เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 011 ความลับหยินหยางธาตุทั้งห้า



และแล้วมันก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจากไป หยางเฉินไม่ยอมเสียเวลาโดยเปล่า หลังจากมอบหมายหน้าที่กลับคืนไปให้เพชฌฆาตเฒ่าแล้ว หยางเฉินก็ได้เดินทางต่อไปด้วยมือเปล่าโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด แน่นอนว่าของทั้งหมดของหยางเฉินเขาเก็บมันไว้ในแหวนแห่งความสำเร็จของเขา

การได้มาพบเจอกับ ซุนชิงเสียและซือสานส่าน มันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและในการพบกันครั้งแรกของเขากับผู้หญิงทั้งสองคนได้สิ้นสุดลงด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
หยางเฉินก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความสัมพันธ์ที่ดีดังกล่าว เมื่อมันเป็นโชคชะตาที่ฟ้ากำหนด

หยางเฉินได้หายตัวไปอย่างรวดเร็วจากสายตาของชาวเมืองและหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือน เพชฌฆาต นาม หยางเฉิน ก็ได้หายไปจากความทรงจำของชาวเมือง

ณ ตอนนี้ หยางเฉินกำลังน้ำลายหกกับจำนวนเคล็ดวิชาฝึกฝนบ่มเพาะพลังที่มากมายที่ได้รับมาจากแท่นประหารเซียนแล้ว ห้าธาตุแห่งรากจิตวิญญาณทั้งสายหยินและหยางที่เขามีภายหลังการกำเนิด มันได้ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ในระหว่างที่อยู่บนแท่นประหารเซียนด้วยวิถีของมารเฒ่าอี้ หยางเฉินไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการฝึกฝนบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดวิชาไม่กี่เคล็ดได้ เนื่องจากคุณลักษณะเฉพาะของแต่ละธาตุและสายพลัง ซึ่งในตอนนี้เขามีถึงสิบลักษณะของพลังลมปราณ
TTL: สิบประเภทของพลังลมปราณ (Qi) จะถูกแบ่งออกได้ห้าธาตุและแบ่งตามหยางหยิน
1-2    ไม้ (หยาง หยิน)                    
3-4    ไฟ (หยาง หยิน)                    
5-6    ดิน (หยาง หยิน)
7-8    ทอง (หยาง หยิน)
9-10  น้ำ หยาง หยิน)

ตามแผนเดิมนั้น ตราบใดที่เขามีรากจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟตามธรรมชาติเขาสามารถฝึกฝนบ่มเพาะพลังไปตามเส้นทางในความทรงจำเดิม โดยฝึกไปทีละขั้นตอน หลังจากนั้นหยางเฉินก็จะได้รับการฝึกฝนบ่มเพาะพลังจนถึงระดับสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม และด้วยรากจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟที่สมบูรณ์ของเขา มันสามารถลดเวลาลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของเวลาที่เคยใช้ในความทรงจำ

ณ ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่รากจิตวิญญาณแห่งธาตุไฟที่สมบูรณ์เท่านั้น แต่กลับมีห้าธาตุแห่งรากจิตวิญญาณทั้งสายหยินและหยาง ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ มันทำให้เขาเกิดความคิดเพิ่มขึ้นมาภายในใจของเขา

ในความทรงจำของเขา เคยมีแฝดห้าคนที่แต่ละคนจะมีพลังหนึ่งในห้าธาตุที่ไม่ซ้ำกัน แต่ละคนต่างฝึกฝนบ่มเพาะพลังในแนวทางของตัวเอง จิตวิญญาณของพี่น้องห้าคนสามารถเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างรูปแบบของห้าธาตุที่ยอดเยี่ยม มันมีความสามารถในโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน นักบ่มเพาะพลังธรรมดานั้นมีความแตกต่างไปจากพวกเขาในเรื่องของความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เหล่านักบ่มเพาะพลังธรรมดาย่อมไม่อาจจะเป็นศัตรูกับพวกเขาเมื่อพวกเขาร่วมมือกัน

พวกเขาพี่น้องมีทั้งหมดห้าคน แต่สำหรับหยางเฉินที่มีห้าธาตุแห่งรากจิตวิญญาณทั้งสายหยินและหยาง ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า* เขาสามารถฝึกฝนบ่มเพาะพลังทักษะทั้งห้าธาตุได้ และพวกมันถูกควบคุมโดยคนเพียงคนเดียว แม้มันจะต้องฝึกฝนมากกว่าพี่น้องทั้งห้าถึงเท่าตัวก็ตาม แต่จริงๆแล้วมันเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะฝึกฝนบ่มเพาะพลังเพียงแค่หนึ่งธาตุธรรมดา
TTL:* หนึ่งคู่หยินหยาง-สำหรับแต่ละธาตุ เบ็ดเสร็จแล้วจะมีสิบรากจิตวิญญาณ
ทำให้ธาตุปราณมีมากกว่าคนปกติสองเท่า (คนปกติมีห้าธาตุ)

ไม่เพียงแค่นั้น หยางเฉินยังจำสิ่งที่ท่านศาลอาวุโสสูงสุดกล่าวไว้เมื่อตอนที่อยู่ในแท่นประหารเซียนว่า สำหรับพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอด เขาสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างมหาศาลมากกว่าที่ท่านศาลอาวุโสสูงสุดจะมีได้โดยไม่ต้องใช้เตาจักรวาลทั้งแปด หยางเฉินไม่อาจจะให้อภัยตัวเองได้ถ้าเขาสูญเสียสิ่งที่อาจเกิดขึ้นดังที่ท่านศาลอาวุโสสูงสุด ได้กล่าวไว้

หยางเฉินไม่ต้องการที่จะทิ้งโอกาสนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอดได้กลายมาเป็นทิศทางในการบ่มเพาะพลังของหยางเฉินในอนาคต เพียงแต่สิ่งที่หยางเฉินต้องกังวลเกี่ยวกับในตอนนี้ก็คือจำนวนของเคล็ดวิชาการบ่มเพาะพลังที่มีอยู่มากมาย

หยางเฉินได้รับพวกมันมาเป็นจำนวนมากเมื่อตอนที่เขาทำหน้าที่บนแท่นประหารเซียน ไม่ว่าจะเป็น
ความลับแห่งแก่นไม้หยาง
ความลับแห่งแก่นไม้หยิน
ความลับแห่งแก่นไฟหยิน
ความลับแห่งแก่นทองหยาง
ความลับแห่งแก่นดินหยาง
ความลับแห่งแก่นน้ำหยิน
ทั้งหกอนุภาคของความลับแห่งแก่นธาตุมันเป็นส่วนหนึ่งของพลังลมปราณธรรมชาติพื้นฐาน มันสามารถถ่ายโอนปราณแห่งพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอดได้ โดยที่ลักษณะเฉพาะของแต่ละธาตุจะต้องตรงกันกับปราณธรรมชาติ มันเป็นทักษะพื้นฐานที่ง่ายต่อการบ่มเพาะพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอดที่สุดในโลก หากถ้าเขาจะได้รับมาเพิ่มอีกสี่อนุภาคที่เหลือ อันได้แก่
ความลับแห่งแก่นไฟหยาง
ความลับแห่งแก่นทองหยิน
ความลับแห่งแก่นดินหยิน และ
ความลับแห่งแก่นน้ำหยาง
เพื่อให้ตรงกับธาตุพื้นฐานที่เขามีทั้งหมด เขาก็จะมีทักษะครบถ้วนทุกพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอด

แต่ความลับที่แท้จริงของพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอด มันมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งและนั่นก็คือว่าเขาจะต้องทำการหลอมหลวมพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าไปเป็นปราณตามธรรมชาติ มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถที่จะบ่มเพาะพลังได้ มันเป็นเพียงแค่เรื่องของความโชคร้ายที่แม้หยางเฉินจะรู้ถึงตำแหน่งพลังส่วนใหญ่ของหยินหยางทั้งห้าธาตุเพื่อเป็นปราณโดยธรรมชาติ แต่มันก็ไม่สามารถจะเข้าถึงได้ง่าย ถึงแม้ว่าเขาอยากจะฝึกฝนบ่มเพาะพลังทุกเคล็ดความลับแห่งธาตุเหล่านี้มันก็เป็นไปไม่ได้ในขณะนี้

ในขณะที่เคล็ดอื่นๆ ที่เขาได้รับก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเช่นเดียวกับทักษะการสร้างรูปแบบ พวกมันได้ผลในระดับสูงทั้งหมด และเป็นไปไม่ได้ที่จะมำมันมาใช้กับการฝึกฝนบ่มเพาะพลังของหยางเฉินในปัจจุบัน ทีเด็ดของทักษะเหล่านี้มันถูกทิ้งไว้โดยเหล่าเซียนผู้ถูกกลืนหายไป และแน่นอนมันไม่ใช่สิ่งที่ใครบางคนที่เพิ่งเริ่มที่จะฝึกฝนบ่มเพาะพลังและยังไม่เข้าสู่ระดับการรวบรวมลมปราณจะทำการฝึกได้

ดังนั้นหยางเฉินสามารถฝึกฝนบ่มเพาะได้แค่บางพื้นฐานเพื่อเป็นการวางรากฐานของพลังหยินหยางธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอดได้เท่านั้น จนถึงเวลาที่เหมาะสมที่สามารถบรรลุพลังหยินหยางแห่งธาตุทั้งห้าไปเป็นปราณโดยธรรมชาติและเริ่มที่จะบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดแก่นของพลังหยินหยางแห่งธาตุทั้งห้าที่เยี่ยมยอดได้

ทักษะระดับที่สองของเคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้ง มันทำการดูดซึมกลิ่นอายแห่งการฆ่าที่อยู่รอบตัวหยางเฉิน และปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้เข้าสู่จิตวิญญาณ ถึงกระนั้นเจตจำนงแห่งการฆ่าและกลิ่นอายของความต้องการฆ่าก็ยังไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ตราบใดที่หยางเฉินต้องการมัน จิตวิญญาณของเขาก็พร้อมที่จะปลดปล่อยกลิ่นอายเจตจำนงแห่งการฆ่าออกมา มันเปรียบเสมือนอาวุธที่มีพลังโจมตีที่รุนแรงในการต่อสู้กับเหล่าศัตรู

ขณะนี้จิตวิญญาณของหยางเฉินได้ไต่ระดับมาอยู่ขั้นปลายของระดับก่อสร้างรากฐาน ในชีวิตที่ผ่านมาของเขาจิตวิญญาณมีประโยชน์อย่างมากในการบ่มเพาะ หากแต่มันไม่มีเจตจำนงแห่งการฆ่าใดๆ เคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้ง ก็จะไม่มีประโยชน์ ระดับของเขาก็คงไม่ก้าวกระโดดถึงขอบเขตเช่นนี้ มันก็คงจะค่อยๆก้าวไปทีละขั้นตอน มันก็เหมือนกับลำธารสายเล็กๆหลายสายไหลมารวมเข้าด้วยกันกลายเป็นแม่น้ำซึ่งมันจำเป็นจะต้องใช้เวลา

เป็นครั้งแรกที่เขาต้องการความแข็งแกร่งไว้ปกป้องตัวเอง จากภัยอันตราย แต่ในตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นคนไร้ประโยชน์ไม่มีพลังลมปราณใดๆ ตามปกติหยางเฉินจะไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดแบบนี้

การบ่มเพาะพลังจากชีวิตอันมีค่าก่อนหน้านี้ของเขา เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับคัมภีร์สุดยอดเพลิงหยางศักดิ์สิทธิ์ของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ มันเป็นวิธีการฝึกฝนบ่มเพาะพลังสำหรับธาตุไฟ ในพระราชวังหยางบริสุทธ์ และมันยังเป็นคัมภีร์แห่งการสร้างรากฐาน หยางเฉินมีความคุ้นเคยกับพวกมันเป็นอย่างดี เนื่องจากหยางเฉินทำการบ่มเพาะพลังครั้งแรกดัวยคัมภีร์นี้

เมื่อเขาเริ่มต้นการบ่มเพาะพลังด้วยคัมภีร์สุดยอดเพลิงหยางศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ เขาได้ใช้เวลาทั้งเดือนเพื่อฝึกฝนก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ถึงร่องรอยของพลังลมปราณ แต่ในตอนนี้หยางเฉินจำเป็นต้องเริ่มต้นฝึกฝนบ่มเพาะพลังก่อนที่ร่างกายของเขาเริ่มที่จะไม่สามารถควบคุมและสร้างพลังลมปราณขึ้นมาเอง

ด้วยความรู้จากการฝึกฝนบ่มเพาะพลังมากกว่าหลายร้อยหลายพันครั้งในชีวิตที่ผ่านมาของเขา คัมภีร์สุดยอดเพลิงหยางศักดิ์สิทธิ์ ได้ส่งผลต่อสัญชาตญานความเข้าใจของหยางเฉิน โดยไม่มีการเบี่ยงเบนหรือผิดพลาดใดๆ และระดับการบ่มเพาะของจิตวิญญาณนั้นสูงกว่าพลังลมปราณอย่างมาก ในขณะนี้หยางเฉินเริ่มรู้สึกถึงร่องรอยพื้นฐานที่สุดของพลังลมปราณโดยเพียงแค่การโคจรไหลเวียนพลังในครั้งแรก

ไม่นานหลังจากนั้น พลังลมปราณก็เริ่มที่จะไหลเวียนไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยภายใต้การควบคุมของพลังจิตวิญญาณของเขา ตลอดเส้นทางที่พลังลมปราณได้ทะลวงผ่าน มันได้กรุยเส้นลมปราณและฟื้นฟูสภาพพร้อมกัน มันเป็นการเปิดเส้นลมปราณที่สมบูรณ์แบบ

จากการโคจรลมปราณในหนึ่งรอบนี้ หยางเฉินค้นพบประโยชน์ที่เขาได้รับจากแท่นประหารเซียน ไม่เพียงแต่รากจิตวิญญาณที่สมบูรณ์ แต่รวมถึงกระดูก เส้นเลือด เส้นลมปราณ และเลือดในร่างกายของเขาได้รับปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ขณะที่มันถูกหล่อเลี้ยงด้วยแก่นพลังชีวิตของเหล่าเซียนจำนวนมหาศาล ความแข็งแกร่งของร่างกายและความจุของเส้นลมปราณของเขาอยู่ในระดับที่ใกล้จะผ่านไปอีกระดับ ในการผ่านคอขวดระดับแรกของการบ่มเพาะพลังนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

โดยที่ไม่รู้ตัวขณะโคจรพลังลมปราณได้ครบรอบแรก เขาพบว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เขาผ่านเข้าสู่ขั้นตอนก่อสร้างรากฐาน มันแทบจะไม่มีสิ่งสกปรกภายในร่างกายของเขาราวกับว่ามันได้รับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งโดยแก่นพลังจิตวิญญาณจากแท่นประหารเซียนมันเป็นพลังชีวิตของเหล่าเซียนรวมทั้งจักรพรรดิหยกพระราชชนนีและท่านศาลอาวุโสสูงสุดมารวมกัน

เส้นลมปราณอันกว้างใหญ่มหาศาลและยืดหยุ่นบวกกับพลังลมปราณที่สมบูรณ์สอดคล้องกับลักษณะทางกายภาพของเขา หยางเฉินก็ไม่กล้าเชื่อว่านี่คือผลของการโคจรเพียงแค่หนึ่งรอบ ในช่วงตอนท้าย หยางเฉินยังมีความรู้สึกถึงพลังลมปราณที่ไหลผ่านเส้นลมปราณของเขา

หลังจากที่เขาเปิดตา หยางเฉินค้นพบว่าหูและตาของเขาดูเหมือนจะสามารถจับภาพและได้ยินเสียงได้อย่างคมชัดมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ในอดีตที่ผ่านมาเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนสำหรับการมองที่ระยะประมาณยี่สิบเมตร แต่ในตอนนี้ความชัดเจนของเขาได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเท่าตัวและเขาก็ดูเหมือนจะได้ยินการเคลื่อนไหวของมดที่อยู่ใต้เท้าของเขา

อย่างช้าๆกับการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ที่สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน หยางเฉินรู้สึกว่าพลังลมปราณมันล้นอยู่ภายในตัวเขา หยางเฉินได้ระเบิดเสียงหัวเราะแห่งความสุขออกมา ไม่นานหลังจากนั้น เขาเหยียดนิ้วออกไป มันปรากฏลูกบอลเพลิงที่บนปลายนิ้ว มันพริ้วไหวไปมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของหยางเฉิน มันเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างที่เขาอยากให้เป็น

ฟิ้ว...พรึบ ดับเปลวเพลิงด้วยพลังลมปราณ อย่างสบายๆหยางเฉินได้ก้าวเข้าสู่ระดับแรกรวบรวมลมปราณโดยการโคจรเพียงครั้งแรก!
TTL: สรุปตอนนี้หยางเฉินมีการฝึกสองส่วน คือ
#1 พลังจิตวิญญาณอยู่ที่ระดับก่อสร้างรากฐานขั้นปลาย
#2 พลังลมปราณอยู่ที่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นต้น

สำหรับคนธรรมดาที่จะเข้าสู่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นต้นพวกเขาจะต้องสามารถรู้สึกถึงพลังทางจิตวิญญาณระหว่างสวรรค์และโลกและโคจรมันไปตามเส้นลมปราณภายในร่างกายให้ครบรอบ มันเป็นการโคจรเพื่อสร้างร่องรอยเข้าสู่จุด ตันเถียน ของพวกเขา นั้นหมายถึงสภาวะที่พวกเขาได้เข้ามาในดินแดนของการรวบรวมลมปราณอย่างแท้จริง ขั้นตอนดังกล่าวถือว่าเข้าสู่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นต้น

การโคจรจนครบรอบในการฝึกฝนครั้งแรกมันแทบจะเป็นไปไม่ได้แม้กระทั่งสำหรับอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่สุด ปกติแม้ว่าจะมีรากทางจิตวิญญาณที่ครบถ้วนสมบูรณ์และเข้าใจในขั้นตอนการบ่มเพาะอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษ ขั้นตอนนี้ก็ยังจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองเดือนเพื่อดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ ในการเปิดจุดเส้นลมปราณก็ยิ่งต้องการความต่อเนื่องของการสะสมของพลังจิตวิญญาณและต้องมีความเด็ดเดี่ยวที่จะต่อสู้ฝ่าฝันออกไป เส้นทางแห่งการบ่มเพาะไม่ได้ง่ายดายเหมือนกับการล่องเรือไปในแม่น้ำที่ราบเรียบ มีไม่ถึงหนึ่งในสิบที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับรวบรวมลมปราณขั้นตต้นจากจุดเริ่มต้นของการบ่มเพาะพลัง หยางเฉินเป็นผู้หนึ่งที่ไม่มีใครเหมือนในรอบหมื่นปีของประสบการณ์ในการบ่มเพาะพลัง

อย่างไรก็ตามหยางเฉินหยุดการบ่มเพาะหลังจากเสร็จสิ้นการโคจรไปหนึ่งรอบ กุญแจสำคัญที่จะได้มาซึ่งพลังหยินหยางห้าธาตุสองเท่าของการบ่มเพาะพลัง ก็คือ การสร้างความสมดุลของพลังหยินหยางของห้าธาตุ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความจำเป็นเพื่อความเท่าเทียมกัน แต่ความแตกต่างกันยิ่งน้อยก็ยิ่งดีเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สมดุล แน่นอนว่าพลังหยินหยางห้าธาตุที่มีความสมดุลสมบูรณ์แบบคือสิ่งที่ดีที่สุดและถ้ามีความแตกต่างกันบางคนเท่านั้นที่สามารถปรับสมดุลหยินห้าธาตุและหยางห้าธาตุแล้วยกระดับพวกมันได้สักวันหนึ่งในอนาคตและแน่นอนว่าหยางเฉินมันก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถทำได้เช่นกัน!

คัมภีร์สุดยอดเพลิงหยางศักดิ์สิทธิ์นับเป็นธาตุไฟหยางในหมู่หยินหยางห้าธาตุ หยางเฉินตอนนี้กำลังมองหาเคล็ดการบ่มเพาะพลังรากฐานที่เหมาะสมอีกเก้าอนุภาคที่เหมาะสมกับลักษณะของธาตุที่เหลืออยู่ภายในร่างการของเขาเพื่อที่จะสามารถบ่มเพาะพลังทำให้เกิดห้าธาตุธรรมชาติภายในตัวเขาเองได้อย่างสมบูรณ์

หยางเฉินมีเคล็ดสำหรับฝึกธาตุไฟจากกองคัมภีร์เพลิงหยาง มันมีตั้งแต่ระดับต่ำไปสูงสุด แต่คุณลักษณะของอนุภาคธาตุอื่นๆเขามีไม่มาก แต่สิ่งเดียวที่ทำให้หยางเฉินมีความสุขก็คือว่าเขามีเคล็ดระดับต่ำสำหรับการบ่มเพาะรากฐานของอีกสอง-สามธาตุอยู่ในมือของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เคล็ดดาบคลื่นวารี มันเป็นรากฐานของการบ่มเพาะในส่วนของอนุภาคน้ำ

แม้ว่าเคล็ดดาบคลื่นวารีจะเป็นเคล็ดที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรเป็นพิเศษและมันดูธรรมดามาก แต่หยางเฉินไม่สนใจ เขาเพียงต้องใช้เคล็ดดาบคลื่นวารี เพื่อบ่มเพาะพลังอนุภาคน้ำแห่งรากจิตวิญญาณเพื่อที่จะเข้าสู่สวนสมุนไพรแห่งภูเขาเซียงหยาง (จิตรกรรมดวงอาทิตย์) เพราะว่านอกเหนือจากกระบวนท่าเจ็ดก้าวสิ้นชีพ เมื่อเข้าไปในสวนสมุนไพรแห่งภูเขาเซียงหยาง ยังคงมีข้อกำหนดอื่นๆอีก และนั่นก็คืออนุภาคน้ำทิพย์พลังจิต

สวนสมุนไพรเป็นสิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังของเซียนในแท่นประหารเซียน ที่ค้นพบโดยรุ่นต่อมา แม้ว่าหยางเฉินไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่หายากจะเป็นยาครอบจักรวาล นิกายที่ค้นพบสวนสมุนไพรได้ขายพวกมันไปเป็นจำนวนมาก ในเวลาที่ยาวนาน และสาวกของพวกเขายังได้รับยาที่มากมาย มันน่าจะเป็นไปได้ว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวมันไม่ใช่พื้นที่เล็กๆ

ยังคงมีเวลา ก่อนที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์ของนิกายหลักจะทำการเปิดรับสาวกและหยางเฉินก็แค่จะไปเอาสวนสมุนไพรในเวลานี้ อาศัยประสบการณ์ของหยางเฉินในการผสมยาจากชีวิตที่ผ่านมาของเขา เขาคาดว่าเขาจะไม่ได้มีปัญหาใดๆกับยาเพื่อใช้ในการบ่มเพาะพลังก่อนที่จะเข้าสู่ระดับผลิดอก

แม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกที่หยางเฉินทำการฝึกเคล็ดอนุภาคน้ำ ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตที่ผ่านมาของเขาหรือในตอนนี้ อาจเป็นเช่นที่ว่ามันเป็นเคล็ดพื้นฐานที่เรียบง่ายมากสำหรับคนที่มีประสบการณ์ของสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม

มันแตกต่างจากคัมภีร์สุดยอดเพลิงหยางศักดิ์สิทธิ์ตรงที่เขาต้องใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฝึกเคล็ดดาบคลื่นวารี สามวันต่อมาเขาก็ประสบผลสำเร็จ ในหนึ่งรอบโคจรของเคล็ดดาบคลื่นวารี มันก็ทำให้เขาก้าวเข้าสู่ระดับแรกของการฝึกบ่มเพาะพลัง

แม้ว่าห้าธาตุของเขาจะสมบูรณ์ แต่หยางเฉินอยากจะบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดลับพลังหยินหยางห้าธาตุที่ยอดเยี่ยม ปกติแล้วเขาจะต้องทำให้พลังของหยินและหยางมีความสมดุลกัน โชคดีที่เขามีเคล็ดการวางรากฐานสำหรับหยางห้าธาตุ* แต่เขาขาดสองหยินห้าธาตุ มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะสามารถทำการบ่มเพาะหยางห้าธาตุเพื่อเพิ่มความความแข็งแรงที่จะสามารถปกป้องตัวเอง ในขณะที่หยินห้าธาตุ เขาจะรอจนกว่าเขาได้รวบรวมเคล็ดการบ่มเพาะให้ครบก่อนจึงจะทำการบ่มเพาะมัน
TTL: เข้าใจว่าหยางเฉินสามารถปรับสมดุลอนุภาคน้าทั้งหยินและหยางได้ จึงทำให้เขามีทั้งหมดแปดอนุภาคในขณะนี้
1-2 ไม้ (หยาง หยิน) àมีครบ จากแท่นประหารเซียน      
3-4 ไฟ (หยาง หยิน) àมีครบ หยินมาจากแท่นประหารเซียน หยางมาจากชีวิตก่อนหน้า
5-6 ดิน (หยาง หยิน) àมีหยาง ซึ่งได้มาจากแท่นประหารเซียน ขาดหยิน
7-8 โลหะ (หยาง หยิน) àมีหยาง ซึ่งได้มาจากแท่นประหารเซียน ขาดหยิน
9-10     น้ำ (หยาง หยิน) àมีครบ หยินมาจากแท่นประหารเซียน หยางได้มาจากการพยายามปรับสมดุลจากเคล็ดดาบคลื่นวารี
สรุปตอนนี้ขาดสองหยิน

หยางเฉินใช้เวลาประมาณสิบวันกับฝึกเคล็ดของทั้งสามอนุภาค ในตอนนี้เขาได้เข้ามาในดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่สมบูรณ์มากขึ้น วันถัดมา หยางเฉินลองควบคุมทั้งห้าเคล็ดวิชาในการหมุนเวียนไปพร้อมๆกัน และทำการกระตุ้นและเชื่อมรวมกันของแต่ละเคล็ด ซึ่งมันใช้เวลาค่อนข้างมาก

ในเวลานี้ความน่ากลัวของจิตวิญญาณก็แสดงให้เห็น ผลสรุปของการไหลเวียนของทั้งห้าเคล็ดวิชาไปพร้อมกันมันเป็นเรื่องที่ยากในตอนแรกเพราะสมาธิของเขาต้องแยกไปถึงห้าส่วน ซึ่งมันยากมาก หลายต่อหลายครั้งของความพยายามที่ล้มเหลวเพราะเขาไม่สามารถที่จะประสานหลอมรวมพวกมันเข้าด้วยกันได้

หลังจากหยางเฉินได้ทำการบ่มเพาะเคล็ดวิชาลับสามขั้นแห่งการรู้แจ้ง ในไม่กี่ครั้ง ด้วยจิตใจและลมปราณที่นิ่งสงบ และอาศัยอยู่บนจิตวิญญาณที่น่ากลัว หลังจากนั้นไม่นานนัก ในที่สุดเขาก็ประสบการณ์ความสำเร็จที่จะหลอมรวมห้าธาตุเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปก็เป็นไปตามที่คาด ในอีกห้าวันต่อมาหยางเฉินสามารถหลอมรวมหยางห้าธาตุเข้าด้วยกันได้อย่างชำนาญ

หากพูดอย่างจริงจัง สามัญชนที่มีระดับการบ่มเพาะที่ระดับสอง หากทำการสกัดกลั่นอุปกรณ์เวท พวกเขาจะต้องถ่ายเทห้าประเภทของพลังทางจิตวิญญาณลงไปที่อุปกรณ์เหล่านั้น พลังจิตวิญญาณที่ถ่ายเทลงไปที่อุปกรณ์สามารถเก็บไว้ได้โดยการลงอักขระปิดผนึกลงไป พลังจิตวิญญาณที่ถ่ายเทลงไปจะไม่สูญหาย แต่ในท้ายที่สุดพวกมันก็ยังคงมีเพียงห้าประเภทของพลังทางจิตวิญญาณ ปัญหาของหยางเฉินสำหรับการก้าวเข้าสู่ระดับที่สองจะเป็นห้าเท่าของคนอื่นๆ แม้จะมีความสะดวกสบายของการหลอมรวมห้าธาตุ แต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลามากกว่าปกติถึงสามเท่า

โชคดีที่รากจิตวิญญาณของหยางเฉินถูกเติมเต็มในขณะนี้ และเขาก็ยังสามารถที่จะฝึกฝนพลังจิตวิญญาณของทุกอนุภาคได้ ด้วยสภาพทางกายภาพที่โดดเด่น บวกกับประสบการณ์ที่เหนือธรรมชาติ เขาสามารถเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะของเขา หากหยางเฉินไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือจากภายนอก ความเร็วในการบ่มเพาะในโลกนี้ก็อาจจะช้าไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ถึงแม้จะมีความเร็วในการบ่มเพาะที่ช้า แต่หยางเฉินก็ยากที่จะจัดการหากเทียบกับสามัญชนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ด้วยการหลอมรวมทั้งห้าธาตุ ในตอนนี้หยางเฉินมีก่อร่างห้าธาตุ*ที่ยอดเยี่ยม สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น มันมีความสามารถทั้งในรูปแบบของการโจมตีและป้องกัน
TTL:*การก่อสร้างรูปแบบการต่อสู้หลังจากหลอมรวมห้าธาตุหยาง

หยางเฉินเก็บเรื่องการบ่มเพาะพลังเอาไว้ในขณะที่เขาเดินทาง เขามีพลังจิตวิญญาณที่น้อยเกินไปที่จะเริ่มต้นสกัดกลั่นอุปกรณ์เวท เขาคนเดียวไม่สามารถที่จะควบคุมกระบี่ที่จะบินแม้ว่าเขาจะได้รับกระบี่บินเมื่อตอนที่เขาอยู่แท่นประหารเซียนเพื่อนำมาใช้ในโลกนี้ หยางเฉินยังไม่สามารถควบคุมมันได้ ส่วนใหญ่ของสามัญชนเมื่ออยู่ในระดับนี้พวกเขามักจะใช้ยันต์ โดยพื้นฐานแล้วพวกมันจะถูกใช้เป็นอาวุธ มันก็อาจจะดีกว่าสิ่งที่มนุษย์ธรรมดามีอยู่เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับของอุปกรณ์เหล่านั้น

ที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้สำหรับการเดินทางมันเป็นยันต์ฟ้าคราม มันสามารถแบ่งเบาน้ำหนักได้ส่วนหนึ่ง ทั้งยังช่วยให้ไปได้เร็วยิ่งขึ้นและโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก ตั้งแต่หยางเฉินได้เริ่มต้นที่จะบ่มเพาะพลังตามธรรมชาติ เขาจะใช้มันเพื่อแก้ปัญหาที่เขาต้องเผชิญหน้า

หยางเฉิน ทำการดึงเอายันต์ออกมา มันเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ หยางเฉินไม่ทราบว่าระยะเวลาแสดงผลของยันต์จะนานเท่าไหร่ แต่เขาได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้อย่างเพียงพอสำหรับการสร้างยันต์ ในขณะที่พลังลมปราณของเขาได้ประสบความสำเร็จเล็กๆ เขาก็เริ่มทำการลงอักขระบนยันต์ในแบบง่ายๆ

หยางเฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจกับยันต์อันแรกที่อยู่ในมือของเขา หากนักบ่มเพาะพลังได้มาเห็นสิ่งนี้ พวกเขาแน่นอนจะจ้องมองด้วยตาที่เบิกกว้างและอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจแม้มันจะเป็นยันต์ที่ง่ายที่สุด แต่ก็ใช่ว่ามันจะเสร็จสมบูรณ์ในครั้งแรกที่ลองทำ

หยางเฉินขณะนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งและนั่นก็คือว่าเขาสามารถใช้พลังจิตเพียงชนิดเดียวในการสร้างยันต์เวทขึ้นมา ไม่สำคัญว่ายันต์ประเภทใดที่ต้องการ เพียงแค่ทำให้ขั้นตอนง่ายขึ้น หลังจากที่เขาทำการลงยันต์หมอกฟ้าครามไปมากกว่าสิบในครั้งเดียว หยางเฉินยังสร้างยันต์อื่นๆรวมๆอีกสิบกว่าชนิดเพื่อนำติดตัวไว้ เช่น ลูกบอลเพลิง ไม้กายสิทธิ์ ยันต์สามหมื่นคำสาป และอื่นๆ สำหรับการป้องกันตัวเอง

ขณะที่เขาได้ทำการเก็บยันต์ที่เขาได้ทำขึ้นมาไว้ในแหวนแห่งความสำเร็จ หัวใจหยางเฉินจู่ๆก็กระตุกและนึกได้ว่า ท่านศาลอาวุโสสูงสุดได้ยกจักรวาลสมบัติลับที่สามารถเพิ่มคุณสมบัติเพื่อปรับแต่งอุปกรณ์ มันก็น่าจะใช้ได้ผลกับยันต์ที่เข้าสร้างมา?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น