การเล่นการพนันเปลวไฟเพื่อเปลวไฟ
นอกจากผู้เชี่ยวชาญการปรุงยาระดับสูงสามคนแล้ว
ยังมีคนจากนิกายฝึกสัตว์อสูรอีกผู้หนึ่ง เมื่อรวมเขาและผู้อาวุโวหวู แล้ว
ก็เป็นหกคน เมื่อเค่อเหลียนหยุนกล่าวถึงการกําจัดหยางเฉินออก ก็ไม่ได้มีผู้ใดว่าอะไร
แม้ว่าการกระทําทั้งสามที่มีต่อหยางเฉินดูจะต่างกัน
แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือพวกเขาล้วนปรามาสหยางเฉิน
การกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์ไม่ใช่อะไรที่ผู้บ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณจะมายุ่งด้วย แล้วหยางเฉินควรให้รับโอกาสกับเรื่องนี้ด้วยรึ ?
การที่จะยึดเปลวไฟจากร่างของคนอื่น ปกติแล้วไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เงื่อนไขแรกคือเปลวไฟกับคนผู้นั้นต้องเข้ากันได้
การแย่งชิงโดยใช้กําลังนั้นเป็นไปไม่ได้ คนตายย่อมไม่สามารถครอบครองเปลวไฟได้
ดังนั้นมีเพียงเจ้าของเปลวไฟเป็นผู้ ยินยอมเท่านั้น แต่ในบรรดาผู้คนในที่นี้
ระดับการบ่มเพาะตํ่าสุดที่ระดับผลิดอกทั้งนั้น แล้วเจ้าหนุ่มระดับรวบรวมลมปราณ
จะเอาพลังที่ไหนมาขัดขืน?
คนทั้งสามไม่ได้ปิดบังความต้องการที่จะโจมตีหยางเฉิน ความละโมบปรากฏขึ้นในแววตาทุกคน
ถึงแม้เปลวไฟไม่ได้มีความจําเป็นต่อพวกเขา แต่ลูกหลานศิษย์ของพวกเขาล่ะ
มันมีจํานวนไม่น้อยที่คนรุ่นเยาว์เหล่านั้น ต้องการเป็นเจ้าของเปลวไฟ
เปลวไฟแก่นพิภพนั้นเหมาะสมที่สุดในการกลั่นยาสําหรับเปลวไฟทั้งมวล
มันเป็นสิ่งที่ได้มา ด้วยโชคไม่ได้มาด้วยการแสวงหา
และนี่ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาเองมีเปลวไฟระดับที่สูงกว่าในครอบครองแล้วละก็ พวก
เขาคงยึดเปลวไฟของหยางเฉินไว้เอง
ผู้อาวุโสหวูรู้สึกเสียใจที่นําหยางเฉินมาที่นี่
แรกเริ่มนั้นเขาคิดเพียงเพราะหยางเฉินจะสามารถทําให้การกลั่นและทําให้หญ้าฟ้าครามได้คุณภาพและบริสุทธิ์ที่สุด
โดยมิได้คาดคิดปัญหาที่จะเกิดกับกลุ่มคนเหล่านี้ และโดยเฉพาะข้อเสนอที่ไร้ยางอาย
ของเค่อเหลียนหยุน
แต่ผู้อาวุโสหวูก็ไม่กล้าขัดคนทั้งสาม
เพราะคนทั้งสามเป็นสุดยอดนักปรุงยาในเขตแดนมนุษย์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปรุงยา
เม็ดคว้าสวรรค์โดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา
ทว่าเขายิ่งไม่ยินยอมที่จะเสียหยางเฉินไป เพราะเขาเป็นผู้พามา ถ้า
เป็นเช่นนั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด
มันเป็นปัญหาที่ยุ่งยากมาก ฟากหนึ่งคือยาเม็ดคว้าครองสวรรค์
อีกฟากคือหยางเฉิน และในทั้งสามคนนั้น
เรื่องราวก็มาจากเฮ่อเหลียนหยุนเป็นผู้เสนอแล้วมากระตุ้นต่อมอีกสองคน ถ้าหากเขาจัดการได้ไม่เหมาะสม
ยาเม็ดคว้าสวรรค์คงไม่บังเกิด แต่ถ้าต้องสูญเสียหยางเฉิน เขาจะเอาหน้าไว้ไหน
เขาไม่รู้ จะทําอะไรต่อไปดี
ความลังเลของผู้อาวุโสหวูเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะสามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตาของพวกเขาเอง
หยางเฉินก็เห็นเช่นกัน หยางเฉินรู้สึกยินดีที่เขาเห็นผู้อาวุโสหวูเกิดความลังเล
หลังจากฟังคำพูดว่าเขาเป็นเพียงผู้เยาว์ระดับรวบรวมลมปราณ
ถ้าหากเป็นคนอื่นระหว่างผู้เยาว์ระดับรวมรวบลมปราณและสามนักปรุงยาผู้เชี่ยวชาญผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
พวกเขาคงไม่แม้กระทั่งยกปกตาเพื่อมองหยางเฉิน
แต่หยางเฉินไหนเลยจะยอมตายอย่างง่ายดายอย่างนั้น
เมื่อเค่อเหลียนหยุนมุ่งร้ายต่อเขา
เขาก็ไม่ใส่ใจที่จะต้องทําลายเกียรติเค่อเหลียนหยุน
“ท่านพูดราวกับว่าท่านกลั่นยาเม็ดนั้นเสร็จแล้ว รึท่านจะบอกว่า
ตราบใดที่ข้ายอมมอบเปลวไฟแกนพิภพให้ แล้วผู้อาวุโสเค่อจะทําได้สําเร็จแน่
…ผู้อาวุโสท่านเป็นคนที่ผู้อาวุโสหวูเชิญมา แต่ …ข้าก็เช่นกัน งั้นถ้ามีผู้อาวุโสนักปรุงยาระดับออกผล
มาปรากฏตัวที่นี่ แล้วท่านอาวุโสเค่อจะยอมมอบเปลวไฟให้คนผู้นั้นหรือไม่ ?”
ครั้งแรกที่เขาเอ่ยออกมา
สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนเหล่านั้นเล็กน้อย
“ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นหมู่ตึกของผู้อาวุโสหวูหรือของผู้อาวุโสเค่อ ?”
หยางเฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ขณะสายตาอยู่ที่เฮเหลียนหยุน
“ …หรือว่า ผู้อาวุโสเค่อ สามารถตัดสินใจและจัดการเรื่องราว
ในที่นี่แทนผู้อาวุโสหวูได้ที่นี่ ?”
ขณะหยางเฉินกล่าวจบ สีหน้าเค่อเหลียนหยุนแปรเปลี่ยนเป็นปั้นยาก มันไม่ผิดหรอกที่ผู้อาวุโสหวูเชื้อเชิญเขามา
แต่ที่นี่ ในหมู่บ้านนี้ เป็นอาณาจักรของผู้อาวุโสหวู
กระทั่งจะลงโทษแขกที่ผู้อาวุโสหวูเชื้อเชิญมา มันดูจะเกินหน้าที่ของแขกไปหน่อย
มันราวกับเป็นเจ้าบ้านซะเอง
หยางเฉินกระตุ้นเตือนผู้อาวุโสหวูว่านี่เป็นถิ่นของเขา
คนเหล่านี้เขาเชิญมา แล้วผู้ใดที่จะกล้าล่วงเกินในที่นี่ แล้วนี่พวกเขายังไม่ได้ปรุงยาเลยแต่มาสร้างเรื่องซะแล้ว
สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการควบคุมสถานการณ์ ไม่ใช่เพื่อรักษาหน้าเท่านั้น
เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว ผู้อาวุโสหวูก็รู้สึกว่าผิวหน้าของเขาห่อเหี่ยว
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ หยางเฉินอยู่ในฐานะแขกผู้หนึ่ง
คนทั้งสามก็อยู่ในฐานะแขกเช่นกัน มันไม่เกี่ยวกับระดับการบ่ม เพาะใด ๆ
ทั้งหมดเป็นแค่แขกที่รับเชิญมา มันคงน่าอายมากถ้าแขกทําอะไรเกินเลยกว่าเจ้าบ้าน
ทั้ง ๆ ที่
ในใจของจูเพิงและเติ้งอี้ก็แค่ถูกกระตุ้นโดยวาจาของเค่อเหลียนหยุน
และในตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้บีบคั้นหยางเฉิน เหมือนก่อนหน้านี้
เจ้าเด็กนี่เป็นแค่ระดับรวบรวมลมปราณแต่หาญกล้ากล่าววาจาต่อหน้าระดับผลิดอก
ออกผลอย่างมั่นใจ พวกเขาตอนนี้ต้องประเมินเสียหยางเฉินใหม่
“เจ้า…”
เค่อเหลียนหยุนตระหนกยิ่ง หลังจากจ้องมองหยางเฉินอย่างจะกินเลือดกลืนเนื้อ
ก็หันไปหาผู้อาวุโสหวูและรีบกล่าว
“ผู้อาวุโสหวู ข้าผู้น้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
โลกของการบ่มเพาะให้ความสําคัญกับ นักปรุงยาเป็นอันมาก
ไม่มีผู้ใดอยากเป็นศัตรูกับนักปรุงยา
แล้วนี่ยิ่งเป็นเค่อเหลียนหยุนนักกลั่นยาระดับเขย่าโลกด้วยแล้ว
….แต่วาจาของหยางเฉินนั้น มันก็ถูกต้อง เพราะยายังไม่ได้ปรุง และ
อัตราความสําเร็จก็ไม่สู้จะดีนัก
นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ทั้งสามผู้เชี่ยวชาญปรุงยาต้องมารวมตัวกันที่นี่เพื่อปรึกษาหารือถึงสิ่งต่างๆ
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีการปรุงยาเม็ดคว้าสวรรค์สําเร็จ
และเป็นการเปลี่ยนชีวิตของนักปรุงยานั้น เขาขึ้นสู่โลกแห่ง เซียน
เหลือทิ้งไว้ด้วยสูตรการกลั่นยาที่ไม่ครบถ้วน ดังนั้นการจะกลั่นยาให้สําเร็จ
จึงจําเป็นที่ทุกคนต้องครุ่นคิดร่วมกัน
ถ้าหากเขาเชื่อมั่น
แล้วผู้อาวุโสหวูคงทําบางอย่างตามความต้องการของเค่อเหลียนหยุน
ปัญหาคือเค่อเหลียนหยุนไม่กล้า รับประกันความสําเร็จ
เขาจึงไม่สามารถสร้างความมั่นใจแก่ผู้อาวุโสหวู เมื่อประกอบกับวาจาของหยางเฉิน
เขาจึงไม่มี ทางเลือกมากกว่าต้องชี้แจงให้ฟัง
“เจ้าเด็กหยางเฉินนี้ ชายชราเช่นข้านี่แหละที่เชิญมา
…ก่อนที่ท่านจะพูดอะไร ควรไตร่ตรองก่อน”
ผู้อาวุโสหวูเกิดความขุ่นเคืองภายในใจ
แต่ย่อมรู้ว่าไม่ควรขวางเค่อเหลียนหยุนและเหล่านักปรุงยาในตอนนี้
ดังนั้นเขาสามารถพูดได้เช่นนี้เท่านั้น
เค่อเหลียนหยุนไม่กล้าพูดอะไรอีกได้แต่พยักหน้าเท่านั้น
เขายินนิ่งอยู่กับที่
มองเห็นร่องรอยความโกรธที่ถูกจุดขึ้นในหัวใจของผู้อาวุโสหวูเป็นเพราะคำพูดของหยางเฉิน
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแต่การที่จะหยิกยกมาเทียบกับผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลแล้วจะมากไปเท่าไร? หลังจากนี้พวกเขายังมีโอกาสอีกมากมายที่จะคิดบัญชีกับหยางเฉินที่สร้างปัญหาให้กับเขาในเวลาที่สำคัญนี้
ทันใดนั้นหยางเฉินก็เอ่ยออกมาว่า
“อย่างไรก็ตาม วาจาของอาวุโสเค่อ ทําให้ข้าได้คิด”
เค่อเหลียนหยุนตกใจอย่างยิ่ง ที่ได้ฟังการรับข้อเสนอของหยางเฉิน เขาได้แต่เลิกคิ้ว ไม่รู้ว่าหยางเฉินต้องการสิ่งใดแน่
“พวกท่านผู้อาวุโสน่าจะไม่มั่นใจในตัวข้า
…งั้นให้ข้าผู้เยาว์ได้แสดงเคล็ดลับการควบคุมไฟ เพื่อเรียกความมั่นใจแก่พวก
ท่านสักนิด”
หยางเฉินยังคงมองไปที่เหล่านักปรุงยาและยิ้มพลางเอ่ยต่อไป
“ ถ้าผู้อาวุโสเค่อ ทําได้สําเร็จ
ข้าก็จะยอมมอบเปลวไฟแก่นปฐพีให้ ตามที่ท่านพูด”
พวกนักปรุงยายังจ้องเขม็งอยู่ที่หยางเฉิน …เจ้าเด็กนี้ปัญญาอ่อนหรือกระไร
เมื่อกี้ยังนอบน้อมต่อเค่อเหลียนหยุน แต่ ตอนนี้กล่าววาจาอะไรประหลาดอีกล่ะ?
เค่อเหลียนหยุนหน้าบึ้งในทันที เจ้าหนูระดับรวบรวมลมปราณ
ผู้มีโชคได้ครอบครองเปลวไฟแก่นปฐพีนี่ ไม่รู้จักว่าฟ้าสูง แผ่นดินตํ่า
แล้วยังกล้าท้าทายพลังอํานาจของระดับผลิดอกรึ ? …รึว่ามันสะกดคําว่า ‘ตาย’
ไม่เป็น …ก็แค่ได้ประสบความสําเร็จเล็ก ๆ
นี้ แล้วคิดว่าจะเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอก?
“ในเมื่อเจ้าต้องการแสวงหาความตาย ข้าก็จะมอบมันให้ ผู้อาวุโสหวู
ท่านเห็นหยิ่งยโสของเจ้าเด็กนี่หรือยัง ข้าต้องการให้ท่านอาวุโสหวูเป็นผู้ตัดสิน!”
เค่อเหลียนหยุนกล่าวด้วยสีหน้าซีด แต่มุ่งเป้าไปที่ผู้อาวุโสหวู เมื่อสักครู่หยางเฉินพึ่งทําให้ผู้อาวุโสหวูไม่ไว้หน้าพวกเขา
และมันบังอาจกระตุ้นต่อมพวกเขา
เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกไหนเลยจะมาเสียหน้าต่อเด็กน้อยระดับ
รวบรวมลมปราณ
“หยางเฉิน เรื่องสําคัญคือการกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์นะ”
ผู้อาวุโสเลิกคิ้วกล่าววาจาเตือนหยางเฉินด้วยนํ้าเสียงจริงจัง
“เจ้าควรจะหยุดเพียงเท่านี้”
“ผู้อาวุโสหวู การปรุงยาจําเป็นที่ทุกคนควรจะต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
สิ่งสําคัญที่สุดคือทุกคนต้องดึงความสามารถออกมา ให้มากที่สุด
ถ้าเหล่าผู้อาวุโสไม่ทราบถึงสิ่งที่ข้าสามารถทําได้ ท่านก็จะไม่แบ่งหน้าที่ให้ข้า
มันจะเป็นเหตุไม่ให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดของข้าได้
ดังนั้นข้าเองจึงต้องการให้พวกท่านได้รู้ถึงสิ่งที่ข้าสามารถทำได้”
ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่หยางเฉินยกมาอ้างถึงสิ่งที่เขาทํา
ทําให้ผู้อาวุโสหวูยากที่จะหยุดเขา ตอนนี้เขาทําให้นักปรุงยาทั้งสาม
รู้สึกไม่มีความสุขละที่นําหยางเฉินมาด้วย
แต่ตอนนี้ถ้าเขาทําสิ่งใดก็ดูเหมือนจะทําให้ทั้งสามอึดอัดกว่านี้
“เจ้าควรทําให้ดีที่สุด”
ผู้อาวุโสหวูได้แต่พยักหน้า การปรุงยาเม็ดคว้าสวรรค์เป็นสิ่งสําคัญ
แต่จนบัดนี้เขายังไม่เข้าใจทําไมหยางเฉินต้องทําอย่างนี้ ตอนนี้หยางเฉินหัวเราะกระหยิ่มในใจ
ในชีวิตที่แล้วเขาทราบดีถึงตัวตนและทักษะการกลั่นยาของเค่อเหลียนหยุน
เมื่อครู่เขาได้เริ่มการขัดขวางแล้วและต้องทําให้ถึงที่สุด
และเมื่อใดที่กระบวนการปรุงยาแล้วเสร็จไม่ว่าจะประสบความสําเร็จหรือ ล้มเหลว
แน่ใจได้เลยว่าเขาจะต้องเจอการไล่บี้จากเค่อเหลียนหยุนแน่
ทางที่ดีเขาต้องใช้สถานะและอิทธิพลของผู้อาวุโสหวู มากันไว้
มิฉะนั้นชีวิตนี้คงหาความสงบไม่เจอแน่
…การเป็นศัตรูกับนักปรุงยาระดับผลิดอกก็ไม่ได้แตกต่างกับเป็นศัตรูกับ
นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ในชีวิตที่แล้วหรอก!
เค่อเหลียนหยุน มองหยางเฉินด้วยสายตาที่ชั่วร้าย ในมุมมองของเขาและทุกคนที่นี่ …
หยางเฉินต้องได้รับความพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
แล้ว..เมื่อสูญเสียเปลวไฟแก่นพิภพไปแล้ว หยางเฉินก็ ไร้ซึ่งเหตุผลในการอยู่ที่นี่
แม้เขาจะยังไม่ได้กําจัดหยางเฉินในเวลานี้ ในภายภาคหน้าเขาค่อยเสาะหาหยางเฉินแล้วค่อย
จัดการก็ได้
“ผู้อาวุโส ในเมื่อถ้าข้าเป็นฝ่ายแพ้
แล้วข้าต้องยกเปลวไฟแก่นปฐพีให้กับท่าน”
หยางเฉินหันไปทางเค่อเหลียนหยุนและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ข้ายังไม่รู้สิ่งที่ท่านต้องตอบแทนข้า ถ้าท่านเป็นผู้แพ้
ท่านเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอก
เรื่องแค่นี้คงไม่ถึงกับมาเป็นหนี้ ข้าผู้เยาว์กระมัง?”
“ข้าแพ้น่ะรึ…? เจ้าประเมินตัวเองสูงไปรึปล่าว”
เค่อเหลียนหยุนโมโหมาก ในฐานะนักกลั่นยาที่ชํานาญในการควบคุมเปลวไฟ
ทักษะของเขาจะด้อยกว่าเด็กน้อยระดับ รวบรวมลมปราณได้อย่างไร แต่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกคนอื่น
ๆ และผู้อาวุโสหวู ถ้ากล่าวออกมาเช่นนั้น ก็ดู เหมือนคนใจแคบเกินไป
แม้ว่ามันจะเป็นข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย มันยังไม่สามารถป่าวประกาศออกมาได้
แต่ที่หยางเฉินกล่าวมันก็ถูกต้อง ในเมื่อ เป็นการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียวมีเดิมพัน
มันคงไม่ถูกต้องแน่
“เจ้าอยากได้อะไร ? “
เค่อเหลียนหยุนยิ้มแย้ม ทั้งที่โกรธมาก ๆ ขณะที่คนอื่นล้วนเงียบงัน
ในฐานะนักกลั่นยานั้น นอกเหนือจากการควบคุมดูแลไฟ
แล้วพวกเขาต้องมีความใจเย็นอีกด้วย
ในยามอยู่เบื้องหน้าเตากลั่นยาเมื่อการปรุงยาเริ่มขึ้น
“ในเมื่อข้าเองใช้เปลวไฟของข้ามาเดิมพัน
ผู้อาวุโสเองก็น่าจะใช้สิ่งเดียวกันนี้ …ท่านคิดว่ายังไง ?”
หยางเฉินประกาศความต้องการของเขาและตาจ้องอยู่ที่เค่อเหลียนหยุน
“เจ้าต้องการใช้เปลวไฟแกนพิภพพนันกับไฟพระอาทิตย์แท้จริงรึ”
เมื่อได้ยิน เค่อเหลียนหยุนแทบกระอักโลหิตด้วยความโกรธ
แม้ว่าเปลวไฟแก่นพิภพจะเหมาะสําหรับการกลั่นยาที่สุดในโลกการบ่มเพาะนี้
แต่เมื่อเทียบกับไฟอาทิตย์ที่แท้จริงที่มีระดับสูงกว่าอย่างน้อยสองขั้นแล้วดูไม่สมเหตุสมผลนัก
“ตัวข้าเองแค่ระดับรวบรวมลมปราณ ขณะที่ผู้อาวุโสอยู่ถึงระดับผลิดอก
หรือว่าภายในใจของผู้อาวุโสมีความคิดว่าจะได้รับความพ่ายแพ้?”
แต่หยางเฉินก็ไม่ได้แสดงการเกรงกลัวอารมณ์โกรธนี้แม้แต่น้อย
ช่องว่างของการบ่มเพาะที่ห่างกันมาก ชัยชนะจากการต่อรองก็ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติน
วาจาเหล่านี้ต้องการแหย่เค่อเหลียนหยุนให้เข้ามาติดกับดักของเขา
ในชีวิตครั้งที่แล้ว ไฟพระอาทิตย์แท้จริง มันเป็นเปลวไฟของเขา
เพียงแต่ตอนนั้นเขาต้องหลบหนี ดังนั้นเมื่อเขาได้หาเรื่องเค่อเหลียนหยุนแล้ว
เขาก็จะทําให้ถึงที่สุด หลังจากเรื่องราวต่าง ๆ ในนี้จบ
แน่นอนเฮ่อเหลียนหยุนต้องหาทางกําจัดเขา นั่นล่ะคือผลประโยชน์ตามมาที่หยางเฉินจะได้รับ
“ดี….ดี….ดีมาก….”
เค่อเหลียนหยุนไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้หลังจากถูกหยางเฉินยั่วยุ
เขายังพูดคำว่า 'ดี'
สามครั้ง โดยกัดฟันพูดออกไป
“เด็กน้อย เจ้ากล้ามาก !
หึ..หึ..ลูกวัวเกิดใหม่ย่อมไม่กลัวเสือ…ไม่ต้องกล่าวถึงระดับการบ่มเพาะของเจ้าแล้วข้าชื่นชมเจ้ามากเจ้าหนู”
ทุกคนประหลาดใจกับวาจาที่เพิ่งกล่าวจบของเค่อเหลียนหยุน
แววตาที่เยือกเย็นลุกโชนราวกับสัตว์กระหายเลือด
“ในเมื่อเจ้าร้อนรนขนาดนี้ แล้วข้าจะนิ่งเฉยได้อย่างไร …ดี
เรามาพนันกันด้วยเปลวไฟของเรา”
เขาหันมาประสานมือคารวะผู้อาวุโสหวู หลังกล่าวจบ และพูดต่อไปว่า
“ผู้อาวุโสหวู นี่มิใช่ว่าข้าจะใช้ความมีอาวุโสมาเอาเปรียบ
แต่เป็นเจ้าเด็กนี่ทําให้ข้าต้องทําเช่นนี้ ดังนั้นข้าต้องขอร้องท่านผู้
อาวุโสหวูช่วยเป็นสักขีพยาน”
ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสหวู แม้แต่จูเพิง เติ้งอี้ และฟั่นฉานจากนิกายฝึกสัตว์อสูร
ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหรือหยางเฉินเป็นบ้าไปแล้ว
แต่ในเมื่อเรื่องราวได้บานปลายมาถึงบัดนี้
พวกเขายังไม่เห็นทางออกจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดตอนนี้ได้เลย
แม้แต่ผู้อาวุโสหวูตอนนี้ก็รู้สึกอึดอัดในใจ หยางเฉินพลันหันมาทําท่าคารวะ
“ข้าผู้เยาว์ ขอผู้อาวุโสหวูเป็นพยาน”
เมื่อรู้ว่าเรื่องได้มาถึงจุดที่ไม่อาจถอยกลับคืนมาได้แล้ว
ผู้อาวุโสหวูเพียงพยักหน้าได้เท่านั้น เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“ไม่ว่าสิ่งใดเกิดขึ้น เรื่องราวผลประโยชน์ต่าง ๆ ค่อยว่ากันทีหลัง
แต่การปรุงยาต้องไม่ล่าช้าอีกต่อไป”
เขาเป็นผู้เชิญทั้งหมดมาปรุงยา
เขาจึงไม่ต้องการให้ผู้ใดผู้หนึ่งในนักปรุงยาทั้งสองมาสูญเสียเปลวไฟของตน
ทั้งที่การปรุงยายังไม่เริ่ม
“ขอรับ”
ทั้งหยางเฉินและเค่อเหลียนหยุนล้วนประสานมือคารวะ ทั้งคู่รู้ดีว่า
มันจวนจะถึงขีดจํากัดที่ผู้อาวุโสหวูยอมให้แล้ว
ดังนั้นจึงไม่บังควรคัดค้านใด ๆ
“เจ้าหนู ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าได้ฝึกฝนทักษะการควบคุมไฟมาเพียงพอ”
เค่อเหลียนหยุนจ้องไปที่หยางเฉิน ราวกับมองคนตาย
“ข้าจะรอดู จนกระทั่งเจ้ายอมและนําเปลวไฟแก่นปฐพีมาคารวะข้า”
พี่เฉินกินนิ่มอีกแล้วฮะท่านผู้ชม
ตอบลบลุ้นมากๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบรายได้เสริมมาและ
ตอบลบ