เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ZX 004 ข้าคือเพชฌฆาต



"ในฐานะที่เป็นนายเจ้า ข้าขอสั่ง!" หยางเฉินโค้งคำนับและยื่นมือออกไปรับแหวน เมื่อผู้บังคับบัญชาชี้นิ้วไปที่แหวน เขาค่อยๆสวมมันลงไปในนิ้วมือของเขา


หัวแหวนที่วางอยู่บนตัวเรือนแหวนก็เปล่งรัศมีของแสงอ่อนๆปกคลุมไปทั้งร่างกายของหยางเฉิน หลังจากนั้นแหวนก็หายไปทิ้งไว้เพียงรอยสักบริเวณนิ้วมือของเขา

https://lh4.googleusercontent.com/JoXMTVZeJk7kJqF74l7vAZALMmDPAsmj5REOGRcQaSN7MiLFYr5JNYVHxcrGWttoC9Gaqlkp_xrFVOG1yKIhPfHEpOrUIWPAK5Q5RMgnLtFlBQy0LtyhCvye_71MKi6RYxKJ3C29X5AhPSp0aQ
Credit: google

"นี่คือสัญลักษณ์ที่ใช้ผ่านเข้าสู่แท่นประหารเซียน เมื่อเจ้าต้องการที่จะใช้งานแท่นประหาร มันจำเป็นที่จะต้องใช้รอยสักนี้!" ผู้บังคับบัญชาแนะนำขั้นตอนการใช้งานให้กับหยางเฉินอย่างเป็นทางการด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แล้วชี้ไปทางเบื้องหลังของหยางเฉิน "นอกจากเจ้าแล้ว คนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นถึงจะขึ้นไปบนแท่นประหารเซียนได้!"

หยางเฉินหันกลับไปมองด้านหลังของเขา เขามองเห็นบางช่วงของถนนสายหนึ่ง มันเป็นทางนำไปสู่ประตูเมืองที่ดูยิ่งใหญ่อันงดงามตระการตา

ประตูเมืองดูหรูหรามากกว่าที่ใดๆในโลกมนุษย์ บนเสายักษ์มีมังกรทองสองตัวทำท่าคำรามกับท้องฟ้า ในช่วงกลางของเสาต้นนั้นถูกเขียนคำไว้สามคำที่มีขนาดใหญ่หนาสีชาดแท่นประหารเซียนเมื่อใกล้เข้าไป ก็จะพบว่าทั้งสามคำได้ถูกสร้างขึ้นจากเนื้อหนังของสิ่งมีชีวิตที่ยังดิ้นอยู่

ด้านหน้าของประตูเมือง มีทหารสวมชุดเกราะสี่นายยืนรักษาการอยู่อย่างเคร่งครัด

"หยุด ใครกล้าเข้าสู่แท่นประหารเซียนโดยไม่ได้รับอนุญาต?" ทหารนายหนึ่งเรียกเขาทันที เมื่อหยางเฉินเดินเข้าไป

หยางเฉินยื่นมือของเขาออกไปเพื่อแสดงเครื่องหมายบนนิ้ว มันสามารถมองเห็นได้ทันที น่าแปลกที่จุดนี้ตัวแหวนได้ปรากฏขึ้นแทนรอยสักอย่างที่มันเคยเป็น และมันทำให้ทหารรักษาการณ์เข้าใจหลังจากที่ได้เห็นมันในทันที ทั้งสี่ก้าวออกจากประตูเพื่อหลีกทางให้หยางเฉินเดินเข้าไป

หลังจากที่เดินเข้าสู่ประตูเมือง พลันปรากฏแสงอันพร่ามัวซึ่งมันได้บดบังทุกอย่างไว้ หยางเฉินยื่นมือออกไปสัมผัสกับอากาศ เขาเพียงแค่คิดเกี่ยวกับมัน แล้วก้าวเข้าไปในแสงสีขาวที่กินบริเวณกว้าง แสงสีขาวไม่ได้ปิดกั้นเขา เขาสามารถเดินผ่านมันเข้าไปได้

เมื่อพวกเขาได้เห็นภาพอย่างนี้ มันทำให้ทหารทั้งสี่รู้สึกโล่งใจ ทหารคนหนึ่งหันขวับมาถาม "ท่านหัวหน้า เขาเป็นคนมือไว ที่ได้ปล้นของจากศพ ทำไมเขาถึงได้รับเลือก?"

ผู้บังคับบัญชาได้ปรากฏตัวถัดจากทั้งสี่ เขามองไปยังแสงรัศมีทรงกลมโดยไม่ประหลาดใจใดๆ แล้วกล่าวว่า "เจ้าก็ตระหนักดีอยู่แล้วว่า ใครบ้างที่ถูกประหารบนแท่นประหารเซียน มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ไม่รับสินบน ไร้ซึ่งความลำเอียงและยังทำการประหารหญิงงามในดาบเดียว เขายังกล้าที่จะเตะและตัดหัวราชันย์แห่งวานนี้และวันพรุ่งนี้ ในขณะที่คนอื่นต้องหมอบคลานเป็นอย่างแรกก่อนดำเนินการและคนอื่นๆก็ไม่ได้เข้มงวดกวดขันกับความผิดทางอาญา อีกทั้งไม่เต็มใจที่จะประหารหญิงงาม หรือไม่แม้แต่จะมีความกล้าบนแท่นประหารเซียน ไม่ได้มีคนที่เหมาะสมมากไปกว่าเขา แม้เขาจะปล้นของจากศพมันก็ดีกว่าที่เขาจะปล้นเอาของจากคนที่ยังมีชีวิตอยู่"

"เมื่อเข้าสู่แท่นประหารเซียน นอกเหนือจากอาหารและน้ำ เพื่อกินและดื่ม ยังมีดาบของผู้เป็นเพชฌฆาตและตราบใดที่เขาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่มัวหมอง เขาก็สามารถจากไปได้" ผู้บังคับบัญชามองดูสี่ทหารที่เฝ้าประตูถัดไปจากเขา "เจ้ารู้สึกว่าเขายังเป็นมนุษย์ ในขณะที่ประหารชีวิตเหล่าเซียนจำนวนมาก เขายังจะมีโอกาสที่จะจากไปอีกเหรอ? ลักทรัพย์ของผู้อื่น ทำไมมันจะทำอย่างงั้นไม่ได้ มันก็แค่หยิบยื่นโอกาสให้กับเขา?"

ในที่สุดทหารรักษาการณ์ทั้งสี่นายก็ได้สำนึก การทดสอบที่มากมายนั้นก็เพื่อที่จะเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมเท่านั้น ไม่เพียงแต่เขาจะต้องกล้าหาญเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีจุดอ่อน คนที่เหมาะสมกับข้อกำหนดดังที่ได้กล่าวนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากยิ่งกว่าขนนกหงส์เพลิงและเขาของกิเลน ดังนั้นแล้วบุคคลที่เหมาะสมเป็นอะไรที่หายากเป็นพิเศษ มันเป็นสุดยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง

เมื่อหยางเฉินก้าวเข้าไปยืนในบริเวณแสงสีขาว มันก็เหมือนกับว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง มันเป็นภาพเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะอยู่ที่ลานประหารอันกว้างใหญ่อย่างที่ประมาณมิได้

ในความเป็นจริงหยางเฉินไม่เคยได้มีโอกาสที่จะเห็นแท่นประหารเซียนแม้แต่ในชีวิตก่อนหน้าของเขา แท่นประหารเซียนเป็นชื่อที่แสดงถึงสถานที่ ที่ศาลสวรรค์ทำการสำเร็จโทษเหล่าเซียนและมีเพียงตัวตนของเซียนที่เป็นนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกที่สามารถเข้าไปได้ หยางเฉินไม่ได้เป็นเพชฌฆาตในชีวิตก่อนหน้านี้ และก็ไม่ได้เป็นนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุก มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เคยมีโอกาสหรือมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับมัน

ด้านหน้าของเขามีที่ตั้งดาบ มันมีลักษณะเป็นสีทอง บริเวณแกนตั้งถูกแกะสลักเป็นรูปมังกรสองตัว ลำตัวพันขดกันเป็นเกลียว ส่วนหัวของมังกรหันหน้าเชิดขึ้นไปทางข้างหน้า ดาบสีชาดถูกวางอยู่อย่างเรียบร้อยบนปากอ้ากว้างของมังกรทั้งสองตัว หลังจากที่เฉินหยางก้าวเข้าไปเขากวาดสายตาไปรอบๆลานสำเร็จโทษ เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดด้วยดาบยาวเล่มนั้น

ดาบนี้แตกต่างไปจากใบมีดเพชฌฆาตที่ยิ่งใหญ่ของหยางเฉินที่เขามักจะใช้ ขอบของมันยาวมากกว่า และเมื่อกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วมันก่อให้เกิดประกายตกค้างของเงาดาบไปตามทางของการเคลื่อนไหว ใบมีดกว้างเมื่อเวลาใช้งานจะต้องมีการปรับทักษะในการใช้ที่แตกต่างกัน หากมีระดับทักษะที่เท่ากัน เมื่อเทียบกับการใช้ใบมีดเพชฌฆาต มันมีประโยชน์สำหรับการประหาร ที่ด้ามจับเป็นสีดำแต่ดูเหมือนว่ามันมีฟันคมยาวออกไป กลิ่นอายแห่งความมุ่งร้ายแผ่กระจายออกมา เพียงแค่จับมันเขาก็รู้สึกเหมือนจะถูกกลืนกินโดยสัตว์ป่าดุร้ายที่น่ากลัว

ขณะที่ก้าวไปข้างหน้า ทันทีที่หยางเฉินจับด้ามของใบดาบสีดำกลิ่นอายแห่งความดุร้ายแสดงเจตจำนงแห่งการฆ่าก็ไหลบ่าเข้าสู่ภายในจิตใจของเขา ดั่งแผ่นดินถล่มหรือคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร ผสมผสานไปกับเสียงครวญครางร้องโหยหวนที่ยากจะบอกได้ว่ามากมายเท่าไหร่ เนื่องจากผู้คนนับไม่ถ้วนที่เสียชีวิตภายใต้ใบดาบต่างล้วนส่งเสียงร้องด้วยความเกรี้ยวกราด

"ข้าไม่กลัวต่อการมีชีวิต ดังนั้นข้าจะกลัวความตายไปทำไม?" หยางเฉินเยาะเย้ย เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน เจตจำนงแห่งการฆ่าวิ่งเข้าสู่ภายในจิตใจของหยางเฉิน มันดูเหมือนจะวิ่งตรงมายังกำแพงอัคคีภายในร่างกายของหยางเฉินในทันที พื้นฐานของหยางเฉินที่มีมันไม่เพียงพอที่จะระงับความวุ่นวายที่ใบดาบหินก่อ มันพยายามที่จะครอบงำเขา เขาแทบจะยอมจำนน

ใบดาบที่ดูเหมือนหิน มันมีความแข็งแกร่งและมีจิตวิญญาณเป็นของมันเอง อีกครั้งที่ใบดาบหินส่งเสียงออกมาจากความคิดของหยางเฉินว่า

"เชื่อฟังข้า ข้าจะพาเจ้าไปตัดหัวเหล่าเซียนจำนวนนับไม่ถ้วนในปฐมภูมิสวรรค์! เมื่อข้าเผชิญหน้ากับเจ้าหรือแม้แต่เจตจำนงแห่งการฆ่าของเหล่าสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม พวกเจ้าก็ยังต้องหวาดกลัว!"

อย่างปฏิเสธไม่ได้ มันยากที่จะรู้ได้ว่าเหล่าเซียนผู้มีพลังได้ถูกประหารด้วยคมใบดาบนี้ไปเป็นจำนวนเท่าไหร่แล้ว และปกติแล้วมันจะมีผลกระทบเมื่อมีการเผชิญหน้ากับเซียน หยางเฉินรู้สึกเย็นเยือกไปทั่วร่างกายส่งผลทำให้เขาสั่นโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นปฏิกิริยาปกติเมื่อเซียนเผชิญหน้ากับดาบแห่งเพชฌฆาต

แต่หยางเฉินในอดีตเป็นสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม หลังจากความคิดฟุ้งซ่านของเขาได้หยุดลง พลังอันไร้ขีดจำกัดของเขาก็เริ่มต่อสู้กับเจตจำนงของใบดาบหิน

ไม่มีใครรู้ภาพเหตุการณ์ภายในแท่นประหารเซียน และหยางเฉินก็ไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับสุดยอดของความยากลำบากดังกล่าวหลังจากที่เข้าสู่แท่นประหารเซียนกับร่างกายที่เป็นมนุษย์ของเขา

ใบดาบหินมันมีเจตจำนงเป็นของมันเอง ถ้าปุถุชนธรรมดาเข้ามา มันย่อมไม่มีการโต้แย้งใดๆทั้งสิ้นนั่นเป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่คาดไว้ว่าจะปรากฏออกมาหลังจากที่เผชิญหน้ากับใบดาบหิน ใบดาบหินพยายามที่จะทำให้หยางเฉินกลายเป็นทาสให้กับแท่นประหารเซียนภายใต้การควบคุมด้วยเจตจำนงของใบดาบหินเอง

"เชื่อฟังข้า!"

คลื่นความรุนแรงบังคับตัวมันเองอยู่ภายในอีกครั้ง ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะทนทานต่อแรงกดดันดังกล่าว เขาพลันคุกเข่าลงบนพื้นดินเผชิญหน้ากับเจตจำนงแห่งการฆ่าที่เอ่อล้นออกมามากมายดั่งขุนเขา หยางเฉินไม่มีกำลังสำรองที่จะต่อต้านเพื่อรักษาจิตใจของเขาจากการครอบงำของดาบ

ความไม่เต็มใจในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ ความคับข้องใจ ภาพเหตุการณ์ต่างๆในอดีตได้ปรากฏออกมาให้หยางเฉินเห็นอีกครั้ง มันบีบบังคับให้เขาตะโกนออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ "ข้าจะไม่ยอมแพ้!"

ลักษณะอันเปราะบางของอาจารย์หญิงก่อนที่เธอจะตายได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ภาพแห่งความเศร้า รอยยิ้มอันสวยงามถูกส่งมาให้หยางเฉินในแวบเดียว และทันทีย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่มีความสุขเมื่อหยางเฉินได้ถือดาบประกายแสง

"เจ้ามันก็แค่ใบดาบ ข้าต่างหากที่เป็นเพชฌฆาต!" หยางเฉินตะโกนเสียงดังเพิ่มขึ้น เขายืนขึ้นบนเท้าของเขา

บูมมม...ทุกความรู้สึกของเจตจำนงแห่งการฆ่าพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหยางเฉินอย่างสมบูรณ์ หยางเฉินทำการดูดซึมพวกมันทั้งหมดโดยไม่หวั่นวิตกใดๆ ในใจของเขามีเพียงสิ่งเดียวที่หยางเฉินจำได้และเขาก็ได้ตะโกนมันออกไป...ข้าคือเพชฌฆาต!

ภายในร่างกายของหยางเฉินกำลังต่อสู้กัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันแตกต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสมบูรณ์ ถ้าก่อนหน้านี้มันเป็นความต้องประสงค์ของใบดาบหินที่พยายามชักจูงและครอบงำหยางเฉิน มันเคยทำให้หยางเฉินแทบจะยอมแพ้ แต่ในตอนนี้มันได้กลายเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป ใบดาบหินได้อยู่ภายในร่างกายของหยางเฉินอย่างสมบูรณ์

"เชื่อฟังข้า!"

"ยอมแพ้ซะ!"

"ข้าจะนำเจ้าไปประหารเหล่าเซียนทั้งหลาย!"

......

ไม่ว่าภัยคุกคามหรือ การบังคับใดๆจากใบดาบหิน หยางเฉินเพียงรักษาจุดสว่างในหัวใจของเขา...ข้าคือเพชฌฆาต! ประโยคนี้ทันทีสามารถตัดสินได้ว่าใครคือ ผู้เชี่ยวชาญ และมันไม่สำคัญว่าใบดาบหินจะใช้วิธีการอะไร หรือกลยุทธ์ใดๆ มันก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะพลังอำนาจแห่งจิตใจของหยางเฉินไปได้

ในที่สุด ใบดาบหินอ่อนแอลงเรื่อยๆ และภายใต้จิตใจอันเข้มแข็งแน่วแน่ของหยางเฉิน มันเริ่มที่จะผสานกับเจตจำนงแห่งการฆ่าที่หยางเฉินได้รับจากการฆ่ามามากกว่าร้อยคนในโลกมนุษย์

เมื่อผสมผสานกับเจตจำนงแห่งการฆ่า ไม่มีเวลาเหลือให้ได้พัก กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นเหมือนกับมีดร้อนผ่าผ่านเนย
แล้วช่วงเวลาถัดไป ใบดาบหินได้ผสานเข้ากับเจตจำนงแห่งการฆ่าของหยางเฉินได้อย่างสมบูรณ์

"ข้าคือเพชฌฆาต!" ดวงตาของหยางเฉินค่อยๆเบิกกว้าง เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลเหมือนกับการกระทำที่ง่ายๆ ใบดาบหินนอบน้อมอยู่ในมือของเขาและนอกจากความคล่องแคล่วแล้ว ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก เขายกใบดาบสีเลือดยาว หยางเฉิน ชำเลืองมองและเสริมว่า "เจ้าเป็นเพียงแค่ดาบของเพชฌฆาต"

ด้วยเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ได้เกิดอย่างที่ไม่คาดคิด การผสมผสานกับเจตจำนงแห่งการฆ่า หยางเฉินก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นในร่างกายของเขา เขาถือใบดาบหินยืนอยู่ที่นั่น เขารู้สึกถึงเจตนาฆ่าอันล้นจนถึงสวรรค์ ร่างกายของเขาดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยรัศมีแสงสีแดงจางๆ ในขณะที่เขาเปิดตาขึ้น รังสีแห่งการฆ่าอันรุนแรงของเขาถูกส่งออกไปส่งผลให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว

"นี่คืออะไร?" เมื่อเห็นแสงสีแดงพร่ามัว ร่างกายของเขาได้รับการปลดปล่อย หยางเฉินรู้สึกตกใจและประหลาดใจ

เมื่อย้อนกลับมาเมื่อตอนล่ามารเฒ่าอี้ จากการที่เขาได้ฆ่าคนจำนวนมากมันก่อให้เกิดม่านแสงสีแดงแผ่ออกมาจากตัวของมารเฒ่าอี้ แม้ว่าของหยางเฉินจะมีเพียงเงาสีแดงจางๆในตอนนี้ แต่มันดูเหมือนจะเป็นเช่นเดียวกับของมารเฒ่าอี้ เจตนาแห่งการฆ่าแผ่ล้นออกมาจากร่างกายเผยให้เห็นปีศาจอันชั่วร้ายที่ไม่ซ้ำกันอย่างชัดเจน

"โชคดีที่ข้าเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้า!" หยางเฉินยิ้ม แต่ไม่ได้สนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขายกดาบของเขาและเดินไปข้างหน้า ก้าวสู่แท่นประหารเซียน จริงๆสถานนี้เป็นสถานที่สำหรับสำเร็จโทษเหล่าเซียนทั้งหลายเพื่อส่งพวกเขาไปสู่ความตาย

หยางเฉินไม่ได้ก้าวขึ้นไปบนแท่นประหารทันที แต่เขามองไปทางด้านข้าง ที่พักของแท่นประหารเซียน ที่นั่นเรียบง่ายมาก หนึ่งห้องครัวที่หยางเฉินสามารถที่จะกินและดื่ม อีกหนึ่งห้องเล็กๆ ที่เขาสามารถหลับนอนได้ เช่นเดียวกับห้องน้ำ อาหารและน้ำดื่มจะได้รับการจัดให้โดยทันทีโดยเขาไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรอีก ในห้องพักยังมีชุดเสื้อคลุมสวรรค์ที่ไร้รอยต่อในรูปแบบของเพชฌฆาตสำหรับเขาที่จะสวมใส่ มันกันฝุ่นและน้ำ ทุกอย่างมีเพื่อหยางเฉินใช้ในการดำรงชีวิตอยู่ในที่นี่

พื้นที่ดำเนินการอันกว้างขวางมันเป็นที่ที่นักโทษจะถูกมัด แต่ตอนนี้ยังคงไม่มีสัญญาณของจิตวิญญาณ แต่หยางเฉินรู้ว่ามันจะมีเร็วๆนี้ และมันจะเต็มไปด้วยเหล่าเซียนมากเกินกว่าที่จะเชื่อได้เพื่อให้หยางเฉินได้ทำการประหารทีละหนึ่งอย่างต่อเนื่อง

การดื่มน้ำ กินอาหาร อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า หยางเฉินได้ทำทุกอย่างและเสร็จสิ้นโดยไม่ต้องรีบ แล้วหยิบใบดาบหินขึ้นมา ก้าวเข้าสู่แท่นประหารเซียน หลังจากที่เขานั่งลงเขาเริ่มศึกษาแหวนในมือของเขา

ตั้งแต่เข้ามายัง แท่นประหารเซียน แหวนได้อยู่ในรูปร่างปกติของมัน หยางเฉินเคยได้ครอบครองแหวนคล้ายกับรูปแบบนี้ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ มันเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงตำแหน่งของศาลสวรรค์ นอกเหนือจากนี้มันสามารถทำการจารึกถึงความสำเร็จ และยังสามารถเก็บสิ่งของไว้ในแหวนได้เป็นอย่างดี แหวนในมือของหยางเฉินนั้นค่อนข้างพิเศษมันเป็นเพียงสิ่งที่ศาลสวรรค์สร้างขึ้นมาให้กับปุถุชนเฉกเช่นหยางเฉิน

ไม่มีใครคาดว่าหยางเฉินจะรู้เรื่องทั้งหมดนี้รวมถึงรอยสักที่นิ้วของเขา ไม่มีใครรู้ว่าหยางเฉินเคยมีประสบการณ์กับสิ่งที่ไม่ปกตินี้อยู่แล้วในชีวิตครั้งก่อนของเขา ชีวิตนี้เขาจะไม่ให้สิ่งที่เคยเสียใจเหล่านั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง

บูม! บูม! บูม! เสียงฟ้าร้องสามครั้ง และในเขตการดำเนินการที่พื้นดินด้านล่างของแท่นประหารเซียนได้ปรากฏฝูงชนหนาแน่น โดยการคำนวณอย่างหยาบๆของหยางเฉิน มันมีอยู่หลายร้อยและจำนวนก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หยางเฉินเห็นทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหน เขายังนั่งอยู่เงียบๆบนแท่นประหารเซียน หรี่ตาลงในลักษณะพักผ่อน ขณะที่ ปรากฏผู้คนจำนวนมากอยู่รอบๆแท่นประหารเซียน ทันใดนั้นใบดาบหินเริ่มส่งเสียงออกมาจากภายในร่างกายหยางเฉินอีกครั้ง

"ฆ่าพวกมัน! ฆ่าพวกมัน!"

ฉับพลันก็ปรากฏเป้าหมายที่ทำให้ใบดาบหินหลุดจากภาวะจำศีลกลายเป็นบ้าคลั่งอีกครั้ง มันมีลักษณะกระหายที่จะตัดหัวเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย กระตุ้นให้ตัดหัว มันเกือบจะทำให้หยางเฉินไม่สามารถรักษาจิตใจและความคิดของเขาไว้ได้

ในท้ายที่สุดหยางเฉินก็จำได้ว่าเขาเป็นเพชฌฆาต อาจเป็นเพราะว่าเขาทำการหลอมรวมเข้ากับใบดาบหินเร็วไป ถึงมันดูไม่สมเหตุสมผลนิดหน่อย แต่เขาแน่ใจว่า หลังจากที่เป้าหมายของแท่นประหารเซียนได้ปรากฏและมันก็จะปรากฏอีกครั้งหนึ่ง เมื่อทำบ่อยๆเขาจะสามารถควบคุมมันได้ดียิ่งขึ้น

หากหยางเฉินได้เริ่มทำงานเพียงแค่ตอนนี้ ใบดาบหินอาจจะได้สัมผัสกับความสามารถของหยางเฉิน อีกครั้งที่มันบุกรุกจิตใจของเขา แต่หยางเฉินอดทนที่จะใช้กำลังบังคับ เขานั่งนิ่งอยู่บนเวทีและใบดาบหินเท่านั้นที่สามารถกระโดดไปรอบๆ และโบกสะบัดความดุร้ายของมันอีกครั้ง

ในความเป็นจริงนี้ โดยทั่วไปมันไม่ใช่สิ่งที่ใบดาบหินจะเป็น แต่มันเป็นเพราะการเข้ามาใน แท่นประหารเซียน ใบดาบหินมันเป็นส่วนหนึ่งของแท่นประหารเซียน มันเคยส่งเซียนไปสู่ความตายและการตัดหัวปีศาจ เจตจำนงแห่งการฆ่าเฟื่องฟูจนกระทั่งมันถูกต่อต้าน นับตั้งแต่รากฐานของแท่นประหารเซียน ถ้ามันเป็นคนอื่นแน่นอนพวกเขาจะได้รับการควบคุมโดยแท่นประหารเซียนแต่น่าเสียดายที่มนุษย์ที่ว่าในเวลานี้คือหยางเฉิน

เมื่อเตรียมการณ์อย่างดีไว้แล้ว ตามธรรมชาติเขาจะไม่ถูกควบคุมโดยแท่นประหารเซียน เขาปกป้องจิตใจของเขาอย่างแน่นหนา หยางเฉินประกาศกร้าวอย่างชัดเจนและรวดเร็ว...ข้าคือเพชฌฆาต! มันไม่สำคัญที่จะฟาดฟันทางซ้ายและรุกทางขวา ความรุนแรงที่ใช้ก็ยังคงไม่สามารถที่จะควบคุมหยางเฉินไว้ได้

ใบดาบหินถูกถือขึ้นมาในมือของเขา ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อยภายใต้การต่อต้านของแท่นประหารเซียน ด้วยว่ามันอยากจะกระโดดจากมือของหยางเฉินและเริ่มต้นการประหารชีวิตด้วยตัวของมันเอง หยางเฉินจึงจับถือดาบอย่างเหนียวแน่น มืออีกข้างจับใบดาบ โดยไม่ให้โอกาสกับใบดาบหิน

ในที่สุดการต่อสู้กับแท่นประหารเซียนก็มาถึงจุดสิ้นสุดอีกครั้ง ใบดาบหินที่เคยสั่นเริ่มสงบลงอย่างช้าๆและอยู่ในจิตใจของเขาโดยไม่สร้างความลำบากหรือก่อกวนที่รุนแรงกับหยางเฉินเพื่อที่จะฆ่านักโทษเหล่านั้น ราวกับว่าแท่นประหารเซียนจะไม่มีทางเลือกแต่ก็ต้องก้าวต่อไปและ...ขอแนะนำให้รู้จัก...หยางเฉินผู้เป็นเพชฌฆาต

"เจ้าจะต้องระลึกให้ถึงจิตใจของเจ้า ว่าเจ้าคือแท่นประหารเซียน เจ้าก็เป็นเพียงแค่ดาบ" หยางเฉินผนึกความมั่นใจของเขาอีกครั้ง "ข้าคือเพชฌฆาต ข้าคือผู้เชี่ยวชาญของที่นี่ มีแค่ข้าเพียงคนเดียวที่จะสามารถตัดสินใจว่าใครจะถูกฆ่าและเมื่อไหร่!"

แท่นประหารเซียน จะไม่มีการต่อสู้อีกต่อไป หากแต่มันยอมรับอำนาจของหยางเฉิน ทั้งแท่นประหารเซียน ดูเหมือนจะมีชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงตามการควบคุมของเฉินหยาง


"ดีมาก ข้าคือเพชฌฆาต!" หยางเฉินทำการตรวจวัดการเชื่อฟังคำสั่งนี้โดยการจับใบมีดตั้งขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น