แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
สามวันต่อมาใน
เมืองลอร์ดดาว
ในตอนกลางของเมือง ประตูดาวขนาดมหึมาตั้งตระหง่านสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
นักรบหลายล้านคนที่ถูกเลือกให้สามารถเข้าไปในหุบเขาลี้ลับต่างมารวมตัวกันที่นี่ อีกไม่นานพวกเขาทั้งหมดจะถูกส่งเข้าไปในหุบเขาลี้ลับ
คนที่ประสบความสำเร็จในการข้ามหุบเขาลี้ลับจะสามารถได้รับตำแหน่งลอร์ดดาว
ซึ่งเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองลอร์ดดาว
ผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมในหุบเขาลี้ลับคือกลุ่มชนชั้นนำจากนักรบ
และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา
ไม่มีกฎสำหรับการข้ามหุบเขา
ตราบเท่าที่สามารถข้ามหุบเขาได้มันก็นับได้ว่าประสบความสำเร็จ
ถ้าล้มเหลวในการข้ามหุบเขาพวกเขาจะสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าไปในหุบเขาลี้ลับภายใน
5 ปี ดังนั้นบรรดานักรบที่รอคอยต่างเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
เพราะเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับโอกาสในการเข้าไปในหุบเขาลี้ลับ แต่มันยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะข้ามผ่านหุบเขาลี้ลับได้สำเร็จ
"หลังจากเข้าหุบเขาลี้ลับแล้ว
เจ้าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของข้า มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกตราบเท่าที่ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นนั้นเข้าใจไหม"
เจียนเจียพูดคุยราวกับว่าเธอเป็นหัวหน้ากลุ่มของฮั่นหลาง
มีผู้คนมากกว่าร้อยคนรวมทั้งฮั่นหลางเข้าร่วมทีมด้วย
สมาชิกส่วนใหญ่ในฝูงชนเป็นมนุษย์จากทางช้างเผือก
แลนซ์ ไห่เซียวหลิน คลาร์ก อี่เว่ยเว่ย และอีกสิบคนที่นำโดยอาจารย์บ้าทั้งสามจากอาณาจักรที่ถูกลืม
นอกจากนี้ยังมีกองทัพที่อยู่นอกทางช้างเผือกที่มีบ่อยาเป็นตัวแทน
พวกเขาทุกคนรู้จักกัน ในตอนที่เข้าร่วมลานพิพากษาและได้ไปที่สนามรบชายแดนด้วยกัน
เหตุผลหลักที่สามารถรวบรวมผู้คนเหล่านี้จากสถานที่ต่าง
ๆ เข้าด้วยกันได้นั้นล้วนเป็นเพราะฮั่นหลาง อย่างไรก็ตามคนที่รับผิดชอบทีมกลับไม่ใช่เขา
แต่เป็นเจียนเจีย
ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทุกคนสามารถบอกได้ว่าเจียนเจีย เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ
เธออาจจะรู้จักความลับบางอย่างของหุบเขาลี้ลับ
ถ้าพวกเขากำลังต่อสู้กับการสู้รบที่นองเลือดโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ทำไมไม่ให้เจียนเจียช่วยเหลือพวกเขา
ฮั่นหลางรู้สึกมีความสุขกับทางลัดนี้
ในขณะที่เจียนเจียกำลังเตรียมคำพูดที่จะพูดออกไป
ฮั่นหลางได้ใช้เวลานี้มองไปรอบ ๆ
เขาเห็น จูยานาน
ผู้ชายคนนี้เคยพยายามฆ่าเขา ดังนั้นเขาจึงนับได้ว่าเป็นศัตรูของฮั่นหลาง
ลูกทีมที่มากับจูยานานนั้นดูแปลกมาก
ทุกคนดูเหมือนจะมาจากครอบครัวชนชั้นสูง พวกเขาต่างพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนานราวกับไม่มีความหวาดกลัวกับหุบเขาลี้ลับ
พวกเขาก็ดูเหมือนจะรู้จักกับเจียนเจีย
พร้อมกับชี้มาที่เขาและกระซิบกระซาบกัน ราวกับการอยู่กับคนอย่างฮั่นหลางแล้วจะเป็นเรื่องที่น่าอายมาก
ฮั่นหลางกำลังพยายามประเมินพลังของกลุ่มจูยานาน
เขาพบว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้กับชนชั้นสูงมีลักษณะที่น่ากลัว
หลายคนมีแหล่งพลังงานที่ผันผวนอย่างมากซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นระดับของขุนศึก
นอกจากนี้พวกเขาเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมและมีลักษณะพิเศษ
ฮั่นหลางมั่นใจว่ากลุ่มเยาวชนชนชั้นสูงเหล่านี้ได้รับการศึกษามาอย่างดี พร้อมกับทรัพยากรที่มีราคาแพงและได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
ฮั่นหลางเห็นไห่หยวนจากเผ่าพันธุ์สามตา
ทีมของเขาเป็นคนที่มาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮั่นหลางมองเห็นเผ่าพันธุ์สามตาจำนวนมากเช่นนี้
สิ่งที่สร้างความสับสนให้เขาก็คือว่า มีเพียงไห่หยวนที่เปิดตาที่สามของเขาในหมู่นักรบหลายร้อยคนจากเผ่าพันธุ์สามตา
หุบเขาลี้ลับเป็นสถานที่รวบรวมชนชั้นสูงทั้งหมด
ฮั่นหลางจึงสรุปได้ว่า ไห่หยวน อาจจะเป็นคนเดียวที่เปิดตาที่สามได้อย่างเป็นทางการในหมู่เผ่าพันธุ์สามตาที่อยู่ในเมืองลอร์ดดาว
แต่คนที่จะอยู่ในเมืองลอร์ดดาว นั้นน่าจะเป็นชนชั้นสูงที่สุดที่มาจากเผ่าพันธุ์สามตา
ถ้าจากการคาดเดา
จำนวนผู้ที่เปิดใช้งานตาที่สามในเผ่าพันธุ์สามตาซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์พระเจ้าอาจจะน้อยกว่าที่ฮั่นหลางคาดไว้
ในเวลานี้
เจียนเจียได้พูดคำปราศรัยของเธอเสร็จสิ้นแล้ว เธอเดินมาข้างฮั่นหลาง มองตามสายตาของฮั่นหลางและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า
"เจ้ากำลังกังวลเกี่ยวกับคนที่มีสามตา? ไม่ต้องเป็นห่วงข้าอยู่ที่นี่"
ฮั่นหลางรู้สึกว่ามันตลก
แต่เขาไม่ได้พูดอะไร และเพียงแค่วางแผนอะไรบางอย่างท่ามกลางความเงียบ
ชูวว ~
ด้วยการเปิดประตูดวงดาว
เทศการการแข่งขันข้ามหุบเขาลี้ลับซึ่งจะใช้เวลา 7 วันอย่างเป็นทางการ
ผู้คนหลายล้านคนเริ่มข้ามประตูดวงดาว และเข้าสู่หุบเขาลี้ลับ
"อย่าเร่งรีบให้พวกเขาไปก่อน"
เจียนเจียกล่าวขณะกอดอก
ทั้งกลุ่มรอ
กลุ่มชนชั้นสูงที่มีจูยานานร่วมอยุ่ด้วยก็ดูเหมือนจะไม่รีบร้อน พวกเขารอจนเกือบทุกคนเข้าไปและเริ่มออกเดินทาง
อย่างไรก็ตาม เจียนเจียยังบอกกับฮั่นหลางและคนอื่น ๆ ให้รอต่อไปอีกหน่อย
"เอาล่ะ เราสามารถไปในตอนนี้ได้แล้ว
อย่าคิดว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์ถ้าเจ้าเข้าประตูดวงดาวก่อน หุบเขาลี้ลับมีความซับซ้อนมาก
เจ้าจะรู้สึกโชคดีที่มีข้า" เจียนเจียกล่าวออกไปด้วยความภาคภูมิใจ
ในที่สุดกลุ่มของ
ฮั่นหลาง ก็เข้าประตูดวงดาว เมื่อพวกเขาออกมาจากประตูพวกเขาก็มองเห็นจักรวาล
หุบเขาลี้ลับ เป็นเพียงชื่อที่เรียก
แต่เดิมมันเป็นเพียงวงแหวนดวงดาว มันล้อมรอบไปด้วยดาวเคราะห์เป็นวงกลม
ดังนั้นการเดินทางข้ามหุบเขาลี้ลับ จึงเป็นการเดินทางเป็นเส้นรอบวงกลม ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ไม่สำคัญ
"หยุดที่นี่ ข้าต้องตรวจสอบแผนที่"
เจียนเจียหยุดกลุ่มนี้อีกครั้ง
ในขณะเดียวกันกลุ่มอื่น
ๆ ส่วนใหญ่ก็ได้เริ่มเดินทางแล้ว พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะไปทางด้านขวาซึ่งเต็มไปด้วยทรายสีแดงและเนินเขา
เจียนเจียนำเครื่องมือที่ดูซับซ้อนออกมา
ฮั่นหลางเดินไปข้างหน้าและเห็นเส้นทางของหุบเขาลี้ลับ บนหน้าจอมันชัดเจนมากกว่าอันที่ฮั่นหลางได้จากการแข่งขัน
ไม่มีใครรู้ว่าเจียนเจียได้สิ่งนี้มาจากที่ไหน
ทันใดนั้น ~
โดยไม่ทราบว่าเทคนิคอะไรที่เจียนเจียทำ
ปรากฏมีลูกศรสีขาวออกมาบนเครื่องมือพร้อมกับแผนที่ มันดูเหมือนกับระบบนำทางแบบใดแบบหนึ่ง
เจียนเจียมีความสุขมาก
ๆ โบกมือให้ทุกคนและพูดว่า "ทุกคนตามข้ามา อย่าหลงทางเสียละ"
จากนั้นเจียนเจียก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น
ด้วยเครื่องมือนำทางของเธอ ทุกคนตามเธออย่างใกล้ชิด
ฮั่นหลางค่อย ๆ ขมวดคิ้ว
ขยับมือของเขาไปหาแลนซ์และขอให้เขามาใกล้ ๆแล้วปล่อยจิ้งจอกเงิน
"อย่าปล่อยให้
เจียนเจียรู้ เจ้าไปที่ด้านหน้า สะกดรอยให้ห่างจากกลุ่มราว ๆ 10 กิโลเมตร"
ฮั่นหลางบอกกับแลนซ์
"เข้าใจแล้ว"
แลนซ์พยักหน้าแอบซ่อนตัวอยู่เงียบ
ๆ และหายตัวไปจากในกลุ่ม
ฮั่นหลางยังกล่าวกับจิ้งจอกเงินว่า
"คู่หูตัวน้อย ภารกิจของเจ้าคือเพื่อให้แน่ใจว่ายังมีการติดต่อระหว่างแลนซ์กับกลุ่ม
สถานที่นี้มีความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ข้าต้องการให้เจ้าสะกดรอยตามแลนซ์ ซึ่งแลนซ์ก็มีหน้าที่สะกดรอยเช่นเดียวกัน"
ชี่ ~
จิ้งจอกเงินตบหน้าอกสัญญาว่าจะทำภารกิจให้เสร็จสิ้นและหายตัวไปในหุบเขาเช่นกัน
ฮั่นหลางยังเรียกไห่เซียวหลินและบ่อยา
"เจ้าสองคนดูแลกลุ่ม
อย่าให้ใครหายไประหว่างทาง" ฮั่นหลางบอกทั้งสองคน
"ไม่ต้องห่วง!"
"เราสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้!"
หลังจากนั้นฮั่นหลางได้ปล่อยสัตว์พันธุกรรมของเขาเพื่อปกป้องกลุ่มทางด้านซ้ายและด้านขวา
อย่างเงียบ ๆ ตาข่ายเหล็กเคลื่อนที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นตั้งเป็นฐานวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการป้องกัน
มันครอบคลุมถึงสามชั้นทุกทิศทุกทาง นอกจากนี้พวกเขายังมี คลาร์ก หน่วยรบเคลื่อนที่ที่แข็งแกร่ง
เจียนเจียไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับยุทธวิธีเหล่านี้
เธอเป็นผู้นำทุกคนในเรื่องของการเดินทางเพียงอย่างเดียว
อย่างไม่คาดคิดว่าภายใต้การนำของเจียนเจีย
ในช่วงยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบและไม่มีแม้แต่ศัตรูคนเดียว
มีหลายครั้งที่ฮั่นหลางเห็นฝุ่นลอยออกมา
และเสียงต่อสู้ที่รุนแรงจากระยะไกล แต่ระบบนำทางของเจียนเจียก็ทำให้ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงการสู้รบได้อย่างชาญฉลาด
น่าจะเป็นเรื่องน่าเบื่อที่จะผ่านหุบเขาลี้ลับเช่นนี้
แต่ฮั่นหลางคิดอย่างง่าย ๆ เขามีเพื่อนร่วมกลุ่มมากมายที่นี่
เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ มันมีความสำคัญมากกว่าการหาอะไรที่น่าตื่นเต้นในขณะที่เดินทางผ่านหุบเขา
ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะเห็นเจียนเจีย นำทุกคนไปตามเส้นทางที่ชาญฉลาดที่สุด
เช้าวันรุ่งขึ้น
เจียนเจียยังคงเป็นผู้นำทีมทั้งหมด และได้ผ่านไปหนึ่งในสามของเส้นทาง
ตามความเร็วนี้จะใช้เวลาเพียง 4-5วัน แทนที่จะใช้เวลาเจ็ดวันในหุบเขาลี้ลับ
ประสิทธิภาพของระบบนำทางดีมากจนน่าตกใจ
ทีมงานได้พบกับบึงสีดำที่มีฟอง
เจียนเจียยังคงนำทางทุกคนและในที่สุดก็พบสะพาน
สะพานค่อนข้างหยาบและดูเหมือนจะพังลง
"พวกเจ้าทุกคนก้าวตามข้าทุกก้าว
สะพานนี้มีกับดัก เจ้าจะตกลงไปถ้าเจ้าไม่ใส่ใจ มีก๊าซพิษและงูอยู่ในบึงดำที่ข้างล่างนั่น"
เจียนเจียสั่งทุกคนเมื่อยืนอยู่ที่ขอบของสะพาน
เจียนเจีย
พาทุกคนกระโดดลงบนสะพาน พื้นผิวของสะพานถูกสร้างด้วยแผ่นหินขนาดใหญ่ ทุกคนจะต้องก้าวลงบนแผ่นกระดานที่ถูกต้องเพื่อข้ามสะพาน
ขณะที่มีคนก้าวลงบนกระดานผิดแผ่น สะพานทั้งสะพานจะยุบพังลงไป
คนเหล่านี้เป็นชนชั้นสูงทั้งหมด
พวกเขากระโดดไปข้างหน้า สำหรับพวกเขามันเป็นสิ่งที่ง่ายไม่ได้ท้าทายเลย นักรบมากกว่าหนึ่งร้อยคนกระโดดไปด้วยกันดูเหมือนทีมตั๊กแตน
ทันใดนั้นเมื่อข้ามสะพานมาได้ประมาณห้าสิบกิโลเมตร
เจียนเจียก็หยุดลงโดยไม่คาดฝัน ทุกคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรออยู่บนสะพาน
ฮั่นหลางเห็นใบหน้าเล็ก
ๆ ของเจียนเจียเปลี่ยนเป็นซีด เขาตกใจและถามออกไปว่า "เจียนเจีย
มีอะไรผิดพลาด?"
ดูเหมือนว่าเจียนเจียอยากจะร้องไห้
แต่ไม่มีน้ำตา เธอถือเครื่องมือที่ซับซ้อนเอาไว้ในมือ ก่อนจะกล่าวว่า
"ระบบนำทาง ... สัญญาณระบบนำทางหายไปอย่างกะทันหัน ข้าไม่ทราบว่าก้าวต่อไปคืออะไร"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น