แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
เทพอาชูร่าพันมือส่งเสียงร้องออกมา บางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
โอ้ววว ~
เทพอาชูร่าพันมือที่ทำมาจากโลหะขนาดใหญ่ที่มีความสูงนับร้อยเมตร
ทรุดตัวลงบนพื้น ขาทั้งสี่ไขว้กัน แขนนับไม่ถ้วนหดเข้าไปในร่างกายของมัน
เหลือเพียงเก้าแขน และร่างกายที่เป็นดอกบัวที่เต็มไปด้วยแผล ก่อนที่มันจะหยุดนิ่ง
คลืนน ~
เสียงดังกึกก้อง และแสงสีทองเปล่งประกายออกมา ร่างยักษ์ของเทพอาชูร่าพันมือ
หดลง ในตอนนี้มันเป็นเพียงรูปปั้นขนาดฝ่ามือ ที่สูงไม่เกินข้อเท้าของฮั่นหลาง
การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ
พวกเขาทั้งหมดคิดว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะโกรธเมื่อไข่ดำควักตาออก และจะก่อให้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรง
แต่ปรากฎว่าเทพอาชูร่าพันมือกลับหยุดทำงานและหดตัวลง!
ฮั่นหลางหยิบรูปปั้นงานประติมากรรมสีทองขึ้นมา เขาไม่ได้เป็นผู้ชนะจากการต่อสู้กับอาวุธมนุษย์
แต่เขากลับได้รับสิ่งนี้!
"สิ่งนี้..." ฮั่นหลางส่ายหัวและพูดออกมาด้วยความไม่แน่ใจ
ในทางกลับกัน ไข่ดำก็วิ่งหนีไปในขณะที่มือของมันถือตาที่สามของเทพอาชูร่าพันมือ
ด้วยเหตุผลบางประการไข่ดำไม่ต้องการกินอาหารนี้ต่อหน้าฮั่นหลาง
"ข้าจะไปเอง พวกเจ้าปกป้อง ลั่วอิ๋ง!" ผู้พิทักษ์ของลั่วอิ๋ง
ตะโกนบอกในขณะที่วิ่งตามไข่ดำออกไป ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มีพลังใกล้เคียงกับจิตวิญญาณ
เธอเป็นคนเดียวที่มีความเร็วที่สามารถไปได้ทันไข่ดำ
คนอื่นแม้แต่ดาวพลูโตก็ไม่สามารถเทียบความเร็วกับไข่ดำได้
"ดูเหมือนว่านี่จะเป็นรูปแบบเดิมของเทพอาชูร่าพันมือ
ไม่รู้มาก่อนว่ามันจะมีขนาดเล็กขนาดนี้"
เจียนเจียกล่าวว่า "รูปปั้นประติมากรรมชิ้นนี้น่าทึ่งมาก
ถ้าได้รับพลังเพียงพอ มันก็จะสามารถเปิดใช้งานได้ ราวกับว่ามันถูกควบคุมโดยศูนย์แบ่งจ่ายพลังงาน
ในระหว่างการต่อสู้ ความยืดหยุ่นของมันก็ใกล้เคียงกับนักรบที่มีชีวิตจริง ๆ
ไม่มีอะไรเหมือนเช่นโลหะผสม"
“อย่าลืมว่า เราโชคดีตอนที่จัดการมัน
และไข่ดำก็ตั้งใจที่จะควักดวงตาของเทพอาชูร่าพันมือ..ทำให้มันไม่สามารถที่จะใช้พลังเพื่อทำการต่อสู้ได้อย่างเต็มที่"
“ดูสิ หน้าผากของรูปปั้นเทพอาชูร่าพันมือที่ว่างเปล่า มันมีร่องรอยบางอย่าง
ซึ่งหมายความว่าอาวุธมนุษย์นี้เคยมีตาที่สามมาแล้วในอดีต..มีความเป็นไปได้สูงมากที่เทพอาชูร่าพันมือกับตาที่สามเป็นรูปแบบอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด"
“แม้ว่าสาวกมืดหมายเลขศูนย์
จะเปลี่ยนชีวิตและดวงตาที่สามของเขาให้เป็นเทพอาชูร่าพันมือ
ดวงตาของสาวกมืดหมายเลขศูนย์ก็ไม่ใช่ดวงตาดั้งเดิม เหตุผลก็ง่าย ๆ เช่นเดียวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
แขนที่เสียหาย สามารถจัดหามาใหม่ได้ แต่นักรบก็ไม่ต้องการแขนใหม่
เนื่องจากแขนสังเคราะห์ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่าของเดิม หรืออาจกลายเป็นภาระได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมมีนักรบแขนเดียวเป็นจำนวนมาก"
พลูโตพยักหน้าและกล่าวว่า "ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เจียนเจียพูดมา
เราโชคดีมากในครั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเทพอาชูร่าพันมือที่ไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา
หากตัดสินจากแหล่งพลังงานที่ผันผวนในร่างกายของมัน รูปปั้นประติมากรรมนี้
มีศักยภาพในการต่อสู้ที่เยี่ยมยอด"
"มันทำให้ข้านึกถึงสิ่งที่สาวกมืดหมายเลขศูนย์ กล่าวไว้ในก่อนหน้านี้ว่า
ราชาเผ่าพันธุ์สามตาเป็นคนแรกที่ค้นพบรูปปั้นประติมากรรมนี้
เทพอาชูร่าพันมือมีดวงตาสามดวงเช่นเดียวกับราชาเผ่าพันธุ์สามตา
นี่ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ..เห็นได้ชัดว่าโลหะที่เป็นรูปแบบที่น่าอัศจรรย์ เช่นเทพอาชูร่าพันมือนี้ไม่ใช่สิ่งที่เทคโนโลยีกาแลคซีสามารถสร้างได้
ดังนั้นนักประดิษฐ์นี้ต้องมาจากที่อื่น"
ฮั่นหลางพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "ข้าเข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูด
แต่ข้าคิดถึงอะไรบางอย่าง..เผ่าพันธุ์สามตานั้นมีจุดเด่นในเรื่องตาที่สาม ในขณะที่การหาคนที่มีตาที่สามในเผ่าพันธุ์นี้เป็นเรื่องยาก
จนถึงวันนี้สมาชิกเผ่าพันธุ์สามตานับร้อยล้านคนได้เสียชีวิต แต่ข้าได้เห็นเพียง 4
คนที่มีตาที่สามจากเผ่าพันธุ์นี้
นอกจากสาวกมืดหมายเลขศูนย์ที่เป็นร่างโคลนนิ่ง"
"ลีซ่า ไรลีย์ และเซอร์บารัสอาเธอร์ อาศัยอยู่ในกองเรือของเผ่าพันธุ์สามตา
เป็นเวลา 3 ปีโดยบังเอิญ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นทหารที่มีตาสวรรค์
ซึ่งหมายความว่าเปอร์เซ็นต์ของการมีตาสวรรค์คือหนึ่งในหลายร้อยล้านหรือแม้แต่หนึ่งในล้านล้าน"
"ก่อนหน้านี้ข้าได้ศึกษาพันธุศาสตร์ทางพันธุกรรมแล้วถ้าตาสวรรค์เป็นคุณลักษณะทางชีววิทยาของเผ่าพันธุ์สามตา
อัตราพันธุกรรมที่ต่ำเช่นนี้ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือว่าเป็นจริง"
"เมื่อมองไปที่รูปปั้นประติมากรรมเทพอาชูร่าพันมือ
เทพอาชูร่าพันมือนี้มีตาที่สาม
แต่มันกลับว่างเปล่าในตำแหน่งของตาที่สาม..เป็นไปได้หรือไม่ที่เผ่าพันธุ์สามตาได้รับตาสวรรค์จากรูปปั้นประติมากรรมชิ้นนี้? เนื่องจากเป็นพลังทางพันธุกรรมจากอวกาศ
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เผ่าพันธุ์สามตามีจำนวนคนที่มีตาสวรรค์น้อยมาก"
ดาวพลูโตลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็พูดออกมาด้วยเสียงต่ำ ๆ ว่า
"ช่างเป็นข้อสันนิษฐานที่อาจหาญมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
เพราะมันก็ไม่มีใครรู้ขั้นตอนวิวัฒนาการการกลายพันธุ์จากเผ่าพันธุ์มนุษย์มาเป็นเผ่าพันธุ์สามตา
มีเพียงแค่การกล่าวกันว่าเป็นการกลายพันธุ์ของยีน แล้วมันเป็นอย่างไร หากไม่ใช่แล้วมันจะเป็นอย่างไร? หลายปีที่ผ่านมา
ก็ยังไม่มีใครสามารถหาเหตุผลที่ชัดเจนรองรับได้"
"ในแง่นี้เราโชคดีมาก ถ้าหากเทพอาชูร่าพันมือ
มีสภาพสมบูรณ์และมีตาที่สามดั้งเดิมของมัน
เราอาจจะไม่สามารถเอาชนะโลหะลึกลับนี้ได้"
ฮั่นหลางยักไหล่และยิ้มว่า "ความฝันในวัยเด็กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือการมองมาที่โลกจากท้องฟ้าที่อยู่เหนือโลก
ข้าพอใจถ้าข้ามีเรือโทรมเก่า ๆ ขนาดเล็ก ๆ ซักลำ"
"ดูสิตอนนี้มันซับซ้อนมากขึ้น สิ่งมีชีวิตอัจฉริยะ สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง
ถ้าเทพอาชูร่าพันมือมีมากมายในสถานที่ที่ไม่รู้จักบางแห่งในจักรวาล
สัตว์ประหลาดโลหะที่มีตาที่สามจำนวนมากเหล่านี้ ย่อมเป็นเรื่องที่เลวร้าย"
"ข้าไม่เคยเห็นราชาเผ่าพันธุ์สามตา แต่ตาแห่งการกลับมาเกิดใหม่ ที่สามารถโคลนนิ่งร่างของเขาเช่น
สาวกมืดหมายเลขศูนย์ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ..มันสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตอื่นได้หรือไม่? มันสามารถดูดซับพลังชีวิตของคนอื่นเมื่อมันต้องการ
และยังมีพลังพิเศษ พลังสูญสิ้นของข้าที่ไม่สามารถเอาชนะ
ตาแห่งการกลับมาเกิดใหม่ได้"
"สมมติว่าในวันหนึ่ง ข้าต้องผจญภัยที่นอกจักรวาล
และมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เป็นโลหะประหลาด และพวกมันทุกคนมีตาแห่งการกลับชาติมาเกิด..ข้าก็คงไม่จำเป็นต้องทำการต่อสู้
ตาแห่งการกลับมาเกิดใหม่คงทำให้ข้าตายได้อย่างง่ายดาย"
ลั่วอิ๋งเอียงศีรษะ ก่อนพูดออกมาว่า "ถ้ามันเป็นเช่นนั้น
จักรวาลนี้ก็น่ากลัว มันคงไม่งดงามเช่นที่ผ่านมา
ข้าเลยคิดว่าตาแห่งการกลับมาเกิดใหม่นี้จะต้องมีเงื่อนไข... มิฉะนั้นทำไมสาวกมืด
หมายเลขศูนย์ถึงไม่ฆ่าเราในทันที? ดูดพลังของเราเข้าไปในตัวเขาและเขาก็สามารถเอาชนะพวกเราได้ ทำไมเขาถึงต้องพยายามเกิดใหม่ในรูปปั้นทองคำนี้?"
ตาของฮั่นหลางเบิกกว้างขึ้นและตบบนหัวของลั่วอิ๋งเบา ๆ และพูดว่า "เจ้าเป็นสาวน้อยที่เฉลียวฉลาด..ถ้าเขาสามารถฆ่าเราได้
แล้วทำไมสาวกมืดหมายเลขศูนย์ต้องทำลายตนเอง บางทีมันอาจจะเป็นเหมือนเช่นที่เจ้าพูด"
ฮิฮิ
ลั่วอิ๋งหัวเราะคิกคักด้วยรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ เจียนเจียส่งเสียงฮึมฮัมออกมา
เด็กสาวประหลาดคนนี้ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับฮั่นหลางและทำให้เจียนเจียรู้สึกอิจฉา
ทันใดนั้น ~
ลั่วอิ๋งส่งเสียงหวาดกลัวออกมา เธอรีบปิดปากของเธอพร้อมด้วยสีหน้าที่ตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"
ฮั่นหลางถามออกไปด้วยความอยากรู้
ลั่วอิ๋งไม่ตอบและมองตรงไปยังระยะไกล ไข่ดำบินกลับมาพร้อมกับแววตาที่เปล่งประกายของความสุขออกมา
ผู้พิทักษ์ของลั่วอิ๋งตามหลังมา เมื่อมองไปที่สีหน้าที่ซีดของเธอ มันดูราวกับว่าเธอได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรมองเห็น
ในมือของไข่ดำ ตาที่สามของเทพอาชูร่าพันมือหายไปแล้ว มันอาจถูกซ่อนหรือถูกมันกินไปแล้ว
มีความเป็นไปได้ไหมที่ลั่วอิ๋งร้องออกมาเพราะเรื่องนี้และผู้พิทักษ์ยมทูตแบนชีได้มองเห็นไข่ดำกลืนนัยน์ตานั้น?
ฮั่นหลางมองไปที่ไข่ดำอย่างระมัดระวังอีกครั้ง เกล็ดสีดำบาง ๆ ที่ห่อหุ้มร่างอ้วน
พุงไขมันของมันและปีกนกสั้น ๆ สองข้างของมันเปล่งแสงระยิบระยับ มันมีหัวขนาดใหญ่และคอที่ดูล่ำ
แถวของฟันเล็ก ๆ ในปากของมันและคู่ของดวงตาสีทองขนาดใหญ่ที่เปล่งประกายแวววาว
ไม่มีอะไรผิดปกติ
"เจ้าเห็นอะไร?" ฮั่นหลางถามผู้พิทักษ์ยมทูตแบนชี
ผู้พิทักษ์ยมทูตแบนชีที่มีผมยาวตรงสีดำเลยบ่า เธอไม่ตอบฮั่นหลางหากแต่กระซิบข้าง
ๆ หูของลั่วอิ๋ง ลั่วอิ๋งลูบแขนด้วยมือทั้งสองข้างราวกับว่าตัวสั่นจากความหนาวเย็น
"เธอกล่าวว่า เป็นการดีกว่าถ้าเจ้าจะไม่ทำให้ไข่ดำโกรธ เพราะเจ้าจะไม่สามารถรับผลที่ตามมาได้"
ลั่วอิ๋งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และกระซิบบอกฮั่นหลาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น