กระบี่บินทั้งหมดสี่สิบเก้าเล่มอยู่ในรูปแบบเฉพาะ เจ็ดแถวในแนวตั้งและเจ็ดแถวในแนวนอน ค่ายกลเจ็ดก้าวสิ้นชีพ! มันทำให้ผู้คนในชีวิตก่อนหน้าของหยางเฉินอกสั่นขวัญแขวน
เจ้าภูเขาได้ทิ้งสถานที่แห่งนี้ไว้เบื้องหลัง เมื่อนานมาแล้ว ก่อนที่หยางเฉินจะขึ้นไปมีอำนาจบนสวรรค์
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันก็ไม่มีใครที่จะสามารถผ่านเข้าไปได้
ไม่ต้องพูดถึงว่าหยางเฉินในปัจจุบันระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ระดับรวบรวมลมปราณ หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอก
เพียงหนึ่งก้าวพลาดพลั้งพวกเขาจะถูกสังหารโดยกระบี่บินทั้งสี่สิบเก้าเล่มในทันที
ในชีวิตก่อนหน้า นิกายได้ค้นพบและครอบครองสวนสมุนไพรในภูเขาเซียงหยางแต่พวกเขาก็ต้องแลกมาซึ่งผู้เชี่ยวชาญในระดับผลิดอกจำนวนมากที่ต้องตายไป
ในขณะนี้ หยางเฉินกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างที่เป็นสุดยอดค่ายกลอักขระต้องห้าม
แต่อย่างไรก็ตามหยางเฉินก็มีวิธีที่จะทะลวงเข้าสู่แกนกลางของค่ายกลที่ควบคุมกองทัพกระบี่
ในความคิดของเขาแล้วสิ่งนี้ไม่เป็นอันตรายเลยแม้แต่น้อย
ภายในห้องโถงใหญ่ในขณะนี้ นอกจากหยางเฉินแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีก
ไม่มีสิ่งใด ทุกอย่างว่างเปล่า พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของเขาเป็นอิฐทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส
มันเรียบเหมือนกระจกที่มันวาว เมื่อหยางเฉินก้าวเหยียบลงไปเขารู้สึกถึงความอบอุ่น
พลังจิตวิญญาณของที่นี่ค่อนข้างจะมีปริมาณปกติ ไม่เหมือนด้านนอกที่ค่อนข้างเบาบาง
หยางเฉินยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงของพระราชวังอย่างพอดิบพอดี
การผ่านเข้ามาในนี้ได้นั้นเขาต้องอำพรางตัวผ่านต้นไม้ใหญ่สลับไปมาจนถึงที่นี่
เป็นที่แน่ชัดว่าชิ้นส่วนของวัสดุปูพื้นที่อยู่ใต้เท้าของเขาควรเป็นจุดเริ่มต้นของค่ายกลกระบวนท่าเจ็ดก้าวสิ้นชีพ
สี่สิบเก้าก้าว ทุกๆก้าวมีตำแหน่งที่แน่นอนของมัน
เพียงก้าวเดียวที่ผิดพลาด ชีวิตก็จะจบลง
แม้ว่าหยางเฉินได้วางแผนล่วงหน้าไว้ทุกๆอย่างทั้งยังมีประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมามากมาย
เขายังคงประสาทเสียอย่างมากในขณะที่เขายืนอยู่บนขอบเหวแห่งความตาย
หลังจากที่เขาก้าวออกไปอีกสองสามก้าวอย่างระมัดระวัง
ในที่สุดหยางเฉินก็ค่อยๆสงบสติลงและกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆก้าวเข้าสู่จุดกึ่งกลางของขบวนทัพกระบี่ที่มีการจัดรูปแบบสี่สิบเก้ากระบี่ในแบบเจ็ดแนวตั้งเจ็ดแนวนอน
เท้าของหยางเฉินก้าวไปหยุดอยู่บนแท่นศิลาสีขาว
ทันใดนั้นก็ปรากฏเงาแสงอัดเจิดจ้าขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งและหายไป มันคงสภาพเดิมไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อครู่ที่ผ่านมา การก้าวของหยางเฉินขณะที่เหยียบลงพื้นดูเหมือนว่าจะมีความผิดพลาด
เขายังคงไม่อาจเห็นได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือเขาได้เหยียบไปบนก้อนอะไรบางอย่าง มันแตกต่างออกไป พร้อมกันนั้นปรากฏเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
แม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกใจ การรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขาก็ได้เริ่มรู้สึกถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เปลี่ยนไป
ฉับพลันเขาพบว่าตัวเขามาอยู่ในสถานที่ที่หนึ่ง
พระราชวังขนาดมหึมาหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ที่ใจกลางของพื้นที่
ที่ด้านบนของพระราชวังมีโดมที่คุ้นตาประดับประดา อย่างไรก็ตามภายในพระราชวังแห่งนี้มันไม่ได้ว่างเปล่า
แต่มันเต็มไปด้วยกองกระดูกขนาดใหญ่ของเหล่าสัตว์ป่าทั้งหลาย
ศูนย์กลางของพระราชวังมหึมาแห่งนี้หนาแน่นไปด้วยโครงกระดูก
มีทั้งโครงกระดูกของสัตว์ป่าประเภทต่างๆ บางส่วนยังคงรูปลักษณ์เดิมของพวกมัน
บางส่วนกลายเป็นกองกระดูกแห้งๆ อย่างไรก็ตามมันมีสิ่งหนึ่งที่กองกระดูกเหล่านี้มีเหมือนๆกัน
คือร่องรอยที่เกิดจากกระบี่ปรากฏอยู่บนกระโหลกหัวของบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลาย มันเป็นร่องรอยที่นำไปสู่ความตาย
หยางเฉินตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าแท้จริงแล้วกองทัพกระบี่ได้ถูกใช้ในที่แห่งนี้เพื่อทำการสังหารผู้บุกรุกและโยนซากศพของพวกมันออกมา
ไม่มีใครได้มาที่นี่เป็นเวลานานมากแล้ว อย่างไรก็ตาม มันมีเพียงกองกระดูกมากมายไม่ว่าจะเป็นของสัตว์ป่าหรือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอเมื่อได้ถูกพบเห็นหลังจากหลุดออกมาจากการพรางตัวตามต้นไม้ใหญ่
เป็นโชคร้ายสำหรับพวกมัน แค่เพียงการจู่โจมเพียงครั้งเดียวจากกระบี่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอก
ดังนั้นแม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายก็ไม่สามารถที่จะหนีรอดไปได้
ก่อนหน้านี้
เพียงแค่ชำเลืองมองหยางเฉินได้ค้นพบว่าพวกมันได้ตายในทันที จากบางซากศพของพวกมันที่ยังไม่ผุพัง
ชัดเจนว่าสัตว์อสูรเหล่านี้มีระดับที่สูงกว่าระดับก่อสร้างรากฐาน
กฐาน
ด้านนั้นมันเป็นพญางูที่มีขนาดยาวหลายสิบฉื่อ (ฟุต) และมีปีกสองข้างที่ยกขึ้นบนหลังของมัน
เพียงมองครั้งหนึ่งก็ยืนยันได้แน่นอนว่ามันเป็นงูมังกรบิน
แม้ว่างูมังกรบินได้ตายไปแล้ว
แต่ระหว่างดวงตาทั้งสองข้างของมันเป็นรูที่ถูกทะลวงด้วยกระบี่
หนังงูที่ปกคลุมร่างของมันยังสมบูรณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ปีกของมันยกขึ้นทั้งสองข้างเสมอกันทั้งความยาวและความห่าง
มีเพียงเลือดเนื้อของมันที่แห้งเหือด
ใต้หนังงูคือโครงกระดูกงูที่สมบูรณ์ไม่เปลี่ยนแปลง แม้แต่พลังลมปราณของมันที่สมควรจะมีอยู่ภายในซากศพกลับหายไปไม่มีแม้แต่ร่องรอยของพวกมัน
อีกด้านมันเป็นวิหกซูชางจินเพิง (นกยักษ์ที่วิวัตน์มาจากปลายักษ์)
ระยะระหว่างปีกทั้งสองข้างของมันหลายสิบฉื่อ ด้านบนหัวของมันมีรอยแผลเป็นที่คล้ายกัน
ร่างสีทองของมันยังคงสภาพไว้เช่นเมื่อยังมีชีวิตอยู่
เลือดเนื้อของมันแห้งเหือดลงเช่นกัน มีเพียงโครงกระดูกที่เหลืออยู่
พลังลมปราณของมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
เสือโคร่งขนาดใหญ่ ส่วนหัวของมันอยู่ในลักษณะท่าทางที่กำลังมองไปยังสวรรค์
หนังเสือยังสมบูรณ์ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับโครงกระดูก
และอีกครั้งที่ไม่พบพลังลมปราณใดๆหลงเหลืออยู่
……
ไม่คาดคิดว่าที่แห่งนี้มันจะมีโครงกระดูกระดับสูงจำนวนมาก สำหรับหยางเฉินมันดูแล้วน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
ตอนแรกเขารู้สึกประทับใจกับสวนสมุนไพร
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะพบกับเรื่องที่น่าประหลาดใจเหล่านี้ ท่ามกลางโครงกระดูกที่มากมายเพียงแค่ชำเลืองมองอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินสามารถกะคร่าวๆได้ว่าพวกมันจำนวนมากได้ทะลุขอบเขตธาตุทอง*ไปแล้ว
ส่วนที่เหลือพวกมันทั้งหลายอยู่ในระดับก่อสร้างรากฐาน
TTL:*ยังไม่มีคำอธิบายของระดับนี้ในภาคอังกฤษ
โครงกระดูกของสัตว์อสูรเป็นวัสดุชั้นเยี่ยมในการหลอมรวม เลือดเนื้อและขนอาจจะมีประโยชน์หรืออาจจะไม่มีประโยชน์มันขึ้นอยู่กับว่านำไปใช้กับอะไรและสถานะของผู้ใช้อยู่ระดับไหน
หยางเฉินเศร้าใจเพียงแค่ว่าพลังลมปราณของสัตว์อสูรที่ดุร้ายเหล่านี้ได้หายไปหมดแล้ว
พวกมันถูกดูดซึมไปโดยอาคมของอักขระต้องห้าม เพื่อแปลงไปพลังหล่อเลี้ยงสมุนไพร
พวกสมุนไพรมันจำเป็นต้องได้รับพลังลมปราณบริสุทธิ์
เขากวาดตามองไปที่ซากกองกระดูกอย่างรวดเร็ว แล้วทำการเก็บพวกมันเข้าไปในแหวนแห่งความสำเร็จทั้งหมด
หยางเฉินค่อนข้างรู้สึกโล่งใจ เมื่อพวกโครงกระดูกสัตว์อสูรที่มีอยู่ตั้งแต่ต้นได้ถูกเก็บไปหมดแล้ว
หลงเหลือไว้เพียงแต่ส่วนที่เน่าเสีย แน่นอนว่าพวกมันหาประโยชน์อันใดไม่ได้
สิ่งเหล่านี้ ปกติแล้วหยางเฉินจะรู้สึกรังเกียจขยะแขยงพวกมัน
หลังจากกวาดตามองไปรอบๆด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา เมื่อไม่มีสิ่งใดที่สมควรเก็บรวบรวมอีกต่อไป
หยางเฉินก็เริ่นต้นสังเกตสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีประตูอยู่ที่นี่
ดังนั้นมันจึงควรเป็นเส้นทางที่จะเข้าไปยังสวนสมุนไพร
อย่างรวดเร็ว หยางเฉินได้ค้นพบแท่นศิลาสีขาวหนึ่งแท่น มันดูเหมือนกับอันที่เขาเหยียบภายในค่ายกลกระบี่บิน
มันมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใต้ห้องโถง หลังจากที่เขาทำการสำรวจไปรอบๆ เขาไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ
ดังนั้นเขาจึงก้าวขึ้นไปเหยียบบนแท่นศิลาสีขาวอีกครั้ง
ทันใดนั้น สภาพแวดล้อมที่เคยอยู่ต่อหน้าเขาก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นห้องเล็กๆ
ภายในห้องหยางเฉินพบ ขวดแก้วใสสะอาดหนึ่งขวด แท่นศิลาขาวมันดูมีความซับซ้อนหลอกลวงค่อนข้างมาก
เมื่อเขามองเข้าไปที่ก้นของขวดแก้วใส
มันสามารถมองเห็นร่องรอยของของเหลวสีฟ้าที่ตอนนี้มันแห้งไปเกือบทั้งหมดแล้ว
เมื่อมองสิ่งนี้หยางเฉินตัดสินใจที่จะเข้าไปยังใจกลางของสวนสมุนไพร
ขวดแก้วใสที่ปรากฏในสายตาของเขาเป็นแกนหลักของสวนสมุนไพร
นั่นหมายความว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตยาทั้งหมดในสวนสมุนไพร
ขวดแก้วใสที่ว่านั้นสวรรค์ได้ใช้มันเป็นอุปกรณ์ช่วยในการหลอมหลวม
มันดูดซับพลังจิตวิญญาณและโคจรพลังจิตวิญญาณให้วนรอบตัวมันเป็นวงกลมหลายรอบ
ก่อนที่จะควบรวมเข้าด้วยกันเพื่อหักล้างกฏที่ได้บัญญัติไว้โดยเจ้านายเก่าของมัน
โดยธรรมชาติความต้องการของพืช...มันมีความต้องการพลังจิตวิญญาณในการเติบโต
การเชื่อมต่อเข้ากับขวดแก้วใสนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าภูเขาเซียงหยางในขณะนี้ได้ยอมรับหยางเฉินแล้ว
ความทรงจำในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ มีนิกายที่ค้นพบสวนสมุนนไพรแห่งนี้
ในเวลานั้นมันต้องการความสามารถของผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกจำนวนสี่คนจึงจะสามารถเชื่อมต่อกับขวดแก้วใสใบนี้ได้สำเร็จ
แต่อย่างไรก็ตามหยางเฉินไม่ได้เจอกับปัญหาอะไรมากมาย
เจ้าภูเขาได้เผยความลับทุกอย่างของสวนสมุนไพรต่อหยางเฉิน
เมื่อเขาอยู่ที่ด้านหน้าของประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยที่เขาล่วงรู้ความลับเหล่านี้มันทำให้หยางเฉินทำการเชื่อมต่อกับสวนสมุนไพรแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
เช่นที่ควรจะเป็น เคล็ดวิชาลับสุดยอดเกือบทั้งหมดของทักษะลับของสวนสมุนไพรเป็นพลังของของเหลวสีฟ้านี้
แม้ความจริงที่ว่าหยางเฉินมีระดับบ่มเพาะเพียงระดับแรก รวบรวมลมปราณ เขาได้ใช้ทักษะลับนี้เชื่อมต่อกับขวดแก้วใสและยังคงเหลือพลังลมปราณสำรองไว้
เมื่อหยางเฉินใช้ทักษะลับบนขวดแก้วใสไปชั่วขณะหนึ่ง ขวดแก้วใสจ่ายพลังงานออกมาในทันที
มันเปลี่ยนแปลงเป็นแสงและร่วงลงบนฝ่ามือของหยางเฉิน
หยางเฉินรับรู้ถึงขวดแก้วใสในมือของเขา จิตใจของเขาถูกรบกวน อย่างรวดเร็วร่างของเขาก็ไปปรากฏอยู่ที่ใจกลางของสวนสมุนไพรขนาดใหญ่
หลังจากที่หายจากการตกตะลึง อย่างช่วยไม่ได้ หยางเฉินได้เพียงแค่กวาดตามองไปรอบๆตัว
มันไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร หากเมื่อมองหาส่วนประกอบหลักในการสกัดกลั่น ‘ยาเม็ดก่อรากฐาน’ แม้กระทั่งผลไม้หยางล้ำเลิศ
ยังต้องจ่ายอย่างน้อยด้วยจำนวนหลายพันหินจิตวิญญาณ แต่ที่ด้านหน้าของหยางเฉิน
พวกมันมีลักษณะคล้ายพืชประเภทกะหล่ำ
ทั่วทั้งสวนจากมุมมองของหยางเฉินล้วนเป็นพวกมัน เขามองไปรอบๆด้วยความตกใจและไม่สามารถกล่าวคำใดๆออกมาได้แม้แต่เพียงคำเดียว
เหตุผลที่ทำไม ยาเม็ดก่อรากฐาน มันล้ำค่าอย่างมากก็เพราะว่ามันยากที่จะหาผลไม้หยางล้ำเลิศระดับต่ำ
แม้ว่าจะมีเงินทองมากมาย มันก็ไม่ได้หามาได้อย่างง่ายๆ เจ้าโอสถระดับสูงสุดจะใช้ผลไม้หยางล้ำเลิศหนึ่งลูกในการปรุงยาเม็ดก่อรากฐานได้ในจำนวนสองเม็ด
ซึ่งมันทำให้มูลค่าของยาเม็ดก่อรากฐานสูงมาก
ที่ด้านหน้าสายตาของหยางเฉิน เป็นพื้นที่ขนาดอย่างน้อยหกสิบหมู่
(เอเคอร์) มันเต็มไปด้วยผลไม้หยางล้ำเลิศ แม้ว่าหยางเฉินจะไม่ทราบวิธีการเพาะปลูกที่เจ้าภูเขาใช้
มันเป็นเรื่องที่ค่อนยากที่รากของผลไม้หยางล้ำเลิศจะเติบโตและอยู่รอด
ใบทั้งหมดที่อยู่บนกิ่งก้านสาขาค่อนข้างหนาแน่น ทุกต้นจะมีผลไม้สีแดงหนึ่งลูก มันเป็นผลไม้หยางล้ำเลิศสีแดงสดใส
ต้นละหนึ่งผลเมื่อมองรวมๆกันพวกมันดูราวกับตะเกียงส่องแสงสีแดงดวงน้อยๆ
เหลือเชื่อที่ว่าที่แห่งนี้มีผลไม้หยางล้ำเลิศเป็นจำนวนมาก ไม่แน่มันอาจจะมีมากถึงหลายหมื่นลูก
หยางเฉินไม่กล้าที่จะคิดว่ายาเม็ดก่อรากฐาน จำนวนมากเท่าไหร่ที่จะสามารถสกัดกลั่นออกมาได้จากผลไม้หยางล้ำเลิศจำนวนมากเหล่านี้
หากผลไม้หยางล้ำเลิศจำนวนมากได้ปรากฏในตลาดตัวเมือง
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อสร้างรากฐานที่สามารถสร้างขึ้นมาได้จะมีจำนวนมากสักเท่าไหร่กัน?
หยางเฉินเอื้อมมือของเขาออกไปเพื่อเด็ดผลไม้หยางล้ำเลิศมาหนึ่งลูก
เขาวางมันบนมืออย่างระมัดระวังและพิจารณามันอย่างละเอียด
ผลไม้หยางล้ำเลิศที่หยางเฉินเคยเห็นมาในก่อนหน้านี้ พวกมันมีขนาดประมาณลูกพุทรา
แต่มันที่อยู่บนมือเขาขณะนี้มีขนาดที่ใหญ่มากกว่าสามเท่า หรืออาจกล่าวได้ว่ามันมีขนาดประมาณลูกท้อ
แม้เมื่อตอนที่เขาถือมัน หยางเฉินรู้สึกได้ถึงความหนักที่กดลงบนมือเขา
ผลไม้หยางล้ำเลิศเหล่านี้มีระยะสุกงอมในทุกๆพันปีหรือมากกว่านั้น
หากพูดถึงผลที่จะได้รับจากการทำยามันสามารถเพิ่มได้มากกว่าสิบหรืออาจจะร้อยเท่า
แต่พวกมันคือผลไม้หยางล้ำเลิศจริงๆหรือ?
เมื่อมองไปที่ ผลไม้หยางล้ำเลิศลูกอวบสีแดงสดใส
ความกระหายของหยางเฉินเพิ่มขึ้น อย่างไม่ต้องคิดอะไร หยางเฉินยกผลไม้และทำการกัดกินมันราวกับกระต่ายกัดกินหัวผัก
รสชาติเปรี้ยวที่คุ้นเคยอยู่ในปากของเขา
ประสาทการรับรู้ทั้งห้าของหยางเฉินพุ่งไปที่หนึ่งความรู้สึก ‘เปรี้ยว’ มันคือรสชาติของผลไม้หยางล้ำเลิศเมื่อกินทั้งเปลือก
มันก็ไม่แย่ซะทีเดียว
นั้นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมรสชาติของยาเม็ดก่อรากฐานไม่ค่อยดีเท่าไหร่มันก็เนื่องมาจากเปลือกของมัน
อย่างไรก็ตาม หยางเฉินก็อยากที่จะยืนยันรสชาติของมันอีกครั้ง
“อ่า...”
หลังจากที่คายเปลือก เขากัดมันลงไปเต็มคำอีกครั้งหนึ่ง
ฟันของเขาทะลุผ่านผิวของมันเผยถึงแกนกลางของผลสีแดงขนาดเท่าผลท้อ
หยางเฉินใช้ลิ้นของเขาเพื่อที่จะลิ้มรสของแกนกลาง รสชาติที่หวานหอมมันกระตุ้นจิตวิญญาณของเขา
เขารู้สึกพอใจหลังจากที่เขาได้รับรู้ถึงรสชาติของมัน หยางเฉินได้เอาแกนของผลไม้ออกและเริ่มเคี้ยว
ด้วยรสชาติที่ดีเยี่ยมของมันเกือบจะทำให้เขากลืนแกนผลไม้ลงไปในท้องโดยไม่เคี้ยว
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มันยากถ้าหยางเฉินจะคายเปลือกหนาๆออกมา
แม้ว่ามันจะมีรสชาติไม่ดี แต่เปลือกเป็นส่วนประกอบสำคัญในเม็ดยาของเซียนอมตะ ในขณะที่ประสิทธิภาพของแกนผลไม้จะมีความสำคัญมากที่สุด
อย่างไรก็ตามเปลือกขมของมันก็ยังคงมีผลถึงหนึ่งในสิบของประสิทธิภาพและสามในสิบของพลังจิตวิญญาณของผลไม้
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดผู้ที่กลั่นเม็ดยาของเซียนอมตะในช่วงเวลาที่กำลังสกัดกลั่นเม็ดยาก็ยังไม่เต็มใจที่จะปอกเปลือกออก
แม้ว่ามันจะมีรสขมเขาก็ยังต้องการที่จะใช้มันทั้งหมดอย่างเต็มที่
เมื่อเขาได้ทดลองกับผลไม้หยางล้ำเลิศนับร้อยจากหลายพันลูก
ในที่สุดหยางเฉินก็มีประสบการณ์ในรสชาติแต่ละส่วนของผลไม้หยางล้ำเลิศเป็นอย่างมาก
น้ำผลไม้ที่หวานมันเป็นรสชาติที่กลมกล่อม มันเป็นอาหารที่โอชะ อะ…แม้แต่หลังจากที่กินเขาก็ยังต้องการที่จะกินมันอีก
ในตอนนี้ หยางเฉินก็รู้สึกตัว? เขาก็แค่พยายามตอบสนองความกระหายที่เขามีต่ออาหารชั้นดี
ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะอิ่มมากไปสักหน่อย หลังจากนั้น หยางเฉินก็เริ่มหลอมรวมแกนของผลไม้
ซึ่งมันมีตัวยาสุดยอดพลังอยู่
ในการบ่มเพาะโดยใช้ทักษะประสานหยางห้าธาตุ จะต้องโคจรห้าเส้นทางที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน
พวกมันกำลังดูดซับพลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ในผลไม้หยางล้ำเลิศอย่างบ้าคลั่งและยากที่จะควบคุมได้
เนื่องจากผลไม้หยางมีอายุถึงพันปี
แน่นอนว่าพลังจิตวิญญาณของมันในสวนสมุนไพรนี้ก็ต้องอุดมสมบูรณ์ไปด้วย โดยไม่ต้องมีลูกกลอนเพลิงทองคำ
สายธารแห่งพลังจิตวิญญาณของสมุนไพรที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
เนื่องจากทักษะประสานหยางห้าธาตุ พลังจิตวิญญาณจากห้าทิศทางต่างมุ่งเข้าสู่เส้นลมปราณของหยางเฉินในเวลาเดียวกัน
ตามรูปแบบของทักษะประสานหยางห้าธาตุ และเริ่มต้นโคจรต่อไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด
ธาตุทั้งห้าประทะกันอย่างต่อเนื่อง พลังจิตวิญญาณเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างช้าๆ หยางเฉินรับรู้ได้ในทันทีถึงพลังจิตวิญญาณที่กำลังถูกดูดกลืนเข้าไปในเส้นลมปราณของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
พลังจิตวิญญาณจำนวนมากเริ่มที่จะโคจรเขาสู่เส้นลมปราณของหยางเฉินด้วยความเร่งรีบและไร้การควบคุม
พลังจิตวิญญาณต่างมุ่งเข้าสู่กระดูกแขนและขาทั้งสี่ของเขา หลังจากนั้นทุกๆเส้นลมปราณในร่างของหยางเฉินก็ถูกเติมเต็มด้วยพลังจิตวิญญาณที่ปราดเปรียว
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสรรพคุณทางยาของผลไม้หยางล้ำเลิศไม่ได้กระจายออกไปทั้งหมดและยังคงปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาอย่างต่อเนื่อง
การกินเม็ดยาก่อพื้นฐานให้ผลที่สำเร็จได้ไม่ต่างจากการหลอมรวมลมปราณซึ่งสามารถนำไปสู่การผ่านคอขวดของระดับก่อสร้างรากฐาน
มันเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณที่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้เขาผ่านไปยังระดับก่อสร้างรากฐานได้สำเร็จในเวลาสั้นๆ
ในปัจจุบันหยางเฉินมีระดับการบ่มเพาะเพียงระดับรวบรวมลมปราณ
ดังนั้นด้วยแกนของผลไม้หยางล้ำเลิศที่มีพลังจิตวิญญาณมันเป็นหนทางที่รวดเร็วและราบรื่นที่จะผ่านระดับรวบรวมลมปราณ
ถ้าเป็นในชีวิตก่อนหน้าของเขา หยางเฉินอาจใช้พลังบางส่วยของพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังเพื่อฝ่าไปยังระดับก่อสร้างรากฐาน โดยตรงแต่ในตอนนี้หยางเฉินมีวิธีการบ่มเพาะเพียงวิธีประสานหยางห้าธาตุด้วยทักษะประสานหยางห้าธาตุเท่านั้น
การประสานหยินห้าธาตุไม่อาจกระทำได้ในตอนนี้
มันไม่ใช่ความตั้งใจของเขาที่กระทำให้หยินและหยางไม่มีความสมดุลกัน หยางเฉินออกกระวนกระวายใจเขาเริ่มที่จะตระหนักถึงโชคไม่ดีเกี่ยวกับคุณลักษณะทั้งห้า
การประสานหยางทั้งห้าธาตุได้ฉุดรั้งกันและกัน พวกมันเริ่มที่กลืนกินพลังจิตวิญญาณอย่างช้าๆ
หยางเฉินปราถนาที่จะเห็น คุณลักษณะของห้าธาตุสามารถเอาชนะแต่ละส่วนและแบ่งแยกแต่ละส่วนได้อย่างสมดุลและสมบูรณ์
ห้าประเภทของคุณลักษณะพลังจิตวิญญาณที่แตกต่าง ในการประสานกันในแต่ละครั้งได้ก่อความเสียหายให้กับเขาในทุกครั้ง
พลังจิตวิญญาณเริ่มที่กระชากให้ย้อนกลับและเริ่มที่จะบดขยี้พลังจิตวิญญาณของมันเอง
ด้วยการย้อนกลับของการประสานหยางห้าธาตุ มันเริ่มที่จะกลืนกินพลังจิตวิญญาณอย่างเชื่องช้าๆ
ด้วยวิธีนี้ แม้จะเป็นยาพลังของผลไม้หยางล้ำเลิศ มันยังทำให้หยางเฉินต้องเสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน
อย่างช้าๆจากเริ่มต้น จนหมดเกลี้ยง จนไม่มีอะไรเหลือ
หลังจากนั้นหยางเฉินไม่คาดหวัง เมื่อเขาใช้ทักษะประสานหยางห้าธาตุแบบย้อนกลับมันต้องใช้พลังจิตวิญญาณไปอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งห้าธาตุฝังส่วนของพลังจิตวิญญาณของมันที่ไม่สามารถเอาออกได้
หยางเฉินให้ความสนใจกับจุดเล็กๆที่เหลืออยู่ของพลังจิตวิญญาณเป็นพิเศษ
เขารู้สึกพอใจกับสิ่งที่ค้นพบ นั้นก็คือแก่นแท้บริสุทธิ์ของห้าส่วน
พลังจิตวิญญาณของห้าธาตุ เมื่อหลอมออกมาเป็นพลังจิตวิญญาณของห้าธาตุ
ซึ่งสามารถส่งผ่านถึงแต่ละส่วนได้ กลายมาเป็นแก่นบริสุทธ์ที่ควบแน่นมากขึ้น
พลังจิตวิญญาณนี้ เมื่อเทียบกับในอดีต มันมีคุณภาพที่ดีขึ้นเป็นสองหรือสามเท่าเลยทีเดียว
พลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอด ห้าธาตุทำการสอดประสานกัน
ยกระดับพลังจิตวิญญาณ มันใช้พลังจิตวิญญาณมากกว่าที่เคยใช้ไป นอกจากระดับการบ่มเพาะพลัง
พวกมันทั้งหมดมีประโยชน์อย่างมหาศาล นอกจากนี้บางสิ่งบางอย่างที่หยางเฉินค้นพบ คือทักษะการบ่มเพาะย้อนกลับนั้นสามารถซ่อนการบ่มเพาะของเขาได้อีกด้วย
นี่เป็นผลประโยชน์ที่มหาศาลสำหรับเขาอีกอย่าง
ด้วยผลลัพธ์นี้ แผนการณ์ของเขาที่จะเข้าร่วมกับนิกายของอาจารย์ของเขาอีกครั้ง
ได้ถูกเตรียมไว้พร้อม ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว
เมื่อแกนของผลไม้หยางล้ำเลิศได้ดูดซับไปหมดแล้ว เขาได้หยุดการบ่มเพาะของเขา
นอกจากนั้น เส้นลมปราณในร่างกายของเขาได้ถูกเติมเต็ม
ทั้งร่างกายของเขามีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ทว่าเขากลับรู้สึกผ่อนคลายราวกับว่ากำลังอยู่ในบ่อน้ำร้อน
กลิ่นหอมหวานแผ่กระจายออกมาจากปากเขา แกนของผลไม้หยางล้ำเลิศยังคงทิ้งรสชาติของมันไว้ในใจของหยางเฉิน
หนึ่งแกนของมันสามารถเพิ่มการบ่มเพาะพลังได้
กลิ่นหอมหวานที่แผ่กระจายบางๆไปในอากาศกลิ่นมันออกมาจากปากทะลุถึงท้องของหยางเฉิน
อย่างที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้ เขายังคงมีความสุขกับการกินอาหารโอชะแสนอร่อยที่หายาก
ความรู้สึกของเขาเหมือนกับอาการมึนเมาเนื่องจากดื่มเหล้าหมัก
“มันดูเหมือนว่า
รสชาติของมันจะอร่อยขึ้นหลังจากปอกเปลือก! อะ!”
หยางเฉิน กวาดตามองไปที่ผลไม้หยางล้ำเลิศ
อย่างช่วยไม่ได้เขาได้แต่พูดออกมาด้วยเสียงอันดัง ด้วยเวลาที่นับไม่ได้ เขาชะงักหยุดเพื่อถอนหายใจอย่างละห้อยหา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น