เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 005 สิ่งที่ได้รับจากการประหารเจ้า


"นั่น...เจ้านั่นเอง?" เสียงดังมาจากในหมู่ฝูงชนของเหล่านักโทษ มันเป็นเสียงแสดงความประหลาดใจเมื่อหยางเฉินปรากฏตัว


หรืออาจจะมีคนจากโลกนิรันดร์ยังจดจำเขาได้?
"ใคร...ใครที่พูด?" หยางเฉินชี้ไปในทิศทางของเสียง และในขณะที่เขาพูดชายชราในชุดสีเทาที่ถูกผูกไว้อย่างแน่นหนาก็ปรากฏตัวขึ้นบนแท่นประหารเซียน

เมื่อถึงแท่นประหารเซียน ร่างของชายชรานั่งหมอบคลานอยู่กับพื้นเพื่อรอให้หยางเฉินทำการลงดาบ การที่เพชฌฆาตเข้าสู่แท่นประหารเซียนนั้นมีมานานตั้งแต่การเสื่อมโทรมของการบ่มเพาะพลัง และแม้กระทั่งมนุษย์เฉกเช่นหยางเฉินก็สามารถทำสิ่งที่เขาปราถนาเพื่อให้พวกเขาได้อยู่บนแท่นประหารเซียน

"หลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าได้ขุดหีบโลหะในวัดร้างของข้า และเจ้าได้แสดงความเคารพต่อข้า เจ้าจำได้หรือไม่?" เสื้อผ้าที่ชายชราสวมใส่มีรอยฉีกขาดมันดูขัดแย้งกับสถานะของเขาเล็กน้อย "มันยากที่จะมีใครไปที่นั่นและยากนักที่ใครจะเคารพข้า นั่นจึงทำให้ข้าจำเจ้าได้อย่างชัดเจน"

เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา หยางเฉินเข้าใจได้ว่าชายชราคนนี้เป็น ‘ท่านเจ้าที่’ ที่วัดร้าง สถานะระดับของท่านเจ้าที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าดีเยี่ยมหรือขั้นรองลงมา หรืออาจจะบอกได้ว่ามันแทบจะไม่ได้ผ่านการเป็นเซียนเลย

"นั่น...เป็นเจ้านั่นเอง!" หยางเฉินยิ้มรับ แต่ไม่ได้รีบร้อนที่จะแกว่งใบดาบ อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพชฌฆาตเฉพาะที่นี่ ที่แท่นประหารเซียนแห่งศาลสวรรค์ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับเวลา มันก็ขึ้นอยู่กับหยางเฉินเมื่อเขาต้องการที่จะทำการประหาร

"นั่น...เจ้านั่นเอง?" เสียงดังมาจากในหมู่ฝูงชนของเหล่านักโทษ มันเป็นเสียงแสดงความประหลาดใจเมื่อหยางเฉินปรากฏตัว

หรืออาจจะมีคนจากโลกนิรันดร์ยังจดจำเขาได้?

"ใคร...ใครที่พูด?" หยางเฉินชี้ไปในทิศทางของเสียง และในขณะที่เขาพูดชายชราในชุดสีเทาที่ถูกผูกไว้อย่างแน่นหนาก็ปรากฏตัวขึ้นบนแท่นประหารเซียน

เมื่อถึงแท่นประหารเซียน ร่างของชายชรานั่งหมอบคลานอยู่กับพื้นเพื่อรอให้หยางเฉินทำการลงดาบ การที่เพชฌฆาตเข้าสู่แท่นประหารเซียนนั้นมีมานานตั้งแต่การเสื่อมโทรมของการบ่มเพาะ และแม้กระทั่งมนุษย์เฉกเช่นหยางเฉินก็สามารถทำสิ่งที่เขาปราถนาเพื่อให้พวกเขาได้อยู่บนแท่นประหารเซียน

"หลายเดือนที่ผ่านมา เจ้าได้ขุดหีบโลหะในวัดร้างของข้า และเจ้าได้แสดงความเคารพต่อข้า เจ้าจำได้หรือไม่?" เสื้อผ้าที่ชายชราสวมใส่มีรอยฉีกขาดมันดูขัดแย้งกับสถานะของเขาเล็กน้อย "มันยากที่จะมีใครไปที่นั่นและยากนักที่ใครจะเคารพข้า นั่นจึงทำให้ข้าจำเจ้าได้อย่างชัดเจน"

เมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา หยางเฉินเข้าใจได้ว่าชายชราคนนี้เป็นเจ้าภูเขาที่วัดร้าง สถานะระดับของเจ้าภูเขาไม่สามารถเรียกได้ว่าดีเยี่ยมหรือแม้แต่ขั้นรองลงมา หรืออาจจะบอกได้ว่ามันแทบจะไม่ได้ผ่านการเป็นเซียนเลย

"นั่น...เป็นเจ้านั่นเอง!" หยางเฉินยิ้มรับ แต่ไม่ได้รีบร้อนที่จะแกว่งใบดาบ อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพชฌฆาตเฉพาะที่นี่ ที่แท่นประหารเซียนแห่งศาลสวรรค์ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับเวลา มันก็ขึ้นอยู่กับหยางเฉินเมื่อเขาต้องการที่จะทำการประหาร

"เจ้าเป็นมนุษย์ เจ้าสามารถทำสิ่งที่น่าอายอย่างนี้ได้อย่างไร?" เจ้าภูเขาเฒ่า รู้สึกไม่พอใจ ทำการตำหนิหยางเฉินด้วยเสียงอันดัง

"ท่านก็รู้ว่า ข้าเป็นมนุษย์ ข้าจะสามารถตัดสินใจกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ด้วยตัวของข้าเองได้อย่างไร?” หยางเฉินลูบใบดาบหินในมือของเขาอย่างเบาๆช้าๆ ขณะที่ให้คำตอบอย่างไม่ใคร่จะสนใจ

คำถามอะไรกันที่สามารถที่จะถามได้ เขาช่างไม่ได้มีสมองที่จะคิด มันก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะเป็นได้แค่เจ้าภูเขาที่วัดร้างในเมื่อเขาชอบอวดรู้เป็นซะส่วนมาก และเป็นเจ้าภูเขาที่ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

"ต่อต้านศาลสวรรค์ มันช่างน่าอายนัก!" เจ้าภูเขาเฒ่า ก็ยังคงพูดกับตัวเอง แต่เขายังคงพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกกับตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการกล่าวคำว่า "น่าอาย" เขาพูดมันออกมาอย่างต่อเนื่อง

"‘ญัตติ (ข้อเสนอต่อที่ประชุม) ของสวรรค์จะเหมือนกันอยู่เสมอในทุกๆที่ แต่กับกฎหมายของสวรรค์จะไม่เหมือนกันมันมีความแตกต่างกันออกไป" หยางเฉินไม่เห็นความสำคัญอันใดที่จะโต้เถียงกับเจ้าภูเขาเฒ่า เขาเพียงแต่ให้เหตุผลของเขาเอง

"คนผู้หนึ่งสามารถดำรงในตำแหน่งที่สำคัญของศาลสวรรค์เป็นเวลาหลายปี เนื่องจากกฎหมายสวรรค์ไม่ได้เหมือนเดิมแล้วมันควรหรือที่จักรพรรดิจะต้องเป็นเขาคนเดียวเสมอ? ‘พระราชชนนีแห่งสวรรค์ตะวันตก’*ก็ยังเป็นของเธอคนเดียวเสมอ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่มีอำนาจ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะมีระดับบ่มเพาะที่สูงขนาดไหนพวกเขาก็สามารถเป็นได้แค่เพียงบริวารทหารสวรรค์ หรือแม่บ้านของราชวัง ถ้าหากเป็นข้า ข้าจะต่อต้านแม้ว่าใครๆจะบอกกับตัวข้าว่ามันทำไม่ได้!"

TTL:** The Queen Mother of the West (พระราชชนนีแห่งสวรรค์ตะวันตก หรือ ซี หวาง หมู่ (Xi Wang Mu) หรือ หวาง หมู่ เหนียง เหนียง (Wang Mu Niang Niang)) ทรงเป็นพระมเหสีของเง็กเซียนฮ่องเต้ สำหรับสาเหตุที่พระนางได้รับการเรียกขานว่าพระราชชนนีแห่งสวรรค์ตะวันตกเนื่องจากพระนางทรงปกครองสวรรค์ของเซียนทางด้านทิศตะวันตกในเทือกเขาคุนหลุน (KUNLUN) ซึ่งเป็นแนวเทือกเขาทางทิศตะวันตกของประเทศจีน ที่กล่าวกันว่าเป็นแดนสวรรค์ของเหล่าเซียน ชาวจีนส่วนใหญ่นิยมบูชาพระราชชนนีแห่งสวรรค์ตะวันตก เพราะมีความเชื่อว่าพระนางคือเจ้าแม่แห่งชีวิตและการเป็นอมตะ รวมทั้งความสุขนิรันดร์ และพระนางยังทรงเป็นเทพที่ทรงอิทธิพลในสวรรค์ตามตำนานของจีนด้วย
https://lh3.googleusercontent.com/P7csi3YfSXmLmQGNSUpy5x0IVaqVCNNfyaebqAqtZurCictAs26vO9ncxRbkR5wW_mOGVH9tzKB9Q-mw4cPmERub0vWi0_8FSaM_jsotm7sUXLM2FqBWGlq3V0_0fE8KrLN181XT77K5Zl30-w

นี่คือเหตุผลของคนเหล่านั้นเมื่อต่อต้านศาลสวรรค์และเป็นธรรมดาที่หยางเฉินจะรู้เกี่ยวกับมัน แม้ในขณะที่เขาพูด เขารู้ว่าเขากำลังเล่นพิณให้วัวฟัง’ *
TTL: * playing the lute for cows (เล่นพิณสำหรับวัว) =เล่นพิณให้วัวฟัง =สีซอให้ควายฟัง

"น่าอาย! น่าอาย!" นอกจากได้ฟังคำเหล่านี้เจ้าภูเขาเฒ่าก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรผ่านความโกรธของเขาออกมาได้

"การก่อจลาจลไม่ว่าจะเล็กหรือจะใหญ่ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ข้าเป็นเพียงแค่มนุษย์ตัวเล็กๆ ข้าไม่อาจที่จะสนใจในเรื่องจำนวนมากๆได้" หยางเฉิน ยิ้มอย่างใจเย็นขณะที่บอกกับเจ้าภูเขาเฒ่า "ก่อนที่ร่างกายของท่านจะจบสิ้นลง หากผู้อาวุโสมีความปราถนาที่ยังไม่สำเร็จ ข้าอาจจะสามารถช่วยให้ท่านบรรลุความต้องการหนึ่งหรือสองอย่างได้"

"ความปราถนารึ?" เจ้าภูเขาเฒ่าจ้องมองออกไปอย่างใจลอย แล้วทำการสาปแช่งในทันที "ความปราถนาของข้าคือการประหารโจรกบฏเป็นหมื่นๆชิ้น!"

"หากจะต่อต้านพวกโจรกบฏก็จงอย่าเหมารวมเอาข้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ข้าอาจจะช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในบางส่วนของความตั้งใจของท่าน" หยางเฉินยิ้มอย่างใจเย็นเขาไม่สนใจกับการแสดงออกของเจ้าภูเขาเฒ่า

"แน่นอนท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการฆ่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เป็นสิ่งที่ข้าสามารถช่วยท่านได้ มีเพียงความปราถนาในการฆ่าแค่นี้หรือที่ท่านต้องการให้ตัวข้าทำในนามของท่าน...ดังนั้นอะไรคือสิ่งที่ข้าจะได้รับจากจากการที่ข้าช่วยท่าน?" หยางเฉินพูดออกไปด้วยเสียงอันราบเรียบ

"อะ?" เจ้าภูเขาเฒ่าไม่คาดว่าหยางเฉินจะตอบออกมาในลักษณะนี้ และเขาพยายามที่จะยกหัวของเขาขึ้นมาเพื่อที่จะมองไปยังหยางเฉิน เขาถามหยางเฉินกลับไปด้วยความไม่กล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินมา "เจ้า...เจ้าพูดจริงรึ?"

"ในปัจจุบันนิกายบ่มเพาะทั้งหลาย มันมีความสัมพันธ์กันระหว่างโลกนิรันดร์และโลกมนุษย์อย่างยากที่จะตัดขาด ตัวข้าเองก็มีข้อข้องใจกับนิกายสวรรค์ล้ำเลิศ การฆ่าคนบางคนจากเหล่าสาวกในนิกาย มันเป็นสิ่งที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว" หยางเฉินกล่าวอย่างจริงจัง "ตัวข้าเองได้กล่าวสาบานไว้ในหัวใจของข้าว่าจะฆ่าคนของนิกายสวรรค์ล้ำเลิศ ถ้าท่านไม่มีความปรารถนาสุดท้ายอื่นใดอีก ท่านเบาใจได้ในความต้องการของท่านย่อมได้รับการสนอง!"

"ตั้งแต่ที่เจ้ากล้าสาบานด้วยหัวใจของเจ้า ข้าก็จะเชื่อเจ้าในครั้งนี้!" เจ้าภูเขาเฒ่าไม่เคยคิดเลยว่ามนุษย์เฉกเช่นหยางเฉินจะรู้มากเกี่ยวกับเรื่องภายในของศาลสวรรค์และเขาเชื่อเมื่อได้ยินเสียงคำปฏิญาณของหยางเฉิน "หากเจ้ามีโอกาสที่จะออกจากแท่นประหารเซียนแล้วให้ไปที่วัดร้างของข้า ภายใต้พื้นดินในบริเวณด้านหน้าของแท่นบูชามันจะมีหินจิตวิญญาณอันชั่วร้ายของข้าซ่อนอยู่ ข้าได้รับความลำบากมาตลอดครึ่งชีวิตของข้าและมันคือสิ่งที่ข้าได้ทิ้งไว้เบื้องหลังก่อนที่จะจากมา ข้าขอมอบมันให้กับเจ้า! ทำหน้าที่ของเจ้าซะ!"

"สำหรับคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้ เจ้าและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา ที่นี่เป็นสถานที่ของข้าในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โปรดให้อภัยข้า!" หยางเฉินยืนขึ้นและพูดวลีเหล่านี้กับเจ้าภูเขาเฒ่า ทันทีหลังจากนั้นโดยไม่มีความลังเลใดๆ มือของเขายกสูงขึ้นและลดใบดาบหินลง เจ้าภูเขาเฒ่าล้มลงกับพื้นในทันที เลือดพุ่งออกมา แต่มันไม่อาจสัมผัสโดนร่างกายของเฉินหยางได้แม้แต่น้อย

ฟู่วว...เขาลากลมหายใจยาว วิถีมารเฒ่าอี้เริ่มหมุนเวียนอีกครั้ง อย่างรวดเร็วเขาทำการดูดซับกระแสแก่นชีวิตของเจ้าภูเขาเฒ่า กระแสอันอบอุ่นไหลเข้าสู่ภายในร่างกายของเขาตั้งแต่ด้านบนของศีรษะของเขา หลังจากนั้นอย่างรวดเร็วมันหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปหลายทิศทางตามขั้นตอนของการบ่มเพาะ ไหลไปตามเส้นลมปราณทั้งหลาย แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มันอาจไม่ได้ผลสำเร็จเช่นนี้หากหยางเฉินทำการฆ่าหลายร้อยปุถุชน

หยางเฉินปิดตาของเขาลงจนกระทั่งความร้อนได้หายไป เขาเปิดตาอีกครั้ง ทันทีเขารู้สึกได้ว่าบางสิ่งบางอย่างของแหวนบนนิ้วมือของเขาได้เปลี่ยนไป ผ่านทางความคิดเขาค้นพบว่าคะแนนค่าความสำเร็จบนตัวเรือนแหวนได้เปลี่ยนแปลงแล้วมันเปลี่ยนจากศูนย์ไปหลายร้อยหลายพัน

หัวใจของเฉินหยางกระตุก แหวนวงนี้เป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งศาลสวรรค์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังบันทึกค่าความสำเร็จ ในการประหารเจ้าภูเขามันได้ยกค่าความสำเร็จขึ้นจากปกติที่ควรจะเป็น มันน่าจะเกี่ยวกับข้อเสนอในการฆ่าพวกกบฏอย่างแน่นอน เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพิ่มขึ้นสำหรับกฏในศาลสวรรค์ และกฎของความสำเร็จที่ได้เปลี่ยนแปลงไป การฆ่าด้วยความยุติธรรมมันจะสามารถเพิ่มคะแนนความสำเร็จ อย่างเช่นในตอนนี้ที่หยางเฉินได้รับ

เพียงไม่กี่แสนนักโทษไม่สามารถเรียกว่ามากหรือน้อย มันไม่ได้อยู่ในสายตาของเฉินหยาง แท่นประหารเซียนนี้แน่นขนัดเต็มไปด้วยนักโทษ พวกเขาจะทำให้เป้าหมายของเขาบรรลุผลหรือไม่นะ?

นักโทษคนที่สองได้ถูกลำเลียงขึ้นมา เป็นทหารสวรรค์ระดับเล็กๆ หยางเฉินไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับประวัติความเป็นมาของเขา เขาเพียงถามคำถามเช่นเดียวกับที่เขาทำกับเจ้าภูเขาเฒ่าในก่อนหน้านี้ "ก่อนที่ร่างกายของเจ้าจะจบลง หากผู้อาวุโสมีความปราถนาที่ยังไม่เป็นผลสำเร็จอันใด อาจจะเป็นข้าเองที่สามารถช่วยให้ท่านบรรลุความต้องการหนึ่งหรือสองอย่างได้ แน่นอนกฎเช่นเคยสิ่งใดที่ข้าจะได้รับจากท่านหากข้าช่วยท่าน?"

"เจ้าต้องการอะไร?" ในขณะที่เขาเป็นเพียงทหารระดับเล็กๆในศาลสวรรค์ เขาอาจจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกมนุษย์และมีผู้ให้การสนับสนุนมันก็อาจจะสามารถเป็นของค้ำประกันหรือรับรองได้และเขาก็จะจากไปด้วยความสงบ

"สิ่งใดที่เจ้าปราถนา สิ่งแลกเปลี่ยนอาจจะเป็นทักษะแห่งการบ่มเพาะหรือบางทีอาจจะเป็นสมบัติบางอย่างที่เจ้าได้ทิ้งไว้ที่โลกเบื้องหลัง โลกแห่งจิตวิญญาณหรือโลกนิรันดร์ ทุกอย่างถือว่าดีสามารถใช้แลกเปลี่ยนได้" หยางเฉินยิ้มบางๆ "เพื่อประโยชน์ของเจ้า ข้าอาจจะทำให้ความปราถนาของเจ้าสำเร็จสมบูรณ์หากมันเป็นเรื่องที่ยุติธรรม แต่หากว่ามันเป็นสิ่งที่คดโกงไม่ว่ามันจะหนุ่มหรือแก่ข้าก็ไม่อาจยอมรับได้"

"และถ้าเจ้าเอาค่าจ้างไปแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้ความปรารถนาของข้าสำเร็จละ?" ทหารเซียนเปล่งเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นชา ขณะถามหยางเฉิน

"ทุกคนเป็นเจ้านายที่ดี ตัวข้าเองก็เป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ ตัวข้าเองไม่กล้าที่จะโอ้อวดสิ่งที่เกินความสามารถของข้าออกไปได้" หยางเฉินยังคงพูดอย่างเอาใจใส่ "สิ่งที่ตัวข้าเองสามารถทำเองได้ ข้าก็จะพยายามที่จะทำ บางสิ่งที่ตัวข้าเองก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เนื่องจากความสามารถของข้ามีขีดจำกัด และตัวข้าเองก็ไม่อาจที่จะกล้ารับรองผล เพียงแต่ทุกคนได้ถูกบันทึกไว้ในรายนามแห่งอำมฤต ทุกปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขได้หลังจากการตาย ไม่มีความจำเป็นที่จะกลับชาติมาเกิดใหม่ ไม่จำเป็นต้องทิ้งสิ่งต่างๆของเจ้าไว้ทางเบื้องหลัง ถ้าพวกมันเป็นสิ่งของสำหรับคนรุ่นหลังในตระกูลเจ้า ตัวข้าก็จะไม่เรียกร้องอันใด มันขึ้นอยู่กับเจ้า!"

เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่ภายในแท่นประหารเซียนทุกคนสามารถได้ยินเสียงของเขา และเขาก็ดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก สิ่งที่เขาพูดทุกคนก็ได้ยินเป็นปกติ

"ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีความปราถนาอันใดอีก ทำหน้าที่ของเจ้าซะ!ทหารศาลสวรรค์ไม่ได้มีความต้องการที่จะยื้อเวลาใดๆ เขาปิดตาของเขาเพื่อรอหยางเฉินทำการประหารเขา

"สำหรับคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้ เจ้าและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา ที่นี้เป็นสถานที่ของข้าในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โปรดให้อภัยข้า!" หยางเฉินไม่ได้เรียกร้องเช่นกัน เขาได้บอกกล่าวแล้วว่ามันก็อาจจะไม่สำเร็จ เขาก็ไม่ได้บังคับให้ใครต้องยอมรับ หากพวกเขาไม่ต้องการ โดยปกติหยางเฉินก็ไม่โกรธอยู่แล้ว หลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตแก่นชีวิตของพวกเขาก็จะช่วยบำรุงเขา

เสียงสะบั้นของใบดาบหิน และทหารศาลสวรรค์ก็ล้มลงไปบนแท่นประหารเซียน คะแนนความสำเร็จปรากฏในแหวนมีเพียงไม่กี่หมื่นดูเหมือนว่าทหารผู้นี้จะอยู่ระดับล่างจริงๆ

แต่เขาต้องใช้เวลาในการดูดซับแก่นชีวิตของทหารเซียนนานกว่าแก่นชีวิตของเจ้าภูเขา แก่นแห่งชีวิตของทหารเซียนมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าเจ้าภูเขา เพียงแค่ผ่านไปสองคนหยางเฉินเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างมากภายในร่างกายของเขา จริงๆมันก็เป็นเหมือนอย่างที่เขาคาดไว้ การประหารเซียนเพียงแค่สิบจากพัน มันจะส่งผลที่ดีกว่าการประหารปุถุชนธรรมดา

"ข้าได้ผ่านสิ่งต่างๆมามากมายตลอดอายุของข้า ข้าไม่มีความกังวลหรือข้อสงสัยใดๆ ไม่มีความปรารถนาใดๆ หากแต่ข้าต้องการเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเจ้า...พูดมากไปมันก็ไร้ประโยชน์ ทำหน้าที่ของเจ้าซะ!นักโทษคนที่สามพูดอย่างตรงไปตรงมาและพูดมันขึ้นมาก่อนที่หยางเฉินจะถาม

"สำหรับคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้ เจ้าและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา ที่นี้เป็นสถานที่ของข้าในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โปรดให้อภัยข้า!" เมื่อมีผู้ที่พูดอย่างตรงไปตรงมามันยิ่งทำให้หยางเฉินทำงานอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น เขาทำการพูดวลี และยกมือขึ้นและลดใบมีดลง งานสิ้นสุดอย่างเรียบร้อยนอกเหนือจากคะแนนความสำเร็จไม่กี่สิบคะแนนที่หยางเฉินได้ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของรากจิตวิญญาณของหยางเฉินและเส้นลมปราณ ไม่มีอะไรที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง หลังจากที่เขาจะจากไป

"ข้าไม่มีอะไรจะพูดตราบเท่าที่เจ้ามีโอกาสที่จะฆ่าพวกกบฏไม่กี่คนในอนาคต" เซียนรายต่อไปยอมรับในโทษและหลังจากพูด เขาไม่ได้รอให้ หยางเฉินแนะนำเขา เขาพูดขึ้นมาโดยตัวเขาเอง "ก่อนที่ข้าจะมีอำนาจ ข้าได้ทิ้งสวนสมุนไพรไว้ให้ลูกหลานของข้า แต่น่าเสียดายที่ข้ารีบจากมาโดยไม่มีเวลาที่จะแจ้งให้พวกเขารับรู้ ข้าจะมอบมันให้กับเจ้า มันอยู่ที่ภูเขาเซียงหยาง (จิตรกรรมดวงอาทิตย์) ข้าเคยลงอักขระต้องห้ามเอาไว้ ถ้าเจ้าต้องการที่เข้าไป เจ้าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความยุ่งยากอันเล็กน้อยที่จะเกิดขึ้นได้"

"สวนสมุนไพรแห่งภูเขาเซียงหยาง (จิตรกรรมดวงอาทิตย์) รึ?" ใจของหยางเฉินพลันสว่างและพูดโพล่งออกไปว่า "‘ค่ายกลเจ็ดก้าวสิ้นชีพสามก้าวไปข้างหน้า สองก้าวให้ถอยหลัง ไปซ้ายหนึ่งก้าว ก้าวขึ้นไปอีกหนึ่ง ทำซ้ำเจ็ดครั้ง ต้องใช้พลังธาตุน้ำจิตวิญญาณในการเข้าไปในสวน ทำทั้งหมดเจ็ดครั้ง ครั้งละเจ็ดก้าว รวมสี่สิบเก้าก้าว หากผิดพลาดแม้เพียงก้าวมันหมายถึงความตายอย่างแน่นอน ผู้อาวุโสได้ทิ้งสิ่งที่ดีมากมายไว้เบื้องหลัง...ขอบคุณมาก!"

"เจ้ารู้ได้ยังไง?" เมื่อได้ยินสิ่งที่หยางเฉินพูด เสียงของหยางเฉินดังอยู่ภายในแท่นประหาร เจ้าภูเขาก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่หูของเขาได้ยิน สิ่งที่เขาคิดว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ในตอนแรก ในขณะนี้กลับไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉิน มันจะไม่ทำให้เขาตกใจได้อย่างไร?

"ตัวข้าเองก็แค่รู้!" หยางเฉินรู้เกี่ยวกับมันก็เพราะว่าสวนสมุนไพรนี้จะถูกค้นพบในอีกสองพันปีนับจากนี้ เมื่อมีนิกายขนาดกลางบางแห่งได้เสียสละชีวิตของผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกไปหลายสิบชีวิตเพื่อ พยายามจะทำลายเส้นทางภายใน มันแน่อยู่แล้วที่หยางเฉินไม่สามารถอธิบายตัวของเขาเองกับเจ้าภูเขา เขาทำได้เพียงพูดเพิ่มเติมว่า "หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรือง นอกจากจะมีผู้ใดสามารถทำลายนักบ่มเพาะและคนที่ต่ำกว่าหนึ่งระดับของดินแดนแล้ว มันไม่มีวิธีการใดที่สามารถส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับโลกที่อยู่เบื้องล่าง ผู้อาวุโส...ตัวข้าเองขอรับรองว่าสวนสมุนไพรนี้จะไม่ถูกรบกวนอีกครั้ง ท่านเบาใจได้ในความต้องการของท่านย่อมได้รับการสนอง!"

"วิธีการที่จะควบคุมมันคือ..." เจ้าภูเขาตะลึงมองไปที่หยางเฉินในการอธิบายวิธีการที่จะควบคุมมัน

"ขอบคุณท่านมาก ผู้อาวุโส!" หยางเฉินคำนับเขาอีกครั้ง

"ไม่สามารถมองข้ามมันไปได้!" เจ้าภูเขาเพียงกล่าวแค่นั้น ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไม่มีใครคิดหามีวิธีที่จะอยู่รอด ทุกคนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขายังมีเซียนที่มีคุณภาพอยู่อีกมากมาย แต่ภาพแห่งความชื่นชมที่มีต่อหยางเฉินยังฉายชัดอยู่ในความรู้สึกของพวกเขาแต่ละคน

"สำหรับคนที่มีหนี้ก็คือลูกหนี้ เจ้าและข้าไม่มีความแค้นหรือความเกลียดชังในอดีตที่ผ่านมา ที่นี่เป็นสถานที่ของข้าในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โปรดให้อภัยข้า!" กับแต่ละเซียนหยางเฉินดำเนินการจนสำเร็จ เขาอดทนที่จะพูดคำเหล่านี้ หลังจากพูดเสร็จ หยางเฉินก็จะทำการประหาร

"ทำไมเจ้าต้องพูดเช่นนี้ทุกครั้งก่อนทำการประหาร? เซียนรายที่ห้าดูเหมือนว่าจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่สามารถบอกตำแหน่งของเขาได้ เมื่อเขาขึ้นมาเขาถามหยางเฉินด้วยคำถามนี้อย่างถากถาง "เจ้ากลัวว่าเจ้าจะถึงจุดจบที่ไม่ดีหลังจากทำการประหารเซียนและรู้สึกผิดใช่หรือไม่?"

"ตัวข้าเองไม่ต้องการได้รับผลแห่งกรรมที่อาจตามมา!" หยางเฉินไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงเยาะเย้ย เขาตอบกลับด้วยความสงบ "ถึงแม้พวกท่านอาจจะตายด้วยมือของข้า หากแต่ตัวข้าเองไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านต้องตาย...ในเมื่อผู้อาวุโสยังมีความต้องการทางโลกยังรู้สึกต้องการจะแก้แค้นท่านก็สมควรวางมันไว้ในที่ของมันซะ...ไม่ใช่ที่ข้า! ข้าเป็นแค่เพชฌฆาตไม่ได้อยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม!"

"เจ้าไม่ได้รับผลแห่งกรรมก็เพราะเจ้าพูดมันออกมาเอง..." แม้ว่านักปราชญ์ถูกผูกมัดไว้ ดวงตาของเขากลอกขึ้นอย่างรวดเร็ว "บางทีมันอาจจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้า?"

"ได้รับผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับใจของข้า" หยางเฉินไม่ได้โกรธ เพียงทำการตอบกลับพร้อมกับความเห็นของเขาว่า "การประหารชีวิตของคนอื่นมันคือหน้าที่ของข้า ตัวข้าเองไม่มีความอัปยศในหัวใจ หากตัวข้าเองได้พูดไว้ว่าไม่มีผลมันก็ย่อมไม่มีผล" นักปราชญ์ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้อีก เขาหมดกำลังใจหลังจากได้เห็นความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในคำพูดของหยางเฉิน

ตั้งแต่เข้ามาแท่นประหารเซียนหยางเฉินได้เรียกตัวเองว่า "ตัวข้าเอง" เสมอ กลุ่มนักโทษที่เขาต้องทำการประหารชีวิตอาจมาจากคนใดคนหนึ่งที่เป็นเซียนที่เป็นผู้อาวุโสหากเทียบกับตัวเขาที่ยังต่ำต้อยแล้ว ดังนั้นหยางเฉินจึงเรียกพวกเขาว่า ผู้อาวุโส และเรียกตัวเองว่า ตัวข้าเอง' เท่านั้น โดยไม่มีนามเรียกอื่น

"ดี! ข้าก็มีความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จ เจ้าแค่ฆ่าคนไม่กี่คนและข้าก็ตั้งรางวัลบางอย่างไว้สำหรับเจ้า" นักปราชญ์หัวเราะเบาๆ แล้วบอกหยางเฉิน "ในภูเขาลู่ชิงแห่งหุบเขาโอสถหยู ข้าได้ทิ้งสมบัติเวทอาคม และยาไว้เบื้องหลัง หลังจากที่เจ้าออกไปจากที่นี่ ให้เจ้าไปที่นั่นแล้วค้นหาพวกมัน หากเจ้าค้นพบมัน พวกมันก็จะเป็นของเจ้า มันขึ้นอยู่กับโชคของเจ้าแล้ว!"


"สิ่งที่ข้าต้องทำก็แค่ระมัดระวังเมื่อเข้าไปในหุบเขาโอสถหยู รึ?" หยางเฉินถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงเรียบในแบบฉบับของเขาเช่นเคย
https://lh5.googleusercontent.com/JVCHS-1Ted_qFxIea5LMxzC_YM6N_CfauiKbBRaJ5liQPLj2fyZV9aIgUDsffniD4Hf4P3kBXs_IDR9iwB6ybkGkdiXwAjEAwyeoSzhRgiqEYZELxvFXcsIBYNqNQLhUFh2BtyXMy8KqEDuFHw
ภูเขาลู่ชิงแห่งหุบเขาโอสถหยู(ต้นหยู)

"การเข้าไปนั้นเป็นเรื่องง่าย เพียงแต่เมื่อจะออกมาจากที่นั่น มันจำเป็นใช้ กระจกทองแดงลมแปดทิศ เพื่อที่จะออกจากที่นั่น" การตอบกลับของนักปราชญ์ก็เป็นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลังเลแม้แต่น้อย


"แต่งเรื่องได้ดี" หยางเฉินจู่ ๆ ก็เยาะเย้ย "หุบเขาโอสถหยูสามารถเข้าแต่ออกไม่ได้ กระจกทองแดงลมแปดทิศสามารถออกแต่เข้าไม่ได้! ตัวข้าเองไม่ได้คิดที่จะหลอกผู้อาวุโส ดังนั้นการที่ผู้อาวุโสตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของข้าเป็นอันตราย ข้าย่อมยอมรับมันไม่ได้ มันทำให้ข้าโกรธ!"

https://lh3.googleusercontent.com/Bogwz-7WX6kGjJVo6s2AHPG8UPutRF-JADqXrClY5Hz_b1hXtiaQSgjFkVy8KyVYEJ3uQ9ny2XGxznWj8Kw1AXBl1P0I4hbwlLJ1asiG2vGy_KR1H6p-luxjSVX0f8skdxoVGHTXak1-mPgeKg
กระจกทองแดงลมแปดทิศ

"ฮ่าฮ่า! เจ้าเป็นเด็กที่ฉลาด เจ้าช่างรู้เหลี่ยมคูดีนัก"นักปราชญ์หัวเราะออกมาดังๆ "จากที่เจ้ารู้เกี่ยวกับหุบเขาโอสถหยู ดูเหมือนว่าชีวิตของเจ้าคงจะไม่จบง่ายๆ ยังไงก็ตามแต่ ข้าชอบอย่างนี้ ความตายใกล้เข้ามา ข้าสงสัยว่าสิ่งใดที่เจ้าจะทำนอกเหนือไปจากการฆ่าข้า เมื่อเจ้าบอกว่าเจ้ากำลังโกรธ?"

"ตัวข้าเองไม่มีความสามารถพิเศษ แต่ตัวข้าเองกลับรู้ประเภทของการทำลายเซียน และแน่นอนปีศาจก็ด้วยเช่นกัน" รอยยิ้มเย็นชาลอยบนใบหน้าของหยางเฉินขณะที่เขาพูดด้วยเสียงเรียบๆ "แม้ว่าตัวข้าเองจะเป็นมนุษย์ที่ไม่มีพลังเวท ด้วยแท่นประหารเซียนตัวข้าเองยังคงสามารถใช้หนึ่งหรือสองวิธี ท่านผู้อาวุโสก่อนที่ชีวิตของท่านจะสิ้นสุด ท่านสมควรแล้วที่จะต้องตายทั้งเป็น!"


เมื่อหยางเฉินกล่าวออกไป ใบหน้าของนักปราชญ์ได้บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที ไม่เพียงแต่เขาแต่รวมถึงนักโทษทั้งหมดที่แออัดกันอยู่ด้านล่างของเวที  ที่แสดงออกถึงเรื่องนี้อย่างแตกต่างกัน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น