เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 279 ความต้องการของราชาแฟนตาซีเนปจูน

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/


เมื่อเทคนิคลวงตาที่มหัศจรรย์ได้เริ่มต้น ฮั่นหลางรู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับที่เขาขมวดคิ้ว

ฮั่นหลางไม่เคยเห็นภาพมายาที่มีพลังเช่นนี้มาก่อน ภายใต้สายตาของฮั่นหลาง ป่านับพันไมล์ได้กลายเป็นทุ่งหญ้า หนองน้ำต้นไม้หายไปหมด แม้แต่สัตว์ในป่าก็หายไปด้วย

ภาพลวงตาจะมีผลต่อพื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร? ถ้าฮั่นหลางไม่เห็นด้วยกับตัวเขาเอง เขาก็จะไม่เชื่อ

"เนตรแห่งความมืด เปิด!"

ชูวว ~

ตาขวาของฮั่นหลางกลายเป็นสีดำอีกครั้ง นี่คือการต่อสู้ของเนตรแห่งความมืดกับภาพลวงตา!

เขาล้มเหลว

ฮั่นหลางพบว่าเนตรแห่งความมืดของเขาไม่ได้สามารถแยกพวกมันออกได้!

ภายใต้เนตรแห่งความมืด ฮั่นหลางก็ยังเห็นเป็นทุ่งกว้างใหญ่เช่นเดิม เนตรแห่งความมืดไม่สามารถมองเห็นความซับซ้อนของภาพลวงตาได้!

“เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปไม่ได้!" เสียงตะโกนพร้อมด้วยความสับสนสะท้อนอยู่ในหัวใจของฮั่นหลาง "กลับมา จิ้งจอกเงิน! สิ่งนี้ดูผิดปกติอย่างแท้จริง มันเป็นภาพลวงตาบางอย่างที่ข้าไม่สามารถผ่านไปได้  ปล่อยบรรดาสาวกมืดไปและปกป้องตัวเอง!"

และมันก็ยิ่งน่ากลัวขึ้น เมื่อการเชื่อมต่อระหว่างฮั่นหลางกับจิ้งจอกเงินไดขาดหายไปเมื่อเริ่มต้นภาพลวงตา อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าจิ้งจอกเงินติดอยู่กลางทุ่งหญ้า มันดูเหมือนว่าฮั่นหลางและจิ้งจอกเงินอยู่ในสองมิติที่แตกต่างกัน หนึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง อีกหนึ่งอยู่ในโลกที่สร้างขึ้นโดยภาพลวงตา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ราชาแฟนตาซีเนปจูน เป็นคนเดียวที่สามารถสร้างภาพลวงตาในระดับนี้ได้

คำพูดสุดท้ายของราชาชาส่งผ่านเข้ามาในจิตใจของฮั่นหลาง ราชาแฟนตาซีเนปจูนเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสามราชา อำนาจการต่อสู้ของเขาอยู่ไกลเกินกว่า ราชาชาและราชาแมนดาลา ดูเหมือนว่าสิ่งที่ราชาชาพูดมานั้นเป็นความจริง

ฮั่นหลางจำได้ว่าในดาร์คเน็ตระดับที่สองเขาไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างความเป็นจริงของโลกเสมือนกับโลกแห่งความเป็นจริงได้ นั่นหมายความว่าทักษะที่โดดเด่นของราชาแฟนตาซีเนปจูน มีความคล้ายคลึงกับวิธีที่ดาร์คเน็ตใช้

มีปริศนาที่ซับซ้อนมากเกินไปที่จะแก้ได้ ฮั่นหลางไม่สามารถคิดออกทั้งหมดได้ในเวลานี้

ในขณะเดียวกันบริเวณทุ่งหญ้าที่สร้างขึ้นโดยภาพลวงตา การสมรู้ร่วมคิดของสาวกมืดได้ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์

หลังจากที่ป่าได้กลายเป็นทุ่งหญ้า พลังอันน่ากลัวของภาพลวงตาทำให้รูปลักษณ์ที่ลวงตาของสาวกมืดทุกคนหายไป ฝักเชื่อมทั้งหมดได้รับการเปิดเผยออกมา เหล่าสาวกมืดทั้งหมดอยู่ในชุดเกราะที่มองไม่เห็นของพวกเขา

แม้แต่สาวกมืดก็ไม่ได้ตระหนักว่าเทคนิคภาพลวงตาของราชาแฟนตาซีเนปจูนจะสูงถึงระดับนี้ สาวกมืดสามารถเปลี่ยนรูปแบบยีนของพวกเขาและปลอมตัวเป็นใครก็ตามที่พวกเขาต้องการ แต่ในขณะที่อยู่ในโลกเสมือนที่สร้างขึ้นโดย ราชาแฟนตาซีเนปจูน แม้แต่การลวงตาระดับ DNA ของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทำงาน พวกเขาถูกบังคับให้เปิดเผยตัวเองออกมา

รูปลักษณ์ของสาวกมืดหลังจากที่เปิดเผยออกมา อาจที่จะสามารถอธิบายได้ว่าเป็น 'มนุษย์ไร้หน้า' ร่างกายและอวัยวะของพวกเขาเหมือนกับมนุษย์ แต่ไม่ได้มีอวัยวะประสาทสัมผัสทั้งห้า มันเป็นเพียงใบหน้าที่ราบเรียบ

พวกเขาจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีจมูกหายใจ

เพราะสาวกมืดเป็น 'มนุษย์เทียม' พวกเขาไม่ได้พึ่งพาออกซิเจนเพื่อดำรงชีวิต แท้จริงแล้วชีวิตของพวกเขาถูกสร้างขึ้นโดยเทคโนโลยีฟิวชั่นทางชีวภาพที่แทรกอยู่ภายในเซลล์ร่างกายของพวกเขา สิ่งที่คล้ายกับศูนย์คลื่นสมองของเอสเปอร์ แหล่งพลังงานที่มนุษย์สร้างขึ้น สามารถให้พลังงานกับสาวกมืดได้ถึงร้อยละ 99 มันเหมือนกับแหล่งพลังงานต้นกำเนิด

ราชาแฟนตาซีเนปจูนเปรียบเสมือนกระจกวิเศษที่สามารถเผยตัวตนของสาวกมืดทุกคนออกมา

หลังจากนั้นนักรบเผ่ามายาที่ซ่อนตัวอยู่รอบ ๆ ก็เริ่มค่อย ๆ บีบวงล้อมเข้าหาสาวกมืด

หลังจากช่วงเวลาอันสั้น ในกลุ่มของสาวกมืด พวกเขาตัดสินใจที่จะหลบหนีจากภาพลวงที่เสียเปรียบ พวกเขาทั้งสิบหกคนรวมกันในรูปแบบทีมยุทธวิธีและเริ่มพยายามที่จะฝ่าวงล้อมออกไป

การต่อสู้ได้เริ่มขึ้น สาวกมืดครอบครองพลังแห่งความชั่วร้าย แต่นักรบเผ่ามายายังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ที่หลากหลาย พวกเขาปล่อยแมลงแวมไพร์ที่น่าสยดสยอง สัตว์ประหลาดที่คล้ายกับพังพอนเจาะเข้าไปในพื้นดิน อีกทั้งพวกเขายังเปิดใช้งานสิ่งมีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนวิญญาณบริสุทธิ์ออกมา

ฮั่นหลางได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะห่างไกล เมื่อนักรบของเผ่ามายาและสาวกมืดกำลังจะใช้ทักษะเฉพาะของพวกเขาและทำการต่อสู้เพื่อชัยชนะ ฮั่นหลางก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในค่าย

บางทีอาจเป็นเพราะว่านักรบของเผ่ามายากลัวว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะส่งผลต่ออู่เติ้งเฟิงและทีมผู้ช่วยของเขา คนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ค่ายและกำลังพยายามอพยพพวกเขาออกไป

ในเวลานั้นฮั่นหลางมีทางเลือกสองทางเพื่อกลับไปที่ค่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือไม่ก็หลบซ่อนและทิ้งทีมอู่เติ้งเฟิงและพยายามหาโอกาสค้นหาผลึกบนกลุ่มดาวเคราะห์ที่ 13 ด้วยตัวเขาเอง

หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ฮั่นหลางตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยตัวเองในขณะนี้ ในขณะที่ฮั่นหลางยังคงตกใจกับภาพลวงตาที่มหัศจรรย์ของราชาแฟนตาซีเนปจูน นักรบเผ่ามายาก็กำลังเผชิญหน้ากับสาวกมืดอยู่ ถ้าฮั่นหลางควบคุมสติและวางแผนการที่ดี ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาก็ยังคงมีโอกาส

หลังจากฮั่นหลางคิดอย่างนั้นเขารีบลงไปที่เนินเขา กลับลงไปที่ค่ายและแอบเข้าไปในทีมของอู่เติ้งเฟิง

"เกิดอะไรขึ้นที่นี่?" ฮั่นหลางแกล้งทำเป็นตื่น ส่งเสียงพร้อมกับเดินออกมาจากกระท่อมไม้ซุงและถามอู่เติ้งเฟิง

"อย่าพูดถึงเรื่องนี้ นักรบเผ่ามายาเหล่านี้บอกว่ามีผู้บุกรุกเข้ามา พวกเขาต้องการให้เราย้ายไปยังพื้นที่จำกัด เพื่อคุ้มกันพวกเราได้ดียิ่งขึ้น" อู่เติ้งเฟิงกล่าว

ฮั่นหลางขมวดคิ้ว "พวกเขาไม่ได้บอกว่าคนนอกถูกห้ามไม่ให้เข้ามาใกล้หรอกหรือ?"

"ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่! รอดูไปก่อนและถ้าข้าได้พบกับราชาแฟนตาซีเนปจูนในครั้งหน้า ข้าจะถามเขา! ตอนกลางดึกข้าควรจะนอนได้อย่างไร!" อู่เติ้งเฟิงโบกมือออกมาด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ไม่มีทางอื่น อู่เติ้งเฟิงและทีมผู้ช่วยของเขาต้องปฏิบัติตามยามรักษาการณ์เผ่ามายาไปที่บันไดที่ลอยอยู่ที่ทางเข้า แต่ละคนได้รับผ้าปิดตา พวกเขาเดินต่อไปด้วยความช่วยเหลือของนักรบเผ่ามายา

ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของทีม ฮั่นหลางก็ไม่มีข้อยกเว้น แต่นั่นเป็นเพียงที่ปิดตาที่ทำมาจากหนังเท่านั้น มันไม่สามารถปิดกั้นเนตรแห่งความมืดได้ ไม่ช้าเขาก็พบว่าเขาไม่ได้ถูกนำตัวไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามายาที่อยู่บนยอดเขาที่ราบ

ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามายาเป็นที่ราบบนภูเขาสูง

แท่นบูชาตั้งตระหง่านบนภูเขา ในขณะนั้นราชาที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสามราชาที่ชื่อราชาแฟนตาซีเนปจูน กำลังยืนอยู่ตรงกลางแท่นบูชาโดยใช้ทักษะภาพลวงตาอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา

ราชาแฟนตาซีเนปจูนเป็นชายหนุ่มที่ยังไม่ถึงวัยสามสิบ เขามีริมฝีปากสีแดงและฟันขาว ดูหล่อมาก ในตอนนี้เขายืนอยู่พร้อมด้วยผ้าคลุมขนสัตว์สีดำ มงกุฎเผ่ามายาที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดในตระกูลของเผ่ามายา

ราชาแฟนตาซีเนปจูนยังคงหลับตา มือของเขาสัมผัสกับผลึกสีดำ ร่ายอาคม เส้นเลือดดำบริเวณขมับของเขาปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด

สถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อีกเป็นเวลานาน ในที่สุดราชาแฟนตาซีเนปจูน ได้เปิดตาของเขาขึ้นและถอนลมหายใจออกมา เขาดูเหมือนเหนื่อยนิดหน่อย

นั่นดูโอ้กล่าวออกไปอย่างรวดเร็วว่า "ราชาของข้า ข้าชื่นชมพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่! ภายใต้ภาพลวงตาที่ทรงพลังของท่าน เหล่าผู้บุกรุกที่กล้าบุกเข้ามาไม่สามารถหลบซ่อนได้ ตอนนี้กองกำลังของเราได้บังคับให้พวกเขาเข้าสู่วงล้อมแล้ว มันจะใช้เวลาไม่นานที่เราจะทำลายพวกมันได้!”

ราชาแฟนตาซีเนปจูนเยาะเย้ยและพูดออกมาว่า "ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ข้าไม่รู้ว่าศัตรูเหล่านี้มาจากไหน พวกเขาไม่ใช่มนุษย์หรือเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ที่ข้ารู้จัก ข้าพยายามอย่างสุดความสามารถและขับไล่พวกเขาออกไปเพียงเท่านั้น"

ในขณะเดียวกันมือขวาของราชาแฟนตาซีเนปจูนได้ลูบผลึกสีดำ

นี่เป็นผลึกสีดำแปลก ๆ มันดูคล้ายกับสมองมนุษย์

ราชาแฟนตาซีเนปจูนกล่าวออกมาด้วยเสียงอันลึกซึ้งว่า "ขอบคุณสมบัติล้ำค่านี้ ภาพลวงตาของข้าสามารถเข้าถึงระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่โชคร้ายที่ข้าสามารถใช้พลังงานจากผลึกนี้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าข้าสามารถใช้พลังทั้งหมดของมันได้ ข้าจะไม่ต้องการผู้ช่วยใด ข้าสามารถฆ่าผู้บุกรุกทุกคนได้ด้วยตัวเอง"

นั่นดูโอ้พูดออกมาด้วยความโกรธว่า "ทั้งหมดมันเกิดจากอู่เติ้งเฟิง! ไม่มีใครคาดคิดว่าหลานชายของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่อู่เต๋าจือ จะเป็นเช่นชิ้นส่วนขยะที่ไร้ประโยชน์! ทำไมเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของท่านได้แม้ว่าเราจะเชิญเขามาจากที่ไกล ๆ และยังให้สัญญากับเขาด้วย"

ราชาแฟนตาซีเนปจูนส่ายหัวและพูดว่า "แท้จริงแล้วสารเลวนั่นควรที่จะมีความสามารถในการทำงานได้ แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะทุ่มเทความพยายามทั้งหมดให้กับข้า"

"ลืมไปเถอะ หลังจากปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยผู้บุกรุก ข้าก็เสียความสนใจในการกดดันอู่เติ้งเฟิง ต่อไปนี้เพียงแค่ทำตามที่เจ้าต้องการ ข้าหวังว่าเขาจะสามารถเข้าใจได้ในไม่ช้าว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรหากเขาไม่สามารถทำความต้องการของข้าได้อย่างสมบูรณ์"

นั่นดูโอ้พยักหน้า แสงเย็นเปล่งประกายวาบออกมาจากตาของเขา ก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ราชาของข้าได้โปรดวางใจ ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย"

"ถ้าอู่เติ้งเฟิงไม่สามารถทำตามที่ท่านต้องการ ข้าจะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานราวกับตกนรกในขณะที่ยังมีชีวิต!"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น