เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2560

GDN 045 สมรภูมิโบราณ


ฮั่นหลางรู้สึกตกใจแล้วถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า  โลกมี อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB ด้วยหรือ?”

ตามคำอธิบายของหลี่อู่ อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB เป็นสถานที่ที่ล้ำค่ามากซึ่งสามารถสำรวจยึดครองได้เพียงเฉพาะดาวเคราะห์ที่มีการพัฒนาที่เจริญแล้วในกาแลคซี่ทางช้างเผือก ผลประโยชน์ในการค้นพบอาณาจักรสาปสูญนั้นคือความมั่งคั่งมหาศาล ฮั่นหลางไม่เคยคิดว่า ดาวเคราะห์เล็กๆอย่างโลกจะมีอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB!

หลี่อู่ยิ้มบางๆพร้อมกับพยักหน้ากล่าวว่า โลกมีอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB อยู่จริงๆ และตอนนี้เจ้าได้เป็นสมาชิกของศูนย์บริหารอาณาจักรสาปสูญอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นปู่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บซ่อนความลับใดๆต่อเจ้า
แต่เจ้าก็รู้ว่าอะไรคือเรื่องที่น่าเศร้าใจ? การที่เรามีเหมืองทองแต่เราไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยนช์ใดๆจากเหมืองทองนั้นได้! เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ามองความมั่งคั่งที่หลับไหลอยู่ใต้ดิน

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจขึ้นอีกครั้ง  แต่เห็นปู่เคยบอกว่าเราสามารถร่วมมือกับดาวเคราะห์ที่เจริญก้าวหน้าดวงอื่นๆ ในการเข้าสำรวจอาณาจักรสาปสูญระดับสูงเหล่านี้ได้ไม่ใช่หรอกหรือ?”

หลี่อู่ยิ้มเจือนพร้อมด้วยแววตาหมองลง ไม่ใช่ว่าโลกไม่ได้พยายามหาแนวร่วมในการสำรวจกับดาวเคราะห์อื่นๆ ดาวเคราะห์ที่ใกล้ที่สุด จักรวรรดิเซ็นทอรัสได้เสนอเงื่อนไขร่วมสำรวจคือ 95%!ของผลประโยชน์ภายในอาณาจักรสาปสูญที่อยู่บนโลก คิดว่าเสียงส่วนใหญ่จะตอบตกลงอย่างงั้น?”

นอกจากนี้ยังเกิดผลกระทบในการต่อรองในครั้งนั้น ก็คือความลับที่โลกของเรามีอาณาจักรสาปสูญระดับชั้น B ได้รั่วไหลออกไปและ จักรวรรดิเซ็นทอรัส ได้เฝ้ามองเราด้วยเจตนาร้ายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปู่สงสัยว่าการรุกรานที่ผ่านมาจะเป็นคำสั่งจากพวกมันทั้งหมด!

น่าเสียดายวันที่เจ้าเกือบตายเพื่อหยุดหยั่งไรเดอร์พวกนั้น แต่เราก็ไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ มีบางคนได้หลบหนีออกไปได้ทัน สำหรับเรื่องนี้พวกเรารู้สึกผิดจริงๆ

ฮั่นหลางตอบในทันที ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น เมื่อพี่น้องของเราได้ออกมาจากอาณาจักรสาปสูญ เรี่ยวแรงของพวกเขาก็ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นเพียงสามารถขับไล่พวกมันออกจากโลกได้ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว

หลี่อู่ยิ้มอย่างขมขื่น การก่อตั้ง กองพลเอสเปอร์ที่ 1 ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะใช้ในการสำรวจอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB หากพันธมิตรแห่งทางช้างเผือกตัดสินใจอนุมัติให้โลกตกเป็นอาณานิคมจริงๆ เช่นนั้นเราจะต้องถูกบังคับให้เปิดอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB! ขณะนี้กองกำลังหลักได้ย้ายไปยังตำแหน่งอาณาจักรสาปสูญนั้นแล้ว กองพลเอสเปอร์ที่ 1  สำนักงานใหญ่ เรือรบป้อมปราการอากาศยาน ได้ย้ายไปตั้งฐานที่มั่น ณสถานที่นั้นทั้งหมดแล้ว  และอาณาจักรสาปสูญระดับชั้น C ตำแหน่งนี้ได้กลายเป็นเหมืองแร่ที่เรียบง่าย 2-3 วัน หลังจากนี้เราจะย้ายไปอยู่ที่ฐานทัพใหม่นั้นพร้อมกับกลุ่มทหารชุดสุดท้าย

……

หลี่อู่อยู่ที่ฐานเพื่อควบคุมจัดการเรื่องการเคลื่อนย้ายบางส่วน ในขณะที่ฮั่นหลางกลับมาฝึกฝนทุกวัน ช่วงที่จัดการสิ่งของที่จะย้ายไปยังฐานที่มั่นใหม่  น้ำที่เย็นจัดแต่ไม่แข็งตัวในบ่อน้ำที่ฮั่นหลางใช้ฝึกฝน ได้ถูกลำเลียงเคลื่อนย้ายไปด้วย เพื่อสร้างสถานที่ฝึกฝนให้กับฮั่นหลางที่ฐานที่มั่นใหม่

หลังเสร็จสิ้นการฝึกฝน ฮั่นหลางรู้สึกสดชื่นไปทั่วร่างกาย เขาไปรับขนมปังไส้เนื้อและช็อคโกแลตร้อนถ้วยใหญ่ที่โรงอาหารแล้วกลับไปที่ห้องพักพร้อมกับคิดไปเรื่อยเปื่อยขณะกินอาหาร 

สถานการณ์ของโลกในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก

การที่โลกค้นพบอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB ถือเป็นโชควาสนาของโลก แต่ก็เป็นสาเหตุที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะ คลาร์ก โลกอาจกลายเป็นอาณานิคมตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว

เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับดาวเคราะห์ที่เจริญและมีพัฒนาการสูงส่งในกาแลคซีทางช้างเผือกที่จะอ้างสิทธิรับโลกเป็นอาณานิคมของพวกเขา พวกเขาก็เพียงแค่เขียนรายงานในระหว่างงานชุมนุมแห่งกาแลคซีทางช้างเผือก โดยบอกว่าโลกนั้นอ่อนแอและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ จากนั้นพวกเขาก็จะขอ "รับผิดชอบ" เพื่อ "ปกป้อง" โลก

แล้วสมาชิกสภาสูงสุดของพันธมิตรแห่งทางช้างเผือกจะลงคะแนนเสียงและหากเสียงส่วนใหญ่อนุมัติ โลกก็จะกลายเป็นอาณานิคม

ดั่งเช่นที่หลี่อู่กล่าวว่าการเดิมพันกับทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อบังคับเปิดอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB ยังเป็นไปไม่ได้ อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นที่ระดับต่ำกว่าลงมา ยังทำให้โลกต้องสูญเสียเอสเปอร์ทหารไปหลายชีวิต ดังนั้นโลกยังไม่อาจเข้าไปสำรวจอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB ได้แม้ว่าจะส่งทหารทั้งหมดบนโลกเข้าสู่อาณาจักรสาปสูญก็ตาม

เฮ้อออ~

เมื่อถึงเวลาที่ได้นัดไว้กับต้นกำเนิดไร้จุดหมายแล้ว ฮั่นหลางถอนหายใจและมุ่งหน้าไปยังศูนย์ฝึกฝน เขาเลือกรังไหมเสมือนจริงของสาธารณะและเข้าสู่ดาร์คเน็ตแห่งกาแลคซี พวกเขานัดกันไว้ว่าจะไปหาสกินเนอร์ เพื่อเจรจาซื้ออุปกรณ์

วิ้งง~

หลังจากสิ้นแสงสว่างที่วาบออกมา ฮั่นหลางก็ถูกส่งเข้าไปในโลกเสมือน สภาพแวดล้อมโดยรอบมีลำธารเล็กๆอยู่สายหนึ่ง ด้านข้างลำธารนั้นมีเก้าอี้และโต๊ะสีน้ำเงิน ล้อมรอบไปด้วยหญ้าเขียวขจีพร้อมด้วยเสียงรื่นรมย์ของธรรมชาติ ที่นี่ให้บรรยากาศที่สงบสบาย

ต้นกำเนิดไร้จุดหมายยังไม่มา ดังนั้นฮั่นหลางจึงอดทนรอที่ลำธารน้อย ช่วงนี้ต้นกำเนิดไร้จุดหมายดูเหมือนจะอารมณ์ดีมาก เขาจึงได้ตกลงที่จะพาฮั่นหลางไปพบพ่อค้านั่นเป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ

ในไม่ช้าต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ก็ได้มาถึงเขามองไปรอบๆและพูดว่า เจ้าพร้อมหรือยังเราจะได้ไปกันสักที

ฮั่นหลางพยักหน้า ต้นกำเนิดไร้จุดหมายทำการเปิดจอแสดงผล คัดลอกลิงค์ที่บราวเซอร์แล้วส่งให้ฮั่นหลาง

เก็บที่อยู่ลิงค์นี้ไว้ ครั้งต่อไปเจ้าจะได้ไปหา เฒ่าโม้ ด้วยตัวเอง

ฮั่นหลางและต้นกำเนิดไร้จุดหมายได้วาร์ปไปยังค่ายของสกินเนอร์                                                    

ฮั่นหลางรู้ได้ในทันทีว่าที่ตั้งแคมป์แห่งนี้ไม่ใช่สภาพแวดล้อมจากระบบเสมือนจริง แต่เป็นสถานที่จริงๆ ตอนนี้ความรู้สึกของฮั่นหลางและต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ได้ถูกเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์สองตัว ดาร์คเน็ตได้เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลเข้าสู่หุ่นยนต์โดยตรงและด้วยวิธีนี้แม้ว่าจะผ่านเวลาไปหลายพันปีแสงฮั่นหลางและต้นกำเนิดไร้จุดหมายก็จะยังคงมีชีวิตอยู่

ฮั่นหลางมองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สถานที่ที่สกินเนอร์อาศัยอยู่มาได้ใหญ่มาก มันเป็นเพียงเรืออุตสาหกรรมขนาดเล็กที่แขวนลอยอยู่บนหน้าผา มีโล่พลังงานป้องกันด้านบนและล้อมรอบไปด้วยกองอุปกรณ์และอาวุธที่ฉกฉวยมากจากคนตายทับซ้อนกันเป็นภูเขาขนาดเล็ก

ไม่มีใครอยู่ในบริเวณที่ตั้งแคมป์ มีเพียงหุ่นยนต์ไม่กี่ตัวที่เต็มไปด้วยคราบสนิมไม่อาจรับรู้ได้ว่ามันได้ทำความสะอาดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ มันไม่มีตาแขนขาสั้น เป็นหุ่นยนต์ที่ดูปกติธรรมดามาก

รอบๆบริเวณที่ตั้งแคมป์มีซากหุ่นยนต์ขนาดใหญ่จำนวนมากพวกมันถูกนำมาแยกส่วนและโยนไปรวมไว้ในกองเศษโลหะ

ฮั่นหลางก้มลงมองมาที่ตัวเอง หุ่นยนต์ที่เขาเชื่อมต่ออยู่เป็นหุ่นที่น่าสนใจจริงๆ แตกต่างจากหุ่นยนต์ประเภทอื่นๆที่ใช้กันทั่วไป หุ่นยนต์ที่ฮั่นหลางควบคุมเป็นเหมือนมนุษย์มากมีสองแขนและสองขา วัสดุที่ใช้ผลิตหุ่นตัวนี้ดูเหมือนจะเป็นวัสดุที่มีคุณภาพระดับสูง

เขาลองขยับนิ้ว พยายามที่จะกระโดดสักสองสามครั้ง ในตอนนี้ฮั่นหลางเห็นต้นกำเนิดไร้จุดหมายในรูปลักษณ์ของหุ่นยนต์ มีหน้าจออยู่ที่ส่วนหัวและบนหน้าจอนั้นแสดงใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ใบหน้ามีร่องรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาของต้นกำเนิดไร้จุดหมาย

ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย กล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งๆว่า เจ้าไม่เคยเห็นหุ่นยนต์มาก่อนใช่ไหม? สิ่งเหล่านี้เป็นข้อห้ามร้ายแรงที่สุดในทางช้างเผือก ใช้หุ่นยนต์ที่มีปัญญา มีโทษประหารชีวิต! ซ่อมแซมหุ่นยนต์? มีโทษประหารชีวิต! และผลิตหุ่นยนต์มีโทษประหารชีวิตทั้งครอบครัว! ข้าเชื่อใจเจ้า เพราะอย่างงั้นข้าจึงพาเจ้ามาที่นี่! ดังนั้นเจ้าต้องห้ามบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นแม้ว่าเจ้าจะต้องตายก็ตาม

ฮั่นหลางพยักหน้าและถามออกไปด้วยความสับสนว่า หุ่นยนต์ละเมิดกฎหมายของทางช้างเผือก? แม้ว่าผมจะไม่เคยสัมผัสมัน แต่ผมเคยได้ดูหนังเกี่ยวกับหุ่นยนต์มากมาย

ต้นกำเนิดไร้จุดหมายกล่าวด้วยเสียงจริงจังว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์เป็นข้อห้ามที่ร้ายแรงที่สุดของพันธมิตรทางช้างเผือกเนื่องจากพวกเขากลัวพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์ พวกเขารู้สึกว่าอาจมีสักวันที่หุ่นยนต์จะทรยศต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเคร่งครัดต่อกฎข้อนี้ ห้ามทุกคนค้นคว้าวิจัยหรือการทำงานใดๆที่กี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ทั้งหมด

ค่ายของสกินเนอร์เฒ่าโม้ สร้างอยู่ที่ด้านข้างของหน้าผาและมีสพานโซ่เชื่อมโยงไปยังด้านอื่นๆของหน้าผา

ขณะที่ต้นกำเนิดไร้จุดหมายมองไปรอบๆ บริเวณที่กว้างออกไปโดยไม่มีขอบเขตที่สิ้นสุดและด้านอื่นๆ และพูดออกมาด้วยเสียงลึกว่า "นั่นเป็นสนามรบหลักของ จักรวรรดิจือจูและสาธารณรัฐลูแลน ซึ่งมีเอสเปอร์ต่อสู้และเสียชีวิตไปกว่า 20 ล้านคน สงครามดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลาหนึ่งปีกับอีก 7 เดือนและการฆ่าทั้งหมดนั้นทำให้เกิดเลือดไหลนองดั่งแม่น้ำสายหนึ่ง พร้อมกับซากศพปกคลุมพื้นดินไปทั่วทุกตารางนิ้ว!"

ในที่สุดดาวเคราะห์มหาอำนาจทั้งสอง ได้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ทรงพลังขึ้นพร้อมกัน ทันทีมันได้กวาดล้างสังหารทหารทั้งหมดบนสมรภูมิโดยไม่ว่าใครเป็นพันธมิตรหรือศัตรู! ความกระหายเลือดของสงครามครั้งนี้ไม่มีใครจะสามารถจินตนาการได้

หลังสิ้นสุดแรงระเบิดจากนิวเคลียร์ที่ทรงพลังดาวเคราะห์ดวงนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับมนุษย์ ดัชนีค่าเฉลี่ยของกัมมันตรังสี สูงถึง 76,000 โดยเฉพาะตรงพื้นดินด้านหน้าเราซึ่งเป็นศูนย์กลางของสมรภูมิรบมีค่ากัมมันตรังสีมากกว่า 5 ล้าน! ไม่มีใครแม้แต่ขุนศึกก็ไม่สามารถที่จะมีชึวิตอยู่ได้ในรังสีที่รุนแรงขนาดนั้นได้

ฮั่นหลาง ถามด้วยความสับสนว่า "ถ้ามีรังสีเยอะมากแล้วทำไม สกินเนอร์ เฒ่าโม้ ถึงสามารถมีชีวิตและอาศัยอยู่ที่นี่ได้?"


ต้นกำเนิดที่ไร้จุดหมายโบกมือ และพูดอย่างไม่สนใจขึ้นว่า "เจ้าจะรู้ในทันทีเมื่อพบเฒ่าโม้ เขาไม่ใช่มนุษย์"

7 ความคิดเห็น: