เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 006 ทุกชีวิตที่ประหารไม่สำคัญ และพบกับเหล่าสัตว์ประหลาด

ไม่ได้มีเพียงแค่นักปราชญ์ที่อยู่บนแท่นประหารเซียนเท่านั้น แม้แต่นักโทษที่ถูกตัดสินรายอื่นๆที่รออยู่เบื้องล่างของแท่นประหารก็ยังสั่นหวาดกลัวเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของหยางเฉิน

ด้วยเคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขตมันอาจเรียกได้ว่าเป็นการลงโทษที่เป็นอันตรายมากที่สุดในโลกนิรันดร์ ที่แม้แต่สุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิมยังต้องรู้สึกระคายเคืองไปทั่วทั้งร่างกายหากเมื่อโดนฝ่ามือนี้ มันเป็นประสบการณ์ที่ทุกข์ทรมานซึ่งยากจะทนทานได้ เมื่ออาการระคายเคืองถึงจุดสูงสุดของมัน มันอาจทำให้เจ้าของร่างเการ่างกายของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือทั่วทั้งตัวจนกว่าพวกเขาจะเปียกโชกไปด้วยเลือด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพูดถึงความโหดร้ายจากเมื่อใช้เคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขต มันไม่เพียงแต่สามารถควบคุมได้อย่างอิสระ แต่ยังมีผลสำคัญในการต่อต้านหรือขัดขวางการบ่มเพาะของนักโทษ หากคิดที่จะป้องกันการโจมตีจากฝ่ามือนี้ผู้นั้นจำเป็นจะต้องเป็นผู้ฝึกที่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าผู้ที่ใช้งานจากฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขต เพื่อจะหาวิธีที่จะกำจัดความเจ็บปวดให้หมดไปไม่งั้นมันจะตามติดพวกเขาไปตลอดชีวิตเหมือนกับหนอนกระดูก

ในชีวิตก่อนหน้านี้ หยางเฉินเคยโกรธเคืองผู้คนจากนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ในโลกมนุษย์ผ่านคำกล่าวหาของหยางซี เขาไม่ได้คาดคิดว่านิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่จะเป็นเพียงสาขาย่อยของนิกายสวรรค์ล้ำเลิศในโลกนิรันดร์ และนิกายสวรรค์ล้ำเลิศเป็นส่วนหนึ่งของกำลังหลักในการก่อกบฏกับศาลสวรรค์ เมื่อครั้งที่หยางเฉินมีอำนาจ เขาถูกจับตามองอย่างเฝ้าระวังจากนิกายสวรรค์ล้ำเลิศและพวกเขาเคยใช้เคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขตกับเขา เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับผู้อื่นที่คิดจะต่อต้าน

จากกรณีตัวอย่างเช่นหยางเฉินเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างของคนที่คิดจะต่อต้านและไม่เชื่อฟัง ในแต่ละเดือนความอดทนของหยางเฉินน้อยลงไปทุกที และในแต่ละครั้งหยางเฉินจะจมอยู่ในความเจ็บปวด เขาสูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมดที่เขามีในโลกนิรันดร์ เพื่อที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้คน เขาพยายามที่จะฝึกบ่มเพาะของเขา ในขณะนั้นการบ่มเพาะของเขาไม่ได้ถูกกีดกันและในที่สุดระดับการบ่มเพาะของเขาก็อยู่ในระดับสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม

เคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขต เป็นเคล็ดวิชาโคตรโกงของเหล่าปีศาจและความชั่วร้าย มันมีขอบเขตการฝึก โดยมีเพียงผู้เชี่ยวชาญของนิกายที่อยู่ในระดับสูงไม่กี่คนที่มีคุณสมบัติที่จะบ่มเพาะฝึกเคล็ดวิชาเหล่านี้ได้ หรือจะพูดอีกอย่างก็คือบุคคลอื่นไม่สามารถที่จะฝึกมันได้

เคล็ดวิชานี้ถูกนำมาใช้กับหยางเฉินเพื่อที่จะลงโทษเขา

"เจ้าคือใคร? เจ้ารู้จักเคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขตได้อย่างไร?" นักปราชญ์รู้สึกตกใจ เขาแทบสิ้นหวัง อย่างชัดเจน หยางเฉินไม่ได้มีความต้องการที่จะข่มขู่คนที่รอความตายเหมือนเช่นกรณีของเขา

"ตัวข้าเองได้เคยพูดไว้ว่า ตัวข้าเองเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ที่สามารถควบคุมแท่นประหารเซียนเท่านั้น" ในขณะที่เขาพูดใบดาบหินในมือของเขาก็กลายเป็นเข็มเล็กเรียวยาว

"ผู้อาวุโส ท่านและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา แต่ผู้อาวุโสเมื่อแรกคิดจะมุ่งร้ายต่อข้า และตัวข้าเองก็ต้องการจะแก้แค้นด้วยเคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขต ท่านก็ถือซะว่านี่เป็นผลแห่งกรรมที่ท่านได้ทำต่อข้าก็แล้วกัน"

เนื่องจากหยางเฉินไม่ได้ฆ่านักปราชญ์ หยางเฉินจึงไม่ได้พูดวลีแห่งการฆ่าของเขา เมื่อเขากล่าวเสร็จ เขาก็นำเข็มเรียวยาวออกมาแล้วขยับมือขึ้นลงซ้ำๆ ไปทั่วร่างกายของนักปราชญ์ นักปราชญ์วัยกลางคนไม่สามารถจะทำอะไรได้นอกจากเริ่มต้นคร่ำครวญ

อาการคันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้หายได้ หากเป็นเวลาปกตินักปราชญ์อาจจะใช้มือของเขาเกาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ในตอนนี้เขาอยู่บนแท่นประหารเซียนเขาถูกผูกมัดไว้อย่างแน่นหนา ระดับการบ่มเพาะของเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ นักปราชญ์ที่น่าสงสารเพียรพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะดิ้นรนหาวิธีที่จะหยุดอาการคัน ในขณะนี้แม้ว่าเขาจะสูญเสียศักดิ์ศรีเขาก็ยังหวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วยเขาเกาเพื่อบรรเทาอาการคัน แต่น่าเสียดายที่หยางเฉินไม่ได้เป็นคนแบบนั้น

แท่นประหารเซียนพลันปรากฏรัศมีแสงสีทอง และชายวัยกลางคนก็ถูกส่งออกนอกแท่นประหารเซียน เสียงของหยางเฉินส่งกระจายออกไปทั่วทั้งแท่นประหาร "ผู้อาวุโสจะถูกปล่อยทิ้งไว้สักระยะเวลาหนึ่งเท่ากับเวลาที่ใช้ในการประหารคนพันคน ผู้อาวุโสโปรดอดทนรอการประหารของท่าน"

เหล่าเซียนที่ขึ้นมาบนแท่นประหารเซียน ไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นว่าหยางเฉินทำการลงโทษในรูปแบบนี้ ในตอนนั้นพวกเขาทุกคนก็รู้ว่ามีอันตรายแฝงอยู่ในคำพูดของนักปราชญ์และต่างก็ต้องการที่จะเห็น หยางเฉินประสบกับความลำบาก แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นเหตุการณ์ในแบบอย่างที่ผ่านมา

สิ่งที่เกิดขึ้นมันเชื่อมโยงเข้ากับสิ่งที่หยางเฉินในชีวิตก่อนหน้านี้ได้รู้เกี่ยวกับสวนสมุนไพร เหล่าเซียนได้ค้นพบว่ามันค่อนข้างยากที่จะปกปิดสิ่งต่างๆจากเพชฌฆาตในแท่นประหารเซียน

แม้แต่เซียนก็ไม่ต้องการที่จะประสบกับความอับอายก่อนที่พวกเขาจะตาย แต่วิธีการของหยางเฉินในการทำสิ่งต่างๆ มันทำให้พวกเขาปรับและยกความคิดที่เคยมีให้ดีขึ้นโดยไม่มีความเกลียดชัง

หยางเฉินเป็นเพียงมนุษย์ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเปลี่ยนศาลสวรรค์ โศกนาฏกรรมของเหล่านักโทษก็เป็นเช่นเดียวกับที่ หยางเฉินกล่าวไว้ทุกคนมีหนี้ก็ต้องเป็นลูกหนี้แต่ทั้งหมดที่กล่าวมามันไม่เกี่ยวข้องกับหยางเฉิน

ในกรณีของนักปราชญ์วัยกลางคน หยางเฉินได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่านักปราชญ์เป็นคนแรกที่แต่งเรื่องและตั้งใจที่จะฆ่าเขาและหยางเฉินก็ไม่ได้สนใจในเศษของผลแห่งกรรมใดๆที่จะตามมา ทุกคนไม่อาจรู้ได้ว่ามีคนอีกมากมายที่ถูกฆ่าตายบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ ไม่มีใครรู้สึกว่าไม่เหมาะสมเกี่ยวกับวิธีการจัดการสิ่งต่างๆเหล่านี้ อาจจะมีข้อยกเว้นก็แต่กรณีของนักปราชญ์

ปล่อยให้พวกเขาอยู่ตามลำพังหากพวกเขาต้องการที่จะละทิ้งความปราถนาของพวกเขาไว้เบื้องหลัง ในเมื่อหยางเฉินไม่ได้บังคับพวกเขา แต่ถ้าหากพวกเขามีความปราถนาและร้องขอความช่วยเหลือ หยางเฉินก็พร้อมจะตอบสนองความต้องการของพวกเขาในแบบที่พวกเขาต้องการ โดยไม่ทำให้ใครต้องลำบาก  คนที่ไม่มีความปรารถนาใดๆที่จะพูดออกมาก็ปล่อยพวกเขาไป

สำหรับคนที่อยากจะตายแล้วถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวเมื่อพวกเขามีชีวิตที่นานกว่าที่พวกเขาควรจะมี เหล่าเซียนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตและความตายเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหากพวกเขาต้องการที่จะอยู่พวกเขาก็ควรจะก้มหัวของพวกเขาและยอมจำนนก่อนเข้าสู่แท่นประหารเซียน เนื่องจากพวกเขาได้เข้ามาอยู่ในแท่นประหารเซียนแล้วนั่นหมายถึงพวกเขาได้เลือกเส้นทางของพวกเขาแล้ว มันได้ผ่านช่วงเวลาที่จะสามารถปฏิเสธการมีอยู่ของชีวิตหรือความตายมานานมาแล้ว ในสายตาของพวกเขา...ใครช่างกล้าที่จะเล่นตลกกับหยางเฉิน?

หยางเฉินสามารถคาดเดาสิ่งนี้ได้อย่างถูกต้องและนั่นถึงทำให้เขายังคงสงบไม่พลุ่งพล่านไปตามกระแส มันไม่สำคัญว่าจะเปิดใจเกี่ยวกับชีวิตและความตายได้อย่างไร เพราะในที่สุดทุกชีวิตย่อมมีความปราถนาที่ไม่อาจสมปราถนาอยู่บ้างและนี่ก็เป็นอำนาจจากคำพูดของหยางเฉิน..."หากยังมีบางความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จบางทีตัวข้าเองอาจสามารถช่วยให้พวกเขาได้สมดังหวัง"

อย่างน้อยผลจากคำเหล่านั้นก็คืออย่างน้อยกึ่งหนึ่งของนักโทษที่ถูกตัดสินบนแท่นประหารเซียนได้กล่าวถึงความปรารถนาของพวกเขาเพื่อให้หยางเฉินได้กล่าวถึงผลตอบแทน

"นิกายของข้าได้เสื่อมโทรมลงไปแล้ว หากมีโอกาส เจ้าได้โปรดช่วยดูแลพวกเขา! ข้ามี น้ำหยินเร้นลับในปริมาณที่มากมาย น้ำนี้สามารถก่อกำเนิดปราณ ได้โปรดช่วยทำให้ความปรารถนาของข้าสำเร็จด้วย!"

......

"ข้ารู้เกี่ยวกับสายแร่ของหินจิตวิญญาณมันมีอยู่ในหุบเขารกร้างดินแดนที่ยากจะมีมนุษย์เหยียบย่างเข้าไป มันเต็มไปด้วยปีศาจชั่วร้ายเป็นจำนวนมาก ข้าคาดว่ามันจะยังไม่ถูกค้นพบ ข้าจะให้มันกับเจ้า!"

......

"เมื่อตอนที่ข้ามีอำนาจ ข้าได้หล่อหลอมกระบี่บินนับหลายสิบสำหรับศิษย์น้องของข้า แต่หลังจากที่ข้าได้ขึ้นครองอำนาจ พวกเขาก็ยังไม่สามารถค้นพบพวกมัน เจ้าเอาพวกมันไปได้! กระบี่บินเหล่านี้มันเป็นผลของความพยายามของข้าทั้งหมดก่อนที่ข้าจะมีอำนาจ เจ้าจงอย่าได้ปล่อยให้พวกมันอย่างไร้ประโยชน์"

......

ใจของหยางเฉินพลุ่งพล่านเหมือนน้ำเดือด เขาทำการจารึกความปรารถนาสุดท้ายและผลตอบแทนทั้งหลายจากเหล่าเซียน บางเรื่องเขาเห็นด้วยและยอมรับทำเช่น การดูแลลูกหลาน บางคนก็ต้องการให้เขาฆ่าคนในกรณีนี้เขาจะต้องพิจารณาก่อนหากพบว่าพวกมันเป็นศัตรูของเขา เขาก็เห็นด้วยและถ้าพวกเขาไม่ได้เป็น เขาอาจจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนทำการตกลงไป

เมื่อผ่านไปมากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนหยางเฉินจะเห็นด้วยที่จะทำมากเท่านั้น เหล่าเซียนก่อนหน้านี้มีความปรารถนาอยากฆ่าคนแต่เมื่อเห็นหยางเฉินสั่นหัวของเขาเพื่อปฏิเสธที่จะทำ เมื่อพวกเขาใกล้ความตายมากขึ้นสิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ข้างหลังก็จะสูญเสียเปล่า มันชัดเจนไปถึงหัวใจ พวกเขาทำการมอบทุกสิ่งที่พวกเขามีเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เพื่อโอกาสที่จะได้พบกับความตายโดยไม่ได้รับความทรมาน

ก่อนที่หยางเฉินจะฆ่าในแต่ละครั้ง หยางเฉินมักจะกล่าววลีแห่งการฆ่าของเขา "ทุกคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้..." และหลังจากการประหารอย่างเงียบๆ เขาจะใช้วิถีมารเฒ่าอี้ในการดูดซึมซับกระแสแก่นชีวิตของบรรดาเซียนทั้งหลายเข้าสู่ร่างกายของเขา มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เหล่าเซียนได้ทิ้งไว้เบื้องหลังให้กับเขา โดยที่เหล่าเซียนไม่อาจรับรู้ได้เลย

เหตุการณ์เหล่านี้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและหยางเฉินไม่ได้มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยไม่ได้พักหยางเฉินทำการประหารไปเป็นจำนวนมากรวมทั้งนักปราชญ์ที่เขาได้ใช้เคล็ดฝ่ามือเซียนปีศาจไร้ขอบเขต เบ็ดเสร็จมากกว่าครึ่งหนึ่งของนักโทษในบริเวณแท่นประหารเซียนได้กลายเป็นหมอกสีแดงคล้ายกับเลือดแผ่รัศมีรอบตัวของหยางเฉิน

ถึงแม้ว่าร่างกายของเขายังคงไม่ได้มีร่องรอยของการใช้พลังเวท แต่หยางเฉินยังคงรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา ราวกับว่าบางสิ่งบางอย่างภายในตัวเขาได้งอกและกำลังเติบโตอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์

ส่วนคะแนนความสำเร็จของเขา หยางเฉินพบว่าเขาได้มาหนึ่งพันล้านแต้ม สำหรับหยางเฉินแล้ว นี่จะเป็นประโยชน์อย่างมากแม้ว่าคะแนนความสำเร็จเหล่านี้จะไร้ประโยชน์ในโลกมนุษย์ หากทันทีที่เขาขึ้นสู่โลกแห่งจิตวิญญาณพวกมันสามารถนำมาใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่ดีจำนวนมากได้

"หื้ม...?" ที่ไหนสักแห่งในโลกนิรันดร์ เจ้าหน้าที่ผู้ที่ได้นำหยางเฉินเข้าไปในแท่นประหารเซียน เขาดูเหมือนจะรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเขาสักเกตดู เขาก็รู้สึกประหลาดใจ "มันคง...ในเร็วๆ นี้?" หลังจากที่เขาพูดก็ดูเหมือนว่าเขารู้ตัวและทำตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ควรจะทำ เขาโบกมือไปทางข้างหลังของเขา "ส่งนักโทษกลุ่มอื่นเข้าไป"

หยางเฉินเพียงแค่ดื่มน้ำและพักผ่อน แต่จู่ๆเขาก็ค้นพบว่าแท่นประหารเซียนที่เคยว่างเปล่าปราศจากนักโทษเซียน กลับมาเต็มไปด้วยเหล่าเซียนที่มากขึ้น บรรดาเหล่าเซียนกำลังทยอยถูกส่งเข้าไปภายในแท่นประหารเซียนอย่างต่อเนื่อง

หยางเฉินได้ทำการดูดซึมคุณสมบัติที่ดีที่สุดของพลังเซียนในก่อนหน้านี้ เขาเลยไม่รู้สึกเหนื่อยเพียงใดนัก เขาเพียงแต่ทำตามจังหวะแนวทางของตัวเองอย่างช้าๆ รินน้ำที่อยู่ในชามอย่างช้าๆ แล้วปีนขึ้นไปบนแท่นประหารเซียนด้วยก้าวที่มั่นคง

บั่นหัวราชันย์!

บั่นหัวเจ้าภูเขา!

บั่นหัวทหารสวรรค์!

บั่นหัวผู้ชายที่แข็งแกร่ง!

บั่นหัวสาวงามแห่งพระราชวัง!

บั่นหัวเด็ก!


......


"ก่อนที่ร่างกายของท่านจะจบสิ้นลง หากผู้อาวุโสมีความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จ ข้าอาจจะสามารถช่วยให้ท่านบรรลุความต้องการหนึ่งหรือสองอย่างได้" หยางเฉินพูดคำเดียวกัน แต่มีรสชาติของความตายแผ่ซ่านออกมา

"สำหรับคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้ เจ้าและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา ที่นี่เป็นสถานที่ของข้าในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โปรดให้อภัยข้า!" หยางเฉินไม่อาจทราบได้ว่าเขาได้พูดวลีแห่งความตายไปมากแล้วกี่ครั้ง ทำงานดั่งเพชฌฆาต ฆ่านักโทษทั้งหมดในหนึ่งวัน

"ฟู่วว" ข้างนอกของ แท่นประหารเซียน หลังจากที่ผู้บังคับบัญชาได้ค้นพบว่า หยางเฉินได้ฆ่าเซียนไปทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง เขาพลันรู้สึกเย็นไปถึงสันหลัง นักโทษเซียนมากกว่าสองพันราย! ได้ถูกฆ่าโดยหยางเฉินในระยะเวลาอันสั้น แม้แต่ตัวข้าเองถ้าต้องเผชิญกับความเป็นเซียนจำนวนมากขนาดนั้น ก็อาจจะไม่สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างที่เขาทำ

ในความเป็นจริง หากหนึ่งเซียนได้เผชิญหน้ากับเหล่าเซียนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภูเขา ราชันย์และแม้แต่ทหารสวรรค์ พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความสำคัญใดๆ  ความสามารถที่แท้จริงของการฆ่าคือการฆ่าโดยไม่ต้องลังเลแม้แต่น้อย และดูเหมือนหยางเฉินจะเกิดมาเพื่อที่จะเป็นเพชฌฆาต

นักโทษอีกกลุ่มหนึ่งถูกส่งเข้าไปในแท่นประหารเซียน หยางเฉินรู้โครงสร้างรูปแบบการทำงานของแท่นประหารเซียนตั้งแต่ในชีวิตก่อนหน้าของเขา ในแต่ละครั้งกลุ่มของนักโทษจำนวนหนึ่งพันสองร้อยรายจะถูกส่งเข้าไปที่แท่นประหารเซียนเมื่อกลุ่มก่อนหน้าได้ถูกประหารไปทั้งหมด กลุ่มนักโทษถัดไปจะถูกส่งเข้าไปเรื่อยๆตามรูปแบบของมัน ระดับของพวกเขาถือว่าอยู่ในระดับล่างที่ไม่มีความสำคัญอันใด หยางเฉินได้ฆ่าพวกเขาไปมากกว่าสิบกลุ่ม เป็นจำนวนเกือบสองหมื่นราย

การประท้วงหรือการต่อต้านศาลสวรรค์ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แม้แต่กบฏผู้มีความแค้น พวกเขาไม่กล้าที่สังหารหมู่อย่างไม่พิจารณา เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะทำให้เสียใจ ผู้คนจำนวนมากจะปฏิบัติกับผู้อาวุโสเหล่านี้อย่างระมัดระวัง เหล่านักโทษที่ถูกจับกุมจึงถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมากเพื่อรอหยางเฉินทำการประหาร

หมอกโลหิตจางๆยังมีอยู่รอบๆตัวของหยางเฉิน มันเป็นผลมาจากความหนาแน่นของปราณโลหิตหลังจากที่ฆ่าคนมาจำนวนมาก แม้ว่าหยางเฉินได้ดูดซึมแก่นชีวิตของพวกเขา แต่เขาไม่สามารถหาวิธีในการสลายพายุของเจตจำนงแห่งการฆ่าที่มาจากการฆ่าเซียนจำนวนมากในเวลาที่รวดเร็วได้

หลังจากการฆ่า เขาได้สูญเสียพลังเวทของเขาทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นเซียนเหล่านั้นก็ยังคงตัวสั่นต่อหน้าเขาอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะมองดูหยางเฉิน ราวกับว่าความรู้สึกหวาดกลัวของพวกเขามันแสดงออกมาอย่างไม่เสแสร้ง

เมื่อฆ่าหมดทั้งกลุ่มแล้วทำการพักผ่อนเล็กน้อย ในที่สุดหยางเฉินก็เห็นความแตกต่างของนักโทษ จากวิธีที่พวกเขาได้รับการปฏิบัติ เขาเห็นได้ว่าคะแนนความสำเร็จของเซียนเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

"สามสิบหกวิญญาณสวรรค์ เจ็ดสิบสองปีศาจร้าย ยี่สิบแปดสำนัก สิบสองสาขาโลก!" หยางเฉินได้แต่ถอนหายใจ แต่เดิมพวกเขาต่างอยู่ห่างไกลกัน แต่มาในตอนนี้พวกเขากลายมาเป็นนักโทษที่รอการตัดสินอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

"ก่อนที่ร่างกายของท่านจะจบสิ้นลง หากผู้อาวุโสมีความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จ ข้าอาจจะสามารถช่วยให้ท่านบรรลุความต้องการหนึ่งหรือสองอย่างได้" หมอกโลหิตแผ่กระจายรอบๆตัวเขา หยางเฉินพูดวลีเหล่านี้แน่นอนมันทำให้เหล่าเซียนตระหนก มีเซียนเป็นจำนวนมากเท่าไหร่แล้วที่เขาต้องฆ่าเพื่อสร้างเจตจำนงแห่งการฆ่า ที่แม้แต่เซียนระดับนี้ก็ยังต้องกลัว?

น่าแปลกใจที่เซียนที่มีระดับสูง ยิ่งสูงเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าจะสนใจเรื่องทุกข์ร้อนของพวกเขามากขึ้น คำพูดของหยางเฉินจึงดูเหมือนจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับพวกเขา

"ข้ามีทีเด็ด มันคือ กุญแจแห่งความจริง ช่วยข้าหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมเพื่อรับมอบมันไป!"

"ข้ามีที่พำนักลับ อยู่ที่โลกมนุษย์ บริเวณหุบเขาฟ้าคราม วิธีการควบคุมมันเป็นอย่างนี้... "

"ก่อนที่ข้าจะมีอำนาจขึ้นมา ข้ามีชีพจรไม้หยินสวรรค์ ข้าเก็บมันไว้ในที่พำนักของข้า ถ้าเจ้ามีเวลาก็โปรดไปเอามัน หากมีการใช้งานร่วมกับเคล็ดวิชาลับไม้หยินสวรรค์ มันจะส่งผลกระทบอย่างยากที่จะอธิบายออกมาได้ แค่เพียงแต่เจ้าหาช่วยข้าหาสาวกของข้าจากฝั่งทางโลกแห่งจิตวิญญาณและนำทักษะจักรวาลกระบี่ไร้ขอบเขตให้กับพวกเขา แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถหาพวกเขาพบ มันก็จะเป็นของเจ้า! อะ!"

"ข้าสะสมคัมภีร์โอสถไว้มากมายหากเจ้าพบคนที่มีบุญวาสนาก็จงมอบพวกมันให้กับพวกเขาด้วย!"

"เรามี สุดยอดค่ายกลผู้พิทักษ์สิบสองราศี มันต้องใช้คนทั้งหมดสิบสองคนเพื่อใช้ค่ายกลนี้ พวกเราขอมอบมันให้เจ้าเผื่อเจ้าจะได้ใช้มันป้องกันสำนัก!"

สุดยอดแผนผังกลุ่มดาวสวรรค์ มันเป็นแผนผังภาพ เจ้าไม่จำเป็นต้องถามว่ามันมีความสามารถแค่ไหน ข้าขอมอบมันให้กับเจ้า!"

เคล็ดวิชากลั่นสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ มันสามารถปรับแต่งสมบัติของเจ้าได้อย่างอิสระ สำหรับเจ้า หากเจ้าไม่ต้องการก็ทิ้งมันไป"

เคล็ดวิชาก่อร่างปีศาจปฐพี ถ้าเจ้าโชคดี มันสามารถปรับแต่งเครื่องมือวิเศษได้ถึงเจ็ดสิบสองขั้น โปรดรับมัน!"

......

อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชา ทักษะ อักขระอาคม ทักษะปรุงยา กลั่นสกัดปรับแต่งอาวุธ และที่พำนักลับ จำนวนมากมาย มันทำให้หยางเฉินไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อว่าคนเหล่านี้มีสิ่งที่ดีมากมายเหล่านี้อยู่จริง นอกจากนี้เขายังสามารถตรวจสอบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นจริงทั้งหมดจากความทรงจำของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุดยอดค่ายกลผู้พิทักษ์สิบสองราศี มันเป็นเคล็ดที่เรียบง่ายและสามารถพัฒนาความสามารถส่งเสริมยกระดับได้แม้แต่สวรรค์

อีกครั้งอย่างต่อเนื่องการประหารเซียนนับหลายสิบ การประหารระดับแม่ทัพสวรรค์ก็ไม่มีอะไรที่สำคัญ เมื่อมีการประหารสิบสองราศี หยางเฉินสุ่มพบว่าคะแนนความสำเร็จของเขาก็เริ่มที่จะปีนขึ้นไปเป็นร้อยล้านแต้ม เมื่อเขาได้ทำกับยี่สิบแปดกลุ่มดาว*เขาได้ค้นพบว่าแต้มของเขาอยู่ที่หนึ่งล้านล้านแต้ม
TTL: ยี่สิบแปดกลุ่มดาวนั้นจะประกอบไปด้วยกลุ่มดาวใหญ่ สี่กลุ่มดาวหรือสัตว์สี่ทิศที่ศาสตร์ฮวงจุ้ยคุ้นเคยกันดี ได้แก่

กลุ่มดาวมังกรเขียวทิศตะวันออก ธาตุไม้



กลุ่มดาวเต่าดำทิศเหนือ ธาตุน้ำ



กลุ่มดาวเสือขาวทิศตะวันตก ธาตุทอง



กลุ่มดาวกระเรียนแดงทิศใต้ ธาตุไฟ
(ขาดธาตุดิน คนจีนจะเรียกตรงกลางว่ามังกรเหลืองซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ ธาตุดิน อยู่ตรงกลางพอดิบพอดี)
อ้างอิง: http://www.zhongtai.org/forum/index.php?topic=423.0



ที่น่าตกใจอย่างมากสำหรับหยางเฉินก็คือแก่นชีวิตของยี่สิบแปดกลุ่มดาว พวกเขาแต่ละคนดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันทั้งห้าธาตุและคุณสมบัติของหยินหยาง ขณะที่ดูดซึมแก่นชีวิตของพวกเขาดูเหมือนว่าเขาสามารถรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังแตกหน่อและเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ภายในตัวเขา มันยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก

"ว้า" หลังจากเวลาผ่านไปนาน หยางเฉินเสร็จสิ้นการดูดซับและเปิดตาของเขาขึ้น ขณะนี้เขาเข้ามาอยู่ในทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยฝูงของสัตว์ประหลาดมากมายหลายชนิด ดูเหมือนมันจะมีอยู่ทุกประเภท

เห่าฟ้า สุนัขสวรรค์ของเอ้อหลางเสิน กวางดาวของเทพโช
นกกะเรียนอมตะ กระต่ายหยก กวาง เสือบิน งูเต่า แม้แต่มังกรน้ำ ไม่กี่ชนิดที่หยางเฉินจำได้ พวกมันอาศัยอยู่ที่นี่เป็นสัตว์เลี้ยงและพาหะของเซียน


"อาจารย์ของข้ามีลูกท้ออมตะ และข้าก็มีลูกหนึ่ง!"เจ้ากวางดาวของเทพโช จู่ๆก็พูดขึ้นทำให้หยางเฉินอดที่จะตกใจและกระโดดออกไปไม่ได้ "นานมากแล้ว ข้าเก็บลูกท้อไว้ในที่พำนักในโลกจิตวิญญาณ เจ้าสามารถลิ้มรสมัน ถ้าเจ้ามีเวลา มันอร่อยนะ"

     https://lh4.googleusercontent.com/X7lvLn5Tj6C5_s37z3-8vANu-nUm01j4FFIt85YDt7QpjYYFhGEUFdJOFzaLCkQifBYDoT-ukWnuD3AcR0J24CrDAWgWdGP9_xsVZ3I2r7aCMsQmfaEsdnrKJWN9ZfJWxryY95SLv1oXTdu7DA         https://lh4.googleusercontent.com/fqGQFhkmy5hXckYczf1X2bkZuC-OzuWS6cy1YFDqDsNXzANxotVL8lDGDlauHBUIMK3UkoVShbaeoaXIGfW7iDr1kxktogTfxvvFguHV6GhyjVOg3meOYsAvel7cAzMmafv-RiKqLjngxl3lyg  
เห่าฟ้า หมาสวรรค์ของเทพเอ้อหลาง กวางดาวกับเทพโช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น