เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

GDN 073 เหนือดอกไม้และใต้ดวงจันทร์


ในขณะที่อี่เว่ยเว่ยกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ของฮั่นหลางกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆอีกหลายคน อันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้!

ด้านหลังเธอ มีเอสเปอร์สองคนที่ซ่อนอยู่ในที่มืด พวกเขาได้กระโดดออกมา หนึ่งในพวกเขามีความสามารถที่จะแปลงร่างไปเป็นสัตว์ร้ายที่ปกคลุมไปด้วยขนสีเงิน พร้อมด้วยผิวขรุขระและมีกรงเล็บที่แหลมคม

"ระวัง!"

ในภาวะที่สิ้นหวังฮั่นหลางตะโกนออกไปและพยายามฝ่าวงล้อมออกไปหาอี่เว่ยเว่ย

ทุกคนที่รู้จักอี่เว่ยเว่ย มักจะเห็นเธอเป็นสิ่งที่นำความซวยมาให้ หลังจากที่ผู้พิทักษ์สายฟ้าฟาดได้ผ่าไปทั่วโดยไม่มีเหตุผลและทำร้ายทุกคน โดยไม่สนว่าจะเป็นศัตรูหรือไม่ ใครก็ตามที่เข้ามาใกล้เธอมากเกินไปก็จะถูกพายุสายฟ้าฟาด

แต่ฮั่นหลางไม่ได้คิดแบบนั้น ในสายตาของเขาอี่เว่ยเว่ยค่อนข้างอ่อนแอและไม่เหมือนกับเอสเปอร์สายต่อสู้ แต่เป็นเอสเปอร์แบบเงียบๆหรือแบบเคลื่อนย้ายได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาอยู่กับอี่เว่ยเว่ย ฮั่นหลางไม่เคยรู้สึกว่าเธอจะมีพลังพิเศษหรือน่ามหัศจรรย์อะไร

ดังนั้น สิ่งที่ไร้สาระได้เกิดขึ้น ในขณะที่ฮั่นหลางกำลังยุ่งอยู่กับศัตรูหลายๆคน แต่เขาก็อยากจะเข้าไปช่วยอี่เว่ยเว่ยซึ่งอยู่ในระดับพลังที่สูงกว่าฮั่นหลางและมีความสามารถในการต่อสู้ในระดับเดียวกับฮั่นหลาง

ปัง ~

ปัง ~

ขณะที่พยายามจะแยกออกจากวงล้อม ฮั่นหลางรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างหนักสองครั้งที่ด้านหลัง เขายังคงทำตัวเหมือนไม่เจ็บและยังคงรีบจะไปหาอี่เว่ยเว่ย เขาส่งกำปั้นที่หนักหน่วงของเขาไปที่เอสเปอร์สองคนที่กำลังพยายามที่จะโจมตีอี่เว่ยเว่ย!

เขตแดนสิ้นสลายเปิด!

บูม ~

บูม ~

กำปั้นของฮั่นหลางพุ่งไปที่ผู้บุกรุกสองคนราวกับค้อนและทันทีคร่าชีวิตของพวกเขา!

ฮั่นหลางหันไปรอบๆพร้อมทั้งส่งยิ้มให้อี่เว่ยเว่ยและเช็ดเลือดออกจากปากของเขา จากนั้นเขาก็ถูกโจมตีกลับจากศัตรูอีกนับสิบคนที่กำลังเดินขึ้นเข้าไปหาเขา แต่หลังจากที่เขาส่งคลื่นของกำปั้น ลูกแล้วลูกเล่า ราวกับการระดมยิงของปืน ศัตรูที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

ฮั่นหลางพุ่งความสนใจไปที่การจู่โจมและไม่เห็นสีหน้าของอี่เว่ยเว่ย มันเป็นใบหน้าของความประหลาดใจอย่างมากถึงมากที่สุด

ช่างเป็นเรื่องตลก ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อี่เว่ยเว่ยต้องการความช่วยเหลือของฮั่นหลาง? อย่างไรก็ตามฮั่นหลางมาพร้อมกับเขตแดนสิ้นสลายของเขาดังนั้นเขาจึงไม่เพียงแต่ริบพลังพิเศษของศัตรูที่พุ่งโจมตี แต่ยังมีผลกับสายฟ้าฟาดของอี่เว่ยเว่ยด้วย!

ผู้พิทักษ์สายฟ้าฟาดของอี่เว่ยเว่ยไม่ได้ทำการปกป้องเธอ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนฮั่นหลางจะเป็นฮีโร่เพื่อช่วยชีวิตสาวสวย

และรอยยิ้มที่ฮั่นหลางมอบให้กับอี่เว่ยเว่ย ดูเหมือนว่าจะมีความหมายที่ลึกซึ้งราวกับจะพูดว่า "ไม่ต้องห่วงข้ายังอยู่ที่นี่"

โอ้พระเจ้า!

อี่เว่ยเว่ย ที่สามารถฆ่าทุกคนได้อย่างแท้จริง กลับกลายเป็นตัวเอกหญิงจากการกระทำของฮั่นหลางในบทฮีโร่เพื่อช่วยเหลือ! มันอะไรกัน?!

"เขาสามารถริบความสามารถของข้าได้!"

อี้เว่ยเว่ยจริงๆแล้วก็ไม่รู้จะอธิบายถึงความรู้สึกของเธอในขณะนี้ได้อย่างไร เมื่อพลังสายฟ้าฟาดอันทรงพลังที่ทำให้เธอเข้มแข็ง ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญของเธออีกต่อไป? เธอไม่กล้าที่จะสวมกระโปรงเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยธรรมดา มีสัตว์เลี้ยง และหลังจากอยู่ตัวคนเดียวมานานแล้ว นอกจากกลุ่มคนรับใช้ที่จงรักภักดี อี่เว่ยเว่ยไม่มีแม้แต่เพื่อนคนเดียว

อี่เว่ยเว่ย เริ่มเข้าใจอย่างฉับพลันถึงข้อเท็จจริงที่ว่าฮั่นหลางสามารถทำให้ความสามารถของเธอสูญสิ้นได้ นี่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอได้มาก

บูม ~

พลังของกำปั้นมืดนั้นสามารถฆ่าเอสเปอร์ระดับ 4 ดาวได้ในทันที

ในไม่ช้า ฮั่นหลางก็สามารถสังหารเอสเปอร์ที่เข้ามาโจมตีได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นสองหรือสามคนที่วิ่งหนีหลังจากเห็นสถานการณ์เลวร้ายของคนส่วนใหญ่ที่ถูกสังหารไปโดยฮั่นหลาง

ฮั่นหลางยกเลิกเขตแดนสิ้นสลายของเขาและเดินไปหาอี่เว่ยเว่ย ซึ่งยังคงยืนตกใจพร้อมด้วยตาที่เปิดกว้าง และปากของเธอที่ยังเปิดค้างอยู่ ในขณะนี้เธอดูสวยงามมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ดูเซ่อเล็กน้อย

ฮั่นหลางยิ้มและถามว่า "เจ้าโอเคไหม?"

อี่เว่ยเว่ย รีบส่ายหน้า "ข้าสบายดีและเจ้า?"

ฮั่นหลางเพิ่งเช็ดเลือดออกจากเสื้อของเขาและพูดว่า "ข้าสบายดี มีแค่แผลถลอกบนผิวหนังเท่านั้น"

อี่เว่ยเว่ยเริ่มรู้สึกสนใจฮั่นหลางอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า "ทำไมพวกเขาถึงร่วมมือกันเพื่อโจมตีเจ้า?"

เพราะเงินรางวัล มีใครบางคนไม่ต้องการให้นักรบจากสหพันธ์โลกเข้าสู่รอบรองชนะเลิศดังนั้นพวกเขาจึงวางรางวัล 2 ล้าน GC สำหรับค่าหัวของข้า ในตอนนี้ข้าจะมุ่งหน้าไปทางนั้น แล้วเจ้าล่ะ?"

อี่เว่ยเว่ยมองไปในทิศทางที่ฮั่นหลางชี้และเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นเนินเขาที่อยู่ทางด้านซ้ายของหนทางสู่อเวจี พวกมันค่อนข้างห่างกัน

อี่เว่ยเว่ยขมวดคิ้วและพูดว่า "การทดสอบรอบนี้เรียกว่าหนทางสู่อเวจี และข้าได้เห็นคนอื่นๆเดินไปตามเส้นทางนี้เพื่อไปยังทะเลสาบกระจก"

ฮั่นหลางพูดอย่างไม่โอ้อวดว่า "ใครบอกว่าข้าต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำ? เส้นทางหลักที่คนอื่นๆกำลังพาไปสู่ทะเลสาบบ้านั่น จากที่ข้าสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล แม้จะยืนอยู่ที่นี่ ข้าก็รู้ว่าทิวทัศน์ที่ทะเลสาบจะเป็นอย่างไร ดังนั้นข้าต้องไปที่ไหนสักแห่ง ที่ข้าไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้จากที่นี่?"

"มองไปที่เนินเขา และดูสิว่ายอดเขาจะเป็นอย่างไร พวกมันดูเหมือนกระบี่ที่นำมาเรียงแถวกันว่าไหม? ถ้าข้าข้ามเนินเขาเหล่านี้ไป บางทีข้าอาจจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่สวยกว่าทะเลสาบกระจกนี่ที่อีกด้านหนึ่งของภูเขา"

อี่เว่ยเว่ยตระหนักได้ว่าความคิดของฮั่นหลางดูพิเศษมาก เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยและพูดว่า "แต่ถ้าหลังจากที่เจ้าข้ามภูเขาเหล่านี้ไปแล้ว และเจ้าไม่เห็นอะไรเลย"

"แล้วข้าก็จะกลับมา ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร" ฮั่นหลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ "ถ้าเจ้ากลัว เจ้าสามารถไปที่ทะเลสาบกระจกได้ โปรดระวังตัว"

กลัว?

คำพูดนี้ได้สะกิดเสี้ยวอารมณ์เล็กๆของอี้เว่ยเว่ยระเบิดออกมา เธอรู้สึกโกรธเหมือนเด็กๆ แล้วหมุนตัวออกจากถนนสายหลักและเดินตรงไปที่ภูเขา

อี่เว่ยเว่ยรู้สึกว่าฮั่นหลางเป็นคนที่พิเศษมาก ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของเขาแม้แต่ลักษณะของเขาก็มีเอกลักษณ์มาก เมื่อทุกคนกำลังคิดจะไปที่ทะเลสาบกระจก แต่เขากลับต้องการที่จะปีนขึ้นไปบนภูเขา หวังว่ามันจะเหมือนเช่นที่ฮั่นหลางกล่าวไว้ ที่ว่าพวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามหลังจากผ่านภูเขาเหล่านี้ มิฉะนั้นมันก็จะไม่คุ้มค่ากับความยุ่งยาก

ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงที่เชิงเขาและเริ่มไต่ขึ้นเขาไป

ระหว่างทางพวกเขาไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ใดๆ และอี่เว่ยเว่ยเริ่มบ่นว่า "ไม่มีใครมาที่นี่เราอาจจะได้รับคะแนนน้อยมาก"

เนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงในการทดสอบแรงกดดันรอบสุดท้าย เอสเปอร์ที่สามารถอยู่รอดได้จะได้รับคะแนน 200 คะแนน และหากสามารถกำจัดศัตรูก็จะได้คะแนนเพิ่มอีก 2 คะแนน นั่นหมายความว่าถ้าต้องการได้คะแนนที่สมบูรณ์แบบในรอบนี้ พวกเขาต้องการที่จะฆ่าฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อย 400 คน

ฮั่นหลางพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า "เราจะทำมันให้ได้ในรอบชนะเลิศ ว่าแต่ว่าคะแนนที่มากขึ้น แล้วมันจะเป็นอย่างไร?"

"คะแนนสูงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก" อี่เว่ยเว่ยตอบอย่างรวดเร็ว

ฮั่นหลางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดว่า "เจ้าดูไร้สาระมาก สมมติว่าข้าต้องการพิสูจน์ว่าข้าแข็งแกร่ง ข้าก็จะใช้กำลังและเลือดเนื้อของตัวเอง แต่เจ้าไม่คิดว่ามันดูเด็กไปหน่อยหรอกหรือ ที่จะดูว่าคนที่แข็งแกร่งขึ้นอยู่กับคะแนนที่พวกเขาได้รับในโลกเสมือนจริง?"

"การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ฆ่าเจ้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเจ้าเข้าร่วมชุมนุมทางช้างเผือกในรอบสุดท้ายและเข้าสู่อาณาจักรสาบสูญ เมื่อนั้นเจ้าสามารถจะเสียชีวิตของเจ้าได้ทุกเมื่อ มันแตกต่างจากการทดสอบแรงกดดันอย่างสิ้นเชิง"

"คนที่สามารถเอาชนะได้ในโลกเสมือนจริงนี้ สามารถพูดได้ว่ามีความแข็งแกร่ง แต่คนที่สามารถอยู่รอดได้อย่างแท้จริงในการสู้รบกับความตายนั่นคือความแข็งแกร่งที่น่ากลัวจริงๆ!

อี่เว่ยเว่ยรู้สึกว่าโลกทัศน์ของเธอได้ถูกปรับใหม่อีกครั้ง สิ่งที่ฮั่นหลางกล่าวออกมา มันดูทำให้สัมผัสได้และเข้าใจได้ การทดสอบแรงกดดันเป็นเสมือนการต่อสู้ที่ไม่สามารถฆ่าคน ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตจริงหรือสงครามแห่งความตาย

เหล่าเทพเจ้าที่แท้จริงของสงครามไม่ใช่คนที่ทำแต้มได้สูงสุดในสงครามเสมือนจริง พวกเขามีอำนาจเพราะพลังของพวกเขาไม่อาจหยั่งรู้ได้ในความเป็นจริง!

"มันเป็นไปได้ไหมที่เขาไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่?" อี่เว่ยเว่ย มองไปที่ฮั่นหลางเหมือนสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ สำหรับคนที่อยู่ในระดับของฮั่นหลางการแสดงของเขานั้นเป็นไปตามหลักแห่งสวรรค์เท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นความสมบูรณ์? เมื่อเขามาถึงสมรภูมิแห่งชีวิตและความตายเขาอาจแข็งแกร่งมากขึ้น?

ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะบูชาวีรบุรุษ และหลังจากที่รู้ว่าฮั่นหลางเป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่าที่เธอคิด การประเมินผลฮั่นหลางโดยอี่เว่ยเว่ยจึงดีขึ้นอย่างมาก

ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบผู้ชายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎทั่วไป วิธีคิดของฮั่นหลางเป็นเอกลักษณ์มากและยังดึงดูดอี่เว่ยเว่ย

ทั้งสองได้ไปถึงยอดเขาแล้ว เมื่อมองลงมาจากด้านบนมันเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งดอกซากุระสีขาว กลีบของดอกไม้เต้นรำท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านเบาๆ ทิวทัศน์ดูสวยงามอย่างหาตัวจับได้ยาก

ท่ามกลางป่าต้นซากุระยังมีทะเลสาบแม้ว่าทะเลสาบนี้จะไม่ใหญ่เท่าทะเลสาบปลายสุดของหนทางสู่อเวจี แต่ทะเลสาบแห่งนี้ก็สวยงามมาก น้ำใสแจ๋ว สามารถมองเห็นก้อนกรวดสีเขียวและสีขาวที่ก้นทะเลสาบ  ทะเลสาบถูกล้อมรอบด้วยโขดหินสีฟ้าและมีลำธารเล็กๆที่ไหลจากภูเขาลงสู่ทะเลสาบ

"สวยงามมาก!" อี่เว่ยเว่ยร้องอุทานออกมาอย่างอดเอาไว้ไม่อยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะฮั่นหลาง อี่เว่ยเว่ยก็คงจะไปตามเส้นทางดินสีเหลืองที่ดูสกปรกไปยังทะเลสาบกระจกที่มืดมน

แต่ตอนนี้การเดินทางไปตามถนนที่ไม่มีใครเคยมาก่อน ฮั่นหลางและอี่เว่ยเว่ยสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะทางเลือกที่โดดเด่นของฮั่นหลาง

"อืมม มันค่อนข้างดี เราสามารถอยู่ที่นี่ได้จนกว่าการทดสอบจะสิ้นสุดลง"

"ใช่!" อี่เว่ยเว่ยพยักหน้าทันที อี่เว่ยเว่ยที่ปากแข็งอยู่เสมอดูเหมือนจะเชื่อฟังมากขึ้นแล้วในขณะนี้

ฮั่นหลางและอี่เว่ยเว่ยลงมาจากเนินเขาเข้าไปในทะเลสาบที่มีกลิ่นหอมของต้นซากุระ

ฮั่นหลางก็ขมวดคิ้วและกระซิบ "มีคนติดตามเรามา ไม่ต้องกลัว ข้าจะจัดการเอง"

อี่เว่ยเว่ยก็อยากจะอาสาที่จะสู้กับคนที่แอบติดตามมาคนนั้น แต่เธอก็รู้สึกว่ามันไม่เลวร้ายอะไรที่จะรู้สึกเหมือนกับเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่กำลังได้รับความคุ้มครอง ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยมีมาก่อน

ชูววว ~

เงาสีดำได้กระโดดลงมาจากด้านข้าง สองกำปั้นของเขาถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเอสเปอร์สายพันธุ์น้ำแข็ง

เพล้ง ~

เขตแดนสิ้นสลายของฮั่นหลางก็ยังคงสามารถริดรอนความสามารถของคนที่ลอบติดตามมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นกำปั้นดำก็พุ่งตามมา หนึ่งหมัดพอที่จะส่งชายคนนั้นบินออกไป

อี่เว่ยเว่ยหรี่ตาของเธอลง มองดูการต่อสู้อยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ เธอรู้สึกว่าฮั่นหลางดูหล่อมาก เมื่อเขาชกกำปั้นออกไป ในตอนนี้เธอคิดถึงเรื่องนี้เธอไม่เคยเห็นฮั่นหลางส่งหมัดครั้งที่สองสำหรับคนเดิม ศัตรูของเขาทั้งหมดจะถูกสังหารภายในหนึ่งหมัด

ข้างทะเลสาบสีฟ้าและสีเขียวใต้ดอกซากุระสีชมพูและสีขาว อี่เว่ยเว่ย อายและพูดกับฮั่นหลางว่า "อืมม ข้าขอถามเจ้าได้ไหม?"

"ไปข้างหน้า" ฮั่นหลางกำลังมองไปรอบๆ มันเป็นนิสัย แม้ว่าทัศนียภาพที่สวยงามก็ยังคงเป็นสนามรบและฮั่นหลางไม่เคยลดระดับระวังภัยของเขา

อี่เว่ยเว่ยกระซิบ "เจ้าสามารถใช้พลังของเจ้าต่อไปได้หรือไม่? เปิดใช้งานตลอดเวลา มันก็จะไม่สามารถใช้พลังพิเศษอะไรได้"

ฮั่นหลางรู้สึกว่าคำร้องนี้ดูแปลกๆ แต่เขาก็ยังพยักหน้าและรับปาก

เขาเห็นเพียงอี่เว่ยเว่ยปิดตาของเธอ เธอรู้สึกว่าพลังพายุสายฟ้าฟาดของเธอกำลังถูกริบไปโดยฮั่นหลาง หลังจากยืนยันว่าผู้พิทักษ์พายุสายฟ้าฟาดของเธอจะไม่เข้าไปแทรกแซงเธอได้แลล้ว เธอทำการถอดรองเท้าบู๊ตของเธอออกอย่างระมัดระวังเผยให้เห็นเท้าเล็กๆสีขาวคู่หนึ่ง เธอเดินไปและนั่งลงริมทะเลสาบแช่เท้าเล็กๆของเธอไว้ในทะเลสาบ

"เฮ้ ปลา! มันต้องเป็นฝูงลูกปลาแน่ๆ! พวกมันยังมีขนาดเล็กๆ ดูสิพวกมันกัดเท้าของข้าด้วย!" อี่เว่ยเว่ย รู้สึกตื่นเต้นมากและร้องออกมาเหมือนเด็กๆ

ฮั่นหลางรู้สึกท้อแท้มากและขมวดคิ้ว "เจ้าจะเอะอะทำไม?"

"แต่มันเป็นปลา! พวกเขามีขนาดเล็กมาก ดูสิ! "อี่เว่ยเว่ย ยังคงตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

ฮั่นหลางกล่าวว่า "ปลาเหล่านี้ไม่ได้กัดเจ้าจริงๆ พวกมันเพียงแค่เล่นกับเจ้า เมื่อสัตว์มีขนาดเล็ก พวกมันทั้งหมดยังขี้เล่นมากเช่นเดียวกับลูกสุนัขและลูกแมว พวกมันจะคว้าโอกาสทุกครั้งเล่นด้วยความสนุกสนาน แต่เมื่อพวกมันโตขึ้น พวกมันก็จะนอนอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ แผ่ร่างนอยอยู่เฉยๆ ดังนั้นข้ายังคงชอบสัตว์ขนาดเล็กแม้ว่าพวกมันจะซนเล็กน้อย แต่พวกมันก็ดูมีความร่าเริง"

หลังจากผ่านไประยะหนึ่งแล้ว อี่เว่ยเว่ยก็พบรังเล็กๆของนกป่า พวกมันเห็นอี่เว่ยเว่ยเป็นเหมือนแม่ของพวกมัน และเริ่มร้องขอให้เธอป้อนอาหาร

"มันเป็นรังนกขนาดเล็ก! ดูนกสิ ตัวมันเล็กมาก พวกมันน่ารักมากเกินไปแล้ว!" อี่เว่ยเว่ยเริ่มงุ่มง่ามอีกครั้ง นิ้วมือของเธอค่อยขยับเบาๆไปที่นกตัวเล็กเหล่านั้น และเธอก็จับมันไว้บนใบหน้าของเธอเพื่อให้ใกล้ชิดมากขึ้น ในตอนนี้เธอไม่ได้สวมถุงมือ มันจึงทำให้อี่เว่ยเว่ยรู้สึกตื่นเต้นมาก

อี่เว่ยเว่ย รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขอย่างมากมาย เธอสามารถเป็นเหมือนเด็กสาวธรรมดา ถอดรองเท้าและแช่เท้าของเธอในทะเลสาบเช่นเดียวกับที่เธอสามารถใช้นิ้วมือของเธอสัมผัสกับนกตัวเล็กๆเหล่านี้ได้ พระเจ้า มันเหมือนกับความฝันที่เธอเคยฝันมาตลอด!

"มันคงจะดีถ้าข้ามีอาหาร พวกมันดูหิวมากๆ" อี่เว่ยเว่ยวางรังนกเล็กๆไว้ในอ้อมแขนและยิ้มให้ฮั่นหลางและพูดออกมา

การแสดงออกของฮั่นหลางค่อนข้างแปลกๆ "ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเสมือนจริง หลังจากการทดสอบรอบนี้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหายไป ดังนั้นเจ้าจึงไม่ต้องห่วงในเรื่องนี้มากนัก"

"ทุกอย่างจะหายไป..."

"ทุกอย่างจะหายไป..."

ใบหน้าของอี่เว่ยเว่ยซีดลงขณะที่เธอยังคงทวนซ้ำประโยคนี้

สิ่งที่ฮั่นหลางกล่าวออกมาเป็นความจริง แต่สิ่งที่ตามมาคือความรู้สึกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้อี่เว่ยเว่ยรู้สึกว่าเธอไม่ต้องการที่จะปล่อยมือจากพวกมันไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้ว่ามันจะเป็นพิษร้ายแรงที่สุดในโลก อี่เว่ยเว่ยไม่ลังเลที่จะดื่มมันเพราะเธอตกหลุมรักสิ่งมีชีวิตอย่างไม่สามารถฟื้นตัวได้

อี่เว่ยเว่ยเงยหน้าขึ้น เธอดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์ ตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง


"ฮั่นหลางข้าอยากจะขอร้องเจ้าอีกอย่างได้หรือไม่" หน้าอี่เว่ยเว่ยร้อนผ่าวราวกับว่ามันกำลังจะไหม้และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูโหยหา

1 ความคิดเห็น: