หยางเฉินปรากฏตัวอีกครั้งในหมู่บ้านหลีโลวที่มุมห่างไกล
ที่มุมเดิมของเขา เขานั่งลงนิ่งๆปราศจากการเคลื่อนไหว ข้างหน้าเขา
มีผ้าดิบสีขาวเรียบๆเหมือนเดิม สิ่งเดียวที่ต่างไปจากเดิมคือ บนผ้าขาวนั้นไม่มีขวดยาอีกต่อไป
แต่แทนที่ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่สองตัว
“ปรุงยาเม็ด”
หยางเฉินไม่ได้เดินทางไปที่ทะเลสาบน้ำลาวาเพื่อตามหาคนเหล่านั้น
ครึ่งปีผ่านไปแล้วถ้ายังมีใครรอเขาอยู่ที่นั่นก็
เป็นคนโง่เขลาเต็มทีมากกว่านั้นมีความเป็นไปได้ว่าตอนนี้
คนพวกนั้นคงได้รับข่าวที่แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วแล้วว่าหยางเฉินกลับมาที่หมู่บ้านหลีโลว
ตราบใดที่หยางเฉินอยู่ในหมู่บ้านก็ไม่ต้องกังวลว่าคนพวกนั้น
จะไม่มาหาเขา
เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะไม่ชอบหยางเฉินผู้ซึ่งมีการเตรียมตัวมาอย่างดีพอตั้งแต่ยังอยู่ที่หลุมดักเซียนไม่กี่ปี
หมู่บ้านหลีโลว เป็นถนนไปสู่ทางเข้าออกหลุมดักเซียน หยางเฉินไม่เชื่อว่า
พวกเขาจะไม่มาหยุดอยู่ที่นี่
ผู้คนในตลาดค้นพบการปรากฏตัวอีกครั้งของหยางเฉินอย่าง
รวดเร็ว เมื่อเทียบกับตอนที่การบ่มเพาะของเขาเพิ่มจากการ
รวบรวมลมปราณระดับกลางไปสู่การรวบรวมลมปราณระดับสูง
ในสายตาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญขั้นพื้นฐานนี่ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาเป็นความวุ่นวาย
แต่สิ่งที่พวกเขาให้ความสนใจมากกว่าคือการที่หยางเฉินบรรลุการปรุงเม็ดยา
ผู้คนจำนวนมากต่างผิดหวังที่เห็นเขาไม่มีเม็ดยาแต่มีคำสอง
คำแทน “ปรุงยาเม็ด”
สิ่งนี้มันกวนอารมณ์คนจำนวนไม่น้อย
ครั้งนี้ท่าทีของหยางเฉินเข้าใจได้ง่ายมาก
เขาได้ใช้ส่วนผสม ที่ได้มาจากเบื้องบนไปหมดแล้วและโดยธรรมชาติเขาไม่สามารถปรุง
ยาเม็ดได้อีก แต่เขายังอยากที่จะพัฒนาระดับการปรุงยาเม็ดต่อ
ดังนั้นเขาจึงปรุงยายาเม็ดและคิดค่าบริการแทน
เพราะมันทำให้เขาได้รับแก่นจิตวิญญาณและใช้ความสามารถพัฒนาทักษะปรุงยาของตัวเอง
เช่นนี้แล้วเขาก็เปรียบเสมือนยิงนกนัดเดียวได้นกสองตัว
“เจ้าสามารถกลั่นยาเม็ดได้ทุกชนิดใช่มั๊ย?”
เสียงดังก้องอยู่ภายในหูของหยางเฉิน
หลังจากหยางเฉินได้ยินตาที่หลับอยู่ก็เปิดขึ้น ตรงหน้าเขาปรากฏขาคู่หนึ่ง
คนผู้นี้สวมใส่รองเท้าบูทผ้าสีดำปักลายที่ ดูหรูหราอย่างยิ่ง
หยางเฉินไม่ได้เงยหัวขึ้นดูคนที่อยู่ตรงหน้า
เขาเพียงแค่หลับตาลงอีกครั้งแล้วตอบกลับไปในทันที
“สามารถกลั่นยาเม็ดทุกชนิดที่อยู่ในระดับรวบรวมลมปราณ”
คนจำนวนมากให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตั้งใจฟัง
คำตอบของหยางเฉิน พวกเขารู้สึกผ่อนคลายเป็นเรื่องปกติ
หากหยางเฉินเริ่มเอ่ยปากแสดงตนว่าสามารถกลั่นยาเม็ด
ทุกชนิดได้นั่นก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก
หลังจากคำตอบนี้
หยางเฉินก็เอ่ยปากอีกครั้งซึ่งเรียกความ สนใจจากทุกคนได้ในทันที
“ระดับสอง!”
นี่เป็นเพียงคำสองคำสั้นๆ
แต่ก็เพิ่มความคาดหวังของทุกคน อีกครั้ง
ยาเม็ดระดับสองแม้จะเป็นยาเม็ดระดับสองขั้นรวบรวม
ลมปราณมันก็ต้องใช้โดยนักบ่มเพาะระดับรากฐานเหล่านี้ไม่ใช่คำพูดจากผู้อื่น
อย่างยาเม็ดลมปราณเป็นต้น
“เจ้าสามารถกลั่นยาบ่มเพาะระดับผลิดอก?” คนที่อยู่ตรงหน้าหยางเฉินถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
คราวนี้หยางเฉินไม่ได้ตอบตรงๆเขาพยักหน้าช้าๆหลังจาก
คิดสักพักเขาก็ตอบว่า
“ข้าสามารถ”
“แล้วมันอยู่ระดับสองด้วยไหม?”
อย่างช่วยไม่ได้คนตรงหน้าเขารู้สึกแปลกใจ
คนผู้นี้ไม่ยืนอยู่
เฉยๆอีกต่อไป
แต่กลับนั่งยองๆในระดับความสูงเดียวกับหยางเฉินแล้ว
ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง คราวนี้หยางเฉินเห็น
ลักษณะของคนผู้นี้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เเบบที่เขาคิดไว้ ชายผู้นี้ไม่ได้ดูแก่
แต่สวมใส่ชุดผ้าปักลายเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ค่อนข้างมีฐานะ
“มันก็อยู่ในระดับสอง!”
ครั้งนี้หยางเฉินใช้เวลาไม่นานในการไตร่ตรอง
เขาพยักหน้า ทันที ยาบ่มเพาะระดับผลิดอกเป็นยาเม็ดที่นักบ่มเพาะระดับ
รากฐานใช้สำหรับฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณของตน พูดกันโดย
ทั่วไปว่าเมื่อใครถึงขั้นเริ่มต้นระดับรากฐานแล้วถึงสามารถกลั่นยาเม็ดนี้ได้
เมื่อจบคำของหยางเฉิน
ทั้งตลาดตกอยู่ในความเงียบ
ยาบ่มเพาะระดับผลิดอกเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดที่สามารถกลั่นยาบ่มเพาะระดับผลิดอกระดับสองได้นั้นอย่างน้อยต้องอยู่ระดับก่อลำต้นหรือ
ระดับผลิดอกเท่านั้น ทำไมผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูงเหล่า นี้ต้องเสียเวลากับยาบ่มเพาะระดับผลิดอก
พวกเขาควรจะใช้
เวลาไปกับยาเม็ดที่ระดับสูงกว่านี้
สรรพคุณของยาเม็ดลมปราณระดับสองนั้นเทียบเท่ากับยาบ่ม
เพาะระดับผลิดอกปกติ อย่างงี้แล้วยาบ่มเพาะระดับผลิดอก
ระดับสองนั้นมีสรรพคุณอย่างไง? คำถามดังขึ้นในหัวของ
คนเหล่านี้แต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
อึก...
คนที่สวมใส่เสื้อคลุมลายปักตรงหน้าหยางเฉินกลืนน้ำลายตัว
เองอย่างช่วยไม่ได้ เขาเริ่มต้นถามอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
“ท่านสามารถกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานด้วยได้หรือไม่?”
“ข้าไม่รับประกัน!”
ครั้งนี้หยางเฉินไม่ได้พูดอะไรมากมาย
แค่ตอบคำกลับไปง่ายๆ
“มันก็อยู่ในระดับสองด้วย?”
ครั้งนี้น้ำเสียงของคนที่สวมใส่เสื้อคลุมลายปักตื่นตกใจไม่น้อย
เช่นเดียวกับทุกคนในตลาด พวกเขาหยุดงานทุกอย่างในมือ
และพุ่งความสนใจไปที่มุมเล็กๆนั้นด้วยจิตวิญญาญการรับรู้ทั้ง หมดเพื่อไม่ให้พลาดคำพูดแม้แต้คำเดียว
“การกลั่นพวกนั้นครั้งนึงไม่ใช่ปัญหา”
หยางเฉินไม่ได้ตอบกลับตรงๆแต่แทนด้วยการให้คำชี้แจง
อย่างไรก็ตามนี่ก็อธิบายทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแล้ว การกลั่น หนึ่งครั้งไม่ใช่ปัญหา
นั่นหมายความว่าการกลั่นครั้งที่สองเขา ไม่รับประกัน
“ท่านต้องการเท่าไหร่?”
คนที่สวมเสื้อคลุมลายปักถามถึงราคาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ยาเม็ดก่อรากฐานระดับหนึ่งก็สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จในระดับก่อสร้างรากฐานได้สิบเปอร์เซ็นต์
แต่ยาสิบเม็ดก็ไม่ได้
รับประกันว่าจะสำเร็จอย่างสมบูรณ์
เมื่อเทียบกับยาเม็ดเดียว แล้วเขายังมีโอกาสเพียงเล็กน้อย แต่ยาบ่มเพาะระดับผลิดอก
ระดับสองบางทีอาจจะมีโอกาสห้าสิบเปอร์เซ็นต์ หรือไม่เจ็ดสิบ เปอร์เซ็นต์
หรือไม่แน่ว่าอาจจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะระดับรากฐานเลยก็ได้
นักบ่มเพาะทุกคนที่อยู่สูงกว่าระดับรากฐานเข้าใจรายละเอียดสิ่งนี้ดี
“ขึ้นอยู่กับการจัดหาตัวส่วนผสม”
หยางเฉินเล่าต่อโดยยังคงปิดตาอยู่
แก่นจิตวิญญาณห้าพันหรือหินจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งพัน
ก้อน
ทันทีที่จบคำ
หยางเฉินก็นึกอะไรบางอย่างได้
เจ้าภูเขาที่ถูกเขาตัดศีรษะไปแล้วนั้นยังมีหินจิตวิญญาณอยู่
ในหลุมศพ เขายังไม่ได้ไปเอามา มันง่ายที่เขาจะกลับไปที่นั่น ในเมื่อเขากลับมาแล้ว
ตั้งแต่เขามีข้อตกลงกับเจ้าภูเขาดังนั้น
เขาจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับค่าตอบแทน
คำพูดของหยางเฉินทำให้ทุกคนในตลาดหายใจติดขัด
ส่วนผสมเป็นหน้าที่ของลูกค้าที่ต้องจัดหามา ไม่มีใครมีปัญหากับเงื่อนไขนี้
แต่ราคาของแก่นจิตวิญญาณห้าพันหรือหินจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งพันก้อนนั้นเป็นราคาที่สูงมากทีเดียว
คนคนเดียวที่จะมีเงินมากขนาดนี้ในกระเป๋าจัดเก็บของพวกเขานั้นต้องเป็นคนที่ใช้เวลาในหลุมดักเซียนอย่างน้อยก็ห้าปี
ไม่ต้องเอ่ยถึงอย่างอื่นแค่เตรียมส่วนผสมของยาที่ต้องการ
หินจิตวิญญาณจำนวนมาก ผลไม้หยางล้ำเลิศที่ปริมาณมากพอ จนกว่าจะถึงกำหนดก็ต้อง
การใช้หินจิตวิญญาณระดับต่ำหลาย ร้อยก้อนสำหรับกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานระดับสอง
โดยปกติแล้ว เพียงอย่างใดอย่าง หนึ่งนั้นไม่เพียงพอ สำหรับการสำเร็จขั้นสูง
แล้วโดยเฉลี่ยต้องใช้ผลไม้หยางล้ำเลิศอย่างน้อยห้าสิบผล
และนี่ยังไม่รวมส่วนผสมอื่นๆที่สามารถทำให้ผู้คนหวาดผวาได้
ราคาของหยางเฉินเมื่อรวมกันแล้วยาเม็ดก่อรากฐานระดับสอง
เทียบได้กับราคาของยาเม็ดก่อรากฐานระดับหนึ่งได้หลายร้อย เม็ด
แต่ตัวเลขที่สูงของยาเม็ดก่อรากฐานไม่ได้หมายถึงโอกาสที่จะสำเร็จสูงไปด้วย
ว่ากันว่าตราบเท่าที่มียาเม็ดมากกว่าสิบเม็ด
แม้ว่าพวกเขาจะสำเร็จในการก่อสร้างรากฐานแต่ว่ารากฐาน
เหล่านั้นจะแตกต่างอย่างมากกับการก่อสร้างรากฐานโดยปกติ เเต่การกินยาก่อรากฐานระดับสองนั้นเพียงพอให้แน่ใจว่าจะสำ
เร็จโดยไม่มีปัญหาอะไร ผู้คนในตลาดต่างอยู่ในความเงียบ
แม้กระทั่งคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน
ชายที่สวมเสื้อคลุมลายปักลังเลอยู่นานแล้วเขาก็กัดฟันตัดสินใจถามหยางเฉิน
“ส่วนผสมอะไรบ้างที่ท่านต้องการและต้องใช้เวลาเท่าไหร่”
หยางเฉินไม่ยอมพลาดโอกาสในการทำธุรกิจเมื่อมันมาเคาะถึงหน้าประตู
การใช้ส่วนผสมของผู้อื่นในการเพิ่มทักษะการปรุงยาของเขาแล้วในขณะเดียวกันก็ได้กำไรจากหินจิตวิญญาณและแก่นจิตวิญญาณด้วย
แล้วทำไมเขาจะไม่ทำล่ะ?
ตั้งแต่เขามาอยู่ในหมู่บ้านหลีโลวเล็กๆแห่งนี้แม้แต่เศษฟางที่
ปลิวไหวไปตามลมก็ไม่อาจหลุดรอดไปจากการรับรู้ของเขาได้
เคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้งเป็นทักษะในการแบ่งจิตสำ
นึกจิตวิญญาณออกเป็นเส้นสายมากมายซึ่งกระจายตัวออกไป ทุกทิศทาง
ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของทุกคนในทุกเส้นทาง
วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆในการแบ่งจิตสำนึกจิตวิญญาณสำรวจรอบๆ
โดยที่ผู้คนเหล่านั้นไม่รู้ตัว หยางเฉินเรียกว่าเส้นด้ายจิตสำนึก จิตวิญญาณ
เทียบกับการปลดปล่อยจิตสำนึกจิตวิญญาณทั้งหมดของเขา
แล้วมันใช้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นและเป็นความลับด้วย
ดังนั้นผู้คนจึงไม่มีโอกาสต่อต้านเขามันเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับ
หยางเฉินในการจับตาดูหมู่บ้านหลีโลวในเวลานี้
ตั้งแต่จิตสำนึกจิตวิญญาณของหยางเฉินขยายอาณาเขตสูงกว่า
การบ่มเพาะของเขาขั้นนึงแล้ว เขาก็สามารถแบ่งจิตสำนึกจิตวิญญาณของตัวเองได้
แต่ตอนนี้หยางเฉินไม่อยากฝึกจิตวิญญาณ พื้นฐานของตัวเองการบ่มเพาะของเขาในปัจจุบันยังอยู่ระดับต่ำมาก
ดังนั้นจิตวิญญาณพื้นฐานจึงเป็นภาระในการบ่มเพาะของเขา
เมื่อหยางเฉินปลดปล่อยเส้นด้ายจิตสำนึกจิตวิญญาณเขาก็พบ
ปัญหาในทันที ในเมื่อนักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเช่น
เขามาถึงขั้นนี้ได้แล้วผู้อาวุโสสูงสุดล่ะทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นไปได้ทั้งหมด
ศาลสวรรค์หรืออย่างน้อยพื้นในรัศมีหลายร้อยลี้ที่พระราชวังสวรรค์
ก็อยู่ในการควบคุมของผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว
เป็นไปได้อย่างไรที่การกบฏที่ศาลสวรรค์ประสบความสำเร็จ? เป็นไปได้ไหมว่าผู้อาวุโสสูงสุดจงใจหรือบังเอิญให้ความช่วยเหลือ?
คิดถึงประเด็นนี้เหงื่อเย็นๆก็แตกไปทั่วร่างของหยางเฉิน
ถ้าเป็นเช่นนี้การล่มสลายของศาลสวรรค์ก็ไม่เป็นความลับ?
ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวเขาแล้วจางหายไปในทันที
เขาไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ความลับของศาลสวรรค์ไม่ใช่เรื่องที่ควรสนใจ
มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับนักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเช่นเขาจะต้องใส่ใจ
คิดมากไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มีแต่จะเพิ่มความกังวลและไม่แน่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขาได้
ตอนนี้สิ่งที่เขาสมควรทำมากที่สุดคือการเล่นไปตามบท
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดที่มีพรสวรรค์
ถูกต้องที่สุด!
ประสบการณ์ที่ผ่านมาของหยางเฉินสอนเขาว่า ไม่ว่าโลกแห่งความตาย โลกแห่งจิตวิญญาณ
หรือโลกแห่งนิรันดร์ ผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาโดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับสูงเป็นบุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุด
เว้นเสียแต่ว่าชีวิตจะมีศัตรูเป็นความตาย
ไม่มีใครกล้าที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูงไม่พอใจหรอก
ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้
ในตอนที่หยางเฉินเป็นอมตะทองคำ เพราะเขาเป็นนักบ่มเพาะธาตุไฟ เขาจวนเจียนจะไม่ผ่านผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับหก
แม้หลังจากการพยายามสองครั้งถ้าเขายังคงอยู่แค่ระดับหกเขาก็เปรียบได้เสมือนขยะในถังขยะแหละ
ไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโส สูงสุดที่สามารถเอายาเม็ดระดับเก้าออกมาได้อย่างสบายๆ
เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดธรรมดาๆ เขายังคงแย่กว่า
ในชีวิตนี้หยางเฉินมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่
ไม่ใช่แค่การที่เขามี เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณขั้นสุดยอด
แต่เขายังมีวิธีการปรุงเม็ดยาของผู้อาวุโสสูงสุดด้วย
เพียงแค่สองสิ่งนี้ก็ทำให้หยางเฉินมี
ศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงเม็ดยาระดับแนวหน้าได้ ถ้าไม่นับสองสิ่งนั้นเขายังมีสวนยาภูเขาหยาง
ที่มีสมุนไพรจิตวิญญาณนับพัน
และนอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าจะค้นหาเปลวไฟที่เหมาะสมได้ที่ไหน
เขาเคยมีส่วนร่วมใน ขั้นตอนการปรุงยากับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดระดับสูง
เมื่อรวมปัจจัยเหล่านี้เข้าด้วยกัน
มันเข้าเงื่อนไขที่จะส่งเสริมให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดในระดับสูงสุด
การอยู่ในสถานะนี้เขาสามารถเพิ่มมูลค่าตัวเองในนิกายได้
และในเวลาเดียวกันก็สร้างภาพลวงตาเพื่อป้องกันศัตรูที่มีศักยภาพ
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดโดยทั่วไปแล้วมีพละกำลังการต่อสู้ระดับกลางเหมือนกับจูเฉินเต่าของพระราชวังหยางบริสุทธิ์
ตราบเท่าที่เขายังสามารถรักษาสถานะนี้ไว้ คนอื่นๆจะช่วยเขาโดยไม่ตั้งใจ
มันทำให้ง่ายต่อหยางเฉินที่จะสร้างความสับสนให้ศัตรู
หยางเฉินได้รับกระท่อมไว้สำหรับปรุงยา
ชายที่สวมเสื้อคลุม ลายปักอยู่ห้องใกล้ๆและเริ่มเฝ้าหยางเฉินโดยไม่อนุญาตให้คนอื่นๆรบกวนเขา
คนที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมปักลายดูร่ำรวยและเอาแต่ใจ
แต่เขาก็ จัดหาส่วนผสมอย่างพอเพียงสำหรับยาเม็ดก่อรากฐานได้ถึง
ระดับห้าสิบถึงหกสิบเอ็ด หยางเฉินคาดว่าคนที่สวนเสื้อคลุมนั้น
น่าจะเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มชายหนุ่มในนิกาย คนที่เขาต้องช่วย
ให้ผ่านไปสู่ระดับก่อรากฐาน ฉะนั้นเขาจึงใช้จ่ายเงินในจำนวน มาก
การกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานไม่ใช่ปัญหาสำหรับหยางเฉิน
เขาไม่ได้ขาดทักษะหรือเตาหลอมยาที่ดี
ตราบเท่าที่เขามั่นใจว่าพลังจิตวิญญาณเอื้ออำนวยหรือสามารถเติ่มเต็มได้
นี่ไม่ใช่ประเด็นทั้งหมด
เตาหลอมแก่นวิญญาณสามารถรับผลไม้หยางล่ำเลิศได้เป็นสิบผลอย่างง่ายและกลั่นให้ยาเป็นของเหลวที่ภายหลังสามารถ
ผสมส่วนผสมอื่นๆและเริ่มก่อรูปร่างอย่างช้าๆ นี่เป็นขั้นตอนที่ยั่งยืน
ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดจะใช้เวลาอย่างน้อย
ครึ่งเดือนในการกลั่นยาเม็ดก่อรากฐานแต่สำหรับหยางเฉิน
แล้วไม่ต้องนานขนาดนั้นเพราะเตาหลอมแก่นวิญญาณและเปลวไฟแกนพิภพทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก
แม้ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจแต่ไม่มีใครกล้าใช้จิตสำนึกจิตวิญญาณในการสอดส่อง
เพราะการสำรวจของพวกเขาจะรบกวนหยางเฉินเเละทำให้เขาโกรธ และข้อเท็จจริงที่ว่าหาก
พวกเขาไม่ระมัดระวังและเกิดเหตุอะไรที่ทำให้น้ำยาเสียหาย
ชายผู้สวมเสื้อคลุมลายปักที่อยู่หน้าประตูก็คงจะไม่สุภาพต่อพวกเขา
ห้าวันผ่านไปมีกลิ่นไหม้ลอยออกมาจากห้องของหยางเฉิน
หัวใจของผู้ที่อยู่ด้านนอกประตูเริ่มตึงเครียด เขารู้ว่านั่น
หมายความว่าหยางเฉินล้มเหลว เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าต่ออย่างบ้าบิ่น
เขาลองมาหมดทุกหนแห่ง เเล้วแต่หยางเฉินเป็นคนแรกที่สามารถเติมเต็มความปรารถนา
ของเขาได้
สำหรับคนที่สวมเสื้อคลุมปักลายแล้วหนึ่งวันเหมือน ผ่านไป เป็นปี
ผู้สวมเสื้อคลุมปักลายยังคงอดทนรออย่างต่อเนื่องอีกยี่สิบวัน
คนอื่นๆในหมู่บ้านก็ยังคงอยู่ แม้พวกเขาจะออกไปล่าสัตว์อสูร
แต่เมื่อกลับมาพวกเขาก็จะตรงมายังบริเวณที่พักของหยางเฉิน เพื่อดูสถานการณ์
หลังจากที่เริ่มได้ไม่กี่วันก็มีกลิ่นหอมหวานเริ่มส่งกลิ่นออกมาจากกระท่อมของหยางเฉิน
กลิ่นช่างสดชื่นอย่างที่สุดเพียงสูดดม
กลิ่นแค่ครั้งเดียวก็กระทบใจทุกคนอย่างรุนแรงเหมือนเป็นน้ำยาครอบจักรวาล
มากกว่านั้นกลิ่นหอมเริ่มหนาแน่นมากขึ้น... มากขึ้น
และกระจายตัวไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ไม่มีใครออกจากหมู่บ้านไปไหน
ทุกคนต่างมาวนเวียนรอคอยอยู่รอบๆที่พักของหยางเฉิน ชายผู้ที่สวมเสื้อคลุมปักลายรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างเจ็บปวด
หวังจะเห็นผลลัพธ์ที่ได้ ในทุกๆวันเขาออกมองหาวิ่งไปทุกที่
ถ้าไม่มีคำอนุญาตจากหยางเฉินเขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะตรวจสอบด้วยจิตสำนึกจิตวิญญาณของตัวเขา
ในที่สุด...
วันหนึ่งเมื่อกลิ่นยาถึงจุดที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียง ตะโกนของหยางเฉินภายในที่พัก
และในทันใด... กลิ่นยาก็จาง
หายไปไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้คล้ายมันถูกดูดซึมด้วยอะไรบาง อย่าง
เอี๊ยด...
หยางเฉินเปิดประตูห้องเล็กๆของเขาและก้าวออกมาด้วยใบ
หน้าที่แสดงออกถึงอาการหมดแรง เขามองไปที่ชายเสื้อคลุม ปักลาย
ผู้ที่จับมือเขาและบนหน้าเต็มรอยยิ้มและความคาดหวัง
“ท่านมีขวดหยกไหม
ตอนนี้ข้าไม่มีเลย”
“ข้ามี! ข้ามี!”
ชายสวมเสื้อคลุมปักลายรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วเเละรีบหยิบ
ขวดหยกออกมาจากกระเป๋าจัดเก็บ เทของที่อยู่ในขวดออกและ ส่งให้หยางเฉิน
ยาเม็ดสีขาวบริสุทธิ์สองเม็ดถูกหย่อนลงใน
ขวดหยกอย่างช้าๆหลังจากนั้นก็ปิดจุกไม้ด้วยความระมัดระวัง
หยางเฉินมอบขวดหยกให้แก่ชายผู้สวมเสื้อคลุมปักลายและพูดว่า
“โชคดีที่ข้าไม่ได้ทำให้ตัวเองขายหน้า!”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น