เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ZX 057 ถ้าเจ้าพูดผิด เจ้าต้องจ่าย


ข้า หยางเฉินขอพบผู้ดูแล

หยางเฉินเอ่ยพร้อมประสานมือคารวะไปยังทิศทางที่มาของเสียง แม้น้ำเสียงนี้จะดูแข็งกร้าว แต่ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคย ทว่านึกไม่ออกว่าเป็นใคร

เฮอะ..

เสียงแค่นที่เยือกเย็นผนังหินที่เบื้องหน้าเขาพลันหายไป
เขาพบว่ายืนอยู่บนพื้นเรียบที่ว่างเปล่า

ที่นี่ไร้แสงตะวัน แต่เหนือศีรษะของเขาสามารถมองเห็นแสงของไข่มุกราตรีซึ่งเป็นแสงเพียงอย่างเดียวของที่นี่ แม้ว่าจะไม่สว่างเท่าแสงตะวัน แต่สำหรับนักบ่มเพาะมันก็เพียงพอที่จะเห็นทุกอย่าง

เบื้องหน้าของหยางเฉินเป็นชายสี่คนยืนเรียงอยู่ ซึ่งรวมทั้งสองคนที่แค่นเสียงและอีกคนที่เคยเอ่ยคำ หยางเฉินรู้ว่าบุคคลเหล่านี้คือผู้ดูแลทางเข้าสู่หลุมดักเซียน  ซึ่งเหล่านิกายคัดจากศิษย์ที่โดดเด่นส่งมา มีการบ่มเพาะอย่างน้อยที่ระดับก่อสร้างรากฐาน เมื่อผนวกกับค่ายกลอักขระที่ท่างเข้าแล้ว มันเพียงพอที่จะรับมือกับคนระดับก่อลำต้นได้

ในบรรดาทั้งสี่คนนี้หยางเฉินจำได้สามคน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้จัก
ในตอนนี้หยางเฉินรู้แล้วว่าใครเป็นคนที่ทำเสียง'เฮอะ..ในชีวิตก่อนหน้าคนผู้นี้เคยตามฆ่าเขาตามคำสั่งของนิกายสวรรค์ล้ำเลิศ และเขาเป็นศิษย์ของนิกายเทียนเชวียน ชื่อว่า จินเตา ในขณะมันมีระดับการบ่มเพาะที่ขั้นสูงสุดของระดับก่อลำต้น แต่ในปัจจุบันนี้อยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับรวบรวมลมปราณ

แต่ตอนนี้จินเตายังไม่มีเหตุผลใดที่จะทำเช่นนั้น แต่หยางเฉินนึกถึงที่เขาฆ่า หานเจียน ศิษย์นิกายเทียนเชวียน และการทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นมีระดับถดถอยลงและบาดเจ็บ นี่อาจจะถูกนำมาเป็นเหตุผลได้

ที่นี่หลุมดักเซียน ผู้ที่อยู่ระดับรวบรวมลมปราณเข้าไม่ได้
ตอนนี้หยางเฉินแสร้งโง่ และแสดงทำท่าทางประหลาด โดยแสดงท่าทางเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง มองไปรอบๆตัวอย่างละเอียดเหมือนจะหาอะไรสักอย่าง หลังจากนั้นหันมามองสี่คนที่อยู่เบื้องหน้า ด้วยท่าท่างที่หวาดกลัวและกังวลปรากฏบนใบหน้าราวกับไม่ยอมรับสิ่งที่ได้ยิน

นี่คือหลุมดักเซียน ไม่ใช่สถานที่ให้คนระดับรวบรวมลมปราณอย่างเจ้าเข้ามาได้
จินเตายังคงกล่าวเช่นเดิม
เจ้าไม่มีคุณสมบัติ!...พระราชวังหยางบริสุทธิ์นี่ยิ่งมายิ่งน่าเกลียด และน่าประหลาดใจ แม้แต่ป้ายคำสั่งยังกล้าให้กับศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณ
น้ำเสียงจินเตาเวลาเอ่ยถึงพระราชวังหยางดูเหิมเกริมยิ่งนัก เพราะที่นี่มีเพียงหยางเฉินเท่านั้นที่เป็นศิษย์พระราชวังหยาง แม้เขาจะเหิมเกริมซักเล็กน้อยก็ยังไม่สร้างผลกระทบร้ายแรงใดๆให้กับเขา สิ่งสำคัญในตอนนี้คือเขาได้ระบายความแค้นของนิกายของเขา

 “ศิษย์หยางเฉินคารวะ ผู้อาวุโสหวู
สีหน้าของหยางเฉินแสดงออกมาถึงความเคารพอันแรงกล้า ท่าทางนี้ส่งตรงไปที่จินเตา ทำให้เขาต้องรีบหลบการคารวะนั้น คำพูดของหยางเฉินทำให้ผู้คนเหล่านี้สับสนอย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะรับการคารวะจากหยางเฉิน

หยางเฉินได้แสดงท่าทางอย่างชัดเจนว่าเขาให้ความเคารพผู้อาวุโสหวู มีเพียงผู้อาวุโสหวูที่ถูกเลือกจากห้าผู้อาวุโสจากทุกนิกาย ให้มีอำนาจดูแลทั่วทั้งหลุมดักเซียน

ผู้อาวุโสที่น่าเกรงขามทั้งห้านั้นเลือกคนหนึ่งคนที่เป็นผู้บ่มเพาะอิสระนั้น ก็เนื่องด้วยความเข้าใจและทักษะแต่เดิมของเขาที่น่าพิศวง ทั้งยังเป็นผู้ที่มีคุณธรรมอีกทั้งพลังความแข็งแกร่งที่สูงยิ่ง ในระดับการบ่มเพาะออกผล
เขาเป็นหัวหน้าดูแลงานและขณะเดียวกันนั้นก็เป็นคนที่คอยจัดการเรื่องราวต่างๆในหลุมดักเซียน

กฏทั้งหมดในหลุมดักเซียนถูกเขียนขึ้นโดยผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า ดังนั้นไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธมัน

แม้จินเตาจะมีท่าทางที่หยิ่งยโส แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะรับการคารวะของหยางเฉินต่อผู้อาวุโสหวู

เพราะถ้าผู้นำนิกายเทียนเชวียนรู้เรื่องนี้ เขาจะถูกลงโทษ ..สถานเบาก็ถูกทำลายการฝึกปรือและขับออกจากนิกาย

ท่านคืออาวุโสหวู?”

หยางเฉินเอ่ยหลังจากจินเตาเบี่ยงตัวหลบออกจากทิศนั้น

ข้าไม่เคยพูดว่าข้าเป็นผู้อาวุโสหวู
 
จินเตากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทั้งสี่คนไม่รู้ว่านี่เป็นการเสแสร้งของหยางเฉิน

หลุมดักเซียนเปลี่ยนกฏหรือ ? ไม่มีผู้นำนิกายใดในโลกรู้เรื่องนี้!...อย่างน้อยประมุขพระราชวังหยางบริสุทธิ์ตอนให้ป้ายคำสั่งไม่เห็นบอกเลยว่าที่นี่ห้ามคนระดับรวบรวมลมปราณเข้ามา

หยางเฉินจ้องจินเตา ยิ้มพลางกล่าวต่อ

ข้าค้นดูบันทึกตั้งแต่โบราณมากมาย แต่ก็ไม่ทราบว่าหลุมดักเซียนมีกฏข้อนี้ดังนั้นข้าจึงคิดว่ามันต้องเป็นกฏที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ การเปลี่ยนกฏ นอกจากผู้นำนิกายใหญ่ๆแล้ว ก็คงเป็นหนึ่งในห้าผู้อาวุโสเท่านั้นที่สามารถทำได้

ในเมื่อท่านไม่ใช่ผู้อาวุโสหวู ไม่มีประโยชน์ที่ข้าจะพูดอะไรให้มากความ
หยางเฉินประสานมืออีกครั้ง

ผู้เยาว์ต้องรีบออกไปรายงานเกี่ยวกับกฏใหม่นี้ต่อท่านประมุขในทันที

หลังกล่าวเสร็จ แสงจากป้ายคำสั่งครอบตัวหยางอีกครั้ง ..เขาเตรียมไปจากที่นี่แล้ว

ช้าก่อน

ชายทั้งสี่คนขวัญหนีดีฝ่อ รวมทั้งจินเตา หลุมดักเซียนไหนเลยจะมีกฏเช่นนี้
เรื่องของเรื่องมาจากว่าทันทีที่จินเตาได้ยินนามของหยางเฉินแวบเข้ามา แล้วจินเตาต้องการกดดันหยางเฉินอย่างขาดสติ โดยไม่คิดถึงความหวาดกลัวที่หยางเฉินได้รับ ถ้าพวกเขาอนุญาติให้หยางเฉินกลับไปตอนนี้ แล้วรายงานต่อประมุขพระราชวังหยางบริสุทธิ์ แล้วแน่นอนพวกเขาจะโดนกำจัดไม่เหลือแม้แต่ซาก

ทั้งสี่คนไม่กล้าที่จะดูแคลนและเร่งรีบที่จะขวางหยางเฉินไว้ แต่จินเตาก็ก้าวออกมากล่าวด้วยเสียงอันดัง

หยางเฉิน เจ้าตัวโสโครก เจ้าต้องการที่จะกล่าวหาเรา เจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นความผิด

ตัวโสโครก งั้นรึหยางเฉินแค่นเสียง

งั้นมาดูกัน
 
เขาพลิกฝ่ามือก็ปรากฏหินบันทึกเสียง ทันใดเสียงที่บันทึกการสนทนาระหว่างหยางเฉินกับจินเตาก็ดังก้องขึ้นภายในหูทุกคน

ตั้งแต่หยางเฉินถามว่าศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณมีสิทธิ์เข้าสู่หลุมดักเซียนหรือไม่ และคำโต้ตอบอย่างอหังการของจินเตา

ทุกๆอย่างถูกบันทึกไว้หมดไม่ขาดแม้แต่คำเดียว เมื่อได้ฟังบทสนทนานี้อีกครั้ง ท่าทีสับสนหน้าซีดบังเกิดแก่คนทั้งสี่

หยางเฉินนั้นมีป้ายคำสั่ง ดังนั้นมันบันทึกตั้งแต่เขาเข้ามา หยางเฉินไม่ใช่ปีศาจ ทั้งไม่ได้ละเมิดกฏ ตอนนี้แม้อยากแย่งชิงหินบันทึกเสียงจากหยางเฉินก็เป็นไปไม่ได้ หน้าที่หลักคือดูแลที่ประตูไม่ใช่โจมตีมนุษย์

ด้วยเสียงจากหินบันทึกเสียงนี้ ทันทีที่หยางเฉินกลับและเปิดให้ประมุขพระราชวังหยางฟัง ปัญหาใหญ่ต้องบังเกิดจินเตา และอีกสามคนที่เหลือก็จะถูกลากลงไปด้วยเพราะอยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้แก้ไขข้อผิดพลาดของจินเตา ดังนั้นพวกเขาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกเดียวกัน ด้วยกฏของหลุมดักเซียน สำหรับผู้มีระดับการบ่มเพาะก่อสร้างรากฐานอันกระจ้อยร่อย เช่นจินเตา กลับกล้ามาให้ข้อเสนอแนะที่ไร้สาระ?

หน้าที่หลักของผู้ดูแลทางเข้านั้นคือดูแลประตูทางเข้า และตรวจสอบความถูกต้องของป้ายคำสั่งของผู้มา ตราบใดที่ผู้มาไม่ได้ทำผิดกฏ มันเป็นข้อปฏิบัติอยู่แล้วที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ไปลงโทษผู้นั้น แม้จินเตาจะอยู่ในการดูแลของนิกายเทียนเชวียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถละเมิดกฏข้อห้ามของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า มันไม่ใช่แค่เรื่องรักษาหน้าตาแต่มันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์มากมาย ถ้าพวกเขาปล่อยหยางเฉินกลับไป พวกเขาทั้งสี่ไม่มีปัญญาจัดการกับผลที่จะตามมาแน่

ในบรรดาทั้งสี่คน มีคนหนึ่งที่มีความปราดเปรียว เขาเป็นคนที่หยางเฉินไม่รู้จัก ในทันทีได้ก้าวมาอย่างรวดเร็วที่ด้านหน้าของหยางเฉินและเอื้อมมือคว้าแขนของเขาเอาไว้พร้อมกับพูดว่า

แค่เรื่องล้อเล่น! มันเป็นแค่เรื่องตลกจริงๆ เจ้าผู้เยาว์แซ่หยาง อย่าได้ใส่ใจกับมันเลย

นี่ไม่ใชการขอโทษ เขาเพียงต้องการจะคว้าหินบันทึกเสียง แต่ตอนนี้มันไม่อยู่ในมือของหยางเฉินแล้ว เขาจึงแค่กล่าวคำหวานเพื่อให้หยางเฉินอยู่ต่อไป ตราบเท่าที่หยางเฉินไม่ได้รายงานอะไร พวกเขาทั้งสี่ก็จะไม่มีปัญหาใด

เขายื้อยุดหยางเฉินด้วยรอยยิ้ม แต่สายตามองไปที่จินเตาเป็นนัยว่าให้ทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหานี้ เขาเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ผู้ที่ขัดขวางหยางเฉินจริงๆคือจินเตา เขาควรจะแก้ไขปัญหานี้

จินเตาไหนเลยจะคาดคิดว่าคำพูดที่เขากล่าวอย่างไม่ได้ตั้งใจนี้ จะโดนเจ้าหนูที่น่ารังเกียจเบื้องหน้าเขาบันทึกในหินบันทึกเสียง ถ้ามันถูกเผยแพร่ไปข้างนอก เขาจะเสียหน้าอย่างยิ่ง

เขาอาจจะสามารถกำจัดหยางเฉินในเวลาอื่น แต่ตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเขาละเมิดกฏไปแล้ว หลุมดักเซียนเป็นสถานที่ที่สามารถทิ้งชีวิตเพราะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกล่าวข้อเท็จจริงที่จินเตาเป็นเพียงระดับก่อสร้างรากฐาน ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล ทำผิดกฏก็จะถูกห้าผู้ยิ่งใหญ่ตามฆ่าโดยปราศจากโอกาสหลบหนี หลุมดักเซียนเป็นสถานที่ฝึกยุทธ แม้ทุกคนจะระวังตัวอยู่ตลอดในยามปกติ แต่อุบัติเหตุก็ย่อมเกิดได้ในกรณีนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบต่อชีวิตที่สูญเสียไป? ฉะนั้นการแหกกฏย่อมเป็นหนทางสู่ความตาย

เจ้าล้อเล่น?”

หยางเฉินเผยรอยยิ้มที่ใบหน้า มันเป็นเรื่องเท็จแม้กระทั่งตัวเขาเองยังสังเกตุได้ มันไม่สามารถปกปิดความเห็นแก่ตัวเอาไว้ได้ เขาจึงถามว่า

งั้น..ก็หมายความว่าศิษย์แค่ระดับรวบรวมลมปราณอย่างข้า ก็สามารถเข้าภายในหลุมดักเซียนได้?”

แน่นอน

ชายคนที่ยื้อยุดฉุดแขนหยางเฉินยิ้มอีกครั้งแล้วปล่อยแขนเมื่อเขากล่าว จินเตาได้สร้างข้อผิดพลาดไว้และนี่เป็นปัญหาที่จินเตาต้องแก้ไข ถึงอย่างไรถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ พวกเขาก็ไม่ถูกกล่าวว่าเป็นพวกเดียวกับจินเตา พวกเขาล้วนชาญฉลาด ผู้ใดสร้างปัญหาผู้นั้นต้องเป็นคนแก้

โชคร้ายที่เวลานี้จินเตาได้กระทำความผิดอย่างโง่งม หินในมือหยางเฉินเป็นหลักฐานสามารถกระชากเอาชีวิตของเขาไปได้ ในขณะนี้จินเตาไม่อาจทนต่อสายตาหยางเฉิน ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะฆ่าศิษย์นิกายเทียนเชวียนและทำร้ายผู้เชี่ยวชาญก่อลำต้นที่บันไดสวรรค์ ในตอนนี้เขาทำได้แต่กล้ำกลืนโทสะเอาไว้

คนอื่นๆล้วนหายหัว นั่นหมายความว่าไม่ว่าจินเตาทำสิ่งใดพวกเขาล้วนไม่รู้ไม่เห็น และขณะเดียวกันนั่นคืออะไรที่เกิดขึ้นล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา เป็นเรื่องธรรมชาติที่ภายในหลุมดักเซียนจินเตาไม่สามารถโจมตีหยางเฉิน ดังนั้นเขาได้แต่กัดฟันและขอโทษ

ศิษย์หยาง สิ่งที่เกิดเมื่อสักครู่ เป็นเรื่องขำๆ ล้อเล่นเท่านั้น เจ้าอย่าไปจริงจังกับมันเลย

จินเตารู้สึกสถานการณ์ในตอนนี้เป็นที่น่าพอใจมาก แม้ว่าหยางเฉินจะเป็นเพียงศิษย์ผู้เยาว์เหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา โดยปกติเมื่อศิษย์ภายนอกที่ระดับการบ่มเพาะรวบรวมลมปราณเมื่อได้พบพวกเขาทั้งหมดจะเรียกเขาด้วยความเหมาะสมว่า อาจารย์อา หรือท่านอาจารย์ แล้วในขณะนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาต้องกล่าวขอโทษหยางเฉิน ตราบใดที่หยางเฉินไม่ได้ใส่ใจและนำเรื่องนี้ไปรายงาน

ตอนที่ข้าได้ยินน้ำเสียงผู้อาวุโสกล่าว มันไม่เหมือนเรื่องล้อเล่นนะ

 ทันใดนั้นท่าทางของหยางเฉินกลับเคร่งเครียดในทันที ราวกับว่าเขาเป็นนักแสดง

แท้จริงแล้ว ศิษย์หยางอาจจะไม่ทราบความยุ่งยากของสถานที่นี้ ข้าเพียงแต่ไม่ต้องการให้เจ้าเกิดความสูญเสียใดๆ

ท่าทีของจินเตาไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยราวกับว่าเขาไม่เห็นท่าทางที่เป็นปรปักษ์ของหยางเฉินเขายังคงยิ้มและเอ่ยต่อ

เอาละมันผ่านไปแล้ว ข้ามีของที่คิดว่าเหมาะสมกับเจ้า มาดูกันเถอะ!

ขณะพูดจินเตาก็หยิบเหยี่ยวขนาดเล็กและปราณีตออกจากกระเป๋าจัดเก็บ แล้วยัดใส่มือหยางเฉิน พร้อมบอก

นี่เป็นอุปกรณ์เวทที่ได้รับการปรับแต่งจากระดับผู้อาวุโส มันถักจากไหมดำน้ำแข็ง มันมีความเร็วกว่าเหยี่ยวไม้ไผ่เวหาอยู่บ้าง เจ้าผู้เยาว์จงอย่าลังเลที่จะรับมัน

หยางเฉินเข้าใจในทันทีที่เห็นใบหน้าที่เยือกเย็นและยิ้มแย้มของจินเตา ไม่ง่ายนักที่จะจัดการชายคนนี้ อีกสามคนก็คงไม่แตกต่าง เพียงแต่พวกเขาไม่ได้สร้างความเดือดดาลให้กับหยางเฉิน

มันช่วยให้เร็วขึ้นเล็กน้อย มันมีประโยชน์อะไรกับที่นี่?”

แม้ว่าหยางเฉินจะกล่าวอย่างนี้ แต่มือหยางเฉินก็ไม่ได้มีท่าทีหยุดยั้งที่จะนำเจ้าเหยี่ยวไหมใส่กระเป๋าจัดเก็บ พร้อมเผยยิ้มกล่าวว่า

ท่านผู้อาวุโส คือจริงๆแล้วที่ข้ามาหลุมหลมเซียนในเวลานี้ ข้าได้รับคำสั่งเพื่อมาเอาแก่นวิญญาณห้าธาตุ ถ้าแบบนั้นเพื่อช่วยเหลือศิษย์ผู้น้อย ท่านผู้อาวุโสสามารถให้เป็นรางวัลแก่ข้าสักหนึ่งพันแปดร้อยอันได้หรือไม่?”

เมื่อได้ยินคำพูดหยางเฉิน จินเตาแทบกระอักเลือด ผู้คนที่มาหลุมหลบเซียน มีผู้ใดไม่มาหาแก่นจิตวิญญาณ เจ้าหยางเฉินมันพูดอะไรของมัน มีที่ไหนง่ายขนาดนี้ ขอรับเป็นรางวัลหนึ่งพันแปดร้อยชิ้น! จินเตาอยู่ที่นี่เป็นเวลาสี่ปี เพิ่งจะเก็บรวบรวมได้สามพันชิ้น!  แล้วจะเอาหนึ่งพันแปดร้อยชิ้นให้กับหยางเฉินได้อย่างไร?

สำหรับตัวเองยังไม่พอเลย แล้วจะมาให้หยางเฉินเพื่อสร้างความเชื่อถือแก่หยางเฉิน เป็นไปไม่ได้ แววตาของจินเตากลายเป็นเคร่งเครียด แต่ก็แค่พริบตา ก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่ชื่นชมยินดีอีกครั้ง พร้อมหัวเราะเขานำผลึกหลากสีสองร้อยก้อนออกมา และบังคับตัวเองให้นำมันไปใส่ในมือของหยางเฉิน

เจ้าเด็กน้อย การหาแก่นจิตวิญญาณเป็นเรื่องง่าย? ก่อนอื่น เจ้าเอานี่ไปและถ้าไม่พอค่อยบอก

จินเตายังคงกล่าวต่อ และไม่ได้กังวลถึงข้อตกลงอีกต่อไป เขากล่าวว่า

ขั้นแรกเจ้าต้องหาที่ปักหลักดีๆในหลุมดักเซียน แล้วผู้อาวุโสจะนำเจ้าไปฆ่าสัตว์จิตวิญญาณอสูรใต้พิภพซักจำนวนหนึ่ง เมื่อเจ้าฆ่ามันเจ้าก็จะได้รับแก่นจิตวิญญาณอีกมากมาย ฮ่าฮ่า…”

หยางเฉินไม่ได้แสดงท่าทีขัดขวางเหมือนครั้งก่อน การกระทำและคำพูดของจินเตาทำให้จินเตาเองต้องเจ็บปวดมากพอดูกับการจ่ายแก่นวิญญาณสองร้อยชิ้น หยางเฉินรู้ว่าเมื่อใดควรหยุด ทันใด เขาแสดงออกท่าทางที่พอใจอย่างมากหัวเราะและเอ่ยขึ้น

ในเมื่อท่านผู้อาวุโสเสนอมา มันเป็นการเสียมารยาทหากข้าปฏิเสธ

ผู้เยาว์ แล้วหินบันทึกเสียงล่ะ?”

หยางเฉินเอาแก่นจิตวิญญาณลงกระเป๋าจัดเก็บ จินเตาคงยิ้มเอ่ยอีกครั้ง

เฮ้ ไหนล่ะหินบันทึกเสียง

หยางเฉินตบกระโหลกตัวเอง แล้วนำหินบันทึกเสียงจากกระเป๋าจัดเก็บส่งให้จินเตา

เด็กน้อยจะต้องรับรู้นะว่านี่เป็นการล้อเล่นของผู้อาวุโส อย่าได้ใส่ใจ!

จินเตาส่งพลังจิตวิญญาณเข้าไป และเมื่อเขาใส่พลังจิตวิญญาณ เขาก็ได้ยินเสียงสนทนาระหว่างเขากับหยางเฉินที่บันทึกไว้ เขารีบทำลายมันทันที

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จินเตาก็รู้สึกผ่อนคลายแววตาของเขาที่มองหยางเฉิน ดูราวกับว่าเต็มไปด้วยความรักความเมตตา

เจ้าผู้เยาว์คงมาที่นี่ครั้งแรก มา ข้าจะสอนให้รู้จักกฏต่างๆ ไม่อย่างนั้นถ้าทำผิดกฏอาจจะบาดเจ็บหรืออาจถึงชีวิต ต้องไม่ละเลยแม้แต่ข้อเดียว!

หลังการแก้ไขข้อบาดหมาง จินเตาดูราวสนิทสนมหยางเฉินมาก ราวกับไม่เคยมีอะไรมาก่อน

ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ

หยางเฉินยิ้มพลางประสานมือคารวะ แต่ภายในจิตใจไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

ข้าไม่ได้ตั้งใจจะพาเจ้ามาในที่มืดหรอก แต่ที่นี่เป็นแค่เพียงทางเข้าเดียวของหลุมดักเซียน สัตว์จิตวิญญาณของหลุมดักเซียนน่ะไม่สามารถเอาชนะได้โดยง่าย

จินเตายิ้มแล้วกล่าวต่อ


ทุกๆคนที่มาหลุมดักเซียนต้องใช้เวลาหลายวันในการเรียนรู้ที่จะเอาชนะสัตว์จิตวิญญาณอสูร หลังจากที่สามารถฆ่าสัตว์จิตวิญญาณอสูรได้เพียงลำพัง นั่นถือเป็นการเข้าสู่หลุมดักเซียนอย่างแท้จริง เจ้าผู้เยาว์ต้องติดตามเพื่อเรียนรู้จากข้าสักสองสามวัน เมื่อใดที่เจ้าสามารถฆ่าสัตว์จิตวิญญาณอสูรได้ มันก็ไม่สายเกินไปที่จะเข้าหลุมดักเซียนหลังจากนั้น!

7 ความคิดเห็น:

  1. โอ้ยสนุกแต่ก้รอนานมว้ากกก

    ตอบลบ
  2. ความเคยตัวข่มคนอื่นมาเยอะเลยได้ใจ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2560 เวลา 07:31

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2560 เวลา 05:55

    สรุปว่าใช้ออกด้วยวิชาจากหมู่ดาวไถสินะฮะ ส่วนวิชาจากศาลใหญ่อะไรนั่นยังไม่ต้องออกโรง

    ตอบลบ
  5. รีดไถมาได้น้อยไปหน่อยนะ ฮ่าๆ
    แต่ก็ดีแก้เผ็ดมันซะบ้าง

    ตอบลบ