เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 012 ฆ่าปิดปาก ก็เพียงแค่ฆ่า



เมื่อคิดถึงเคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติ ทันใดนั้นหยางเฉินก็คิดถึงบางอย่างที่น่าสนุก มันดูเหมือนจะอยู่ในระดับสูงที่มากกว่าระดับเซียนของศาลสวรรค์ผู้ซึ่งได้ทิ้งมันไว้  มันมีชื่อเรียกธรรมดาง่ายๆว่า เคล็ดวิชาลับไม้หยางสวรรค์ เคล็ดวิชาลับไม้หยินสวรรค์ และอื่นๆอีกเช่น เคล็ดวิชากลั่นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ เคล็ดวิชาก่อร่างปีศาจปฐพี เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติ เคล็ดเหล่านี้มันง่ายมากที่จะทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวไปด้วยความตื่นเต้น...

แต่ในโลกมนุษย์ มีคัมภีร์ของนิกายมากมายที่ดูน่าเกรงขามอย่างที่มันจะเป็นได้ อย่างเช่น เคล็ดวิชาลับสุดยอดจักรพรรดิ์ทรราชเพลิงศักดิ์สิทธิ์ หรือ เคล็ดวิชาน้ำหยินทานตะวันเช่นเดียวกับเคล็ดวิชาลับห้าเพลิงปราณหลอมกระดูก หรือแม้แต่คัมภีร์รัศมีเพลิงไร้ขอบเขต พวกเขาสามารถใช้เวลาได้นานตราบเท่าที่พวกเขาจะมีถ้าหากพวกเขาสามารถเปล่งเสียงเพื่อข่มขู่ออกมาได้พวกเขาก็จะทำในการที่ต้องเลือกคัมภีร์เหล่านี้

จากบรรดารายชื่อของเคล็ดวิชาทั้งหมดมันมีอยู่อย่างมากมายมหาศาลจนไม่สามารถที่จะนับได้

เหล่านิกายในโลกมนุษย์นั้นต่างเกลียดชังพวกมัน เนื่องด้วยพวกเขาไม่สามารถที่จะเลือกได้ ด้วยพวกมันล้วนเป็นเคล็ดวิชาสุดยอดอันมีชื่อเสียงที่ทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน เหล่าเซียนต่างให้ความสำคัญกับส่วนเนื้อหาที่สำคัญ อย่างง่ายๆก็แค่ลงอักขระไม่กี่ตัวเพื่อบ่งบอกลักษณะของพวกมัน เขาคาดว่าถ้าเขาไม่ได้รู้ถึงแหล่งที่มาจากท่านศาลอาวุโสสูงสุด พวกมันก็อาจจะมีชื่ออื่นเช่น จาก เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติก็อาจจะเป็น ยกระดับสมบัติลับ มันดูเหมือนว่าเขาได้ฝึกสำเร็จแล้วในเคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้ง และท่านศาลอาวุโสสูงสุดก็ไม่ได้แม้แต่ตั้งชื่อ ทักษะโอสถสุภาพชนอาวุโส มันเป็นชื่อที่หยางเฉินตั้งขึ้นมาเอง

แต่นี่เป็นแค่ความคิดเล่นๆของหยางเฉินเท่านั้น มันแค่เป็นรายละเอียดปลีกย่อย สิ่งที่หยางเฉินกำลังคิดในขณะนี้ก็เกี่ยวกับเคล็ดวิชากลั่นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ว่ามันจะส่งผลต่อยันต์เหล่านั้นอย่างไร

หากพูดอย่างจริงจัง มันสุดยอดมากสำหรับเคล็ดวิชาที่มากมายที่อยู่ในความคิดของเขาในขณะนี้ และแน่นอนพวกมันต่างเป็นเคล็ดวิชาระดับสูง มีเพียงแต่ เคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้ง เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติ หรือ ทักษะโอสถสุภาพชนอาวุโส ที่หยางเฉินได้เรียนรู้มาจากท่านศาลอาวุโสสูงสุด พวกมันทั้งหมดสามารถบ่มเพาะด้วยปราณตั้งแต่ระดับแรกคือรวบรวมลมปราณจนถึงระดับของท่านศาลอาวุโสสูงสุด พวกมันสามารถส่งผลกับการบ่มเพาะทุกระดับ สิ่งต่างๆที่ได้กล่าวมา หยางเฉินได้ทำเสร็จสิ้นทั้งหมด พวกมันถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง

กระนั้นเคล็ดวิชาของท่านศาลอาวุโสสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายในคนทั่วๆไปจะสามารถเข้าใจเคล็ดวิชาเหล่านี้เมื่อพวกเขาอยู่ที่ระดับรวบรวมลมปราณ ก่อนหน้านี้ท่านศาลอาวุโสสูงสุดก็เคยคิดว่ากว่าหยางเฉินจะเข้าใจความลึกลับของเคล็ดวิชาเหล่านี้ก็ต่อเมื่อเขาอยู่ระดับผลิดอก แต่ทว่าท่านศาลอาวุโสสูงสุดก็ไม่เคยได้รับรู้ว่าหยางเฉินจริงๆแล้วมีประสบการณ์บ่มเพาะในระดับสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม

หยางเฉินทำการทวนซ้ำเคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติอย่างช้าๆ และเริ่มไตร่ตรองถึงความลึกลับของมันที่ซ่อนอยู่ เขาใช้เวลาไปสองวันก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติของท่านศาลอาวุโสสูงสุดนั้นมันค่อนข้างอยู่ในระดับที่สูงและมีความลึกซึ้งอย่างยิ่ง แต่ในท้ายที่สุดหยางเฉินก็ค้นพบก้าวเล็กๆสำหรับจุดเริ่มต้น อย่างที่รับรู้กันว่ามันต้องการผู้ที่มีประสบการณ์รู้จริงในการที่จะแก้ไขหาทางออก

นี่เป็นเพียงแค่สาระสำคัญของกุญแจที่จะไขไปสู่การบ่มเพาะพลังหรือเป็นเพียงแค่ขั้นตอนวิธีการปฏิบัติเท่านั้น แน่นอนเพียงแค่นี้มันย่อมไม่เพียงพอ เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติมันเต็มไปด้วยทักษะนับหลายร้อยทักษะที่สามารถสร้างหรือหลอมรวมเข้าด้วยกันในหลากหลายรูปแบบวิธี เพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะของพื้นฐานที่มี ในเวลานั้น ท่านศาลอาวุโสสูงสุดได้ให้เคล็ดช่วยจำ เพื่อให้เข้าใจว่าลักษณะของพื้นฐานใดเหมาะกับเคล็ดวิชาใด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่หยางเฉินจะทบทวนประสบการณ์ของเขาอยู่เป็นประจำ

ถ้าเขาพูดว่าเขาจะทำมัน เขาก็จะทำมัน ระดับการบ่มเพาะของเขาอาจจะเป็นระดับแรก แต่ทว่าด้วยอานุภาคห้าธาตุที่สมบูรณ์ของเขา และก็ด้วยพวกยันต์ต่างๆที่เขาได้สร้างขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง ประสบการณ์ที่เขามีมันอำนวยความสะดวกให้กับเขา นอกเหนือจากนั้นด้วยระดับอุปกรณ์ที่ต่ำสุดและประสบการณ์บ่มเพาะของหยางเฉิน เขาสามารถรู้ในบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ต้องทดลองให้เสียเวลา

ฉับพลันมือของเขากำเนิดเปลวไฟสีแดงบางๆเส้นหนึ่งมันครอบคลุมยันต์ลูกบอลเพลิง ยันต์ลูกบอลเพลิงส่องแสงออกมาเพียงเล็กน้อยชั่วขณะหนึ่งแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากนั้น ดูเหมือนว่า มันไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยของยันต์ลูกบอลเพลิงปกติ เขาหยุดมันไว้ที่มือของเขา หยางเฉินสามารถรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างของยันต์ลูกบอลเพลิงมีการเปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าจะเล็กน้อยแต่มันก็มีการเปลี่ยนแปลง

ฟิ้วลูกบอลเพลิงที่ถูกปรับแต่งจู่ๆก็ถูกจุดประกายขึ้นมา ก่อนที่มันจะพุ่งออกไปด้วยกำลังมหาศาลมันได้ทำลายหินที่อยู่บริเวณรอบๆให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในขณะเดียวกันน้ันมือของหยางเฉินอีกข้างหนึ่งก็ยิงลูกบอลเพลิงที่มีขนาดย่อมกว่าออกไป เมื่อมันปะทะเข้ากับก้อนหินก็เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างของพลังในการทำลาย

ด้วยประสบการณ์ของเขา หยางเฉินสามารถเห็นได้จากการชำเลืองมองที่พลังของยันต์ที่ได้ผ่านเคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติมันมีปริมาณมากขึ้นไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าส่วนของปกติ นี่มันยังเป็นเพียงในขณะที่หยางเฉินอยู่ในขั้นแรกของการบ่มเพาะ มันจะเพิ่มขึ้นได้อีกมากเมื่อการบ่มเพาะของเขาสูงขึ้น แน่นอนว่านี่เป็นเพียงพลังของยันต์

ในฐานะที่เขาเป็นผู้มีประสบการณ์ หยางเฉินรู้ดีกว่าใครๆว่าอะไรคือส่วนที่สำคัญของยันต์ระดับต่ำดังกล่าว ในขณะเดียวกัน เขาก็อดที่จะรู้สึกภูมิใจในตัวเองไม่ได้ ชื่นชมต่อความสามารถของเคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติ อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้ถอนหายใจออกมาเขายังนึกได้ว่านี่เป็น เคล็ดวิชาของท่านศาลอาวุโสสูงสุด มันได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากที่คาดหวัง เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เขาก็เลิกที่จะประหลาดใจ

ด้วยประสบกับความสำเร็จเช่นนี้ หยางเฉินเมินเฉยไม่สนใจทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา เขาใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะทอลองใช้เคล็ดวิชาลับจักรวาลสมบัติกับยันต์ทั้งหมดที่เขามี หลังจากนั้นไม่นานเมื่อไม่มีอะไรดีขึ้นไปจากเดิม เขาก็เริ่มตั้งเป้าหมายของการเดินทางอย่างเร่งรีบเพื่อตรงไปยังภูเขาเซียงหยางที่ห่างออกไปหลายร้อยลี้

รอบๆบริเวณภูเขาเซียงหยางมีความเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างพลังจิตวิญญาณที่มีในบริเวณนี้ดูแล้วไม่ค่อยไปในทางเดียวกับทิวทัศน์ที่เขามองเห็น ก่อนหน้านี้ในบริเวณรอบๆนี้ไม่มีผู้ฝึกบ่มเพาะที่นี่ นอกเหนือไปจากทิวทัศน์ที่สวยงาม มันก็ยังมีป่าดึกดําบรรพ์ที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขานี้ มันยากที่จะเห็นรอยเท้าของมนุษย์ที่นี่ และก็แน่นอนว่าไม่มีเหล่าเซียนแถวๆนี้ ด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้มันส่งเสริมให้มีสัตว์ป่าดุร้ายอาศัยอยู่ และที่เห็นได้บ่อยๆคือก็สัตว์ดุร้ายบางชนิด สิ่งที่กล่าวมานี้ก็เพื่อเหตุผลที่ว่าทำไมหยางเฉินจึงได้เตรียมยันต์ต่างๆเอาไว้มากมาย

ด้วยระดับบ่มเพาะของเขาอยู่ที่ระดับหนึ่ง รวบรวมลมปราณ ขั้นต้น มันแน่อยู่แล้วว่าหยางเฉินไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวสัตว์เหล่านั้น ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เขามีความปราดเปรียวสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศที่ซับซ้อนในบริเวณนี้ได้

แม้พลังจิตวิญญาณของที่นี่มีปริมาณน้อยจนแทบจะไม่มี แต่มันก็ไม่ใช่เพราะว่าที่แห่งนี้ดูแห้งแล้งหรือมีสิ่งชั่วร้ายแฝงอยู่ แต่มันเป็นเพราะสวนสมุนไพรจำนวนมากมายที่ต่างก็ดูดซับพลังจิตวิญญาณในพื้นที่หลายร้อยลี้ หยางเฉินรู้เรื่องนี้ค่อนข้างดี

หยางเฉินพบพื้นที่ที่เหมาะสมมีพุ่มไม้หนาแน่น เขานั่งลงและเข้าสมาธิไปชั่วขณะ หลังจากที่เขาฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณและความแข็งแกร่งของร่างกาย เขาก็เริ่มมองไปรอบๆ เพื่อมองหาที่ตั้งของสวนสมุนไพร

เขาไม่สามารถบินไปบนท้องฟ้าเพื่อสังเกต สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่ปีนไต่ไปในจุดที่สามารถมองเห็นได้ไกล หยางเฉินต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการค้นหาเส้นทางเพื่อจะหาจุดที่เป็นแม่น้ำภูเขา มันเป็นผลมาจากทักษะการสร้างรูปแบบพื้นฐาน ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา แน่นอนว่าด้วยทักษะนี้ไม่มีอะไรที่จะค้นหาไม่พบ เหตุผลที่นิกายนั้นสามารถหาสวนสมุนไพรนี้เจอในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ก็เพราะว่า นักปราชญ์ที่อยู่ระดับก่อลำต้นขั้นปลายได้รับบาดเจ็บและหลุดเข้ามาในบริเวณนี้ และสะดุดกับตำแหน่งที่ตั้ง ที่แห่งนี้ที่สามัญชนทั่วไปแทบจะไม่มีใครสนใจเลย

หลังจากที่เขาได้พักผ่อนและฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขาให้กลับคืนมาอีกครั้ง หยางเฉินก็ยืนและหันหน้าไปทางหนึ่งและพูดขึ้นว่า เจ้าได้ติดตามข้ามานาน เจ้าจะไม่แสดงตัวให้ข้าเห็น?”

ในช่วงเวลาที่หยางเฉินได้กล่าวออกไป ภาพเงาของมนุษย์ผู้ชายร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏออกมาอย่างช้าๆบนยอดต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล เขาแสดงอาการคาดไม่ถึง และมากกว่านั้นยังเต็มไปด้วยความประหลาดใจและลำบากใจที่เขาถูกค้นพบโดยเป้าหมายของเขา เขาพูดออกมาด้วยความไม่ชอบใจ เจ้าหาข้าพบได้อย่างไร

หลังจากที่หยางเฉินเสร็จสิ้นกระบวนการปรับแต่งยันต์ต่างๆของเขา เขาก็ค้นพบว่ามีใครบางคนแอบลอบติดตามเขาอยู่ พฤติกรรมของอีกฝ่ายมันเด่นชัดมาก เขาใช้จิตวิญญาณของเขาทำการตรวจสอบ ดูเผินๆเหมือนจะไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่ในสายตาของหยางเฉิน จิตวิญญาณของเขาใช่ว่าจะแข็งแกร่งมากนัก ตามที่เขาคาดหมายณ์มันก็เป็นไปได้ว่าคนที่ติดตามเขาอยู่ในขั้นปลายของระดับรวบรวมลมปราณเท่านั้น

หยางเฉินก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้ที่ติดตามนี้ถึงได้ติดตามเขามา โดยไม่มีการบอกกล่าวใดๆกับเขา ในทางตรงกันข้าม ตราบใดก็ตามเพียงที่เขาผู้นั้นทำเพียงแค่เคลื่อนไหวโดยไม่สร้างความยุ่งยากให้แก่หยางเฉินมันก็เป็นพอ หยางเฉินไม่อยากมีเรื่องยุ่งยาก นอกจากนี้ หยางเฉินยังมีความเกรงกลัวว่ามันอาจจะมีจิตวิญญาณแฝงมากับเม็ดยาที่ซื่อสานส่านมอบให้ หยางเฉินไม่อยากให้เธอรู้ความลับของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่อดทน ผู้ที่แอบติดตามเขามาได้เริ่มตามเขามาถึงแค่ภูเขาเซียงหยาง

ไม่นานหลังจากที่เริ่มเข้าสู่ภูเขาเซียงหยาง หยางเฉินก็พบว่า จิตวิญญาณของซื่อสานส่านที่แฝงหุ้มมากับยาเม็ดพลันหายไป มันก็อาจเป็นไปได้ว่าระยะห่างนั่นเกินขอบเขตที่ซื่อสานส่านจะตอบสนองได้ ยังไม่อาจพูดได้ว่าซื่อสานส่านจะสามารถตรวจสอบหยางเฉินที่อยู่ห่างนับพันลี้ได้ในทันที เพียงแค่จิตวิญญาณที่แฝงหุ้มมานั้นได้เสียหายไป จิตวิญญาณที่แฝงก็อาจจะแจ้งเตือนไปที่เจ้าของให้ทราบถึงตำแหน่งสุดท้ายของหยางเฉิน

ขณะนี้ด้านหน้าของหยางเฉินปรากฏผู้ชายคนหนึ่ง เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่หรูหรามาก อายุน่าจะประมานยี่สิบกว่าๆ ดวงตาคู่นั้นส่องแสงเป็นประกาย ดูราวกับว่ากำลังขบคิดอะไรบางอย่าง พฤติกรรมของเขาถูกทำลายด้วยเสียงตะโกนร้องถามอย่างแปลกใจของหยางเฉิน เขาดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยแล้วถามกลับมาด้วยเสียงเย็นชาว่า เพชฌฆาตตัวน้อย น่าแปลกใจนัก ไม่ว่าเจ้าจะพบข้าได้อย่างไร จงนำสิ่งที่เทพธิดาซือมอบให้แก่เจ้าส่งมาให้ข้า ข้าไม่อยากฆ่าเจ้า!

มันเป็นของกำนัลที่ ซื่อสานส่านมอบให้กับหยางเฉินเพื่อแสดงความขอบคุณเมื่อตอนอยู่ที่ลานประหาร มันคือยาเม็ดเสริมร่างกาย ยาเม็ดเสริมร่างกายนี้ได้ยินมาว่าสำหรับผู้ที่ฝึกตนแล้วมันเป็นของที่ไร้ประโยชน์ เพียงแค่สามารถส่งเสริมรากฐานวิญญาณของคนธรรมดาได้นิดหน่อย แต่ทว่าสามารถชักนำรากจิตวิญญาณของคนธรรมดาที่อยู่ในระดับสูงให้ปรากฏออกมาได้

แต่ในขณะนั้นเทพธิดาซือมอบยาเม็ดเสริมร่างกายแบบพิเศษให้เขาเพียงเพื่อเป็นการขอบคุณหยางเฉิน เพื่อที่จะทำให้เขามีโอกาสได้ฝึกฝนบ่มเพาะ แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มอบให้นั่นคืออะไร เพียงแค่รู้ว่าเทพธิดาซือมอบของให้เขา และคิดว่ามันต้องเป็นของดีอย่างแน่นอน

ด้วยสถานะของผู้คนที่ทำหน้าที่ ณ ลานประหาร จะไม่ทำร้ายชาวบ้านธรรมดา แต่ก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาบอกข่าวคราวให้กับคนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนเริ่มอยากได้ของในมือของหยางเฉิน แต่หยางเฉินนั่นได้หายตัวไปเร็วมาก คนส่วนใหญ่ค้นหาเพียงบริเวณรอบๆในระยะไม่กี่ร้อยลี้ การที่หยางเฉินปรากฏตัวอยู่ที่นี่นับว่าเป็นเรื่องโชคดีอย่างคาดไม่ถึงและเขายังรู้สึกถึงจิตวิญญาณบนยาเม็ดนั้น

นี้เป็นสิ่งที่เจ้าพูดถึงใช่ไหม? เอาไป! หยางเฉินถือโอกาสโยนเม็ดยาเสริมร่างกายที่ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเองออกไป เขามีรากจิตวิญญาณที่มีความสมบูรณ์และพิเศษอยู่แล้ว ในความคิดของเขายาเม็ดเสริมร่างกายนี้ เดิมทีก็เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อยู่แล้ว แต่ขอเพียงเขายินยอม อีกทั้งตอนนี้เขาก็มีสวนสมุนไพรในครอบครองแล้ว ยาแบบนี้หากเขาต้องการเท่าไหร่ก็สามารถมีได้เท่าที่ต้องการ

ยาเม็ดเสริมร่างกาย?” เห็นได้ชัดเลยว่าเยาวชนคนนี้เป็นเด็กที่มีความรู้พอสมควร เขายื่นมือออกไป ยาเม็ดเสริมร่างกายลอยไปหาเขาด้วยความเร็วและอยู่ในมือของเขา เขาสังเกตเพียงเล็กน้อยก็มองออกว่าสิ่งนี้คืออะไร

เมื่อมองที่เม็ดยาที่สามารถเสริมร่างกาย หากคิดจะสกัดกลั่นมัน ก็จำเป็นจะต้องมีระดับก่อสร้างรากฐานเป็นอย่างน้อย ในใจของเยาวชนคนนี้ปรากฏความชอบใจอย่างเงียบๆ แม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ต่อเขา แต่เขากลับสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของอย่างอื่นได้ หรือจะให้เป็นน้ำใจต่อคนอื่นก็ดีไม่น้อย การติดตามหยางเฉินตลอดเส้นทางที่ผ่านมามันไม่สูญเปล่า

กับความเข้าใจที่ลึกซึ้งในสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิมของหยางเฉิน ยาที่ว่านี้มันไร้ประโยชน์ ตราบเท่าที่ผู้ติดตามคนนี้ไม่ขัดขวางการทำภาระกิจของเขา หยางเฉินก็จะไม่ถือสาเขาและหยิบยื่นผลประโยชน์เล็กน้อยให้กับอีกฝ่ายด้วย เหล่าเซียนก็ย่อมมีมุมมองแบบเซียน

เพียงแต่ ในความคิดของหยางเฉินที่คิดว่าหลังหยิบยื่นยานั่นให้แล้วเขาจะจากไป และตัวเองก็จะได้เก็บสวนสมุนไพรได้เท่าที่ตัวเขาปราถนา แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิด ดวงตาของเยาวชนคนนี้เปล่งประกายเล็กน้อย หยางเฉินคิดในใจ แน่ชัดแล้วว่ามันยังมีความคิดที่ชั่วร้ายตามมาอีก

เพชฌฆาตอย่างเจ้า ฆ่าคนโดยไม่คิด เจ้ามาทำอะไรในที่แห่งนี้? ข้าดูแล้ว มันเหมือนเป็นเรื่องบางอย่างที่ไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้?” เยาวชนเก็บยาเสริมร่างกาย แล้วมองหยางเฉินอย่างดุร้าย

ยาเม็ดนี้คนส่วนใหญ่ก็รู้ว่าเทพธิดาซือมอบมันให้แก่หยางเฉิน หลังจากนี้หากเพียงแค่หยางเฉินโวยวายขึ้นมา ตัวเขาเองอาจจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหากไม่ระวังตัว แบบนั่นคงไม่ดีแน่ แม้ว่าหยางเฉินจะไม่รู้ฐานะของเขา แต่เขาไม่คิดที่จะกลัวคนหมื่นคน หากเพียงกลัวแค่หนึ่งในหมื่น คนตายจะสามารถรักษาความลับไว้ได้ตลอดกาล

สังหารปีศาจกำจัดอสูร ทำหน้าที่กวาดล้างคนชั่วให้กับสวรรค์ มันเป็นหน้าที่ของข้า! เยาวชนนั่นตะโกนขึ้นมาแล้วมองไปยังหยางเฉินที่อยู่ด้านหน้า เจ้าอยู่ที่นี่คิดจะทำเรื่องไม่ดี ชีวิตคนนั้นมีค่า ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต!

เขายกมือทั้งสองข้างชี้ออกไป ทันใดนั่นก็ปรากฏกระบี่ที่เขาแสนจะภูมิใจ เขาตั้งใจที่จะเอาชีวิตของหยางเฉินไป แต่สัญลักษณ์มือของเขาก็ทำได้เพียงแค่ครึ่งเดียว ทันใดนั้นก็ปรากฏบางอย่างขึ้นในดวงตาเขา มันเป็นแสงเย็นยะเยือกที่แฉลบผ่านตาเขา รู้สึกว่าลำคอเย็นวาบ ทันใดนั่นทุกอย่างก็เข้าสู่ความมืดมิด

หยางเฉินที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในมือเขาปรากฏดาบแห่งเพชฌฆาต สังหารในดาบเดียวบ่งบอกถึงความชำนาญเป็นพิเศษ หัวของเยาวชนได้ลอยสูงขึ้นไปสามฉื่อ เลือดสดๆพุ่งทะลักออกมา ศพก็ค่อยๆร่วงลงกับพื้น

เกรงว่าเยาวชนนั่นเป็นนักบ่มเพาะระดับหนึ่งรวบรวมลมปราณขั้นปลาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน ดูเหมือนว่า หยางเฉินจะทำให้เขากลายเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยางเฉินสามารถค้นพบการซ่อนตัวของเขาได้อย่างไรอุปกรณ์ป้องกันที่มีก็ไร้ความหมาย ถูกตัดหัวด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว

ฉับ!เพียงแค่ตวัดมือครั้งเดียว ดาบแห่งเพชฌฆาตก็อันตธานหายไปในทันที เหลือไว้เพียงศพที่อยู่ตรงหน้า หยางเฉินก้มลงหยิบถุงครอบจักรวาลเล็กที่สายคาดเอวของร่างเยาวชนและดึงมันออกมาเบาๆขณะที่ถือถุงครอบจักรวาลในมือ

ถ้าเจ้ากำลังจะฆ่าคนเพื่อปิดปาก แล้วจะต้องใช้เหตุผลมากมายไปทำไม! หยางเฉินพูดสั่งสอนออกมาโดยไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องอื่น ปากกับใจไม่ตรงกันเช่นนี้ การกระทำที่แตกต่างจากความคิด ไม่ต้องรอภัยพิบัติทั้งสามบังเกิดขึ้นหรอก เจ้าก็จะตายอย่างไร้ที่ฝังศพ จะตายเร็วหรือช้าล้วนไม่มีอะไรแตกต่างกัน จงเชื่อมั่นในเส้นทางของตนเถอะ!

หยางเฉินลูบเบาๆที่ถุงครอบจักรวาล แล้วเขาก็เก็บมันเข้าไปในแหวนแห่งความสำเร็จ นักบ่มเพาะระดับหนึ่งรวบรวมลมปราณขั้นปลายแม้แต่ยาเสริมร่างกายเม็ดเล็กๆก็ยังโลภ จะมีสิ่งดีๆอะไร ที่จะทำให้หยางเฉินคำนึงถึงอีก?

เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานเท่าไหร่ ตั้งแต่ที่เจ้าภูเขาได้ทิ้งสวนสมุนไพรไว้เบื้องหลังแต่ไม่คิดว่าจะต่ำกว่าพันปี เจ้าภูเขาเมื่อตอนที่มีระดับต่ำสุดก่อนก้าวขึ้นมามีอำนาจสู่โลกจิตวิญญาณแล้วอาจจะขึ้นสวรรค์เข้าสู่โลกนิรันดร์อีกครั้ง เวลาที่เสียเป็นพันปีแบบนี้มันก็เหมาะสม

เขาเร่งรีบเดินไปยังตำแหน่งที่ตนเองตรวจสอบไว้แล้วเป็นอย่างดี จิตวิญญาณของเขาเปิดกว้างกวาดออกไป หลังจากที่กวาดตาหาอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าของหยางเฉินก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา เขาเดินไปหาต้นไม้ใหญ่ขนาดหนึ่งคนโอบ

ก่อนที่จะชนต้นไม้ หยางเฉินก็คล้ายจะไม่หยุดเดิน เท้าข้างหนึ่งชนกลับลำต้น ทิวทัศน์รอบๆก็พลันเปลี่ยนไป


ทันใดนั้น เหนือศีรษะของหยางเฉินก็ปรากกฎยอดโดมออกมา เหมือนกับว่าร่างกายของเขากำลังอยู่ที่ห้องโถงใหญ่  บนยอดโดมปรากฏกระบี่บินเปล่งแสงเย็นยะเยือกมีทั้งหมดสี่สิบเก้าเล่ม พวกมันเรียงตัวกันอย่างเป็นรูปแบบเฉพาะ มึอยู่เจ็ดแถว แถวละเจ็ดเล่ม ดูราวกับว่าทั้งสี่สิบเก้าเล่มนี้กำลังมองหาศัตรูที่ชั่วร้าย พวกมันต่างพากันจ้องมองไปที่หยางเฉินอย่างเงียบๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น