เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2561

GDN 261 กลุ่มมือสังหาร





ฮั่นหลางเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว คนที่มีรูปร่างสูงมีชื่อว่าลิปตันและอีกคนที่เตี้ยกว่ามีชื่อว่าดีนี่ ทั้งสองเป็นนักรบในระดับเสมือนขุนศึก

เมื่อตอนที่พวกเขายังหนุ่มก็สามารถอยู่ในระดับเสมือนขุนศึก มันแสดงว่าพวกเขามีพรสวรรค์ที่ดี โชคร้ายที่เมื่อพวกเขามาถึงเมืองลอร์ดดาว การไต่ระดับของพวกเขาก็เริ่มช้าลง นับแต่นั้นมานับเป็นเวลาหลายร้อยปี ระดับของพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่เดิม

เวลาล่วงเลยมาเรื่อย ๆ ลิปตันและดีนี่ก็ยิ่งทุ่มเทอย่างจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ

ฮั่นหลางกล่าวออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "อย่ากังวล ข้าสังเกตคนอื่น ๆ ที่จะไปกับเรา พวกเขาทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งมากและอย่างน้อย 4 คนอยู่เหนือระดับขุนศึก บางทีเวลานี้พวกท่านอาจจะประสบความสำเร็จ"

ดีนี่ ส่ายหน้าและพูดว่า "ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่า ป่าสายลมภูเขาไฟ จะเป็นภารกิจที่มีอัตราการสนับสนุนสูงสุด แต่ความยากลำบากก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่ขัดต่อกฎหากเพื่อนร่วมทีมฆ่ากันเองในสนามรบ ดังนั้นข้าจึงรู้สึกว่าเราไม่มีความหวังมาก"

ฮั่นหลางรู้สึกอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาว่า "ทำไมป่าสายลมภูเขาถึงสามารถให้คนในกลุ่มสามารถฆ่ากันได้?"

ลิปตันอธิบายว่า "เพราะความยากลำบากนั้นสูงเกินไป บางครั้งทีมจะต้องเสียสละสมาชิกไม่กี่คนเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ นั่นจึงเป็นเหตุให้ภารกิจนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นการแสวงหาความเสียสละ ถือว่าดีถ้า 3 หรือ 4 คนสามารถมีชีวิตรอดกลับมา"

ลิปตันอธิบายถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังของภารกิจป่าสายลมภูเขาไฟ ฮั่นหลางพยักหน้าเล็กน้อย เขาเข้าใจได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับตำแหน่งลอร์ดดาวจากภารกิจแบบนี้

ฮั่นหลางยิ้มบาง ๆ ออกมา ก่อนที่จะบอกกับคนทั้งสองว่า "แต่ทั้งหมดพวกเราควรที่จะต้องพยายามอย่างเต็มที่ ถูกต้องหรือไม่? ตราบเท่าที่เราพยายามแล้ว เราไม่ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์เพราะเราได้ทำดีที่สุดแล้ว"

วันรุ่งขึ้นได้มาถึง ฮั่นหลางไม่ได้ไปที่สถานีเปลี่ยน แต่อยู่ในเมืองลอร์ดดาว เพื่อฝึกการปรับแต่งอุปกรณ์ของเขา และเตรียมพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างที่จะต้องใช้ในสนามรบ

เมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันฮั่นหลางไปพร้อมกับดีนี่และลิปตัน ไปยังพื้นที่นอกเมือง พวกเขาทั้งหมดเอารังไหมอนุภาคของพวกเขาออกมาและเดินเข้าไปในมัน ไม่มีใครมาเพิ่ม คนอื่น ๆ อีกเก้าคน พวกเขาอาจจะไปที่พื้นที่อื่น ๆ เพื่อเข้าไปทำภารกิจ

หลังจากการเตรียมตัว ฮั่นหลาง พยักหน้าไปทางชายชราทั้งสองคน พวกเขาทั้งหมดปิดรังไหมอนุภาคของพวกเขา เปิดใช้งานระบบและหลังจากการนับถอยหลังสิ้นสุดลง พวกเขาถูกส่งเข้าสู่ระบบภารกิจ

ชิ้ง ~

ฮั่นหลางเปิดฝารังไหมออกมา และเขาก็เห็นว่าคนอื่น ๆ ได้มาถึงพื้นที่เชื่อมโยงไปถึงภารกิจแล้ว ทรายสีดำพร้อมด้วยสายลมที่พัดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ทุกคนยากที่จะเปิดตาของพวกเขา และด้วยสัญชาตญาณฮั่นหลางเปิดใช้งานเข็มขัดเคลือบพลังงานของเขา

ชูวว ~

ร่างทั้งร่างของฮั่นหลางถูกห่อหุ้มด้วยม่านพลังงานที่สามารถป้องกันได้ในทันที ทรายไม่สามารถทำร้ายใบหน้าของเขาได้ และม่านพลังงานที่ป้องกันก็บางเบาราวกับอากาศ

"น้องชายฮั่นหลางอุปกรณ์ของเจ้าดูทรงพลังมาก มันเป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นชิ้นส่วนของอุปกรณ์ที่สามารถสร้างม่านพลังงานและสามารถควบคุมให้มันเป็นชุดเกราะได้" ลิปตันพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

ฮั่นหลางลังเล "มันเป็นแค่เข็มขัดเคลือบพลังงานเท่านั้น มันควรเป็นอุปกรณ์ที่ธรรมดามาก?"

ดีนี่ ตอบว่า "อย่างน้อยเราสองคนก็ไม่เคยเห็นมัน เจ้าได้อุปกรณ์นี้จากที่ไหน? "

"จากสถานีเปลี่ยน" ฮั่นหลางตอบอย่างตรงไปตรงมา

ดีนี่ และลิปตันก็พึมพำบ่นออกมาว่าพวกเขาไม่เคยเห็นอุปกรณ์เคลือบพลังงานที่สามารถควบคุมได้อย่างประณีตเช่นนี้มาก่อน แต่พวกเขาก็เชื่อว่าฮั่นหลางไม่ได้โกหก พวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้มองอย่างรอบคอบในสถานีเปลี่ยน

อีกอย่างสถานีเปลี่ยนนั้นมีขนาดใหญ่และรายการที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ก็มีนับเป็นล้าน ๆรายการ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีบางรายการที่พวกเขาไม่เคยเห็น พวกเขาทั้งสองกล่าวว่าพวกเขาจะไปที่สถานีเปลี่ยนหลังจากนี้และซื้อมันสำหรับตัวเอง

สมาชิกทั้งสิบสองคนอยู่ที่นี่ทั้งหมด ฮั่นหลางเห็นทุกคนและคาดว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดน่าจะเป็นสองพี่น้อง พี่ชายชื่อภูเขาใหญ่ และน้องชายชื่อแม่น้ำใหญ่ ฮั่นหลางไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการตั้งชื่อหรืออะไร แต่ชื่อเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นชื่อปลอม แต่ไม่มีอะไรที่สามารถตรวจสอบได้ นี่เป็นวิธีที่ระบบแสดงชื่อทั้งสองออกมา

นอกจากนี้ยังมีผู้ชายหัวล้านอีกตัวหนึ่งและชายหลังค่อม เขาอาจจะมีพลังเหนือระดับขุนศึก แต่บรรยากาศรอบตัวของพวกเขาดูเหมือนจะเบาบางกว่าสองพี่น้อง ภูเขาใหญ่และแม่น้ำใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ระดับพลังของพวกเขาอาจจะน้อยกว่าเล็กน้อย

"เราจะทำอะไรในตอนนี้?" ฮั่นหลางถาม

ลิปตัน ตอบว่า "ป่าสายลมภูเขาไฟ รอบแรกคือลม มีองค์ประกอบที่เป็นอันตรายมากมายที่ซ่อนอยู่ในสายลมสีดำนี้และเราต้องวิ่งฝ่าสายลมสีดำนี้ออกไปเพื่อเข้าสู่รอบที่สอง ในป่ามืดเช่นนี้ถ้าเราเลือกทิศทางที่ไม่ถูกต้องและวิ่งเข้าไปในกับดักและสัตว์ร้าย พวกเราก็จะเละ”

ดีนี่ กล่าวออกมาว่า "ข้าขอแนะนำให้ทุกคนเรียงแถวอยู่ในแนวตอนลึกเหมือนกับงู คนหนึ่งนำหน้า ส่วนคนอื่นตามหลัง วิธีนี้เราก็จะสามารถเคลื่อนที่ไปด้วยกันและก็จะไม่กระจัดกระจาย"

ดีนี่ และ ลิปตัน พูดคุยในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างเงียบ ราวกับว่าการผ่านภารกิจป่าสายลมภูเขาไฟนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต้องกังวลใจ

ฮั่นหลางขมวดคิ้วเล็กน้อย สถานการณ์นี้กระตุ้นเขาเล็กน้อยและเขาก็เอ่ยออกมา "ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะนำ พวกเจ้าตามข้าไป"

"ก็ฟังดูดี!"

"อุปกรณ์เคลือบพลังงานของเจ้าสามารถปกป้องเจ้าจากลมและทรายได้ ดังนั้นเจ้าก็สามารถเป็นผู้นำได้"

เมื่อเห็นว่าทุกคนไม่ได้พูดอะไรออกมา และทุกคนต่างคิดอยู่ภายในใจของพวกเขา ฮั่นหลางกัดฟันของเขาเล็กน้อยและเดินตรงเข้าไปในพายุสีดำ ดีนี่และลิปตันติดตามมาทางด้านหลังอย่างใกล้ชิด

หลังจากที่ทั้งสามคนเริ่มขยับ คนอื่น ๆ อีกเก้าคนก็ทำตามอย่างเงียบ ๆ ภายในระยะเวลาอันสั้นดูเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจรูปแบบกลยุทธโดยปริยาย แต่ฮั่นหลางดีนี่และลิปตันก็ยังไม่ได้ทำความเข้าใจกับคนอื่นอีกเก้าคนที่เหลือ

"เนตรแห่งความมืด เปิด!"

ฮั่นหลางใช้วิสัยทัศน์ที่มืดและมองไปรอบ ๆ จากนั้นเขาสัมผัสเบา ๆ ที่จันทราทมิฬ เรียกจิ้งจอกเงินออกมา และกระซิบออกไปว่า "ข้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ซ่อนตัวและคอยตรวจสอบ"

ชูวว ~

จิ้งจอกเงินไต่ลงไปตามกางเกงของฮั่นหลางและหายตัวไปในพายุทรายสีดำในทันทีโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

สิ่งที่ฉลาดอย่างจิ้งจอกเงิน ฮั่นหลางไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดมากนัก เพียงคำแนะนำง่ายๆเพียงบางส่วน และมันก็รู้ดีแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร

ในพริบตาเดียวหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ทีมของฮั่นหลางค่อย ๆ ก้าวเข้าสู่พายุทุกคนห่างกันราวครึ่งเมตรและเดินฝ่าเข้าไปในพายุด้วยรูปแบบคล้ายงู

ในช่วงกลางของทีม ชายวัยกลางคนหัวล้านชื่อว่า ฌาคส์ ได้เดินเข้าหาชายหลังค่อมที่อยู่ข้างหน้าเขา และจากนั้นก็ส่งเสียงของเขาออกมาอย่างเงียบ ๆ โดยใช้พลังงานจากแหล่งต้นกำเนิด "ดูนั่นสิ มีดวงดาวอยู่ตรงหน้า"

ชายหลังค่อมลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับมาด้วยพลังงานต้นกำเนิด "ดาวอะไร?"

"ดาวแคระขาว"

"แสงดาวชี้ไปทางทิศไหน?"

"หลุมดำ"

คนสองคนใช้พลังงานจากแหล่งต้นกำเนิดสื่อสารแทนคำพูดที่ไม่มีใครเข้าใจ มันเป็นรหัสที่ใช้ในการแสดงตัวตนของพวกเขาที่เป็นมือสังหาร

ผู้ชายหัวโล้นยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า "เป็นเรื่องบังเอิญเป้าหมายของเจ้าคือคนคนเดียวกับข้า"

“ฮั่นหลาง?”

"ถูกต้อง"

"ใครว่าจ้างเจ้า?"

"หอควบคุมสัตว์ แล้วเจ้า?"

"สถาบันพีกาซัส"

ทั้งสองต่างเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง แล้วคนที่หลังค่อมก็พูดว่า "ในความเป็นจริง ข้าก็รู้ว่าสามคนนั่น พวกเขาก็เหมือนกับเรา"

"มันเป็นไปไม่ได้ พวกเขากำลังจะจัดการฮั่นหลาง?"

หลังจากไม่กี่วินาที พวกเขาเข้าใจว่าทั้งสามคนก็มีเป้าหทายเป็นฮั่นหลางเช่นกัน พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากหอจิตวิญญาณสัตว์

พวกเขายังสังเกตเห็นว่าอีกสองคนดูเหมือนจะมีภารกิจเดียวกัน หลังจากถามด้วยรหัสมือสังหาร ก็ปรากฏว่าพวกเขาได้รับการว่าจ้างจากสถาบันวิจัยสัตว์พันธุกรรม และเป้าหมายของพวกเขาก็คือฮั่นหลาง

"จะทำอย่างไร? มีพวกเรา 7 คนได้รับการว่าจ้างจาก 4 กลุ่ม เป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือฮั่นหลาง" ผู้ชายหัวล้านพูดออกมาอย่างเงียบ ๆ

"ปฏิบัติตามกฎเก่า เราจับฮั่นหลางและมอบให้กับกลุ่มที่ให้เงินรางวัลสูงสุด"

"เอาล่ะตกลง"

“ตกลง”

"ในเมื่อทุกคนตกลงกันแล้ว นอกจากฮั่นหลางแล้วยังมีตาแก่สองคนอยู่ข้างหน้าและอีกสองคนที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาดูเหมือนจะเป็นปัญหา"

“ไม่ยาก ไม่ต้องกังวลกับตาแก่สองคนนั่น สำหรับคนสองคนที่อยู่ข้างหลังเรา ส่งคนไปอธิบายพวกเขา บอกพวกเขาว่า เราต้องใช้เงิน ให้พวกเขาปิดปาก ไม่อย่างงั้นเราก็จะจัดการพวกเขาเช่นกัน" ชายหัวล้านกล่าว

จากนั้นคนหัวล้านเริ่มค่อยๆเคลื่อนที่ไปตอนท้ายของกลุ่ม ที่ที่สองพี่น้องอยู่

"เฮ้ ดูสิ ใครบางคนต้องการพูดกับเรา" น้องเล็กที่ดูนิ่งสงบหันไปทางพี่ชาย พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น