งใหญ่ของเขาปฏิบัติตัวเช่นยักษ์พาลและทำสิ่งเลวร้ายมากมาย
ต่อมาเทียนจางได้เจอชายชราคนหนึ่งที่ชื่อว่า ลำโพงดอกไม้
เขารู้สึกว่าชายชราคนนี้ร่ำรวย เขาจึงตัดสินใจที่แบล็กเมล์
ใคร ๆ ก็รู้ว่าลำโพงดอกไม้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอก
และเขาก็ทำการลงโทษเทียนจางอย่างไร้ความปราณี ลำโพงดอกไม้พาเทียนจางไปยังที่หนึ่ง ที่เรียกว่าสวนสวรรค์ทองคำ
และบังคับให้เขาทำงานที่นั่น
ตอนแรกเทียนจางก็ทนได้ แต่เมื่อผ่านไปหลายวัน เขาก็เริ่มกลายเป็นคนที่หลงไหลในดอกไม้และพืชอย่างไม่คาดฝัน
ลำโพงดอกไม้ยอมสงบศึก สอนเขาอย่างอดทนและยอมรับเขาเป็นศิษย์ฝึกหัด
ถ้าไม่ใช่อุบัติเหตุที่ตามมา เทียนจางอาจมีโอกาสได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านพืชภายใต้การแนะนำของลำโพงดอกไม้
แต่น่าเสียดายที่วันหนึ่งในขณะที่เทียนจางกำลังจะกลับมาที่พักหลังจากการดูแลพืชในสวน
ลำโพงดอกไม้ก็ผลักไสเขาออกไป
เทียนจางต่อต้าน ลำโพงดอกไม้จึงจัดการเขาจนมีสภาพร่อแร่และโยนเขาออกไปในดาร์คเน็ต
เทียนจางเป็นคนที่ดื้อรั้น แม้ลำโพงดอกไม้ได้จะแสดงอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาเช่นอาจารย์และศิษย์ได้สิ้นสุดลงแล้ว
และเขาก็ไม่อยากเห็นหน้าเทียนจางอีกต่อไป แต่เทียนจางปฏิเสธที่จะจากไป
หลังจากนั้นไม่นาน เทียนจางก็ค้นพบความจริงว่า ศัตรูของลำโพงดอกไม้ได้ตามมาเพื่อแก้แค้นและลำโพงดอกไม้ก็ไม่ใช่มนุษย์หรือเป็นมนุษย์สายพันธุ์ที่ชาญฉลาด
หากแต่ลำโพงต้นไม้เป็นสัตว์ที่ชาญฉลาด
เขาได้กลายเป็นลิงยักษ์ทองคำในระหว่างการต่อสู้
มันเป็นมหากาพย์การต่อสู้ ลำโพงดอกไม้ที่กลายเป็นลิงยักษ์ทองคำได้นำสัตว์ร้ายทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในสวนสวรรค์ทองคำเข้าปะทะกับกลุ่มสัตว์ที่ไม่รู้จักอีกกลุ่มหนึ่งอย่างรุนแรง
ในขณะนั้นสนามรบรู้สึกเหมือนใกล้จะถึงช่วงเวลาที่โลกจะแตก
ลูกผู้ชายที่แท้จริงเช่นเทียนจาง
เขาย่อมจะยืนอยู่ด้านข้างอาจารย์ของเขาโดยไม่ลังเล
ไม่ว่าเขาจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานก็ตาม เทียนจางได้ยอมรับลำโพงดอกไม้ว่าเป็นอาจารย์ของเขาแล้ว
ลำโพงดอกไม้รู้สึกประทับใจอย่างมากและไม่ได้ออกปากไล่เทียนจางอีกต่อไป
พวกเขามีเป้าหมายเดียวกัน
ควบคู่ไปกับสัตว์ประหลาดลึกลับที่ทรงพลังมากมายในสวนสวรรค์ทองคำ
พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการรักษาสวนสวรรค์ทองคำมหัศจรรย์ไว้ได้ ศัตรูก็พ่ายแพ้และถอยออกไป
แม้ว่าพวกเขาจะชนะการต่อสู้
แต่สถานที่ตั้งของสวนสวรรค์ทองคำได้ถูกเปิดเผยและลำโพงดอกไม้ก็ต้องจากไป
สำหรับเทียนจาง เขาก็เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดที่เป็นเหมือนมนุษย์
ดอกไม้ลำโพงเชื่อถือในศิษย์ของเขา แต่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในสวนสวรรค์ไม่เห็นด้วยที่จะให้ยักษ์ไปกับพวกเขา
ลำโพงดอกไม้ค่อนข้างหนักใจในเรื่อง
เขาไม่สามารถเลือกระหว่างพวกพ้องของเขากับศิษย์ของเขาได้
ในเวลานี้
เทียนจางที่ซื่อสัตย์ได้เข้าใจภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอาจารย์ของเขา
และเขาขอออกไปเองด้วยความสมัครใจ
ด้วยความเศร้าและความตกใจ ลำโพงดอกไม้ได้มอบหนังสือและเมล็ดพันธุ์ให้กับเทียนจาง
ต่อมาลำโพงดอกไม้
สวนสวรรค์ทองคำและสัตว์ที่ทรงพลังที่เคยอาศัยอยู่ในสวนก็หายตัวไปจากดาร์คเน็ตที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เทียนจางได้มาที่นี่หลังจากที่อาจารย์ของเขาจากไป เขาทำการปลูกเมล็ดพันธุ์ที่อาจารย์ให้ไว้
ณ ที่แห่งนี้
เมล็ดเติบโตอย่างน่าอัศจรรย์ และในที่สุดก็กลายเป็นต้นไม้เทพเจ้า
เทียนจางซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้ขนาดใหญ่นี้และใช้ชีวิตที่โดดเดี่ยวมาจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของเขา
สวนใต้ดินนี้เป็นที่สะสมของพืชที่แปลกใหม่ในดินแดนต้องสาปเพื่อฆ่าเวลาของเขา
ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์หรือคุณภาพของพืชในสวนใต้ดินขนาดกว้าง 10,000
ตารางกิโลเมตรนี้ พวกมันยังไม่สามารถเทียบได้กับหนึ่งใน 10,000 ของสวนวรรค์ทองคำ
เขาไม่เคยมีโอกาสได้กลับไปในสวนวรรค์ทองคำอีกครั้งและไม่สามารถไปหาอาจารย์ได้
มันเป็นช่วงเวลาที่เขาเสียใจตลอดชีวิตของเขา
ถึงจุดนี้เห็นเหตุผลได้ชัดว่า ทำไมจึงมีต้นไม้มหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่และสวนแห่งนี้
เผ่าต้นไม้เทพเจ้าได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่หลังจากการตายของเทียนจาง
ระบุว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้า ดังนั้นชื่อของเผ่าจึงมีชื่อว่าเผ่าต้นไม้เทพเจ้า
เฮ่อ...
หลังจากอ่านบันทึกเหล่านี้แล้ว เฟิงไทจีถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะพูดว่า
"สวนวรรค์ทองคำ เป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลังอยู่จริง ๆ? มันไม่น่าเชื่อเลย!”
ฮั่นหลางได้สังเกตเห็นรายละเอียดบางอย่างในข้อความบันทึก ตามข้อความ
ศัตรูที่ทำลายสวนวรรค์ทองคำ หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตจะมีเลือดเป็นสีทอง
ฮั่นหลางฆ่าหมาป่าขาวที่มีพลังมากเมื่อไม่นานมานี้
หมาป่าสีขาวนั้นมีเลือดสีทอง
มีการเชื่อมต่ออะไรบางอย่างที่ฮั่นหลางเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัด?
"นานแค่ไหนที่เจ้าจะเสร็จสิ้นการเก็บพืชในสวน?" ฮั่นหลางถามเฟิงไทจี
เฟิงไทจีส่ายหัว "สถานที่แห่งนี้ใหญ่เกินไป
ข้าไม่สามารถยุ่งกับการทำแบบนี้ได้เอง อย่างไรก็ตามเราโชคดีมากที่ได้เห็นในตอนนี้
..จากสิ่งที่ข้าเห็น ในนี้มีพืชที่หายากหลายร้อยชนิดที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน
ถ้าเราค้นหาต่อไปข้าจะพบมากยิ่งขึ้น
ข้าคิดว่ามันไม่ยากที่จะหาพืชชั้นสูงได้มากกว่าล้านชนิดในสวนใต้ดินนี้"
"เพียงแค่มีผู้เล่นยามค่ำคืนเท่านั้น ..แม้ว่าสารพิษของเขาจะไม่ได้ทำมาจากพืชทั้งหมด
บางส่วนมาจากสารที่ผลิตมาจากสัตว์หลายชนิด แต่เขาก็มีความเชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์มากที่สุดนอกจากข้า
เราสองคนสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ ถ้าเราทำงานร่วมกัน"
"ถึงกระนั้นก็ตาม” เฟิงไทจีก็เปลี่ยนเรื่อง
"เทียนจางได้บันทึกไว้ว่านอกจากเมล็ดพืชต้นไม้นี้แล้ว
เขายังมีหนังสืออยู่ด้วย
ทำไมเราถึงไม่เห็นเขาพูดถึงหนังสือหลังจากที่ลำโพงดอกไม้จากเขาไป?"
ฮั่นหลางยักไหล่และพูดว่า "ใช่ ข้าก็อยากรู้เรื่องนี้
..หนังสือที่ลำโพงดอกไม้ทิ้งไว้ มันควรมีคุณค่ามากกว่าสวนใต้ดินนี้
แต่เทียนจางไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในอัตชีวประวัติของเขาเลย"
"ค้นหาให้ละเอียด ด้วยเนตรแห่งความมืด
ข้าจะออกไปทำงานของข้าต่อ" เฟิงไทจีกล่าว
เฟิงไทจีโบกมือก่อนเดินเข้าไปในสวนพร้อมด้วยเจ้าทึ่มบลูสตาร์
และเก็บสะสมพืชที่หาได้ยากต่อ มีเพียงแค่บลูสตาร์ที่ตามไป
ในขณะที่จิ้งจอกเงินและไข่ดำไม่ได้ขยับตามไป
"เนตรแห่งความมืด เปิด!"
ฮั่นหลางมองอย่างไปรอบ ๆ สวนใต้ดินนี้
โชคร้ายที่การใช้วิสัยทัศน์พิเศษของเขานั้นเหมาะสำหรับการมองหาศัตรูซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต
แต่การมองหาหนังสือนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ฮั่นหลางไม่ได้ค้นพบอะไร
นอกจากเก้าอี้หินของเทียนจางที่ตั้งอยู่ตรงกลางลานมันดูมีความพิเศษมาก
เนตรแห่งความมืดไม่สามารถมองผ่านโครงสร้างภายในได้เลย
ฮั่นหลางมองอย่างใกล้ชิดด้วยความอยากรู้ เทียนจางเป็นยักษ์ ดังนั้นเก้าอี้ของเขาจึงสูงและกว้างผิดปกติ
โดยมีความสูงถึง 6.5 เมตร ฮั่นหลางคาดการณ์ว่าถ้าเทียนจางยืนตรง
เทียนจางก็อาจสูงราว ๆ 10 เมตรน้ำหนักก็อาจมากกว่า 1.5 ตัน นับได้ว่าเขามีร่างขนาดใหญ่แม้จะอยู่ท่ามกลางพวกยักษ์ด้วยกัน
ไข่ดำและจิ้งจอกเงินไม่ได้พยายามที่จะบรรเทาความสงสัยของฮั่นหลาง ในตอนนี้พวกมันเริ่มที่จะต่อสู้กันบนเก้าอี้หินนั้น
แน่นอนพวกมันไม่ได้ต่อสู้กันจริง ๆ
มันดูเหมือนเป็นการหยอกล้อกันเสียมากกว่า
นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งล่าสุด ไข่ดำก็กลายเป็นเพื่อนสนิทและมักจะล้อเล่นกับจิ้งจอกเงิน
ฮั่นหลางเคยชินกับมันแล้ว
ทันใดนั้น ...
ด้วยเสียงลมกระโชกแรงพัดผ่านหูของฮั่นหลาง
เจ้าตัวเล็กทั้งสองหายตัวไปจากเก้าอี้หินตรงหน้าเขา!
ราวกับว่าพวกมันโดนกับดักหรืออะไรบางอย่างและหายตัวไป!
ฮั่นหลางตกใจและกระโดดขึ้นนั่งบนเก้าอี้เพื่อหาร่องรอยการเชื่อมต่อทั้งหมด
อย่างถี่ถ้วนแต่กลับไม่พบกับดักใด ๆ
"แปลกมาก พวกมันทั้งสองหายไป?"
ขณะที่เขาคิด เขากำลังนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้
เมื่อก้นของเขาสัมผัสหินสีฟ้าเย็น
ฟู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น