เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 049 ทำไมข้าควรจะมอบมัน


เหตุผลที่หยางเฉินได้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่พระราชวังหยางบริสุทธิ์หลังจากที่เขาได้รับโอกาสมาเกิดใหม่ นอกเหนือจากอาจารย์หญิงของเขาแล้ว ก็คือความตั้งใจอย่างแท้จริงของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ที่ต้องการที่จะปกป้องศิษย์ทั้งหลาย

ในชีวิตก่อนหน้านี้ เมื่อหยางเฉินได้พบกับอุบัติเหตุ สี่ผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกจากนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ได้ทำการต่อสู้กับเขา แต่พระราชวังหยางบริสุทธิ์ ยกเว้นวิหารรัศมีจันทราที่ได้แตกหัก ด้วยความช่วยเหลือของนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ พระราชวังหยางบริสุทธิ์ได้ถูกกำจัดทิ้งไปเพียงเพื่อช่วยชีวิตศิษย์ที่ถูกใส่ร้าย

ในขณะนี้มันกำลังจะเป็นเรื่องเดียวกัน ซีเชิงซินได้ตระหนักถึงผลดีและผลเสีย หลังจากนั้นได้กล่าวถึงสิ่งที่จะสามารถช่วยเหลือหยางเฉินได้ ในสถานการณเช่นนี้พระราชวังหยางบริสุทธิ์จะต้องลดตัวลงมา แม้ว่าเขาจะถูกลงโทษให้เข้าสู่ความสันโดษเนื่องจากเรื่องนี้ แต่นั่นก็เป็นวิธีที่จะปกป้องเขาได้

ประโยคนี้ทำให้หยางเฉินรู้สึกอบอุ่นอยู่ภายในใจ หยางเฉินไม่ลืมที่จะถามซีเชิงซินออกไปว่า

"อาจารย์อา ใครที่เป็นผู้เริ่มต้นข่าวลือนี้?"

"มันเป็นนักบ่มเพาะอิสระบางคน ที่ได้ออกจากภูเขาลอยฟ้า และเราก็ไม่ทราบว่าพวกเขาไปที่ไหน"

ซีเชิงซินรู้ว่าทำไมหยางเฉินต้องการถามเรื่องนี้เขาจึงสั่นศีรษะก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า

"มันไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นใครที่ต้องการจะจัดการกับเจ้า เขาย่อมจะไม่ยอมให้ใครๆหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวเขาได้ง่ายๆ เจ้าก้าวขึ้นไปบนยอดเขาบันไดสวรรค์ซึ่งทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจ และแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นทั้งสิบเก้าคนต่างได้รับบาดเจ็บ มันย่อมมีคนจำนวนมากที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเจ้า แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลใจ หลังจากที่เรากลับไป เพียงแค่เจ้าจะประพฤติดีและปิดประตูเข้าสู่การฝึกฝน ในเรื่องนี้นิกายจะจัดการให้เจ้าเอง

"รับทราบ อาจารย์อา!"

หยางเฉินรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้อมูลที่พร้อมใช้งาน แม้ในขณะที่ศิษย์ชูเฮิงพยายามที่จะรับมือกับเขา แต่เขาก็ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆเพื่อเอาผิดกับชูเฮิงได้ ยิ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นและนิกายของพวกเขาที่หยางเฉินทำให้พวกเขาไม่พอใจ มันคงยิ่งยากที่จะหาหลักฐานได้

ในขณะนี้เรื่องนี้ยังคงเป็นข่าวลือเช่นก่อนหน้านี้ ซึ่งหยางเฉินไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการใดๆในตอนนี้ เพราะเรื่องนี้ซีเชิงซินต้องนำหยางเฉินและกงซุนหลิงกลับไปยังพระราชวังหยางบริสุทธิ์หลังจากที่พวกเขาเป็นศิษย์สองคนที่มีความสามารถ ถ้าพวกเขาประสบกับอุบัติเหตุบางอย่างในขณะที่เดินทางกลับจากภูเขาลอยฟ้า แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่และน่าสยดสยอง

กงซุนหลิงได้ก้าวผ่านระดับรวบรวมลมปราณขั้นหกแล้ว ดังนั้นเธอจึงสามารถบินได้ด้วยตัวเอง อาศัยพลังของตัวเอง แต่ความเร็วของเธอก็ยังคงช้าอยู่มาก ในขณะที่หยางเฉินไม่มีความสามารถในการบิน มันจึงทำให้การเดินทางกลับต้องล่าช้ามาก นอกจากนั้นยังมีตัวแปรจำนวนมากในระหว่างการเดินทาง แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นยังไงก็ย่อมเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น ดังนั้นซีเชิงซินจึงห่อหุ้มทั้งสองคนเอาไว้ในม่านโปร่งแสงและภายในอึดใจพวกเขาสามารถเดินทางได้มากกว่าร้อยลี้

อาวุธเวทที่ใช้บินอยู่นี้เป็นสิ่งที่ซีเชิงซินรู้สึกภาคภูมิใจ เห็นได้ว่ามีรังสีของความอิจฉาผ่านดวงตาของกงซุนหลิง ซีเชิงซินยิ้มให้กำลังใจเธอ

"อย่ากังวล เพียงแค่ฝึกฝนตามทักษะทั้งสองของเจ้า เพียงรอจนกว่าจะถึงระดับก่อสร้างรากฐานและเจ้าก็จะสามารถปรับแต่งอาวุธเวทได้ดีกว่านี้!"

กงซุนหลิงพยักหน้า แต่หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร ด้วยในตอนนี้เขามีอาวุธเวทสองสามชิ้น ที่เขายังไม่สามารถใช้พวกมันได้ เมื่อเทียบพวกมันกับอาวุธเวทของซีเชิงซินแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้นหยางเฉินจึงไม่รู้สึกอะไรภายในใจ

การเดินทางของพวกเขารวดเร็วราวกับฟ้าผ่า เพื่อเดินทางในเส้นทางนี้หากหยางเฉินต้องทำการเดินทางเอง มันก็ยังคงใช้เวลาหกเดือนเพื่อเดินทางไปถึง แต่นั่นไม่ใช่ซีเชิงซิน ที่เขาใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็สามารถที่จะนำพวกเขากลับมาถึงภูเขาเหมยชิง ในครั้งนี้ซีเชิงซินไม่ได้กลับไปยังตำหนักเก้าปฐพี หากแต่พาพวกเขาไปที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์โดยตรง

พร้อมกับการกลับมาของพวกเขา มีการแจ้งเตือนมาจากหลากหลายพื้นที่ ในขณะเดียวกันนิกายที่อยู่ใกล้ๆก็เลียบเคียงมาเพื่อหาข้อมูล น้ำเสียงของบรรดาคำบอกกล่าวเหล่านี้ ล้วนเป็นเพียงข้ออ้างในการกล่าวหาว่าพระราชวังหยางบริสุทธิ์ทำการปกปิดข้อมูล

คนที่รับผิดชอบในการจัดการเรื่องเหล่านี้ นอกเหนือจากซีเชิงซินแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งคนที่คุ้นเคยกับหยางเฉิน นั่นก็คือจูเฉินเตาผู้ดูแลหอโอสถ ผู้ดูแลวิหารรัศมีจันทราซึ่งเป็นอาจารย์ของชูเฮิง เหลียงเซาหมิง อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น คนที่บังคับให้หยางเฉินพบกับอุบัติเหตุมาก่อนหน้านี้ น่าประหลาดใจที่ชูเฮิงก็มาอยู่ที่นี่ด้วย ปกติแล้วมันต้องมีแต่ศิษย์ของวิหารพิทักษ์กฏ ตูเชี่ยน ซึ่งเป็นคนรู้จักของหยางเฉิน

ตูเชี่ยน เป็นคนหนึ่งที่แนะนำให้หยางเฉินควรเข้าร่วมการชุมนุมภูเขาลอยฟ้า เพื่อดูว่าเขาจะสามารถปีนบันไดสวรรค์ไปได้กี่ขั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้คนแนะนำเช่นตูเชี่ยนต้องตกตะลึง ในขณะนั้นเขาไม่ทราบว่าหยางเฉินจะทำได้สำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อตูเชี่ยนได้แนะนำบุคคลนี้และเขาก็เป็นศิษย์ของวิหารพิทักษ์กฏ ซึ่งเป็นผู้ที่จัดการเรื่องของหยางเฉินด้วยในเวลานี้ เขาก็จำเป็นที่จะต้องเป็นคนที่มาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

ชูเฮิงได้รับอนุญาตเพราะเขาเป็นศิษย์ส่งมอบมาได้สองสามปีแล้ว ดังนั้นถ้าศิษย์สายนอกคนใดมีอุบัติเหตุ เขาต้องได้รับแจ้ง เมื่อมองไปที่ความโกรธที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าของชูเฮิง ทุกคนสามารถคาดเดาได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก

"หยางเฉิน เห็นได้ชัดว่าทำผิด!"

ในขณะที่เขาเห็น หยางเฉินโดยไม่ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญ ระดับก่อลำต้นเปิดปากของพวกเขาออกมา ชูเฮิงรีบตะโกนเสียงดังออกไป

การแสดงออกของชูเฮิงราวกับว่าเขากระตือรือร้นที่จะขอร้องให้ทำการลงโทษหยางเฉินในทันที แต่หยางเฉินเพียงแค่ปรายตามองไปที่ชูเฮิงโดยไม่สนใจชูเฮิงแต่อย่างใด เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกงซุนหลิง ทำความเคารพไปที่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นทั้งหมด มันเป็นกระทำที่เหมาะสม อันเป็นมารยาทที่ต้องให้ความเคารพแก่คนรุ่นก่อน แม้แต่ชูเฮิงก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เขาไม่ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นคิดว่าการตอบคำถามของเขามีความสำคัญมากกว่าการให้ความสำคัญกับพวกเขา

ชูเฮิงต้องพบกับอาการเฉยเมยและยืนรออยู่ข้างๆ เขาต้องรอหยางเฉินและกงซุนหลิงทำความเคารพทุกคนก่อน แต่ในเวลาต่อมาหยางเฉินและกงซุนหลิงก็หันไปทางด้านของชูเฮิงและคำนับชูเฮิงในฐานะอาจารย์อา ในที่ที่มีผู้อาวุโสหลายคนอยู่ ชูเฮิงสามารถรับคำทักทายได้ตามกฎเท่านั้นและเขาก็เปิดปากอีกครั้งเพื่อกล่าวออกไปว่า

"หยางเฉิน มันเป็นความผิดของเจ้า!"

แต่คราวนี้ความทะนงตัวของเขาไม่ได้สูงมากเท่ากับที่เคยเป็นมา แต่เสียงของเขาก็ยังคงดังมากอยู่

"ข้าไม่ทราบว่า ข้าทำความผิดอะไร!"

เมื่อเทียบกับชูเฮิงแล้วหยางเฉินดูสงบมากขึ้นเรื่อยๆ หยางเฉินหันหน้าไปมองชูเฮิงตรงๆ

"เจ้ายังกล้าที่จะเล่นลิ้นอยู่อีกหรือ!"

ชูเฮิงรู้สึกโกรธมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น เขาไม่กล้าที่จะดูหมิ่นอย่างเปิดเผย แต่คนเหล่านี้ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เหมือนกับว่าพวกเขามีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ราวกับว่าพวกเขายอมรับพฤติกรรมของชูเฮิง ดังนั้นชูเฮิงจึงเพิ่มเสียงของเขาให้ดังขึ้นและเริ่มประณามหยางเฉินในทันที

"ข้าไม่รู้จริงๆ"

การแสดงออกที่ไร้เดียงสาปรากฏอยู่บนใบหน้าของหยางเฉิน ในขณะที่หยางเฉินมองไปที่ชูเฮิง เขาค่อยๆกล่าวออกไปว่า

"ข้าคงต้องขอให้อาจารย์อาชูช่วยชี้แนะ"

"คำพูดที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้ากล่าวไว้ในชุมนุมภูเขาลอยฟ้าได้แพร่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่

ชูเฮิงจ้องมองไปที่หยางเฉินเมื่อเขาพูดอย่างช้าๆอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า

"ในตอนนี้บรรดานิกายใหญ่ๆ ได้แจ้งให้พระราชวังหยางบริสุทธิ์ของข้าทราบ และกล่าวโทษเราในการปกปิดความจริงกับสหายนักบ่มเพาะทั้งหลาย หลังจากที่เสียหน้าให้กับพระราชวังหยางบริสุทธิ์ แล้วเจ้ายังกล้าพูดได้อย่างไรว่าเจ้าไม่รู้ว่าเจ้าทำความผิดอะไร?"

"พระราชวังหยางบริสุทธิ์ของข้าปกปิดอะไรจากเหล่าผู้บ่มเพาะเหล่านี้? ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเราเกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก?"

หยางเฉินหัวเราะพร้อมกับมองไปที่ชูเฮิงและหยอกล้อเขานิดๆหน่อยๆ

"ฮื้ม เจ้าไม่กล้าที่จะยอมรับมัน? ข้าขอถามเจ้า วิธีการเพาะปลูกทับทิมสายฟ้า ไม่ใช่เป็นเจ้าหรอกหรือที่ได้โม้เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้?"

ชูเฮิงถามออกไปด้วยท่าทางเยาะเย้ย เขาแสดงออกราวกับว่าหยางเฉินได้สารภาพผิดออกมาแล้ว

"ในตอนนี้นักบ่มเพาะทุกคนกำลังกดดันให้ผู้นำพระราชวังหยางบริสุทธิ์ส่งมอบวิธีการเพาะปลูกมัน ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดอวดเก่งของเจ้า มันจะเกิดเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?"

"ข้าเพียงแค่พูดออกไปว่า ข้าต้องการที่จะค้นคว้าหาวิธีที่จะทำให้ทับทิมสายฟ้าเติบโต ศิษย์พี่หญิงสามารถเป็นพยานได้"

หยางเฉินกล่าวออกไปโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน รอยยิ้มยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

"สิ่งอื่นๆนอกจากที่กล่าวออกมานั้นไม่มีความสัมพันธ์กับข้าเลย"

"เพราะเหตุนี้นิกายอื่นๆต่างคิดและมั่นใจว่าพระราชวังหยางบริสุทธิ์ของข้า จะช่วยเพิ่มชื่อเสียงของเจ้าและแน่นอนว่าพวกเราได้ปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกทับทิมสายฟ้าและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงพยายามสร้างแรงกดดันต่อ พระราชวังหยางบริสุทธิ์ของข้า"

ชูเฮิงถามออกไปด้วยเสียงที่เย็นชา

"เจ้าเป็นเพียงศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณตัวเล็กๆ แต่เจ้ากลับทำปากเก่งสร้างความมุ่งมั่นใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร?"

"อาจารย์อาชู!"

ทันใดนั้นหยางเฉินกล่าวออกมาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูจริงจังกับชูเฮิงว่า

"มีกฎในนิกายใดๆหรือไม่ ที่ศิษย์สายนอกไม่สามารถค้นคว้าวิธีการเพาะปลูกทับทิมสายฟ้า? หรือมีข้อกำหนดใดในโลกของการบ่มเพาะระบุว่า ศิษย์สายนอกของนิกายใดๆไม่สามารถค้นคว้าวิธีการปลูกทับทิมสายฟ้าได้?"

"นี่!"

คำถามของหยางเฉิน ทำให้ชูเฮิงพูดอะไรออกมาไม่ได้ มันย่อมแน่นอนอยู่แล้วว่าไม่มีกฎดังกล่าวภายในนิกายหรือในโลกการบ่มเพาะ อย่างเดียวเท่านั้นที่ทุกคนคาดหวังว่าคนที่มีระดับการบ่มเพาะที่น้อยกว่าจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ มันก็เท่านั้น หยางเฉินบอกว่าอยากจะทำ แต่สิ่งที่เขาพูดก็ไม่ได้ผิดอะไร

อย่างไรก็ตามชูเฮิงปรับตัวเข้ากับสถานการณ์อย่างรวดเร็วและถามออกไปด้วยเสียงอันดัง

"ข่าวนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วทุกนิกายแล้วว่าภายในสองร้อยปีเจ้าจะสามารถค้นคว้าวิธีที่จะเพาะปลูกทับทิมสายฟ้าได้ นิกายจะส่งมอบมันได้อย่างไร?"

"พวกเขาไม่ได้บอกว่าข้ามีเวลาสองร้อยปี?"

หยางเฉินหัวเราะและมองไปที่ชูเฮิง ก่อนที่เขาจะกล่าวออกไปว่า

"ถ้าพวกเขาต้องการที่จะทะเลาะกับเราด้วยเรื่องนี้ พวกเขาสามารถกลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปอีกสองร้อยปี ในตอนนี้นิกายไม่ควรจะใส่ใจในเรื่องนี้"

เมื่อได้ยินคำตอบที่กำกวมของหยางเฉิน ตูเชี่ยนผู้ซึ่งอยู่ข้างหลังหยางเฉิน ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา คำตอบของหยางเฉินนั้นดูเจ้าเล่ห์เกินไป

เสียงหัวเราะของตูเชี่ยนทำให้ชูเฮิงพองตัวด้วยความโกรธ

"ถ้าพวกเขามาหลังจากสองร้อยปี และศิษย์น้องยังไม่สามารถค้นคว้าวิธีการเพาะปลูกได้ แล้วเราจะส่งมอบมันได้อย่างไร?"

"ถ้างานวิจัยไม่ประสบความสำเร็จมันก็ไม่ประสบความสำเร็จจำนวนนับไม่ถ้วนของผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกและผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล ต่างก็พยายามแต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ข้าเป็นเพียงศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณหากจะไม่ประสบความสำเร็จมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเสียหน้าแต่อย่างใด"

หยางเฉินส่ายหัว ในตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมเสียงหัวเราะของเขาเอาไว้ได้

"ถ้าการค้นคว้าไม่ประสบความสำเร็จ มันจะถือว่าเป็นความผิดทางอาญาที่รุนแรง ที่แม้แต่การตัดหัวก็ดูจะไม่เพียงพอ? อย่างไรก็ตาม ข้าจำได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกจากนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลจากเกาะมรกตอมตะ ที่ยังคงกำลังค้นคว้าหาวิธีการเพาะปลูกทับทิมสายฟ้า หากคิดจะลงโทษด้วยการตัดหัว เจ้าก็จงตัดหัวของสองอาวุโสก่อน แล้วข้าจะยอมรับการลงโทษจากเจ้า"

ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นที่นั่งข้างหลังเขาแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่ได้พลาดคำพูดในบทสนทนาของชูเฮิงและหยางเฉิน เห็นได้ชัดว่าการตอบโต้ของ หยางเฉิน ทำให้ทุกคนคิดหาทางแก้ไขปัญหานี้ได้ แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน แต่หยางเฉินยังคงกล่าวต่อไปว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมหลายท่านซึ่งก็ทำการค้นคว้า และก็ไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นหากเขาที่ยังเป็นเพียงศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณตัวเล็กๆ มันก็ไม่ได้ทำให้เสียหน้าแต่อย่างใด ใครจะกล้าบอกได้ว่าหยางเฉินจะต้องเสียหน้า เพราะนั่นหมายความว่าไม่มีการกระทำผิด สิ่งนี้มีนัยสำคัญเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกและผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล

อันที่จริง...

ทันใดนั้นนายชูเฮิงก็พบว่าตัวเองสูญเสียคำพูด เห็นได้ชัดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หยางเฉินจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง แต่ในตอนนี้ หยางเฉินไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะถูกลงโทษได้ ดังนั้นเขาจะสูญเสียความหวังนี้ไปได้อย่างไร? โดยไม่ต้องรอให้ชูเฮิงใช้คำพูดของเขาได้อีก หยางเฉินจึงเริ่มตั้งคำถามกับชูเฮิงอย่างเข้มข้น

"ยิ่งกว่านั้น อาจารย์ชู ทำไมพระราชวังหยางบริสุทธิ์ของข้าจะต้องมอบมัน? ส่งมอบให้กับใคร? พวกเราเป็นหนี้พวกเขาหรือ? "

หลังจากพูดคำเหล่านี้แล้วน้ำเสียงของหยางเฉินก็ยิ่งเย็นลง

ทำไมอาจารย์อาถึงไม่สนับสนุนพระราชวังหยางบริสุทธ์ของข้า แต่กลับไปสนับสนุนนิกายอื่นๆ หรือท่านมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำเช่นนี้?”

หลังจากที่พูดออกไปทั้งหมดนี้ภายในลมหายใจเดียว หยางเฉินไม่ได้รอให้ใครขัดขวาง เขาทำการพูดต่อไปในทันที

"พระราชวังหยางบริสุทธ์ของข้าเป็นหนี้อะไรกับใครหรือไม่? หรือว่าพระราชวังหยางบริสุทธ์ของข้าเมื่อเทียบกับนิกายอื่นๆ นั้นต่ำต้อยจนต้องก้มหัวให้พวกเขา ถ้าไม่ ทำไมเราต้องมอบอะไรๆที่เป็นของพวกเราให้กับพวกเขา? ถ้าการค้นคว้าของข้าประสบความสำเร็จ ข้าก็เป็นศิษย์ของพระราชวังหยางบริสุทธ์ที่ทำงานให้กับนิกาย และข้าก็ไม่ได้ฆ่าพ่อแม่ของใครหรือได้กวาดล้างนิกายของคนอื่น มันเป็นการค้นคว้าของข้าเองดังนั้นด้วยเหตุผลอะไรที่ข้าต้องส่งมอบมันให้กับผู้อื่น? อาจารย์อาชูทำไมท่านถึงไม่บอกเหตุผลที่ทำอย่างนั้น!"

คำพูดของ หยางเฉิน ทำให้สีหน้าของเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดสุดท้ายที่ทำให้ความกังวลในจิตใจของทุกคนมีมากยิ่งขึ้น 'พระราชวังหยางบริสุทธ์ของเราไม่ได้เป็นหนี้ใคร และก็ไม่ได้ต่ำต้อยเมื่อเทียบกับนิกายอื่นๆ! งานค้นคว้าของเราเองทำไมเราควรจะส่งมอบมันให้กับผู้อื่น?

"นี่……"

ชูเฮิงกลับสูญเสียคำพูดอีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญกับคำถามซ้ำๆ ของหยางเฉินและในขณะที่เขาไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไรดี โชคดีที่เขาคิดได้อย่างรวดเร็ว และเขาคิดว่านี่เป็นเหตุผลที่ใช้ได้ ดังนั้นหลังจากลังเลสักครู่เขาก็ได้ตอบออกไป

"วิธีการเพาะปลูกทับทิมสายฟ้าเกี่ยวข้องกับความยากลำบากของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น นี่เป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บ่มเพาะทั้งหมดดังนั้นเมื่อถึงเวลาแล้ว นิกายบ่มเพาะทั้งหมดจะใช้เหตุผลนี้เพื่อกดดันเรา?"

ถ้าการค้นคว้าของเราประสบความสำเร็จ ทำไมต้องเป็นพระราชวังหยางบริสุทธ์ของเราที่จะต้องเผยแผ่มันออกไป?”

รอยยิ้มแผ่กระจายไปบนใบหน้าของหยางเฉินอีกครั้ง บุคคลที่มีตาก็จะเห็นได้ว่ามีความโกรธที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้รอยยิ้มนั้น

"ข้าจำได้ว่านิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่มีใบสั่งยา ยาเม็ดหัวอิ่ง ซึ่งมีค่ามากและได้รับการกลั่นสกัดสำหรับคนของนิกายเท่านั้น มันสามารถช่วยผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นเพื่อผ่านทะลุดินแดนผลิดอกของพวกเขาได้ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากกับนิกายบ่มเพาะอื่นๆ แต่ทำไมข้าไม่เห็นอาจารย์อาชูจะให้คำแนะนำแก่นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ แต่ในทางตรงกันข้ามท่านต้องการที่จะขายผลประโยชน์ของนิกายของเรา อาจารย์อาชูท่านได้ผลประโยชน์อะไรจากคนอื่นๆ หรือท่านต้องการที่จะทรยศต่อนิกายและฉ้อโกงอาจารย์ของท่าน?"

"เจ้า เจ้า เจ้าใส่ร้ายข้า!"

ชูเฮิง ไม่สามารถตอบคำถามของหยางเฉินได้ เขาทำได้แต่เพียงพูดออกมาว่า "เจ้า เจ้า" ชี้ไปที่หยางเฉิน ก่อนที่เขาจะสามารถพูดประโยคอื่นออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ทรยศต่อนิกายและฉ้อโกงอาจารย์เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่อาจเอาชนะได้ ชูเฮิงนั้นเป็นคนหยิ่งมาก แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะยอมรับกับความผิดนี้

อย่างไรก็ตาม หยางเฉิน ไม่ต้องการให้ชูเฮิงลื่นไถล ดังนั้นเขาก้าวไปข้างหน้านิ้วมือของชูเฮิง พร้อมกับที่หย่งเฉินตั้งคำถามต่อไปว่า

"อาจารย์อาชู พระราชวังหยางบริสุทธิ์ยังมีทักษะการบ่มเพาะจำนวนมากซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสหายบ่มเพาะของนิกายอื่น ท่านไม่คิดว่าพวกเขาควรจะเปิดเผยแพร่พวกมันต่อสาธารณชนด้วยหรือไม่? ข้าไม่ทราบว่าใครเป็นสหายนักเพาะปลูกที่อาจารย์อาชูกำลังพูดถึง แต่อาจารย์อาชูอาจจะบอกเราได้ว่าเป็นใคร ต่อหน้าทุกคนภายใต้สวรรค์ เราควรถามเขาว่าบริสุทธิ์ใจหรือไม่ พระราชวังหยางบริสุทธิ์ต้องจัดการเรื่องเหล่านี้ด้วยวิธีการดังกล่าว"

หยางเฉินก้าวไปอีกก้าว ในขณะที่ชูเฮิงต้องถอยหลังกลับไปเมื่อถูกบังคับโดยหยางเฉิน หยางเฉินก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว ชูเฮิงก็ถอยกลับเช่นกัน ราวกับว่าชูเฮิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับหยางเฉิน คำถามของหยางเฉิน ชูเฮิงยังไม่สามารถตอบได้ ดังนั้นนอกเหนือจากการถอนตัวดูเหมือนว่าไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับเขา

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาถอยหลังไปสองก้าว หลังของชูเฮิงก็ชนกับใครบางคน และจากด้านหลังของเขาก็มีเสียงของตูเชี่ยนดังออกมา

"สหายชูโปรดตอบคำถาม เจ้าไม่จำเป็นต้องถอยหรือถอนตัว!"

ภายในน้ำเสียงของเขาแทบจะซ่อนความยินดีเอาไว้ไม่มิด

ร่างกายของชูเฮิงพลันแข็งขึ้นและถูกบังคับให้หยุดอยู่กับที่ตรงนั้น หยางเฉินไม่ได้ก้าวเข้าไปอีก เขาหยุดอยู่กับที่พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆและพูดว่า

"โชคดีที่สิ่งเหล่านี้เกิดจากการพูดภายในพระราชวังหยางบริสุทธ์ของเรา ถ้ามันจะแผ่ขยายออกไปด้านนอกว่าอาจารย์อาชูฉ้อโกงอาจารย์และทรยศต่อนิกายนี้ มันย่อมจะนำความอัปยศมาสู่พระราชวังหยางบริสุทธ์ของเราและจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก เพื่อชื่อเสียงของเรา!"

ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นหลายคนในที่นี่ ชูเฮิงก็อาจที่จะฆ่าหยางเฉิน ก่อนที่หย่างเฉินจะพูดความคิดของเขาออกมา แต่ตอนนี้ชูเฮิงสามารถยืนติดอยู่กับพื้นในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

ในขณะนี้ ผู้ดูแลวิหารวิหารรัศมีจันทรา เหลียงเซาหมิง ซึ่งยังไม่ได้พูดอะไรออกมาจนกระทั่งบัดนี้ จู่ๆเขาก็พูดออกมาว่า

"นี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างความวุ่นวายให้กับเรื่องนี้ ชูเฮิงเจ้ายังต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่อีกมาก หลังจากการแข่งขันทักษะการต่อสู้ของนิกายในปีนี้ เจ้าจะต้องออกไปฝึกฝนเองที่ข้างนอก! หยางเฉินตามการลงโทษของผู้ดูแลซี เจ้าจะต้องเข้าสู่การฝึกอบรมแบบปิด

เมื่อเขาเปิดปากเอ่ยถึงข้อสรุปในเรื่องนี้ ไม่มีใครคัดค้านใดๆออกมา หลังจากที่เขาได้มอบหมายบทรลงโทษเรียบร้อยแล้ว เหลียงเซาหมิงก็เริ่มพูดถึงเรื่องอื่นๆ


กงซุนหลิง หยางเฉิน การชุมนุมภูเขาลอยฟ้าในปีนี้ เจ้าทั้งสองได้สร้างชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์ให้กับนิกายของเรา ดังนั้นผู้นำนิกายได้ตัดสินใจที่จะให้ของตอบแทนพวกเจ้า พวกเจ้าจะต้องอดทนและพยายามอย่างมากในการบ่มเพาะของพวกเจ้าและอย่าทำให้ความคาดหวังของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ทั้งหมดต้องล้มเหลว!"


6 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ มาหลายตอนเลยทีเดียว วันนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พักยาวเลยนะ เจอกันโน่นนนนนน

      ลบ
  2. เมื่อไหร่มันจะตายซักทีเนี้ยซูเฮิงหมั่นไส้- -

    ตอบลบ
  3. วาจาเชือดเฉือนเป็นใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง

    ตอบลบ
  4. ประสบการณ์มันต่างกันมาก

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2560 เวลา 06:47

    หน้าตานี่ลอยมาเลยฮะ
    https://i.ytimg.com/vi/W8QRExBfQhs/hqdefault.jpg

    ตอบลบ