GDN 309 รอยแยกอากาศและหญิงลึกลับ

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 

ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/

ถ้าฮั่นหลางรู้ว่าพี่น้องไรลีย์และลีซ่า หรือแม้แต่เซอร์เบอรัสอาเธอร์ยังมีชีวิตอยู่เขาก็คงจะมีความสุขมาก

แต่ตอนนี้เป้าหมายเดียวของฮั่นหลางคือเพื่อความอยู่รอด

เขาต้องอยู่รอด สงครามที่เริ่มโดยเผ่าพันธุ์สามตา กับกาแลคซีได้เริ่มขึ้นแล้ว ฮั่นหลางกังวลเกี่ยวกับกาแลคซี และกังวลมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับบ้านเกิดของเขา

แผนการอพยพคนบนโลกเพิ่งเริ่มมาได้ไม่ถึงหนึ่งปีที่ผ่านมา และมีเพียงหนึ่งในสี่ของประชากรที่อพยพไปสู่กาแลคซีม้าคู่เท่านั้น ส่วนที่เหลือล่ะ? พวกเขาสามารถหนีความหายนะและสามารถหนีออกไปก่อนการมาถึงของเผ่าพันธุ์สามตาได้หรือไม่? กองทัพเรือและกองทัพหุ่นยนต์นำโดยหลงฉวนจะต่อสู้กับเผ่าพันธุ์สามตาหรือไม่?

ความห่วงใยทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ฮั่นหลางเสียใจมาก แต่ภายใต้สถานการณ์ในสนามรบที่ยังคับขัน ฮั่นหลางจึงเก็บซ่อนความกังวลทั้งหมดของเขาไว้และต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อความอยู่รอด

นักรบชนชั้นสูงที่นำโดยคาร์เมนยังต่อสู้อย่างหนักในสนามรบ พวกเขากลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เอาชนะความสมดุลของสนามรบ

หลังจากฮั่นหลางและซือหม่าฮันเฟิง ต่อสู้ด้วยพลังที่เต็มรูปแบบของพวกเขา การต่อสู้วนมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานความช่วยเหลือจากภายนอกบางอย่างก็เข้ามาช่วยฝั่งของฮั่นหลาง ซึ่งทำให้กระแสของสนามรบเปลี่ยนไป

นักรบชั้นสูงเหล่านี้เกิดมาในตระกูลที่ไม่ธรรมดา พวกเขาเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดและได้รับการฝึกฝนโดยอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดตั้งแต่เล็ก พวกเขามีข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดตั้งแต่ตอนที่พวกเขาเกิดมา

สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ คาร์เมนและคนของเขามีอุปกรณ์ อาวุธระดับเทพสงคราม!

พวกเขาเป็นทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนองค์กรเหล่าเทพเจ้า แล้วพวกเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของอุปกรณ์อาวุธระดับเทพเจ้าสักสองสามชิ้นเพื่อป้องกันและโจมตีได้อย่างไร เมื่อพวกเขาเอาอาวุธเทพสงครามออกมา เหล่านักรบหน้ากากก็กลัวมาก

คลืนน ~

อุปกรณ์ อาวุธเทพสงคราม จำนวนมากเริ่มบินรอบในสนามรบอีกครั้ง

คนที่รู้สึกผิดหวังมากที่สุด อย่างไม่ต้องสงสัยก็จะเป็นนักรบหน้ากากเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งอีกทั้งยังเป็นทหาร แต่เมื่อมองไปที่ทีมของฮั่นหลาง ซึ่งเต็มไปด้วยฆาตกร นักพัฒนาพิษ นักวิทยาศาสตร์ทางพันธุกรรม และมีแม้แต่ผู้ผลิตอาวุธปืนและคนทุกประเภท

เมื่อกลุ่มผู้ปฏิบัติการมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้พวกเขาพบว่าพวกเขาได้รับการโจมตีจากทุกทิศทุกทาง แม้ว่าพวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงจากสัตว์พันธุกรรม แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากไอระเหยที่เป็นพิษมหาศาล ที่โผล่ออกมาจากมุมหนึ่งของสนามรบได้

กองทัพที่มีพลังอันสูงส่ง ซือหม่าฮันเฟิง และทีมของฮั่นหลาง ไม่เพียง แต่เป็นกองกำลังกลุ่มใหญ่เท่านั้น แต่พวกเขายังเป็นเจ้าของเทคนิคและอุปกรณ์เชิงกลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกือบจะทำลายทุกอย่างได้!

นอกจากนี้กำลังใจในการทำงานยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในสนามรบ เมื่อด้านหนึ่งมีขวัญกำลังใจสูง ประสิทธิภาพการรบของพวกเขาอาจเกินขีดจำกัดปกติของพวกเขา และเมื่ออีกด้านสูญเสียขวัญกำลังใจของพวกเขา พวกเขาจะสูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขาไปเกือบครึ่งหนึ่ง

กำลังใจในการรบก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้!

ทีมของฮั่นหลางมองเห็นความหวังแห่งความสำเร็จ จินตนาการว่าพวกเขาอาจมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายนักรบหน้ากากระดับแปดดาว คนของศัตรูทั้งหมด มันทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างมาก

ถ้าพวกเขาสามารถจัดการศัตรูทั้งหมดได้ มันก็จะเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจที่จะอยู่กับพวกเขาไปตลอดทั้งชีวิต เนื่องพวกเขาทุกคนไม่ได้เป็นสุดยอดนักรบ เมื่อเทียบกับขุนศึกระดับแปดดาวที่เป็นตำนานพิเศษสำหรับนักรบส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะสามารถเอาชนะและฆ่าเหล่าศัตรูในตำนานเหล่านี้ได้ในวันนี้!

ปัง ~

ขวัญกำลังใจในการรบของกองกำลังเริ่มดีขึ้นและแข็งแกร่ง ฮั่นหลางและ ซือหม่าฮันเฟิง ก็เริ่มมีความหวังมากขึ้น ฮั่นหลางดูดซับผลึกแห่งความมืดไปสองชิ้น เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเอ่อล้นด้วยพลังงาน เขารู้สึกเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด และพลังแห่งความมืดเกือบจะไหลออกจากร่างกายของเขา ในขณะนี้ความแข็งแกร่งของเขายังคงเพิ่มขึ้นราวกับจรวด

ในอีกด้านหนึ่ง ซือหม่าฮันเฟิงที่มีแข็งแกร่งกว่ากลุ่มผู้ปฏิบัติการมาก อีกทั้งเขายังได้เผาผลาญพื้นที่ศูนย์คลื่นสมองด้วย ฮั่นหลางและซือหม่าฮันเฟิง ร่วมมือกันมันกลายเป็นฝันร้ายของกลุ่มปฏิบัติการจริง ๆ

คลืนนน ~

การรบกินเวลานานกว่าสิบนาที นักรบหน้ากากงูเหลือม  นักรบหน้ากากหนู นักรบหน้ากากนกอินทรีย์ นักรบหน้ากากลิง ทั้งหมดตาย

ส่วนที่เหลือของนักรบหน้ากากคนอื่น ๆ รู้ว่าพวกเขาเสียเปรียบ นักรบหน้ากากสิงโต ซึ่งเป็นผู้นำ แอบส่งสัญญาณให้เพื่อนของเขา

ชูววว ~

นักรบหน้ากากทั้งหมดก็มารวมกัน นักรบหน้ากากสิงโต นักรบหน้ากากเสือดาว นักรบหน้ากากเสือดำและนักรบหน้ากากหมาป่า นักรบหน้ากากทั้งหมดออกจากสนามรบและตั้งรูปแบบทีมเป็นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง

ในขณะเดียวกันส่วนที่เหลืออีกสองนักรบหน้ากากได้จับคู่กันเพื่อต่อสู้อย่างหนักกับฮั่นหลางและเจียนเจีย

ฮั่นหลางสามารถเข้าใจได้ว่านักรบหน้ากากกำลังพยายามฆ่าหรือจับตัวเขา แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขายังคงพยายามทำสิ่งเดียวกันกับ เจียนเจีย เป็นเพราะเธอเป็นคนที่มีพลังมากเช่นกัน?

หากพูดถึงระดับการสู้รบของเจียนเจีย ฮั่นหลางสามารถอธิบายได้ว่าเธอเป็นเอสเปอร์สายพันธุ์น้ำที่สมบูรณ์แบบ

ในบรรดามหาอำนาจทุกประเภท เอสเปอร์สายพันธุ์น้ำเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วไป ในส่วนสายพันธุ์น้ำแข็งนั้นเป็นระดับที่ยกสูงขึ้นมา ผลึกน้ำแข็ง หนามน้ำแข็ง กระสุนน้ำแข็งล้วนเป็นอีกระดับที่สูงขึ้นมาจากสายพันธุ์น้ำแข็ง

สิ่งที่ทำให้เจียนเจียพิเศษนั่นก็คือเธอเป็นเอสเปอร์สายพันธุ์น้ำที่สมบูรณ์แบบ พลังอันยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เธอเป็นเจ้าของพวกมันทั้งหมด

หากไม่มีการพูดเกินจริง มหาอำนาจพลังพิเศษของเจียนเจียก็ยิ่งแย่กว่าพลังพายุสายฟ้าของอี่เว่ยเว่ย  ถึงแม้แม้ว่าพลังพายุสายฟ้าของเธอจะเป็นอันตราย แต่อย่างน้อยก็เป็นพลังในพื้นที่เล็ก ๆ  อย่างไรก็ตามพลังพิเศษสายพันธุ์น้ำที่สมบูรณ์แบบของเจียนเจีย เป็นสิ่งที่ฮั่นหลางไม่เคยได้ยินมาก่อน

ชูววว ~

ในทันใดนั้นสองนักรบหน้ากากก็มาอยู่ที่ด้านหน้าฮั่นหลางและฮั่นหลางก็เดินหน้าเข้าไป ฮั่นหลางค่อนข้างถนัดในการต่อสู้ระยะประชิดกับศัตรู การจับคู่กับ ซือหม่าฮันเฟิงได้กลายเป็นหมอกหนา ทำให้พวกเขามีกำลังรบที่คล้ายคลึงกันกับทั้งสองนักรบหน้ากาก  ดังนั้นฮั่นหลางจึงไม่ได้เป็นห่วงอะไร ถ้านักรบหน้ากากอยากจะจัดการฮั่นหลางในตอนนี้ พวกเขาจะต้องใช้อย่างน้อย 4 นักรบหน้ากาก

กรีดดดด !!

ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากระยะไกล นักรบหน้ากากสองคนจากกลุ่มผู้ปฏิบัติการ นักรบหน้ากากสิงโตและนักรบหน้ากากหมี วิ่งฝ่าเข้าไปในกองกำลังก่อนคว้าตัวเจียนเจียและลากเธอไว้ข้างหลังพวกเขา

สถานการณ์นี้ทำให้ฮั่นหลางตกใจ เห็นได้ชัดว่านักรบหน้ากากไม่ได้พยายามที่จะฆ่าเจียนเจียแต่ต้องการที่จับเป็น

นักรบหน้ากากอีกสามคนทิ้งของชิ้นหนึ่งที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ อย่างตั้งใจ ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างในอวกาศ

เกิดรอยแยกของอากาศ สิ่งนี้คุ้นเคยกับฮั่นหลางมาก เขาเคยตกลงไปในรอยแยกในก่อนหน้านี้และถูกส่งตัวข้ามระบบดาวสองดวงไปยังพื้นที่ด้านนอกของดาวเคราะห์ที่รกร้าง

ไรลีย์และลีซ่าก็ตกลงไปในรอยแยกช่องว่างนี้เช่นกัน มันผ่านมาสองปีแล้ว ไม่มีใครได้รับการติดต่อจากพวกเขา

รอยแตกแยกพื้นที่ที่นักรบหน้ากากทำ เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากรอยแยกที่พี่น้องไรลี่ย์ตกลงไป มันมีความเสถียรภาพมากขึ้นเช่นช่องว่างมิติเล็ก ๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดมันควรจะถูกควบคุมโดยนักรบหน้ากาก

กล่าวได้ว่านักรบหน้ากากต้องการนำเจียนเจีย กลับไปยังดินแดนของพวกเขา!

ฮั่นหลางยังพบว่านักรบหน้ากากได้ให้คุณค่าแก่ เจียนเจีย มากกว่าตัวของเขาเอง นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาปล่อยให้นักรบหน้ากากสิงโต และนักรบหน้ากากคนอื่น ๆ ลักพาตัวเจียนเจีย และปล่อยให้คนที่อ่อนแอต่อสู้กับฮั่นหลาง มันคงจะดีกว่าถ้าพวกเขาจับฮั่นหลางได้ด้วย แต่ในตอนนี้มันไม่สำคัญถ้าหากพวกเขาล้มเหลวในการจับตัวเจียนเจีย

ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างมากในสนามรบโดยไม่มีใครรู้ว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างไร

ขณะที่เกิดความสับสนอลหม่านอย่างต่อเนื่อง ฮั่นหลางก็เริ่มวิ่ง เขาตัดสินใจไม่ต่อสู้กับซือหม่าฮันเฟิงอีกต่อไป เขาทิ้งซือหม่าฮันเฟิง เพื่อต่อสู้กับนักรบหน้ากากทั้งสองด้วยตัวคนคนเดียวและรีบออกไปเพื่อที่จะหยุดนักรบหน้ากากสิงโตและนักรบหน้ากากหมี

ฮั่นหลางไม่แน่ใจว่าทำไมนักรบหน้ากากจึงเปลี่ยนเป้าหมายหลักไปที่ เจียนเจีย แต่ก็ไม่สำคัญ ตามตรรกะการต่อสู้ของฮั่นหลาง ตราบเท่าที่มันเป็นสิ่งที่ศัตรูพยายามที่จะบรรลุ มันเป็นสิ่งที่ฮั่นหลางจะพยายามที่จะป้องกัน!

เขาไม่สามารถปล่อยให้ศัตรูบรรลุในเส้นทางของพวกเขา!

"เส้นทางซาตาน!"

แม้ว่าฮั่นหลางทำปฏิกิริยาได้เร็วพอ เขายังก้าวช้ากว่านักรบหน้ากากสิงโตและนักรบหน้ากากหมี ความเร็วของเขาไม่เพียงพอที่จะไปที่ด้านหน้าของนักรบหน้ากาก ตามหลังพวกเขาเพียงไม่กี่ก้าว

เพราะฉะนั้นฮั่นหลางจึงอาศัยพลังแห่งความมืด และใช้เส้นทางซาตานเพื่อฆ่าทั้งสองนักรบหน้ากากทางด้านหลังของพวกเขา

ชูวา ~

ภายในเวลาเสี้ยววินาที นักรบหน้ากากสิงโต และนักรบหน้ากากหมี กระโดดลงไปในรอยแยกพื้นที่ ฮั่นหลางยังติดตามไปโดยไม่หยุดยั้งและยังคงทำการโจมตีบริเวณรอยแยก!

คลืนน ~

ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความโกลาหลและแม้แต่ฮั่นหลางก็หายตัวไปในรอยแยก!

นับตั้งแต่ฮั่นหลางได้รวบรวมพลังแห่งความมืด สำหรับเส้นทางซาตาน รอยแตกอวกาศก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นไม่เสถียร

"มันผิดพลาด หนี!" นักรบหน้ากากเสือดาวตะโกนดังขึ้น

โชคร้ายที่กองทัพมนุษย์ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาไปง่ายๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถหยุดสองคนนั้น แต่ก็จะต้องหยุดคนอื่น ๆ ทั้งหมด

ทันใดนั้นสองร่างที่ดูคล้ายภูตได้ปรากฏในสนามรบที่วุ่นวาย

อี่เว่ยเว่ยรู้สึกกังวลกับฮั่นหลางมาก เธอพยายามที่จะตามเข้าไปในรอยแยกเพื่อช่วยเหลือเขา แม้ว่าเธอจะเสี่ยงชีวิตของเธอ แต่เธอก็ยังอยากจะอยู่กับฮั่นหลาง

อย่างไรก็ตาม อี่เว่ยเว่ยไม่เร็วพอ ขณะที่เธออยู่ห่างจากรอยแยกอยู่หลายเมตรเธอได้มองเห็นร่างภูตสองร่าง

เมื่อใกล้เข้าไปมากขึ้น อี่เว่ยเว่ยเห็นใบหน้าของพวกเธอ สวยมากและดูมีเสน่ห์ พวกเธอไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์ แต่พวกเธอก็ยังคงดูงดงามมาก

ชูวว ~

รอยแยกล้มเหลวในที่สุดเนื่องจากความไม่เสถียร อี่เว่ยเว่ยพลาดโอกาสที่จะตามเข้าไป สองสาวแปลก ๆ ที่ปรากฏตัวบนสนามรบก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน