เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 350 การคาดเดาเกี่ยวกับไข่ดำ

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/




"เธอบอกว่า เป็นการดีกว่า ถ้าเจ้าจะไม่ทำให้ไข่ดำโกรธ เพราะเจ้าไม่สามารถรับผลที่จะตามมาได้" ลั่วอิ๋งลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็กระซิบบอกกับฮั่นหลาง

ฮั่นหลางรู้สึกงงและถามว่า "ทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น เจ้าตัวเล็กนี้มีความลับอะไรที่ข้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ?"

ตัวเล็ก?!

พรึบ ~

ไข่ดำหันขวับไปมองฮั่นหลางเมื่อได้ยินคำพูดของเขา

บูม ~

ตามที่คาดการณ์ไว้ ฮั่นหลางและไข่ดำเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง ในสายตาของคนอื่น ๆ ฮั่นหลางและไข่ดำนั้นเกิดมาเป็นคู่ปรับกันอย่างแท้จริง มันยากที่จะหาวันที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้ การต่อสู้ได้กลายเป็นวิถีชีวิตของพวกเขาไปแล้ว

ไข่ดำเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ร่างกายของมันเล็กและยังสามารถบินได้ เพื่อจัดการกับเจ้าตัวน้อยตัวนี้ ฮั่นหลางต้องทำการศึกษาเทคนิคแปลก ๆ มากมาย เช่นแกล้งทำร้ายมันด้วยแขน หากแต่กลับใช้ขาของเขาล็อกหัวไข่ดำ หรือแม้กระทั่งฮั่นหลางแสร้งทำเป็นว่าเขาถูกโจมตีโดยไข่ดำจนล้มลงไปกับพื้น หากแต่เขากลับกวาดขาออกไปเพื่อโจมตีไข่ดำกลับ

ฮั่นหลางไม่เคยใช้ความพยายามมากเช่นนี้ในการต่อสู้กับมนุษย์คนอื่น ๆ

ในช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ ไม่เพียงแค่ทักษะการต่อสู้ของฮั่นหลางที่พัฒนาขึ้น การต่อสู้ระหว่างเขาและไข่ดำกลายเป็นงานอดิเรก การต่อสู้กับไข่ดำเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก และฮั่นหลางต้องทำการตอบสนองที่ฉับไวและรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นาน ฮั่นหลางก็ลุกขึ้นอีกครั้ง เขาแพ้อีกครั้ง แต่หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ฮั่นหลางรู้สึกตื่นตัวขึ้น

การต่อสู้กับไข่ดำแตกต่างจากการต่อสู้กับศัตรูอื่น ๆ กับไข่ดำฮั่นหลาง สามารถใช้ทุกอย่างที่เขามีเพื่อทำการต่อสู้และไม่ใส่ใจกับผลที่ตามมา ในขณะที่เมื่อต่อสู้กับศัตรูอื่น ๆ ฮั่นหลางไม่สามารถทำผิดพลาดได้ เพราะนั่นอาจนำไปสู่ความตายได้ ฮั่นหลางมีความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในระหว่างการต่อสู้ทั้งสองครั้งที่ผ่านมา

"ดี เจ้าชนะ.. ได้ใจข้าจริง ๆ! ครั้งต่อไปข้าจะหาวิธีการโจมตีที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อเอาชนะเจ้า!" ฮั่นหลางชูกำปั้นเพื่อขู่ไข่ดำออกไป

ไข่ดำที่ได้รับชัยชนะนั้นอยู่ในอารมณ์ที่ดี มันทอดตัวนอนบนคอของลั่วอิ๋ง ด้วยท่าทีที่ภาคภูมิใจ

ทุกคนต่างส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ ฮั่นหลางและไข่ดำต่อสู้ทุกวัน แต่สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือแต่ละฝ่ายไม่ได้รู้สึกเสียใจจากการที่พวกเขาต้องต่อสู้กัน ในความเป็นจริงความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะดีขึ้นกับจากการต่อสู้ในแต่ละครั้ง

"เรากลับกันเถอะ เอาเทพอาชูร่านี้ไปให้ 9527 ดูบางทีเขาอาจจะรู้ว่ามันคืออะไร" ฮั่นหลางพูดกับคนอื่น ๆ

สถานีอวกาศของ 9527

ลั่วอิ๋งอยู่ในห้องของเธอและนั่งอยู่บนโซฟา เธอกุมศีรษะด้วยมือทั้งสองและกำลังพูดคุยกับผู้พิทักษ์แบนชี

"เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่มีข้อผิดพลาด? ไข่ดำและฮั่นหลางมีความสัมพันธ์ที่ดี เช่นนี้ทำไมมันถึงต้องทำร้ายฮั่นหลาง? เจ้าก็เห็นวันนี้ด้วยเช่นกัน ฮั่นหลางและไข่ดำต่อสู้กัน แต่ก็ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเลย" ลั่วอิ๋งกล่าวออกมา

ยมทูตแบนชีส่ายหน้าและมีสีหน้าเป็นห่วง "ถ้าความกังวลของข้ากลายเป็นจริง ฮั่นหลางจะตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก"

"เจ้ากำลังพูดถึงลูกหลานของมังกรหรือไม่? มันเป็นไปได้หรือ? ข้ารู้ว่าเผ่าพันธุ์มังกรเป็นตำนานราชาของสัตว์ป่าและมันสามารถใช้ประโยชน์จากกฎพื้นที่แห่งความมืดเพื่อครอบครองจักรวาลทั้งหมด พวกมันเป็นผู้ครอบครองจักรวาลโบราณ แต่เผ่าพันธุ์มังกรได้สูญหายไปเป็นเวลานานแล้ว"

"พวกมันไม่ได้สูญพันธุ์ หากแต่หายตัวไป"

"ข้าได้เห็นดวงตาของไข่ดำ และรอยยิ้มที่เหี้ยมโหดเมื่อมันกลืนตาสวรรค์ ซึ่งมีพลังงานจำนวนมหาศาล ด้วยตาของข้าเอง"

"ข้าสงสัยว่า ไข่ดำไม่ใช่สัตว์จิตวิญญาณหากแต่เป็นลูกหลานของมังกร..ในตอนนี้มันยังไม่ได้รับพลังอำนาจพอที่จะท้าทายจักรวาล ดังนั้นมันจึงอยู่ข้าง ๆ ฮั่นหลาง แต่เมื่อมันเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของมัน ด้วยธรรมชาติที่ชั่วร้ายของมังกร มันจะไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อฮั่นหลาง แต่มันจะเป็นภัยคุกคามมหาศาลต่อจักรวาลทั้งหมด"

"ข้าไม่เชื่อเจ้า" ลั่วอิ๋งเถียงหัวชนฝาออกมา "ที่สัตว์จิตวิญญาณทั้งหมดกลัวไข่ดำ นั่นเป็นเพราะพวกมันอยู่ในสายพันธุ์เดียวกัน"

"นั่นไม่ใช่ความจริงอย่างแท้จริง ถ้าไข่ดำเป็นลูกหลานของมังกร สัตว์จิตวิญญาณก็จะกลัวมันเช่นกัน"

"แต่ไข่ดำสามารถใช้ทักษะจิตพิฆาตวิญญาณซึ่งเป็นลักษณะการโจมตีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสัตว์จิตวิญญาณ"

อย่าลืมว่าเผ่าพันธุ์มังกรในตำนานก็สามารถใช้ลมหายใจมังกรได้ บางทีการโจมตีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไข่ดำนั้นไม่ใช่จิตพิฆาตวิญญาณ พวกเราไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างลมหายใจมังกรกับจิตพิฆาตวิญญาณได้"

"แม้ว่าไข่ดำจะเป็นลูกหลานของมังกร แต่ฮั่นหลางก็อาจจะไม่ขัดแย้งกับ ไข่ดำ พวกเขาอาจกลายเป็นเพื่อนที่ดี ฮั่นหลางมีเพื่อนมากมายและเขาก็ปฏิบัติต่อพวกมันนอย่างดี"

ยมทูตแบนชีถอนหายใจออกมาและมองลั่วอิ๋งอย่างท้อใจว่า "อิ๋งน้อย เจ้าเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาเกินไป แม้ว่าข้าจะไม่สามารถระบุได้ว่าไข่ดำสืบเชื้อสายมาจากมังกรหรือไม่ เจ้าไม่ได้เห็นหรือว่าไข่ดำเกิดมาพร้อมกับความภาคภูมิใจ?"

"ฮั่นหลางอาจถูกมองว่าเป็นเจ้านายของไข่ดำ แล้วไง? พวกเขาก็ยังต่อสู้กันทุกวันอยู่เจ้าก็เห็นไม่ใช่หรือ?"

"และเจ้าต้องรู้ว่า แม้ฮั่นหลางจะเป็นคนง่าย ๆ แต่เขาก็เต็มไปด้วยความดื้อรั้น ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เรารู้จักเขา เราเห็นเขาปฏิเสธที่จะยอมถอยหลังกลับเพื่อหลีกหนีจากความตายมากกว่าหนึ่งครั้ง นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ดื้นรั้น..ถ้าวันหนึ่งเกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างแท้จริงระหว่างไข่ดำที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจกับฮั่นหลางที่ดื้อรั้น แน่นอนว่ามันย่อมเป็นการต่อสู้กับความตายของฮั่นหลาง"

ลั่วอิ๋งไม่พูดคำใดออกมา ฮั่นหลางเป็นคนพิเศษจริงๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มและตลกหากแต่ดื้อรั้นมาก ในทางตรงกันข้ามไข่ดำมีพลังอย่างมหาศาล ถ้าทั้งสองโกรธกันและทำการต่อสู้มันก็จะเป็นอะไรที่แย่มาก ๆ

"ไข่ดำมีพลังมากจริง ๆ ตอนนี้ไข่ดำเป็นเช่นไพ่แห่งความกล้าหาญที่ฮั่นหลางมี แต่ปัญหาก็คือมันจะเป็นไพ่ให้ฮั่นหลางไปอีกนานแค่ไหน?"

.....

ด้านหลังของจักรวาลหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ดาร์คเน็ต

ที่นี่ เป็นที่ที่เวลามาบรรจบกับพื้นที่ มันมีอุโมงค์ขนาดใหญ่มากมายนับไม่ถ้วนโดยไม่มีที่สิ้นสุด มันที่สามารถเดินผ่านไปยังปลายทางที่ไม่รู้จักที่นับไม่ถ้วน

โลก ดาวเคราะห์สีฟ้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความงดงาม

โลกปัจจุบันไม่ได้ไร้คนอาศัย ตรงกันข้ามผู้สูงอายุและผู้หญิงนับล้านคนไม่ยอมออกจากโลกใบนี้ ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรพบุรุษ

จีน ตอนเหนือของเทือกเขา ชานเปิ่ย

ที่ชายขอบของดินแดนสีเหลือง ชาวนาสูงอายุคนหนึ่งนั่งอยู่บนสันเขาของพื้นที่เพาะปลูกด้วยความงุนงง เขามองดูท้องฟ้าแปลก ๆ และคิดว่าจะทำอย่างไรในอนาคต

คนชรามักจะดื้อรั้น เด็กทุกคนรู้ดีว่าตั้งแต่มีการพัฒนาอาหารสังเคราะห์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำการเกษตร แม้ผักจะสามารถปลูกในพื้นที่ที่มีการสังเคราะห์ด้วยแสงอัตโนมัติได้ แต่ชายชราคนนี้ก็ไม่อาจลืมแผ่นดินที่แห้งแล้งของหมู่บ้าน เขารู้สึกว่าธัญพืชสังเคราะห์ไม่ได้มีความหอมเหมือนธัญพืชที่เขาปลูกมันด้วยมือของตัวเอง

แต่ตอนนี้ทั้งโลกมีการเปลี่ยนแปลง เขาถูกย้ายไปอยู่ที่อื่นพร้อมกับโลก ดวงอาทิตย์ยังคงมีอยู่ แต่มันไม่ได้ให้แสงสว่างอีกแล้ว โลกอยู่ในความมืดเสมอ และท้องฟ้ายามค่ำคืน อันไกลโพ้นไม่มีดวงดาวที่ส่งแสงระยิบระยับอีกต่อไป ดาวเคราะห์น้อยเพียงไม่กี่ดวงเช่นดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดียังคงติดตามโลกอยู่ พวกมันต่างอยู่เงียบ ๆ ในโลกมืดและดูเหมือนจะเงียบเหงา

ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่บนโลกก็เหงา บางคนรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจที่จะไม่ติดตามลูกหลานของพวกเขาไปที่กาแลคซีม้าคู่ คนชราไม่เต็มใจที่จะจากโลก คนหนุ่มสาวก็ไม่ได้ต้องการที่จะจากโลกไปเช่นกัน

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ในโลกติดตามกองทัพและอพยพออกไป นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถปฏิเสธกองทัพทหารได้ ทุกคนรู้ดีว่าปีนี้เป็นช่วงที่ยากที่สุดสำหรับทหารในกองทัพ เหล่านักรบและทหารจำนวนมากที่มีพลังพิเศษในโลกเท่านั้นที่จะสามารถทำศึกสงคราม และพวกเขาต้องหลั่งเลือดออกมาด้วยความเสียสละ คนส่วนใหญ่สามารถมีชีวิตได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขก็เพราะพวกเขา เหล่าทหารและนักรบ...

คนไม่สามารถลืมถิ่นฐานต้นกำเนิดของเขาได้ แต่เมื่อกองทัพมาถึงหมู่บ้านและขอร้องให้พวกเขาออกไป ทหารมีน้ำตาและตบใบหน้าของตัวเอง พวกเขาอ้างว่าพวกเขาไร้ความสามารถและไม่มีทางที่จะปกป้องทุกคน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการพาทุกคนหนีออกไปเพื่อปลอดภัย

เมื่อเผชิญหน้ากับฉากดังกล่าวใครจะมีหัวใจที่จะบอกว่าไม่? อย่างไรก็ตามชีวิตของคนนับ 150 พันล้านคนบนแผ่นดินโลกได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพบก

ชายชรานั่งข้างนอกไม่กี่ชั่วโมง หลังจากสูบบุหรี่ไปเกือบครึ่งห่อ เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่บ้านของเขา มนุษย์ต้องการกินเพื่ออยู่ แต่มันค่อนข้างน่าเบื่อเมื่อต้องกินเพียงลำพัง ดังนั้นชายชรามักจะกินอาหารจำพวก เบคอนและผักดองไม่กี่คำ เมื่อเขากระหายน้ำเขาจะดื่มน้ำจากเครื่องอัตโนมัติซึ่งกรองมาจากโมเลกุลของน้ำ

ทุกคนในหมู่บ้านได้ออกไปหมดแล้ว มีเพียงชายชราและสุนัขที่ชื่อว่า เจ้าเหลืองเท่านั้นที่ยังอยู่เป็นเพื่อน ในสมัยก่อนเจ้าเหลืองชอบอาบแดด แต่ตอนนี้ดวงอาทิตย์ไม่ส่องแสงอีกแล้ว และเจ้าเหลืองก็หดหู่มากขึ้น มันจะอยู่ในบ้านตลอดทั้งวันโดยไม่ขยับ และปฏิเสธที่จะกิน มันอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน

เมื่อเขาผลักประตูเข้าไปในลานบ้าน ชายชราก็ชะงักอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าเหลืองที่ชอบนอนอยู่บนพื้นดิน ในตอนนี้มันดูมีอายุน้อยกว่าเดิมไปหลายปี มันหมอบอยู่ด้านข้างของชายหนุ่มคนหนึ่ง ในขณะที่มันกระดิกหางของมัน ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าแปลก ๆ มันคล้ายกับเกราะที่ทหารในกองทัพสวมใส่ แต่กองทัพโลกสวมเกราะอ่อน ชายหนุ่มคนนี้สวมเกราะหนักในช่วงด้านบนของร่างกาย มันดูเหมือนชุดเกราะมาตรฐานที่ใช้ในโรงละครโอเปร่า

ชายหนุ่มคุกเขาข้างหนึ่งบนพื้น ตบเจ้าเหลืองเบาๆ เมื่อเขาเห็นว่าชายชรากลับมาบ้านเขายิ้มและลุกขึ้นยืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น