ขณะที่หยางเฉินได้เดินผ่านสวนผลไม้หยางล้ำเลิศ
เขาก็ได้พบกับสถานที่อีกแห่งหนึ่ง
ที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นสวนยาสมุนไพรที่กว้างใหญ่ที่มีสมุนไพรมากมายหลายชนิด
แต่มันกลับมีสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิด อยู่กระจัดกระจายตามบริเวณด้านข้างของภูเขา สวนสมุนไพรแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง
สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับสมุนไพรแต่ละชนิดนั้นมีความแตกต่างกัน หรืออาจกล่าวสั้นๆได้ว่าสวนสมุนไพรแห่งนี้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของส่วนผสมยาทั้งหลาย
สมุนไพรเหล่านี้ถึงแม้มันจะมีจำนวนไม่มากนัก หยางเฉินกวาดตามองพวกมันเล็กน้อยเพื่อทำการตรวจสอบ
โสมมีใบอย่างน้อยสามถึงหกใบ ถึงแม้ว่ามันจะโผล่พ้นผิวดินเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถเผยให้เห็นรากและใบของมันได้อย่างชัดเจน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีของเขา เพียงแค่ชำเหลืองตามองก็สามารถตรวจสอบอายุของโสมได้อย่างรวดเร็วว่าพวกมันนั้นมีอายุไม่ต่ำกว่าสองพันปีขึ้นไป
โสมทั้งสามชนิดได้ถูกนำมาปลูกที่สวนสมุนไพรแห่งนี้เมื่อตอนที่พวกมันมีอายุหนึ่งพันปีอยู่แล้ว
หลังจากได้ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งพันปีในสวนสมุนไพรแห่งนี้ แก่นแท้ของโสมเหล่านี้ก็เกือบที่จะสมบูรณ์
การจัดอันดับของนิกายปะคำทองคำในขณะที่อยู่ระดับก่อสร้างรากฐานนั้นมันจะเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
การสกัดกลั่นโสมพันปีเพื่อให้เป็นน้ำมันธรรมชาติ มันจะเพิ่มโอกาสให้กับเขาอย่างน้อยสามเท่าเลยที่เดียว
โสมทั้งสามชนิดเพียงพอต่อความต้องการของหยางเฉินที่จะนำมันมาสกัดกลั่นเป็นสามเม็ดยาธรรมชาติ
เมื่อเวลานั้นมาถึงไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือผู้อาวุโสที่ต้องการจะก้าวผ่านคอขวดพวกเขาทั้งหมดสามารถใช้มันเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับพวกเขาได้
ส่วนประกอบสำคัญทั้งเจ็ดอันได้แก่รากโสมที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มีอยู่ทั้งหมดสี่ราก
ส่วนใหญ่ของเห็ดหลินจือที่อยู่ใต้ดิน ยังไม่ต้องกล่าวถึงสมุนไพรชนิดอื่นๆ เพียงแค่โสม
เห็ดหลินจือ หัวพืชสมุนไพรเหล่านี้มันก็ล้ำค่าจนหาที่เทียบไม่ได้
ด้วยลักษณะเฉพาะของมันที่คล้ายกับมนุษย์ซึ่งบ่งบอกว่าโตเต็มที่เมื่ออายุครบสี่พันปี
ทันใดนั้นหยางเฉินก็ระลึกถึงใบสั่งยาเม็ดไข่มุกแห่งความงามที่ได้รับมาจากฉางเอ๋อเทพจันทรา
ตัวยาหลักของยาชนิดนี้คือรากมนุษย์ซึ่งครบกำหนดสามารถเก็บได้ตั้งแต่ต้นปี
ประสิทธิภาพของตัวยาค่อนข้างดีทีเดียว น่าจะมีเพียงแค่หยางเฉินที่สามารถได้รับเม็ดยาชนิดนี้
เขาสามารถบ่มเพาะเคล็ดวิชาหัวใจแห่งความงามโดยใช้ยาเม็ดไข่มุกแห่งความงามเฉกเช่นเหล่าสาวงามทั้งหลาย
ไม่ต้องกล่าวถึงเห็ดหลินจือ แม้ว่ามันจะเป็นส่วนประกอบยาที่มีอยู่ทั่วๆไป
แต่ถ้าเป็นเห็ดหลินจือที่มีอายุมากกว่าสองพันปีนั้นค่อนข้างที่จะหาได้ยาก ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ร้ายแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตราบใดที่เขายังคงมียาเห็ดหลินจือ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอก ได้รับบาดเจ็บทั้งภายในและภายนอก
เขาก็สามารถที่จะรักษาและฟื้นฟูอาการให้กลับคืนมาได้ราวกับปาฏิหาริย์เหมือนกับสามารถทำคนฟื้นจากความตาย
ในอีกด้านหนึ่งของสวนสมุนไพรเป็นบริเวณของการแพร่ขยายที่กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง
ของสมุนไพรประเภทเห็ดเชื้อราไม้ ยางไม้เจ็ดวิญญาณ โสมมนุษย์ กล้วยไม้ยืนต้นสูงและโสมมนุษย์เพศหญิง
ซึ่งมีความแตกต่างจากสวนผลไม้หยางล้ำเลิศ บริเวณแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีความขัดแย้งกันมหาศาล
อย่างไรก็ตามพวกมันเป็นเพียงส่วนผสมของยาสามัญธรรมดาทั่วๆไปเท่านั้น เมื่อพวกมันมีอายุครบหนึ่งพันปี
และถูกนำมากลั่นสกัดพวกมันจะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นถึงเจ็ดเท่าเป็นอย่างน้อย
ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพรชนิดใดก็ตามที่หยางเฉินสามารถคิดถึง เขาสามารถที่จะหาพวกมันได้ทั้งหมดจากที่สวนสมุรไพรแห่งนี้
เพาะปลูกเป็นเวลานับพันปีพร้อมด้วยสารอาหารที่เป็นพลังจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มันสามารถเปลี่ยนได้แม้กระทั้งสมุนไพรธรรมดาทั่วไปให้กลายเป็นสมุนไพรที่โดดเด่นขึ้นมาได้
หยางเฉินรู้สึกตกตะลึงกับภาพที่เห็นมัน มันคือพื้นที่ที่มีไว้เพื่อสะสมความมั่งคั่ง
คงไม่ประหลาดใจเท่าใดนักหากจะ มีนิกายใดมาค้นพบสวนสมุนไพรแห่งนี้เข้าและสามารถก้าวไปเป็นผู้นำได้ในชีวิตก่อนหน้านี้
ด้วยวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมของยาที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้นสามารถนำมาสกัดกลั่นเป็นเม็ดยาระดับสูงได้เป็นจำนวนมาก
มันยังจะสามารถช่วยในเรื่องของการบ่มเพาะได้อย่างมหาศาล! หรือแม้กระทั่งหยางเฉินไม่ต้องทำสิ่งใด
เพียงแค่เขานำวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมของตัวยาเพิ่มเหล่านี้ไปที่โรงประมูลเท่านั้นตัวเขาก็จะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลและร่ำรวยมหาศาล
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายตัวเขาช่างโชคร้ายที่ตอนนี้ระดับการฝึกฝนของเขาอยู่ที่ระดับรวบรวมลมปราณเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเขาปรารถนาที่จะปรุงเม็ดยาอมตะ แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้
ด้วยระดับพลังจิตวิญญาณขั้นก่อสร้างรากฐานยังไม่เพียงพอที่จะสามารถปรุงเม็ดยาอมตะขึ้นมาได้
ด้วยระดับพลังจิตวิญญาณที่น้อยนิดมันจะถูกใช้หมดไปในระยะเวลาที่รวดเร็ว อย่างน้อยที่สุดเขาต้องอยู่ในระดับขั้นออกผล
มันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาในการปรับแต่งถ้าเม็ดยานั้นมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับสามัญทั่วไป
ดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสมุนไพรไม่ว่าเขาจะหันไปทางไหน
สิ่งเดียวที่หยางเฉินทำได้ในตอนนี้คือกินพวกมันเช่นเดียวกับผลไม้หยางล้ำเลิศ และทำการประสานหยินหยางทั้งห้าธาตุเข้าด้วยกันพร้อมกับควบแน่นพวกมันด้วยพลังจิตวิญาณในร่างกายของเขาเอง
ในตอนนี้ หยางเฉินได้ตัดสินใจที่จะเก็บสวนสมุนไพรนี้ไว้ก่อน
ด้วยข้อกำหนดที่มีความซับซ้อนมากมาย ทรัพยากธรรมชาติล้ำค่าจำนวนมากเหล่านี้ถ้ามันถูกค้นพบโดยผู้อื่น
หยางเฉินคาดว่าพวกเขาคงจะสูญเสียการควบคุมตนเอง โชคดีที่อำนาจในการควบคุมขวดแก้วใสที่เป็นแกนหลักของสวนสมุนไพรอยู่ในกำมือของหยางเฉินเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
เมื่อเขาตัดสินใจออกจากสวนสมุนไพร เพียงชั่วอึดใจหยางเฉินได้หายตัวไปจากใจกลางของสวนสมุนไพร
ขวดแก้วใสได้ปรากฏอยู่บนมือของเขาอีกครั้ง ขณะที่หัวใจของเขาเต้นแรงเขายกมือขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อรับพระราชวัง
พระราชวังที่เคยมีขนาดใหญ่ในก่อนหน้านี้ มันค่อยๆหดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็วจนเหลือขนาดเท่าฝาขวด
ฝาขวดที่มีรูปทรงคล้ายโดมได้คลอบลงไปบนขวดแก้วใสอย่างลงตัว
อาคมสะกดกองทัพกระบี่สี่สิบเก้าเล่มได้ถูกร่ายขึ้นมาอีกครั้ง
พวกมันกำลังบินไปบนฝาปิดขวดรูปทรงโดมอย่างต่อเนื่องราวกับหางปลาสี่สิบเก้าตัวที่ปราดเปรียว
อาคมนี้มันสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกได้ มันทำให้หยางเฉินได้แต่มองด้วยความเสียดาย
ด้วยที่ว่าระดับการบ่มเพาะของเขานั้นยังต่ำเกินไปสำหรับสิ่งนี้ คางต้องปล่อยกระบี่อาคมให้อยู่ของมันไปเช่นนี้
แม้ว่าเขาจะมีกระบี่บิน เขาก็ยังไม่สามารถที่จะใช้มันได้
ดังนั้นในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่มองมันเท่านั้น
ถือว่าโชคยังดีที่หยางเฉินสามารถเก็บรวบรวมพวกมันได้ทั้งหมดถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้พวกมันได้แต่มันก็ยังทำให้เขามีความสุขอย่างประหลาด
ขวดแก้วใสได้ถูกปิดผนึกไว้ด้วยฝาเป็นที่เรียบร้อย รวมกันเป็นคู่ ราวกับสวรรค์และปฐพี รวมสวนสมุนไพรกับอาคมกระบี่ป้องกัน นับจากนี้ไปหยางเฉินได้ครอบครองภูเขาหยางเซียงสวนสมุนไพรแห่งนี้แล้ว
หลังจากที่ได้เก็บขวดแก้วใสที่ถูกปิดสนิทด้วยฝาโดมแล้ว
ทันใดเงาของหยางเฉินได้ปรากฏขึ้นอยู่ที่ด้านบนของภูเขาหยางซึ่งขณะนี้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เขาเคยพรางตัวได้หายไปแล้วทำให้ดูราวกับว่าเขายังคงยืนอยู่ที่สถานที่เดิม
เขากำขวดที่ถูกปิดผนึกไว้ในมือ
เมื่อเขาได้ทำการเชื่อมโยงกับสวนสมุนไพรที่มีขอบเขตกว้างใหญ่แห่งนี้
เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยมือจากมัน
แม้จนถึงตอนนี้หยางเฉินเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่า ความมั่งคั่งจำนวนมากพร้อมกับทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้อยู่ในมือของเขา
ในชีวิตก่อนหน้าของเขา เพียงแค่มีผลไม้สวรรค์หมื่นปีไว้ในครอบครองก็อาจจะมีความผิดร้ายแรงสำหรับผู้ที่มีฐานะต่ำต้อย
มันจึงเป็นสิ่งดึงดูดความโชคร้ายมาให้กับตัวเขาอย่างต่อเนื่องและมากมาย
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์นี้ ภาพอดีตของอาจารย์ของเขาที่มีดวงตาอันงดงาม ขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับประตูแห่งความตายมันถูกฝังแน่นอยู่ภายในจิตใจของหยางเฉินมันได้ปรากฎขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากนั้นภาพของอาจารย์หญิงในขณะที่เธอได้ยื่นกระบี่ประกายแสงส่งมาให้แก่เขา
หยางเฉินสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่มีอยู่ในหัวใจของเขาอย่างน่าประหลาด
เขาก้มศรีษะมองขวดแก้วใสที่ถูกฝาปิดสนิทในมือของเขา ในขณะนี้
หยางเฉินรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มาจากด้านบนของขวด ในตอนนี้มันแน่ชัดแล้วว่าเขาเป็นผู้ครอบครองและเป็นเจ้าของความมั่งคั่งนี้
มันอาจจะสามารถล่อลวงได้แม้แต่ผู้ที่มีจิตใจแข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้
เขาค่อยๆเก็บขวดไว้ในแหวนแห่งความสำเร็จอย่างใจเย็น ในตอนนี้หยางเฉินรู้สึกโล่งอก
ถึงแม้ว่าจะเป็นที่โลกมนุษย์มันก็เป็นการยากที่ใครจะขโมยแหวนแห่งความสำเร็จไปจากเขา
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเปิดถุงจักรวาลได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถมองทะลุผ่านวัตถุสวรรค์
ซึ่งวัตถุสวรรค์ชิ้นนี้เป็นของหยางเฉินผู้ซึ่งเป็นเจ้าของ
แน่นอนอยู่แล้วว่ามีเพียงแค่เขาที่สามารถใช้มันได้
ขณะที่เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในใจ หยางเฉินได้จัดการกับกองกระดูกของซากสัตว์กองโตที่อยู่บนพื้นดินใกล้กับตัวเขา
กระดูกที่ถูกทับถมอัดแน่นจนมีขนาดเกือบเท่าภูเขาหนึ่งลูก
หยางเฉินไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนักหากจะมีผู้ใดมาค้นพบมันเข้า
หากคำนวณเวลาแล้ว วันที่นิกายของอาจารย์หญิงในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาจะเปิดรับคัดเลือกศิษย์ใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว
ถ้าเขาเริ่มออกเดินทางในตอนนี้มุ่งไปตามเส้นทาง เขาก็ยังพอมีเวลาที่จะแวะกลับบ้านได้
เพื่อที่จะได้ไปเยี่ยมเยียนบิดามารดาของเขาแล้วหลังจากนั้นค่อยเดินทางไปยังพระราชวังหยางบริสุทธิ์เพื่อจะได้กลายไปเป็นผู้บ่มเพาะพลังอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ใช้เวลาในการตัดสินใจชั่วครู่
หยางเฉินก็เริ่มตระเตรียมสิ่งต่างๆ เนื่องจากนี่เป็นเส้นทางใหม่ของการบ่มเพาะพลัง
แน่นอนมันย่อมแตกต่างไปจากชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาอย่างสิ้นเชิงมีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงเดิมนั่นก็คือเขาสามารถที่จะแสดงออกถึงความเคารพต่ออาจารย์คนเดิมได้
ท่านอาจารย์ท่านโปรดรอข้า ข้ากำลังจะไปหาท่าน...สองสามวันมานี้คฤหาสน์ตระกูลหยางได้ตกแต่งโคมไฟป้ายผ้าหลากสีและติดสัญลักษณ์ของงานเทศกาลอย่างเตะตา
ไม่ว่าจะเป็นถึงผู้นำตระกูลหยางหรือชาวนาในหมู่บ้านและแม้แต่ผู้เช่าที่นาทั้งหลาย ทุกคนต่างล้วนมีสีหน้าที่ร่าเริง
นายน้อยของตระกูลหยางผู้ซึ่งได้จากบ้านไปไกลนานถึงหกเดือนขณะนี้ได้กลับมาถึงเมื่อสองวันก่อนเพื่อเยี่ยมเยียนบ้านใหญ่
นายท่านตระกูลหยางและฮูหยินต่างรู้สึกยินดี พวกเขาต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความปีติยินดี
ด้วยเพราะนายท่านได้มอบของกำนัลให้กับผู้เช่าแต่ละครัวเรือนจนครบทุกครอบครัว
ทั่วทั้งคฤหาสน์บรรยากาศโดยรอบเปี่ยมล้นด้วยความรู้สึก และงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่
ปกติแล้วหยางเฉินเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวเขาให้กับบิดาและมารดาได้รับรู้
แต่เขาจะทิ้งยันต์ต่างๆไว้ให้ซึ่งมีจำนวนอย่างน้อยห้าสิบชิ้นไว้กับพวกท่านทั้งสอง
เขาได้ทำการปรับแต่งยันต์เหล่านี้โดยใช้เคล็ดวิชากลั่นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ คุณสมบัติของพวกมันสามารถใช้เพื่อปกป้องคุ้มภัยบิดาและมารดาของเขา
ยามใดที่พวกมันถูกกระชากหรือฉีกขาดออกจากกัน
พวกมันจะเกิดปฎิกิริยาตอบสนองพร้อมโจมตีได้ในทันที
อย่างไรก็ตามหยางเฉินไม่ลืมที่จะย้ำเตือนพวกเขาทั้งสองอีกครั้ง
เพราะในช่วงสองปีนี้จะมีการก่อกบฏในอาณาเขตนี้ เขาได้วางยันต์มายาตามเส้นทางต่างๆมากกว่าสิบเส้นทางรอบๆบริเวณเทือกเขา
หากมีคนนอกบุกรุกเข้ามาในพื้นที่นี้พวกมันจะสับสนและงุนงงในทันทีเนื่องจากจะมีภาพลวงตาปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้พวกมันเผลอออกนอกเส้นทางโดยไม่รู้ตัว
ตราบเท่าที่ยันต์ยังคงทำงานอยู่ อย่างน้อยในช่วงเวลาที่สับสนนี้
จะไม่มีผู้ใดจะสามารถรบกวนชีวิตอันสงบสุขของที่แห่งนี้ได้
แม้ว่ายันต์มายาของหยางเฉินจะอยู่ในระดับต่ำมาก
แต่หลังจากที่เขาได้ปรับแต่งโดยใช้เคล็ดวิชากลั่นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์จนส่งผลให้พวกมันมีอานุภาพที่เพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
อีกทั้งการรั่วซึมของพลังจิตวิญญาณมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นซึ่งมีระดับที่เหนือกว่ามัน
เขาก็อาจจะเห็นเป็นเพียงแค่ เศษไม้ใหญ่ภูเขาชิ้นหนึ่งเพียงเท่านั้น
อาจดูเหมือนจะเชื่อได้ยากว่าเขาเป็นผู้ค้นพบคฤหาสน์หลังมหึมา
ซึ่งอย่างไรก็ตามมันอาจจะคาดเดาได้ว่าผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นอยู่ระดับที่ต่ำกว่าเขาฉะนั้นจึงเป็นแค่เพียงการจัดการสามัญชนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ดังนั้นครอบครัวของเขาก็น่าจะปลอดภัยดีอยู่
เพื่อที่จะดูแลสุขภาพของบิดามารดา หยางเฉินขบคิดหาวิธีที่ดีที่สุด
ในเวลานี้เขายังไม่สามารถที่จะกลั่นยาใดๆได้
แต่เขาสามารถใช้ร่างกายของเขากลั่นยาที่ได้มาจากท่านหญิงซือ
นั่นก็คือยาเม็ดเสริมร่างกาย คุณสมบัติก็เหมือนดั่งเช่นชื่อของมัน
นอกเหนือจากการกระตุ้นรากจิตวิญญาณของคนผู้นั้นแล้ว
ด้วยประสิทธิภาพของมันยังทำให้มีรูปร่างสมส่วน
แน่นอนว่ามันเป็นสินค้าที่หายากสำหรับสามัญชนทั่วไป
หยางเฉินแบ่งเม็ดยาเสริมร่างกายออกเป็นสองส่วน
เพื่อประโยชน์สูงสุดของบิดาและมารดาของเขานั้น
ถ้าพวกท่านทั้งสองได้กินยาเม็ดเสริมร่างกายในช่วงวัยนี้ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะกระตุ้นรากจิตวิญญาณของพวกเขา
แต่เนื่องจากบิดามารดาของหยางเฉินนั้นมีร่างกายค่อนข้างแข็งแรงอย่างมาก
เนื่องจากการดูแลเอาใจใส่อย่างดีและบำรุงร่างกายด้วยยาที่หลากหลาย
หยางเฉินกำลังเลือกใบของผลไม้หยางล้ำเลิศอย่างระมัดระวังมาจำนวนหนึ่งและคิดค้นสูตรการชงชา
โดยต้มพวกมันแล้วกรองออกเหมือนการชงชาแบบดั้งเดิมอย่างที่บิดามารดาของเขาได้เคยทำ
ใบของผลไม้หยางล้ำเลิศมันเต็มไปด้วยอานุภาพของพลังงานจิตวิญญาณเล็กๆ
ซึ่งเหมาะต่อการดูดซับอย่างช้าๆสำหรับสามัญชนทั่วไป หากบิดาและมารดาได้ดื่มชาชนิดนี้เป็นประจำ
มันจะสามารถเพิ่มอายุขัยให้แก่พวกเขาได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานป้องกันโรคภัยต่างๆ
หลังจากที่เขาได้ดูแลบิดาและมารดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หยางเฉินได้ออกเดินทางอีกครั้ง สองเดือนต่อมาหยางเฉินก็ได้มาปรากฏตัวที่หน้าประตูของพระราชวังหยางบริสุทธิ์
ที่ตั้งอยู่บนภูเขาเหมยชิง ขณะที่เขาก้าวย่างไปที่ตีนเขาของภูเขาเหมยชิง หลายภาพเหตุการณ์ที่คุ้นเคยได้ผ่านเข้ามาในม่านตาของเขา
ภาพแล้วภาพเล่า ท่ามกลางภาพเหตุการณ์ที่คุ้นเคย ความทรงจำที่ปลื้มปิติจากในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาก็ได้ปรากฏอยู่ในใจของเขา
ในตอนนี้มันยังเหลือเวลาอีกหลายวันก่อนที่จะถึงวันที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์เปิดรับศิษย์ใหม่
เมืองเล็กๆที่อยู่ด้านล่างของภูเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยฝูงชนที่ต่างมุ่งหน้ามาที่ตัวเมืองเพื่อมาเผชิญโชค
ประชากรดั้งเดิมของเมืองนี้เดิมทีมีหลายร้อยคนแต่ปัจจุบันนั้นมีมากกว่าสองพันคนโดยประมาณมี
ซึ่งทั้งนี้มันรวมทั้งเยาวชนและครอบครัวของพวกเขา
ในตัวเมืองต่างคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่แน่นขนัด
ในทุกๆปี ภายในตัวเมืองมักจะพบเหตุการณ์เช่นนี้ ดังนั้นชาวบ้านจึงไม่รู้สึกประหลาดใจอีกต่อไป
และได้ใช้โอกาสนี้เพื่อหารายได้เสริม
ทุกหลังคาเรือนจะมีห้องไว้ให้ผู้มาเยือนได้เช่าพักอาศัย หากกล่าวถึงในเรื่องของความปลอดภัย
พวกเขาไม่ค่อยใสใจมันเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยพระราชวังหยางบริสุทธิ์นั้นใกล้เวลาที่เปิดรับศิษย์ในอีกไม่ช้า
ผู้ใดที่บังอาจทำให้อาจารย์เซียนของพระราชวังหยางบริสุทธิ์นั้นโกรธเคือง
หรือต้องการจะท้าทายกฎหมาย?
หยางเฉินรีบเร่งฝีเท้าในการเดินทางเพื่อให้เขานั้นได้เหลือเวลาพักผ่อน
นอกจากเคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้งแล้วเขาก็ไม่ได้ทำการบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาใดๆอีก
เนื่องจากความโชคร้ายของเขาในตอนที่เขาฝึกทักษะประสานห้าธาตุทำให้พลังจิตวิญญาณภายในร่างกายของเขานั้นเหือดแห้งจนเหลือเพียงน้อยนิด
แต่ในขณะเดียวกันพลังงานที่หลงเหลืออยู่ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็บริสุทธิ์เป็นอย่างมาก
ด้วยเพราะเหตุนี้ทำให้ศิษย์สายนอกที่ควบคุมดูแลการทดสอบของศิษย์เก่านั้นจึงไม่อาจตรวจพบพลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ภายในตัวของหยางเฉินได้
ยิ่งไปกว่านั้นหยางเฉินก็ดูเหมือนไม่น่าที่จะมีสิทธิ์ได้เข้าพบกับหัวหน้าของอาจารย์ผู้สอน
ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคน ประตูหลักของพระราชวังที่ตั้งอยู่ตีนเขาของภูเขาเหมยชิงในที่สุดก็เปิดออกมา
เผยให้เห็นแถวนับสิบของเหล่าศิษย์ที่สวมใส่ชุดที่ดูคล้ายกันปรากฏตัวแนวแถวยาวอยู่ด้านหลังของประตู
ภายในส่วนด้านในของพระราชวังนั้นมีพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆปรากฏอยู่
การทดสอบเพื่อเข้านิกายจะใช้การทดสอบที่เรียบง่ายผ่านพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆนี้
ในช่วงเวลาสั้นๆ เหล่าผู้เยาว์ทั้งหกแบ่งออกเป็น
เด็กชายสามคนและเด็กผู้หญิงสามคนได้เดินออกไปจากประตูและเข้าแถวแบ่งออกเป็นสองแถวในแต่ละด้านของประตู
และเริ่มที่จะรอเหล่าเยาวชนที่เข้ามาในพื้นที่เล็กๆโดยการเดินเข้าแถว
เพื่อทดสอบรากจิตวิญญาณและตัดสินว่าพวกเขาเหมาะที่จะเป็นศิษย์สายนอกหรือไม่
หยางเฉินอยู่ตรงกลางของแถว เขารอคนข้างหน้าเข้าไปในพระราชวัง ท่าทางของเขาในตอนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเยาวชนคนอื่นเขาดูสงบและไม่ทุกข์ร้อนสิ่งใด
การทดสอบนั้นผู้เข้าทดสอบจะเข้าไปทีละคนสำหรับการทดสอบรากจิตวิญญาณของเหล่าเยาวชน
ถ้าใครที่ถูกพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม
ชื่อของเขาก็จะถูกประกาศออกมาให้เป็นศิษย์สายนอกของราชวังหยางบริสุทธิ์
ถ้าไม่มีรากจิตวิญญาณที่เหมาะสม พวกเขาก็จะต้องเดินออกไปอีกด้าน เพื่อออกไปจากนิกาย
สิบศิษย์สายนอกเป็นผู้ดูแลเยาวชนจำนวนสองพันคน
ภายใต้คำสั่งที่ชัดเจนไม่มีแม้แต่ความสับสนอันน้อยนิด
ในที่สุด ก็ถึงรอบของหยางเฉิน หยางเฉินสูดลมหายใจลึก
เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาสั่นหัวของเขาเล็กน้อย
เขาเคยมีประสบการณ์กับสามภัยพิบัติและเก้าความยากลำบาก เขารู้สึกกระวนกระวายในการทดสอบรากจิตวิญญาณขนาดเล็ก
เขากลัวจะเสียหน้า เขาพยายามข่มอารมณ์ประหม่าของเขา
หยางเฉินก้าวเข้าไปในพื้นที่เล็กๆ ภายใต้การควบคุมดูแลโดยศิษย์สายใน
มือทั้งสองค่อยๆกดลงไปที่ค่ายกลสำหรับการทดสอบรากจิตวิญญาณ
หลังจากผ่านไปหลายลมหายใจ ค่ายกลก็เริ่มเผยสีให้เห็นได้ชัด ในเวลาเดียวกันหนึ่งตัวเลขก็ปรากฏหลังจากที่มองค่ายกลสักครู่
ศิษย์ก็ตะโกนออกมาว่า
“รากจิตวิญญาณธาตุไฟ เจ็ดสิบเอ็ด”
ทันใดนั้น ผู้คนมากมายก็เริ่มแสดงความคิดเห็น: “เจ็ดสิบเอ็ด รากจิตวิญญาณธาตุไฟ
มันเป็นความสามารถที่ดี”
“ผ่านไปอีกหนึ่ง”
……
“เจ้าชื่ออะไร” ในระหว่างการโต้ตอบกับศิษย์พี่ที่คุ้นเคย
ผู้ซึ่งดูแลหยางเฉินในชีวิตก่อนหน้า ถามออกมาเสียงดัง
“หยางเฉิน” หยางเฉินอุทานออกมาอย่างเร่งรีบ
ทันใดนั้นในอดีตศิษย์พี่สามารถจับคำได้สองคำ
“หยางเฉิน?”
ศิษย์พี่ที่มีท่าทางคุ้นเคย อ่านชื่อของหยางเฉิน
และทันใดนั้นท่าทางของเขาก็ออกอาการแปลกๆ เขาลดร่างกายของเขาลงเล็กน้อยเพื่อสร้างเครื่องรางหยกที่อยู่ในมือของเขา
หลังจากร่ายอาคมของเขาลงไปในยันต์ก่อนที่จะมองมันอีกครั้ง ทันใดนั้นสีหน้าเขาแสดงออกถึงความประหลาดใจ
เขาถามออกมาว่า “เจ้าคือเพชฌฆาต?”
หยางเฉินจ้องมองแบบหน้าตาย เมื่อตอนที่เขามีชื่อเสียงแม้แต่คนรุ่นหลังๆของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ก็ยังรู้จักเขาในนามของมือเพชฌฆาต? หยางเฉินพยักหน้าแม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจ
“ใช่!”
หยางเฉินตอบกลับ
ด้วยมันไม่ใช่เรื่องที่น่าละอายใจ หยางเฉินไม่แม้แต่คิดที่จะปฏิเสธ
“เมื่อสองสามเดือนก่อน เจ้าได้ฆ่าคนมากกว่าพันคน?” ศิษย์พี่ได้ถามอีกครั้ง คำพูดเหล่านี้ เป็นสาเหตุทำให้ศิษย์คนอื่น
อยากที่จะร้องให้ออกมาด้วยความสะพรึงกลัว
“ใช่” เมื่อผู้อื่นล่วงรู้ว่าเขาเคยเป็นเพชฌฆาต
พวกเขาก็ควรจะรู้ว่าเขาทำอะไรมาบ้างในฐานะของมือเพชฌฆาต
ถึงกระนั้นหยางเฉินก็ยอมรับ ภายในหัวใจของเขารู้สึกสงสัย ใครที่ต้องการต่อต้านข้า?
หรือจะเป็นอาจารย์นิกายของชายที่พยายามจะกำจัดเขาที่ภูเขาหยางเซียง?
“เจ้า...เพชฌฆาต ผู้ฆ่า โดยไม่คำนึงถึงผลใดๆ เจ้ากล้าที่จะโกหกเพื่อที่จะบ่มเพาะพลัง?
เจ้าไม่เกรงกลัวสวรรค์ลงโทษ?” ทันใดนั้น
เสียงที่หยาบคายผิดปกติ ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของห้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น