https://imakeuread.blogspot.com โดยข้าแปลเจ้าอ่าน
อาณาจักรที่ถูกลืม
บริเวณลานกว้างของที่พักของผู้พิทักษ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบสงัด กลุ่มนักคณิตศาสตร์เชิงวิเคราะห์ตัวเลขชั้นนำของทางช้างเผือกกำลังตกอยู่ในอาการตกใจ
พวกเขาแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงโมเดลตัวเลขแสดงข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริง
ผู้พิทักษ์ ลูบเปลือกตาของเขา แม้ว่าเขาจะตาบอดอยู่ก็ตาม
"ไอแซค เจ้าลองคำนวนอีกครั้ง" ผู้พิทักษ์กล่าวกับศิษย์หลักของเขา
เร็ว ๆ นี้ โมเดลตัวเลขกำลังทำการคำนวนผลใหม่
"ศาสตราจารย์ผลที่ได้ก็เหมือนเดิม ความน่าจะเป็นที่ทางช้างเผือกจะถูกทำลายเพิ่มมาเป็น
99% แต่ความเป็นไปได้ที่จะถูกทำลายใน 100 ปีลดลงเหลือ 88%"
ไอแซคกล่าวอย่างระมัดระวัง มันทำให้คนทั้งกลุ่มต่างตกอยู่ในความเงียบ
"แล้วสิ่งนี้มันหมายความว่าอย่างไร?" ผู้พิทักษ์มองขึ้นไปบนฟ้า แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น เขาก็ยังคงมีนิสัยชอบรมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องใช้ความคิด
"ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงข้อมูลก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ข้าคิดว่ามันอาจไม่เป็นเรื่องที่ดีนัก"
ไอแซคกล่าว
“ไม่ แม้ว่าในระยะสั้นทางช้างเผือกจะถูกทำลายอย่างแน่นอน
แต่ข้อมูลในระยะยาวบอกเราว่าทางช้างเผือกอาจรอดพ้นกับความหายนะ” ผู้พิทักษ์ครุ่นคิดและกล่าวว่า
"แผนภูมิแสดงให้เห็นว่าสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เช่นนี้อยู่ในระบบดาวอมตะ
นั่นคือที่ตั้งศูนย์บริหารหลักของพันธมิตร มันอาจจะมีปัญหาภายในพันธมิตรหรือไม่?"
ไอแซค รีบเร่งกล่าวว่า "ตามข้อมูลของ ศูนย์บริหารหลักของพันธมิตร ในวันนี้มีการประชุมลับของสมาชิกถาวร
12 ดาวเคราะห์และฮั่นหลางจากโลกที่เป็นตัวแปรที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในครั้งล่าสุดก็เข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมกำลังฟังรายงานของเขาเกี่ยวกับการสำรวจและสาวกมืด"
“ไม่ มันไม่ถูก” ผู้พิทักษ์กล่าวออกมาว่า "ฮั่นหลางได้รายงานข้อมูลของสาวกมืดแก่พันธมิตรแล้วและนั่นก็น่าจะลดโอกาสการทำลายล้างของทางช้างเผือกในระยะสั้นได้
แต่หลังจากที่ได้รับรายงาน ผลการคำนวนกลับเพิ่มขึ้นมาแทนที่จะลดลง?"
"มันต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน"
ไม่นานนัก มีคนได้รับอีเมลจากศูนย์บริหารหลักของพันธมิตร และคนที่เปิดอีเมล์อ่านก็ร้องออกมาว่า
"อาจารย์! การจับมือกันระหว่างฮั่นหลางและพันธมิตรล้มเหลว! เขาปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งผู้บัญชาการของทีมสอบสวนลับของพันธมิตรและกำลังเดินทางกลับไปยังโลก!"
"มันเป็นเพราะเขา?" ผู้พิทักษ์คิด
ทันใดนั้นสายลมได้พัดพาเอากลิ่นหญ้าผ่านใบหน้าที่แก่ชราของเขา
ผู้พิทักษ์ลังเลราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดคิดอะไรบางอย่าง
"ไม่สามารถสร้างใหม่ ถ้าไม่ถูกทำลาย สิ่งนั้นมันหมายความว่าอย่างไร"
ผู้พิทักษ์พึมพำออกมา
"ศาสตราจารย์ ท่านเข้าใจแล้ว?"
“ใช่ ถ้าหากทางช้างเผือกถูกทำลาย นั่นก็หมายถึงความเป็นไปได้ที่คำนวนไว้ที่
99%" ผู้พิทักษ์กล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นว่า "เราโง่จริง ๆ คิดถึงแต่วิธีการที่จะหยุดยั้งการพังพินาศของทางช้างเผือก
แต่ละเลยความจริงที่สำคัญข้อนี้ไป"
“ความจริง?” ไอแซคถามออกไป
"อารยธรรมทั้งหมดมีการจัดตั้งขึ้นในอาณาจักรสาบสูญที่พังทะลายของอารยธรรมรุ่นก่อนหน้านี้
และหากพันธมิตรทางช้างเผือกถูกทำลาย มันก็จะสามารถสร้างพันธมิตรทางช้างเผือกขึ้นมาใหม่จากซากปรักหักพังเหล่านี้ได้!
นี่เป็นกฎสูงสุดของธรรมชาติ เราโง่เกินไปในการพยายามที่จะป้องกันการล่มสลายของพันธมิตร
ซึ่งในความเป็นจริงมันเป็นการต่อต้านกฎของธรรมชาติ!"
ไอแซ็คยังคงไม่เชื่อในคำพูดของอาจารย์และกล่าวออกมาเสียงดังว่า "แต่อาจารย์เราเตรียมตัวมานานแล้ว!
เรารวบรวมเหล่าเอสเปอร์ที่มีพรสวรรค์ทั้งหมดที่ถูกเนรเทศออกจากทางช้างเผือก ท่านต้องการที่จะยอมแพ้หรือไม่?! ปล่อยให้พันธมิตรพังพินาศ?
ปล่อยให้มันถูกทำลายโดยอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์หรือไม่?"
สีหน้าของผู้พิทักษ์เริ่มผ่อนคลายพร้อมกับกระซิบออกมาว่า "ทางช้างเผือกจะไม่ถูกทำลายไม่ว่าจะผ่านไป
100 ล้านปีหรือล้านล้านปี ที่ผ่านมาทางช้างเผือกจะอยู่ที่นี่เสมอไป นี่เป็นเพียงอารยธรรมที่พังพินาศ
ชีวิตอัจฉริยะที่ครอบครองท้องฟ้าที่สวยงาม"
"การทำลายและการสร้างอารยธรรมไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถป้องกันได้ นั่นเป็นกฎสูงสุดของจักรวาล"
"ทุกอย่างจบแล้ว ความน่าจะเป็น 99%
ทางช้างเผือกพันธมิตรจะถูกทำลายภายในหนึ่งทศวรรษ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดผลไม่ดีต่อเรา
ตั้งแต่วันนี้เราควรมองไปในอนาคต"
"อนาคต?" ไอแซคถามออกไป
"ใช่ อนาคตหลังจากที่พันธมิตรถูกทำลาย ตอนนี้เรามีโอกาส 20%
ในการสร้างอารยธรรมใหม่ในกาแลคซีทางช้างเผือกภายใน 100 ปี
พันธมิตรใหม่ที่ควรจะเป็นทิศทางที่เราทำงานต่อไป และสำหรับพันธมิตรเสื่อมโทรมนี้ก็ให้มันหายไปพร้อมกับประวัติศาสตร์"
หลังจากพูดคำเหล่านี้ ผู้พิทักษ์ ก็ดูเหมือนจะตื่นขึ้น เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ลานกว้างโดยไม่มีใครช่วย
เขาเงยศีรษะขึ้นได้ยินเสียงนกร้องและดอกไม้ที่แกว่งไปมาท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน และเสียงลมหายใจแห่งชีวิต
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้พิทักษ์รู้สึกมีความสุขมาก
เมื่อไม่มีดวงตา การได้ยินจะได้รับการพัฒนาขึ้น
และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้พิทักษ์ เขาไม่เห็นอะไรในโลกนี้
แต่เขาได้ยินเสียงที่ชัดเจน แม้แต่เสียงหัวใจของไอแซคที่กำลังเต้น
“ภารกิจของอาณาจักรที่ถูกลืมสิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้เรากำลังจะเริ่มต้นแผน B
และชื่ออย่างเป็นทางการของภารกิจนี้คือ ผีเสื้อ"
ที่ด้านหน้าของชายตาบอด มีคลื่นแห่งความเศร้าหมองแผ่ออกมา
การเริ่มต้นของการดำเนินภารกิจผีเสื้อหมายความว่าผู้พิทักษ์และผู้สนับสนุนทั้งหมดของเขาจะยอมแพ้
ปล่อยทางช้างเผือกให้เป็นไปตามยถากรรม เพื่อให้ดาวเคราะห์บ้านเกิดของมนุษยชาติถูกครอบครองและถูกทำลาย
ยกเว้นก็แต่ว่า ผู้พิทักษ์ได้คิดทุกอย่างแล้ว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่าวันนี้ ราวกับว่าเขากลับมาเป็นหนุ่มเช่นเดียวกับในตอนที่เขายังไม่ตาบอดและสามารถมองเห็นกาแลคซีอันวิจิตรสวยงามได้
"รับทราบ" ด้วยดวงตาสีแดง ไอแซคกล่าวรับออกไป
ในฐานะที่เป็นนักคณิตศาสตร์ไอแซกเชื่อในเหตุผลมากกว่าอารมณ์
แบบจำลองข้อมูลได้อธิบายทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพันธมิตรจะล่มสลาย
การกระทำใด ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พันธมิตรล่มสลายก็จะไร้ประโยชน์เช่นเดียวกับตั๊กแตนที่พยายามที่จะปิดกั้นรถ
"ข้าอยากพบเด็กหนุ่มคนนี้ ฮั่นหลาง" ผู้พิทักษ์กล่าวกับตัวเอง
ข้าจะส่งคนไปหาเขาไอแซคกล่าว
"ไม่ ข้าจะไปหาเขาบนโลก ข้าไม่เคยแวะไปที่ทางช้างเผือกมานานแล้ว
ก่อนที่ผีเสื้อจะเริ่มดำเนินการ ข้าอยากจะไปอีกสักครั้ง" ผู้พิทักษ์ได้เพิ่มระดับเสียงของเขาในขณะที่พูดออกมา
https://imakeuread.blogspot.com โดยข้าแปลเจ้าอ่าน
โลก เซี่ยงไฮ้
หลี่ฉี่ ในที่สุดก็ไม่ได้กลายเป็นทหาร เพราะเขาไม่มีพลังพิเศษเช่นเดียวกับฮั่นหลาง
เขาไม่ได้เข้าร่วมกองทัพ เพราะเขาต้องการที่จะกลายเป็นนายทหารเอสเปอร์ที่ไม่ใช่ทหารปกติ
ดังนั้นหลี่ฉีจึงปฏิบัติตามข้อตกลงของครอบครัวที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยและบริหารธุรกิจ
ในอนาคตวันหนึ่งเขาจะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวและกลายเป็นนักธุรกิจ
"ฮั่นหลาง!" เมื่อหลี่ฉี่พบฮั่นหลางที่กำลังเดินเล่นอยู่ในมหาวิทยาลัยเขาตะโกนออกไปด้วยความประหลาดใจ
แม้ว่าฮั่นหลางกำลังสวมหมวกเบสบอลและยกปกเสื้อเพื่อปิดถึงคางของเขา หลี่ฉี่ยังคงจำเพื่อนสมัยโรงเรียนมัธยมปลายได้อย่างรวดเร็ว
ร่างอวบเล็กน้อยของหลี่ฉี รีบวิ่งไปหาฮั่นหลาง ราวกับกวางที่มีความสุข
ก่อนที่เขาจะสำรวจตรวจดูเพื่อนของเขา ที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว ฮั่นหลางยังคงมีรอยยิ้มตามปกติบนใบหน้าราวกับว่าเขาจะไม่ทำร้ายคนหรือสัตว์
"หยุดตะโกนได้แล้ว ข้าไม่ต้องการให้ใครรู้" ฮั่นหลางกล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
"เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"เรือรบดวงดาวของข้าลงจอดเมื่อตอนที่ข้าโทรหาเจ้า ข้าซ่อนเรือข้าไว้ ถ้ามันปรากฏที่โรงเรียนของเจ้า มันก็อาจจะได้รับความวุ่นวาย
เราไปที่รถของเจ้าแล้วไปหาอะไรกินกัน"
“ได้สิ! เจ้าอยากกินอะไร?"
"ร้านซาลาเปาไส้เนื้อใกล้อพาร์ทเม้นยังเปิดอยู่หรือเปล่า"
"ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการที่จะกินซาลาเปาไส้เนื้อและดื่มช็อกโกแลตร้อน! เป็นการรวมกันของอาหารที่แย่จริง
ๆ มีแต่เจ้าที่ชอบมัน ไปที่ลานจอดรถ!"
หลี่ฉี่ มีเมอร์ซีเดสเบนซ์ซึ่งเขาได้รับมาจากพ่อของเขา ฮั่นหลางนั่งลงพร้อมกับมองไปตามถนนที่คุ้นเคยในเมือง
"สองปีแล้ว" ฮั่นหลางพึมพำกับตัวเอง
"ใช่แล้ว การเดินทางครั้งนี้ของนายใช้เวลาสองปีเต็ม ๆ
การเปลี่ยนแปลงที่นี่ค่อนข้างมาก" หลี่ฉีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ก้องกังวาน
"ดูเหมือนจะมีคนหนุ่มสาวบนท้องถนนน้อยกว่าเมื่อก่อน?"
"ไม่ใช่เพราะนาย? ปู่สี่บอกข้าแล้วว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการขยายสาขาการผลิตที่สำคัญ และนายก็อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
พวกเขาถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นเพื่อศึกษาหรือเข้าร่วมฝึกทหาร ฝึกอบรมวิชาชีพ
ในตอนนี้ไม่มีพวกขี้เกียจบนโลกอีกต่อไป ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ประชากรหนุ่มสาวจำนวนมากไม่สามารถหางานทำได้"
"ใช่ เมื่อโลกเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรมีเพียง 7 พันล้านคน ในขณะที่ดาวเคราะห์อื่น
ๆ มีประชากรมากกว่าแสนล้านคน ประชากรของเราน่าสงสาร เพราะฉะนั้นเราจึงใช้แรงจูงใจและนโยบายในการเพิ่มจำนวนประชากรและเราทุกคนก็อยู่ในยุคเบบี้บูมเมอร์"
"ช่างเป็นยุคที่น่าอับอาย
ทุกอย่างผ่านไปแล้วและคลื่นลูกใหม่ของยุคเบบี้บูมอยู่ที่นี่ คนหนุ่มสาวบนโลกไม่เพียงพอ
เพียงแค่กองทัพอากาศสหรัฐอย่างเดียวก็ต้องการคนเข้าร่วมถึงหนึ่งพันล้าน
หนึ่งพันล้าน อ่า! และนี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกของแผน"
ฮั่นหลางพยักหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่บ้านมานาน
แต่เขาก็ตระหนักดีถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้าน
ตอนนี้ฐานผลิตเรือธงของโลกและอู่ต่อเรือเคลื่อนที่ของฮั่นหลางกำลังทำงานอย่างเต็มที่เพื่อทำการผลิตเรือรบดวงดาวอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาต้องการทหารจำนวนมากเพื่อสนับสนุนกองทัพเรือขนาดยักษ์ที่อยู่ในแผนของฮั่นหลาง
รถหยุดที่สวนเล็ก ๆ ฮั่นหลางคุ้นเคยกับที่นี่มาก เขาไม่ต้องการที่จะแสดงสีหน้าของเขาในตอนนี้
ดังนั้นเขาจึงบอกให้หลี่ฉีออกไปซื้ออาหาร
นี่คือสวนสาธารณะที่ฮั่นหลางเคยไปเดินเล่นกับแม่ตอนที่เขายังเด็กอยู่
ตอนนี้มันค่อนข้างเก่าแล้ว ขอบของม้านั่งหลุดหายไป ที่รองนั่งของพวกมันหายไปสองสามแผ่น
อย่างไรก็ตามเมื่อฮั่นหลางเดินเข้ามาที่นี่เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างยังคงสวยงาม
สวยงามเท่าที่เคยมีอยู่ในความทรงจำของเขา
หลายครั้งที่เขาต่อสู้กับชีวิตของเขา ฮั่นหลางเพียงต้องการที่จะรักษาความทรงจำของสวนเล็ก
ๆ ที่มีคุณค่าทางจิตใจนี้เอาไว้
ฮั่นหลางหาม้านั่งและนั่งลง เขาเห็นใครบางคนในบริเวณสวน กำลังเดินไปรอบ ๆ สวน
คนส่วนใหญ่ที่เดินเล่นในบริเวณนี้เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่บริเวณแถวนี้ แต่คนเหล่านั้นกลับอยู่ในชุดสูทสีเข้ม
มันดูไม่กลมกลืนกับฝูงชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสวน
ฮั่นหลางมองเห็นภูเขาไขมันที่กำลังมองมา ก่อนที่ฮั่นหลางจะโบกมือให้เขา
"กัปตันเฉิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
ชูววว ~
ภูเขาไขมันลังเลใจเล็กน้อย และในวินาทีถัดมาเขาก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เร็วกว่านักวิ่งที่เร็วที่สุดในโลก
คนนี้คือเฉินจงและตอนนี้เขาเป็นกัปตันทีมยุทธวิธีท้องถิ่น
"อย่านั่ง เก้าอี้ตัวนี้ไม่สามารถรับน้ำหนักของเจ้าได้" ฮั่นหลางหัวเราะและผลักเฉินจงออกไป
ก่อนจะมองที่นาฬิกาและพูดว่า "39 นาทีและ 17 วินาที กัปตันเฉินจง ปฏิกิริยาของทีมยังไม่เร็วพอ
ข้าแอบเข้ามาในโลกเป็นเวลา 40 นาทีก่อนที่ข้าจะถูกตรวจพบ"
สีหน้าของเฉินจงเต็มไปด้วยความแปลกใจและดีใจ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของฮั่นหลางใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
"ข้าล้อเล่น ฮ่าฮ่า ครั้งนี้ข้าขับยานใหม่ มันเกินกว่าที่ข้าคาดคิดที่เจ้าสามารถหาข้าได้ในเวลาอันสั้น"
"นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด!" เฉินจงโยนหมวกลงบนพื้นและตะโกนว่า
"เจ้าเป็นสัตว์ประหลาด! เจ้าไม่สามารถทรมานข้าแบบนี้ได้! ไม่ใช่แค่ข้า แต่กองบัญชาการฝ่ายกลางของสหพันธรัฐทั้งหมดกำลังพยายามตามหาตัวเจ้า!"
“น้องชาย! กลับมาแล้ว! กลับมาแล้ว!" เฉินจงกล่าวขณะที่เขาโบกมือไปยังผู้ติดตามของเขาและดึงอุปกรณ์การสื่อสารทางไกลของเขาออกมาเพื่ออธิบายถึงกองบัญชาการ
ฮั่นหลางนั่งอยู่เงียบ ๆ และเฝ้าดูเฉินจงที่กำลังพยายามจัดการกับสถานการณ์
ไม่นานนักหลี่ฉี่ กลับมาพร้อมกับซาลาเปาไส้เนื้อและช็อกโกแลตร้อน
"เจ้าเดาถูกจริง ๆ ด้วย!" เมื่อหลี่ฉี่เห็นเฉินจงและกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า เฉินจงจะมา ถึงกับบอกให้ข้าซื้อชุดพิเศษอย่างอื่นมาด้วย?"
ฮั่นหลางยิ้ม "ถ้าเขาไม่มา ข้าจะตามไปทรมานเขาด้วยตัวเอง
มากินกันเถอะ ข้าห่างหายจากรสชาตินี้มาเป็นเวลานาน ข้ารู้สึกแย่กับรสชาติของแถบพลังงานเต็มทีแล้ว"
ฮั่นหลางหยิบซาลาเปาไส้เนื้อ กัดเข้าไปคำใหญ่และเริ่มเคี้ยวด้วยความอร่อย เฉินจงและหลี่ฉี่ไม่ค่อยสนใจอาหารนักพวกเขากินเป็นเพื่อนกับฮั่นหลางเท่านั้น
ตัวของเฉินจงใหญ่เกินไป เขาเลยนั่งลงบนพื้นเพราะกลัวว่าเขาจะทำเก้าอี้พัง
"ว่าแต่ว่า เจ้าจะอยู่ที่นี่นานหรือเปล่า?" หลี่ฉี่ถาม
ฮั่นหลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่จะยิ้มออกมาและพูดว่า "อาจจะเป็นเวลานาน"
https://imakeuread.blogspot.com โดยข้าแปลเจ้าอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น