เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560

GDN 020 ศักยภาพที่ขัดต่อกฎแห่งสวรรค์!


ฮั่นหลางลงจากสถานีรถไฟใต้ดิน เขามาถึงชั้นที่ 18 ของศูนย์บริหารเอสเปอร์อีกครั้ง และพบกับหลี่มู่อวิ๋นกับหลวงจีนแต่ไม่เห็นเฉินจ่ง

ฮั่นหลางและหลวงจีนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งและเดินเขาไปในรังไหมประเมิน

ชูววว ~

หลังจากที่แสงสว่างวาบจางหายไปพร้อมกับที่ฮันหลางถูกส่งไปยังรอบที่สองของการทดสอบแรงกดดันของกาแลคซี่ ด้วยความรู้ที่เขามีอยู่ มันจะมีการทดสอบแรงกดดันอยู่ 3 รอบ สำหรับการทดสอบแรงกดดันในรอบแรกจะเป็นการทดสอบโดยให้เดินลงไปใต้ทะเลลึก ครั้งที่สองผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องหาทางหลบหนีออกจากทะเลทรายและครั้งที่สามปีนไต่ภูเขาหิมะ ทั้งสามรอบได้ถูกจัดอันดับตามความยากลำบากจากง่ายที่สุดไปจนถึงยากที่สุด รอบแรกเป็นด่านแบบที่ง่ายที่สุดโดยมีคะแนนสูงสุดอยู่ 100 แต้ม รอบที่สองด่านที่จะต้องฝ่าออกไปจะยากขึ้นโดยมีคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 300 แต้ม รอบที่สามคือระดับที่ยากที่สุดมีคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 500 แต้ม บวกคะแนนพิเศษ 100 แต้ม คะแนนสูงสุดของการทดสอบแรงกดดันทั้งสามรอบคือ 1000 แต้ม หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบแรงกดดันคือการทดสอบการต่อสู้คะแนนสูงสุดคือ 3000 แต้ม

หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบทั้งสองอย่างแล้วผู้เข้าแข่งขัน 10,000 อันดับแรกจะได้รับเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันหลักของการชุมนุมแห่งกาแลคซี่

ขอบเขตอายุของผู้เข้าการทดสอบจะต้องมีอายุไม่เกิน 27 ปี เนื่องจากการชุมนุมแห่งการแลคซี่มันเป็นการแข่งขันกันระหว่างเด็กรุ่นใหม่ ด้วยจำนวนดาวเคราะห์ที่นับไม่ถ้วนในกาแลคซี่ ประชากรอย่างน้อยที่สุดก็มีเป็นล้านล้านล้านคน (เลขศูนย์18ตัว) ดังนั้นผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่อยู่ในหนึ่งหมื่นอันดับแรกจึงเป็นกลุ่มชนชั้นสูงที่อยู่ในกาแลคซี่

ฮั่นหลางเห็นหลวงจีนอยู่ในพื้นที่จัตุรัส พวกเขาทั้งสองมาทดสอบครั้งที่สอง ดังนั้นจึงถูกเคลื่อนย้ายมาใกล้กัน แต่เมื่อเข้ารับการทดสอบพวกเขาได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่แตกต่างกันอีกครั้ง

ฮั่นหลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เขาสามารถต้านทานพลังพิเศษดังนั้นถ้าเขาอยู่ในสถานที่เดียวกันกับหลวงจีนในรอบนี้อย่างน้อยเขาก็จะสามารถช่วยเหลือหลวงจีนได้ ดูเหมือนว่าระบบจะแยกผู้เข้าแข่งขันของประเทศหรือดาวเคาระห์เดียวกันโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการโกง

ฮั่นหลางมองไปโดยรอบๆตัวเอง เขาเห็นว่าตนเองกำลังยืนอยู่ใจกลางพายุทอร์นาโดแห่งทะเลทราย พายุทอร์นาโดกวาดเอาทรายเขาไปในวงหมุนของมัน ไม่ว่าเขาจะไปทิศทางไหนเขาก็จะต้องข้ามผ่านพายุทอร์นาโดนี้

พายุมีพลังทำลายล้างที่สูงมาก แม้กระทั่งก่อนที่จะก้าวเข้าสู่พายุเพื่อข้ามมันออกไป ผู้เข้าร่วมการทดสอบบางคนที่อ่อนแอพยายามดิ้นรนเพียงเพื่อจะยืนให้มั่นคง ฮั่นหลางเห็นหลายคนฝืนใจเดินเข้าไปในพายุ เมื่อเข้าใกล้ก็ถูกแรงลมอันแหลมคมฉีกพวกเขาขาดออกเป็นชิ้นๆ แน่นอนว่าการทดสอบในรอบนี้มีความยากลำบากที่มากกว่าในรอบแรกอยู่มาก

ตามกฎ ยิ่งผู้หนึ่งเดินเข้าไปในพายุได้ไกลมากเท่าไหร่ เขาก็จะได้รับแต้มเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และหากผู้หนึ่งประสบความสำเร็จสามารถเดินออกจากพายุทอร์นาโดได้ ผู้นั้นจะได้รับคะแนนสูงสุดที่ 300 แต้มนอกจากนี้ยังมีคะแนนพิเศษเพิ่มให้อีกอีก 50 แต้มสำหรับรอบนี้ เห็นได้ชัดว่ามีวิหารศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในพายุและถ้าสามารถเก็บกู้หินแสงจากวิหารนั้นได้ด้วยเขาหรือเธอผู้นั้นจะได้รับแต้มพิเศษ

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่อยากกังวลสนใจอะไรกับวิหารนั่นนัก เป็นเพราะพวกเขาพิจารณาแล้วพวกเขาเองคงไม่โชคดี มันดูไม่เห็นหนทางใดที่พวกเขาจะสามารถพิชิตวิหารนั่นได้ ไม่มีใครยอมเสียเวลากับเรื่องเหลวไหลเช่นนี้

ฮั่นหลางเดินไปรอบๆ และเลือกเส้นทางที่มีผู้คนบางตามากที่สุดและเริ่มก้าวออกไป ผู้เข้าร่วมการทดสอบส่วนใหญ่ไปรวมตัวกันอยู่ทางด้านขวามือของฮั่นหลางราวกับฝูงแกะ คนส่วนใหญ่มักจะเลือกติดตามฝูงชนไปเป็นกลุ่มหากต้องเผชิญหน้ากับอันตราย การทำเช่นนี้มันช่วยให้คนที่หวาดกลัวมีความกล้าที่จะท้าทาย พวกเขาจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในขณะที่เดินตามหลังผู้อื่น

แต่ฮั่นหลางไม่ต้องกังวลเพราะเขาสามารถลบล้างทุกพลังพิเศษได้อย่างสมบูรณ์และพายุทรายนี้ก็ถูกจำลองขึ้นมาด้วยการโจมตีของเอสเปอร์ สายพันธุ์ทรายและเอสเปร์สายพันธุ์สายลมซึ่งมันไม่มีผลกระทบต่อฮั่นหลาง เขาเพียงแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าตนเองจะไม่หลงทาง

ก่อนที่จะเดินเข้าไปในพายุ ฮั่นหลางรู้สึกได้ถึงเม็ดทรายที่กระแทกใบหน้าของเขา มันค่อนข้างเจ็บ จริงๆภูมิต้านทานต่อพลังพิเศษไม่ได้หมายความว่ามันจะป้องกันความเจ็บปวดได้ ดังนั้นฮั่นหลางยังคงรู้สึกถึงเม็ดทรายที่กระทบกับใบหน้าของเขา

ปล. เผื่อ งงสมุมติว่าเรามีพลังจิตยกสิ่งของ เมื่อเราใช้พลังจิตยกของไปกระแทกฮั่นหลางตรงๆพลังนั้นจะหายไป แต่เก้าอี้ก็ยังถูกโยนออกไป ถ้าเก้าอี้กระแทกเข้ากับหน้าตัวเอง มันก็ย่อมเจ็บเป็นธรรมดา...

แต่ความเจ็บที่ว่าก็ไม่ได้ทำให้ฮั่นหลางหยุดฝีเท้าที่จะก้าวเข้าไป หลังจากที่ได้รับประสบการณ์สู้รบมาเมื่อ 7 วันก่อนฮั่นหลางก็ได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบบนบ่าของตน ไม่ว่าโลกจะอ่อนแอเช่นไรมันยังคงเป็นบ้านและเป็นสถานที่ที่เขาเติบโตขึ้นมา ใครจะอยากเห็นบ้านของตนเองตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่นและเห็นพลเมืองของพวกตนไร้อิสระภาพ มีชีวิตที่ถูกบีบคั้น

นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่เหล่าเอสเปอร์จากโลกใช้ชีวิตของตนเพื่อช่วยเหลือคนที่ไร้พลัง ฮั่นหลางไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจดจำชื่อของพวกเขาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขาเป็นดั่งวีรบุรุษและกลุ่มคนที่สมควรได้รับความเคารพ

เมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา ฮั่นหลางมีหนึ่งความศรัทธาที่เพิ่มขึ้นมา เขายังไม่แข็งแกร่งพอในตอนนี้และเขาจะต้องพยายามให้แข็งแแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง! เขาต้องใช้ทุกอย่างของตนเพื่อปกป้องในสิ่งที่สมควรจะปกป้อง

ฮั่นหลางหรี่ตาลงและเริ่มก้าวเดินเร็วขึ้น เร็วขึ้น ในแต่ละก้าวมุ่งตรงเข้าไปยังพายุทรายที่บ้าคลั่ง ไม่ว่าเม็ดทรายจะกระทบใบหน้าของเขาและสร้างรอยแผลให้เขามากเท่าไหร่ ฮั่นหลางยังคงก้าวเดินต่อไปไม่ได้ช้าลงแม้แต่น้อย คนอื่นอาจดูเหมือนเผชิญกับภัยพิบัติ แต่สำหรับฮั่นหลางมันคือการฝึกฝนที่เขาจะต้องอดทน

ยิ่งเขาก้าวเดินลึกเข้าไป พายุทรายยิ่งโหมกระหน่ำหนักขึ้น ลมที่รุนแรงอาจพัดพาร่างของคนลอยขึ้นฟ้าได้อย่างง่ายดาย

ทันใดนั้นเงาดำจุดหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาบนรอยต่อระหว่างท้องฟ้ากับพื้นทราย เมื่อฮั่นหลางเดินเข้าไปใกล้ เขาก็ได้เห็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างด้วยหินสีขาวขนาดยักษ์

โชดดีจริงๆ! ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเลือกเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ไม่มากันเขาก็คงไม่สามารถเจอวิหารแห่งนี้

คะแนนพิเศษ 50 แต้ม ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ฮั่นหลางยิ้มและกล่าวกับตนเอง

……

ศูนย์บริหารเอสเปอร์ชั้นที่18

หลังจากการทดสอบครั้งที่ผ่านมา หลี่มู่อวิ๋นก็เริ่มให้ความสนใจฮั่นหลางเป็นพิเศษ ในขณะที่ฮั่นหลางเข้ารับการทดสอบ หลีมู่อวิ๋นก็เริ่มเล่นภาพการทดสอบของฮั่นหลางบนหน้าจอขนาดใหญ่

พลังสูญสิ้นยังคงทรงพลังเหมือนครั้งก่อน ในขณะที่คนอื่นๆถูกพัดปลิวจนสูญเสียการควบคุมทิศทาง การก้าวเดินของฮั่นหลางก็ยังมุ่งมั่นและมั่นคง เขาเดินต่อไปและยิ่งไกลออกไป แต้มของของเขาก็ยิ่งสูงขึ้นเช่นกัน ตามระบบคะแนนของฮั่นหลางมีมากกว่า 200 แต้มแล้วในขณะนี้ ซึ่งมากกว่าคนส่วนใหญ่

หลวงจีนที่เข้าทดสอบในช่วงเวลาเดียวกับฮั่นหลางได้ถูกตัดออกจากการทดสอบแล้ว

พลังสูญสิ้นเป็นพลังที่ขัดต่อกฎแห่งสวรรค์อย่างแท้จริง หลี่มู่อวิ๋นอุทานออกมา

หลวงจีนส่ายศีรษะล้านของตนและกล่าว ผมไม่คิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะพลังของเขาเพียงอย่างเดียว คุณมองดูทุกย่างก้าว เท้าของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น บนผืนทรายที่ไม่เสถียรกับแรงลมที่รุนแรง แต่ขาของเขาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าสถานะค่าพลังพิเศษของเขามีการพัฒนาขึ้นจากครั้งแรกที่ผมได้พบเขาเมื่อเจ็ดวันก่อน

มันไม่ถูกต้อง... หลี่มู่อวิ๋นลังเลและพูดออกมาว่า ฮั่นหลางใช้เวลา 16 ปีในการสะสมสถานะค่าพลังพิเศษได้เพียง 27 หน่วย ซึ่งหมายความว่าจะเติบโตโดยเฉลี่ยตกปีล่ะเพียง 1.7 หน่วย ศักยภาพของเขาน่าจะเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพอเจอมา จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของฉันความเร็วในการเติบโตนี้ไม่สามารถพัฒนาได้ไม่ว่าเขาจะฝึกหนักแค่ไหน ตอนนี้มันผ่านมาเพียงไม่กี่วันแต่ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้น?”

หลวงจีนยักไหล่ของเขา ผมก็ไม่แน่ใจนัก ผมรู้สึกเพียงว่าระดับของฮั่นหลางมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา

หลี่มู่อวิ๋นนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง และเปิดสถิติการประเมินของฮั่นหลางขึ้นมาดูด้วยความอยากรู้ เขาแทบจะกระโดดขึ้นเมื่อเขาเห็นค่าสถานะพลังพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ของฮั่นหลาง

จากรายการในผังประเมินพบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สำหรับข้อมูลอื่นๆ แต่ค่าสถานะพลังพิเศษของฮั่นหลางเพิ่มขึ้น 15 หน่วย  ดังนั้นค่าสถานะของฮั่นหลางในตอนนี้มีถึง 42 หน่วย!

หลี่มู่อวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากจากสิ่งที่เขาได้เห็นและเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าเขาและชูหลี่อาจประเมินศักยภาพของฮั่นหลางผิดพลาดไปอย่างสิ้นเชิง

โดยปกติแล้วค่าสถานะพลังพิเศษมีอัตราการเติบโตตามธรรมชาติและนั่นหมายความว่าแม้เอสเปอร์จะไม่ได้รับการฝึกฝนใดๆ แต่ค่าสถานะของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นเองตามธรรมชาติในจำนวนหนึ่งแน่นอน

อัตราการเติบโตตามธรรมชาติของค่าสถานะพลังพิเศษเป็นดังเช่นรากฐานของพวกเขา เมื่อรวมกับการฝึกฝนที่รุนแรงมันก็สามารถขยายได้ถึงสี่ถึงห้าเท่าหรือมากกว่านั้น นั่นหมายความว่าเอสเปอร์ที่มีอัตราการเติบโตตามธรรมชาติ 10 หน่วยต่อปี หากได้รับการฝึกฝนที่ถูกต้องสามารถเพิ่มค่าสถานะพลังพิเศษได้ 50 หน่วยขึ้นไปหรืออาจจะน้อยกว่านั้น

ย้อนกลับมาในกรณีของฮั่นหลางอัตราการเติบโตตามธรรมชาติของเขาอยู่ที่ 1.7 หน่วย ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายธรรมดาแต่มันเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด นั่นคือเหตุผลที่หลี่มู่อวิ๋นและชูหลี่เมื่อรู้ว่าพลังของฮั่นหลางมีอำนาจมากเท่าใดพวกเขาก็ไม่ได้เตรียมมาตรการพิเศษใดๆกับเขา

แต่ ณ ตอนนี้ อัตราการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของฮั่นหลางมีถึง 15 หน่วยต่อสัปดาห์ นั่นหมายความว่ามันจะเพิ่มขึ้นถึง 60 หน่วยถ้าเขาได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม! หนึ่งปีมี 52 สัปดาห์นั่นคืออัตราการเติบโตประมาณ 3120 หน่วยในหนึ่งปี!

ตามการคำนวณนี้ฮั่นหลางจะเป็นเอสเปอร์ ระดับ 3 ดาว ภายในหนึ่งปีสามารถสร้างเขตแดนสิ้นสลายได้ 10 เมตร! เขาจะดำรงอยู่เฉกเช่นพระเจ้าภายในเขตแดนนั้น! พลังพิเศษที่แข็งแกร่งเลิศเล่อปานใดก็ตามจะไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง! มันจะเป็นดั่งความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบและเป็นจุดสูญสิ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดต่อศัตรู!

และถ้าหากสองปี หลังจากนี้?

ห้าปี?

สิบปี?


หลี่มู่อวิ๋นถอนหายใจยาวออกมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าฮั่นหลาง ไม่ใช่บุคคลสามัญที่มีพลังพิเศษแต่ไร้ซึ่งศักยภาพ กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นดั่งสัตว์ประหลาดที่มีทั้งพลังและศักยภาพที่ขัดต่อกฎแห่งสวรรค์ทั้งหมด!

3 ความคิดเห็น:

  1. เป็นพลังที่กากดีจริงๆ ไม่เห็นมันจะดีตรงใหน ถ้าคนธรรมดาถือปืนถือมีดมา ก็ฆ่ามันได้ละ...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นคอมเมนที่กากดีจริงๆ คนธรรมดาไม่ชอบเขาเลิกอ่านแต่แรกนี่อ่าม20ยังเสือกบ่น...

      ลบ