เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2561

GDN 262 ชายหลังค่อมและมดกินมนุษย์




ชายหัวล้านในทีมของฮั่นหลางที่ชื่อฌาร์ค ได้เดินเข้าไปหาสองคนพี่น้อง และพูดกับพวกเขาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "พวกเราจะจัดการธุระส่วนตัวสักครู่หนึ่ง เจ้าควรที่จะฉลาดและออกไปจากที่นี่ซะ ข้าจะปล่อยให้เจ้าไป!”

สองพี่น้องที่มีชื่อว่า ภูเขาใหญ่และแม่น้ำใหญ่ ทั้งสองชื่อนี้ไม่ได้เป็นชื่อจริงของพวกเขา แต่นั่นก็เป็นชื่อที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของฌาร์ค ใบหน้าของสองพี่น้องกลายเป็นหวาดกลัวและเริ่มสั่น พวกเขาต่างพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก

แม้ว่าฌาร์คจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับความสำเร็จในการข่มขู่สองพี่น้องได้มาอย่างง่ายดาย

ด้วยการฝึกฝนการแยกแยะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมือสังหาร

ฌาร์ค สังเกตท่าทางของสองพี่น้อง และตัดสินว่าพวกเขาไม่ได้แกล้งทำ พวกเขาเป็นเหมือนเสือกระดาษสองตัว ที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด

"ขี้ขลาด" ฌาร์คมองไปที่สองพี่น้องด้วสายตารังเกียจและพูดออกมาว่า "อย่าเพิ่งเดินตามเราไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

"ตกลง ทำตามที่เจ้าต้องการ" สองพี่น้องตอบออกไปอย่างรวดเร็ว

ฌาร์ค ชายหัวล้านเดินกลับไปที่ตอนกลางของทีมและพูดกับชายหลังค่อมที่ชื่อเจนเซ่นว่า "ทุกอย่างได้จัดการหมดแล้ว เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสองคนที่อยู่ด้านหลัง เมื่อมีโอกาส เราจะจัดการกับฮั่นหลาง ก่อนอื่นเราจะฆ่าทั้งตาแก่สองคนนั่น และเมื่อเราจับตัวฮั่นหลางได้แล้ว เราจะฆ่าสองคนขี้ขลาดที่อยู่ด้านหลัง แผนการณ์ทุกอย่างสมบูรณ์"

"เราจะเริ่มต้นเมื่อไหร่?" ชายหลังค่อม เจนเซ่น ถามออกไป

"ไม่ใช่ที่นี่ ลมแรงเกินไปและเต็มไปด้วยฝุ่น ถ้าฮั่นหลางหลุดรอดออกไป มันจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะจับตัวเขา เราจะเริ่มต้นทำงานเมื่อเราออกจากพายุทรายสีดำ บริเวณป่าสนสีดำ เพียงแค่รอคำสั่งของข้า" ฌาร์คกล่าวขณะที่เขาโบกมือดำของเขา

ในเวลาเดียวกันสองพี่น้องที่อยู่ปลายแถวสุด ยังยิ้มแย้มแจ่มใส น้องชายที่ชื่อแม่น้ำใหญ่ กล่าวว่า "ข้าไม่คิดว่าเก้าในสิบสองคนอยากจะฆ่าฮั่นหลาง โชคร้ายที่เขาจะต้องจบชีวิตลงในสถานการณ์เช่นนี้”

พี่ชายที่ชื่อภูเขาใหญ่ ยิ้มเยาะและพูดออกมาว่า "ดี เราฆ่าคนสิบคนตรงหน้าเราทันทีที่เราออกไปจากพายุทรายสีดำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอ้หัวโล้นนั่น ช่างกล้ามาขู่เรา? ช่างไม่เจียมตัวจริง ๆ”

“ดูเหมือนว่าพวกเรากำลังจะออกจากพายุทรายสีดำแล้ว" คนที่เป็นน้องชายรู้สึกแปลกใจสักครู่แล้วก็พึมพำออกมาว่า "มันจะเร็วขนาดนี้เชียวหรือ? ฮั่นหลางค่อนข้างมีความสามารถ"

ภูเขาใหญ่กลับไม่เห็นด้วย "เขาก็จะยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกสักหน่อย ถ้าเรายังอยู่ในพายุทรายสีดำ จากนี้ไปเจ้ารอสัญญาณจากข้า และเราจะทำมันพร้อมกัน"

ถึงแม้ว่าฮั่นหลางจะระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังตัวแค่ไหน เขาก็จะไม่มีทางรู้ว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องการที่จะฆ่าเขา

ชิ้ง ~

ฮั่นหลางวิ่งออกจากพายุทรายสีดำเป็นคนแรก ตามมาด้วยสองผู้อาวุโสลิปตันและดีนี่ และจากนั้นก็เป็นคนอื่น ๆที่ตามออกมา

ฮั่นหลางมองย้อนกลับไป เขาเห็นพายุเฮอริเคนสีดำกำลังม้วนปั่นเม็ดทรายสีดำอย่างบ้าคลั่ง

ป่าสนสีดำที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของฮั่นหลาง มันแตกต่างจากต้นสนบนโลก ต้นสนที่นี่สูงมากแต่ละต้นมีความสูงประมาณหนึ่งร้อยเมตร ลำต้นสีดำและใบสนที่ดูเหมือนเข็มล้วนมีสีดำ บางส่วนของพวกมันร่วงลงบนพื้น ทับกันจนหนาทึบปกคลุมไปทั่วพื้นดิน มันให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มอยู่ใต้ฝ่าเท้าของฮั่นหลาง

ฮั่นหลางไม่ได้หยุดอยู่กับที่ เขายังคงเป็นผู้นำทีม เดินตรงไปข้างหน้าอีกประมาณยี่สิบกิโลเมตร และทิ้งพายุทรายสีดำไว้ข้างหลัง ในที่สุดพวกเขาก็พบลานโล่งและหยุดอยู่ที่นั่น

"เรามาหยุดพักที่นี่ ท่านน่าจะเหนื่อย" ฮั่นหลางพูดกับทั้งสองผู้สูงอายุที่อยู่ข้างหลังเขา

ทั้งสองนักรบแม้ว่าพวกเขาจะอายุมากแล้ว แต่ยังคงมีความสามารถในการเป็นนักรบ พวกเขายังดูหนักแน่นและอดทน พวกเขาไม่ได้บ่นออกมา แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเหนื่อย

อาวุโสลิปตันกล่าวว่า "ไม่จำเป็นต้องหยุดพักเพียงเพราะพวกเราสองคน พวกเรายังสามารถไปต่อได้อีกสักพักหนึ่ง"

ฮั่นหลางเปิดกล่องใส่ยาอัตโนมัติส่งมอบยาสองเม็ดให้กับพวกเขาและพูดออกมาว่า "อย่าพูดอีกเลย สักวันข้าก็จะต้องแก่ตัวลงไป ในทางกลับกัน ข้ารู้สึกเหมือนป่าสนสีดำดูเหมือนจะมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง เราจะหยุดที่นี่สักพัก เพื่อที่ข้าจะสามารถเลือกทิศทางของการก้าวต่อไปของเราได้"

สิ่งที่ฮั่นหลางกล่าวออกมา มันย่อมเป็นข้อแก้ตัวอย่างแน่นอน ในช่วงแรกที่พวกเขาออกจากพายุทรายสีดำ เขาได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบแล้วด้วยเนตรแห่งความมืด และทิศทางได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพียงข้ออ้างที่จะปล่อยให้ชายชราสองคนนี้ได้หยุดพัก

ดูเหมือนว่าลิปตันและดีนี่จะคิดว่าคำพูดของฮั่นหลางเป็นความจริง ดีนี่หยิบขวดน้ำพลังงานขึ้นมา เมื่อขวดสัมผัสกับริมฝีปากเพียงเล็กน้อย ปรากฏว่ามือของเขาถูกกระแทกอย่างรุนแรง จนขวดหลุดมือของเขา

“ดื่มทำไม! ห้ามหยุด เดินต่อไป! ถ้าเจ้าสองคนแก่จนไม่สามารถเดินต่อไปได้ ก็อย่ามาเป็นภาระของเรา!"

มันเป็นชายหนุ่มผมสีบลอนด์ทองที่ตะโกนออกมา เขาเงียบมาตลอดตั้งแต่เริ่มแรก ทำไมเขาถึงตะโกนออกมาอย่างไม่สมควรในขณะนี้?

ดีนี่และลิปตัน ตกอยู่ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจ พวกเขาอายุมากแล้วไม่มีความสามารถในการสู้รบและความสามารถในการต่อสู้ เมื่อพวกเขายังหนุ่มพวกเขาเคยเป็นนักรบมาตลอดชีวิตและได้ผ่านการดวลที่เฉียดความตายมาหลายครั้ง ความอับอายขายหน้าที่เกิดขึ้นโดยชายหนุ่ม ในขณะที่อายุมากเช่นนี้ มันน่าอายมาก

‘ฮึม’

มันเป็นช่วงเวลาที่ฮั่นหลางทำเสียงออกมาต่อหน้ากลุ่ม เขาชี้ไปที่ป่าสนสีดำที่ไม่มีที่สิ้นสุดและพูดว่า "ไปที่นั่นถ้าทำได้ หรือเพียงแค่ปิดปากของเจ้าซะ"

ฮั่นหลางอยู่ในอารมณ์ไม่ดี ชายหนุ่มผมบลอนด์ทองตกตะลึงและจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาว่า "เจ้าหมายถึงอะไร? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นหัวหน้าทีมนี้? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?"

บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ฮั่นหลางพุ่งเข้าไปหาชายหนุ่มผู้หยิ่งจองหองโดยไม่ได้รอให้เขาพูดจบ  นิ้วมือขยับไปบนจันทราทมิฬ เผยให้เห็นหนวดดาวมฤตยู อาวุธเทพสงคราม

มันเป็นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ไม่มีใครในที่เกิดเหตุคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ชายหนุ่มผมบลอนด์ทองก็ไม่ได้คาดคิดเช่นกัน การยั่วยุของเขาเป็นเพียงแค่กลยุทธ์ แต่ดาบที่ตวัดออกไปของฮั่นหลางไม่ได้เป็นกลยุทธ์ มันพุ่งตรงไปเพื่อหมายเอาชีวิตของชายหนุ่มผมบลอนด์ทอง

ชายหนุ่มผมบลอนด์ทองรีบกระโดดไปข้างหลังด้วยปฏิกิริยาโต้ตอบของเขา และความเร็วในการหลีกเลี่ยงก็ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบ การโจมตีของฮั่นหลางพลาดเป้าไป

อย่างไรก็ตาม หนวดดาวมฤตยูของฮั่นหลาง เป็นอาวุธระดับเทพสงคราม

มันเฉือนออกไปพร้อมกับแสงที่ตีโค้งราวกับเสี้ยวพระจันทร์

โดยสรุปแล้ว ดาบหนวดดาวมฤตยู ไม่จำเป็นต้องแตะต้องศัตรู เพียงแค่เส้นโค้งเสี้ยวพระจันทร์ที่มาพร้อมกับการเฉือนของหนวดดาวมฤตยูก็สามารถฆ่าพวกเขาได้

‘ชิ้ง’

ศีรษะของชายหนุ่มผมบลอนด์ทองก็ถูกตัดออกไปในทันที มันกระเด็นลอยสูงอยู่ในอากาศราวสามเมตร พร้อมกับเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากคอของเขา

ถ้าจะถามว่าเส้นทางปีศาจคืออะไร?

นั่นละมัน!

ถ้าหากชายหนุ่มคนนี้ได้พบกับฮั่นหลางเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาก็จะไม่จบชีวิตลงเช่นนี้

เขาโชคร้ายมาก โชคร้ายจริง ๆ ที่ได้กระตุ้นฮั่นหลางหลังจากที่ฮั่นหลางเข้าใจเส้นทางปีศาจ

ฮั่นหลางกังวลเกี่ยวกับอะไรมากที่สุดในช่วงเวลานั้น?

มันเป็นเพียงหลังจากที่เขาเข้าใจเส้นทางปีศาจ เขาพบว่าเขายังไม่บ้าและชั่วร้ายพอ!

ดังนั้นฮั่นหลางเตือนตัวเองทุกช่วงเวลา ให้เพิ่มความไร้ปราณี ความบ้าบิ่นและความชั่วร้ายให้มากขึ้น

จะเป็นปีศาจที่ชั่วร้ายได้ก็ต่อเมื่อฆ่าให้มากขึ้น!

บางคนมุ่งมั่นที่จะเป็นคนดี อย่างไรก็ตามฮั่นหลางก็มุ่งมั่นที่จะเป็นคนชั่วร้าย!

ตลอดเวลาเขาเป็นคนที่มีระเบียบวินัยกับตัวเองตามมาตรฐานของความชั่วร้าย

ใครก็ตามที่ยั่วยุเขา ก็จะต้องตาย!

นั่นคือเส้นทางที่ตรงไปตรงมา

มีเพียงหกในเจ็ดมือสังหารที่ยังไม่ได้เริ่มต้นที่จะต่อสู้ พวกเขากำลังรอคำสั่งของฌาร์ค อย่างไรก็ตามแม้แต่ฌาร์คก็ยังต้องขมวดคิ้ว สิ่งที่เกิดขึ้น มันเกินความคาดหวังของเขา ฮั่นหลางนี้ค่อนข้างโหดเหี้ยมในสายตาของพวกเขา

"เจ้าทำเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร?" ฌาร์คขมวดคิ้วกับฮั่นหลางและถามออกไป

ชิ้ง ~

ฮั่นหลางตอบออกมาทางสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย

เจ้าต้องการแก้แค้นให้เขา?

ฌาร์คสะดุ้ง ก่อนที่เขาจะส่ายหัวเล็กน้อย

ฮั่นหลาง เดินออกไปสองสามก้าวเพื่อหยิบขวดน้ำของดีนี่ที่ตกอยู่บนพื้นก่อนที่จะส่งมอบมันคืนเจ้าของและกล่าวว่า "ใครก็ตามที่ต้องการที่จะไป ก็ไปซะ เราจะหยุดพัก"

ดีนี่และลิปตัน รู้สึกซาบซึ้งมากเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกไปได้ ฮั่นหลาง ช่วยพวกเขา พวกเขาเพียงแค่อยากให้พวกเขาไม่แก่เกินไปที่จะทำการต่อสู้ แทนที่จะให้ฮั่นหลางดูแลพวกเขา

ชายหัวล้าน ฌาร์ค เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เขากัดฟันของเขา อยากจะส่งสัญญาณให้ทำการโจมตี แต่เขาไม่สามารถตัดสินใจเช่นนั้นได้

ในขณะที่ชายหลังค่อมกลอกตาของเขาและกล่าวออกมาว่า "ข้าก็เหนื่อยเช่นกัน งั้นเราควรที่จะหยุดพัก"

หลังจากนั้นทุกคนนั่งลง ฮั่นหลางกำลังนั่งอยู่กับชายแก่สองคน ส่วนนักฆ่าทั้งหกคนนั่งอยู่ใกล้กัน ภูเขาใหญ่และแม่น้ำสายใหญ่นั่งห่างออกมาจากคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ พวกเขายังคงทำท่าหวาดกลัว

"รอสักครู่ ให้ข้าเปิดโอกาส" ชายหลังค่อม เจนเซ่น พึมพำออกมา

มือสังหารคนอื่นต่างตกใจ ทั้งหมดเกาหัวของพวกเขาและคิดอยู่ในใจ "เราไม่ควรจะปล่อยให้ชายผมบลอนด์วางกับดักเลย ตอนนี้พวกเขาไม่เพียงแต่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ ต้องเลื่อนออกไป แม้แต่ชายผมสีบลอนด์ก็ตายไปจากเหตุการณ์นี้”

ในสถานการณ์ปัจจุบันมันน่าจะเป็นที่พึงพอใจสำหรับชายหลังค่อม เจนเซ่น เพื่อสร้างกับดักและโอกาศ เจนเซ่นและฌาร์คเป็นสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนักฆ่า

ครู่ต่อมาชายหลังค่อม เจนเซ่น ก็ลุกขึ้นยืน หยิบเอาเม็ดเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นแปลก ๆ ออกมาก่อนจะส่งให้กับคนอื่น ๆ เขากล่าวว่า "ข้าได้รับการบอกกล่าวมาว่า มีมดกินมนุษย์อยู่ในป่าสนแห่งนี้ มันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการเปลี่ยนร่างของมนุษย์ให้กลายเป็นกระดูก"

ข้าเพิ่งได้รับมูลมดมา เก็บมันไว้ มดกินมนุษย์ก็จะเห็นเราเป็นพวกเดียวกันกับมัน พวกมันก็จะไม่โจมตีพวกเรา

ทุกคนเอาก้อนมูลวางใต้จมูกของพวกเขา จนแน่ใจว่ามันมีกลิ่นแปลก ๆ

ดีนี่กล่าวออกมาอีกว่า "ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ในป่าสนสีดำ ไม่ว่าเจ้าจะเคยต่อสู้กับสัตว์อสูรดาวที่แข็งแกร่งมากขนาดไหน มันก็ยังห่างไกลจากความน่ากลัวของมดกินมนุษย์เหล่านั้น พวกมันเล็กจนเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าของเรา สำหรับความเร็วในการกัดแทะของพวกมันก็มีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องบดเนื้อ ถ้าเจ้ามีมูลเหลือ แบ่งให้เราบางส่วนได้หรือไม่"

ชายหลังค่อม เจนเซ่น ยิ้มเยาะ "เจ้าไม่ต้องกังวลเราอยู่ทีมเดียวกัน ทุกคนจะได้รับส่วนแบ่ง"

เมื่อบอกเช่นนั้น เจนเซ่นก็เดินไปหาฮั่นหลาง เหล่านักฆ่าหรี่ตาลง

นักฆ่าให้ความสนใจเป็นอย่างมากที่จะเริ่มโจมตีอย่างลับ ๆ เมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เตรียมตัว ดังนั้นพวกเขาจึงอยากหาโอกาสนั้น ชายผมบลอนด์ทองได้ทำการท้าทายฮั่นหลางอย่างฉับพลัน นั่นก็เป็นแผนการณ์ของพวกเขา

ถ้าหากเป็นสถานการณ์ปกติการฆ่าคน จะไม่ทำให้พวกเขามีปัญหามาก เมื่อพวกเขาพบว่ามีโอกาสก็ไม่ได้ยากมากสำหรับมือสังหารเหล่านี้ที่จะฆ่าฮั่นหลาง

แต่ที่สำคัญที่สุดคือทั้งสี่กลุ่มของนักควบคุมสัตว์ร้าย ต้องการที่จะจับเป็น

นั่นคือเหตุผลที่เหล่านักฆ่า ที่นำโดยชายหลังค่อมและชายหัวล้านจึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง พวกเขาต้องหาโอกาสเพื่อจับเป็นฮั่นหลาง

ในระหว่างนั้นชายหลังค่อม เจนเซ่น ได้เดินเข้าไปหาฮั่นหลาง ด้านหลังของเขาที่ค่อมอยู่เสมอ ในขณะนั้นมันยิ่งค่อมต่ำลงมาจากปกติ บริเวณหลังของเขาชี้ไปทางด้านฮั่นหลาง

ทันใดนั้นเมื่อ เจนเซ่น ห่างจากฮั่นหลางไม่ถึงห้าเมตร ฮั่นหลางก็กระตุกหูของเขา และพุ่งบล็อกเจนเซ่นไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง ไม่ให้ชายหลังค่อมหันหลังให้เขา

หยุด! ฮั่นหลางตะโกนออกไป

ในขณะนั้น เจนเซ่นรู้สึกถึงคลื่นแห่งความหวาดกลัว ที่แผ่ไปทั่วร่างกายของเขา "เขาเห็นกับดักของเราหรือไม่? เป็นไปไม่ได้ เขาจะทำอย่างไร?"

"มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่นี่ เราต้องออกไปจากที่นี่ในทันที" ฮั่นหลางกระโดดขึ้นและพูดออกมาว่า

"แต่มูลมดละ?"

"โยนมันให้ข้า เร็วเข้า!"

ชิ้ง ~

ชายหลังค่อมเจนเซ่นไม่มีทางเลือก เขาโยนมูลมดให้กับฮั่นหลาง

เมื่อฮั่นหลางคว้าเอามูลมดได้แล้ว เขาหยิบมันด้วยนิ้วก่อนจะเก็บมันไว้

หลังจากนั้นชายหลังค่อม เจนเซ่น ถอนหายใจยาวออกมา เขาขยิบตามองไปยังมือสังหารคนอื่น ๆ ลอบส่งสัญญาณอย่างง่ายๆว่า "เรียบร้อย พวกเจ้าเพียงแค่รอและดู!"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น