เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 297 ติดอยู่บนสะพาน

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/



สามวันต่อมาใน เมืองลอร์ดดาว

ในตอนกลางของเมือง ประตูดาวขนาดมหึมาตั้งตระหง่านสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า นักรบหลายล้านคนที่ถูกเลือกให้สามารถเข้าไปในหุบเขาลี้ลับต่างมารวมตัวกันที่นี่ อีกไม่นานพวกเขาทั้งหมดจะถูกส่งเข้าไปในหุบเขาลี้ลับ คนที่ประสบความสำเร็จในการข้ามหุบเขาลี้ลับจะสามารถได้รับตำแหน่งลอร์ดดาว ซึ่งเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองลอร์ดดาว

ผู้ที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมในหุบเขาลี้ลับคือกลุ่มชนชั้นนำจากนักรบ และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา

ไม่มีกฎสำหรับการข้ามหุบเขา ตราบเท่าที่สามารถข้ามหุบเขาได้มันก็นับได้ว่าประสบความสำเร็จ

ถ้าล้มเหลวในการข้ามหุบเขาพวกเขาจะสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าไปในหุบเขาลี้ลับภายใน 5 ปี ดังนั้นบรรดานักรบที่รอคอยต่างเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับโอกาสในการเข้าไปในหุบเขาลี้ลับ แต่มันยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะข้ามผ่านหุบเขาลี้ลับได้สำเร็จ

"หลังจากเข้าหุบเขาลี้ลับแล้ว เจ้าต้องปฏิบัติตามคำสั่งของข้า มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกตราบเท่าที่ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นนั้นเข้าใจไหม" เจียนเจียพูดคุยราวกับว่าเธอเป็นหัวหน้ากลุ่มของฮั่นหลาง

มีผู้คนมากกว่าร้อยคนรวมทั้งฮั่นหลางเข้าร่วมทีมด้วย

สมาชิกส่วนใหญ่ในฝูงชนเป็นมนุษย์จากทางช้างเผือก แลนซ์ ไห่เซียวหลิน คลาร์ก อี่เว่ยเว่ย และอีกสิบคนที่นำโดยอาจารย์บ้าทั้งสามจากอาณาจักรที่ถูกลืม นอกจากนี้ยังมีกองทัพที่อยู่นอกทางช้างเผือกที่มีบ่อยาเป็นตัวแทน พวกเขาทุกคนรู้จักกัน ในตอนที่เข้าร่วมลานพิพากษาและได้ไปที่สนามรบชายแดนด้วยกัน

เหตุผลหลักที่สามารถรวบรวมผู้คนเหล่านี้จากสถานที่ต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้นั้นล้วนเป็นเพราะฮั่นหลาง อย่างไรก็ตามคนที่รับผิดชอบทีมกลับไม่ใช่เขา แต่เป็นเจียนเจีย

ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนสามารถบอกได้ว่าเจียนเจีย เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ เธออาจจะรู้จักความลับบางอย่างของหุบเขาลี้ลับ ถ้าพวกเขากำลังต่อสู้กับการสู้รบที่นองเลือดโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ทำไมไม่ให้เจียนเจียช่วยเหลือพวกเขา ฮั่นหลางรู้สึกมีความสุขกับทางลัดนี้

ในขณะที่เจียนเจียกำลังเตรียมคำพูดที่จะพูดออกไป ฮั่นหลางได้ใช้เวลานี้มองไปรอบ ๆ

เขาเห็น จูยานาน ผู้ชายคนนี้เคยพยายามฆ่าเขา ดังนั้นเขาจึงนับได้ว่าเป็นศัตรูของฮั่นหลาง

ลูกทีมที่มากับจูยานานนั้นดูแปลกมาก ทุกคนดูเหมือนจะมาจากครอบครัวชนชั้นสูง พวกเขาต่างพูดคุยและหัวเราะอย่างสนุกสนานราวกับไม่มีความหวาดกลัวกับหุบเขาลี้ลับ

พวกเขาก็ดูเหมือนจะรู้จักกับเจียนเจีย พร้อมกับชี้มาที่เขาและกระซิบกระซาบกัน ราวกับการอยู่กับคนอย่างฮั่นหลางแล้วจะเป็นเรื่องที่น่าอายมาก

ฮั่นหลางกำลังพยายามประเมินพลังของกลุ่มจูยานาน เขาพบว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้กับชนชั้นสูงมีลักษณะที่น่ากลัว หลายคนมีแหล่งพลังงานที่ผันผวนอย่างมากซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นระดับของขุนศึก

นอกจากนี้พวกเขาเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมและมีลักษณะพิเศษ ฮั่นหลางมั่นใจว่ากลุ่มเยาวชนชนชั้นสูงเหล่านี้ได้รับการศึกษามาอย่างดี พร้อมกับทรัพยากรที่มีราคาแพงและได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง

ฮั่นหลางเห็นไห่หยวนจากเผ่าพันธุ์สามตา ทีมของเขาเป็นคนที่มาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่ฮั่นหลางมองเห็นเผ่าพันธุ์สามตาจำนวนมากเช่นนี้ สิ่งที่สร้างความสับสนให้เขาก็คือว่า มีเพียงไห่หยวนที่เปิดตาที่สามของเขาในหมู่นักรบหลายร้อยคนจากเผ่าพันธุ์สามตา

หุบเขาลี้ลับเป็นสถานที่รวบรวมชนชั้นสูงทั้งหมด ฮั่นหลางจึงสรุปได้ว่า ไห่หยวน อาจจะเป็นคนเดียวที่เปิดตาที่สามได้อย่างเป็นทางการในหมู่เผ่าพันธุ์สามตาที่อยู่ในเมืองลอร์ดดาว แต่คนที่จะอยู่ในเมืองลอร์ดดาว นั้นน่าจะเป็นชนชั้นสูงที่สุดที่มาจากเผ่าพันธุ์สามตา

ถ้าจากการคาดเดา จำนวนผู้ที่เปิดใช้งานตาที่สามในเผ่าพันธุ์สามตาซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นเผ่าพันธุ์พระเจ้าอาจจะน้อยกว่าที่ฮั่นหลางคาดไว้

ในเวลานี้ เจียนเจียได้พูดคำปราศรัยของเธอเสร็จสิ้นแล้ว เธอเดินมาข้างฮั่นหลาง มองตามสายตาของฮั่นหลางและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า "เจ้ากำลังกังวลเกี่ยวกับคนที่มีสามตา? ไม่ต้องเป็นห่วงข้าอยู่ที่นี่"

ฮั่นหลางรู้สึกว่ามันตลก แต่เขาไม่ได้พูดอะไร และเพียงแค่วางแผนอะไรบางอย่างท่ามกลางความเงียบ

ชูวว ~

ด้วยการเปิดประตูดวงดาว เทศการการแข่งขันข้ามหุบเขาลี้ลับซึ่งจะใช้เวลา 7 วันอย่างเป็นทางการ ผู้คนหลายล้านคนเริ่มข้ามประตูดวงดาว และเข้าสู่หุบเขาลี้ลับ

"อย่าเร่งรีบให้พวกเขาไปก่อน" เจียนเจียกล่าวขณะกอดอก

ทั้งกลุ่มรอ กลุ่มชนชั้นสูงที่มีจูยานานร่วมอยุ่ด้วยก็ดูเหมือนจะไม่รีบร้อน พวกเขารอจนเกือบทุกคนเข้าไปและเริ่มออกเดินทาง อย่างไรก็ตาม เจียนเจียยังบอกกับฮั่นหลางและคนอื่น ๆ ให้รอต่อไปอีกหน่อย

"เอาล่ะ เราสามารถไปในตอนนี้ได้แล้ว อย่าคิดว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์ถ้าเจ้าเข้าประตูดวงดาวก่อน หุบเขาลี้ลับมีความซับซ้อนมาก เจ้าจะรู้สึกโชคดีที่มีข้า" เจียนเจียกล่าวออกไปด้วยความภาคภูมิใจ

ในที่สุดกลุ่มของ ฮั่นหลาง ก็เข้าประตูดวงดาว เมื่อพวกเขาออกมาจากประตูพวกเขาก็มองเห็นจักรวาล

หุบเขาลี้ลับ เป็นเพียงชื่อที่เรียก แต่เดิมมันเป็นเพียงวงแหวนดวงดาว มันล้อมรอบไปด้วยดาวเคราะห์เป็นวงกลม ดังนั้นการเดินทางข้ามหุบเขาลี้ลับ จึงเป็นการเดินทางเป็นเส้นรอบวงกลม ไม่ว่าจะเป็นด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ไม่สำคัญ

"หยุดที่นี่ ข้าต้องตรวจสอบแผนที่" เจียนเจียหยุดกลุ่มนี้อีกครั้ง

ในขณะเดียวกันกลุ่มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็ได้เริ่มเดินทางแล้ว พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะไปทางด้านขวาซึ่งเต็มไปด้วยทรายสีแดงและเนินเขา

เจียนเจียนำเครื่องมือที่ดูซับซ้อนออกมา ฮั่นหลางเดินไปข้างหน้าและเห็นเส้นทางของหุบเขาลี้ลับ บนหน้าจอมันชัดเจนมากกว่าอันที่ฮั่นหลางได้จากการแข่งขัน ไม่มีใครรู้ว่าเจียนเจียได้สิ่งนี้มาจากที่ไหน

ทันใดนั้น ~

โดยไม่ทราบว่าเทคนิคอะไรที่เจียนเจียทำ ปรากฏมีลูกศรสีขาวออกมาบนเครื่องมือพร้อมกับแผนที่ มันดูเหมือนกับระบบนำทางแบบใดแบบหนึ่ง

เจียนเจียมีความสุขมาก ๆ โบกมือให้ทุกคนและพูดว่า "ทุกคนตามข้ามา อย่าหลงทางเสียละ"

จากนั้นเจียนเจียก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น ด้วยเครื่องมือนำทางของเธอ ทุกคนตามเธออย่างใกล้ชิด

ฮั่นหลางค่อย ๆ ขมวดคิ้ว ขยับมือของเขาไปหาแลนซ์และขอให้เขามาใกล้ ๆแล้วปล่อยจิ้งจอกเงิน

"อย่าปล่อยให้ เจียนเจียรู้ เจ้าไปที่ด้านหน้า สะกดรอยให้ห่างจากกลุ่มราว ๆ 10 กิโลเมตร" ฮั่นหลางบอกกับแลนซ์

"เข้าใจแล้ว"

แลนซ์พยักหน้าแอบซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ และหายตัวไปจากในกลุ่ม

ฮั่นหลางยังกล่าวกับจิ้งจอกเงินว่า "คู่หูตัวน้อย ภารกิจของเจ้าคือเพื่อให้แน่ใจว่ายังมีการติดต่อระหว่างแลนซ์กับกลุ่ม สถานที่นี้มีความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ข้าต้องการให้เจ้าสะกดรอยตามแลนซ์ ซึ่งแลนซ์ก็มีหน้าที่สะกดรอยเช่นเดียวกัน"

ชี่ ~
จิ้งจอกเงินตบหน้าอกสัญญาว่าจะทำภารกิจให้เสร็จสิ้นและหายตัวไปในหุบเขาเช่นกัน

ฮั่นหลางยังเรียกไห่เซียวหลินและบ่อยา

"เจ้าสองคนดูแลกลุ่ม อย่าให้ใครหายไประหว่างทาง" ฮั่นหลางบอกทั้งสองคน

"ไม่ต้องห่วง!"

"เราสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้!"

หลังจากนั้นฮั่นหลางได้ปล่อยสัตว์พันธุกรรมของเขาเพื่อปกป้องกลุ่มทางด้านซ้ายและด้านขวา

อย่างเงียบ ๆ ตาข่ายเหล็กเคลื่อนที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นตั้งเป็นฐานวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการป้องกัน มันครอบคลุมถึงสามชั้นทุกทิศทุกทาง นอกจากนี้พวกเขายังมี คลาร์ก หน่วยรบเคลื่อนที่ที่แข็งแกร่ง

เจียนเจียไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับยุทธวิธีเหล่านี้ เธอเป็นผู้นำทุกคนในเรื่องของการเดินทางเพียงอย่างเดียว

อย่างไม่คาดคิดว่าภายใต้การนำของเจียนเจีย ในช่วงยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบและไม่มีแม้แต่ศัตรูคนเดียว

มีหลายครั้งที่ฮั่นหลางเห็นฝุ่นลอยออกมา และเสียงต่อสู้ที่รุนแรงจากระยะไกล แต่ระบบนำทางของเจียนเจียก็ทำให้ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงการสู้รบได้อย่างชาญฉลาด

น่าจะเป็นเรื่องน่าเบื่อที่จะผ่านหุบเขาลี้ลับเช่นนี้ แต่ฮั่นหลางคิดอย่างง่าย ๆ เขามีเพื่อนร่วมกลุ่มมากมายที่นี่ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ มันมีความสำคัญมากกว่าการหาอะไรที่น่าตื่นเต้นในขณะที่เดินทางผ่านหุบเขา ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะเห็นเจียนเจีย นำทุกคนไปตามเส้นทางที่ชาญฉลาดที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้น เจียนเจียยังคงเป็นผู้นำทีมทั้งหมด และได้ผ่านไปหนึ่งในสามของเส้นทาง ตามความเร็วนี้จะใช้เวลาเพียง 4-5วัน แทนที่จะใช้เวลาเจ็ดวันในหุบเขาลี้ลับ ประสิทธิภาพของระบบนำทางดีมากจนน่าตกใจ

ทีมงานได้พบกับบึงสีดำที่มีฟอง เจียนเจียยังคงนำทางทุกคนและในที่สุดก็พบสะพาน สะพานค่อนข้างหยาบและดูเหมือนจะพังลง

"พวกเจ้าทุกคนก้าวตามข้าทุกก้าว สะพานนี้มีกับดัก เจ้าจะตกลงไปถ้าเจ้าไม่ใส่ใจ มีก๊าซพิษและงูอยู่ในบึงดำที่ข้างล่างนั่น" เจียนเจียสั่งทุกคนเมื่อยืนอยู่ที่ขอบของสะพาน

เจียนเจีย พาทุกคนกระโดดลงบนสะพาน พื้นผิวของสะพานถูกสร้างด้วยแผ่นหินขนาดใหญ่ ทุกคนจะต้องก้าวลงบนแผ่นกระดานที่ถูกต้องเพื่อข้ามสะพาน ขณะที่มีคนก้าวลงบนกระดานผิดแผ่น สะพานทั้งสะพานจะยุบพังลงไป

คนเหล่านี้เป็นชนชั้นสูงทั้งหมด พวกเขากระโดดไปข้างหน้า สำหรับพวกเขามันเป็นสิ่งที่ง่ายไม่ได้ท้าทายเลย นักรบมากกว่าหนึ่งร้อยคนกระโดดไปด้วยกันดูเหมือนทีมตั๊กแตน

ทันใดนั้นเมื่อข้ามสะพานมาได้ประมาณห้าสิบกิโลเมตร เจียนเจียก็หยุดลงโดยไม่คาดฝัน ทุกคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรออยู่บนสะพาน

ฮั่นหลางเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียนเจียเปลี่ยนเป็นซีด เขาตกใจและถามออกไปว่า "เจียนเจีย มีอะไรผิดพลาด?"

ดูเหมือนว่าเจียนเจียอยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตา เธอถือเครื่องมือที่ซับซ้อนเอาไว้ในมือ ก่อนจะกล่าวว่า "ระบบนำทาง ... สัญญาณระบบนำทางหายไปอย่างกะทันหัน ข้าไม่ทราบว่าก้าวต่อไปคืออะไร"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น