โลกนี้ก็แปลก
บางคนที่คุณเห็นทุกวัน แต่คุณไม่สามารถจำชื่อของพวกเขาได้ แต่บางคนที่คุณได้เจอโดยบังเอิญ
แต่คุณสามารถจดจำได้ตลอดทั้งชีวิต
เมื่ออี่เว่ยเว่ยเห็นฮั่นหลางอีกครั้ง
ภายในใจของเธอรู้สึกแปลกๆอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ มือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอถูกซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อ
เธอกลัวว่าฮั่นหลางจะถูกจับพวกมันอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าความรู้สึกในขณะที่จับมือกับฮั่นหลางจะเป็นเรื่องแย่
แต่อี่เว่ยเว่ยไม่เคยได้รับการสัมผัสจากคนอื่นมาก่อน เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับความใกล้ชิดกับคนอื่น
"ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
ฮ่าฮ่า เราเจอกันอีกแล้ว" ฮั่นหลางยิ้มและพูดออกมาแล้วก็เริ่มมองหาหลันเฟิง มันดูแปลกๆในตอนที่ทั้งคู่กำลังคุยกันในพริบตา
ร่างผอมสูงของหลันเฟิงก็หายตัวไป?
อี่เว่ยเว่ยเดินตามฮั่นหลางและมองไปรอบๆ
เธอถามออกไปในทันทีว่า "เจ้ากำลังมองหาใคร?"
"ใช่" ฮั่นหลางพยักหน้า
"ข้าเพิ่งได้เพื่อนใหม่ เขามีบุคลิกที่น่าสนใจ แต่ในพริบตาเขาก็หายตัวไป บางทีเขาอาจเข้าไปในลานทดสอบแล้ว"
“โอ้? อย่าขยับมีบางอย่างอยู่บนใบหน้าของเธอ"
อี่เว่ยเว่ยรู้สึกตกใจ
แต่ยืนนิ่งโดยไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ปล่อยให้ฮั่นหลางใช้ปลายนิ้วของเขาค่อยๆแตะไปที่ใบหน้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง
ชูววว ~
ใบหน้าเล็กๆของอี่เว่ยเว่ย
กลายเป็นสีแดงในทันที เธอไม่เคยคิดว่า ถึงแม้ฮั่นหลางจะไม่ได้สัมผัสมือของเธอในเวลานี้
แต่เขากลับแตะใบหน้าของเธอ! ข้าควรทำอย่างไร! เขาเริ่มกล้ามากขึ้น!
ฮั่นหลางค่อยๆเป่านิ้วของเขาและพูดว่า
"มันไม่ดีเลยสำหรับเธอที่มีผิวขาวมากๆเช่นนี้ ฝุ่นละอองติดนิดเดียวก็สามารถมองเห็นได้ชัด
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ฝุ่นในโลกเสมือนจริง แต่ก็ยังมีผลกระทบต่อความรู้สึกบางอย่าง"
เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆของอี่เว่ยเว่ยอย่างละเอียด
ฮั่นหลางพยักหน้าเบาๆ และพูดออกมาว่า "ดีขึ้นละ! เอะเดี๋ยวก่อน ทำไมเจ้าถึงหน้าแดง?"
"ข้า... ข้า... ข้า..."
อี่เว่ยเว่ยตะลึงมานานแล้วและเธอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มประโยค
ไม่มีใครสามารถตำหนิเธอได้ อี่เว่ยเว่ยเป็นกรณีที่พิเศษมากเกินไป มันอาจเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับคนอื่นๆ
ถ้าฮั่นหลางจะช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ด้วยการทำความสะอาดเช็ดฝุ่นบางส่วนออกแล้วพวกเขาก็อาจที่จะกล่าวขอบคุณออกมา
แต่สำหรับอี่เว่ยเว่ยนั้นมันดูจะก็มากเกินไป
"ข้าจำได้ว่า เจ้าเคยพูดโดยไม่ติดอ่างมาก่อน?"
ฮั่นหลางขมวดคิ้วและกระซิบ "ไม่ต้องกลัว ข้าไม่กินเจ้าหรอก"
ฟึบ ~
ความคิดของอี่เว่ยเว่ยเกิดลัดวงจร
จนไม่รู้ว่าจะตอบออกมาอย่างไร ซึ่งปกตินั้นเธอจะมีคำพูดที่พร้อมจะตอบโต้อยู่เสมอ อี่เว่ยเว่ยที่ปกติจะดื้อรั้นและหยิ่งอยู่เสมอ
ในขณะนี้ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ทำได้แต่เพียงพูดติดอ่าง
ทั้งฮั่นหลางและอี่เว่ยเว่ย
มองขึ้นไปที่ตัวเลขบนหน้าจอตรงกลางของจตุรัส
ในรอบสุดท้ายในการทดสอบวัดแรงกดดันที่เรียกว่า
หนทางสู่อเวจี เป็นการทดสอบรายบุคคล ในตอนเริ่มต้นขณะนี้มีคนเข้าร่วมแข็งขันนับหมื่นคน
ซึ่งจะเป็นการทดสอบที่ใช้เวลายาวนานถึง 24 ชั่วโมง
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากการแข่งขันก่อนเวลาที่กำหนด
พวกเขาต้องรอจนกว่าจะสิ้นสุดการทดสอบ การฆ่าคนอื่นในระหว่างการทดสอบอาจได้รับคะแนน
และหากสามารถป้องกันตัวเองได้ดีก็จะได้รับคะแนนเพิ่มเช่นกัน
ในระหว่างการแข่งขันมันจะมีการรบกวนในรูปแบบต่างๆ
โดยรวมแล้วนี่คือการทดสอบเพื่อความอยู่รอดที่ยิ่งใหญ่
ผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้งหมดจะต้องผ่านความตึงเครียดสูงเป็นเวลานานถึง 24
ชั่วโมงเนื่องจากข้อผิดพลาดใดๆก็อาจนำไปสู่ชะตากรรมของการถูกตัดสิทธิ์ออกจากการทดสอบ
ในขณะนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมทดสอบเป็นจำนวนทั้งสิ้น
9300 คน พวกเขาต้องการเพียง 700 คนเท่านั้น ในตอนนี้พวกเขาสามารถเริ่มต้นหนทางสู่อเวจีได้
อี่เว่ยเว่ย ตัดสินใจที่จะรีบหนีจากฮั่นหลางไป
และซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนเพราะถ้าเธออยู่กับฮั่นหลางนานกว่านี้ ใครจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เธอเพิ่งได้พบกับฮั่นหลางเพียงแค่สามครั้ง แต่เป็นผลให้ทั้งสองมือเล็กๆของเธอและใบหน้าที่น่ารักโดนสัมผัสโดยฮั่นหลาง
ฮั่นหลางที่ไม่ได้เป็นคนพาลก็ยิ่งน่าเกรงขามกว่าคนที่เลวร้ายที่สุดในสายตาของอี่เว่ยเว่ย
เธอไม่ค่อยเหมาะกับฮั่นหลาง และเธอไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้
"ข้าจะไปทดสอบ!"
ชูววว ~
อี่เว่ยเว่ยกระโดดจากไปเหมือนแมวตัวน้อยๆ
และรีบวิ่งเข้าไปในประตูใหญ่ เธอก้มหน้าลงโดยไม่กล้าที่จะมองหน้าฮั่นหลางอีก
ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไรออกไป
เขามักจะปฏิบัติกับอี่เว่ยเว่ยเหมือนกับสาวน้อยตัวเล็กๆ โดยไม่ทราบว่าการกระทำของเขาอาจดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระในสายตาของอี่เว่ยเว่ย
อีกทั้งฮั่นหลางไม่ได้สงสัยเลยว่า ตัวเขาได้กลายเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา
ฮั่นหลางรู้ว่าคนที่อยู่รอบๆเขาในตอนนี้ต่างมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
ฮั่นหลางรับรู้ว่าพวกคนเหล่านี้กำลังคิดถึงรางวัลค่าหัวของเขาอยู่
"ท่ามกลางคนนับหมื่นคน
อาจจะมีสักสองพันคนที่ต้องการหัวของฉัน แล้วไงละใครจะสน ถ้ามันเป็นรังของมังกรหรือถ้ำเสือ
ข้าก็จะจัดการพวกมันไม่ว่าจะเข้ามาช้าหรือเร็ว" ฮั่นหลางคิด
หลังจากนั้น ฮั่นหลางยิ้มและก้าวเข้าไปในประตูใหญ่ที่ใกล้ที่สุดในการแข่งขันทดสอบแรงกดดันรอบสุดท้าย
......
หึ่ง ~
อี่เว่ยเว่ยแตะไปที่หัวใจด้วยมือข้างหนึ่งและเปิดปากของเธอเพื่อสูดลมหายใจ
ในที่สุดเธอก็สามารถหลบหนีฮั่นหลางที่น่ากลัวออกมาได้ แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่ภายในใจ
"การทดสอบแรงกดดัน
ทำไมพวกเขาถึงทำให้มันดูสมจริงนักนะ!" อารมณ์ของอี่เว่ยเว่ยเริ่มแสดงออกมาอีกครั้ง
เธอเริ่มบ่นเกี่ยวกับผู้จัดงานการทดสอบแรงกดดัน
เมื่อฮั่นหลางจับมือเล็กๆของเธอหรือแตะที่ใบหน้าของเธอ
อี่เว่ยเว่ยก็ไม่สามารถปรับตัวได้เลย ปฏิกิริยาของเธอเกือบจะเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคร้ายแรง
หน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่และเวียนศีรษะ
ชูววว ~
ในรอบสุดท้ายเริ่มขึ้น อี่เว่ยเว่ยได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปที่สนามทดสอบที่มีทางเดินเป็นดินสีเหลืองอยู่ใกล้ทะเลสาบที่ส่งแสงเงาราวกับกระจกในระยะไกล
พร้อมด้วยต้นไม้และเนินเขาที่ดูหนาทึบ
เมื่อมองไปรอบๆ
ผู้เข้าแข่งขันต่างเป็นเอสเปอร์ที่ไม่รู้จักทั้งหมด ไม่มีฮั่นหลางอยู่แถวๆนั้น
ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดอี่เว่ยเว่ยก็รู้สึกโล่งใจ
ตราบเท่าที่เธอไม่พบกับฮั่นหลางเธอก็สามารถเรียกความมั่นใจที่ปกติมีอยู่ออกมาได้ในทันที
ยิ้มออกมาบางๆ ถอดถุงมือออกเผยให้เห็นมือขาวที่อ่อนนุ่มของเธอ พร้อมกับถอดแจ็คเก็ตหนังออก
เผยให้เห็นส่วนหนึ่งของแขนบางสีขาวราวกับดอกบัว
การนับถอยหลังได้สิ้นสุดลงและเอสเปอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆอี่เว่ยเว่ย
ได้เข้าไปในป่าด้านข้างเพื่อซ่อนตัว
นอกจากนี้ยังมีนักสู้ระดับสูงกว่าที่มีความกล้าหาญและมั่นใจมาก คนเหล่านี้โจมตีผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่อยู่รอบตัวพวกเขาในทันทีเพื่อให้ได้คะแนนสูงขึ้น
"ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักและสวยงาม
แต่ความสวยมันก็ไร้ประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้! ถ้าเจ้าต้องการที่จะตำหนิ ก็จงกล่าวโทษระบบที่ส่งเจ้าเข้ามาใกล้กับข้ามากเกินไป!"
ด้านขวามือของอี่เว่ยเว่ยเป็นนักรบที่มีรูปร่างสูงใหญ่
เขาตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าหาเธอ
จากข้อมูลที่ลงทะเบียน เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิแซลลี่ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรของ
พันธมิตรทางช้างเผือก เขาอยู่ในระดับ 5 ดาวขั้นกลาง และอาจได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวเก็งในสนามรบ
นั่นเป็นเหตุผลที่เขามีความเชื่อมั่นในการโจมตีอี่เว่ยเว่ยโดยตรงอย่างไม่ลังเลใจ
นอกจากนี้ข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ของ
อี่เว่ยเว่ย ยังแสดงให้เห็นว่าระดับของเธออยู่ในระดับ 5 ดาวขั้นต้นซึ่งต่ำกว่านักรบจากจักรวรรดิแซลลี่อยู่มาก
ในตอนนี้เธอก็อยู่ใกล้กับเขามากที่สุด ดังนั้นเธอย่อมต้องกลายเป็นเหยื่อของเขาโดยไม่ต้องสงสัย
ตราบเท่าที่เธอไม่ได้เผชิญหน้ากับฮั่นหลาง
ความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของอี่เว่ยเว่ย ก็จะสามาระแสดงได้อย่างเต็มที่ เธอเยาะเย้ยและหันหลังให้ผู้บุกรุกและไม่ได้มองเขา
สถานการณ์ในตอนนี้ดูอันตรายมาก
นักรบคนนั้นมีความสูงอย่างน้อย 2.3 เมตรและน้ำหนักมากกว่า 300 ปอนด์ อี่เว่ยเว่ยที่มีรูปร่างผอมบางราวกับแมวตัวเล็กๆที่อยู่ข้างหน้าเขา
เห็นได้ชัดว่ารูปลักษณ์ของคนทั้วสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ในขณะนี้ นักรบได้ทำการโจมตีโดยกระโดดขึ้นกางแขนออก
กลายร่างเป็นอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับรากของต้นไม้ใหญ่ที่ค่อยๆแพร่กระจายออกไป
สายพันธุ์ไม้!
เขาเป็นเอสเปอร์สายพันธุ์ไม้!
คลื่นนนน ~
เมื่อเถาไม้ที่แต่เดิมคือมือของเขากำลังจะจับอี่เว่ยเว่ย
สายฟ้าสีฟ้าได้ฟาดลงมาจากฟากฟ้า มันฟาดลงไปที่นักรบที่อยู่กลางอากาศโดยตรง!
เขารู้สึกหงุดหงิดเพราะพลังของเขาอยู่ที่ระดับ
5 ดาวขั้นกลาง มีลักษณะที่ทนทานแข็งแกร่งจากธรรมชาติของสายพันธุ์ไม้ เพียงหนึ่งสายฟ้าที่ฟาดลงไปที่เขา
มันไม่เพียงพอที่จะฆ่าเขา
แต่ในอึดใจถัดมา
ฉับพลันปรากฏเสียง บูม! บูม! บูม!
พายุสายฟ้าที่เกิดขึ้นในตอนต้นเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
เพียงหนึ่งลมหายใจ นักรบผู้กล้าหาญคนนี้ได้ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน หากแต่สายฟ้าฟาดยังไม่ได้หยุดจนกว่าร่างของเขาจะถูกย่างอย่างเต็มที่!
ฟิ้ววว ~
อี่เว่ยเว่ยรู้สึกภูมิใจ
เธอเงยหน้าของเธอขึ้นมาราวกับราชินีที่สง่างาม ก่อนที่จะเดินเข้าไปในป่าทางด้านซ้ายของถนน
สองสามนาทีผ่านไป
บูม ~
คนที่พยายามจะทำร้ายอี่เว่ยเว่ยจากด้านหลังได้ถูกฆ่าตายแล้ว
บูม ~
คนที่พยายามจะทำให้เธอประหลาดใจได้ถูกสังหารแล้ว
บูม ~ บูม ~
ใครจะคิดว่าสาวน้อยที่ดูอ่อนแอ
แต่กลับมีความสามารถที่น่าสะพรึงกลัว สายฟ้าฟาดที่เปรียบเสมือนเป็นผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องเธอ
มันพุ่งโจมตีใครก็ตามที่คิดพยายามที่จะโจมตีอี่เว่ยเว่ย
ยังมีพวกที่โชคร้ายไม่กี่คนที่ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีอี่เว่ยเว่ย
พวกเขาเพียงแค่อยู่ใกล้กับเธอ ที่ใดก็ตามที่อี่เว่ยเว่ยเดินไป ผู้คนที่นั่นต่างพากันหลบหนีไปราวกับแตกตื่น
หลีกหนีหาเส้นทางอื่นต่อไป
ใบหน้าสวยของอี่เว่ยเว่ย
แสดงออกถึงความเย่อหยิ่งเล็กน้อย
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของการสู้รบที่รุนแรงในป่าข้างหน้า เธอจึงได้เดินตามเสียงเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
ไม่ไกลเกินไป อี่เว่ยเว่ยได้เห็นการต่อสู้ในป่าโล่ง เอสเปอร์ 7 ถึง 8 คนกำลังรุมต่อสู้กับคนหนึ่ง
แต่คนที่ถูกล้อมรอบมีเทคนิคการต่อสู้อย่างรุนแรง สำหรับอี่เว่ยเว่ยที่ได้เห็นการต่อสู้มานับไม่ถ้วนระหว่างชนชั้นสูงนับตั้งแต่ที่เธอยังเล็กอยู่
เธอก็ไม่สามารถมองผ่านการเคลื่อนไหวของบุคคลนั้นได้
ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะไม่ได้ใช้ท่าทางใดๆ
หากแต่อาศัยสัญชาตญาณของตัวเองในสนามรบ เมื่อมองไปที่เขาเห็นได้ชัดว่ากำลังจะจะโจมตีศัตรูทางด้านซ้ายมือ
แต่ผลที่ตามมาก็คือคนอ้วนทางด้านขวากลับถูกบดขยี้ มันทำให้อี่เว่ยเว่ยตกตะลึง
"น่าสนใจมาก!"
อี่เว่ยเว่ยรู้สึกตกใจ แววตาของเธอส่องแสงเป็นประกายออกมา ขณะที่เธอพูดกับตัวเอง
ชายที่ถูกล้อมรอบใช้พลังออกมาอย่างเต็มศักยภาพ
มันสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่พบเห็น เมื่อกลยุทธ์ของฝ่ายตรงข้ามที่ใช้ประจำไม่มีผลใดๆในการต่อสู้ครั้งนี้
มันทำให้เอสเปอร์ที่ล้อมรอบโจมตีต่างรู้สึกอึดอัดมากขึ้น นอกจากนี้กำปั้นของเขาก็หนักมาก
ตราบใดที่เขาชกออกไป มันย่อมสร้างผลงานที่เยี่ยม!
หนึ่งหมัดก็เพียงพอที่จะทำลายร่างกายของฝ่ายตรงข้าม!
"มันคือเขา!"
เมื่ออี่เว่ยเว่ยได้เห็นใบหน้าของชายที่ถูกปิดล้อมคนนั้น
เขาคือฮั่นหลางเป็นคนที่เธอกลัวมากที่สุด ความเย่อหยิ่งที่เพิ่งสามารถเรียกออกมาบนใบหน้าของเธอ
ในตอนนี้หายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว การดำรงอยู่ที่พิเศษของฮั่นหลางเป็นเหมือนบทลงโทษแห่งโชคชะตาที่กำหนดไว้
ทุกคนกลัวอี่เว่ยเว่ย แต่ฮั่นหลางไม่ได้กลัวเธอ ฮั่นหลางสามารถสัมผัสเธอได้!
"เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆเหรอ?"
อี่เว่ยเว่ยครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อย่างอดไม่ได้
ทันใดนั้นจำนวนคนที่เข้าถึงตัวฮั่นหลางมีนับสิบคน
อย่างน่าแปลกใจ ในระหว่างการต่อสู้ ฮั่นหลางยังคงอาศัยประโยชน์จากการที่เมื่อศัตรูโจมตีเขา
เขาก็จะขยับเคลื่อนไหวแปลกๆ!
ต่อสู้เพื่อฆ่า!
ออกหมัดทุกครั้ง!
ตาต่อตา!
ยอมจำนนเมื่อตายเท่านั้น!
โดยไม่ต้องถาม ฮั่นหลางไม่เพียงแต่มีกำปั้นที่แข็งแกร่ง
แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ทางกายภาพ!
ในอดีต อี่เว่ยเว่ย มีเพียงความรู้สึกที่ไม่ชอบมาพากลของฮั่นหลาง
แต่ตอนนี้โดยไม่ได้ตั้งใจเธอได้ค้นพบอีกด้านของฮั่นหลางนั่นก็คือความกล้าหาญ
ในขณะที่อี่เว่ยเว่ยรู้สึกประหลาดใจที่ฮั่นหลางเป็นนักรบที่น่าสะพรึงกลัว
บางสิ่งที่อันตรายได้ใกล้เข้ามา!
......
คู่นี้เหมาะกันอย่างกับก๋วยเจ็งกับเซียวเหล่งนึ่ง
ตอบลบเอี้ยก้วยเหรอป่าว-_-'
ลบเตียบ่อกี้หรือเปล่า........อิอิ
ลบขอบคุณครับ
ตอบลบ