แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
"ข้าจะไปดูฮั่นหลาง เขาเงียบหายไปนานเกินไป"
แลนซ์ขมวดคิ้วและพูดกับกลุ่ม
หลังจากนั้นแลนซ์กลับมาพร้อมกับปากที่เปิดกว้าง ตกใจอย่างไม่เชื่อกับสายตาที่เห็น
มือของเขาถือจดหมาย
ไม่เพียงแค่นั้นเขายังนำสัตว์พันธุกรรมอันดับแปดและสิบสามมาด้วย
ชูวว -
ดวงตาของทุกคนจ้องไปที่แลนซ์ ขณะที่แลนซ์กลืนน้ำลายและเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า
"ฮั่นหลางหายไปแล้ว"
"เจ้ากำลังแกล้งอะไรกัน?"
"ข้าไม่ได้แกล้ง นี่เป็นข้อความของฮั่นหลางที่ฝากถึงเรา"
เจียนเจียคว้าจดหมายจากมือของแลนซ์ ซึ่งฮั่นหลางเขียนไว้ว่าเขาต้องจากไปเนื่องจากเหตุผลพิเศษ
เขาทิ้งอันดับแปดและสิบสามที่มีความสามารถในการรับรู้ที่แข็งแกร่ง
และสามารถช่วยเตือนภัยคุกคามให้กับกลุ่มได้
ฮั่นหลางยังกล่าวอีกว่า เขาเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือสหายทั้งหลายได้อีก
และหวังว่าทุกคนจะสามารถออกจากหุบเขาลี้ลับได้อย่างปลอดภัย
เมื่อเจียนเจียอ่านจดหมายเสร็จแล้ว ทุกคนตะลึง ฮั่นหลางที่เป็นหัวหน้ากลุ่มหลักอย่างไม่ต้องสงสัย
ในตอนนี้เขาได้ทิ้งกลุ่มไปโดยไม่พูดอธิบายอะไร?
ทำไม? ทุกคนควรทำอย่างไร
เจียนเจียทิ้งตัวจดหมายลงบนพื้นและตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า
"ฮั่นหลาง! เจ้ามันไร้ความรับผิดชอบ เจ้ากล้าทิ้งพวกเรา!
ข้าไม่เชื่อว่ามีสิ่งใดที่เร่งด่วนเกิดขึ้นในขณะนี้ เจ้าโกหก!"
ทุกคนรู้ว่าเจียนเจียเป็นเด็กหญิงตัวน้อย มีเพียงแต่เธอไม่ยอมรับ
ในขณะที่ทุกคนต่างเงียบ
ในตอนนี้เธอใช้คำสรรพนามเพศหญิงโดยไม่ตั้งใจ มันทำให้เพศของเธอดูชัดเจนยิ่งขึ้น
"ฮั่นหลางไม่ใช่คนที่ขาดความรับผิดชอบ!"
หลายคนต่างก็รู้สึกเสียใจกับคำสบถของเจียนเจีย
แต่คนแรกที่ลุกขึ้นยืนเพื่อฮั่นหลางเป็นคลาร์กที่เงียบสงบ เขาพูดออกมาว่า
"ฮั่นหลางขาดความรับผิดชอบ? ถ้าเขาขาดความรับผิดชอบ โลกของเราก็คงหายไปจากจักรวาลนี้นานแล้ว
เขาเป็นคนเดียวที่ช่วยโลกให้รอดพ้นจากความมืดมิด!"
"ข้าสามารถพูดได้ว่า
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของฮั่นหลางไม่ใช่ว่าเขาขาดความรับผิดชอบ หากแต่เขาเป็นคนที่ใส่ใจเรื่อง ‘ความรับผิดชอบ’ มากเกินไป เขายอมที่จะเสียสละตัวเองมากกว่าที่จะทำร้ายเรา!"
เจียนเจียโกรธและพูดว่า "แล้วเจ้าจะอธิบายการที่เขาออกเดินทางอย่างกะทันหันในครั้งนี้อย่างไร?"
คลาร์กอึ้งก่อนกล่าวว่า
"เพราะเขามีบางสิ่งที่สำคัญกว่าการนำพวกเราออกจากหุบเขาลี้ลับ"
เจียนเจียรู้สึกไม่พอใจ และกล่าวว่า "เจ้าต้องโง่ที่จะเชื่อเรื่องโกหกนี้...ทุกอย่างเรียบร้อยดี
ทำไมเขาถึงมีอะไรที่สำคัญกว่าที่จะทำ?
"
คลาร์กชะงักก่อนกล่าวออกไป “ข้าไม่สนใจ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังเชื่อใจฮั่นหลาง!
ถ้าเขาบอกว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ นั่นก็ต้องเป็นความจริง เจ้าไม่ได้รู้จักฮั่นหลางดีพอ
นี่แหละผู้หญิง!"
ข้อคิดเห็นเรื่องเพศของคลาร์กทำให้เจียนเจียรู้สึกโกรธและตะโกนออกไปว่า
"ใช่สิ ข้าไม่รู้อะไรเลยแต่เจ้ารู้ ในตอนนี้ฮั่นหลางไปแล้ว เราจะทำอย่างไร?"
"แน่นอน เราจะออกตามหาเขา ถ้าข้าไม่ได้ตามหาเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขากำลังเผชิญกับความยากลำบาก
มันก็ไม่สมควรที่จะเรียกข้าว่าพี่ชาย?"
แววตาของคลาร์กเปล่งประกายกล้าออกมาชั่วแวบหนึ่ง
"แลนซ์เจ้าตรวจสอบภาคพื้นดิน ส่วนข้าจะทำการตรวจสอบบนท้องฟ้า...
เราต้องหาฮั่นหลางให้พบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าเป็นห่วงฮั่นหลาง"
แลนซ์พยักหน้าอย่างหนักแน่น อู้หวินกล่าวเสริมว่า
"ข้าจะให้กองทัพแมงมุมออกตรวจสอบเพื่อค้นหาแบบปูพรมด้วย"
บ่อยากล่าวว่า "ข้ามีเพื่อนบางคนในทีมอื่น ๆ ข้าจะแจ้งให้พวกเขาทราบ
หากเขาพบเห็นฮั่นหลาง เขาจะได้แจ้งเราในทันที"
เจียนเจียได้ตระหนักว่าเธออยู่คนเดียวในสถานการณ์เช่นนี้
เธอไม่ได้คาดหวังให้คนเหล่านี้เชื่อมั่นฮั่นหลางมากนัก
ฮึ่ม!
นอกจากแลนซ์และคนอื่น ๆ ที่อยากจะตามหลังฮั่นหลาง เจียนเจียหันหลังจากไป
ด้วยฐานะที่สูง มีชื่อเสียง และด้วยความดื้อรั้นของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับว่าเธอเข้าใจฮั่นหลางผิด
อี่เว่ยเว่ยต้องการจะหยุดเธอหากแต่ก็ล้มเหลว
ความภาคภูมิใจและความอยุติธรรมเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงของมนุษยชาติ
ถึงแม้ว่าเจียนเจียจะรู้ว่าเธอได้พูดออกไปด้วยอารมณ์โกรธในขณะที่คนอื่น ๆ ยังเข้าข้างฮั่นนหลาง
มันทำเธอไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้
แม้ว่าเจียนเจียจะจากไป แต่เธอไม่ได้ไปคนเดียว เธอมีผู้ติดตามอีกสี่คนที่ตระกูลของเธอส่งมาด้วย
แต่พวกเขาไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่พวกเขาก็จงรักภักดีต่อเจียนเจียเป็นอย่างมาก
"ข้าผิดหรือเปล่า?" เจียนเจียถามผู้ติดตามออกไป
"ไม่ผิด"
"ช่างแม่งฮั่นหลาง ข้าไม่ได้โกรธที่เขาทิ้งพวกเรา แต่เขาจากไปโดยไม่มีคำอธิบาย!
ทำไมเขาถึงไม่บอกข้าด้วยตัวเขาเอง ด้วยฐานะของข้า ข้าสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ
ให้เขาได้ แต่เขากลับต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้บนบ่าของเขา
เหมือนเขาเป็นฮีโร่และพวกเราทุกคนเป็นคนโง่ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าโกรธจนเป็นเหมือนคนบ้า!"ใบหน้าเล็ก
ๆ ของเจียนเจียดูเคร่งเครียด
ผู้ติดตามทั้งหมดต่างหมดคำพูด ดังนั้นการที่ ฮั่นหลางมีความรับผิดชอบจึงเป็นปัญหา?
"เจ้าทิ้งพวกเขาอย่างมั่นใจ" ลู่เอียวกระซิบอยู่ภายในสมองของฮั่นหลาง
"ตอนนี้เพื่อนของเจ้ากำลังตำหนิเจ้า"
ฮั่นหลางขมวดคิ้วเล็กน้อย "ลืมไปเถอะ ถูกตำหนิยังดีกว่าที่พวกเขาจะถูกฆ่าตาย"
ลู่เอียวพยักหน้าเล็กน้อย "ข้าพยายามคิดหาทักษะที่พอจะให้เจ้าสามารถใช้ประโยชน์ได้
บางทีมันอาจจะช่วยเจ้าได้"
ฮั่นหลางยิ้มอย่างขมขื่น "ตอนนี้เจ้าเพิ่งคิดถึงข้า? ข้าคิดว่ามันสายไปแล้ว"
ลู่เอียว กล่าวว่า "ยังดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย
ขณะที่อยู่ในสมองของเจ้า ข้าได้คิดถึงหกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า
และควรมีอีกหนึ่งเส้นทางที่จะช่วยให้เจ้ารวบรวมสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้ไปแล้ว
ด้วยเหตุผลบางอย่างอาจารย์ของเจ้าไม่ได้บอกเจ้า"
"เจ้าหมายถึงต้นกำเนิดไร้จุดหมาย?
ไม่มีทาง เขาเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ บางทีเขาอาจไม่รู้เช่นกัน
เขาสอนข้าทั้งหกเส้นทาง แต่เขามีความเชี่ยวชาญเพียงสี่เส้นทางแรกเท่านั้น ในเส้นทางปีศาจเขายังไม่สามารถที่จะเข้าใจได้"
ลู่เอียวกล่าวว่า "เป็นไปได้...ขอข้าคิดสักครู่... พวกเราต้องหนีก่อน
พร้อมกับศึกษาเส้นทางสุดท้ายของหกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า ข้าคิดว่ามันต้องการอะไรบางสิ่งเพื่อที่จะบรรลุ
นอกเหนือไปจากการควบคุมทักษะ เพียง แต่ว่ามันคืออะไร?"
"บอกตามตรง ข้าก็คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะและได้เรียนรู้มาตลอดหลายปี
แต่หกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า อาจเป็นชุดทักษะที่ชั่วร้ายที่สุด เท่าที่ข้ารู้จัก
หกเส้นทางไม่สามารถพัฒนาต่อจากเส้นทางอื่นตามที่มันควรจะเป็น หากแต่พวกมันกลับมีความขัดแย้งในตัวของมันเอง...ตัวอย่างเช่นถ้าเจ้าเข้าใจเส้นทางพระเจ้า
เจ้าก็จะสร้างความลำบากให้กับเส้นทางมนุษย์ ถ้าเจ้าเข้าใจเส้นทางปีศาจ
เส้นทางพระเจ้าก็ยากที่จะรวบรวมเข้าด้วยกันได้ และจะหยุดชะงักทุกครั้ง ก่อนจะผลักดันเจ้าสู่ระดับใหม่"
"ถ้าเจ้ามีโอกาส
เจ้าควรถามแหล่งที่มาของเส้นทางแห่งความว่างเปล่าจากต้นกำเนิดไร้จุดหมายว่ามาจากไหน
ข้ารู้สึกว่า แม้ว่ามันจะถูกค้นพบในกาแลคซีนี้ แต่ต้นกำเนิดของมันจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษ"
ฮั่นหลางพยักหน้า "ถ้าเรายังมีชีวิตรอดออกไป ข้าจะถามเขา ว่าแต่ว่า
เรามีเวลาเท่าไร?"
ลู่เอียวกล่าวว่า "หากดูจากความเร็วของเจ้าและพวกเขา
ภายในสิบสองชั่วโมง เราจะพบกับกลุ่มปฏิบัติการ กล่าวอีกนัยหนึ่งเว้นเสียแต่ว่า
องค์กรเหล่าเทพเจ้า จะสามารถควบคุมหุบเขาลี้ลับได้ในอีก 12
ชั่วโมงข้างหน้าจากนี้"
ที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรเหล่าเทพเจ้า
ท่านชุ่ย พ่อที่ลึกลับของเจียนเจีย วิ่งจากแผนกเครื่องจักรกลราวกับคนบ้า
เส้นผมหลุดรุ่ย ตาแดงก่ำและสายตาของเขาคมแปลบเหมือนเขาพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่ไม่สามารถทำตามคำสั่งของเขาได้
"ข้าไม่สนใจ ข้าไม่สนหรอกว่ารังไหมอนุภาคมีจำนวนมากเกินไปหรือไม่!
ทำทุกอย่างเพื่อที่จะสามารถควบคุมหุบเขาลี้ลับให้ได้!" ท่านชุ่ยร้องตะโกนออกไปโดยไม่หันหน้าไปมอง
เมื่อได้เห็นคนที่เคยสงบและสุภาพอย่างท่านชุ่ยมีอาการโกรธจัด มันทำให้เจ้าหน้าที่ในแผนกเครื่องจักรกลจแทบจะมุดหัวของพวกเขาหนีเข้าไปในเครื่องจักรทั้งหลาย
"เกิดอะไรขึ้นกับท่านชุ่ย?
เขาถึงมีการโมโหเกี้ยวกราด ราวกับเขากำลังจะกินเรา"
"เฮ้ออออ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวของเขา"
“ลูกสาวท่านชุ่ย เจียนเจีย?"
"ใช่ เธอนั่นแหละ"
"แต่ทุกคนรู้จักฐานะของเธอ ใครจะกล้าทำร้ายเธอ?"
"ข้าได้ยินมาว่าเธอติดอยู่ในหุบเขาลี้ลับ เพราะมีอะไรบางอย่างผิดพลาดกับรังไหมอนุภาคและดูเหมือนจะเป็นเพราะองค์กรเหล่าปีศาจได้ใช้คลื่นสัญญาณพัลส์
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายขอบชายแดนเท่านั้น แต่ยังทำลายเครื่องยนต์รังไหมอานุภาคและอุปกรณ์การสื่อสารอีกด้วย"
“องค์กรเหล่าปีศาจ? ดังนั้นท่านชุ่ยก็ควรที่จะไปกระทรวงกลาโหมเพื่อขอความช่วยเหลือแทน
ไม่ใช่ว่าแผนกเครื่องจักรกล เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภายนอกองค์กร"
"เจ้าคิดว่าเขาไม่ได้ไป?
ที่ท่านชุ่ยจากมา ข้าได้ยินว่า แม้แต่นายพลคาบรี้ก็โดนด่า
ข้าหวังเพียงแค่หวังว่าคุณหนูเจียนเจียจะยังปลอดภัยดี
มิฉะนั้นก็จะไม่ใช่แค่ท่านชุ่ย ที่จะทำให้นรกแตกเท่านั้น หาก
"สัตว์ประหลาดเฒ่า" ของตระกูลชุ่ยรู้เรื่องนี้ละก็..."
"ใช่แล้วมันเป็นตระกูลของท่านชุ่ย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น