ชุดรบคือสิ่งที่ต้องมีสำหรับเอสเปอร์ในยุคนี้
ชุดรบที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของนักรบ แต่ยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของพวกเขาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับฮั่นหลางการป้องกันพลังพิเศษไม่สำคัญสำหรับเขาเพราะเขามีภูมิต้านต่อทุกพลังพิเศษอยู่แล้ว
ฮั่นหลางวางแผนที่จะค้นหาชุดรบที่เหมาะกับตนเองในราคาที่เป็นธรรมและมีการป้องกันจากการโจมทีทางกายภาพที่ดี
ไม่นานหลังจากนั้น
ฮั่นหลางพบชุดรบหนังสีดำซึ่งมันดูเหมือนกองผ้าสีดำที่ถูกโยนทิ้งไว้ลวกๆ
อยู่ในเว็บไซต์ของต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชุดรบนี้ชื่อว่า “งูยักษ์นภาทมิฬ” ชุดนี้อยู่ในระดับ 2.5 ดาว
อาจไม่มีใครยอมเสีย 3000GC เพื่อสิ่งที่ดูคล้ายกองขยะเช่นนี้
ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
เป็นคนแปลกมากๆ ปกติผู้ขายจะจัดระดับอุปกรณ์ 2ดาว เรียงจากจากคุณภาพ สูง
ปานกลางและต่ำ และมีราคาแตกต่างกัน แต่สำหรับอุปกรณ์ของต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
อุปกรณ์ระดับ 2 ดาวทั้งหมดมีราคาอยู่ที่ 3000GC และ
อุปกรณ์ระดับ 3ดาว ทั้งหมด แต่ละชิ้นมีราคา 10000 GC เขาไม่ได้ติดป้ายใดๆ
มีเพียงแค่ชื่อของอุปกรณ์
ฮั่นหลาง
ถูกใจชุดรบงูยักษ์นภาทมิฬ
มีเหตุผลอยู่สองอย่าง นั้นคือในบรรดาอุปกรณ์ 2 ดาวทั้งหลาย ชุดรบนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ถูกจัดระดับไว้ที่
2.5 ดาว ทำไมผู้หนึ่งจะไม่ต้องการหากจ่ายเงินเท่าเดิมเพื่อซื้อของที่มีระดับสูงกว่า? มันก็เพียงแค่ฮั่นหลางยังไม่รับรู้ถึงความหมายพิเศษที่อยู่เบืองหลังครึ่งดาวนั้น
หลังใช้เวลาเพียงครู่หนึ่ง
ฮั่นหลางได้ใช้บริการแชทของดาร์คเน็ต และ ติดต่อหาเจ้าของเว็บไซต์ชื่อ
ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย รออยู่นานพอสมควรกว่าเขาจะตอบ และเมื่อฮั่นหลางกำลังจะทักทายเขา
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายก็ตะโกนออกมาว่า “หากเจ้ามีเรื่องจะพูด
ก็รีบพูดออกมา หากเจ้าจะผายลมรีบผายลม เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่ง?!”
ฮั่นหลางรู้สึกตกใจเล็กน้อย
หลังจากที่เสียงเงียบไป การพูดจาและการวางตัวที่ดีในการทำธุรกิจสามารถช่วยธุรกิจของคุณได้จริงๆ
แต่บอสใหญ่ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ผู้นี้ดูเหมือนจะมีความคิดที่ดูน่าทึ่งมาก
ฮั่นหลางไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใดๆ
เขาอยู่ในดาร์คเน็ตเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆจึงนับว่าเขาเป็นเพียงแค่เด็กฝึกหัดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
นอกจากนี้มันก็ไม่เสียหาย หากเขาจะอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ก่อน
นอกจากนี้ผู้เล่นยามค่ำคืนยังเป็นคนแนะนำ ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ให้กับเขา
และฮั่นหลางก็เชื่อว่าผู้เล่นยามค่ำคืนจะไม่โกหกเขา
“อาจารย์
ผมมีคำถามทำไมชุดงูยักษ์นภาทมิฬ ชุดนี้ถึงจัดระดับไว้ที่ 2.5 ดาว? ทำไมถึงมีระดับต่างจากปกติถึงครึ่งดาว?”
อาจารย์เป็นคำนามที่ใช้โดยทั่วไปในเอเชีย
มันไม่ได้มีความหมายพิเศษใดๆไปมากกว่าการใช้เพื่อแสดงความเคารพต่อบุคคล
ฮั่นหลางเห็นว่าต้นกำเนิดไร้จุดหมาย มีอารมณ์ร้ายดังนั้นเขาจึงรีบอ่อนน้อมเข้าไว้
“เจ้าโง่
เจ้าไม่รู้แม้แต่เรื่องนี้? ชุดรบนี้ทำมาจากหนังของงูยักษ์นภาทมิฬ
และมีจุดอ่อนที่ใหญ่มาก แม้ว่าการป้องกันทางกายภาพของมันจะจัดอยู่ในระดับ 3 ดาว
แต่ถ้าเป็นพลังพิเศษมันแทบจะไม่สามารถป้องกันได้เลย มันก็คือขยะดีๆชิ้นหนึ่ง
คนอื่นอาจจะขายมันในระดับ 3 ดาว แต่ข้าคิดว่ามันไม่ควรที่จะถูกจัดอยู่ในระดับนั้น
ข้าจึงลดมันลงมาเป็น 2.5 ดาว” ต้นกำเนิดไร้จุดหมายตอบกลับ
ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจ
มันถูกจัดอยู่ในระดับ 3 ดาวสำหรับการป้องกันทางกายภาพและไม่สามารถป้องกันพลังพิเศษ
สิ่งนี้ราวกับว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อเขา?! เขามีภูมิต้านทานต่อพลังพิเศษในตัวอยู่แล้ว
“อาจาร์ย
ผมมีอีกคำถาม” ฮั่นหลางยังคงกล่าวออกไปอย่างสุภาพ
“ทำไมเจ้าถึงน่ารำคาญเสียจริง?
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้เล่นยามค่ำคืนบอกให้ปฎิบัติต่อเจ้าให้ดีเป็นพิเศษ
ข้าจะไม่ตอบคำถามใดๆของเจ้าเลย ให้ไวมีอะไรก็รีบถามมา!” ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
ยังคงมีท่าทีที่เลวร้ายเช่นเดิม
ฮั่นหลางถามออกไปว่า “นอกจากชุดรบงูยักษ์นภาทมิฬ
ผมต้องการซื้อมีดกริชเสริมไทเทเนียมชื่อเทรมเมอร์
ผมต้องการถามถึงน้ำหนักที่แท้จริงของ เทรมเมอร์”
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงข้าไม่เคยไปชั่งวัดน้ำหนักมันมาก่อน?
เทรมเมอร์เป็นอาวุธที่ใช้ในการต่อระยะประชิด สำหรับการต่อสู้ระยะประชิดหากอาวุธมีน้ำหนักเบามากเกินไปมันจะไร้ซึ่งพลังทำลาย
มืออาชีพทั้งหมดจะใช้อาวุธที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติเล็กน้อย
ถ้าเจ้าไม่สามารถใช้งานมันได้นั่นก็แสดงว่าเจ้าอ่อนแอเกินไป
ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอาวุธ” ต้นกำเนิดไร้จุดหมายอธิบายออกมาอย่างชัดเจน
ฮั่นหลางสังเกตได้ว่าแม้ต้นกำเนิดไร้จุดหมายจะมีท่าทางที่ไม่เป็นมิตรนัก
แต่คำอธิบายทั้งหมดของเขาตรงประเด็น
เขาสามารถอธิบายปัญหาที่ซับซ้อนโดยใช้ประโยคสั้นๆ
ฮั่นหลางร้องตะโกนเสียงอยู่ภายในใจด้วยความตื่นเต้น ชายผู้นี้เป็นมือฉมังคนหนึ่ง!
เขาโดนด่าต่อไปอีกสักพัก
ในขณะที่ถามอีกคำถามว่า “อาจารย์
บทวิจารณ์ของคุณเกี่ยวกับภูมิต้านทานพลังพิเศษมันถูกต้องและตรงประเด็น ผมสงสัยว่า
มันมีความลับอื่นอีกหรือไม่ในการเรียนรู้ทักษะการต่อสู้?”
“เฮ้
เจ้าต้องการที่จะทำมันให้แล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้นี้? ในการฝึกฝนการต่อสู้
แน่นอนว่าเจ้าต้องฝึกในสถานที่ที่หนาวจัดและฝึกจนเจ้าใกล้กับความตาย!
มีเพียงความหนาวยะเยือกเท่านั้นที่จะสามารถกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์ออกมาได้
สัญชาติญาณที่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่รอดตามธรรมชาติ ในจักรวาลนี้
ความร้อนเป็นตัวแทนแห่งชีวิตในขณะที่ความหนาวเย็นคือตัวแทนแห่งความตาย
ช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของใครสักคนหนึ่งคือช่วงเวลาที่เขากำลังจะตาย
นั้นคือสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดที่จะกระตุ้นให้เกิดพลังที่น่าประหลาดใจ
นั่นคือพลังแห่งความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ในการฝึกฝนทักษะการต่อสู้เจ้าต้องฝึกในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัดและมองหาความรู้สึกที่เข้าใกล้กับความตาย”
ฮั่นหลางตระหนักว่า
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายเป็นคนโหดร้ายเพียงภายนอก
แต่ตราบเท่าที่เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายก็ยังคงอธิบายออกมาให้เขาฟัง
แม้ว่าคำอธิบายดูจะไม่ละเอียดมากนักแต่มันก็น่าที่จะจดจำเป็นอย่างมาก
ฮั่นหลางยังคงอยากถามเกี่ยวกับการฝึกฝน
แต่เขากลัวว่า ต้นกำเนิดไร้จุดหมายที่พิลึกผู้นี้จะรู้สึกแย่ต่อเขา
มันคงไม่คุ้มค่าในระยะยาว ดังนั้นเขาจึงกล่าวอำลาอย่างสุภาพกับต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
และตรวจสอบรายการที่เขาได้สั่งซื้อ
สินค้าของต้นกำเนิดไร้จุดหมายนั้นราคาถูกกว่าผู้อื่นทั้งหมด
แต่ค่าจัดส่งมีราคาแพง ค่าจัดส่งมายังโลกมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 GC หลังจากที่เช็คเอ้าท์ออกจากเว็บแล้ว ฮั่นหลางทำการตรวจสอบบัญชีของเขาเอง
ในตอนนี้เขาเหลือเงินเพียง11GCเท่านั้น
ไม่เป็นไรดัชนีราคายาสามารถสร้างรายได้
ให้กับเขาอย่างต่อเนื่อง 400-500 GC ต่อวัน
เขาก็เพียงแค่ต้องทำเงินให้ได้มากขึ้นเท่านั้น
……
5 วันผ่านไป
อย่างรวดเร็ว
ในช่วง5วันที่ผ่านมา
ฮั่นหลางได้ออกไปออกกำลังกายอย่างน้อย 8 ชั่วโมงทุกวันและฝึกฝนพื้นฐาน ตอนนี้เวลาที่ใช้ในการเขียนรายงานดัชนีลดลงเหลือเพียง
1.5 ชั่วโมงและอีก 1.5 ชั่วโมงเพื่อเกลาข้อมูลและสรุปรายงาน โดยรวมแล้วเขาใช้เวลา
3 ชั่วโมงต่อวัน และเขาสามารถทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 3
ชั่วโมงน้อยกว่าเมื่อครั้งแรกๆที่เขาทำงานในตอนนั้นเขาใช้เวลาไป 20 ชั่วโมงในแต่ละวัน
ฮั่นหลางไม่อาจไม่ขอบคุณพลังพิเศษที่เขาได้รับมาได้
หลังจากที่เขามีพลังสูญสิ้นก็เหมือนกับว่าเขากลายเป็นคนใหม่
แม้แต่สมองของเขาก็ทำงานได้ดีเยี่ยมกว่าแต่ก่อน
นอกจากการฝึกฝนและเขียนรายงานดัชนีราคายา
ฮั่นหลางยังได้ตรวจสอบเว็บไซต์ของต้นกำเนิดไร้จุดหมายเป็นประจำทุกวันและถามข้อสงสัยกับชายชราที่มีอารมณ์แปรปรวนเมื่อใดก็ตามที่เขาติดอยู่กับแนวคิดที่ยากลำบาก
แน่นอนว่า
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายไม่ต้องการให้ฮั่นหลางไปรบกวนเขา
แต่มีคำโบราณคำหนึ่งกล่าวไว้ว่า
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธกับคนที่เข้าหาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ฮั่นหลางแสดงท่าทีอันสุภาพอ้อนน้อมตลอดและเรียกเขาว่าอาจารย์ในทุกประโยค
นอกจากนี้ฮั่นหลางยังไม่เคยทำให้เขารำคาญ เขาเพียงแค่ถามคำถาม
อย่างมากที่สุดก็เพียง 3 คำถามต่อวันและไม่ใช้เวลาเกินกว่า 5 นาที
ถึงแม้ว่า
ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย จะยังคงมีท่าทีเลวร้ายเช่นเดิม แต่เขาก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะตอบคำถามของฮั่นหลาง
จนกระทั่งวันหนึ่งที่ฮันหลางไม่ได้เปิดปากเอ่ยถามออกไปก่อน
กลับเป็นต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ทักเข้ามาหาและเริ่มต้นบทสนทนาด้วยตัวของเขาเอง “เจ้าต้องการถามอะไรอีกบ้างในวันนี้?”
นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ในขณะที่ฮั่นหลางได้พยายามพัฒนาทักษะความสามารถในการเรียนรู้และพร้อมด้วยคำแนะนำของต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
ความรู้ของเขาเกี่ยวกับการใช้พลังพิเศษ ทักษะต่อสู้ กลยุทธ์ การฝึกฝน
เริ่มพัฒนาขึ้นด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ
ฮั่นหลางเริ่มต้นช้ามาก
แต่ความเร็วในการพัฒนาของเขาไม่ได้ช้าตามไปด้วย
ยามรุ่งอรุณ
ฮั่นหลางกลับมาถึงบ้านหลังจากวิ่งออกกำลังในต้อนเช้า
เขาอาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้าน
เมื่อคืนก่อนพัสดุจากผู้เล่นยามค่ำคืนได้มาถึงในที่สุด
ฮั่นหลางได้ส่งพัสดุไปให้ปู่สี่ของหลี่ฉีในคืนนั้นทันที
และเขาสัญญาว่ามันจะต้องได้ผล หลี่ฉี่บอกให้ฮั่นหลางไปพบเขาในตอนบ่าย ที่โรงพยาบาล
ตอนนี้ฮั่นหลางกำลังจะไปยังศูนย์บริหารเอสเปอร์เพื่อ ทดสอบแรงกดดัน
ขอบคุณครับผม
ตอบลบขอบคุณครับ หวังว่าจะได้อ่านเรื่องนี้จนจบนะครับ
ตอบลบแปลได้แนวมากครับ ขอชูฮก
ตอบลบ