บรรพบุรุษของพระราชวังหยางบริสุทธิ์เสียชีวิตขณะเข้าฌานในที่นี่คือผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นขั้นปลาย
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหาทางที่จะเข้าถึงดินแดนผลิดอกได้
และทำให้พลังของเขาถูกใช้ไปอย่างช้าๆจนทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตายในขณะที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณนี้
ภายในถุงมิติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ สิ่งนี้เป็นที่เข้าใจได้
เนื่องจากเขาเสียชีวิตในระหว่างการเข้าฌาน
เขาจึงต้องใช้ทุกสิ่งที่เขามีเพื่อเสริมสร้างฐานการบ่มเพาะของเขา
และช่วยในการเข้าถึงดินแดนต่อไป ดังนั้นการใช้ของทั้งหมดที่เขามีจึงเป็นเรื่องปกติ
บรรพบุรุษผู้นี้เป็นนักบ่มเพาะกระบี่ ความสำเร็จทั้งหมดของเขาในการบ่มเพาะอยู่ในกล่องกระบี่ที่แขวนอยู่บนผนังถ้ำ
นั่นคือปลอกกระบี่ยาว ภายในถุงมิติมีวัตถุโลหะเย็นเช่นทองคำอยู่มากมายและวัตถุอื่นๆ
เช่นอุปกรณ์การกลั่นสกัดและวัตถุดิบต่างๆ เมื่อเห็นรายการที่ดีทั้งหมดเหล่านี้หยางเฉินถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เนื่องจากระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้
หยางเฉินรู้สึกสนใจในป้ายหยกเล็กๆสองสามอันที่อยู่ในถุงมิติ
เขาเริ่มหยิบมันขึ้นมาตรวจสอบทีละชิ้น
การบ่มเพาะคมกระบี่ หยางเฉินไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ในตอนแรก คมกระบี่นี้ค่อนข้างคมดูดุดัน
แต่ก็ไม่มากเท่ากับทักษะที่สมาชิกของศาลสวรรค์ได้เคยทำเอาไว้
หยางเฉินเพียงกวาดตาผ่านป่ายหยกชิ้นนี้ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาเพียงครั้งเดียว
แล้วจดจำไว้ในใจของเขา
ก่อนที่จะวางมันไว้ด้านข้างและจากนั้นหยิบป้ายหยกอีกชิ้นขึ้นมา
เป็นที่แน่นอน อุปกรณ์การปรับแต่งสามารถปรับแต่งกระบี่ได้จริงๆ
สิ่งที่อยู่ในถุงมิติ
เกือบทั้งหมดถูกสงวนไว้เพื่อใช้สำหรับขั้นตอนต่อไปในการปรับแต่งกล่องกระบี่
หลังจากที่ได้สังเกตดูพวกมัน หยางเฉินได้ปฏิบัติกับพวกมันในทำนองเดียวกัน
ป้ายหยกอีกสองสามชิ้นถัดมานั้นเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะ
ระหว่างในหมู่พวกมัน พวกมันยังเป็นป้ายหยกที่จารึกประสบการณ์ทั้งหมดของบรรพบุรุษที่ได้ทำมาตั้งแต่ต้นจนเขาเข้าสู่ระดับก่อลำต้น
ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะได้มา
หยางเฉินกำลังทำการตรวจสอบอย่างรอบคอบบนชิ้นส่วนนี้
เขากวาดผ่านประสบการณ์ของบรรพบุรุษไปเพียงครั้งเดียวก่อนที่เขาจะวางมันลง
รายการสุดท้ายที่เหลือคือป้ายหยก
แต่มันทำให้หยางเฉินรู้สึกยินดีปนเปไปกับความประหลาดใจ
นี่คือทักษะการบ่มเพาะที่สำคัญที่สุดในนิกาย ทักษะการบ่มเพาะและสร้างพันธะตราประทับลงบนกล่องกระบี่
หลังจากที่ได้อ่านแต่ละคำและทุกบรรทัดอย่างละเอียด
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยางเฉิน
ในก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างกังวลว่าเขาจะไม่สามารถเก็บกล่องกระบี่นี้ไว้ได้
แต่ตอนนี้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
พลังจิตวิญญาณจากแหล่งกำเนิดใต้ดินมีมากมายและขวดแก้วใสได้ดูดซึมพวกมันไปเป็นจำนวนมาก
ร่องรอยเดียวของของเหลวสีฟ้าในขวดแก้วใสมีความหนาแน่นมากขึ้น
แต่ขวดแก้วใสต้องการเวลาที่นานมากเพื่อที่จะดูดซับพลังจิตวิญญาณ
มันเป็นเวลาที่เพียงพอที่จะฝึกทักษะในการสร้างพันธะตราประทับลงบนกล่องกระบี่
กล่องกระบี่ต้องการที่จะรวบรวมพลังจิตวิญญาณจำนวนมหาศาลเข้าไปในตัวมัน
ด้วยระดับบ่มเพาะของหยางเฉินในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่งนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำสิ่งนี้
แต่เมื่อเขาได้รับเคล็ดวิชาลับสำหรับการสร้างพันธะตราประทับ
ปัญหานี้ก็สามารถจัดการได้
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หยางเฉิน ได้หยิบเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณออกมาและเริ่มกลั่นสกัดยาเม็ดลมปราณหยางเพื่อช่วยเสริมพลังจิตวิญญาณของเขา
ยาอายุวัฒนะชนิดนี้เป็นยาเม็ดพื้นฐานง่ายๆ
ใครก็ตามที่มีความแข็งแกร่งระดับรวบรวมลมปราณขั้นสองก็สามารถผลิตมันได้
ในขณะที่หยางเฉินมีเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ จึงสามารถเพิ่มความสามารถของเขาในการควบคุมไฟได้เกือบสมบูรณ์
ดังการกลั่นสกัดยาพื้นฐานชนิดนี้จึงไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ เมื่อหยางเฉินได้บริโภคผลไม้หยางล้ำเลิศพันปี
เขาได้เก็บเปลือกพวกมันไว้ในแหวนแห่งความสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงสามารถนำมันมาใช้ในการกลั่นสกัดยาเม็ดลมปราณหยางได้
คุณสมบัติยาของผลไม้หยางล้ำเลิศมีความเข้มข้นมาก
ดังนั้นผลของการเสริมพลังจิตวิญญาณจึงค่อนข้างเห็นได้ชัด การใช้เคล็ดวิชาลับหยินหยางห้าธาตุแบบย้อนกลับและทำสมาธิเพื่อให้มันอยู่ภายใต้การควบคุม
นั้นไม่ดีเท่ากับการเสริมด้วยยาเม็ดลมปราณหยาง
ภายในถ้ำหยางเฉินไม่ได้เร่งรีบในการเตรียมกลั่นสกัดยา ที่ด้านนอก
คนทั้งห้าคนที่กำลังค้นหาหยางเฉิน ต่างก็รู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
ชายที่มีหนวดเครายาวได้พิจารณาแล้วว่าหยางเฉินไม่ได้ออกจากพื้นที่นี้
และเขาได้ส่งคู่หูของเขาไปตามถนนล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบ แต่ก็ไม่สามารถค้นพบแม้แต่เงาของหยางเฉินได้
หยางเฉินจะต้องหลบซ่อนตัวอยู่สักที่ในบริเวณนี้
“ถ้าพระราชวังหยางบริสุทธิ์ค้นพบว่าพวกเราอยู่ที่ตีนภูเขาเหมยชิงและไล่ฆ่าศิษย์ของพวกเขา
เราจะไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะวิ่งหนี!
นักปราชญเครายาวรู้สึกกระวนกระวายอยู่ภายในใจ
แต่สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดใดๆออกมา
เขาเพียงแค่ทำการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ
โดยใช้การรับรู้ทางจิตวิญญาณเพื่อถ่ายทอดคำพูดเหล่านี้ออกไป
ในความเป็นจริงเขาไม่จำเป็นต้องเน้นความสำคัญของปัญหานี้
เนื่องจากคนอื่นๆ ก็รู้เรื่องความรุนแรงของเรื่องนี้
ทุกคนต่างรับรู้และขลาดกลัวจนไม่กล้าออกไปไหน
อย่างไรก็ตามราวกับว่าหยางเฉินได้หายตัวไปโดยไม่มีเจตนาที่จะกลับมา อยู่ต่อหน้าพวกเขาทุกคน
หยางเฉินได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ชายคนที่อ้างว่าเขาสามารถสืบหาเบาะแสนกกระดาษได้
ต้องเผชิญโทษมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุนี้
ในขณะที่เมื่อหยางเฉินกำลังกลั่นสกัดยา
เขานั่งอยู่บนแผ่นหยกภูเขาไฟที่อยู่ด้านบนสุดของแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณ
เพื่อยับยั้งขวดแก้วใส แม้พลังจิตวิญญาณบางส่วนจะถูกดึงออกมาจากขวดแล้ว
สิ่งที่เหลืออยู่สำหรับหยางเฉินก็เพื่อที่จะทำให้เขาสามารถเติมเต็มได้โดยไม่ช้าหรือเร็วเกินไป
แหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณใต้ดินมีมากเพียงพอสำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น
จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิต ในขณะที่เก็บตัวฝึกแบบปิด
ดังนั้นมันแน่อยู่แล้วว่าสิ่งนี้จะสามารถสนับสนุนให้หยางเฉินสามารถสร้างพันธะตราประทับลงบนกล่องกระบี่และให้พลังจิตวิญญาณที่จำเป็นแก่เขา
ในตอนนี้หยางเฉินทำการกลั่นสกัดยาเม็ดเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันใดๆ
ด้วยที่ดินแดนของการบ่มเพาะในปัจจุบันของหยางเฉินนั้นต่ำมาก
แม้ว่าเขาจะเพิ่มพลังจิตวิญญาณของเขา โดยใช้เคล็ดวิชาลับหยินหยางห้าธาตุเพื่อสร้างความสมดุลซึ่งกันและกัน
แต่เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญในระดับก่อลำต้น
ความแตกต่างก็ราวกับหยดน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล
เปลือกของผลไม้หยางล้ำเลิศภายใต้ความร้อนของเปลวไฟที่หยางเฉินป้อนเข้าไปในเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ
พวกมันได้กลายเป็นของเหลวสมุนไพร ยาเม็ดลมปราณหยางนั้นแตกต่างจากยาเม็ดสวีนฉี
โดยที่ยาเม็ดสวีนฉีนั้นหยางเฉินจะใช้เปลวไฟของเขาขยับเคลื่อนไหวไปในอากาศ
ในขณะที่ยาเม็ดลมปราณหยาง
สามารถผลิตได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวตราบเท่าที่เขามีพลังจิตวิญญาณที่กรองสิ่งสกปรกออกเพื่อทำให้ยามีความบริสุทธิ์
หยางเฉินได้กินผลไม้หยางล้ำเลิศในทุกวัน
ดังนั้นเขาได้เก็บรวบรวมเปลือกของมันเอาไว้มากมาย
หนึ่งเปลือกสามารถผลิตเป็นยาได้สิบเม็ด ดังนั้นแม้ว่าหยางเฉินจะทำการกลั่นสกัดยาเม็ดลมปราณหยางสองร้อยเม็ดในเตาหลอมของเขา
การกลั่นเปลือกทั้งหมดเหล่านี้เพื่อทำเป็นยาเม็ดลมปราณหยาง จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันกับอีกสองคืน
ในขณะที่เปลือกของผลไม้หยางล้ำเลิศถูกนำมาใช้ทั้งหมด
หยางเฉินสามารถผลิตยาเม็ดลมปราณหยางได้ถึงสองพันเม็ด
จำนวนยาที่มากมายนี้เนื่องด้วยการสนับสนุนจากแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณใต้ดิน
มันจะทำให้หยางเฉินสามารถลงพันธะตราประทับลงบนกล่องกระบี่ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อหยางเฉินกำลังเก็บเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ
เขาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเตาหลอมอย่างไม่คาดฝัน
คุณสมบัติลมปราณของยาสมุนไพรที่หลงเหลือในเตาหลอมมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นไปอีกเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกสะสมมากขึ้นเล็กน้อย เนื่องมาจากพลังจิตวิญญาณจากยาอายุวัฒนะที่ถูกกลั่นสกัดอย่างดี
เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณนี้ ยิ่งทำการกลั่นสกัดยาอาวุวัฒนะมากขึ้น
คุณภาพของเตาหลอมก็จะดียิ่งขึ้น
ในชีวิตก่อนหน้านี้
กล่องกระบี่นี้ได้กลายเป็นสมบัติของผู้นำวิหารรัศมีจันทรา
แห่งพระราชวังหยางบริสุทธิ์ หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกหลายคนได้ร่วมมือกันเพื่อลงตราประทับลงบนกล่องกระบี่นี้
และเขาก็มีชื่อเสียงมาก แต่โชคร้ายที่เขาทรยศต่ออาจารย์ของหยางเฉิน
ในชีวิตนี้หยางเฉินไม่ต้องการที่จะช่วยคนทรยศ
นี่เป็นวิถีชีวิตในทางชั่วร้ายของเขาที่เขาตั้งไว้
หลังจากฝึกฝนเคล็ดวิชานี้หลายร้อยครั้ง เพื่อที่เขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดในขณะที่ลงตราประทับลงบนกล่องกระบี่
หยางเฉิน เริ่มเตรียมตัวสำหรับงานนี้ อัตราการดูดซึมพลังจิตวิญญาณของขวดแก้วใส
ได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยหยางเฉิน เขาปรับมันให้ช้าลงเล็กน้อย
เพื่อให้เขาสามารถเพิ่มความเร็วในการเติมเต็มพลังจิตวิญญาณได้
สองสามเท่าด้วยความช่วยเหลือของแผ่นหยกภูเขาไฟ
ยาเม็ดลมปราณหยางทั้งหมดถูกเก็บไว้ในถุงมิติที่อยู่ภายในมือ
ถุงมิตินี้ไม่มีอะไรนอกเหนือจากยาเม็ดลมปราณหยาง
หลังจากการเตรียมการทั้งหมดได้เสร็จสิ้นแล้ว เขาปรับสภาพของเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้นในที่สุดเขาก็นั่งลงบนหยกภูเขาไฟและเริ่มโคจรพลังลมปราณของเขา
สิ่งแรกที่หยางเฉินต้องทำคือการปลดปล่อยเคล็ดวิชาหยินหยางห้าธาตุออกมาและเติมเต็มพลังจิตวิญญาณของเขาให้มากที่สุด
พลังจิตวิญญาณจากแหล่งกำเนิดใต้ดินได้เพิ่มเข้ามาในเส้นลมปราณของหยางเฉินอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวลทำให้หยางเฉินไม่ต้องกังวลว่าพลังจิตวิญญาณจะมากเกินไปและต้องควบคุมมัน
เมื่อเขาโคจรลมปราณ เขาเริ่มระดมพลังจิตวิญญาณให้มากขึ้นจนถึงขีดจำกัด
ขณะที่เขานั่งห่างจากกล่องกระบี่ออกมาอีกสองสามก้าวเพื่อเริ่มสร้างพันธะตามเคล็ดวิชาลับ
กระบี่ยาวเสียบอยู่ในปลอกของมันที่แขวนอยู่บนผนังถ้ำถูกดึงดูดมาที่หยางเฉินอย่างเห็นได้ชัด
มันค่อยๆบินออกมาจากกำแพงและลอยห่างจากหยางเฉินเพียงไม่กี่จ้าง
ขณะที่มันแขวนอยู่กลางอากาศมันก็เริ่มที่จะหมุน
ทั้งหมดนี้ดูง่ายมาก แต่หยางเฉินไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแม้แต่นิดเดียว
การใช้ทักษะลับอย่างถูกต้องเพื่อสร้างตราประทับนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น
ตามความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของหยางเฉินในตอนนี้
แต่เขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากเนื่องจากเขาได้พบทักษะลับนี้ในป้ายหยก ภายในถุงมิติของบรรพบุรุษ
มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นไม่สามารถหามันเจอ? หลังจากที่เขามองไปที่กล่องกระบี่ หยางเฉินพบว่าบรรพบุรุษได้สร้างพันธะกับกล่องกระบี่ไว้
แต่ในทางตรงกันข้ามเขาถูกกลืนกินและถูกฆ่าตาย หยางเฉินจะไม่ทำผิดพลาดเช่นนั้น
ทักษะลับมีความซับซ้อนมากและมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
อย่างน้อยสองร้อยกระบวนท่า
ซึ่งเขาไม่สามารถทำข้อผิดพลาดได้แม้แต่การพยายามในครั้งแรกของเขา
กับการเคลื่อนไหวส่งพลังจิตวิญญาณเข้าไปในกล่องกระบี่และในเวลาเดียวกันการรับรู้ทางจิตวิญญาณก็ได้บุกรุกเข้าไปแทนที่การรับรู้ทางจิตวิญญาณเดิมของบรรพบุรุษอย่างช้าๆ
ดินแดนปัจจุบันของหยางเฉินอยู่ในระดับต่ำมาก
ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้น้ำอุ่นในการต้มกบเท่านั้น เช่นเดียวกับการฝนทั่งให้เป็นเข็มหรือใช้ทักษะที่ยากลำบากอื่นๆ
เพื่อขจัดการรับรู้ทางจิตวิญญาณของบรรพบุรุษออกจากกล่องกระบี่และสร้างพันธะจิตวิญญาณของเขาไว้บนมัน
เพื่อที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์เวทให้กลายเป็นสมบัติของเขา
ทุกครั้งที่พลังจิตวิญญาณเข้าไปในกล่องกระบี่ กล่องกระบี่ก็จะดูดซับพลังจิตวิญญาณของหยางเฉินที่มีไปทั้งหมด
หากไม่ได้รับการเติมเต็มอย่างต่อเนื่องจากแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณใต้ดินและยาเม็ดลมปราณหยางที่หยางเฉินกินเข้าไป
ทุกๆครั้งหลังจากที่พลังจิตวิญญาณเข้าไปในกล่องกระบี่
บางทีหยางเฉินก็จะสามารถอยู่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ก่อนที่พลังจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาจะถูกกลืนกินโดยกล่องกระบี่
ทุกครั้งที่พลังจิตวิญญาณถูกป้อนเข้าไปในกล่องกระบี่ มันก็จะเปล่งรัศมีแสงออกมา
หยางเฉินรวบรวมพลังจิตวิญญาณทั้งสิบชนิดของหยินหยางห้าธาตุ
และทุกครั้งกล่องกระบี่จะเปล่งรัสมีแสงห้าชนิดออกมา
ภายในถ้ำขนาดเล็ก แสงที่ไม่มีสี
เริ่มสั่นไหวอย่างต่อเนื่องราวกับว่ากล่องกระบี่ได้กลายเป็นแสงสว่าง
การเคลื่อนไหวของหยางเฉินไม่ได้เร็วหรือช้าเกินไป แต่หากมีความเร็วที่คงที่
ช่วงระยะเวลาที่คงที่นั้นมันเพียงพอที่เขาจะเติมเต็มพลังจิตวิญญาณของเขาหลังจากที่พวกมันได้ถูกใช้ไปจนหมด
ภายใต้การควบคุมอย่างแม่นยำของหยางเฉิน ทั้งหมดนี้กลายเป็นวัฏจักรคงที่
เคล็ดวิชาลับหยินหยางห้าธาตุมีประสิทธิภาพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มันเหมือนกับว่าพลังจิตวิญญาณทั้งหมดถูกใช้ไปภายในหนึ่งลมหายใจ
แล้วถูกเติมเต็มทั้งหมดภายในอึดใจถัดมา
เส้นลมปราณทั้งหมดของเขาถูกขยายและลดลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์
ที่เกิดซ้ำไปซ้ำมาในแบบนี้ และในขณะเดียวกันพวกมันก็ได้รับการควบคุมด้วยตนเอง
เขาโชคดีที่มีแหล่งกำเนิดจิตวิญญาณ และมียาเม็ดลมปราณหยางในเวลาเดียวกันมีเคล็ดวิชาลับหยินหยางห้าธาตุ
เมื่อหยางเฉินได้บริโภคยาเม็ดลมปราณหยางไปเกือบหนึ่งพันเม็ด
พลังจิตวิญญาณภายในร่างกายของเขาได้หมดไปและถูกเติมเต็มด้วยพลังจิตวิญญาณเป็นจำนวนหนึ่งพันครั้ง
จู่ๆเส้นลมปราณทั้งหมดในร่างกายของเขาที่ถูกกระตุ้นได้เริ่มขยายตัวขึ้น
ราวกับว่าร่างของเขาได้เจาะทะลุผ่านคอขวด
ข้อจำกัดของพลังจิตวิญญาณในร่างของหยางเฉินได้หายไปในทันที
หยางเฉินคิดถึงบางสิ่งบางอย่างและสัมผัสขวดแก้วใสที่วางอยู่บนพื้น
เริ่มควบคุมความเร็วอีกครั้งเพื่อดูดซับพลังจิตวิญญาณให้ช้าลงกว่าเดิมเล็กน้อย ทำให้หยกภูเขาไฟได้รับการเติมพลังจิตวิญญาณมากยิ่งขึ้น
จากประสบการณ์ของเขา
หยางเฉินรู้ว่านี่เป็นข้อบ่งชี้ว่าเขาเข้าสู่ขั้นสองของระดับรวบรวมลมปราณ
การเข้าสู่ดินแดนที่สูงขึ้นไม่เพียงแต่มีผลต่อพลังจิตวิญญาณเท่านั้น
แต่ยังเพิ่มขอบเขตของเส้นลมปราณให้สามารถรับพลังจิตวิญญาณได้มากขึ้นอีกเล็กน้อย
รวมทั้งความเข้าใจในกฎทุกกฏ ส่วนหลังไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับหยางเฉิน
แต่ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับการขัดเกลาด้วยจำนวนนับไม่ถ้วนของเลือดที่เป็นอมตะ
ขอบเขตก็ยังคงเพิ่มขึ้นทะลุคอขวดไปเรื่อยๆทีละขั้น ทีละขั้น
หลังจากที่เข้าสู่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นสอง
ไม่เพียงแต่ความเร็วของหยินหยางห้าธาตุเพิ่มขึ้นเท่านั้น
แต่การเติมพลังจิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้นด้วย
ขอบเขตด้านบนของพลังจิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากต้องทำการปรับอัตราการเติมพลังจิตวิญญาณจากแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณแล้ว
ในตอนนี้เขาสามารถใส่พลังจิตวิญญาณลงไปในกล่องกระบี่ได้ด้วยทักษะลับนี้
ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือรังสีแสงที่แผ่ออกมาจากกล่องกระบี่เริ่มใสสว่างเจิดจ้ามากขึ้น
ความเร็วของช่วงเวลาที่พลังจิตวิญญาณถูกใช้จนหมดเริ่มยาวนานมากขึ้น
ในที่สุดหลังจากที่ยาเม็ดลมปราณอีกหนึ่งพันเม็ดได้ถูกใช้ไป
กระบี่ยาวและปลอกกระบี่ก็สงบลงบนมือของหยางเฉิน
รังสีแสงเปล่งประกายออกมาจางๆก่อนที่มันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของหยางเฉินเขามีความรู้สึกว่าเขาครอบครองกระบี่ยาวพร้อมปลอกที่อยู่ต่อหน้าเขา
หลังจากเติมพลังจิตวิญญาณของตัวเองแล้ว เขาก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดและลุกขึ้นยืนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขปรากฏอยู่ทั่วทั้งใบหน้าของเขา
ในขณะที่ทั้งสองมือก็ลูบไล้ไปบนกระบี่เบาๆราวกับว่ามันเป็นคนรักของเขา
หลังจากที่ได้ครอบครองกล่องกระบี่นี้แล้ว หยางเฉินค้นพบว่ากล่องกระบี่นี้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
กล่องกระบี่นี้เป็นทั้งกระบี่บินและที่เก็บในเวลาเดียวกัน
ทั้งสามารถจัดการกับกระบี่บินได้นับร้อยนับพันเล่ม
รูปลักษณ์ของกล่องกระบี่อาจเปลี่ยนไปตามความต้องการของเจ้าของ
เจ้าของก่อนหน้านี้ชอบรูปลักษณ์กระบี่ยาวและปลอก ดังนั้นมันจึงมีลักษณะเป็นกระบี่ยาวพร้อมปลอก
อย่างไรก็ตามหยางเฉินไม่ค่อยชอบรูปร่างแบบนี้
ภายใต้รสนิยมและการลูบไล้อันอ่อนโยนของหยางเฉิน การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มปรากฏขึ้น
กระบี่ยาวก็เปลี่ยนลักษณะไปเป็นดาบที่ดูดุดัน เช่นดาบที่เขาเคยใช้ที่บนแท่นประหานเซียน
หยางเฉินกวัดแกว่งดาบเซียนอย่างชำนิชำนาญโดยไม่หยุด สีหน้าของเขาดูสดใส
กล่องกระบี่นี้เป็นเพียงกระบี่บินและกล่องกระบี่นี้ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมันสามารถหลอมจิตวิญญาณกระบี่ด้วยพลังที่น่ากลัวของกระบี่บินและเปลี่ยนมันให้เป็นอาวุธของเขาเอง
จิตวิญญาณกระบี่อาจจะมีหนึ่งหรือมากมาย เพียงแต่หยางเฉินจะต้องมีอำนาจเหนือพวกมัน
กล่องกระบี่ยังสามารถรับการปรับแต่งเพิ่มระดับได้ ด้วยการสร้างอาคมสะกดบนกระบี่สองสามอาคม
เมื่อเวลาจู่โจม
อาคมกระบี่ก็จะสามารถนำพลังที่น่ากลัวที่จำเป็นออกมาจากจิตวิญญาณกระบี่
ในขณะนี้มีกระบี่บินอย่างน้อยสิบเล่มของทุกธาตุซึ่งบรรจุไว้ในกล่องกระบี่
แต่คุณภาพของพวกมันนั้นอยู่ในระดับธรรมดาทั่วๆไป
การปรับแต่งกระบี่บินเวทไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะเป็นบรรพบุรุษระดับก่อลำต้นก็ตาม
เขาก็ยังไม่สามารถผลิตกระบี่บินได้หลายร้อยเล่มและเก็บไว้ภายในกล่องกระบี่
สำหรับหยางเฉิน นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในขณะที่เขาอยู่ที่แท่นประหารเซียน
เซียนจำนวนมากได้บอกกับเขาเกี่ยวกับอุปกรณ์เวท กระบี่บิน
ซึ่งพวกเขาได้ทิ้งไว้ในโลกมนุษย์ แล้วตราบเท่าที่เขาสามารถหาพวกมันพบ
เขาสามารถเก็บพวกมันทั้งหมดไว้ในกล่องกระบี่
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณกระบี่ไม่สามารถหาได้ง่ายนัก
ด้วยความรู้และประสบการณ์ในปัจจุบันของหยางเฉินเนื่องจากเขาได้รับกล่องกระบี่ที่มีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใครนี้
จึงมั่นใจได้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้กับกระบี่บินธรรมดาเพื่อเพิ่มจำนวนเก็บไว้ในกล่องได้
ในกรณีที่จิตวิญญาณกระบี่ของหยางเฉินมีคุณภาพสูงสุดในบรรดารายการทั้งหลาย จากนั้นพวกมันก็จะกลายเป็นของที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น
มันเร็วเกินไปที่จะคิดถึงสิ่งเหล่านี้ เมื่อหยางเฉินลูบกล่องกระบี่
ดาบปีศาจ ได้ปรากฏออกมาอย่างน่ายินดี เขาคิดภายในใจของเขาเกี่ยวกับการความคมของขอบดาบ
ดาบของเพชฌฆาตศาลสวรรค์ก็ควรที่จะมีความคม เพื่อที่จะสามารถบั่นหัวของผู้คนได้อย่างง่ายดาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น