เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

GDN 053 การมาถึงของเฒ่าโม้



หลังจากที่ฮั่นหลางได้มาถึงฐานนาซคาได้ไม่กี่วัน ชีวิตประจำวันของเขาก็กลับมาฝึกฝนตามปกติ เขาฝึกยุทธวิธีการรบเขี้ยวหมาป่า ถามคำถามกับ ต้นกำเนิดไร้จุดหมายอย่างไม่หยุดหย่อน นอกจากนี้ฮั่นหลางยังได้ศึกษาหนังสือที่เกี่ยวกับยาที่ผู้เล่นยามค่ำคืนมอบให้กับเขาอีกด้วย

เดิมทีฮั่นหลางคิดว่าทักษะด้านยา คงจะเป็นการเรียนรู้ที่น่าเบื่อมาก แต่เมื่อเขาเริ่มศึกษาจริงๆ เขากลับพบว่าการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยานั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว

เทคโนโลยีทางด้านยาส่วนสำคัญคือการเล่นแร่แปรธาตุ อย่างเช่น ควันที่เกิดจากส้มชิราคาวานที่มีราคาแพงสามารถเร่งอัตราการเผาผลาญของเซลล์ และถ้าหากไม่สามารถซื้อมันได้ อีกทางเลือกหนึ่งก็อาจหามาได้จากส่วนผสมระหว่างผงดินเหลือง กล้วยไม้ตะวันตก และฮัวเหลียน เมื่อนำพวกมันมาสกัด พวกมันล้วนให้ผลลัพธ์ที่คล้ายกัน

สรุปได้ว่า ยุคนี้วิทยาการทางด้านยาระหว่างดวงดาวเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการผสมผสานที่ซับซ้อนมาก เริ่มต้นด้วยกระบวนการฟอกเพื่อความบริสุทธิ์ กระตุ้นปฏิกิริยาของตัวยา ช่วงเวลาออกฤทธิ์ของตัวยาในแต่ละครั้ง อุณหภูมิและแม้กระทั่งการใช้แบคทีเรียในยาเพื่อขยายผลทางด้านยา

ฮั่นหลางรู้สึกว่าวิทยาการทางด้านยาเป็นเหมือนโลกที่มีกล้องจุลทรรศน์ซึ่งเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ลึกลับและผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงคือผู้ที่มีทักษะควบคุมการแปรเปลี่ยนศักยภาพของยา

แน่นอนว่าการเรียนรู้ด้านวิทยาทางด้านยาของฮั่นหลางเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนาน เขาไม่ได้ใช้เวลากับมันมากนัก ภารกิจหลักของเขาตอนนี้คือการฝึกฝนตัวเองพัฒนาระดับและช่วยให้ทุกคนในกลุ่มสามารถใช้ยุทธ์วิธีเขี้ยวหมาป่าได้

หลังจากผ่านไปสองสามวัน ฮั่นหลางได้รับอีเมลจากเฒ่าโม้ ส่งมาที่ดาร์คเน็ต บอกไว้ว่าปัจจุบันเขาได้มาถึงระบบสุริยะชั้นนอกพร้อมกับขนเซ็ตอุปกรณ์สำหรับกองทัพ 10,000 เซ็ต สมุนไพรพื้นฐานและเครื่องมือทดลองที่ผู้เล่นยามค่ำคืนต้องการมอบให้เขา เช่นเดียวกับชุดอุปกรณ์ของฮั่นหลางเอง

ฮั่นหลางรู้สึกตื่นเต้นมากและหลงฉวนได้อนุญาตให้เฒ่าโม้ได้เข้ามาสู่น่านฟ้าของโลกได้ พร้อมกับที่ฮั่นหลางรีบบินไปที่ทะเลทรายซาฮาร่าเพื่อพบกับเฒ่าโม้

……

คลื่นนน~

มันยังคงเป็นเรืออุตสาหกรรมสภาพเก่าแก่ ปรากฎขึ้นมาที่ขอบฟ้าและลงจอดในทะเลทรายที่ไร้ที่สิ้นสุด

ในฐานะนักธุรกิจที่ค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายบนดาร์คเน็ต เฒ่าโม้มักจะระมัดระวังในการติดต่อกับบุคคลภายนอก ดังนั้นฮั่นหลางต้องไปพบกับเขาเพียงลำพังและจอดเรือรบสงครามฟอลคอนให้ห่างไกลจากตัวฮั่นหลาง นอกจากนี้ฮั่นหลางยังกล่าวกับหลงฉวนว่าจะไม่พยายามที่จะสื่อสารกับเรือลำนี้ เพราะเฒ่าโม้ไม่ต้องการที่จะทิ้งร่องรอยของเขาไว้เบื่องหลัง

อย่างไรก็ตาม ทุกคนบนดาร์คเน็ตเป็นผู้คนที่ปลีกตัวออกจากแสงสว่าง นักธุรกิจส่วนใหญ่จึงมีความระแวงระวัง เช่นเดียวกับเฒ่าโม้การที่เขายินดีที่จะส่งมอบสินค้าให้กับโลกเป็นการส่วนตัวนั้นแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจที่เขามีให้กับฮั่นหลาง

ประตูเปิดออก เฒ่าโม้และหุ่นยนต์สองสามตัวเดินออกมา เขาไม่ได้ใส่ชุดคลุมป้องกัน มันเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาและฮั่นหลางคิดว่าเขาคล้ายกับตัวลิ่น ดวงตาเล็ก ส่วมแว่นตากันลมและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเกล็ดสีฟ้า

“เฒ่าโม้!” ฮั่นหลางโบกมือและตะโกนขึ้น

เฒ่าโม้มองไปยังดวงอาทิตย์อันร้อนแรงบนท้องฟ้า และพูดออกมาอย่างจริงใจว่า “สถานที่แสนงดงามเช่นนี้ไม่มีใครอาศัยอยู่หรือนี่? คนบนโลกนี้ช่างไม่รู้จักทรัพยากรอันล้ำค่าเลยจริงๆ”

ฮั่นหลางยิ้มและมองไปรอบๆเนินทราย “ที่ไหนคือสถานที่ที่ดี? มันเป็นแค่ทะเลทรายและไม่สามารถหาน้ำได้ คนบนโลกเราไม่ชอบที่จะอาศัยอยู่ในทะเลทราย เราชอบที่อาศัยอยู่ริมทะเลหรือที่ราบลุ่ม”

เฒ่าโม้ส่ายหน้า ในขณะที่ถอนหายใจและพูดว่า “ก่อนลงจอด ข้ามองรอบๆอาณาเขตของโลก โลกเป็นดาวเคราะห์ที่สวยงามจริงๆซึ่งหาได้ยากในทางช้างเผือก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมจักรวรรดิต่างๆถึงต้องการยึดครองโลกเป็นอาณานิคมอย่างมาก... แม้แต่ข้าก็ต้องการจะใช้ชีวิตแก่ๆของข้าที่นี้เช่นกัน”

ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไร ผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลกนั้นรู้ดีว่าจักรวรรดิไม่ได้ต้องการโลกอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะความสวยงามนี้ แต่เป็นเพราะ อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB ที่ตั้งอยู่บนโลกนี้ต่างหาก

“คุณนำสิ่งของทั้งหมดมาด้วยหรือเปล่า?” ฮั่นหลางถาม

เฒ่าโม้โบกมือ หุ่นยนต์กรรมกรเหล่านี้ก็ไปเปิดประตูด้านหลังของเรือและนำตู้โลหะบรรจุสินค้าลงมา เฒ่าโม้ถอดแหวนนภาบนนิ้วของเขาและส่งมันให้กับฮั่นหลาง

“ไม่ต้องห่วง ข้าได้ทำความสะอาดเรือของข้าแล้วตอนนี้ เรือเวอเทอร์ไม่มีรังสีใดๆมันปลอดภัยมาก ตรวจสอบสิ่งของภายในแหวนมิติ พวกมันเป็นของใช้ส่วนตัวของเจ้า และนี่เป็นสินค้าที่เจ้าซื้อให้กับโลก”

เฒ่าโม้ นำฮั่นหลางไปที่ตู้บรรจุสินค้า ก่อนจะเปิดออกทีละตู้เพื่อให้ฮั่นหลลางทำการตรวจสอบ
“โอ้ จริงสิ กล่องนี้ก็เป็นของเจ้าด้วย ผู้เล่นยามค่ำคืนได้ขอให้ข้าหาวัตถุดิบและชุดอุปกรณ์ในการทำยา และก็นี่ กล่องบรรจุยาสำหรับเจ้า ในนั้นมียาจำพวก ยาพลังงานนิวเคลียร์และสิ่งต่างๆ นอกจากนี้ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย บอกให้ข้ามอบชุดฝึกซ้อมที่หลากหลายให้กับเจ้า”

“เขาบอกว่า การฝึกฝนของเจ้าในปัจจุบันไม่ค่อยสะดวกเนื่องจากเจ้าต้องเดินทางไกล ดังนั้นเขาจึงมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า ด้วยชุดฝึกนี้ เจ้าจะสามารถฝึกฝนได้ตลอดเวลา” เฒ่าโม้เปิดกล่องหนึ่งกล่องออกมาและอธิบายวิธีการใช้งาน

ฮั่นหลางกวาดตามองอย่างสนใจใคร่รู้ไปที่อุปกรณ์สำหรับการสร้างยา มันดูค่อนข้างมีระดับสูงและส่วนใหญ่นั้นฮั่นหลางไม่รู้จัก จากนั้นฮั่นหลางก็หยิบชุดฝึกที่ต้นกำเนิดไร้จุดหมายมอบให้ขึ้นมา
 
มันเป็นชุดที่หนักมากมีการติดตั้งวงจรที่ซับซ้อน ลักษณะแผงควบคุมเป็นเหมือนกระเป๋าเป้สะพายซึ่งเป็นโลหะผสมติดอยู่ด้านหลังของชุด คำแนะนำบอกไว้ว่าชุดนี้สามารถปรับอุณหภูมิ แรงโน้มถ่วงและแม้แต่เลียนแบบความเจ็บปวดที่อาจจะได้รับจากการถูกโจมตี

ฮั่นหลางรู้สึกดีใจ ที่ตาเฒ่าพิลึก ต้นกำเนิดไร้จุดหมายซึ่งปกติมักจะดุด่าว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีอนาคต แต่ความจริงแล้วตาเฒ่านั้นลับหลังกลับดีกับเขามากจริงๆ ชุดฝึกฝนอเนกประสงค์นี้น่าจะมีมูลค่าสูง ด้วยสิ่งนี้ฮั่นหลางสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ห่างไกลได้โดยไม่ต้องพกพาบ่อน้ำขนาดใหญ่และยังมีฟังก์ชั่นเสริมอีกมากมาย

สุดท้ายฮั่นหลางได้เปิดใช้งานแหวนนภามันเป็นแหวนมิติที่มีช่องว่างให้สามารถเก็บสิ่งของ ซึ่งดูสะดวกสบายมาก ทุกคนที่สวมใส่มันสามารถใช้งานมันได้ เมื่อต้องการที่จะใช้งานมัน ก็เพียงส่งพลังงานเล็กน้อยจากแหล่งพลังงานลงไปในแหวน

ชุดรบกิเลนดำ ประกอบขึ้นด้วยโลหะอ่อนที่ทรงพลัง ดาบเสี้ยวจันทรา   กรีชกระดูกขาว เงิน ทั้งหมดอยู่ในแหวนนั้น

เฒ่าโม้กล่าวขึ้นมาว่า “ข้าขายผลึกพลังพิเศษที่เจ้าฝากขายเรียบร้อยแล้ว เป็นเงิน 12 ล้านGC โอนเข้าบัญชีของเจ้าแล้ว”

ฮั่นหลางหัวเราะออกมา “ขอบคุณครับ ขอบคุณ! เพื่อเป็นการขอบคุณ ผมได้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้แล้ว ตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วเรามาทานอาหารเย็นกัน”

เฒ่าโม้นิ่งคิดสักครู่และตัดสินใจที่จะอยู่ลองกินอาหารน่าอร่อยของโลกที่ ฮั่นหลางกำลังพูดถึง

ฮั่นหลางนำโต๊ะพับของทหารขึ้นมาและกางมันออก จากนั้นเขานำกล่องเก็บอาหารรักษาอุณภูมิออกมาทั้งหมด 12 กล่องพร้อมกับขวดยอดสุราเหมาไถ เขาใช้หม้อพกพาอุ่นอาหาร ฮั่นหลางนั่งลงบนพื้นพร้อมกับเฒ่าโม้และรับประทานอาหารเย็นที่เรียบง่าย ในบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์

อาหารจีนมีชื่อเสียงมานานหลายปีและทุกจานที่ฮั่นหลางซื้อมาเป็นของต้นตำรับ หัวสิงโตตุ๋น (TL: ลูกชิ้นเนื้อขนาดใหญ่) กุ้งต้ม ไก่เผ็ดปักกิ่ง หมูซอสต้มปลา และอื่นๆ แน่นอนมันจะขาดเมนูหลักที่ฮั่นหลางชื่นชอบไม่ได้นั้นคือ ซาลาเปาเนื้อ

เนื่องจากทั้งชีวิตของเฒ่าโม้มาจากถิ่นทุรกันดารแน่นอนว่าเขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่เพลิดเพลินไปกับอาหารอร่อยเช่นนี้ เขาตักอาหารขึ้นมาคำใหญ่และกล่าวสรรเสริญพระเจ้าในทุกๆครั้งที่กลืนอาหารลงไป ในวัฒนธรรมของเผ่าพันธ์กุย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นของขวัญจากพระเจ้า ทุกคนในเผ่าพันธุ์กุยนั้นศรัทธาต่อพระเจ้า

ฮั่นหลางดื่มสุราไปสองจอกและเฝ้ามองเฒ่าโม้ที่กินอาหารทุกอย่างด้วยท่าทางที่เอร็ดอร่อย พร้อมกับสถานที่อันงดงามของโลก มันทำให้เฒ่าโม้รู้สึกชื่นชอบโลกมากขึ้น หลังจากที่มื้ออาหารได้ผ่านไป เขาเก็บอาหารส่วนที่เหลือไว้ในตู้รักษาอุณภูมิอย่างระมัดระวังและบอกว่าเขาจะเก็บไว้ในภายหลังเพื่อที่จะเพลิดเพลินไปกับมันอย่างช้าๆเมื่อเขาอยากกินมัน

ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมหรือเผ่าพันธุ์ใดๆ ทุกคนต่างชื่นชอบอาหารอร่อยเหมือนๆกัน และอาหารจีนที่แสนอร่อยก็สามารถเอาชนะความกระหายของเฒ่าโม้ได้อย่างง่ายดาย

นอกเหนือจากความรักที่มีต่อซาลาเปาเนื้อและช็อคโกแลตร้อนแล้ว ฮั่นหลางก็รู้สึกดีกับอาหารอื่นๆ หากจะเปรียบเทียบแล้วเขาชอบหุ่นยนต์ของ เฒ่าโม้มากกว่า

ในการมาเยือนครั้งนี้จำนวนหุ่นยนต์ของเฒ่าโม้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยถึง 20 ตัวและเขาบอกว่ามันเพิ่มมาจากการซ่อมแซมยามว่างระหว่างทางที่มายังโลก

เมื่อเห็นความสนใจของฮั่นหลางที่มีต่อหุ่นยนต์ เฒ่าโม้ได้อธิบายให้เขาฟังอย่างอดทนตั้งแต่ประวัติของหุ่นยนต์ไปจนถึงหุ่นยนต์ประเภทต่างๆโครงสร้างภายในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้ เขาได้บอกมันกับฮั่นหลาง

แต่น่าเสียดายที่ฮั่นหลางยังคงเป็นผู้เริ่มต้นอยู่และเขาสามารถเข้าใจได้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่ทิ้งไว้จากเผ่าพันธุ์ที่มีอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์

จำเป็นต้องพูดว่าหุ่นยนต์สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานได้และกุญแจสำคัญคือความภักดีและเชื่อฟังที่พวกมัน เมื่อเฒ่าโม้กำลังรับประทานอาหารกับฮั่นหลาง พวกหุ่นยนต์เพียงยืนเป็นท่อนไม้โง่ๆอยู่กับที่ และพวกมันก็มาทำความสะอาดหลังจากที่เฒ่าโม้และฮั่นหลางกินกันเสร็จสิ้นแล้ว พวกมันเพียงแค่ทำในสิ่งที่พวกเขาบอกให้ทำ

เฒ่าโม้ถอนหายใจ "โลกมีอาหารอร่อยและสภาพแวดล้อมที่ดี แต่น่าเสียดายที่มันถึงเวลาที่ข้าต้องไปแล้ว" เฒ่าโม้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอาวรณ์

ฮั่นหลางหัวเราะและพูดว่า "ถ้าคุณชอบเช่นนั้นก็มาอาศัยอยู่ที่นี้สิ! ด้วยความรู้ของคุณเกี่ยวกับหุ่นยนต์คุณสามารถกลายเป็นหัวหน้าช่างของรัฐบาลกลางได้จากนั้นคุณก็จะมีอาหารที่ดีเยี่ยมสำหรับคุณทุกวันและยังสามารถที่จะไปอาศัยอยู่ที่ใดก็ได้ทุกที่ที่คุณต้องการ ไม่ใช่ว่ามันดีกว่าการไปที่สนามรบที่ห่างไกลและใช้ทุกวันอยู่ภายใต้ความหวั่นวิตกหรือ?"

ฮั่นหลางนั้นเป็นคนที่จริงใจมากๆ โลกไม่เพียงแค่ขาดเงินแต่ยังขาดบุคลากรที่มีพรสวรรค์ด้วยถ้าเฒ่าโม้ สามารถแก้ไขหุ่นยนต์ที่ซับซ้อนเช่นนั้นได้ชัดเจนว่าเขาต้องเป็นช่างฝีมือที่มีทักษะมาก

เฒ่าโม้กล่าวด้วยเสียงอันลึกซึ้งว่า "ข้าก็ต้องการเช่นนั้นแต่โชคร้ายที่ข้ายังไม่ถึงวัยเกษียณ เมื่อข้ายังเด็กข้าปรารถนาที่จะเป็นสกินเนอร์และจะต้องเป็นหนึ่งในสุดยอดของเส้นทางนี้ข้าจะไม่หยุดจนกว่าจะได้รับสุดยอดชุดอุปกรณ์จากสนามรบ"

"คราวนี้ข้าจะไปยังสถานที่บางแห่งที่ทรงพลังจริงๆ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ก็เป็นไปได้มากที่จะบรรลุเป้าหมายของข้า"

“เอาอย่างนี้เรามาทำข้อตกลงกัน ถ้าข้าประสบความสำเร็จในเวลานั้นข้าจะกลับมาที่โลกเพื่อมาหาเจ้าอย่างแน่นอน ตอนนั้นหวังว่าเจ้าจะยังต้องการให้ข้าอยู่ที่นี้ ขอเพียงบ้านหลังน้อยๆสักหลังข้าก็พอใจแล้ว”

“ไม่มีปัญหา! ผมจะรอคุณ” ฮั่นหลางยิ้มและถามว่า  “เห็นว่าคุณเคยพูดถึงอุปกรณ์ ระดับเทพสงคราม มาก่อน  สิ่งที่ว่ามานี้มันคืออะไร?”

4 ความคิดเห็น:

  1. พวกกลุ่มตาเฒ่านี่น่ารักกันทุกคนเลยจริงๆ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับ ทำไมตอนที่แล้วอ่านไม่ได้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ลองแตะเลือกบทความที่เก่ากว่าด้านล่างขวามือดูครับ เลือกไปเรื่อยๆจนเจอนะครับมันปนๆกับเรื่องอื่น

      ลบ