กาแลคซี่ทางช้างเผือก
ดาวเคราะห์แลนโบลี่
ผู้ดูแลระบบหลักการทดสอบแรงกดดันแห่งกาแลคซี่
สมาคมสายน้ำจันทรา ตั้งอยู่ที่นี่ มีดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนในกาแลคซี่ งานที่สำคัญมากอย่างเป็นเจ้าภาพในการทดสอบรอบแรกของการชุมนุมแห่งกาแลคซี่
หากมอบหมายให้กับดาวเคราะห์ใดดาวเคราะห์หนึ่งแล้วจะมีบางดาวเคราะห์ที่ไม่มั่นใจในการประเมินผล
ด้วยเหตุนี้จึงได้มอบความรับผิดชอบให้กับองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานอย่าง
สมาคมสายน้ำจันทราเป็นผู้ควบคุม
ในขณะนี้หนึ่งในสามประธานผู้บริหารของสมาคมสายน้ำจันทรา
ไซตะ ผู้มีหน้าที่ในการตรวจสอบโลกเสมือน เดินเข้าไปในออฟฟิศ
ชายชราคนหนึ่งที่มีผมและเคราที่ขาวโพลนนั่งอยู่ในออฟฟิศหันหน้าไปทางจอที่เรียงรายอยู่ทั้งหมดนั้นฉายภาพพื้นที่ทั้งหมดในการทดสอบแรงกดดัน
ชายชรามีชื่อว่า เคล
ท่ามกลางหัวหน้าทั้งสามคนเขารับผิดชอบด้านเทคโนโลยี
“เหตุใดถึงเรียกผมมา?”
ไซตะกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน
เคลหัวเราะออกมา “มีชายหนุ่มคนนึงที่น่าสนใจมาก มาดูสิ”
ไซตะมองไปยังทิศทางที่เคลชี้
ฮั่นหลางซึ่งดูเหมือนว่าการทดสอบแรงกดดันไม่ได้ส่งผลต่อเขาและตัดสินใจที่จะก้าวไปยังจุดตรวจสอบที่สอง
ไซตะจ้องมองอยู่สองสามวินาทีก่อนจะขมวดคิ้ว
“ชายหนุ่มคนนี้แปลกมากดูเหมือนว่าสภาพทะเลที่หนาวเย็นมากๆนั้นจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย
เขาเป็นสายพันธุ์ธาตุไฟหรือสายพันธุ์ธาตุน้ำ?”
เคลส่ายหน้า “คุณยังจำอี่ซุยฮานได้ไหม?”
ไซตะกล่าวว่า “แน่นอน เอสเปอร์สูญสิ้นเพียงคนเดียวในกาแลคซี่
ถ้าเราไม่ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเขาเราก็จะไม่ทางรู้ว่ามีพลังที่ผิดปกติดังกล่าว
แต่อี่ซุยฮาน มีชื่อเสียงที่ไม่ดีนัก คนที่รักเขาก็รักจนวันที่เขาตาย แต่คนที่เกลียดเขาก็จะไล่ตามรังควานเขาไปสุดขอบนรก”
เคลหัวเราะเสียงลั่น “มันไม่มีทางที่จะเข้าไปใกล้ๆเขา เพราะเขามี สูญสิ้น
ซึ่งมันสามารถทำให้พลังพิเศษในจักรวาลนี้ไร้ผล
บรรดาเอสเปอร์อัจฉริยะที่คิดว่าตนเองมีพลังเหนือบุคลอื่น
จะรู้สึกกลายเป็นเพียงคนโง่เมื่อเข้าใกล้อี่ซุยฮาน
แล้วเช่นนั้นจะไม่ให้พวกมันเกลียดชังเขาได้ยังไง?”
ไซตะเริ่มหัวเราะตาม “ผมจำคำพูดเก่าแก่ได้
กล่าวไว้ว่าความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของอี่ซุยฮานคือการเปลี่ยนเอสเปอร์ทั้งหมดให้เป็นพวกปัญญาอ่อน
แม้ว่าคำพูดนั้นไม่สำคัญแต่มันก็เป็นความจริง พลังสูญสิ้น นั้นน่ากลัวมาก”
“ตอนแรก
กลุ่มเอสเปอร์กำลังต่อสู้กันและแสดงทักษะสุดยอดและความสามารถของพวกเขา
แต่เพียงแค่ชั่วอึดใจที่อี่ซุยฮานปรากฏตัว ให้ตายเถอะ
มันกลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับคนอื่นๆ
ไม่มีใครสามารถใช้ทักษะใดๆได้และพวกเขาก็ต่อสู้กันเหมือนสิ่งมีชีวิตไร้ทักษะการต่อสู้
แทงกันด้วยมีด เมื่อนึกถึงยุคของอี่ซุยฮาน แล้วมันสนุกจริงๆ
ทุกหนทุกแห่งที่อี่ซุยฮานผ่านไปมันกลายเป็นความมืดที่สมบูรณ์แบบ สูญเสียพลังพิเศษ!”
เคลพยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงว่า
“จนถึงวันนี้ อี่ซุยฮานนั้นไม่มีใครเทียบได้เลย แต่ตอนนี้กาแลคซี่ได้ปรากฏเอสเปอร์สูญสิ้น
สายพันธุ์ลึกลับคนที่สองแล้ว”
ไซตะรู้สึกประหลาดใจ
ในขณะที่มองไปยังฮั่นหลางที่ดูธรรมดาและในขณะนั้นเขาได้ผ่านไปยังจุดตรวจสอบที่สองพร้อมกับเป็นผู้นำที่ไปไกลกว่าผู้แข่งขันรายอื่น
“เป็นเขา?!” ไซตะอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น
“ใช่แล้วเขาคือฮั่นหลางจากดาวเคราะห์โลก
อายุ 16 ปี สายพันธุ์ลึกลับ เอสเปอร์สูญสิ้น ค่าพลัง 27
การทดสอบแรกบนภาคพื้นดินเราได้จำลองน้ำแข็งหนาวสุดขั่วพลังจากเอสเปอร์ระดับ 4 ดาว
ผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากได้รับผลกระทบจากกระแสความหนาวเย็น แต่เขาไม่ได้รับผลใดๆเลย
อธิบายได้เพียงอย่างเดียว
เขาอาจเป็นเอสเปอร์สูญสิ้นที่มีภูมิคุ้มกันต่อพลังพิเศษทั้งหมดอย่างสมบูรณ์!”
เคลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก
ไซตะ พยักหน้า “ผมไม่สามารถเชื่อได้เลยว่า 400 ปีหลังจากที่ อี่ซุยฮาน หายไป พลังเช่นสูญสิ้น
จะกลับมาอีกครั้งจริงๆ”
เคลเกาหัวของเขาและพูดกับตัวเอง
“ตอนนี้ระดับของฮั่นหลาง ยังอยู่ในระดับต่ำ
เขามีความสามารถเพียงร่างกายที่มีภูมิคุ้มกันต่อทุกพลัง
เมื่อเขาเข้าถึงระดับสองดาว ทุกคนที่อยู่ในระยะ 1
เมตรจะสูญเสียพลังของตนมันยากที่เขาจะไม่ถูกรังเกียจ”
…..
โลก
ศูนย์บริหารเอสเปอร์ สาขาเซียงไฮ้
“ถึงจุดตรวจสอบที่สาม!
ฮั่นหลางไปถึงจุดตรวจสอบที่สามแล้ว!”
“ด้วย
ค่าพลังเพียง 27 เขาสามารถไปถึงจุดตรวจสอบที่สาม? หากไม่ได้เห็นด้วยตาต่อให้จะฆ่าผมให้ตาย
ผมก็ไม่มีทางเชื่อ”
“โอ้ สวรรค์!
ฮั่นหลาง ยังก้าวต่อ! เขาไม่คิดที่จะหยุด?!”
“เมื่อไปได้ถึงจุดตรวจสอบแรก
จะได้ 60 แต้ม และทุกๆจุดตรวจสอบหลังจากนั้นจะได้รับ 10 แต้ม
นั้นหมายความว่าเขามีอยู่ 80 แต้ม และหากไปถึงจุดตรวจสอบหน้าเขาจะมี 90 แต้ม!”
“ผมบอกคุณแล้วว่าน้องชายของผมนั้นสุดยอดจริงๆ!”
ภูเขาเนื้อ เฉินจ่ง เริ่มที่จะโม้อย่างไร้ยางอายอีกครั้ง
พร้อมกับบรรยากาศบนชั้น 18 ที่ไม่เคยคึกคักเท่าวันนี้
ในกาแลคซี่ทางช้างเผือก
รัฐบาลกลางของโลกอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนแอมาก
เพื่อป้องกันโลกจากการกลายเป็นอาณานิคมเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีใครสักคนสามารถผ่านการทดสอบแรงกดดันและเข้าร่วมการแข่งขันในการชุมนุมแห่งกาแลคซี่ได้สำเร็จ
รวมถึง
เฉินจ่งและเอสเปอร์คนอื่นๆพวกเขากำลังทำงานหนักเพื่อที่จะได้รับคำเชิญและบังเอิญฮั่นหลางได้กลายเป็นหนึ่งในความหวังของโลก
ประธานชูรู้สึกมีความสุขมากเช่นกัน
ถ้าฮั่นหลางสามารถได้รับคำเชิญจริงๆ
มันจะเป็นความภาคภูมิใจของตัวเขาและความภูมิใจของทั้งเอเชียเช่นกัน
แต่ค่าสถานะพลัง 27 ที่เขามีและลักษณะไม่เหมือนคนที่มีศักยภาพที่ดี...
แม้ผู้หนึ่งจะมีพลังยอดเยี่ยมที่สุดถ้าค่าพลังสถานะไม่เพิ่มขึ้น
ผู้นั้นก็ไม่นับเป็นเอสเปอร์ชั้นสูงที่แท้จริงได้
จากนั้นหลี่มู่อวิ๋นเดินไปยังประธานชูและกระซิบอะไรบางอย่าง
“จริงหรือ?!”
“ไม่น่าจะผิดพลาด
สมาคมสายน้ำจันทราได้ส่งอีเมลเพื่อตอบคำถามของเราโดยเฉพาะ” หลี่มู่อวิ๋นกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ประธานชูหลี่
รับเอกสารที่พิมพ์ออกมาและอ่านตามลำดับการจัดหมวดหมู่พลังในปัจจุบันระดับS เป็นระดับที่สูงที่สุด A เป็นระดับที่สอง B จะอ่อนแอกว่าเล็กน้อย C จะอ่อนแอลงมาอีกขั้นและอื่นๆ
ตามเอกสารที่ส่งมาจาก
สมาคมสายน้ำจันทรา ระดับS ที่จริงมีประเภทย่อยอยู่ด้วยเช่นกันและพลังของ
ฮั่นหลาง ได้รับ ระดับSSS! S สามตัว!
นั่นหมายความว่ามันเป็นระดับสูงที่สุดในกาแลคซี่!
แต่ในขณะเดียวกันพลังสูญสิ้น
ยังได้ถูกจัดอันดับเป็น SSS ในเรื่องของพลังที่ถูกรังเกียจในจักรวาลเช่นกัน
ซึ่งหมายความว่าผู้ครอบครองในพลังนี้จะตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก
เป็นสุดยอดแห่งพลัง
เป็นพลังที่ไร้ขอบเขตอย่างที่สุด เป็นพลังที่มีอำนาจมากที่สุด
เป็นพลังที่ถูกรังเกียจอย่างมากที่สุด เป็นพลังที่นำความยุ่งยากมามากมาย
ในอีเมล์ที่ถูกส่งมาโดยสมาคมสายน้ำจันทราได้ระบุไว้ว่ามันเป็น 5 “สุดยอด” ซึ่งมันทำให้ประธานชูรู้สึกกังวล
พลังที่ทรงพลังอย่างที่สุดได้กำเนิดอยู่บนโลก โลกนั้นโชคดีเป็นอย่างมากแต่ในขณะเดียวกันมันก็อาจเป็นโศกนาฏกรรมอันที่หนักหนาเช่นกัน
……
90 แต้มแล้วในตอนนี้
หลังจากที่ไปถึงจุดตรวจสอบทั้งสี่แล้วนั้นฮั่นหลางได้หันกลับไปมองด้านหลังด้วยความสุข
ผู้คนที่หัวเราะเขาเมื่อสองชั่วโมงก่อนต่างอยู่เบื้องหลัง ในตอนนี้ไม่สามารถเห็นได้แม้แต่เงา
ฮั่นหลางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
หากพวกเขาสามารถเห็นฮั่นหลางสามารถมาถึงจุดตรวจสอบที่ 4
พวกเขาอาจจะต้องตกใจจนกรามตกลงไปอยู่ใต้เท้าก็เป็นไปได้
แรกเริ่มฮั่นหลางตัดสินใจที่จะทดสอบไม่ได้สนแต้ม
แต่เพียงเพื่อพิสูจน์ตนเองกับคนที่หัวเราะเขา
ในตอนนี้ฮั่นหลางไม่ได้รู้สึกโกรธแล้ว
เขาเริ่มกังวลกับงานของเขาเนื่องจากมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อที่จะทำให้เขาสามารถแน่ใจได้ว่าจะได้รับ
GC
จากดัชนียา ซึ่งมันเป็นแหล่งรายได้ทั้งหมดของเขา
และแต้มมันเอาไปใช้ทำสิ่งใดได้? มันไม่สามารถที่จะกินหรือดื่มได้
มีเพียงไม่กี่คนที่มาถึงจุดตรวจสอบที่
4 เขามีรูปร่างผอม ลักษณะดูน่ากลัว ฮั่นหลางพยายามที่จะตามผู้นั้นให้ทันในตอนแรก
แต่ชายคนนั้นทิ้งเขาไปไกลจนไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น นอกเหนือจากผู้ชายคนนั้น
ฮั่นหลางยังผ่านสาวน้อยที่มีผมสีบลอนด์เงางามและหน้าตาสวยมากๆมาอีกคนหนึ่ง
พอคิดถึงเรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่เขาจะมองย้อนกลับไปที่เด็กสาว
เธอดูมีอายุอ่อนกว่าฮั่นหลางเล็กน้อย น่าจะมีอายุประมาณ 14-15 ปี
ร่างกายผอมบางผิวเรียบขาวราวหิมะหน้าตาสวยงามมาก มีดวงตาโตและจมูกเล็กๆ
เธอให้ความรู้สึกถึงความงดงามของสวรรค์
ราวกับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงที่เพิ่งเดินออกจากเทพนิยาย
ตอนนี้
เธอใกล้ที่จะมาถึงจุดตรวจสอบที่ 4
แล้วทุกก้าวที่เธอเดินนั้นทำให้ขาเรียวบางสั่นไหวอย่างเจ็บปวด
อย่างไรก็ตามเด็กสาวคนนี้ยังมุ่งมั่นอย่างไม่ยอมแพ้
ในสายตาของฮั่นหลาง
เด็กสาวผมบลอนด์คนนี้เป็นคนที่งดงามจนหาใครเทียบไม่ได้
เพียงแต่เธอเป็นคนที่ดื้อรั้นมาก เมื่อฮั่นหลางเห็นเธอเข้ามาใกล้ยังจุดตรวจสอบที่
4 เธอก็เห็นเขาเช่นกัน ดวงตากลมโตคู่นั้นราวกับมีประกายไฟลุกโชนแวบออกมา
เหมือนว่าเธอกำลังโกรธฮั่นหลาง คล้ายว่าเธอจะเป็นเด็กสาวที่แข็งกระด้าง
ฮั่นหลางยักไหล่
ผู้หญิงแข็งกระด้างมักจะเป็นปัญหา และโดยส่วนตัว
เขาชอบหญิงสาวที่มีบุคลิกเป็นกุลสตรี ดูเหมือนว่าเธอกำลังฉุนเฉียว
ดังนั้นเขาจะต้องไม่หาปัญหามาใส่ตัว
กลับบ้านแล้วไปเริ่มทำรายงานดัชนียาของตัวเองดีกว่า
ทันใดนั้นเมื่อฮั่นหลางกำลังจะกดไปที่
ปุ่ม ‘Return’
เด็กสาวผมสีบลอนด์ก็สลบลง
หลังจากที่ผ่านจุดตรวจสอบที่4เข้ามาเพียงหนึ่งก้าวดวงตาของเธอปิดสนิท
ขนตายาวของเธอสั่นไหวไม่หยุดและดูเหมือนว่าเธอจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ขอบคุณครับบ
ตอบลบ