เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ZX 068 เส้นทางการเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดของข้า


หยางเฉินปรากฏตัวอีกครั้งในหมู่บ้านหลีโลวที่มุมห่างไกล ที่มุมเดิมของเขา เขานั่งลงนิ่งๆปราศจากการเคลื่อนไหว ข้างหน้าเขา มีผ้าดิบสีขาวเรียบๆเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่ต่างไปจากเดิมคือ บนผ้าขาวนั้นไม่มีขวดยาอีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัว

“ปรุงยาเม็ด”

หยางเฉินไม่ได้เดินทางไปที่ทะเลสาบน้ำลาวาเพื่อตามหาคนเหล่านั้น ครึ่งปีผ่านไปแล้วถ้ายังมีใครรอเขาอยู่ที่นั่นก็
เป็นคนโง่เขลาเต็มทีมากกว่านั้นมีความเป็นไปได้ว่าตอนนี้ คนพวกนั้นคงได้รับข่าวที่แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วแล้วว่าหยางเฉินกลับมาที่หมู่บ้านหลีโลว

ตราบใดที่หยางเฉินอยู่ในหมู่บ้านก็ไม่ต้องกังวลว่าคนพวกนั้น จะไม่มาหาเขา เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะไม่ชอบหยางเฉินผู้ซึ่งมีการเตรียมตัวมาอย่างดีพอตั้งแต่ยังอยู่ที่หลุมดักเซียนไม่กี่ปี หมู่บ้านหลีโลว เป็นถนนไปสู่ทางเข้าออกหลุมดักเซียน หยางเฉินไม่เชื่อว่า พวกเขาจะไม่มาหยุดอยู่ที่นี่

ผู้คนในตลาดค้นพบการปรากฏตัวอีกครั้งของหยางเฉินอย่าง รวดเร็ว เมื่อเทียบกับตอนที่การบ่มเพาะของเขาเพิ่มจากการ รวบรวมลมปราณระดับกลางไปสู่การรวบรวมลมปราณระดับสูง
ในสายตาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นพื้นฐานนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาเป็นความวุ่นวาย แต่สิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจมากกว่าคือการที่หยางเฉินบรรลุการปรุงเม็ดยา

ผู้คนจำนวนมากต่างผิดหวังที่เห็นเขาไม่มีเม็ดยาแต่มีคำสอง คำแทน “ปรุงยาเม็ด”  สิ่งนี้มันกวนอารมณ์คนจำนวนไม่น้อย
ครั้งนี้ท่าทีของหยางเฉินเข้าใจได้ง่ายมาก เขาได้ใช้ส่วนผสม ที่ได้มาจากเบื้องบนไปหมดแล้วและโดยธรรมชาติเขาไม่สามารถปรุง ยาเม็ดได้อีก แต่เขายังอยากที่จะพัฒนาระดับการปรุงยาเม็ดต่อ ดังนั้นเขาจึงปรุงยายาเม็ดและคิดค่าบริการแทน เพราะมันทำให้เขาได้รับแก่นจิตวิญญาณและใช้ความสามารถพัฒนาทักษะปรุงยาของตัวเอง เช่นนี้แล้วเขาก็เปรียบเสมือนยิงนกนัดเดียวได้นกสองตัว

“เจ้าสามารถกลั่นยาเม็ดได้ทุกชนิดใช่มั๊ย?”

เสียงดังก้องอยู่ภายในหูของหยางเฉิน หลังจากหยางเฉินได้ยินตาที่หลับอยู่ก็เปิดขึ้น ตรงหน้าเขาปรากฏขาคู่หนึ่ง คนผู้นี้สวมใส่รองเท้าบูทผ้าสีดำปักลายที่ ดูหรูหราอย่างยิ่ง หยางเฉินไม่ได้เงยหัวขึ้นดูคนที่อยู่ตรงหน้า เขาเพียงแค่หลับตาลงอีกครั้งแล้วตอบกลับไปในทันที

“สามารถกลั่นยาเม็ดทุกชนิดที่อยู่ในระดับรวบรวมลมปราณ”

คนจำนวนมากให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งใจฟัง คำตอบของหยางเฉิน พวกเขารู้สึกผ่อนคลายเป็นเรื่องปกติ หากหยางเฉินเริ่มเอ่ยปากแสดงตนว่าสามารถกลั่นยาเม็ด ทุกชนิดได้นั่นก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก

หลังจากคำตอบนี้ หยางเฉินก็เอ่ยปากอีกครั้งซึ่งเรียกความ สนใจจากทุกคนได้ในทันที

“ระดับสอง!”

นี่เป็นเพียงคำสองคำสั้นๆ แต่ก็เพิ่มความคาดหวังของทุกคน อีกครั้ง ยาเม็ดระดับสองแม้จะเป็นยาเม็ดระดับสองขั้นรวบรวม ลมปราณมันก็ต้องใช้โดยนักบ่มเพาะระดับรากฐานเหล่านี้ไม่ใช่คำพูดจากผู้อื่น อย่างยาเม็ดลมปราณเป็นต้น

“เจ้าสามารถกลั่นยาบ่มเพาะระดับผลิดอก?” คนที่อยู่ตรงหน้าหยางเฉินถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้

คราวนี้หยางเฉินไม่ได้ตอบตรงๆเขาพยักหน้าช้าๆหลังจาก
คิดสักพักเขาก็ตอบว่า

“ข้าสามารถ”

“แล้วมันอยู่ระดับสองด้วยไหม?”

อย่างช่วยไม่ได้คนตรงหน้าเขารู้สึกแปลกใจ คนผู้นี้ไม่ยืนอยู่
เฉยๆอีกต่อไป แต่กลับนั่งยองๆในระดับความสูงเดียวกับหยางเฉินแล้ว ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง คราวนี้หยางเฉินเห็น ลักษณะของคนผู้นี้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เเบบที่เขาคิดไว้ ชายผู้นี้ไม่ได้ดูแก่ แต่สวมใส่ชุดผ้าปักลายเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ค่อนข้างมีฐานะ

“มันก็อยู่ในระดับสอง!”

ครั้งนี้หยางเฉินใช้เวลาไม่นานในการไตร่ตรอง เขาพยักหน้า ทันที ยาบ่มเพาะระดับผลิดอกเป็นยาเม็ดที่นักบ่มเพาะระดับ รากฐานใช้สำหรับฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณของตน พูดกันโดย ทั่วไปว่าเมื่อใครถึงขั้นเริ่มต้นระดับรากฐานแล้วถึงสามารถกลั่นยาเม็ดนี้ได้

เมื่อจบคำของหยางเฉิน ทั้งตลาดตกอยู่ในความเงียบ ยาบ่มเพาะระดับผลิดอกเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดที่สามารถกลั่นยาบ่มเพาะระดับผลิดอกระดับสองได้นั้นอย่างน้อยต้องอยู่ระดับก่อลำต้นหรือ ระดับผลิดอกเท่านั้น ทำไมผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูงเหล่า นี้ต้องเสียเวลากับยาบ่มเพาะระดับผลิดอก พวกเขาควรจะใช้
เวลาไปกับยาเม็ดที่ระดับสูงกว่านี้

สรรพคุณของยาเม็ดลมปราณระดับสองนั้นเทียบเท่ากับยาบ่ม เพาะระดับผลิดอกปกติ อย่างงี้แล้วยาบ่มเพาะระดับผลิดอก ระดับสองนั้นมีสรรพคุณอย่างไง? คำถามดังขึ้นในหัวของ คนเหล่านี้แต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา

อึก...

คนที่สวมใส่เสื้อคลุมลายปักตรงหน้าหยางเฉินกลืนน้ำลายตัว เองอย่างช่วยไม่ได้ เขาเริ่มต้นถามอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

“ท่านสามารถกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานด้วยได้หรือไม่?”

“ข้าไม่รับประกัน!”

ครั้งนี้หยางเฉินไม่ได้พูดอะไรมากมาย แค่ตอบคำกลับไปง่ายๆ

“มันก็อยู่ในระดับสองด้วย?”

ครั้งนี้น้ำเสียงของคนที่สวมใส่เสื้อคลุมลายปักตื่นตกใจไม่น้อย เช่นเดียวกับทุกคนในตลาด พวกเขาหยุดงานทุกอย่างในมือ และพุ่งความสนใจไปที่มุมเล็กๆนั้นด้วยจิตวิญญาญการรับรู้ทั้ง หมดเพื่อไม่ให้พลาดคำพูดแม้แต้คำเดียว

“การกลั่นพวกนั้นครั้งนึงไม่ใช่ปัญหา”

หยางเฉินไม่ได้ตอบกลับตรงๆแต่แทนด้วยการให้คำชี้แจง อย่างไรก็ตามนี่ก็อธิบายทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแล้ว การกลั่น หนึ่งครั้งไม่ใช่ปัญหา นั่นหมายความว่าการกลั่นครั้งที่สองเขา ไม่รับประกัน

“ท่านต้องการเท่าไหร่?”


คนที่สวมเสื้อคลุมลายปักถามถึงราคาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย ยาเม็ดก่อรากฐานระดับหนึ่งก็สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในระดับก่อสร้างรากฐานได้สิบเปอร์เซ็นต์ แต่ยาสิบเม็ดก็ไม่ได้
รับประกันว่าจะสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับยาเม็ดเดียว แล้วเขายังมีโอกาสเพียงเล็กน้อย แต่ยาบ่มเพาะระดับผลิดอก ระดับสองบางทีอาจจะมีโอกาสห้าสิบเปอร์เซ็นต์ หรือไม่เจ็ดสิบ เปอร์เซ็นต์ หรือไม่แน่ว่าอาจจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะระดับรากฐานเลยก็ได้ นักบ่มเพาะทุกคนที่อยู่สูงกว่าระดับรากฐานเข้าใจรายละเอียดสิ่งนี้ดี

“ขึ้นอยู่กับการจัดหาตัวส่วนผสม”

หยางเฉินเล่าต่อโดยยังคงปิดตาอยู่

แก่นจิตวิญญาณห้าพันหรือหินจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งพัน ก้อน

ทันทีที่จบคำ หยางเฉินก็นึกอะไรบางอย่างได้

เจ้าภูเขาที่ถูกเขาตัดศีรษะไปแล้วนั้นยังมีหินจิตวิญญาณอยู่ ในหลุมศพ เขายังไม่ได้ไปเอามา มันง่ายที่เขาจะกลับไปที่นั่น ในเมื่อเขากลับมาแล้ว ตั้งแต่เขามีข้อตกลงกับเจ้าภูเขาดังนั้น เขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับค่าตอบแทน

คำพูดของหยางเฉินทำให้ทุกคนในตลาดหายใจติดขัด ส่วนผสมเป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องจัดหามา ไม่มีใครมีปัญหากับเงื่อนไขนี้ แต่ราคาของแก่นจิตวิญญาณห้าพันหรือหินจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งพันก้อนนั้นเป็นราคาที่สูงมากทีเดียว คนคนเดียวที่จะมีเงินมากขนาดนี้ในกระเป๋าจัดเก็บของพวกเขานั้นต้องเป็นคนที่ใช้เวลาในหลุมดักเซียนอย่างน้อยก็ห้าปี

ไม่ต้องเอ่ยถึงอย่างอื่นแค่เตรียมส่วนผสมของยาที่ต้องการ หินจิตวิญญาณจำนวนมาก ผลไม้หยางล้ำเลิศที่ปริมาณมากพอ จนกว่าจะถึงกำหนดก็ต้อง การใช้หินจิตวิญญาณระดับต่ำหลาย ร้อยก้อนสำหรับกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานระดับสอง โดยปกติแล้ว เพียงอย่างใดอย่าง หนึ่งนั้นไม่เพียงพอ สำหรับการสำเร็จขั้นสูง แล้วโดยเฉลี่ยต้องใช้ผลไม้หยางล้ำเลิศอย่างน้อยห้าสิบผล และนี่ยังไม่รวมส่วนผสมอื่นๆที่สามารถทำให้ผู้คนหวาดผวาได้

ราคาของหยางเฉินเมื่อรวมกันแล้วยาเม็ดก่อรากฐานระดับสอง เทียบได้กับราคาของยาเม็ดก่อรากฐานระดับหนึ่งได้หลายร้อย เม็ด

แต่ตัวเลขที่สูงของยาเม็ดก่อรากฐานไม่ได้หมายถึงโอกาสที่จะสำเร็จสูงไปด้วย ว่ากันว่าตราบเท่าที่มียาเม็ดมากกว่าสิบเม็ด แม้ว่าพวกเขาจะสำเร็จในการก่อสร้างรากฐานแต่ว่ารากฐาน เหล่านั้นจะแตกต่างอย่างมากกับการก่อสร้างรากฐานโดยปกติ เเต่การกินยาก่อรากฐานระดับสองนั้นเพียงพอให้แน่ใจว่าจะสำ เร็จโดยไม่มีปัญหาอะไร ผู้คนในตลาดต่างอยู่ในความเงียบ แม้กระทั่งคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน

ชายที่สวมเสื้อคลุมลายปักลังเลอยู่นานแล้วเขาก็กัดฟันตัดสินใจถามหยางเฉิน

“ส่วนผสมอะไรบ้างที่ท่านต้องการและต้องใช้เวลาเท่าไหร่”

หยางเฉินไม่ยอมพลาดโอกาสในการทำธุรกิจเมื่อมันมาเคาะถึงหน้าประตู การใช้ส่วนผสมของผู้อื่นในการเพิ่มทักษะการปรุงยาของเขาแล้วในขณะเดียวกันก็ได้กำไรจากหินจิตวิญญาณและแก่นจิตวิญญาณด้วย แล้วทำไมเขาจะไม่ทำล่ะ?

ตั้งแต่เขามาอยู่ในหมู่บ้านหลีโลวเล็กๆแห่งนี้แม้แต่เศษฟางที่ ปลิวไหวไปตามลมก็ไม่อาจหลุดรอดไปจากการรับรู้ของเขาได้ เคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้งเป็นทักษะในการแบ่งจิตสำ นึกจิตวิญญาณออกเป็นเส้นสายมากมายซึ่งกระจายตัวออกไป ทุกทิศทาง ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของทุกคนในทุกเส้นทาง


วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆในการแบ่งจิตสำนึกจิตวิญญาณสำรวจรอบๆ โดยที่ผู้คนเหล่านั้นไม่รู้ตัว หยางเฉินเรียกว่าเส้นด้ายจิตสำนึก จิตวิญญาณ เทียบกับการปลดปล่อยจิตสำนึกจิตวิญญาณทั้งหมดของเขา แล้วมันใช้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นและเป็นความลับด้วย ดังนั้นผู้คนจึงไม่มีโอกาสต่อต้านเขามันเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับ หยางเฉินในการจับตาดูหมู่บ้านหลีโลวในเวลานี้

ตั้งแต่จิตสำนึกจิตวิญญาณของหยางเฉินขยายอาณาเขตสูงกว่า การบ่มเพาะของเขาขั้นนึงแล้ว เขาก็สามารถแบ่งจิตสำนึกจิตวิญญาณของตัวเองได้ แต่ตอนนี้หยางเฉินไม่อยากฝึกจิตวิญญาณ พื้นฐานของตัวเองการบ่มเพาะของเขาในปัจจุบันยังอยู่ระดับต่ำมาก ดังนั้นจิตวิญญาณพื้นฐานจึงเป็นภาระในการบ่มเพาะของเขา

เมื่อหยางเฉินปลดปล่อยเส้นด้ายจิตสำนึกจิตวิญญาณเขาก็พบ ปัญหาในทันที ในเมื่อนักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเช่น เขามาถึงขั้นนี้ได้แล้วผู้อาวุโสสูงสุดล่ะทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นไปได้ทั้งหมด ศาลสวรรค์หรืออย่างน้อยพื้นในรัศมีหลายร้อยลี้ที่พระราชวังสวรรค์ ก็อยู่ในการควบคุมของผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่การกบฏที่ศาลสวรรค์ประสบความสำเร็จ? เป็นไปได้ไหมว่าผู้อาวุโสสูงสุดจงใจหรือบังเอิญให้ความช่วยเหลือ?

คิดถึงประเด็นนี้เหงื่อเย็นๆก็แตกไปทั่วร่างของหยางเฉิน ถ้าเป็นเช่นนี้การล่มสลายของศาลสวรรค์ก็ไม่เป็นความลับ?

ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวเขาแล้วจางหายไปในทันที เขาไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ความลับของศาลสวรรค์ไม่ใช่เรื่องที่ควรสนใจ มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับนักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเช่นเขาจะต้องใส่ใจ คิดมากไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มีแต่จะเพิ่มความกังวลและไม่แน่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขาได้ ตอนนี้สิ่งที่เขาสมควรทำมากที่สุดคือการเล่นไปตามบท ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดที่มีพรสวรรค์

ถูกต้องที่สุด! ประสบการณ์ที่ผ่านมาของหยางเฉินสอนเขาว่า ไม่ว่าโลกแห่งความตาย โลกแห่งจิตวิญญาณ หรือโลกแห่งนิรันดร์ ผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาโดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับสูงเป็นบุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุด เว้นเสียแต่ว่าชีวิตจะมีศัตรูเป็นความตาย ไม่มีใครกล้าที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูงไม่พอใจหรอก

ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ ในตอนที่หยางเฉินเป็นอมตะทองคำ เพราะเขาเป็นนักบ่มเพาะธาตุไฟ เขาจวนเจียนจะไม่ผ่านผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับหก แม้หลังจากการพยายามสองครั้งถ้าเขายังคงอยู่แค่ระดับหกเขาก็เปรียบได้เสมือนขยะในถังขยะแหละ ไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโส สูงสุดที่สามารถเอายาเม็ดระดับเก้าออกมาได้อย่างสบายๆ เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดธรรมดาๆ เขายังคงแย่กว่า

ในชีวิตนี้หยางเฉินมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่การที่เขามี เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณขั้นสุดยอด แต่เขายังมีวิธีการปรุงเม็ดยาของผู้อาวุโสสูงสุดด้วย เพียงแค่สองสิ่งนี้ก็ทำให้หยางเฉินมี ศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับแนวหน้าได้ ถ้าไม่นับสองสิ่งนั้นเขายังมีสวนยาภูเขาหยาง ที่มีสมุนไพรจิตวิญญาณนับพัน และนอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าจะค้นหาเปลวไฟที่เหมาะสมได้ที่ไหน เขาเคยมีส่วนร่วมใน ขั้นตอนการปรุงยากับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูง เมื่อรวมปัจจัยเหล่านี้เข้าด้วยกัน มันเข้าเงื่อนไขที่จะส่งเสริมให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดในระดับสูงสุด

การอยู่ในสถานะนี้เขาสามารถเพิ่มมูลค่าตัวเองในนิกายได้ และในเวลาเดียวกันก็สร้างภาพลวงตาเพื่อป้องกันศัตรูที่มีศักยภาพ ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดโดยทั่วไปแล้วมีพละกำลังการต่อสู้ระดับกลางเหมือนกับจูเฉินเต่าของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ ตราบเท่าที่เขายังสามารถรักษาสถานะนี้ไว้ คนอื่นๆจะช่วยเขาโดยไม่ตั้งใจ มันทำให้ง่ายต่อหยางเฉินที่จะสร้างความสับสนให้ศัตรู

หยางเฉินได้รับกระท่อมไว้สำหรับปรุงยา ชายที่สวมเสื้อคลุม ลายปักอยู่ห้องใกล้ๆและเริ่มเฝ้าหยางเฉินโดยไม่อนุญาตให้คนอื่นๆรบกวนเขา

คนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมปักลายดูร่ำรวยและเอาแต่ใจ แต่เขาก็ จัดหาส่วนผสมอย่างพอเพียงสำหรับยาเม็ดก่อรากฐานได้ถึง ระดับห้าสิบถึงหกสิบเอ็ด หยางเฉินคาดว่าคนที่สวนเสื้อคลุมนั้น น่าจะเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มชายหนุ่มในนิกาย คนที่เขาต้องช่วย ให้ผ่านไปสู่ระดับก่อรากฐาน ฉะนั้นเขาจึงใช้จ่ายเงินในจำนวน มาก

การกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานไม่ใช่ปัญหาสำหรับหยางเฉิน เขาไม่ได้ขาดทักษะหรือเตาหลอมยาที่ดี ตราบเท่าที่เขามั่นใจว่าพลังจิตวิญญาณเอื้ออำนวยหรือสามารถเติ่มเต็มได้ นี่ไม่ใช่ประเด็นทั้งหมด

เตาหลอมแก่นวิญญาณสามารถรับผลไม้หยางล่ำเลิศได้เป็นสิบผลอย่างง่ายและกลั่นให้ยาเป็นของเหลวที่ภายหลังสามารถ ผสมส่วนผสมอื่นๆและเริ่มก่อรูปร่างอย่างช้าๆ นี่เป็นขั้นตอนที่ยั่งยืน ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดจะใช้เวลาอย่างน้อย ครึ่งเดือนในการกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานแต่สำหรับหยางเฉิน แล้วไม่ต้องนานขนาดนั้นเพราะเตาหลอมแก่นวิญญาณและเปลวไฟแกนพิภพทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก

แม้ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจแต่ไม่มีใครกล้าใช้จิตสำนึกจิตวิญญาณในการสอดส่อง เพราะการสำรวจของพวกเขาจะรบกวนหยางเฉินเเละทำให้เขาโกรธ และข้อเท็จจริงที่ว่าหาก พวกเขาไม่ระมัดระวังและเกิดเหตุอะไรที่ทำให้น้ำยาเสียหาย ชายผู้สวมเสื้อคลุมลายปักที่อยู่หน้าประตูก็คงจะไม่สุภาพต่อพวกเขา

ห้าวันผ่านไปมีกลิ่นไหม้ลอยออกมาจากห้องของหยางเฉิน หัวใจของผู้ที่อยู่ด้านนอกประตูเริ่มตึงเครียด เขารู้ว่านั่น หมายความว่าหยางเฉินล้มเหลว เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าต่ออย่างบ้าบิ่น เขาลองมาหมดทุกหนแห่ง เเล้วแต่หยางเฉินเป็นคนแรกที่สามารถเติมเต็มความปรารถนา ของเขาได้  สำหรับคนที่สวมเสื้อคลุมปักลายแล้วหนึ่งวันเหมือน ผ่านไป เป็นปี

ผู้สวมเสื้อคลุมปักลายยังคงอดทนรออย่างต่อเนื่องอีกยี่สิบวัน คนอื่นๆในหมู่บ้านก็ยังคงอยู่ แม้พวกเขาจะออกไปล่าสัตว์อสูร แต่เมื่อกลับมาพวกเขาก็จะตรงมายังบริเวณที่พักของหยางเฉิน เพื่อดูสถานการณ์

หลังจากที่เริ่มได้ไม่กี่วันก็มีกลิ่นหอมหวานเริ่มส่งกลิ่นออกมาจากกระท่อมของหยางเฉิน กลิ่นช่างสดชื่นอย่างที่สุดเพียงสูดดม กลิ่นแค่ครั้งเดียวก็กระทบใจทุกคนอย่างรุนแรงเหมือนเป็นน้ำยาครอบจักรวาล มากกว่านั้นกลิ่นหอมเริ่มหนาแน่นมากขึ้น... มากขึ้น และกระจายตัวไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

ตอนนี้ไม่มีใครออกจากหมู่บ้านไปไหน ทุกคนต่างมาวนเวียนรอคอยอยู่รอบๆที่พักของหยางเฉิน ชายผู้ที่สวมเสื้อคลุมปักลายรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างเจ็บปวด หวังจะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ ในทุกๆวันเขาออกมองหาวิ่งไปทุกที่ ถ้าไม่มีคำอนุญาตจากหยางเฉินเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะตรวจสอบด้วยจิตสำนึกจิตวิญญาณของตัวเขา

ในที่สุด... วันหนึ่งเมื่อกลิ่นยาถึงจุดที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียง ตะโกนของหยางเฉินภายในที่พัก และในทันใด... กลิ่นยาก็จาง หายไปไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้คล้ายมันถูกดูดซึมด้วยอะไรบาง อย่าง

เอี๊ยด...

หยางเฉินเปิดประตูห้องเล็กๆของเขาและก้าวออกมาด้วยใบ หน้าที่แสดงออกถึงอาการหมดแรง เขามองไปที่ชายเสื้อคลุม ปักลาย ผู้ที่จับมือเขาและบนหน้าเต็มรอยยิ้มและความคาดหวัง

“ท่านมีขวดหยกไหม ตอนนี้ข้าไม่มีเลย”

“ข้ามี! ข้ามี!”

ชายสวมเสื้อคลุมปักลายรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วเเละรีบหยิบ ขวดหยกออกมาจากกระเป๋าจัดเก็บ เทของที่อยู่ในขวดออกและ ส่งให้หยางเฉิน ยาเม็ดสีขาวบริสุทธิ์สองเม็ดถูกหย่อนลงใน ขวดหยกอย่างช้าๆหลังจากนั้นก็ปิดจุกไม้ด้วยความระมัดระวัง หยางเฉินมอบขวดหยกให้แก่ชายผู้สวมเสื้อคลุมปักลายและพูดว่า

“โชคดีที่ข้าไม่ได้ทำให้ตัวเองขายหน้า!”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น