เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560

GDN 054 สงครามที่ใกล้ปะทุ


เห็นว่าคุณเคยพูดถึงอุปกรณ์ระดับเทพสงครามมาก่อน สิ่งที่ว่ามานี้มันคืออะไร?” ฮั่นหลางเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

เฒ่าโม้กล่าวว่า "เจ้าน่าจะรู้ว่าในทางช้างเผือก เอสเปอร์ในระดับ 6 ดาว ถูกเรียกว่าเสมือนเทพสงครามหรือที่รู้จักกันในนามของกึ่งขุนศึก เมื่อพวกเขาไปถึงระดับ 7 ดาวแล้วพวกเขาจะกลายเป็นเทพสงครามหรือขุนศึกที่แท้จริงและอุปกรณ์เหล่านี้ที่พวกเขาใช้จะถูกเรียกว่าอุปกรณ์เทพสงคราม"

เนื่องจากค่าสถานะพลังพิเศษของ เอสเปอร์ระดับ 7 ดาว มีอย่างน้อยก็ 10 ล้านหน่วย แม้กระทั่งไทเทเนี่ยมที่ทรงพลังในมือก็สามารถแตกพังได้อย่างง่ายดายราวกับพลาสติก ดังนั้นขุนศึกทั้งหมดจึงใช้อุปกรณ์พิเศษและอุปกรณ์พิเศษเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์

ตั้งแต่ข้ายังเด็กข้าชอบเล่นเครื่องจักรและโลหะ ตอนนี้ข้ามีหุ่นยนต์ถ้าข้าสามารถเก็บอุปกรณ์เทพสงครามได้สักหนึ่งชุด ชีวิตนี้ของข้าก็ไม่นับว่าไร้ค่าแล้ว

ฮั่นหลางพยักหน้าเล็กน้อย เอสเปอร์ระดับ 7 ดาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างชัดเจน และเป็นดั่งตำนานในทางช้างเผือก ต้องการเก็บชุดอุปกรณ์เทพสงครามจากขุนศึกเหล่านี้อย่างงั้นหรอกหรือ? ความใฝ่ฝันของเฒ่าโม้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยจริงๆ

ฮั่นหลางยิ้มออกมาบางๆก่อนจะกล่าวกับเฒ่าโม้ว่า อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จและจากนั้นก็กลับมายังโลกเร็วๆ กลับมาใช้ชีวิตของคุณหลังเกษียณที่นี่

เฒ่าโม้ หัวเราะออกมา เขาสั่งให้หุ่นยนต์หาสมุดบันทึกเล่มหนาและส่งมันให้กับฮั่นหลางพร้อมกับพูดขึ้นว่า ด้วยการต้อนรับเป็นอย่างดีของเจ้า ข้าไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน มีเพียงสมุดบันทึกเล่มนี้ซึ่งมีการวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์ทั้งหมดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในสมุดเล่มนี้เป็นประสบการณ์การวิจัยทั้งหมดของข้าต่อให้เจ้ามีเงินก็ไม่อาจหาซื้อมันได้

แน่นอนว่าเจ้าต้องระวังเพราะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นเจ้าควรดูแลมันให้ดีอย่าให้ใครรู้ ไม่งั้นเจ้าอาจถูกส่งไปให้กับทางการถ้ามีคนอื่นรู้เรื่องนี้

ฮั่นหลางโบกมือ ในขณะที่รับสมุดบันทึกมาถือไว้ ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับของขวัญที่มีค่าเช่นนี้ผมจะดูแลมันอย่างดีอย่างแน่นอน!

……

คลื่นนน~

เรืออุตสาหกรรมเก่าล้าสมัยได้บินห่างออกไป ก่อนจะทิ้งโลกไว้เบื่องหลังด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอและเสถียร ฮั่นหลางมองการจากไปของเฒ่าโม้พร้อมด้วยความรู้สึกที่เข้มแข็ง เขารู้สึกอิจฉาเฒ่าโม้เล็กน้อยในวิถีการดำเนินชีวิตของเฒ่าโม้ เขานำกลุ่มหุ่นยนต์ที่จงรักภักดีขุดไปทั่วสมรภูมิรบโบราณและสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่แตกต่างได้ในทุกวัน

"สักวันหนึ่ง ฉันต้องกลายเป็นนักผจญภัยแห่งกาแลคซีให้ได้" ฮั่นหลางนิ่งคิดอยู่อย่างเงียบๆ

ทุกคนต้องมีความฝัน แต่เป้าหมายเดียวของฮั่นหลางตอนนี้คือการเข้าร่วมการแข่งขันหลักของงานชุมนุมแห่งกาแลคซี่และหลีกเลี่ยงไม่ให้บ้านของเขาตกเป็นอาณานิคมของดาวเคราะห์มหาอำนาจอื่นๆ  มิฉะนั้นถ้าฮั่นหลางกลับมาจากการผจญภัยในทางช้างเผือกและพบว่าบ้านของเขาได้หายไปนั่นจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้าจริงๆ

ฮั่นหลางถือเครื่องมือสือสาร เรียกกองกำลงขนส่งที่กำลังรอคอยอยู่โดยรอบและให้พวกเขานำอุปกรณ์ทั้งหมดนี้กลับไปที่ฐานนาซคาเพื่อแจกจ่ายให้กับกองกำลัง

แม้จะเป็นสินค้ามือสองจากดาร์คเน็ต แต่มันก็ทำให้ทหารทุกคนมีความสุขมาก เพราะพวกเขาจะได้มีอุปกรณ์เป็นของตัวเอง ด้วยขาดเงินสนับสนุนมาเป็นเวลานาน เอสเปอร์บนโลกจึงรู้สึกพอใจกับสิ่งที่เรียบง่ายเหล่านี้

ชีวิตประจำวันยังคงดำเนินต่อไปเช่นปกติ ฝึกฝน เรียนรู้ ฝึกซ้อมกลวิธีและเวลาได้ผ่านไปเดือนครึ่งในพริบตา ในช่วงเวลานั้นปัญหาเกี่ยวกับโจรสลัดอวกาศและไรเดอร์ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น

เนื่องจากเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติกที่ทรงพลัง ซึ่งกำลังเฝ้าปกป้องโลก เหล่าไรเดอร์นอกโลกจึงไม่กล้าบุมบามบุกปล้นสะดม แต่พวกมันได้เบนเข็มไปปล้นเมืองเล็กๆแทนเพื่อหาสิ่งของมีค่าที่พวกมันจะสามารถปล้นได้ก่อนที่จะหลบหนี

ฮั่นหลางและทหารในกองพลเอสเปอร์รู้สึกโกรธมาก แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ไรเดอร์บุกมาปล้นและหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทำให้ยากมากที่จะเตรียมตัวป้องกันได้ทันกับการโจมตีเช่นนี้ ภายในเวลาเพียงเดือนครึ่ง โลกถูกรุกรานมากกว่า 100 ครั้ง โดยเฉลี่ยประมาณ 3 ครั้งต่อหนึ่งวัน

ในวันที่เลวร้ายที่สุดมีการโจมตีถึง 9 ครั้งภายในวันเดียว ซึ่งทำให้โลกเกิดความหวาดกลัว ตอนนี้ประชาชนไม่กล้าที่จะอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆที่มีการป้องกันไม่เพียงพอ ต่างอพยพเข้าเมืองใหญ่ๆที่มีการป้องกันที่ดี ทำให้ทุกเมืองสำคัญๆต่างแออัด บนถนนคนจรจัดปรากฏออกมาให้เห็นมากขึ้นและพวกเขาทั้งหมดขาดอาหารและเสื้อผ้า

ฮั่นหลางรู้ว่าที่ไรเดอร์และโจรสลัดออกอาละวาดที่บนโลก เนื่องมาจากมีข่าวแพร่กระจายไปว่า กลุ่มไรเดอร์กรงเล็บปักษาประสบความสำเร็จในการปล้นดาวเคราะห์ดวงเดียวหลายครั้งและเกือบจะระเบิดอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นC ของดาวเคราะห์นั้นได้

หลังจากได้รับรู้ข่าวนี้ ไรเดอร์และโจรสลัดกลุ่มอื่นๆ จึงได้สืบค้นที่มาและรับรู้ว่าดาวเคราะห์ที่กลุ่มไรเดอร์กรงเล็บปักษาบุกปล้นอย่างอุกอาจนั้นคือโลก จากนั้นโลกได้กลายเป็นเป้าหมายยอดเยี่ยมของกลุ่มไรเดอร์ พวกมันทั้งหมดก็เริ่มกำหนดเป้าหมายมาที่โลก

คนดีมักถูกรังแก ม้าที่ดีย่อมมีคนมาแย่งกันขี่ งานชุมนุมแห่งกาแลคซี่ยังไม่ได้เริ่มสถานการณ์ของโลกก็กลายเป็นเลวร้ายลงไปอีก

ฮั่นหลางยังคงดำเนินการทดสอบเภสัชวิทยาอยู่หลายครั้งและมุ่งหน้าไปยังศูนย์ฝึกฝนซึ่งมีบ่อน้ำเย็นจัดที่สร้างขึ้นมาสำหรับฮั่นหลางโดยเฉพาะ
ก่อนที่จะข้ามผ่านประตูเข้าไป ฮั่นหลางก็พบเฉินจงที่มีสีหน้าหดหู่

แม่ของฉันโทรมาบอกกับฉันว่า เมืองที่ป้าสองของฉันอาศัยอยู่ได้ถูกโจมตีโดยกลุ่มโจรสลัดกาแล็คซี่ แล้วลุงสองของฉันถูกยิงเข้าที่ขาซึ่งตอนนี้ได้พิการไปแล้ว เขาจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็น... และลูกพี่ลูกน้องสองคนของฉันอายุเพียงแค่ 8 หรือ 9 ปี เด็กสาวทั้งสองหวาดกลัวจนใบหน้าของพวกเธอซีดเผือด นอกจากร้องไห้พวกเธอก็ไม่สามารถพูดได้แม้แต่ประโยคเดียว

แม่ของฉันถามฉันว่า ลูกไม่ได้เป็นทหารเหรอ? ลูกไปอยู่ที่ไหนตอนที่บ้านของป้าสองถูกโจมตี? ทำไมลูกถึงไม่อยู่ในสนามรบ? ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะตอบแม่ยังไง เวรเอ๊ย!

ฉันโกรธมาก! ไอ้งั่งหลงฉวนมัวแต่ทำอะไรอยู่? ทำไมมันถึงไม่ส่งเราไปปกป้องโลก? ทำไมกองพลเอสเปอร์ที่ 1 สิ่งที่เราต้องทำทั้งหมดมีเพียงฝึกฝนและฝึกฝนมากขึ้นไปอีก? ถ้าเราไม่สามารถปกป้องเมือง ที่ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ได้แล้ว พวกเราจะฝึกฝนไปทำซากอะไร?! ฮั่นหลาง นายบอกกับฉันที่ว่านายก็เห็นด้วยกับฉันใช่ไหม?”

เฉินจงพูดออกมาเสียงดังมาก มันได้ยินไปทั่วทั้งศูนย์ฝึกฝน แอนบีเบ้ก็ได้ยินในเรื่องที่ทั้งสองคุยกัน เธอเดินเข้ามาใกล้ด้วยสองขาเรียวสวย ก่อนจะยืนเท้าสะเอวและกล่าวว่า เฉินจงพูดได้ถูกต้อง เดือนที่แล้วพ่อของฉันเดินทางไปทำธุรกิจที่เมืองเล็กๆ ซึ่งเมืองนี้ได้ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน เขาเกือบจะไม่ได้กลับมาที่บ้าน! ตอนนี้ฉันบอกให้พ่อลาออกจากงาน สวัสดิการจากรัฐบาลนั้นดีพอที่ฉันจะเลี้ยงครอบครัวได้ ฉันไม่ต้องการให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความเสี่ยงอีกแล้ว

ปาร์เกอร์โอดครวญอย่างร้อนรนว่า หนึ่งเดือนครึ่งถูกโจมตีไป 139 ครั้ง! พวกโจรสลัด คงคิดจริงๆว่าโลกเป็นเพียงกระสอบทรายอ่อนนุ่มใช่ไหม?! ฮั่นหลางไปกันเถอะไปประท้วงหลงฉวนกัน! เราจะยังต้องฝึกอะไรอยู่อีก? มันเป็นเรื่องเร่งด่วนมากที่จะต้องกำหนดจุดที่จะส่งทุกคนไปคุ้มกันเพื่อป้องกันการโจมตีที่มากขึ้นกว่าเดิม!

นับตั้งแต่ครั้งที่ฮั่นหลาง กระทืบกลุ่มเอสเปอร์อฉริยะระดับ 4 ดาวที่นำโดย ซินเบิร์กเขาก็กลายเป็นผู้นำของกลุ่มโดยชอบธรรม นอกจากนี้พวกเขายังมักจะฝึกซ้อมกลยุทธทางการรบหมาป่าฝางที่นำโดยฮั่นหลาง ซึ่งทำให้ทุกคนติดนิสัยทำเรื่องอะไรก็ตามจะปรึกษากับฮั่นหลางก่อนเสมอ

การโจมตีโลกโดยกลุ่มล่าสุดทำให้ทุกคนรู้สึกโกรธ

ฮั่นหลางหันหน้าของเขาลงไปที่หน้าต่างกระจกและมองออกไปยังสถานที่โล่งกว้างเขาพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า "เห็นนั้นหรือเปล่า"

เห็นอะไรกัน? มันก็มีเพียงแค่หิมะ ฉันเคยเห็นมันหลายครั้งที่บ้านนิโคลัสจากไซบีเรียกล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ

ฮั่นหลางส่ายหน้า เขาชูนิ้วชี้แตะที่ปากและพูดออกมาด้วยเสียงเบาราวเสียงกระซิบว่า ดูนั้น การฝึกซ้อมของกองพลเอสเปอร์ที่1 ท่ามกลางหิมะอีกครั้ง และหลงฉวนเป็นผู้นำทีมเหล่านี้ฝึกหนักด้วยตัวเอง การฝึกในรูปแบบขนาดใหญ่เช่นนี้แต่เดิมจะทำการฝึกในทุกๆสามวัน แต่ตอนนี้เขานำทีมฝึกฝนทุกวัน

และทหารแต่ละคนฝึกฝนด้วยชุดอุปกรณ์เต็มรูปแบบ โดยมีผู้บัญชาการทั้งหมดค่อยกำกับดูแลในระหว่างการฝึกซ้อม แม้แต่ประธานทาลลินแห่งรัฐบาลกลางก็บินมาที่ฐานนาซคาในทุกสองสามวัน พวกนายไม่รู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียดของสงครามที่ใกล้เข้ามาถึงนี้หรอกเหรอ?”

หลังจากตั้งใจฟังสิ่งที่ฮั่นหลางพูด ทุกคนต่างรู้สึกตกใจ

เฉินจงเกาหัวของเขาและกล่าวว่า พอพูดถึงเรื่องนี้ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนของฉันที่เป็นผู้บริหารพลาธิการ บนเรือลาดตระเวนแอตแลนติกเขากำลังยุ่งอยู่กับการบรรทุกวัสดุจำนวนมากจนแม้แต่เวลามารับโทรศัพท์ของฉันสักแปปก็ไม่มี

ซินเบิร์กลูบคางและพูดว่า นั่นทำให้ฉันนึกถึงลูกพี่ลูกน้องของฉันในทีมดูแลรักษาของเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติก พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการบำรุงรักษาชั้นหนึ่งของเรือลาดตระเวน อุปกรณ์ทั้งหมดรวมทั้งห้องน้ำได้ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนบางทีมันอาจจะจริงอย่างที่นายพูดมา ที่เราไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น?”

ฮั่นหลางพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า เราจะรอและดู ในตอนที่ฉันทำการทดสอบ ในบางครั้งฉันสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก จากสิ่งที่ฉันเห็นบรรยากาศในฐานเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไฟในห้องทำงานของหลงฉวนเปิดอยู่แทบจะตลอดเวลา ในทุกๆวันเขาอยู่ในสำนักงานทำงานจนถึงรุ่งเช้า

ถ้าฉันเป็นหลงฉวน ฉันจะไม่มอบหมายให้ทหารของกองพลเอสเปอร์ไปยังเมืองเล็กๆเพื่อปกป้องโลก มีคนนับห้าสิบล้านคน นับหมื่นเมืองเล็กๆ การกระจายกองพลเอสเปอร์เล็กๆของเราไปยังเมืองเหล่านั้นมันจะมีประโยชน์อะไร?”

มีคำพูดโบราณที่ดีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า หากคุณต้องการจะทะลายกลุ่มโจร สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงแค่เด็ดหัวผู้นำของพวกมัน ถ้าเราต้องการให้พวกโจรสลัดและไรเดอร์ระยำพวกนี้ไม่กล้าที่หยั่งเท้าลงมาบนพื้นโลกเราต้องต่อสู้ด้วยสงครามที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโลกไม่ใช่กระสอบทรายที่อ่อนแอ! เราต้องประกาศให้พวกมันรู้ถึงราคาที่พวกมันต้องจ่ายที่กล้ามาคุกคามโลก!

นั่นจริงหรือ?”

เยี่ยม เราทั้งหมดที่อดทนรอก็เพื่อวันนี้!

ฮั่นหลาง นายคิดว่าเมื่อไหร่ที่การต่อสู้ครั้งนี้จะเกิดขึ้น? ใครคือเป้าหมายของเรา?”

ฝูงชนล้อมรอบฮั่นหลางและพวกเขาทุกคนต่างมีคำถามและถามขึ้นมา

ฮั่นหลางคิดถึงความเป็นไปได้และพูดขึ้นว่า น่าจะภายในสองวันถัดจากนี้ นั้นเพราะอัตราการการฝึกฝนของทหารในกองพลเอสเปอร์ที่ 1 ใกล้ถึงขีดจำกัด ตอนนี้เราต้องทำเพียงอดทนรอและไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ

เข้าใจแล้ว! ซินเบิร์กพยักหน้าอย่างหนักแน่นและเดินตรงไปยังศูนย์ฝึกฝน 

"นายจะไปไหน? เราจะไม่ไปดื่มชาฟองด้วยกันหรอ?" แอนบีเบ้ตะโกนไล่หลังซินเบิร์ก

ไม่ไป เธอไปคนเดียวเถอะ

ซินเบิร์กเข้าห้องฝึกฝนและมีเสียงหวดอาวุธผ่านอากาศขึ้นในทันที ดูเหมือนว่าซินเบิร์กกำลังเริ่มที่จะเพิ่มเวลาในการฝึกฝนของเขา


ฮั่นหลางมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสงบนิ่ง หิมะตกลงมาหนัก พื้นผิวโลกภายนอกต่างปกคลุมด้วยสีขาว กองพลเอสเปอร์ที่ 1 ยังคงฝึกฝนอย่างเข้มข้นในระดับสูงสุด ร่างของเหล่าทหารทั้งหลายค่อยๆกลายเป็นกลุ่มจุดสีดำในระยะไกล 

1 ความคิดเห็น: