หลังจากที่ไม่ได้นอนเป็นเวลาหลายวันหลายคืน
ฮั่นหลางหยิบพิมพ์เขียวทั้งหมดในความครอบครองของเขามาดูอย่างคร่าวๆ
ตอนนี้สิ่งที่มีค่าที่สุดในมือของฮั่นหลางคือพิมพ์เขียวเหล่านี้
พิมพ์เขียวของยานอวกาศเริ่มต้นราคาที่หมื่นล้านGC พิมพ์เขียวระบบเรดาร์
พิมพ์เขียวของเครื่องปฏิกรณ์ พิมพ์เขียวของการแปลงเครื่องยนต์ พิมพ์เขียวอุปกรณ์เหล่านี้มีราคาถูกกว่าเล็กน้อย
แต่พวกมันก็สามารถขายได้หลายร้อยล้านหรือแม้แต่พันล้าน GC
ถ้าฮั่นหลางต้องการเงิน
พิมพ์เขียวเหล่านี้จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
พิมพ์เขียวจำนวนมากเหล่านี้
ฮั่นหลางต้องการจริงๆหรือ?
ใช่
แต่ไม่มากนักเมื่อได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ฮั่นหลางพบว่ามีแบบจำลอง 68 รูปแบบ โลกต้องการเรือรบหลายประเภทเหล่านี้หรือไม่? ไม่เลย!
เนื่องจากฮั่นหลางมีตัวเลือกที่ดีอยู่แล้ว
นั่นคือเรือโจมตีรุ่นสอง!
หลังจากการศึกษาอย่างละเอียด
ฮั่นหลางได้ตระหนักถึงเรือที่ถูกเรียกว่าเรือโจมตีซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นสองของประเภทเรือโจมตีที่มีขนาดเล็ก
มันมีการออกแบบที่ประณีตไม่ว่าจะเป็น การป้องกัน ความคล่องแคล่ว อาวุธ และเครื่องชี้นำของเรือรบรุ่นสองล้วนมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นหนึ่งและเปอร์เซ็นต์ของการปรับปรุงนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า
100%
ในตอนนี้ฮั่นหลางมีเรือรบดวงดาวรุ่น2 อยู่ 3 แบบ ความสามารถของเรือรบโจมตีคล้ายกับเรือรบขนาดเล็ก ความสามารถของเรือรบโจมตีขนาดหนักนั้นมีความคล้ายคลึงกับเรือลาดตระเวน
และสมรรถนะของเรือรบประจัญบานลาดตระเวนเทียบเท่ากับเรือรบพิฆาต
หากพิจารณาในเรื่องของความความจุ
ที่เกี่ยวกับอาวุธ?
โดยรวมแล้วเรือรบรุ่นสองสามารถทำงานข้ามระดับได้ยกตัวอย่างเช่นเรือรบโจมตีไม่เพียงแต่สามารถโจมตีเรือรบขนาดเล็กได้แล้ว
พวกมันยังแข็งแกร่งพอที่จะทำลายเรือรบระดับเรือพิฆาตซึ่งสูงกว่าหนึ่งระดับ
เรือรบโจมตีขนาดหนักยิ่งดูน่าสนใจมาก
นอกจากที่มันจะสามารถทำลายยานอวกาศระดับเรือรบขนาดเล็กได้ในทันทีแล้ว มันยังสามารถทำลายเรือรบลาดตระเวนที่สูงกว่าระดับหนึ่งได้อย่างง่ายดาย
และเครื่องชี้นำในการส่งยานอวกาศเรือรบก็มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 50%
สำหรับเรือรบประจัญบานลาดตระเวน
มันเป็นรุ่นสองของยานอวกาศแบบสำรวจ มันมีขนาดเล็กลง
แต่ช่วงการตรวจจับและความถูกต้องของมันสูงมากมันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก
ด้วยเหตุนี้ฮั่นหลางจึงสามารถสร้างเรือรบรุ่นสองให้เป็นกำลังหลัก
เรือรบเหล่านี้มีสามารถขับเคลื่อนได้ดีและยังมีประสิทธิภาพในการโจมตีมากขึ้น
และนับตั้งแต่ฮั่นหลางตัดสินใจที่จะผลิตเรือรบดวงดาวรุ่นสอง
ดังนั้นพิมพ์เขียวของเรือรบรุ่นหนึ่งเหล่านี้จึงไม่มีค่ามากนักสำหรับฮั่นหลาง และเขาก็สามารถขายเพื่อแลกกับอุปกรณ์และสิ่งต่างๆที่โลกต้องการได้ในขณะนี้
แม้ว่าฮั่นหลางต้องการที่จะสร้างเรือรบรุ่นหนึ่ง
เขาก็ไม่จำเป็นต้องสร้างทั้งหมด 68 ชนิด แต่เขาต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถนำไปใช้ในทางยุทธศาสตร์และนั่นก็เพียงพอแล้ว
กองปืนใหญ่ ปืนอนุภาค ปืนแม่เหล็ก
ปืนครก ปืนยิงเร็ว อาวุธเลเซอร์ขีปนาวุธปืนใหญ่ มันมีปืนมากมายหลายชนิดที่ใช้กันอยู่ทั่วไป
ถ้าฮั่นหลางตัดสินใจติดตั้งอาวุธเลเซอร์ เขาต้องติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขนาดใหญ่พอที่จะทำให้เกิดพลังงานได้
ถ้าฮั่นหลางเลือกที่จะเตรียมปืนใหญ่อื่นๆ
ก็ต้องมีคลังสินค้าขนาดใหญ่พอที่จะเก็บกระสุนไว้ในเรือ
ปลาและตีนหมี เจ้าไม่สามารถมีมันทั้งสองอย่างได้
(TL:
คำพูดของชาวจีนโบราณนั่นหมายความว่าบางครั้งคุณไม่สามารถมีทั้งสองสิ่งได้
ต้องยอมละทิ้งสิ่งหนึ่งไป) หากเรือรบมีอาวุธที่ต่างกัน เรือลำนี้จะไม่มีผลอีกต่ออีกต่อไป
มันเป็นเหตุผลทางด้านการขนส่งเท่านั้น ซึ่งยากเกินไปที่จะจัดการกับมัน
เหมือนกัน สำหรับระบบเรดาร์
หลังจากติดตั้งเรดาร์ตรวจจับคลื่นแสง มันเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิงที่จะติดตั้งการสแกนคลื่นโน้มถ่วงประเภทอื่น
หลังจากที่ได้ศึกษาและคัดกรองอย่างรอบคอบแล้ว
ฮั่นหลางก็ตระหนักดีว่าแม้จะมีชุดพิมพ์เขียวแบบเต็มรูปแบบ แต่จริงๆแล้วพวกมันค่อนข้างที่จะมีประโยชน์น้อย
ในจำนวน 13000 พิมพ์เขียว ก็จะมีสัก 5000 ชิ้นที่พอที่ใช้งานได้จริงๆ
ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีที่มีพิมพ์เขียวมากมาย?
แน่นอนว่าเนื่องจากพิมพ์เขียวมีคุณค่ามาก
แผ่นดิสก์ขนาดเล็กที่ใหญ่กว่าฝ่ามือของคน แต่สามารถขายได้นับหมื่นล้านเหรียญ สมมติว่าฮั่นหลางยินดีที่จะขายพิมพ์เขียวเรือธง
มันก็จะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นกองทัพเรือรบให้กับโลกได้ง่ายๆ
ฮั่นหลางมองอนาคตที่สดใสของโลกพร้อมด้วยรอยยิ้ม
ก่อนที่จะหยิบไข่มืดออกมา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮั่นหลางนำออกมาจาก
อาณาจักรสาบสูญ A-19 เป็นประโยชน์อย่างมาก
แต่สิ่งนี้ฮั่นหลางยังไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
การโยนมันออกไปก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
เนื่องจากเห็นได้อย่างชัดเจน ในแววตาของคุนหลุน มูลค่าของพิมพ์เขียวทั้งหมดนั้นมีค่าน้อยกว่าไข่ใบนี้
ถ้าไม่ทิ้งมันไป มันก็อาจที่จะเป็นอันตรายมาก มันอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดที่จะฟักไข่ออกมา
มันก็แปลกมาก ไข่นี้ดูเหมือนจะได้เข้าสู่สภาวะจำศีลและฮั่นหลางก็ไม่สามารถปลุกมันได้
หลังจากที่ได้รับการพิจารณาแล้วฮั่นหลางจึงตัดสินใจที่จะเก็บไข่ลงในแหวนมิติและตอนนี้แหวนขนาดเล็กที่สุดของฮั่นหลางถูกสงวนไว้เฉพาะไข่เท่านั้น
ถ้าสิ่งของที่เก็บไว้ในมิติกระทบกระทั่งกับไข่
มันก็อาจทำให้ไข่แตกและอาจปรากฏมีสัตว์ประหลาดออกมา ฮั่นหลางไม่อยากที่จะเผชิญหน้าเหตุการณ์เช่นนั้น
เขาจึงจัดหาที่เก็บมันโดยเฉพาะ
ฮั่นหลางก็แค่อยากจะรอดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในไข่และในกรณีที่มันไม่เลวร้ายเกินไป
มันก็อาจที่จะสามารถได้รับการฝึกฝน ถ้าเป็นเช่นนั้นฮั่นหลางก็จะได้รับแจ็คพ็อตและด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ต้องการที่จะโยนมันทิ้งไปในตอนนี้
......
ขอบของทางช้างเผือก ระบบซาเกร็บ
ฮั่นหลางและพ่อค้าทาสฮอร์ตันตกลงที่จะมาพบกันที่นี่
หลังจากที่เรือรบขนาดเล็ก
เหยี่ยวเวหา ร่อนลงจอดที่สนามบินที่อยู่ห่างไกลบนดาวเคราะห์ดวงที่ 13 ในระบบซาเกร็บ
ฮั่นหลางถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เขาบอกโรดส์ที่มาพร้อมกับเขาว่าไม่ต้องรอให้กลับไปพบแพนยูลิน
เนื่องจากทางด้านของแพนยูลินยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องได้รับการดูแล และจัดการ พวกเขาจำเป็นต้องนำยานอวกาศมังกรบินกลับและซื้อสินค้าจำนวนมากสำหรับโลก
ฮั่นหลางเรียกหาแท็กซี่บินที่อยู่ในบริเวณสนามบิน
และมาถึงหน้าผาที่อยู่ใกล้ทะเลที่พวกเขาตกลงที่พบกัน มันมีศาลาเล็กๆถูกสร้างขึ้นบนหน้าผา
ฮั่นหลางยืนอยู่ที่นี่และมองออกไปในระยะไกล
เขาสามารถมองเห็นเมืองต่างๆในระบบซาเกร็บได้ เมื่อเทียบกับระบบมิราเคิลสตาร์
ความมั่งคั่งของระบบซาเกร็บสามารถอธิบายได้ว่าเป็นดาวเคราะห์ที่ยากจนราวกับสลัม
ท้องฟ้าสีเทามัวๆ อาคารเก่าในเมืองและถนนที่เต็มไปด้วยขยะ
คนที่อาศัยอยู่ที่ขอบของกาแลคซีมักจะมีสภาพความเป็นอยู่ที่แย่มาก
โจรหลายคนที่รู้จักกันดีในโลกมืด มักเลือกที่จะอยู่ในสถานที่เช่นนี้
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยความยากจน แต่มันก็มีเสรีภาพ กฎหมายของพันธมิตรทางช้างเผือกไม่สามารถเข้าถึงสถานที่ที่ยากจนและอยู่ห่างไกลเช่นนี้ได้
มีสัญญาณติดต่อส่งมา ฮั่นหลางนั่งลงที่ศาลา
เพื่อรอคนของฮอร์ตันมารับเขา
ทันใดนั้นฮั่นหลางก็คิดถึงอี่เว่ยเว่ย
เขายังไม่ทราบว่าเด็กสาวคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้... ถ้าไม่มีฮั่นหลางอยู่รอบๆ
เด็กสาวตัวน้อยคนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากห่อตัวเองให้แน่นและมีอิสรภาพน้อยลง
นอกจากนี้ฮั่นหลางยังรู้สึกสับสนมากว่าทำไมอี่เว่ยเว่ย
จึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ สัตว์อสูรมืดทั้งหมดที่อยู่ภายในอาณาจักรสาบสูญ
กลายเป็นบ้าคลั่ง ดูเหมือนกับว่าครอบครัวอี่จะรู้ เช่นเดียวกับที่อี่หัวบอกเขาไม่ให้เข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ
A-19
ฮั่นหลางไม่ทราบว่าครอบครัวอี่มีข่าวหรือว่าพวกเขาคาดการณ์ว่าจะเกิดการสังหารหมู่ในอาณาจักรสาบสูญ
A-19 ในครั้งนี้
"ไปเยี่ยมครอบครัวอี่ระหว่างทางกลับดีหรือไม่?"
ฮั่นหลางครุ่นคิดและสงสัย
ชูวววว ~
ในขณะที่ฮั่นหลางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น
เรือรบขนาดเล็กที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเรือระดับ สุนัขล่าเนื้อ
ได้บินขึ้นมาจากด้านล่างสุดของหน้าผา ประตูเปิดออกและชายร่างใหญ่สวมแว่นตากันแดดกระโดดออกมา
พร้อมกับเดินตรงไปยังด้านฮั่นหลาง เขาต้องเป็นคนที่ทำงานภายใต้พ่อค้าทาสรายใหญ่ ฮอร์ตัน
การค้าบนดาร์คเน็ตไม่สามารถเปิดเผยในที่แจ้งได้
แม้ว่าฮั่นหลางจะมีชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยในการชุมนุมทางช้างเผือก แต่เขาก็ยังกลัวที่จะถูกจดจำได้
ใครจะสามารถแสดงใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขาในระหว่างการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายเช่นนี้? ดังนั้นฮั่นหลางจึงได้ใช้ยาปรับสภาพใบหน้าตอนนี้ของเขาดูคล้ายกับชายวัยกลางคน
และแม้แต่คนที่คุ้นเคยกับฮั่นหลางก็คงจะจำเขาไม่ได้
"ผู้รายงานสายลม?"
ชายร่างใหญ่ที่สวมแว่นตากันแดดถามออกมา
"ใช่ ข้านัดกับศาสตราจารย์ไว้แล้ว"
ฮั่นหลางแลงตอบ
นี่คือสิ่งที่ผู้เล่นยามค่ำคืนบอกกับฮั่นหลาง
ฮอร์ตันไม่ชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่า นาย ดังนั้นฮั่นหลางจึงควรเรียกเขาว่าศาสตราจารย์
"มากับข้า"
ชายร่างใหญ่ที่สวมแว่นตากันแดดพยักหน้าเดินนำฮั่นหลาง
และขึ้นเรือเขาโยนที่ปิดตามาให้ “ปิดตาซะ มันดีกว่าที่จะไม่มองในสิ่งที่เจ้าไม่ควรที่จะเห็น"
ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไรและเขาก็ปิดตาด้วยที่ปิดตานั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น