เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 302 ออกเดินทาง

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/




"ข้าจะไปดูฮั่นหลาง เขาเงียบหายไปนานเกินไป" แลนซ์ขมวดคิ้วและพูดกับกลุ่ม

หลังจากนั้นแลนซ์กลับมาพร้อมกับปากที่เปิดกว้าง ตกใจอย่างไม่เชื่อกับสายตาที่เห็น มือของเขาถือจดหมาย ไม่เพียงแค่นั้นเขายังนำสัตว์พันธุกรรมอันดับแปดและสิบสามมาด้วย

ชูวว -

ดวงตาของทุกคนจ้องไปที่แลนซ์ ขณะที่แลนซ์กลืนน้ำลายและเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ฮั่นหลางหายไปแล้ว"

"เจ้ากำลังแกล้งอะไรกัน?"

"ข้าไม่ได้แกล้ง นี่เป็นข้อความของฮั่นหลางที่ฝากถึงเรา"

เจียนเจียคว้าจดหมายจากมือของแลนซ์ ซึ่งฮั่นหลางเขียนไว้ว่าเขาต้องจากไปเนื่องจากเหตุผลพิเศษ เขาทิ้งอันดับแปดและสิบสามที่มีความสามารถในการรับรู้ที่แข็งแกร่ง และสามารถช่วยเตือนภัยคุกคามให้กับกลุ่มได้

ฮั่นหลางยังกล่าวอีกว่า เขาเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือสหายทั้งหลายได้อีก และหวังว่าทุกคนจะสามารถออกจากหุบเขาลี้ลับได้อย่างปลอดภัย

เมื่อเจียนเจียอ่านจดหมายเสร็จแล้ว ทุกคนตะลึง ฮั่นหลางที่เป็นหัวหน้ากลุ่มหลักอย่างไม่ต้องสงสัย ในตอนนี้เขาได้ทิ้งกลุ่มไปโดยไม่พูดอธิบายอะไร? ทำไม? ทุกคนควรทำอย่างไร

เจียนเจียทิ้งตัวจดหมายลงบนพื้นและตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า "ฮั่นหลาง! เจ้ามันไร้ความรับผิดชอบ เจ้ากล้าทิ้งพวกเรา! ข้าไม่เชื่อว่ามีสิ่งใดที่เร่งด่วนเกิดขึ้นในขณะนี้ เจ้าโกหก!"

ทุกคนรู้ว่าเจียนเจียเป็นเด็กหญิงตัวน้อย มีเพียงแต่เธอไม่ยอมรับ ในขณะที่ทุกคนต่างเงียบ

ในตอนนี้เธอใช้คำสรรพนามเพศหญิงโดยไม่ตั้งใจ มันทำให้เพศของเธอดูชัดเจนยิ่งขึ้น

"ฮั่นหลางไม่ใช่คนที่ขาดความรับผิดชอบ!" หลายคนต่างก็รู้สึกเสียใจกับคำสบถของเจียนเจีย แต่คนแรกที่ลุกขึ้นยืนเพื่อฮั่นหลางเป็นคลาร์กที่เงียบสงบ เขาพูดออกมาว่า "ฮั่นหลางขาดความรับผิดชอบ? ถ้าเขาขาดความรับผิดชอบ โลกของเราก็คงหายไปจากจักรวาลนี้นานแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่ช่วยโลกให้รอดพ้นจากความมืดมิด!"

"ข้าสามารถพูดได้ว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของฮั่นหลางไม่ใช่ว่าเขาขาดความรับผิดชอบ หากแต่เขาเป็นคนที่ใส่ใจเรื่อง  ‘ความรับผิดชอบ’ มากเกินไป เขายอมที่จะเสียสละตัวเองมากกว่าที่จะทำร้ายเรา!"

เจียนเจียโกรธและพูดว่า "แล้วเจ้าจะอธิบายการที่เขาออกเดินทางอย่างกะทันหันในครั้งนี้อย่างไร?"

คลาร์กอึ้งก่อนกล่าวว่า "เพราะเขามีบางสิ่งที่สำคัญกว่าการนำพวกเราออกจากหุบเขาลี้ลับ"

เจียนเจียรู้สึกไม่พอใจ และกล่าวว่า "เจ้าต้องโง่ที่จะเชื่อเรื่องโกหกนี้...ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทำไมเขาถึงมีอะไรที่สำคัญกว่าที่จะทำ? "

คลาร์กชะงักก่อนกล่าวออกไป “ข้าไม่สนใจ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ยังเชื่อใจฮั่นหลาง! ถ้าเขาบอกว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ นั่นก็ต้องเป็นความจริง เจ้าไม่ได้รู้จักฮั่นหลางดีพอ นี่แหละผู้หญิง!"

ข้อคิดเห็นเรื่องเพศของคลาร์กทำให้เจียนเจียรู้สึกโกรธและตะโกนออกไปว่า "ใช่สิ ข้าไม่รู้อะไรเลยแต่เจ้ารู้ ในตอนนี้ฮั่นหลางไปแล้ว เราจะทำอย่างไร?"

"แน่นอน เราจะออกตามหาเขา ถ้าข้าไม่ได้ตามหาเขา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขากำลังเผชิญกับความยากลำบาก มันก็ไม่สมควรที่จะเรียกข้าว่าพี่ชาย?" แววตาของคลาร์กเปล่งประกายกล้าออกมาชั่วแวบหนึ่ง "แลนซ์เจ้าตรวจสอบภาคพื้นดิน ส่วนข้าจะทำการตรวจสอบบนท้องฟ้า... เราต้องหาฮั่นหลางให้พบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าเป็นห่วงฮั่นหลาง"

แลนซ์พยักหน้าอย่างหนักแน่น อู้หวินกล่าวเสริมว่า "ข้าจะให้กองทัพแมงมุมออกตรวจสอบเพื่อค้นหาแบบปูพรมด้วย"

บ่อยากล่าวว่า "ข้ามีเพื่อนบางคนในทีมอื่น ๆ ข้าจะแจ้งให้พวกเขาทราบ หากเขาพบเห็นฮั่นหลาง เขาจะได้แจ้งเราในทันที"

เจียนเจียได้ตระหนักว่าเธออยู่คนเดียวในสถานการณ์เช่นนี้ เธอไม่ได้คาดหวังให้คนเหล่านี้เชื่อมั่นฮั่นหลางมากนัก

ฮึ่ม!

นอกจากแลนซ์และคนอื่น ๆ ที่อยากจะตามหลังฮั่นหลาง เจียนเจียหันหลังจากไป ด้วยฐานะที่สูง มีชื่อเสียง และด้วยความดื้อรั้นของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับว่าเธอเข้าใจฮั่นหลางผิด อี่เว่ยเว่ยต้องการจะหยุดเธอหากแต่ก็ล้มเหลว

ความภาคภูมิใจและความอยุติธรรมเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงของมนุษยชาติ ถึงแม้ว่าเจียนเจียจะรู้ว่าเธอได้พูดออกไปด้วยอารมณ์โกรธในขณะที่คนอื่น ๆ ยังเข้าข้างฮั่นนหลาง มันทำเธอไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้

แม้ว่าเจียนเจียจะจากไป แต่เธอไม่ได้ไปคนเดียว เธอมีผู้ติดตามอีกสี่คนที่ตระกูลของเธอส่งมาด้วย แต่พวกเขาไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่พวกเขาก็จงรักภักดีต่อเจียนเจียเป็นอย่างมาก

"ข้าผิดหรือเปล่า?" เจียนเจียถามผู้ติดตามออกไป

"ไม่ผิด"

"ช่างแม่งฮั่นหลาง ข้าไม่ได้โกรธที่เขาทิ้งพวกเรา แต่เขาจากไปโดยไม่มีคำอธิบาย! ทำไมเขาถึงไม่บอกข้าด้วยตัวเขาเอง ด้วยฐานะของข้า ข้าสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้เขาได้ แต่เขากลับต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้บนบ่าของเขา เหมือนเขาเป็นฮีโร่และพวกเราทุกคนเป็นคนโง่ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าโกรธจนเป็นเหมือนคนบ้า!"ใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียนเจียดูเคร่งเครียด

ผู้ติดตามทั้งหมดต่างหมดคำพูด ดังนั้นการที่ ฮั่นหลางมีความรับผิดชอบจึงเป็นปัญหา?

"เจ้าทิ้งพวกเขาอย่างมั่นใจ" ลู่เอียวกระซิบอยู่ภายในสมองของฮั่นหลาง "ตอนนี้เพื่อนของเจ้ากำลังตำหนิเจ้า"

ฮั่นหลางขมวดคิ้วเล็กน้อย "ลืมไปเถอะ ถูกตำหนิยังดีกว่าที่พวกเขาจะถูกฆ่าตาย"

ลู่เอียวพยักหน้าเล็กน้อย "ข้าพยายามคิดหาทักษะที่พอจะให้เจ้าสามารถใช้ประโยชน์ได้ บางทีมันอาจจะช่วยเจ้าได้"

ฮั่นหลางยิ้มอย่างขมขื่น "ตอนนี้เจ้าเพิ่งคิดถึงข้า? ข้าคิดว่ามันสายไปแล้ว"

ลู่เอียว กล่าวว่า "ยังดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย ขณะที่อยู่ในสมองของเจ้า ข้าได้คิดถึงหกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า และควรมีอีกหนึ่งเส้นทางที่จะช่วยให้เจ้ารวบรวมสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้ไปแล้ว ด้วยเหตุผลบางอย่างอาจารย์ของเจ้าไม่ได้บอกเจ้า"

"เจ้าหมายถึงต้นกำเนิดไร้จุดหมาย? ไม่มีทาง เขาเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ บางทีเขาอาจไม่รู้เช่นกัน เขาสอนข้าทั้งหกเส้นทาง แต่เขามีความเชี่ยวชาญเพียงสี่เส้นทางแรกเท่านั้น ในเส้นทางปีศาจเขายังไม่สามารถที่จะเข้าใจได้"

ลู่เอียวกล่าวว่า "เป็นไปได้...ขอข้าคิดสักครู่... พวกเราต้องหนีก่อน พร้อมกับศึกษาเส้นทางสุดท้ายของหกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า ข้าคิดว่ามันต้องการอะไรบางสิ่งเพื่อที่จะบรรลุ นอกเหนือไปจากการควบคุมทักษะ เพียง แต่ว่ามันคืออะไร?"

"บอกตามตรง ข้าก็คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะและได้เรียนรู้มาตลอดหลายปี แต่หกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า อาจเป็นชุดทักษะที่ชั่วร้ายที่สุด เท่าที่ข้ารู้จัก หกเส้นทางไม่สามารถพัฒนาต่อจากเส้นทางอื่นตามที่มันควรจะเป็น หากแต่พวกมันกลับมีความขัดแย้งในตัวของมันเอง...ตัวอย่างเช่นถ้าเจ้าเข้าใจเส้นทางพระเจ้า เจ้าก็จะสร้างความลำบากให้กับเส้นทางมนุษย์ ถ้าเจ้าเข้าใจเส้นทางปีศาจ เส้นทางพระเจ้าก็ยากที่จะรวบรวมเข้าด้วยกันได้ และจะหยุดชะงักทุกครั้ง ก่อนจะผลักดันเจ้าสู่ระดับใหม่"

"ถ้าเจ้ามีโอกาส เจ้าควรถามแหล่งที่มาของเส้นทางแห่งความว่างเปล่าจากต้นกำเนิดไร้จุดหมายว่ามาจากไหน ข้ารู้สึกว่า แม้ว่ามันจะถูกค้นพบในกาแลคซีนี้ แต่ต้นกำเนิดของมันจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษ"

ฮั่นหลางพยักหน้า "ถ้าเรายังมีชีวิตรอดออกไป ข้าจะถามเขา ว่าแต่ว่า เรามีเวลาเท่าไร?"

ลู่เอียวกล่าวว่า "หากดูจากความเร็วของเจ้าและพวกเขา ภายในสิบสองชั่วโมง เราจะพบกับกลุ่มปฏิบัติการ กล่าวอีกนัยหนึ่งเว้นเสียแต่ว่า องค์กรเหล่าเทพเจ้า จะสามารถควบคุมหุบเขาลี้ลับได้ในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้าจากนี้"

ที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรเหล่าเทพเจ้า

ท่านชุ่ย พ่อที่ลึกลับของเจียนเจีย วิ่งจากแผนกเครื่องจักรกลราวกับคนบ้า เส้นผมหลุดรุ่ย ตาแดงก่ำและสายตาของเขาคมแปลบเหมือนเขาพร้อมที่จะฆ่าทุกคนที่ไม่สามารถทำตามคำสั่งของเขาได้

"ข้าไม่สนใจ ข้าไม่สนหรอกว่ารังไหมอนุภาคมีจำนวนมากเกินไปหรือไม่! ทำทุกอย่างเพื่อที่จะสามารถควบคุมหุบเขาลี้ลับให้ได้!" ท่านชุ่ยร้องตะโกนออกไปโดยไม่หันหน้าไปมอง

เมื่อได้เห็นคนที่เคยสงบและสุภาพอย่างท่านชุ่ยมีอาการโกรธจัด มันทำให้เจ้าหน้าที่ในแผนกเครื่องจักรกลจแทบจะมุดหัวของพวกเขาหนีเข้าไปในเครื่องจักรทั้งหลาย

"เกิดอะไรขึ้นกับท่านชุ่ย? เขาถึงมีการโมโหเกี้ยวกราด ราวกับเขากำลังจะกินเรา"

"เฮ้ออออ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวของเขา"

ลูกสาวท่านชุ่ย เจียนเจีย?"

"ใช่ เธอนั่นแหละ"

"แต่ทุกคนรู้จักฐานะของเธอ ใครจะกล้าทำร้ายเธอ?"
"ข้าได้ยินมาว่าเธอติดอยู่ในหุบเขาลี้ลับ เพราะมีอะไรบางอย่างผิดพลาดกับรังไหมอนุภาคและดูเหมือนจะเป็นเพราะองค์กรเหล่าปีศาจได้ใช้คลื่นสัญญาณพัลส์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายขอบชายแดนเท่านั้น แต่ยังทำลายเครื่องยนต์รังไหมอานุภาคและอุปกรณ์การสื่อสารอีกด้วย"

“องค์กรเหล่าปีศาจ? ดังนั้นท่านชุ่ยก็ควรที่จะไปกระทรวงกลาโหมเพื่อขอความช่วยเหลือแทน ไม่ใช่ว่าแผนกเครื่องจักรกล เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับภายนอกองค์กร"

"เจ้าคิดว่าเขาไม่ได้ไป? ที่ท่านชุ่ยจากมา ข้าได้ยินว่า แม้แต่นายพลคาบรี้ก็โดนด่า ข้าหวังเพียงแค่หวังว่าคุณหนูเจียนเจียจะยังปลอดภัยดี มิฉะนั้นก็จะไม่ใช่แค่ท่านชุ่ย ที่จะทำให้นรกแตกเท่านั้น หาก "สัตว์ประหลาดเฒ่า" ของตระกูลชุ่ยรู้เรื่องนี้ละก็..."

"ใช่แล้วมันเป็นตระกูลของท่านชุ่ย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น