เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 312 อำลา

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/



ฮั่นหลางมีความต้องการที่จะบีบบังคับให้ลู่เอียวตายด้วยกำปั้นของเขา

ในเวลาเดียวกัน ลั่วจินกำหมัดไว้แน่นเช่นกัน ใบหน้าของเธอซีดจางลง เธอเรียกความกล้าหาญทั้งหมดของเธอและพูดกับลู่เอียว ด้วยเสียงที่สั่นสะเทือน "ข้าจะจากไป แต่ข้าต้องการคำตอบจากเจ้า เจ้ารักข้าหรือไม่?"

ฮั่นหลางเห็นอาการลังเลของลู่เอียว เขาหันหลังให้กับลั่วจินด้วยความเจ็บปวด เขาไม่กล้าที่จะสบตาเธอที่แสนอบอุ่นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง ร่างกายของเขายังคงสั่นไหวด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้นอยู่ภายใน

"ถ้าข้าตอบคำถามนี้แล้ว เจ้ายินดีที่จะจากไปและไม่กลับมาอีกใช่หรือไม่?" ลู่เอียวถามออกไปด้วยเสียงแหบพร่า

"ใช่" ลั่วจินพยักหน้าเบา ๆ

"ดี ข้าจะบอกเจ้า" เสียงของลู่เอียวเริ่มสั่น "ข้า..."

ลู่เอียวตะกุกตะกักคำว่า "ข้า" เขาไม่สามารถพูดคำต่อจากนั้นออกมาได้  บางทีเขาอาจไม่มีคำตอบ หรือบางทีเขาอาจไม่ต้องการจะตอบคำถามนั้นจริง ๆ

ฮั่นหลางกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาเกือบจะหายใจไม่ออก จนเกือบตายจากคำพูดที่ติดอ่างของลู่เอียว

"ผู้หญิงคนนี้เดินทางไกลพร้อมกับเสี่ยงชีวิตเพื่อเจ้า เธอไม่ต้องการอะไร เพียงแค่ประโยคจากเจ้า พูดมันออกมาสิ รออะไรอยู่!" ฮั่นหลางตะโกนออกไปภายใต้สมองของเขา

ในที่สุดลู่เอียวก็ถอนหายใจออกมาและพร้อมที่จะตอบคำถาม

แต่ทันใดนั้นบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว!

ลั่วจินตะโกนออกไปในทันที "ลู่เอียวระวัง!"

ทันทีหลังจากนั้นฮั่นหลางรู้สึกถึงพลังผลักดันตัวเองออกมาจากโลกฝ่ายจิตวิญญาณ และสิ่งที่เขาเห็นทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด

นักรบหน้ากากสิงโต ปกปิดตัวเองโดยใช้โหมดการลักลอบ ในตอนนี้เขาปรากฏตัวห่างจากฮั่นหลางเพียงไม่กี่เมตร

ความจริงแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะปรากฏตัวออกมา หากแต่ถูกบังคับให้แสดงตัวเองด้วยรังสีแสงที่เปล่งออกมาจากร่างกายของลั่วจิน

เห็นได้ชัดว่าลั่วจิน มีพลังอำนาจบางอย่างที่ฮั่นหลางไม่รู้จัก ซึ่งสามารถปกป้องเธอจากอันตรายร้ายแรง ป้องกันไม่ให้ใครบางคนลอบเข้ามาหาเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว

"คนทรยศ ตายซะเถอะ!" นักรบหน้ากากสิงโตตะโกนออกมา

นักรบหน้ากากสิงโตที่เป็นขุนศึกระดับแปดดาวปรากฏออกมาก่อนจะพุ่งเข้าหาฮั่นหลางที่อยู่ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ชิ้ง ~

ในระหว่างการเคลื่อนไหวนั้น มือตะขอทั้งสองของนักรบหน้ากากสิงโตส่องแสงแวววาวออกมา

นักรบหน้ากากสิงโตทำการเปลี่ยนสองมือของเขาเป็นตะขอเหล็กขนาดใหญ่ 2 อัน

"เส้นทางซาตาน!"

ฮั่นหลางยังคงทำการตอบโต้กลับ เขาเป็นคนที่ไม่ได้เรียนรู้เทคนิคการป้องกันใด ๆ ฮั่นหลางมักจะต่อสู้กลับเมื่อศัตรูบุกเข้ามา!

โชคร้ายที่แม้ว่าฮั่นหลางมีความกล้าหาญมาก แต่ช่องว่างในระดับระหว่างคนทั้งสองนั้นมากเกินไป ปฏิกิริยาของเขาช้าเกินไป เขามีเวลาไม่มากพอที่จะเปิดใช้งานการโจมตีของปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนที่ฮั่นหลางจะสามารถเปิดใช้เส้นทางซาตานได้อย่างสมบูรณ์ นักรบหน้ากากสิงโตก็อยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งเมตรจากฮั่นหลาง

สถานการณ์นี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งและถ้าไม่มีอุบัติเหตุ การจู่โจมนี้จะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสหรือแม้แต่ถึงตาย จากการแลกเปลี่ยนอาวุธกัน มันย่อมมีคนที่เสียเปรียบ

ในเวลานั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ตรงหน้าฮั่นหลาง และปิดกั้นการโจมตีของนักรบหน้ากากสิงโตด้วยร่างกายของตัวเอง

มันเป็นลั่วจิน แน่นอนว่าเธอไม่ได้พยายามที่จะปกป้องฮั่นหลาง แต่เธอพยายามที่จะปกป้องลูเอียว คนที่เธอรัก

เป็นที่รู้กันดีว่า นักรบหน้ากากสิงโตนั้นต้องการลู่เอียว คนทรยศขององค์กรเหล่าปีศาจ และก็ไม่ใช่ชีวิตเล็ก ๆ อย่างฮั่นหลาง

ชิ้ง ~

มันเกิดขึ้นในทันที ตะขอเหล็กยักษ์ทั้งสองพุ่งทะลุผ่านหน้าอกของลั่วจิน และเลือดอุ่นสาดใส่ใบหน้าของฮั่นหลาง

ฮั่นหลางตกตะลึง ผู้หญิงกล้าหาญคนนี้ใช้ชีวิตของเธอเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก

ในช่วงจังหวะก่อนที่นักรบหน้ากากสิงโตจะถอนตะขอมือออก ด้วยระยะทางที่ใกล้กันมากและการเคลื่อนไหวของนักรบสิงโตที่รวดเร็ว มันไม่สามารถหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมได้

ปัง ~

ผู้หญิงที่สวยแต่ดื้อดึงคนนี้ได้ล้มลงไปในอ้อมแขนของฮั่นหลาง เลือดไหลออกจากปากของเธอ สายตาของเธอมองไปที่ฮั่นหลางอย่างอบอุ่น ไม่สิ เธอกำลังมองลู่เอียว

ลั่วจินพยายามฝืนยิ้มออกมาเช่นคนที่กำลังจะตาย หากแต่เธอก็ยังดูสวยงามเช่นเดิม

"เจ้ายังไม่ได้ตอบข้า" ลั่วจินกระซิบ

"ข้า"

ลู่เอียวไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เสียงของเขาฟังดูน่าสังเวช เขาเพียงแค่พูดออกมาคำเดียว ในขณะที่หัวของลั่วจินก็หล่นลงไป เธอหยุดหายใจ แต่ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ที่คนไม่สามารถลืมได้

"คุณหนู!" นักรบหน้ากากสิงโตถอยกลับไป พร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

เห็นได้ชัดว่าการตายของลั่วจินนั้นมีผลต่อนักรบหน้ากากสิงโต

"ข้ารักเจ้า!" ลู่เอียวตะโกนออกมา

สายเกินไป ลั่วจินได้ใช้ชีวิตของเธอจ่ายไปเพื่อฟังคำพูดเหล่านี้ และมันก็น่าที่จะเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในโลก

ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงของลูเอียว มันไม่ได้ดังอยู่ในขอบเขตของศูนย์คลื่นสมอง แต่มันสะท้อนออกมาภายนอกรอบๆบริเวณรังผึ้ง

ฉากมหัศจรรย์กำลังเกิดขึ้น พลังงานกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาจากพื้นที่ศูนย์คลื่นสมองของฮั่นหลาง และค่อยๆกลายเป็นร่างของมนุษย์

ชายที่ดูเศร้าโศก ชายที่หัวใจแตกสลาย ได้ปรากฏร่างออกมา

ร่างเงาของลู่เอียว ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยน้ำตาที่หนาวเหน็บ และสายตาที่กระหายเลือดพุ่งออกไปที่นักรบหน้ากาก ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน

"ทำไม ทำไม?" ลู่เอียวถามออกมา

ฮั่นหลางรู้สึกว่าเขากำลังถามตัวเองมากกว่าที่จะถามคนอื่น

นักรบหน้ากากสิงโตกัดฟันและพูดออกไปว่า "ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกหรือ? เจ้าคนทรยศ เจ้าทรยศต่อทุกคนและยังล่อลวงคุณหนูของเรา การตายของเธอเป็นความผิดของเจ้าทั้งหมด! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เธอก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่!"

"ข้าได้ส่งข้อความเกี่ยวกับคุณหนูทั้งสองคนไปให้ผู้นำอาวุโสแล้ว และเขาก็ไม่ได้ตำหนิข้าด้วยอารมณ์ของเขา หากแต่เขาตำหนิคุณหนูทั้งสองแล้วเขาก็ต้องการที่จะจัดการกับคุณหนูทั้งสองด้วยตัวของเขาเอง!"

ลูเอียวลังเลใจกับประโยคนี้ มันทำให้เขาตกใจมาก ในขณะนี้นอกจากนักรบหน้ากากสิงโตแล้วยังมีนักรบหน้ากากช้างอีกด้วย

เขาเป็นชายร่างใหญ่พร้อมกับถือดาบยักษ์หัวผี หมัดของฮั่นหลางได้ทะลวงเข้าไปที่ด้านหลังของเขา ผิวหนังเนื้อกระดูดฉีกขาดจนเป็นรูกลวง แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

"ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!" ลู่เอียวคำรามออกมาด้วยความเศร้าและความแค้น!

ความเสียใจ ความรัก ความเศร้า ความรู้สึกทั้งปวงที่หลอมรวมกันเข้าด้วยกัน ทำให้ลูเอียวปราศจากเหตุผลใด ๆ เขาไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เพราะคำพูดไม่สามารถอธิบายความสิ้นหวังที่เขารู้สึกได้อีกต่อไป  แต่เขายังคงพึมพำคำเดียวกันออกมาว่า "ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า"

เจ้าฆ่าคนที่ข้ารัก เจ้าต้องจ่ายคืนด้วยชีวิตของเจ้า!

คลืนนนน ~

ร่างพลังงานของลูเอียวที่ปรากฏออกมาได้พุ่งออกไปคว้าคอของนักรบหน้ากากสิงโต ยกร่างของเขาขึ้นและจากนั้นก็ทุบเขาลงไปบนพื้นดิน

ฮั่นหลางไม่เคยเห็นใครบางคนที่รู้สึกถึงความสิ้นหวังในระดับนี้ และก็ไม่เคยเห็นใครที่ี่ดุเดือดเช่นนี้

เขาเห็นลู่เอียวเพียงแค่ยกศีรษะของนักรบหน้ากากสิงโตขึ้นและทุบลงกับพื้น ยกขึ้นและกระแทกลงไป ราวกับว่าเขาพยายามทุบมะพร้าว

ตูม ~

ตูม ~

"ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!" ลูเอียวตะโกนอย่างต่อเนื่อง

"เอามันมาให้ข้า!"

"เอามันมาให้ข้า!"

ฮั่นหลางยังไม่ทราบถึงระดับของลูเอียว แต่เขารู้สึกว่าระดับของลูเอียว ควรสูงมากเพราะแม้แต่ระดับของซือหม่าฮันเฟิงที่อยู่ในระดับ 8 ดาว เขาก็ยังไม่อาจทำอะไรนักรบหน้ากากได้

อีกทั้งในตอนนี้ลู่เอียวไม่มีร่างกาย เขาเหลือเพียงวิญญาณของเขา

นักรบหน้ากากช้างรีบพุ่งเข้าไปหาลูเอียว เพื่อพยายามที่จะช่วยเพื่อนร่วมทีมของเขา แต่ฮั่นหลางก็หยุดเขาไว้

ความโกรธยังเผาไหม้อยู่ภายในใจของฮั่นหลาง เขาชื่นชมทุกคนที่มีความรักและกล้าที่จะรักและเกลียดคนที่ทำลายความสุข

การตายของลั่วจิน ทำให้ฮั่นหลงโกรธนักรบหน้ากาก ผู้ที่ใช้พลังอำนาจของพวกเขาทำลายความรักที่สวยงามของผู้อื่น?

ฮั่นหลางคิดถึงโลก คิดถึงพี่น้องที่บ้านเกิด

นักรบหน้ากากเหล่านี้ พวกเขาช่วยให้เผ่าพันธุ์สามตาโจมตีทางช้างเผือก ทำให้บ้านอันเป็นที่รักของฮั่นหลางใกล้ที่จะถูกทำลาย!

ทำไม?!

ทำไมดาวเคราะห์ที่เปราะบางเช่นโลก จะต้องเผชิญกับชะตากรรมโหดร้ายเช่นนี้!

นี่เป็นสิ่งที่ฮั่นหลางไม่สามารถยอมรับได้!

"เขตแดนสิ้นสลาย เปิด!" ฮั่นหลางตะโกนออกมา พร้อมกับทำการโจมตีนักรบหน้ากากช้างด้วยการโจมตีของปีศาจ!

ลูเอียวไม่มีร่างกายดังนั้นแม้ว่าฮั่นหลางจะเปิดใช้งานเขตแดนสิ้นสลาย การโจมตีของลูเอียวก็จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ด้วยความสิ้นหวังและความเศร้าที่เขารู้สึกในตอนนี้ มันไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้งเขาได้

เจียนเจียและลั่วอิ๋งต่างตกใจเมื่อเห็นลู่เอียวและฮั่นหลาง ทั้งสองคนบ้าที่มีพลังอำนาจ ทำการโจมตีศัตรูของพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ลู่เอียวเหมือนเทพแห่งการฆ่า ด้วยแขนข้างหนึ่งลากนักรบหน้ากากสิงโตที่ตายไปแล้ว ด้วยความสิ้นหวังที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาเดินมาถึงฝั่งของฮั่นหลาง

ฮั่นหลางแข็งแกร่งน้อยกว่านักรบหน้ากากช้าง แม้ว่าเขาจะมีเขตแดนสิ้นสลาย เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะนักรบหน้ากากช้างได้ แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ที่เกิดจากความโกรธแค้นของเขา ทำให้ฮั่นหลางทำการโจมตีของเขาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเห็นได้ชัดว่าเขาเสียเปรียบ

ตูม ~

ตูม ~

ลู่เอียวคว้าหัวของนักรบหน้ากากช้าง หักคอ พร้อมกับควักเบ้าตาที่กลวงของเขา ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ตายไปซะ เจ้าเอาทุกอย่างไปจากข้า ข้าก็จะทำแบบเดียวกันกับเจ้า!"

"แต่เมื่อเจ้าได้รับร่างเทพเจ้า (TL: ร่างวิญญาณของขุนศึกขั้นสูงสุดหลังจากความตาย) เจ้าก็จะตายด้วย!" นักรบหน้ากากช้างดิ้นรนต่อสู้

ลู่เอียวยิ้มอย่างขมขื่น "เจ้าคิดว่าข้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่?"

นักรบหน้ากากช้างตกใจกลัว เขาขยับขายักษ์ของเขาอย่างฉับพลันพยายามหลบหนี ไม่มีอะไรน่ากลัวมากกว่าการเผชิญหน้ากับใครบางคนที่ไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่

ปัง ~

ลู่เอียวฉีกทึ้งศีรษะนักรบหน้ากากช้าง

จากนั้นเขาก็เริ่มฉีกชิ้นส่วนอื่น ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินไปหาลั่วจิน วางหัวของเขาแนบไปที่หน้าอกของเธอและไม่ได้พูดอะไรออกมา

ฮั่นหลางล้มลงนั่ง มันเป็นตอนจบที่น่าเศร้ามาก ฮั่นหลางไม่สามารถยอมรับมันได้และเขาก็กุมหัวของเขาอย่างสิ้นหวัง

ลั่วอิ๋งร้องไห้กับอกของเจียนเจียเหมือนเด็กทารก ดวงตาสีแดงเธอดูคล้ายกระต่ายน้อย

สถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจผ่านไปอย่างเชื่องช้า หนึ่งวินาที หนึ่งนาที มันเป็นเวลาแห่งความทุกข์ทรมานสำหรับทุกคน

ร่างของลู่เอียวกำลังค่อย ๆ สลายไป ร่างของเขาก็ยิ่งอ่อนเพลียขึ้น ก่อนหน้านี้ที่หน้ากากช้างกล่าวไว้เกี่ยวกับร่างเทพเจ้า หลังจากที่จิตวิญญาณของขุนศึกขั้นสูงสุดเช่นลู่เอียวใช้ร่างนี้ เขาก็จะไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีก

เมื่อร่างของลู่เอียว กำลังจะหายตัวไปอย่างสมบูรณ์ ฮั่นหลางได้ยินเสียงของคนทรยศคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย

"ฮั่นหลาง มันโชคดีมากที่ได้พบเจ้า..เจ้าพูดถูก ข้าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ข้าไม่สามารถเผชิญกับความรู้สึกของตัวเองได้ เมื่อข้าเข้าใจ มันก็สายเกินไป สายเกินไป"

"ลาก่อน ในศูนย์คลื่นสมองของเจ้า ข้าได้ทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้ ถือว่ามันเป็นของขวัญก่อนจากกัน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น