ข่าวที่ว่าศิษย์สายนอกระดับการบ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่งที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งและได้ย้ายเข้ามาที่ตำหนักเก้าปฐพีเมื่อเร็วๆนี้
ได้เริ่มทำการหลอมและสกัดกลั่นยาเม็ด ได้แพร่กระจายไปทั่วภายในตำหนักเก้าปฐพีอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า
ชื่อเสียงของหยางเฉินได้กลายเป็นหัวข้อที่ทุกคนในตำหนักเก้าปฐพีได้พูดคุยกัน
เมื่อกล่าวถึงหยางเฉิน ทุกคนก็จะแสดงอาการออกมาในสองแบบ ในตอนแรกเมื่อทุกคนได้รับรู้ว่า
หยางเฉินสามารถเอาชนะซุนไห่จิ้งที่มีระดับบ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้นสามได้ในตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในนิกาย
ทุกคนต่างแสดงความรู้สึกประหลาดใจอย่างสุดขีด
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหยางเฉินได้เข้าไปในหอลี้ลับเพื่อเรียนรู้ ‘พื้นฐานการเล่นแร่แปรธาตุ’ และได้เริ่มหลอมสกัดยาเม็ดที่ระดับบ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่ง
ความประหลาดใจของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นเยาะเย้ยในทันทีทันใด
"ถ้าเขาสามารถเรียนรู้วิธีการหลอมสกัดกลั่นยาเม็ดในขณะที่มีระดับบ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่ง
แล้วสิ่งที่พวกเราพยายามที่จะสกัดกลั่นยามานานมากกว่าสิบปีนี้คืออะไร?" ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ทางการหรือคนรับใช้ทั้งหมดต่างเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้
เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนได้พูดแสดงความคิดเห็นออกมา
ทุกคนไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหัวเราะเยาะออกมากับเรื่องนี้
มีนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ต้องจมอยู่กับการหลอมของเขานานนับหลายสิบปีหรือนานกว่านั้น
ก่อนที่จะสามารถหลอมสกัดกลั่นยาเม็ด เม็ดแรกของพวกเขาได้
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนที่สามารถหลอมสกัดกลั่นยาเม็ดได้เมื่อเขาเริ่มทำการบ่มเพาะ
มันจะไม่เป็นการข้ามขอบเขตของตัวเอง? ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงการสกัดกลั่นยาเม็ดในระดับบ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่งแม้แต่การที่เขาจะสามารถควบคุมเปลวไฟได้อย่างถูกต้องและไม่เผาไหม้ส่วนผสมยาทั่วๆไปเพียงแค่อย่างเดียวก็ถือว่าเป็นผลงานที่สุดยอดแล้ว
อย่างไรก็ตามหยางเฉินไม่ได้ใส่ใจในคำพูดเหล่านี้ เขาสั่งให้เซิ่นต้า
วิ่งไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุดเพื่อซื้อเตาหลอมยาธรรมดาทั่วๆไป
ส่วนผสมยาและวัสดุอื่นๆ ถึงแม้นี่จะเป็นครั้งแรกในการสกัดกลั่นยา แต่หยางเฉินก็ได้ใช้หินจิตวิญญาณทั้งหมดที่เขาได้รับจากตำหนักเย่ซิว
ซื้อส่วนส่วนผสมยามากมายและเตาหลอมยาก่อนที่หยางเฉินจะทำการเก็บตัวเพื่อเริ่มต้นบนถนนแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ
ในตำหนักเก้าปฐพี นอกเหนือจากเซิ่นต้า หูหลินและคนรับใช้อื่นๆของเขา
ไม่มีใครมองสิ่งที่หยางเฉินกำลังทำในแง่ดี พวกเขาต่างไม่คิดว่าหยางเฉินจะทำมันได้สำเร็จ
แต่เซิ่นต้าและคนรับใช้ทั้งสามคน ได้เห็นหยางเฉินสามารถขจัดสิ่งสกปรกของยาได้ด้วยมือเดียวอย่างง่ายดาย
ดังนั้นพวกเขาจึงมั่นใจว่าหยางเฉินจะทำมันได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามในตำหนักเก้าปฐพีทุกคนรวมทั้งคนรับใช้ของเขาต่างอยากรู้ว่าหยางเฉินจะทำการกลั่นสกัดยาอะไร
โดยไม่คำนึงถึงว่าหยางเฉินจะทำการกลั่นสกัดได้สำเร็จหรือไม่ วัตถุดิบสมุนไพรทั้งหมดล้วนหาซื้อได้ตามปกติในโลกมนุษย์
โดยที่สมุนไพรทั้งหมดเกือบโตเต็มที่ แต่พวกมันก็ยังคงห่างไกลในการที่จะช่วยเพิ่มพลังจิตวิญญาณ
ใช้ส่วนผสมยาทั่วๆไปเหล่านี้ ยาชนิดใดที่เขาจะสามารถสกัดกลั่นได้? แม้ว่าแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จในการใช้เตาหลอม
แต่มันก็สามารถทำให้คุณสมบัติของยาสูญเสียไปมากกว่าเก้าในสิบส่วน
เกือบทุกคนในตำหนักเก้าปฐพีคิดเช่นนี้
ชูเฮิงย่อมต้องได้ยินข่าวนี้ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อหน้าคนอื่น
เพียงหัวเราะเยาะอยู่ภายในใจของเขา และใช้ศิษย์ที่ใกล้ชิดกับเขาเพื่อกระจายข่าวนี้ออกไปทุกหนทุกแห่งแม้แต่ในหมู่ศิษย์สายใน
ข่าวที่ว่าศิษย์สายนอกที่ไม่มีพื้นฐานใดๆ
ได้พยายามอย่างไร้สาระที่จะเข้าถึงสวรรค์
ในขณะที่อยู่ในดินแดนรวบรวมลมปราณขั้นหนึ่ง ได้แพร่กระจายออกไปทั่วจนเข้าถึงหูของศิษย์หลายคน
ศิษย์ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างดูถูกหยางเฉิน อย่างแน่นอนว่าข่าวของหยางเฉินย่อมก่อให้เกิดการระคายเคืองขึ้นภายในใจของพวกเขา
หยางเฉินเปิดห้องที่สกัดกลั่นยาออกมา ด้วยความช่วยเหลือของหูหลินที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ
เขาเริ่มผสมยาตัวแรกเป็นครั้งแรกหลังจากการเกิดใหม่
หยางเฉินเลือกที่จะผลิตยาโบราณ คนส่วนมากไม่ได้ตระหนักถึงยาชนิดนี้นัก
เมื่อสามร้อยปีที่ผ่านมา ยาตัวนี้ได้ถูกผลิตขึ้นและถูกเรียกว่า ‘ยาเม็ดสวีนฉี’
ส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในการทำยาชนิดนี้มาจากสมุนไพรทั่วๆไป คุณสมบัติของยาเม็ดชนิดนี้
มันจะไม่สามารถเพิ่มพลังจิตวิญญาณหรือฟื้นฟูพลังได้ มันไร้ประโยชน์สำหรับเหล่าศิษย์ที่อยู่ในดินแดนรวมรวมลมปราณขั้นหนึ่ง
แต่สำหรับผู้เตรียมเป็นศิษย์ที่เพิ่งเริ่มต้นทำการบ่มเพาะ มันกลับเป็นยาอายุวัฒนะที่มีประโยชน์อย่างมาก
ยาสวีนฉี เป็นยาที่สามารถเพิ่มการรับรู้ปราณอมตะให้แม่นยำมากขึ้น หลังจากที่กินยาชนิดนี้แล้วความสามารถในการรับรู้ปราณของคนธรรมดาทั่วไปจะเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าและพวกเขาจะสามารถรับรู้ถึงปราณธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย
เนื่องจากมันเป็นเม็ดยาที่ไร้ประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในดินแดนลมปราณ
หยางเฉินจึงไม่ยอมเสียวัตถุดิบสมุนไพรอันมีค่าที่ได้มาจากสวนสมุนไพรแห่งภูเขาเซียงหยาง
(จิตรกรรมดวงอาทิตย์) ที่สมุนไพรทุกชนิดเติบโตเต็มที่มีอายุครบหนึ่งพันปีหรือมากกว่า
ถึงแม้จะเป็นสมุนไพรสามัญทั่วๆไป แต่พวกมันก็มีคุณสมบัติยาที่มากผิดปกติ
ดังนั้นการใช้ส่วนผสมทั่วๆไปที่ซื้อมาจากเมืองในการทำยาเม็ดนี้ มันก็เหมาะสมแล้ว
หยางเฉินไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหูหลิน หากแต่สั่งเธอให้ความสนใจกับการควบคุมเปลวไฟ
หูหลินได้เตรียมทุกอย่างที่ต้องการไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้กองส่วนผสมยาที่ต้องการได้ถูกวางไว้ใกล้ๆเธอ เพื่อรอคำแนะนำของหยางเฉินต่อไป
หลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จและพร้อมแล้ว หยางเฉินนั่งลงบนเสื่อที่ปูบนพื้น
มือทั้งสองของเขาลูบไปที่ด้านข้างของเตาหลอมตรงหน้าเขาและเริ่มแผ่ความร้อนของเปลวเพลิงออกไป
ในก่อนหน้านี้หยางเฉินได้เลือกทักษะการบ่มเพาะธาตุไฟขั้นสี่
จากห้องความสำเร็จในตำหนักเย่ซิว เพื่อสร้างไฟขั้นที่สี่ด้วยมือของเขา เปลวไฟสีขาวสองเส้นปรากฏบนมือทั้งสองข้างของหยางเฉินและบรรจบกันในเตาหลอม
เปลวไฟทั้งสองสายประสานกัน พวกมันถักทอกันจนเป็นเส้นด้ายรูปเกลียวสองเส้น
เกลียวทั้งสองขดรอบจากขอบของเตาหลอมวนลงไปยังแกนกลางของเตาหลอม
หยางเฉินยังไม่ได้เริ่มต้นการกลั่น เขาทำเพียงแค่ควบคุมเปลวไฟ
หูหลินที่นั่งอยู่ตรงข้ามและเฝ้าดูสิ่งที่หยางเฉินทำอย่างตั้งใจ เธอมองดูด้วยความชื่นชม
ในช่วงเวลาสั้นๆหลายวันที่ผ่านมา การควบคุมเปลวไฟของหยางเฉินเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น
เส้นเรียวของเปลวไฟบางมากเพราะถูกดึงและรีด จนทำให้รู้สึกว่าเปลวไฟที่เห็นไม่น่าจะมีความร้อนใดๆ
พวกมันมีลักษณะเป็นเกลียวเล็กๆบางละเอียดที่สามารถมองเห็นได้ภายในเตาหลอม
ใครจะรู้ว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาจากไฟ?
"ดอกคำฝอย!" หยางเฉินพูดอย่างกระทันหัน
หูหลินไม่กล้าที่จะประมาทและรีบใส่ดอกคำฝอยลงไปในเตาหลอม
"สมุนไพรเซินตาน!" หลังจากที่ดอกคำฝอยถูกโยนเข้าไปในเตาหลอม
หยางเฉินกล่าวอีกครั้ง หูหลินผู้ซึ่งถูกเรียกในก่อนหน้านี้ ไม่ได้งงงัน
เธอทำการใสเซินตานลงไปในเตาหลอม
ทั้งสองสมุนไพรถูกห้อมล้อมด้วยเกลียวไฟ ในทันทีที่พวกมันอยู่ในเตาหลอม
พวกมันเริ่มที่จะไหลไปพร้อมกับเกลียวเปลวไฟ หมุนเป็นวงกลมสองวง ภายใต้การใส่ใจของหูหลิน
ที่จ้องมองพวกมันกลายเป็นของเหลวยา
ส่วนผสมทั้งสองนี้เป็นสมุนไพรธรรมดาทั่วๆไป หากทำการดูแลไม่เหมาะสม
พวกมันก็จะถูกเผาไหม้ได้ในทันที แต่ในขณะนี้พวกมันทั้งสองกลายเป็นของเหลวโดยไม่ถูกเผาไหม้แม้แต่น้อย
หูหลินรู้สึกประหลาดใจอยู่ภายในใจ แต่เธอควบคุมความรู้สึกนี้เอาไว้
ก่อนที่เธอจะคว้าส่วนผสมอื่นต่อไปและจ้องมองไปในเตาหลอมยารอคำแนะนำต่อไปของหยางเฉิน
หลังจากใส่สมุนไพรอื่นลงไปในเตาหลอม หูหลินอดที่จะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ดูเหมือนว่าหยางเฉินตั้งใจควบคุมเปลวไฟเพื่อละลายยาเหล่านี้
และหมุนไปตามเปลวเพลิงเรื่อยๆ มันน่าจะด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง
อย่างไรก็ตามหูหลินเข้าใจอย่างชัดเจนว่า แม้ว่าเธอจะมีสูตรและปริมาณสมุนไพรที่แน่นอน
แต่เธอก็ไม่มีความสามารถที่จะควบคุมเปลวเพลิงในแบบนี้ได้และก็ไม่สามารถผลิตยาชนิดนี้ได้
ครึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานี้อุณหภูมิของเตาหลอมยาถูกควบคุมในจุดที่กำหนด
นี่เป็นอุณหภูมิที่สำคัญในการกลั่นสกัดยาสวีนฉี ถ้าไม่แม่นยำ
มันจะกลายเป็นการผลิตของเสีย ที่ไม่มีคุณสมบัติของตัวยาแม้แต่น้อย
ในที่สุดช่วงเวลาแห่งการรวบรวมยาสวีนฉีก็มาถึง
หยางเฉินทำการรวบรวมยาด้วยวิธีพิเศษเป็นอย่างมาก
อย่างน้อยหูหลินก็ไม่สามารถเข้าใจได้ในสิ่งที่เธอกำลังมองดูอยู่ ไม่เพียงแต่หูหลิน
แม้แต่นักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นๆในโลก พวกเขาก็จะไม่สามารถรับรู้ถึงทักษะการเก็บยาแบบนี้ได้
หยางเฉินได้เรียนรู้การรวบรวมยาเม็ดนี้จากคัมภีร์ยาที่ท่านศาลอาวุโสสูงสุดมอบให้
ท่านศาลอาวุโสสูงสุดมีความรู้ในระดับสูงมากในการผสมยาเม็ดโดยไม่เป็นรองใคร
นอกจากนี้ยาเม็ดที่ได้รับการกลั่นสกัดจากเตาหลอมของท่านศาลอาวุโสสูงสุดยังไม่มีที่เปรียบ
นี้ไม่เพียงแค่คุณภาพของเตาหลอมเท่านั้น แต่ยังเนื่องมาจากทักษะการเก็บรวบรวมยาที่มีลักษณะเฉพาะที่พัฒนาโดยเขา
ทักษะการรวบรวมยานี้เป็นอีกหนึ่งทักษะในการรวบรวมยาอื่นๆ
ที่หยางเฉินพบว่าเหมาะสำหรับตัวเขาเอง หลังจากคิดมาอยู่สักพักหนึ่ง หยางเฉินเคยกลั่นสกัดยาอายุวัฒนะเพียงครั้งเดียวในชีวิตก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบทักษะการควบคุมไฟของเขา
เขาได้รับความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุ
หยางเฉินสามารถประมาณว่าควรใช้เคล็ดวิชาใดในการแยกสกัดยา
พร้อมด้วยสัญญาณจากหยางเฉิน ของเหลวจากสมุนไพรภายในเตาหลอมยาเริ่มแยกออกจากกันเป็นหลายชิ้น
ทุกชิ้นมีขนาดเล็ก พวกมันเริ่มหมุนไปรอบๆและต่อมากลายเป็นวงกลมและแข็งตัวในเวลาไม่ถึงสองเค่อ
พวกมันทั้งหมดกลายเป็นเม็ดยากลมและอวบอ้วน
ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังถือยาเม็ดเหล่านี้อยู่ พวกมันลอยอยู่ภายในเตาหลอม
ไม่นานหลังจากที่หยางเฉินหยุดจ่ายเปลิวเพลิงจากมือของเขา ยาเม็ดเหล่านี้ร่วงลงไปที่ก้นของเตาหลอมยา
หยางเฉินเผยรอยยิ้มออกมา แล้วหยิบขวดหยกที่เตรียมไว้เมื่อนานมาแล้วเพื่อเก็บยาเม็ดสวีนฉีเหล่านี้
ต่อมาทั้งเขาและหูหลินก็หยิบเอายาออกมาหนึ่งเม็ดเพื่อตรวจสอบ
มันเป็นการกลั่นสกัดที่พอเหมาะพอดี
เม็ดกลมผิวเรียบสม่ำเสมอตลอดทั้งเม็ด ทุกคนที่ได้เห็นมันจะต้องทำการบิดมันด้วยนิ้วมือของพวกเขา
แต่น่าเสียดาย ที่มันเป็นยาเม็ดที่ดีไม่ได้มีกลิ่นหอมของสมุนไพรหรือกลิ่นเหม็นเช่นยาระดับต่ำๆ
ที่จริงยาอายุวัฒนะนี้จะไม่มีกลิ่นใดๆ ซึ่งจริงๆจะทำให้คนอื่นๆรู้สึกงงงัน ถ้าหูหลินไม่ได้เห็นหยางเฉินทำการกลั่นสกัดตัวยานี้ได้สำเร็จ
เธอก็คงจะไม่เชื่อว่านี่เป็นยาอายุวัฒนะ
หูหลินไม่เข้าใจในเรื่องนี้ แต่หยางเฉินเข้าใจมันดีอย่างเห็นได้ชัดเจน
มันไม่มีกลิ่นยา เพราะตัวยาทั้งหมดของมันถูกกักเก็บไว้ภายในยาเม็ด โดยไม่มีการรั่วไหลแม้แต่น้อย
มันเป็นยาเม็ดสวีนฉีที่สมบูรณ์แบบและทำลายไม่ได้ หยางเฉินรู้สึกพอใจกับตัวเองมากในการกลั่นสกัดยาชนิดนี้เป็นครั้งแรก
"นายน้อย ยาเม็ดนี้มีประโยชน์หรือไม่?" หูหลินถามออกไปด้วยความกระวนกระวาย
เธอไม่เคยได้ยินสูตรยานี้มาก่อน และด้วยเคล็ดวิชาที่ดูแปลกๆ
เธอถามหลังจากคิดถึงเรื่องนี้มานานแล้ว
"สำหรับเจ้าและข้า ยาเม็ดนี้มันไร้ประโยชน์!" หยางเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย
มันทำให้หูหลินรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้รับคำตอบเช่นนี้
"ไร้ประโยชน์สำหรับระดับรวบรวมลมปราณ?" เนื่องจากมันไร้ประโยชน์สำหรับหยางเฉินและตัวเอง
หูหลินจึงคิดว่ามันคงเกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะ
หยางเฉินพยักหน้าและยืนยันการคาดคะเนของหูหลิน แววตาของหูหลินเปล่งประกายออกมา
"มันอาจเป็นยาอายุวัฒนะที่มีประโยชน์สำหรับระดับการบ่มเพาะก่อสร้างรากฐาน?"
"มันก็ยังไร้ประโยชน์สำหรับระดับก่อสร้างรากฐาน!" หยางเฉินตอบอีกครั้ง
ทันใดนั้นหูหลินก็กลายเป็นคนขี้สงสัย มันไร้ประโยชน์สำหรับระดับรวบรวมลมปราณและระดับก่อสร้างรากฐาน
ดังนั้นมันก็น่าจะเป็นประโยชน์กับระดับก่อลำต้นหรือไม่? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ยาเม็ดนี้กลั่นสกัดมาจากสมุนไพรทั่วๆไป!
"เจ้าไม่จำเป็นต้องเดาอีกต่อไป ยาเม็ดนี้มีประโยชน์สำหรับคนธรรมดา
เพื่อประโยชน์ของเหล่าผู้เตรียมเป็นศิษย์" หยางเฉินตอบคำถามของหูหลินโดยตรง
หลังจากที่หูหลินได้ยินคำตอบนี้ เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาได้สูญเสียส่วนผสมมากมายเพื่อประโยชน์ของเหล่าผู้เตรียมเป็นศิษย์
มันหมายความว่าเขาจะไม่ได้รับผลกำไรอะไรจากยาเม็ดนี้?
"อย่าร้อนใจไป ก่อนอื่นเอายาเม็ดนี้ไปที่หอโอสถ
เพื่อทำการประเมิน บางทีเราอาจจะได้รับความประหลาดใจที่ดี?" หยางเฉินไม่ได้บอกข้อมูลทั้งหมดนี้กับหูหลิน
หากแต่ปล่อยให้เธอคิดไปเอง
หอโอสถ รับผิดชอบในการซื้อและขาย ยาอายุวัฒนะทุกชนิดและวัตถุดิบภายในพระราชวังหยางบริสุทธ์
นอกจากนี้ยังมีสาขาย่อยในตำหนักเก้าปฐพีโดยเฉพาะเพื่อให้บริการแก่ศิษย์สายนอก
โดยทั่วไปการซื้อและขายผ่านหอโอสถ สามารถใช้คะแนนสะสมได้ เช่นเดียวกันถ้าใครสามารถกลั่นสกัดยาอายุวัฒนะได้
หอโอสถก็ยินดีที่จะซื้อหรือแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนสะสม
"เจ้าคือหยางเฉิน?" ผู้อาวุโสของหอโอสถกวาดตามองไปที่หยางเฉิน เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นหยางเฉินพยักหน้ายอมรับ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับหยางเฉิน แต่เขาก็อดทนและพยายามที่จะให้คำแนะนำแก่หยางเฉินว่า
"การบ่มเพาะต้องมีลักษณะที่มั่นคงและจริงจัง หากเจ้าต้องการฝึกฝนการเล่นแร่แปรธาตุ
เจ้าต้องยกระดับการบ่มเพาะของเจ้าและค่อยกลับมาอีกครั้ง เจ้าไม่ควรเสียเวลาของเจ้าเพื่อทำอย่างอื่นที่ไร้ประโยชน์สำหรับเจ้า”
เมื่อได้ยินคำแนะนำนี้หยางเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งื เนื่องจากคนอื่นกำลังเป็นห่วงถึงผลประโยชน์ของหยางเฉิน
ถ้าคนอื่นแสดงเจตนาที่ดีต่อเขาหยางเฉินก็จะไม่รู้สึกแย่กับพวกเขา
"ขอบคุณมากสำหรับความปรารถนาดีของท่าน" หยางเฉินป้องมือเพื่อแสดงความขอบคุณ
ก่อนที่จะหยิบขวดหยกที่มีส่วนผสมของยาเม็ดสวีนฉี เขาส่งมันให้กับผู้อาวุโสและบอกว่า
"อาวุโสช่วยประเมินยาเม็ดนี้ด้วย คุณภาพของยาเม็ดนี้เป็นอย่างไร?"
"ยาเม็ดนี้คืออะไร?" ผู้อาวุโสของหอโอสถหยิบยวดหยกขึ้นมาและเปิดมันออกมา เขามองไปที่ยาและถามว่า
"ลักษณะภายนอกดูดี แล้วมันมีประโยชน์หรือไม่?"
"ตอนที่ข้าฉันอยู่ที่ตำหนักเย่ซิว ข้าได้กินสมุนไพรไม่กี่ชนิดซึ่งเป็นประโยชน์ในการเพิ่มการรับรู้ปราณ
มันทำให้การรับรู้ของข้าดีขึ้น ดังนั้นข้าจึงพยายามที่จะกลั่นสกัดพวกมัน แต่ไม่ทราบว่าข้าประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ขอบคุณสำหรับความยากลำบากของผู้อาวุโสแห่งหอโอสถในการตรวจสอบพวกมัน"
หยางเฉินหาข้ออ้างบางอย่างเพื่อปกปิดเกี่ยวกับสูตรยา
เพื่อให้มันดูสมเหตุสมผลมากขึ้น
"ข้าจะยอมรับยาเม็ดของเจ้า เจ้าก็ควรกลับไปและรอฟังข่าวการประเมินของยาเม็ดนี้
มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน" ผู้อาวุโสหอโอสถ ไม่พูดมาก เขาได้บอกหยางเฉินในสิ่งที่จำเป็นไปหมดแล้ว
ในเมื่อหยางเฉินได้กลั่นสกัดพวกมันมาแล้ว มันก็ไร้ประโยชน์ที่จะแนะนำเขาอีกครั้งเพื่อให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะของเขา
ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติตามกฎของหอโอสถและบอกหยางเฉินให้คอยฟังผลการประเมิน
หยางเฉินได้กลับมาที่ลานบ้านของเขา เพื่อทำการบ่มเพาะและรอฟังผล แต่ในระหว่างนั้นกลับมีข่าวลือมากมายที่เริ่มกระจายออกไปทั่วทั้งตำหนักเก้าปฐพี
เนื้อความก็ประมาณว่าหยางเฉินนั้นไม่รู้จักขีดจำกัดความสามารถของตัวเองได้กลั่นสกัดยาอายุวัฒนะจากส่วนผสมสมุนไพรธรรมดา
แล้วนำไปที่หอโอสถเพื่อทำการประเมิน ผู้อาวุโสของหอโอสถได้ทำการตรวจสอบเป็นเวลาครึ่งวัน
ปรากฏว่าสิ่งนี้ไร้ประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับระดับรวบรวมลมปราณและระดับก่อสร้างรากฐาน
ผู้คนที่ได้ยินข่าวลือนี้ต่างหัวเราะเยาะเย้ยอย่างมากมาย เซิ่นต้า
หูหลินและคนรับใช้คนอื่นๆที่ทำงานเดินเรื่องทำธุระต่างๆให้กับกับหยางเฉินภายในตำหนัก
ต่างก็ต้องเผชิญหน้ากับการสบประมาทหรือในบางครั้งก็เห็นใจของเหล่าผู้คนในทุกที่ที่พวกเขาได้เดินผ่านไป
บางคนก็รู้สึกสงสารด้วยที่ว่าพวกเขาได้ติดตามเจ้านายที่ไม่สมควรอย่างเช่นหยางเฉิน
ในตอนนี้ทุกคนต่างเชื่อมั่นว่าเรื่องของหยางเฉินจะต้องกลายเป็นเรื่องตลก
เมื่อผลการประเมินยาเม็ดอายุวัฒนะออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงรอคอยที่จะเยาะเย้ยหยางเฉินอย่างเต็มที่
ผู้อาวุโสหอโอสถเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กว้างขวาง เพียงแค่ชิมยาเม็ดนี้
ภายในครึ่งวันเขาก็สามารถตรวจสอบคุณสมบัติทางยาได้ เขาสามารถบอกได้ว่ามันไม่ได้ผลสำหรับระดับรวบรวมลมปราณและระดับก่อสร้างรากฐาน
มันแน่นอนอยู่แล้วว่ามันย่อมไร้ประโยชน์ ยาอายุวัฒนะนี้ทำมาจากส่วนผสมธรรมดาเท่านั้น
แล้วมันจะมีผลต่อระดับก่อลำต้นได้อย่างไร?
ในขณะที่ทุกคนในตำหนักเก้าปฐพีกำลังรอหยางเฉินปรากฏตัวที่หอโอสถ
ทันใดนั้นก็ปรากฏบุคคลหนึ่งที่ไม่เคยแวะเข้ามาที่ตำหนักเก้าปฐพีมาก่อน เขาเป็นอาจารย์แห่งหอโอสถของพระราชวังหยางบริสุทธิ์
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น มีนามว่า จูเฉินเตา
จูเฉินเตาเดินเข้าไปในสาขาของหอโอสถในทันทีและรีบถามคนที่รับผิดชอบว่า
"หยางเฉินอยู่ที่ไหน? หยางเฉินผู้ที่กลั่นสกัดยา
สวีนฉี อยู่ที่ไหน? นำข้าไปพบเขา!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น