ฮั่นหลาง
กลับผ่านทางเครื่องเคลื่อนย้ายก่อนที่เขาจะออกไป เขามองหาข้อมูลของพลังสูญสิ้น
เห็นได้ชัดว่า ในระดับผู้เริ่มต้น
ฮั่นหลางสามารถทำให้ความสามารถของคนอื่นสลายไปได้
ถ้ามีผู้หนึ่งยิงลูกไฟมาที่เขาลูกไฟจะกระทบถูกเขา
แต่มันจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเขาได้
มันเหมือนกับว่าลูกไฟสูญหายไปก่อนที่มันจะมาถึงร่างของฮั่นหลาง
สมมุติว่าค่าพลังสถานะของฮั่นหลางสามารถเข้าถึง
100 และไปถึงระดับ 2
ดาวได้แล้วเขาจะสามารถเปิดสนามพลังสูญสิ้นได้ในรัศมี 1
เมตรตัวเขา ทุกคนที่เข้าสู่สนามพลังสูญสิ้นจะสูญเสียพลังของตนและกลายเป็นคนธรรมดา
หากฮั่นหลางมีค่าพลังสถานะถึง
1000 และถึงระดับ 3
ดาวแล้วสนามพลังที่เขาสามารถเปิดขึ้นจะมีรัศมีกว้าง 10 เมตร
ระดับสูงขึ้นรัศมีสนามพลังก็ยิ่งกว้างขึ้นในเหตุผลเดียวกันนี้
“ไม่เลวเหะ
ฉันสามารถยกเลิกพลังของคนอื่นได้” ฮั่นหลางคิดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ชูวว ~
ประกายแสงจางหายไป
ฮั่นหลางก็เปิดตาขึ้นและเดินออกจากรังไหมการประเมิน นอกจากภูเขาเนื้อ
เฉินจ่งและหลี่มู่อวิ๋น ยังมีบุคคลอื่นที่ฮั่นหลางไม่เคยเห็นอยู่อีก
เขาเป็นชายวัยกลางคนผิวเข้มเสุขภาพดีใบหน้าเหลี่ยมและลักษณะของเขาแผ่กลิ่นอายที่มีความแน่วแน่และมั่นคงออกมา
“ให้ตายเถอะ
การทดสอบแรกของนายได้ 90 แต้ม
หากไม่ใช่เพราะยัยลูกเจี๊ยบนั่น บางทีนายอาจได้คะแนนมากกว่านี้!” เฉินจ่งจับไหล่ของฮั่นหลางด้วยสองมือและตะโกนออกมาอย่างมีความสุข “เธอดูน่ารักจริงๆ อย่างไรก็ตามน้องชาย ฉันสนับสนุนนาย!”
เดี่ยวก่อน
นี่มันอะไรกัน?
เฉิงจ่งเป็นคนที่ติ๊งต๊องมาก
เขาและฮั่นหลางเพิ่งได้รู้จักกันในวันนี้และตอนนี้เหมือนว่าพวกเขาโตมาด้วยกัน
เมื่อเห็นแต้มของฮั่นหลางที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
เขามีความสุขมากกว่าตัวของฮั่นหลางเองซะอีก
นอกจากนี้ยังมีการยกย่องเขาต่อผู้อื่น
ซึ่งดูเหมือนจะพูดเกินจริงมันทำให้
ฮั่นหลางมีปัญหาเหมือนกับว่าเขาได้ทำอะไรที่พิเศษจริงๆ
* แค่ก แค่ก *
ชายวัยกลางคนกระแอมอย่างจงใจขึ้นสองครั้ง
เฉินจ่งหัวเราะและพูดว่า “โอ้ ฉันเกือบลืมนี่คือชูหลี่
ประธานของศูนย์บริหารเอสเปอร์สาขาเซี่ยงไฮ้”
“ประธานชู”
ฮั่นหลางกล่าวด้วยความเคารพ
ชูหลี่ พยักหน้ารับ “จนถึงตอนนี้ ศักยภาพของคุณในระหว่างการทดสอบแรงกดดันเป็นสิ่งที่พิเศษ
อาทิตย์หน้าในเวลาเดียวกันคุณต้องมาที่นี่และทำการทดสอบแรงกดดันต่อ
นี่เป็นความรับผิดชอบของคุณในฐานะเอสเปอร์”
นอกจากการทำรายงานดัชนียาแล้ว
ฮั่นหลางยังคงมีเวลาเล็กน้อยในแต่ละวัน เมื่อประธานชูเอ่ยชวนเขาด้วยความจริงใจ
ฮั่นหลางจึงพยักหน้าและตอบตกลง
“อีกอย่างเกี่ยวกับการลงทะเบียนผมได้บอกให้พนักงานดำเนินการแล้วคุณต้องรอที่นี่สักสองสามนาที”
ประธานชูพยักหน้าเบาๆ และเดินออกจากศูนย์ประเมินแรงกดดัน
ดูเหมือนว่าประธานชูจะค่อนข้างซีเรียส
เมื่อเขายืนอยู่ที่นี่มันทำให้ทุกคน (แน่นอนอยู่แล้วว่า ต้องไม่นับภูเขาเนื้อ)
ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา แต่เมื่อเขาจากไปทุกคนต่างพากันมาลุมล้อมฮั่นหลาง
“พลังระดับSSS!
เยี่ยมที่สุดในกาแลคซี! แม้แต่มอนสเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ก็อ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับคุณ!”
“ถูกต้อง
คุณอาจไม่รู้ เมื่อท่านประธานรู้ว่าพลังของคุณแข็งแกร่งขนาดไหน
ใบหน้าของเขานิ่งเฉยไปพักหนึ่ง โชคร้ายที่คุณเริ่มต้นสายเกินไป
ค่าพลังสถานะต่ำจนเกินไป ไม่งั้นท่านประธานคงจะลากคุณไปที่ค่ายฝึกฝนอย่างแน่นอน”
“ไอ้หยา
ไม่ได้เข้าใจผิดอย่างแน่นอน ผมได้ยินประธานชูถอนหายใจอยู่ด้านหลัง”
เมื่อฝูงชนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้
เฉินจ่ง เริ่มรู้สึกไม่พอใจ “พวกนายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?
น้องชายของฉันมีค่าพลังต่ำ? เขาก็แค่ต้องฝึกฝน!
สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกฝนของศูนย์บริหารฟรีสำหรับเอสเปอร์ อย่างไรก็ตามน้องชายไม่ต้องไปฟังพวกเขา
รอบแรกของการทดสอบแรงกดดันนายได้ 90แต้ม! ใครต่างก็เห็น
แต้มที่มากมายนี้”
ฮั่นหลาง
สรุปความเห็นของทุกคนว่า สูญสิ้น
เป็นพลังที่แข็งแกร่งมากและทุกคนก็มีความสุขร่วมกับเขา
แต่เนื่องจากความจริงที่เขาเริ่มต้นช้า ประธานชูจึงรู้สึกว่าฮั่นหลางจะมีศักยภาพในอนาคตที่จำกัด
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กระตุ้นให้ฮั่นหลางทำอะไรเป็นพิเศษ
บอกเพียงให้ฮั่นหลางไม่ให้ยอมแพ้ในการทดสอบแรงกดดัน
และดูว่าฮั่นหลางจะได้รับคำเชิญไปงานชุมนุมแห่งกาแลคซี่หรือไม่
แน่นอนว่า
มันเป็นเรื่องปกติของคนที่ค้นพบพลังของตนเมื่ออายุ 16
ปีและมีค่าสถานะพลังเพียง 27
เขาจะได้รับสถานะที่มีศักยภาพต่ำ แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือค่าสถานะพลัง 27 ของฮั่นหลาง ไม่ได้สะสมมาตลอด 16
ปีแต่มันใช้เวลาแค่ 1 วัน!
หลายสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับฮั่นหลาง
เกิดขึ้นที่ศูนย์บริหารเอสเปอร์
เมื่อเขาออกมาจากการทดสอบมันก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้วและท้องของเขาเริ่มร้องประท้วง
ในเวลานี้หลวงจีนได้เสร็จสิ้นการทดสอบแรงกดดันแล้วเช่นกัน
เขาพยายามอย่างหนักแต่เดินได้เพียง 1
ไมล์และได้แต้ม 60 แต้ม
หลังจากได้รับรู้ว่าฮั่นหลางมีพลังอันน่าทึ่งและได้รับถึง
90 แต้มในรอบแรกของการทดสอบ
หลวงจีนก็รู้สึกมีความสุขกับความสำเร็จของฮั่นหลาง
เขาตะโกนขึ้นว่าทุกคนควรออกไปหาอะไรกินและฉลองกัน
เมื่อพูดถึงเรื่องกิน
เราจะลืมเฉินจ่งได้อย่างไร? ดังนั้นทั้งสามคนจึงออกจากศูนย์บริหารและไปยังร้านอาหารสันติภาพฝั่งตรงข้าม
ฮั่นหลางยังได้โทรไปเชิญเพื่อนรักของเขาหลี่ฉี่ ที่ไม่ได้พบเจอกันมานาน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขายังคงยากจน
ฮั่นหลางติดหนี้หลี่ฉี่ไม่น้อยเนื่องจากเขามักจะให้ หลี่ฉี่เป็นคนออกค่าอาหารให้
ฮั่นหลางและอีกสองคนหิวมากจึงสั่งอาหารที่คิดว่าอร่อยในรายการทั้งหมด
และเริ่มกินโดยไม่หยุด ไม่นานหลี่ฉี่ก็มาถึง
ฮั่นหลางได้แนะนำให้เขารู้จักกับหลวงจีนและเฉินจ่ง
พร้อมกับบอกหลี่ฉี่ถึงพลังของเขา
หลี่ฉี่ตาโตและตะโกนขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“เพื่อนรัก ได้กลายเป็นเอสเปอร์?! นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดที่ฉันได้ยินในรอบสองเดือน!
นายปิดโทรศัพท์ไปนาน หวังเหย่ถามถึงนายกับฉัน
ดูเหมือนเธอจะมีความรู้สึกที่ดีกับนาย ตอนนี้นายเป็นเอสเปอร์แล้ว
เธออาจจะวิ่งสู่อ้อมแขนนายโดยไม่ทันตั้งตัว!”
ภูเขาเนื้อเฉินจ่ง
เริ่มโม้แหลกอีกครั้ง “ลูกเจี๊ยบบนโลกมีอะไรดี วันนี้น้องชายฮั่นหลางได้ผ่านการทดสอบแรงกดดันรอบแรกและเขาได้เกี้ยวลูกเจี๊ยบสุดน่ารักจากดาวเคราะห์ดวงอื่น
แม้ว่าเธอจะยังมีอายุน้อย แต่ใบหน้าร่างกายของเธอล้วนสมบูรณ์แบบ!
ฉันยังนั่งน้ำลายไหลอยู่ที่หน้าจอในขณะที่เฝ้าดูน้องชายฮั่นหลาง
สาวน้อยคนนั้นเป็นของน้องฮั่นหลางอย่างแน่นอน!”
หลี่ฉี่ตกตะลึงและรีบถามขึ้นว่า
“บอกพี่ชายไวๆ นายไปเกี้ยวลูกเจี๊ยบน้อยต่างดาวได้อย่างไร!”
ฮั่นหลางพูดไม่ออก
เพื่อนเขาเหล่านี้ทำราวกับว่าพวกเขาต้องการที่จะเห็นโลกตกสู่ความโกลหล...
ช่วยใครสักคนกลับกลายเป็นว่าเขาเกี้ยวเธอ ให้ตายเถอะพวกนี้สมองเพี้ยนไปหมดหรืออย่างไร...
บรรยากาศที่ร่าเริงผ่านไปไม่นาน
หลี่ฉี่ก็กลายเป็นเศร้าสร้อยลงเล็กน้อย เขาถามถึงขวดไวน์และดื่มมันไปสองแก้วใหญ่
เหมือนกับว่าเขามีบางอย่างอยู่ในใจ
ฮั่นหลางรู้สึกว่ามันไม่ปกติดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า
“นายไม่สบาย? นายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“ฉันไม่ได้ป่วย
นายนั้นล่ะที่ป่วย” หลี่ฉี่หัวเราะและด่าสวนฮั่นหลาง
สักพักก็ถอนหายใจ “ฉันเพิ่งกลับมาจากการไปเยี่ยมปู่สี่ที่โรงพยาบาลมา
ตั้งแต่ที่ฉันจำความได้ปู่สี่ ถือว่าสำคัญที่สุดสำหรับฉันคนหนึ่ง
เขาไม่มีภรรยาหรือลูกและฉันก็เปรียบเหมือนลูกหลานของเขา”
ฮั่นหลาง
กลายเป็นกังวลขึ้นเช่นกัน “ปู่สี่เป็นอะไรมากไหม? ทำไมเขาถึงเข้าโรงพยาบาล?”
“ปู่สี่เป็นเอสเปอร์
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในขณะที่เขาได้เข้าไปสำรวจสถานที่อันตราย เขาได้ใช้พลังพิเศษจากแหล่งพลังมากเกินไปซึ่งมันทำให้เกิดความเสียหายในศูนย์คลื่นสมอง
ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก แพทย์บอกว่า แหล่งสะสมภายในสมองเสื่อมสภาพ”
ฮั่นหลางตอบออกมาในทันทีโดยไม่ได้หยุดคิดใดๆ
“โอ้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
บริเวณศูนย์คลื่นสมองมันคือพื้นที่จัดเก็บขุมพลังของเอสเปอร์
การฝึกฝนและต่อสู้คือสาเหตุที่มันสั่นไหว ยิ่งฝึกฝนและต่อสู้อย่างหนักก็ยิ่งทำให้การสั่นไหวยิ่งหนักขึ้น
โดยเฉพาะหากยิ่งหากใช้งานเป็นเวลานานมันจะสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อจุดต่างๆภายในศูนย์คลื่นสมองได้”
ฮั่นหลางกล่าวต่อว่า “แต่อาการของปู่สี่ถึงขั้นเสื่อมสภาพ ยาปกติไม่สามารถที่จะรักษาได้ ฉะนั้นจำเป็นต้องสกัดของเหลวจากสมองของ
เอสเปอร์วัยเยาว์
และสร้างให้เป็นยาที่ชื่อว่ายากระตุ้นศูนย์สมองเพื่อเพิ่มการทำงานของเซลล์สมอง”
“จากนั้นควรกินมันพร้อมกับเม็ดยาพลังงานนิวเคลียร์
มันจะบังคับพลังงานให้เติมเต็มอย่างรวดเร็ว และเพียงเท่านี้ก็สามารถรักษาศูนย์คลื่นสมองที่
เสื่อมสภาพได้อย่างสมบูรณ์”
สามเดือนที่ผ่านมาฮั่นหลางใช้เวลาในการเขียนข้อมูลสำหรับดัชนียา
ดังนั้นความรู้ทั้งหมดนี้จึงฝังอยู่ในสมองของเขา
หลังจากที่ฮั่นหลางพูดออกไปไม่กี่ประโยคเพื่อนของเขาทั้งสามต่างอ้าปากค้างมองมาที่เขา
ในตอนนั้นฮั่นหลางตระหนักได้ว่าเขาเปิดเผยความลับของตนออกมาโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากยากระตุ้นศูนย์สมองและเม็ดยาพลังงานนิวเคลียร์เป็นยาผิดกฎหมายทั้งสิ้น
ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่เคยได้ยิน
ปากของเฉินจ่งกระตุกเล็กน้อยและถามขึ้นว่า
“สกัดของเหลวจากสมองของเอสเปอร์เยาว์วัย? มันจะไม่โหดเกินไปหน่อยหรอ?”
หลวงจีนสับสนเล็กน้อย “พลังงานนิวเคลียร์คืออะไร? การกินมันจะทำให้เติมพลังในแหล่งสะสมขึ้นอย่างรวดเร็วได้ยังไง?
ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน?”
ขอบคุณครับผม
ตอบลบ