เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 034 มรดกบรรพบุรุษ

เดิมทีหยางเฉินยังคงสงสัยเกี่ยวกับคำสั่งที่ให้เขาออกไปฝึกฝนนอกนิกาย แต่หลังจากที่ได้ยินว่าเขาจะต้องขึ้นไปบนภูเขาลอยฟ้า ความสงสัยทั้งหมดของเขาก็หายไปในทันที จริงๆแล้วคำสั่งนี้ ต้องการให้เขาออกไปข้างนอกนิกาย เพื่อให้เขาได้มีส่วนร่วมในการชุมนุมสวรรค์ของเหล่าศิษย์ใหม่สำหรับทุกๆนิกายบนภูเขาลอยฟ้า

เมื่อหยางเฉินคิดอย่างถี่ถ้วน เขาคิดหาเหตุผลได้หนึ่งเหตุผลในทันที บางทีเมื่อตอนที่เขาฆ่านักฆ่าคนนั้น หยางเฉินบังเอิญได้บอกพวกเขาไปว่า ตัวเขาไม่กลัวภาพลวงตาและอาคมอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำให้เหล่าผู้อาวุโสที่อยากสร้างชื่อเสียงให้กับพระราชวังหยางบริสุทธิ์จึงได้พิจารณาเขา

นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สำหรับหยางเฉินนี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ ในตอนแรก เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันในขณะที่เขายังคงต้องอยู่ภายในตำหนักเก้าปฐพีไปอีกสามปีจึงจะสามารถที่จะออกไปข้างนอกได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเช่นนี้

หลังจากที่เขาทำการเก็บข้าวของจำเป็นเสร็จแล้ว หยางเฉินได้เดินไปที่ห้องโถงใหญ่ของตำหนัก เพื่ออำลาชูเฮิงและตูเชี่ยน จากนั้นก็รีบออกเดินทางเพื่อไปฝึกฝนข้างนอกนิกายซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาเข้าสู่พระราชวังหยางบริสุทธิ์

กงซุนหลิงไม่ได้อยู่ที่นั่น เธอน่าจะออกเดินทางไปแล้ว หยางเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตูเชี่ยนและพวกเขาไม่ได้ขอให้หยางเฉินเดินทางไปพร้อมกับกงซุนหลิง มิฉะนั้นก็จะทำให้หยางเฉินลำบากมากขึ้น

คนรับใช้ทั้งสี่คน เซิ่นต้า หูหลิน ติงหยวนและกูฉินไม่ได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางไปด้วย พวกเขาเป็นคนรับใช้ ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะไปถึงระดับรวบรวมลมปราณขั้นหก พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกเพื่อทำการฝึกฝนได้

หยางเฉินรู้สึกเป็นอิสระจากทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อหยางเฉินออกจากตำหนักเก้าปฐพีเขาก็รู้สึกราวกับเป็นปลาที่กระโดดลงไปในมหาสมุทรหรือเหมือนกับนกที่บินอยู่บนท้องฟ้า

ความสำคัญของหยางเฉินนั้นเพิ่มขึ้นดังนั้นในทุกๆห้าหรือหกวัน หยางเฉินจะทำการกลั่นสกัดยาสวีนฉีและส่งมอบให้กับหอโอสถ ในก่อนหน้านี้เขาแลกพวกมันกับคะแนนสะสมของนิกาย แต่ภายหลังเขาแลกเปลี่ยนเป็นหินผลึกทั้งหมด ปัจจุบันหยางเฉินมีหินผลึกอยู่ในมือของเขาอย่างน้อยสี่ถึงห้าร้อยก้อน หลังจากออกเดินทางจากตำหนักเก้าปฐพีแล้ว หยางเฉินได้เดินทางตรงไปยังตลาดที่อยู่ในเมือง ใกล้ๆกับบริเวณตีนภูเขาเหมยชิง

ซุนไห่จิ้งคนที่น่ารังเกียจแบบนั้น ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งโอกาสที่จะฆ่าหยางเฉิน แน่นอนว่าเขาจะต้องเตรียมการฆ่าหยางเฉินที่ข้างนอกนิกาย หยางเฉินไปที่ตลาดในเมืองเพื่อซื้อของบางอย่างที่เขาสามารถใช้เพื่อป้องกันตัวเอง

แม้ว่าหยางเฉินจะไม่ได้กลัวเศษขยะเช่นซุนไห่จิ้ง แต่เขาก็ยังคงอยู่ที่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่ง หากศัตรูที่มีความแค้นกับเขานั้นมีระดับบ่มเพาะที่สูงกว่าได้รอที่จะเอาคืนเขา มันก็อาจจะทำให้เขาพบกับความยากลำบาก ในเวลานี้หยางเฉินมีหินผลึกมากมาย เมื่อเขาเดินเข้าไปในตลาดเมือง ตราบใดที่เขามองหาสิ่งที่สำคัญๆและต่อรองราคากันบ้างเล็กน้อยเขาก็สามารถใช้เงินจับจ่ายซื้อของได้อย่างสบายๆอย่างผู้ช่ำชองในการซื้อสินค้า

หลังจากอยู่ในตลาดเมืองเป็นเวลาสามวันจนกระทั่งหยางเฉินรู้สึกว่าไม่มีใครสอดแนมเขาจากการที่เขาตรวจสอบผ่านการรับรู้ทางจิตวิญญาณ เมื่อมั่นใจแล้ว เขาก็ออกจากตลาดเมืองและเริ่มบินออกไปรอบๆตีนภูเขาเหมยชิง

ด้านล่างของหยางเฉินเป็นเพียงนกกระดาษเท่านั้นนี่คืออุปกรณ์ยันต์ชนิดหนึ่ง ทั้งตัวของมันประกอบด้วยอักขระอาคม มันถูกขับเคลื่อนด้วยพลังเวทของผู้เชี่ยวชาญระดับก่อสร้างรากฐาน ตราบเท่าที่ผู้ใช้สามารถป้อนพลังเวทเข้าไป เขาก็สามารถกระตุ้นให้นกกระดาษบินได้ ถึงแม้ว่าจะบินได้ไม่เร็วนัก แต่เมื่อเทียบกับการเดินเท้ามันก็ต่างกันมาก

เขาต้องจ่ายราคาของนกกระดาษนี้ไปค่อนข้างสูง อย่างน้อยประมาณสองร้อยเหลี่ยง (สิบกิโลกรัม) ของหินผลึก หยางเฉินซื้อมาพร้อมกับยันต์ เครื่องรางและผลึกยันต์ต่างๆมากมาย ได้รับส่วนลดจากผู้ขายจากการซื้อสินค้าทั้งหมด แน่นอนว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง

หยางเฉินบินไปตามตีนภูเขาเหมยชิง ไปตามบริเวณที่อยู่อาศัยของผู้คน และหลีกเลี่ยงพื้นที่น่าสงสัย หลังจากบินไปตามเส้นทางนี้เป็นเวลาสองวัน เขาเกือบจะออกจากอาณาเขตอิทธิพลของภูเขาเหมยชิง

แต่แล้วหยางเฉินก็หยุดนกกระดาษและร่อนลงสู่บนเส้นทางเดินในภูเขาก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ไม่นานหลังจากที่เงาของหยางเฉินจางหายไป กลุ่มคนลึกลับสี่หรือห้าคนได้ปรากฏตัวขึ้นในบริเวณที่หยางเฉินได้ร่อนลง หากแต่พวกเขาไม่สามารถหาร่องรอยของหยางเฉินเจอ

"เป็นเด็กที่ฉลาดจริงๆ พวกเราได้มาถึงพื้นที่อิทธิพลของพระราชวังหยางบริสุทธิ์เพื่อมาดูแลเขาโดยเฉพาะ แต่พวกเราไม่คาดคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งการใช้นกกระดาษเพื่อหลบหนี"

ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครายาวคล้ายกับนักปราชญ์หันหน้ากลับมาและพูดว่า

"เจ้าไม่ได้พูดหรือว่า เจ้าสามารถหาที่อยู่ของนกกระดาษนี้ได้? แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?"

"ข้าได้ตรึง อาคมเข็มสะกดรอยตะเข็บบนนกกระดาษไว้แล้วดังนั้นแม้ว่าเขาจะเก็บมันไว้ในถุงมิติมันก็ยังสามารถหาร่องรอยพบได้"

เบื้องหลังร่างของเขา เป็นชายคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีดำที่มีลักษณะคล้ายกับนกแร้ง เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า

"ข้าต้องจ่ายหินผลึกถึงห้าสิบเหลี่ยง นี่ถูกที่สุดแล้ว ไม่ต้องกังวล เขาไม่สามารถที่จะหลบหนีจากมันไปได้"

เมื่อชายในชุดคลุมสีดำพูดจบเขาก็ออกไปตรวจสอบแผ่นจารึกอาคมและเริ่มร่ายอาคมที่เขาได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ แผ่นจารึกอาคมนี้มีลักษณะคล้ายกับเข็มทิศ ภายในจุดศูนย์กลางมีเข็มชี้ที่ยังคงหมุนวนรอบโดยไม่หยุดนิ่ง

"มีอะไรผิดพลาด?"

นักปราชญ์ที่มีหนวดเครายาวมองไปที่แผ่นจารึกอาคมที่ผิดปกติ และรีบถามออกไปในทันที

"เกิดอะไรขึ้น?"

ชายที่สวมเสื้อคลุมคล้ายนกแร้งตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง สภาพแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์สองแบบเท่านั้น  นั่นคือหยางเฉินอยู่ใกล้ๆ หรือหายไปอย่างสมบูรณ์ สถานการณ์แรกมันเป็นไปไม่ได้เลย

หยางเฉินไม่สามารถทำอะไรได้อย่างสบายใจต่อหน้าชายทั้งห้าคนที่อยู่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นเจ็ด คนเหล่านี้จะรู้สึกได้ในทันที พวกเขาได้ใช้การรับรู้ทางจิตวิญญาณกวาดไปทั่วบริเวณนี้ไปหลายครั้ง และพวกเขาไม่สามารถหาร่องรอยของเขาได้ หยางเฉินควรจะทำลายนกกระดาษดังกล่าวไม่ให้เหลือเศษซากใดๆ มิฉะนั้นแม้ว่ามันจะหักเป็นชิ้นๆแล้วก็ตาม แต่อาคมของคนที่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำจะสามารถหาร่องรอยนี้พบ

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ทุกคนสงสัยเป็นอย่างมาก ผู้นำกลุ่มเปนชายที่มีหนวดเครายาวได้มองไปรอบๆ และได้ออกคำสั่งอย่างเข้มงวดออกไปว่า

"ทุกคนแยกกันออกตามหา เขาเป็นแค่ศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่ง และไม่มีความสามารถในการบิน ทุกคนมองไปรอบๆในพื้นที่ห้าร้อยลี้ แล้วค่อยๆค้นหาเขาให้พบ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถหลบหนีไปได้ถึงห้าร้อยลี้ภายในระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้!"

อีกสี่คนเห็นด้วยอย่างรวดเร็วและกระจายตัวออกไปด้วยความรวมเร็ว พวกเขาเหล่านี้ได้ร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจนี้ร่วมกัน หากพวกเขาประสบความสำเร็จ ทุกคนจะมีโอกาสได้รับอุปกรณ์เวท นี่คือโอกาสที่ยากจะเกิดขึ้นสำหรับใครคนหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป พวกเขาทุกคนจึงทุ่มเทพลังและความแข็งแกร่งทั้งหมดให้กับงานนี้ ถ้าพวกเขาไม่ได้ทำเช่นนี้ภายในอาณาเขตของพระราชวังหยางบริสุทธิ์แล้ว พวกเขาก็จะทำให้หยางเฉินต้องทนทุกข์ทรมานในก่อนหน้านี้

นักปราชญ์ที่มีหนวดเครายาวมีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุดในหมู่พวกเขา ดังนั้นเขาย่อมเป็นผู้นำของคนเหล่านี้ การเปิดการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาแผ่ออกไปอย่างกว้างขวางเขากวาดไปตามสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆเพียงครั้งเดียวหลังจากที่ไม่พบสิ่งใดๆ เขาเริ่มรู้สึกสงสัยดังนั้นเขาจึงเริ่มค้นหาสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบอีกครั้ง

หยางเฉินไม่ได้เดินห่างออกมาไกลมากนักและยังอยู่ในขอบเขตของอาคมสะกด เขาเก็บนกกระดาษไว้ในแหวนแห่งความสำเร็จ ดังนั้นการที่จะค้นหาร่องรอยของนกกระดาษผ่านแหวนแห่งความสำเร็จนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เมื่อหยางเฉินมองไปที่ยังชายทั้งห้าคนที่แยกกันออกค้นหาเขา หยางเฉินมองอย่างไม่สนใจอะไร เขาหันกลับมาและใช้นิ้วมือของเขาในการคำนวณอะไรบางอย่างก่อนที่เขาจะเลือกเส้นทางเดินด้วยย่างก้าวที่ดูแปลกๆ เขาเริ่มเดินและหายตัวไปอย่างรวดเร็วภายในบริเวณลานอักขระอาคม

ในบริเวณลานอักขระอาคมสะกด หยางเฉินก้าวเดินด้วยจำนวนก้าวที่แน่นอนตามที่เขาคำนวณ และหลังจากใช้เวลานานหลายชั่วยาม หยางเฉินก็หยุดลงบนพื้นที่ว่างเปล่าด้านหนึ่งเป็นหน้าผาที่สูงมากและเบื้องล่างของหน้าผา มีปากถ้ำที่เห็นได้ชัด ซึ่งภายในถ้ำมืดมากทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้

"โชคดี ที่มันยังคงมีอยู่!"

เมื่อมองไปที่ปากทางเข้าถ้ำสีดำนี้ ใบหน้าของหยางเฉินเผยรอยยิ้มออกมา

ถ้ำนี้ หรือหากใช้คำอธิบายที่ถูกต้องมากขึ้น มันคือที่อยู่อาศัยที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยบรรพบุรุษแห่งพระราชวังหยางบริสุทธิ์ ในชีวิตก่อนหน้านี้ถ้ำแห่งนี้จะถูกค้นพบในอีกหกสิบปีข้างหน้า รวมถึงการค้นพบลานอาคมลวงตาขนาดใหญ่ที่มีอยู่ด้านนอกของถ้ำ

นี่เป็นส่วนที่ห่างไกลที่สุดของภูเขาเหมยชิง ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเชื่อว่าพลังจิตวิญญาณที่นี่ค่อนข้างที่จะไม่สมบูรณ์ แต่พวกเขาไม่ทราบว่าบรรพบุรุษนี้ได้ค้นพบแหล่งกำเนิดของพลังจิตวิญญาณที่ใต้ดินและได้สร้างถ้ำแห่งนี้ขึ้นมา เขาได้ปิดตัวฝึกที่นี่เพื่อที่จะทะลุดินแดนก่อลำต้นและควบแน่นระดับผลิดอกของเขา แต่ในท้ายที่สุดเขาได้ประสบความล้มเหลวและที่อยู่อาศัยนี้ถูกปิดกั้นเนื่องจากลานอักขระอาคมสะกดที่ดี ดังนั้นพลังจิตวิญญาณจึงไม่สามารถรั่วไหลออกไปได้แม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครค้นพบสถานที่ห่างไกลนี้

ในยุคต่อมาศิษย์บางคนของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในลานอักขระอาคม และบังเอิญที่เขาได้ศึกษาการสร้างอักขระอาคมมาอย่างละเอียดและจากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญของนิกายที่ได้เข้าไปในลานอักขระอาคมลวงตา ถ้ำที่แห่งนี้จึงถูกค้นพบ อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับยางเฉิน

พลังจิตวิญญาณถูกปิดผนึกโดยอักขระอาคมสะกดที่ยอดเยี่ยมและไม่มีทางรั่วไหลออกมา ดังนั้นเมื่อหยางเฉินเข้ามาภายในเขาก็สามารถรู้สึกถึงพลังจิตวิญญาณอันไร้ขอบเขตได้ในทันที นอกจากพลังจิตวิญญาณที่มหาศาลแล้ว ยังมีพลังเวทที่ไม่มีวันสิ้นสุดรวมอยู่ด้วย ซึ่งมันเป็นแหล่งพลังงานของภาพลวงตาที่ทรงพลังและขัดขวางไม่ให้ผู้คนค้นพบสถานที่แห่งนี้

หยางเฉินหยิบเอาขวดแก้วใสที่บรรจุสวนสมุนไพรแห่งภูเขาเซียงหยาง (จิตรกรรมดวงอาทิตย์) ออกมาจากแหวนแห่งความสำเร็จ ภายในขวดแก้วใสเหลือแต่เพียงของเหลวสีน้ำเงินที่เกือบแห้ง แต่เมื่อมันออกมาและได้สัมผัสกับพลังจิตวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์ ขวดแก้วใสเริ่มแผ่กระจายแสงที่งดงามออกมา มันก็เริ่มรวบรวมพลังจิตวิญญาณในบริเวณโดยรอบในทันที

จุดสีน้ำเงินนั้นอยู่ที่ก้นขวด หยางเฉินรู้ว่าพลังจิตวิญญาณที่ถูกดูดซึมและเก็บรวบรวมโดยขวดแก้วใส พวกมันถูกใช้เพื่อเก็บรักษาพลังจิตวิญญาณที่จำเป็นสำหรับสวนสมุนไพร สมุนไพรที่เติบโตนั้นต้องการพลังจิตวิญญาณที่พอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป มิฉะนั้นสมุนไพรก็อาจจะตายได้ ขวดแก้วใสมีความสามารถในการดูดซับและเก็บรักษาพลังจิตวิญญาณจากสภาพแวดล้อมไว้ได้ทั้งหมดและจากนั้นจะค่อยๆปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาในปริมาณที่พอเหมาะกับสวนสมุนไพร

ก่อนหน้านั้นของเหลวสีน้ำเงินที่ก้นขวดมีพลังจิตวิญญาณที่มากพอที่จะหล่อเลี้ยงสวนสมุนไพรได้อีกหลายปี แต่เดิมหยางเฉินได้วางแผนที่จะออกไปฝึกหลังจากผ่านไปอีกสองสามปีและเติมพลังจิตวิญญาณให้กับขวดแก้วใสนี้ แต่ในเมื่อเขามีโอกาส ทั้งซ่อนตัวจากมือสังหารที่กำลังค้นหาเขาจากด้านนอก ในขณะเดียวกันก็เก็บรวบรวมสิ่งของที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้ที่นี่ และเขายังสามารถดูดซึมซับพลังจิตวิญญาณไว้ในขวดแก้วใสนี้ได้อีกด้วย

เพื่อรวบรวมพลังจิตวิญญาณ ตัวของหยางเฉินเองไม่จำเป็นต้องทำอะไร ตราบเท่าที่เขาเปิดขวดแก้วใสออกมาข้างนอก มันก็จะทำทุกอย่างด้วยตัวของมันเอง หยางเฉินเหน็บขวดแก้วใสไว้ที่เอวของเขาและรีบก้าวเข้าไปด้วยก้าวที่ยาว

ถ้ำไม่ได้ลึกนัก  ในสมัยนั้น หลังจากที่ค้นพบแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณ บรรพบุรุษไม่ได้พยายามที่จะตกแต่งถ้ำและรีบวางอักขระอาคมภาพลวงตาเพื่อซ่อนสถานที่นี้จากคนอื่นๆ ในขณะที่เขาเริ่มปิดผนึกภูเขา หยางเฉินได้เดินเข้าไป ในถ้ำทั้งหมดที่เขาเห็นภายในถ้ำนั้นดูเรียบง่ายและไร้การตกแต่งใดๆ

ที่จุดสูงสุดภายในถ้ำ มีมุกราตรีถูกฝังอยู่ แสงสีเหลืองกระพริบออกมารอบๆตัวมัน ความสว่างนี้เพียงพอสำหรับหยางเฉินเพื่อดูทุกอย่างภายในถ้ำ

เมื่อเขาเดินเข้าไปในถ้ำอีกสองสามฉื่อ เขาก็เห็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความกว้างอยู่หลายฉื่อ บนพื้นมีเสื่อปูอยู่บนพื้น ด้านบนของเสื่อมีร่างของชายวัยกลางคนที่สวมเครื่องแต่งกายของพระราชวังหยางบริสุทธิ์นั่งนิ่งอยู่ ดวงตาทั้งสองของเขาปิดสนิท รอบๆตัวเขาไร้ซึ่งกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิต เขาได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนโดยที่ไม่มีใครรู้

"ศิษย์หยางเฉินคารวะบรรพบุรุษ!"

หยางเฉินไม่กล้าที่จะละเลย เขาโค้งคำนับเพื่อทำความเคารพโครงกระดูกที่อยู่บนเสื่อ นี่คือบรรพบุรุษของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ หยางเฉินเป็นศิษย์รุ่นหลังดังนั้นการแสดงความเคารพนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำ

หลังจากที่หยางเฉินทำความเคารพ เขาได้ยืนขึ้นและเดินตรงไปที่กึ่งกลางของพื้นที่ และใช้พลังจิตวิญญาณธาตุดินของเขาเพื่อขุดหลุมขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เอาท่อนไม้ขนาดยักษ์ออกมาจากถุงมิติ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาได้เตรียมไว้เมื่อตอนที่อยู่ในตลาดเมือง เขาใช้พลังจิตวิญญาณธาตุไม้ของเขาเพื่อตัดท่อนไม้ขนาดยักษ์และในไม่ช้าพวกมันก็กลายสภาพไปเป็นโลงศพที่ดูแข็งแรงทนทาน

หลังจากที่หยางเฉินทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เขาได้ย้ายซากศพของบรรพบุรุษไปวางไว้บนโลงศพอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะปิดฝาโลงศพเขาหยิบถุงมิติออกจากเอวของบรรพบุรุษอย่างระมัดระวัง หยางเฉินคุกเขาทำความเคารพต่อบรรพบุรุษอีกครั้ง เขาวางโลงศพลงในหลุมที่ขุดและกลบดินลงบนโลงศพ

ตรงกลางถ้ำ หยางเฉินถมดินลงไปในหลุมจนดินพูนหลุมฝังศพ หยางเฉินหยิบเอาหินสีน้ำเงินที่มีคุณภาพสูงสุดจากถุงมิติของเขา และใช้มันเหมือนมีด จากหน่วยความจำของเขา เขาแกะสลักชื่อของบรรพบุรุษ เพื่อย้ำว่าศิษย์รุ่นหลังหยางเฉินได้ให้ความสำคัญกับเขา หยางเฉินยืนอยู่ที่หน้าหลุมฝังศพ หลังจากทำอย่างถูกต้องแล้ว เขาก็ทำความเคารพอีกครั้งและเริ่มที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบ

จริงๆแล้วทุกอย่างในถ้ำนั้นเห็นได้ชัดทีเดียว ตรงกลางเป็นเสื่อสีดำหนึ่งผืน ในส่วนที่ไกลที่สุดของถ้ำมีกระบี่ยาวพร้อมปลอก อีกด้านหนึ่งเป็นโต๊ะไม้ นอกจากนี้ไม่มีอะไรอีกภายในถ้ำ

อย่างไรก็ตามหยางเฉินได้ตระหนักว่าสิ่งที่มองไม่ธรรมดาเหล่านี้ นอกเหนือจากโต๊ะไม้ทั้งสองชิ้น มันไม่ใช่สิ่งที่เรียบง่าย

เสื่อสีดำผืนนี้ทำมาจากหยกภูเขาไฟ ที่ตัดออกมาในรูปของเสื่อ มันถูกวางไว้ที่ทางออกของแหล่งกำเนิดพลังจิตวิญญาณ หยกภูเขาไฟถูกปกคลุมด้วยความชื้นอยู่เสมอและมันก็ไม่เพียงแต่สามารถที่จะจับรวมพลังจิตวิญญาณ แต่ยังป้องกันไม่ให้พลังจิตวิญญาณออกมามากเกินไป จนก่อให้เกิดอันตรายต่อเส้นชีพจรลมปราณ

ในตอนนี้ หยกภูเขาไฟจะช่วยให้หยางเฉินสามารถบ่มเพาะได้ เกี่ยวกับวัตถุที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้ หยางเฉินไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย คนที่ทำการบ่มเพาะในเส้นทางอมตะจะต้องเข้าใจถึงวิถีแห่งกรรม และตั้งแต่ที่หยางเฉินได้ก้าวเข้ามาภายในถ้ำแห่งนี้ สิ่งของเหล่านี้ก็กลายเป็นของหยางเฉิน

ขณะที่เขาขยับหยกภูเขาไฟออกไป พลังจิตวิญญาณที่สมบูรณ์เมื่อเทียบกับพลังจิตวิญญาณโดยรอบก็พุ่งออกมาจากแหล่งกำเนิดที่ซึ่งก่อนหน้านี้หยกภูเขาไฟได้วางปิดทับเอาไว้ พลังจิตวิญญาณถูกควบคุมโดยหยกภูเขาไฟ แต่ตอนนี้พวกมันพุ่งออกมาในทันที หยางเฉินรู้สึกสงบ โดยไม่รีบร้อน เขาวางขวดแก้วใสบนทางออกของแหล่งกำเนิดของพลังจิตวิญญาณ พลังจิตวิญญาณที่ไหลออกมาได้ถูกดูดซึมโดยขวดแก้วใสโดยตรง

ไม่นานหลังนัก หยางเฉินเดินออกไปอีกสองสามก้าวในทิศทางที่มีกระบี่พร้อมปลอกแขวนไว้ หยางเฉินมองไปที่มัน แต่ไม่ได้ดึงมันออกมา เขาเริ่มดึงความทรงจำบางอย่างเกี่ยวกับกระบี่ออกมา กระบี่มันมีลักษณะแปลกๆ

กระบี่ยาวในปลอก จริงๆแล้วไม่ใช่กระบี่ แต่มันควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นกล่องกระบี่ ซึ่งสามารถถือได้ว่าเป็นทั้งกระบี่บินและอุปกรณ์ที่ใช้เก็บกระบี่บิน มันเป็นสิ่งที่ดีมาก ถ้าหยางเฉินพยายามดึงมันออกมา โดยไม่ใช้เคล็ดวิชาลับเพื่อสร้างพันธะตราประทับใดๆกับกล่องกระบี่ โดยพึ่งพาแต่เพียงพลังการบ่มเพาะของเขา เขาอาจจะโชคดีหายไปจากโลกนี้ ในชีวิตก่อนหน้านี้พระราชวังหยางบริสุทธิ์ยังคงต้องจ่ายความสูญเสียด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น เพื่อให้ได้มันมา

หลังจากช่วงเวลาที่ดีได้ผ่านไป หยางเฉินถอนหายใจยาวออกมาด้วยความเสียดาย เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทิ้งความคิดที่จะเก็บกระบี่นี้ไว้ แม้ว่าสิ่งนี้จะสำคัญมาก แต่สำหรับชีวิตของเขานั้นสำคัญยิ่งกว่า เขาได้หยกภูเขาไฟมันก็ทำให้เขารู้สึกพอใจ นอกจากนี้ด้วยประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้านี้ ถ้ำแห่งนี้จะยังคงสงบต่อไปอีกราวๆสิบปี และหลังจากนั้นเขาก็ยังคงมีโอกาสที่จะมาเก็บมันได้ในภายหลัง


เมื่อเขาสามารถควบคุมความโลภของตัวเองไว้ได้แล้ว หยางเฉินก็นั่งลงบนแผ่นหยกภูเขาไฟ และเปิดถุงมิติของบรรพบุรุษและเริ่มตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายใน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น