เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

EGT 1416-1420


EGT 1416 เรื่องอื้อฉาว (2)

เฉินหยานเซียวเปลี่ยนกะกับอันหรานในเช้าวันถัดมา  การที่ม่อหยูตกลงที่จะให้เอลฟ์นำสิ่งต่าง ๆ มาให้สำหรับเธอในวันพรุ่งนี้ มันทำให้เฉินหยานเซียวอารมณ์ดีจนไม่ได้สังเกตว่าพวกเอลฟ์ประจำการอยู่ที่ทางเข้าของวิหารกำลังมองเธอด้วยสายตาที่กำกวม

นั่นคือเธอเหรอ?” เมื่อเห็นเฉินหยานเซียวเข้ามาในวิหาร เอลฟ์หลายคนที่รับผิดชอบในการปกป้องทางเข้าสามารถทำได้แต่เพียงอย่าให้เปลวไฟแห่งการนินทาในใจลุกลามและรวบรวมมันเข้าด้วยกัน

ถ้าไม่ใช่เธอแล้วเราจะมีเอลฟ์หญิงอื่นอีกหรือไม่”

หลิวเค่อเห็นว่าหยานเซียวและหัวหน้าหยูอยู่ในห้องด้วยกันเมื่อคืนนี้จริง ๆ หรือไม่?” หัวหน้าหยูทรงพลังและครอบงำ!

ไม่ว่าในกรณีใด เด็กคนนั้นจะพูดจริงหรือไม่ ข้าคิดว่าไม่น่ามีปัญหา”

ดีมาก ดีมาก เราต้องอยู่ในเมืองรัศมีจันทร์นี้ทุกวันและไม่สามารถเห็นเอลฟ์หญิงมาหลายปี เคล็ดลับของหัวหน้านั้นเยี่ยมจริงๆ อา! พาภรรยาของเขามาที่เมือง”

กลุ่มเอลฟ์ที่อายุน้อยและแข็งแกร่งแสดงความอิจฉาและความเกลียดชัง ภายในเมืองรัศมีจันทร์ยกเว้นพระนางศักดิ์สิทธิ์ผู้ดูแลต้นไม้แห่งชีวิตที่เหลือต่างล้วนแล่วแต่เป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เอลฟ์เหล่านี้เป็นเหล่าทหารของหน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะต้องอยู่ในเมืองเป็นเวลานาน แม้ว่าพวกเขาจะสามารถออกไปนอกเมืองได้เดือนละครั้ง แต่เวลาสั้นเพียงหนึ่งวัน ในช่วงเวลาสั้น ๆ พวกเขาจะไปหาหญิงสาวสวยเพื่อพูดคุยได้อย่างไร

เกี่ยวกับความรักหรือไม่?

แล้วพระนางศักดิ์สิทธิ์ล่ะ?

ไม่ต้องพูดถึงว่ามีพระนางศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ใครที่ไม่รู้ว่าคู่ครองของราชาเอลฟ์ที่ผ่านมา ทุกคนจะถูกเลือกจากในบรรดาพระนางศักดิ์สิทธิ์? พวกเขาก็ไม่กล้าต่อสู้กับเพื่อแย่งพระนางศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่ราชาเอลฟ์จะได้หมั้น

หากบังเอิญราชาเอลฟ์ขัดขวางความสัมพันธ์ของพวกเขา พวกเขาจะร้องไห้จนกว่าพวกเขาจะไม่มีน้ำตา

ดังนั้นเรื่องอื้อฉาวระหว่างม่อหยูและเฉินหยานเซียวทำให้เรื่องซุบซิบนินทากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เอลฟ์ทั้งหลายต่างรู้สึกขมขื่น

เมื่ออันหรานออกมาจากคุกใต้ดิน เขาเห็นพวกเอลฟ์กระซิบซึ่งกันและกัน อันหรานที่เฝ้าดูอยู่ในช่วงกลางคืนอาจกล่าวได้ว่ารู้สึกวิตกมาตลอดทั้งคืน เขาไม่ใช่ เฉินหยานเซียว เขาไม่ได้โชคดีเช่นมีการแลกเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับเทาเที่ย เขาทำได้เพียงแค่มองเทาเที่ยที่นอนหลับอยู่ห่าง ๆตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า

ร่างกายและจิตใจของเขาจึงอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล

เมื่อเฉินหยานเซียวเข้าสู่ห้องขัง เทาเที่ยไม่สามารถอดทนรอที่จะกลายเป็นเด็กน่ารักอีกครั้ง มันนั่งบนพื้น มือทั้งสองของมันวางอยู่บนหัวเข่า และดวงตาที่ส่องแสงจ้องมองไปที่เฉินหยานเซียวอย่างมั่นคง ตอนนี้มันแค่ขาดหางยาวที่จะกระดิกไปมาทางด้านหลัง

เฉินหยานเซียวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ในขณะที่เธอมองไปที่เทาเที่ยที่กำลังมองหาอาหาร เธอเดินเข้าไปในกรงด้วยความสิ้นหวังและยังคงทำงานให้อาหารต่อไป

ในเวลาเดียวกันม่อหยูที่เพิ่งมาถึงตำแหน่งของเขาก็ได้รับการสอบสวนราวกับพายุ

ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่ประพฤติตัวดีของเขา พวกเขาแต่ละคนก็ทำเหมือนกับว่าพวกเขาถูกฉีดด้วยเลือดไก่ขณะที่พวกเขาล้อมรอบเขาไว้ด้วยกันบังคับให้เขาอธิบายสิ่งต่าง ๆ ระหว่างเขากับเฉินหยานเซียวอย่างชัดเจนและยิ่งกว่านั้น

บางคนถามม่อหยูอย่างดุร้ายโดยตรงว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะแต่งงานกับเฉินหยานเซียว

เมื่อม่อหยูได้ยินคำถามนี้เขาดูโง่และถามกลับในทันที

เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ข้ากับหยานเซียว? อย่าล้อเล่นนะ! เธอเกือบจะเป็นน้องสาวของข้า เจ้าจะคิดอะไรดี ๆในหัวของเจ้าได้หรือไม่!” ม่อหยูต้องการอาเจียนออกมาเป็นเลือด เขาเป็นชายหนุ่มที่ดีและใจดี อย่างไรก็ตาม เขาจะมีความคิดเกี่ยวกับสาวน้อยที่ยังเด็ก โตไม่เต็มวัยได้อย่างไร?

จับสาวน้อยมาวางไว้ในมืออันดุเดือดของผู้ใหญ่นั่นจะไม่เป็นความคิดที่บ้าหรือไม่?

ซิ่วที่นั่งอยู่ภายในร่างกายของเฉินหยานเซียว จามออกมา...

[1] เลือดไก่ = กระตุ้น




EGT 1417 เมืองหลักของพวกเอลฟ์ (2)

ในวันถัดมาเฉินหยานเซียวขอให้อันหรานดูแลเทาเที่ย แทนเธอชั่วขณะหนึ่ง หลังจากที่เธอตามม่อหยูไปที่ประตูใหญ่ในเมืองรัศมีจันทร์

ที่หน้าประตู เอลฟ์หญิงนับสิบคนสวมชุดสีเขียวอ่อนยืนอยู่ตรงนั้น ในเมืองนี้เต็มไปด้วยพวกเอลฟ์ชายที่สร้างฉากที่สวยงาม

พวกเอลฟ์ที่ถูกเลือกมาในฐานะพระนางศักดิ์สิทธิ์ มีความสามารถและฉลาดมากตามลําดับ ลักษณะของพวกเขาก็เช่นกลุ่มคนชั้นหนึ่งและไม่เหมือนเอลฟ์ทั่ว ๆ ไป

กลุ่มของความงามที่ยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่ด้วยกันนั้นสามารถทำให้ฝูงชนของชายหนุ่มและชายที่แข็งแกร่งรู้สึกถึงความต้องการ

ถ้าไม่ใช่เพราะความสงบของพวกเอลฟ์ มันก็กลัวว่าสมาชิกของทหารหน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องเมืองจะต้องทำการปราบเหล่าหมาป่ามานาน!

สาว ๆ อา! นั่นคือผู้หญิงทุกคน อ่า!

เอลฟ์ชายมองพวกเขา แต่ไม่มีใครกล้าไปข้างหน้าและพูดคุยกับพระนางศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้

พวกเขาไม่สามารถพูดได้อย่างแม่นยำว่าใครในหมู่ผู้หญิงเหล่านี้จะกลายเป็นคู่ครองในอนาคตของราชาเอลฟ์ ยิ่งถ้าเกิดว่ามีพรสวรรค์พร้อมด้วยความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาก็จะยังไม่กล้าแตะต้องพวกเธอแม้แต่น้อย

แน่นอนเมื่อราชาเอลฟ์แต่งงานแล้วเอลฟ์ชายเหล่านี้จะไม่สุภาพ

เฉินหยานเซียวเห็นต้วนซิวยืนอยู่ท้ายทีม เธอเป็นคนเงียบ ๆ และอ่อนโยนเหมือนปกติ รอยยิ้มมิตรภาพปรากฏบนริมฝีปากของเธอ เธอจะคุยกับเอลฟ์หญิงสาวสวยข้างๆเธอเป็นครั้งคราว

เจ้าไปข้างหน้า ข้าได้แจ้งไปแล้ว สิ่งที่เจ้าต้องการเพียงแค่พูดกับเอลฟ์ที่รับผิดชอบ"

การจัดซื้อ ม่อหยูซึ่งค่อนข้างทำตัวสบาย ๆ ในวันธรรมดา ดูจะสุภาพมากขึ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเอลฟ์ผู้หญิงเหล่านี้

เฉินหยานเซียว เด็กหญิงอายุน้อยที่อายุน้อยกว่าอย่างเธออาจถูกมองว่าเป็น "ผู้หญิง" หรือไม่?

เฉินหยานเซียวเดินไปที่กลุ่มของพระนางศักดิ์สิทธิ์ และได้รับการต้อนรับด้วยดวงตาที่สงสัยและสงบ

เฉินหยานเซียวเดินไปที่ด้านข้างของต้วนซิว อย่างเงียบ ๆ พวกเขาทักทายด้วยรอยยิ้มที่รับรู้กัน

พระนางศักดิ์สิทธิ์เดินไปข้างหน้าทีละคนและระบุสิ่งที่พวกเธอต้องการให้พวกเอลฟ์ที่รับผิดชอบจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อถึงคราวของเฉินหยานเซียว เธอเดินตรงไปและส่งรายการสิ่งต่าง ๆ และแหวนมิติไว้ในมือของอีกฝ่าย

เหล่าเอลฟ์แห่งเมืองรัศมีจันทร์มีแหล่งรายได้คงที่ทุกเดือนและจำนวนเงินที่ต้องใช้เพื่อจ่ายสำหรับสิ่งที่พวกเขาซื้อจะถูกหักออกจากรายได้นี้

เมื่อเฉินหยานเซียวมอบแหวนมิติ เอลฟ์ที่ซื้อจะค่อนข้างสับสน

ข้าต้องการหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งเขียนไว้ในรายการทั้งหมด เงินอยู่ในแหวนมิติและเจ้าสามารถใส่ของลงในแหวนหลังจากซื้อพวกมัน” เฉินหยานเซียวอธิบาย

เอลฟ์จัดซื้อพยักหน้า เธออยากรู้ว่าเอลฟ์ตัวเล็ก ๆ นั้นต้องการอะไร จนถึงกับให้แหวนมิติ

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเห็นรายการที่อยู่ในรายการของ เฉินหยานเซียว เธอก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจ

เจ้า…เจ้าต้องการแร่มากมายเช่นนี้ไปทำอะไร?”

รายการนั้นเต็มไปด้วยแร่หลากหลายชนิด ทุกชนิด ไม่น่าแปลกใจที่ เฉินหยานเซียวมอบแหวนมิติให้เอลฟ์เพื่อจัดเก็บ ไม่อย่างนั้นมันอาจเป็นไปได้ว่าเอลฟ์ไม่สามารถยัดทุกอย่างในสิบตู้ได้

เฉินหยานเซียวยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าชอบการกลั่นสกัด ข้าไม่ได้เตรียมแร่ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ดังนั้นข้าจึงไม่สบายใจ พี่สาวช่วยข้าจัดซื้อของเหล่านี้ ข้าคงต้องรบกวนเจ้าจริงๆ”

เอลฟ์จัดซื้อพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ สินแร่มากมาย หยานเซียวจะเก็บเอาไว้ใช้กี่ปี?

เฉินหยานเซียวก็เป็นทุกข์เช่นกัน ด้วยความกระหายของเทาเที่ย การจัดการสิ่งเล็กน้อยย่อมไม่ได้แน่นอน มันไม่พอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่กล้าซื้ออาหารโดยตรง

ท้ายที่สุดเธอต้องรับผิดชอบในการดูแลเทาเที่ย ถ้าเธอซื้ออาหารในปริมาณมากมันคงเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันการถูกสงสัยจากผู้อื่น




EGT 1418 เมืองหลักของพวกเอลฟ์ (3)

แม้ว่าทวีปเทพจันทรานั้นจะไม่ได้อุดมไปด้วยอัญมณี แต่แร่ธาตุก็นับว่าไม่เลว อาวุธของพวกเอลฟ์ส่วนใหญ่ทำจากไม้ เฉพาะดาบและมีดสั้นเท่านั้นที่จะใช้แร่ ดังนั้นราคาแร่ในทวีปเทพจันทราจึงต่ำมาก

แร่ธาตุที่เฉินหยานเซียวเขียนไว้ในรายการล้วนแต่อุดมไปด้วยองค์ประกอบธาตุบางอย่างและมีความหลากหลาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหา

เทาเที่ยยังสามารถกินแร่; จุดนี้ได้รับการยืนยันจาก เฉินหยานเซียวแล้ว

เอลฟ์จัดซื้อได้ทำการรวบรวมรายการและเก็บลงในแหวนมิติของเฉินหยานเซียว ในเวลาต่อมาเธอก็หันหลังกลับเดินออกมาจาดกลุ่มเอลฟ์จัดซื้อที่จะไปนอกเมือง

เหล่าเอลฟ์จัดซื้อออกไปแล้วและพระนางศักดิ์สิทธิ์ก็กลับไปทำงานต่อที่ด้านข้างต้นไม้แห่งชีวิต

ต้วนซิวเดินอยู่ท้ายกลุ่มของพระนางศักดิ์สิทธิ์ เฉินหยานเซียวมองและเดินตามจังหวะการเดินของต้วนซิว อยู่ห่าง ๆ

ก่อนที่สองร่างที่เคยอยู่ท้ายขบวนก็ค่อยๆหายไปจากสายตาของพวกเอลฟ์ด้วยกัน

ต้วนซิวรีบเร่งหามุมที่ห่างไกลและลับเฉพาะ เมื่อเธอพิจารณาว่าไม่มีพวกเอลฟ์คนอื่น ๆ เธอก็หยุด

เฉินหยานเซียวเดินตรงไปที่ด้านข้างของเธอ

ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้รับมอบหมายให้ทำงานในคุกใต้ดินที่เทาเที่ยอยู่ เจ้าได้รับภารกิจที่ยากลำบากจริงๆ” ต้วนซิวพูดออกมาเบา ๆ

เมื่อมองไปที่เฉินหยานเซียว แม้ว่าเธอจะอยู่ในใจกลางเมืองรัศมีจันทร์ แต่เธอก็รู้สถานการณ์ของหยานเซียวเช่นกัน

มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น” เฉินหยานเซียวลูบจมูกเธอ พวกเอลฟ์ทุกคนคิดว่าการได้เฝ้าเทาเที่ยนั้นเป็นงานที่ยากลำบากมาก จริง ๆ แล้วมันง่ายมากสำหรับเธอ

อันที่จริงแล้วด้วยเหตุผลที่พวกเอลฟ์มีความคิดเช่นนั้น เนื่องมาจากชื่อเสียงอันดุดันของเทาเที่ย

ส่วนอีกอันเนื่องมาจากอันหรานซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลเทาเที่ย ทุกครั้งที่อันหรานออกจากคุกใต้ดินเขาดูเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะคิดว่า เฉินหยานเซียวก็มีช่วงเวลาที่ลำบากเช่นกัน

ข้าได้สอบถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่ เฉินจิงขอให้ข้าค้นหา อย่างไรก็ตามข้าเพิ่งเข้าเมืองรัศมีจันทร์ และข้ายังไม่รู้เกี่ยวกับพวกเอลฟ์มากนัก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถรับข่าวสารที่แม่นยำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่โปรดอย่าได้กังวล”

ใบหน้าของต้วนซิวนั้นดูเหมือนต้องการที่จะขอโทษด้วย

"ไม่เป็นไร ขอบคุณมากสำหรับสิ่งนี้” เฉินหยานเซียว ยิ้มและตอบกลับ

แม้ว่าข้าจะยังไม่แน่ใจ แต่ข้าก็รู้ข่าวบางอย่าง เมื่อคืนราชาเอลฟ์อยู่ใต้ต้นไม้แห่งชีวิต ข้าเห็นจากที่ไกล ๆ ดูเหมือนว่าจะมีผู้หญิงที่เป็นมนุษย์อยู่ข้างตัวเขา รูปร่างของผู้หญิงคนนั้นมีเจ็ดถึงแปดส่วนที่คล้ายคลึงกับเหวินหยา เพราะข้าเห็นว่าเหวินหยาเป็นเอลฟ์ ข้าจึงไม่แน่ใจเหมือนกัน

บวกพวกเขาอยู่ห่างไกล ต้วนซิวที่มองเฉินหยานเซียว และมีคำใบ้ในสายตาของเธอ

หัวใจของเฉินหยานเซียวเต้นดุเดือด

เหวินหยาอยู่ข้างราชาเอลฟ์หรือไม่?

แม้ว่า ต้วนซิวจะบอกว่าเธอไม่แน่ใจนัก แต่เฉินหยานเซียว สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่ามนุษย์หญิง ที่ต้วนซิวเคยเห็นคือเหวินหยา!

ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงดูคล้ายเหวินหยา?

นอกจากนี้ เมืองรัศมีจันทร์เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของพวกเอลฟ์ เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะปรากฎตัวที่นี่

ง่ายมาก นอกเหนือจากผู้หญิงคนนั้นที่เป็นเหวินหยาแล้ว เฉินหยานเซียวไม่สามารถนึกถึงความเป็นไปได้อื่น ๆ อีกต่อไป

เพียง แต่ ...

เหวินหยาและเฉินอู๋ไม่ได้ถูกขังอยู่ที่เมืองรัศมีจันทร์หรือไม่? เหตุใดเหวินหยาจึงอยู่กับราชาเอลฟ์?

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับราชาเอลฟ์คืออะไร?” เฉินหยานเซียวถามด้วยความระมัดระวัง

ต้วนซิวตอบว่า “มีการสนทนาเป็นครั้งคราวระหว่างกัน  ดูเหมือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองมีความมิตรกันมาก ราชาเอลฟ์นั้นสุภาพต่อเธออย่างมากโดยไม่มีร่องรอยของความรุนแรงใด ๆ”

เฉินหยานเซียว ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังสงสัยอยู่มาก

ทำไมเหวินหยาถึงได้อยู่กับราชาเอลฟ์




EGT 1419 แผนของเฉินหยานเซียว (1)

เฉินหยานเซียว หวังว่าเธอจะได้แอบเข้าไปใกล้ ๆ ต้นไม้แห่งชีวิตโดยเร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้ บางทีเธออาจจะติดต่อกับเหวินหยาได้

อย่างไรก็ตามจากปากของต้วนซิว เฉินหยานเซียวได้เรียนรู้ว่ารอบ ๆ ต้นไม้แห่งชีวิตนั้นมีการตรวจตราที่เข้มงวดมาก ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ เฟินชูเห็นได้ชัดว่าได้ดูแลต้นไม้แห่งชีวิตตลอดทั้งวัน ถ้าใคร (เช่น เฉินหยานเซียว) ต้องการแอบเข้าไป เธอต้องมีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับสถานที่ของต้นไม้แห่งชีวิตว่าอยู่ที่ไหน จากนั้นเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้ สำหรับข้อมูลนี้เธอสามารถถามต้วนซิวได้เท่านั้น

หลังจาก ต้วนซิวและเฉินหยานเซียวแลกเปลี่ยนข่าวพวกเขาแยกทางกัน

เฉินหยานเซียวกลับไปที่คุกใต้ดินและเฝ้าเทาเที่ยต่อไป

แม้ว่าจะมีคำถามมากมายในใจ แต่เธอก็ไม่กังวลที่จะหาคำตอบ

สำหรับบางสิ่งจำเป็นต้องรออย่างอดทน

เพียงแค่คอยดูแลเทาเที่ยที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เฉินหยานเซียวได้ฝึกฝนแหล่งกำเนิดพลังชีวิต ในขณะเดียวกันก็ฝึกฝนการใช้อาคมในคุกใต้ดิน

ในระหว่างวันที่เฉินหยานเซียวกำลังนั่งอยู่ในคุกใต้ดินและฝึกฝนอาคม เทาเที่ยกำลังกินอาหารอยู่

ในขณะที่มองดูเฉินหยานเซียวเขียนอะไรบางอย่างด้วยพู่กัน และบางครั้งมันก็เงยหน้าขึ้นมองกระดาษในมือของเฉินหยานเซียว

ในฐานะที่เป็นนักชิม เทาเที่ยเหยียดมือของมันออกไปอย่างไม่รู้ตัวและหยิบกระดาษชิ้นหนึ่งที่มีอักขระอาคมแล้วเอาเข้าไปไว้ในปากของมัน

วู”

เฉินหยานเซียวผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการเขียนอาคม ก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญของเทาเที่ย

เธอเงยหน้าขึ้นทันทีและเห็นว่าใบหน้าเล็ก ๆ ของเทาเที่ยบิดเบี้ยว

เจ้าคนงี่เง่าคนนี้กินกระดาษที่มีอักขระอาคมที่เจ้าเขียนไว้” หงส์ไฟยืนอยู่ข้าง ๆ มันกอดหน้าอกมองไปที่ เทาเที่ยที่โง่เขลาที่รนหาที่ตายอย่างยิ่งยวด

เทาเที่ย?” เฉินหยานเซียวมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ยุ่งเหยิงของเทาเที่ย และถามด้วยความกังวล

ใบหน้าของเทาเที่ยนั้นบูดเบี้ยวและตาโตของมันก็ปรากฏร่องรอยของความชุ่มชื้นเมื่อจู่ ๆ มันก็เปิดขึ้นอย่างกว้างขวาง

นี่อร่อยมาก!” เทาเที่ยชี้ไปที่กระดาษภายใต้ในมือของ เฉินหยานเซียวอย่างตื่นเต้นและอุทานออกมา

อะไรนะ?” เฉินหยานเซียวพูดไม่ออก เด็กคนนี้หิวจนเกินไป จนมันไม่ใส่ใจที่จะเลือกสิ่งที่มันกินอีกต่อไปหรือไม่

มันกระดอนในปากของข้า มันอร่อยมาก เจ้ายังเขียนมันอยู่หรือไม่? เจ้า…สามารถให้ข้าบ้างได้หรือไม่ เจ้าให้ข้ากินมันอีกได้หรือไม่?” เทาเที่ยมองดูเฉินหยานเซียวอย่างฉับพลันและพูดว่า

นี่…นี่เป็นอักขระอาคมที่มีพลังอาคมในการผูกมัดเจ้า เจ้ายังคิดที่จะกินมันอยู่อีกหรือไม่?” เฉินหยานเซียวมองไปที่เทาเที่ยด้วยความไม่ใจ

เทาเที่ยพยักหน้า

หากอักขระอาคมไม่ได้รวมเข้ากับอาคมมันจะไม่เป็นอันตรายต่อข้า ข้าสามารถกินได้”

ไอ้โง่" หงส์ไฟเยาะเย้ย

เฉินหยานเซียวไม่ได้คิดเรื่องอื่น เธอลุกขึ้นและเขียนอักขระอาคมอย่างที่เธอเขียนไว้ก่อนหน้านี้ ต่อหน้าเทาเที่ย

นี่คือสิ่งที่ได้จากการฝึกฝนของเธอ พวกมันไร้ประโยชน์ โดยทั่วไป จริง ๆ แล้วเธอกำลังคิดว่าจะกำจัดมันที่ไหน ตอนนี้ เทาเที่ยได้กลายเป็น "เครื่องย่อยเอกสาร" แม้แต่เอกสารที่เสียของเธอก็ยังมีค่า

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเทาเที่ยซึ่งดูเหมือนพอใจกับการรับประทานอาหารมาก หัวใจของเฉินหยานเซียวก็คิดขึ้นมา

ซิ่ว”

'หืม?

เจ้าคิดว่าข้าสามารถนำเทาเที่ยออกจากที่นี่ได้หรือไม่?” เฉินหยานเซียวหรี่ตาลง เธอยังมีเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะยังอยู่ในทวีปเทพจันทรา แต่หลังจากที่เธอจากไปเธอเชื่อว่าจะไม่มีเอลฟ์คนใดที่จะเลี้ยงเทาเที่ยต่อไป เจ้าโลภน้อยโง่ตัวนี้ จะไม่ถูกความหิวครอบงำอย่างรุนแรงหรือไม่?

หากเจ้าสามารถปลดล็อกอาคมในโซ่ มันก็อาจเป็นไปได้' ซิ่วไม่ประหลาดใจเลยในความคิดของเฉินหยานเซียว หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ดูเหมือนจะมีความต้านทานน้อยต่อสัตว์ขนาดเล็กและน่ารัก

เฉินหยานเซียวมองไปที่เทาเที่ยอย่างซับซ้อน ตอนนี้เธอยังคงเรียนรู้อาคม หากเธอต้องการปลดผนึกอาคมในคุกใต้ดิน เธอต้องการเวลาในการเติบโต อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้




EGT 1420 แผนของเฉินหยานเซียว (2)

หากเจ้าวางแผนที่จะพามันไปจริงๆ เจ้าต้องหาเจ้านายให้มัน เทาเที่ยไม่มีวินัยตามนิสัย ถ้าเจ้าพามันกลับไปที่ ทวีปคังหมิงในขณะนี้ด้วยอารมณ์ของมัน มันจะไม่ใช้เวลานานนัก ก่อนที่มันจะกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีของมนุษย์ มันจะไม่สนใจเกี่ยวกับปฏิกิริยาของมนุษย์และไม่ช้าก็เร็ว มันก็จะกลายเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่' ซิ่วเตือนเฉินหยานเซียวว่าพลังทำลายล้างของเด็กน้อยน่ารักคนนี้ไม่น่ารักเท่าไหร่

ฮี่ฮี่ ข้าคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว” ดวงตาของเฉินหยานเซียวเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มที่ทรยศ

ยังไม่พบสัตว์เวทที่เหมาะสมกับเสี่ยวเฟิงหรือไม่? ข้าคิดว่า เทาเที่ย เหมาะสมกับเขาแล้ว”

เดิมทีเธอวางแผนที่จะค้นหาสัตว์เวทระดับตำนานสำหรับหลันเฟิงหลี่ ตอนนี้เธอจะนำสัตว์ศักดิ์สิทธิ์กลับไปโดยตรง มันไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว

ข้าไม่รู้ว่าจะหลอกมันได้อย่างไร” เฉินหยานเซียว แตะคางของเธอ IQ ของ เทาเที่ย ไม่ได้ดูสูงและหลันเฟิงหลี่ ไม่ใช่เจ้านายที่จะใช้สัตว์เวทของเขา เธอคิดว่าพวกเขาเหมาะสมกับแต่ละคนอย่างแท้จริง

เท่าที่ข้ารู้ ไม่มีบุตรชายคนในในเก้าคนของเทพมังกรที่เคยลงนามสัญญากับมนุษย์' ซิ่วไม่สามารถช่วยได้ เขาทำได้แต่ทำลายจินตนาการของเฉินหยานเซียว

เทาเที่ยและพี่น้องแปดคนของเขาอาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มสัตว์เวทที่ทำให้มนุษย์มีอาการปวดหัวมากที่สุด ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของแต่ละตัว ที่สามารถกดขี่ข่มเหงทุกคนได้ มีอารมณ์ผิดปกติ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกมันจะร่วมมือกับมนุษย์ ส่วนใหญ่อาจพูดได้ว่า พวกมันเป็นความหายนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษย์

มันเป็นเช่นนั้นมาเกือบร้อยปีแล้วที่ลูกชายมังกรเหล่านี้ซื่อสัตย์และไม่ได้ออกมาสร้างปัญหา

ข้าจะไปคุยกับเทาเที่ย!” เฉินหยานเซียวตัดสินใจลองหลอกคนตัวเล็กก่อน

เทาเที่ยที่กินอยู่ตลอดเวลากระพริบตาขณะที่มองเฉินหยานเซียว ผู้เดินไปหามันในทันทีทันใด

อย่างชาญฉลาดเขารีบผลักอาหารที่ยุ่งเหยิงทั้งหมดข้างหน้ามันด้วยมือเล็ก ๆ ทั้งสองด้านหน้าเพื่อเปิดทางให้เฉินหยานเซียวอย่างน่าประทับใจ

เฉินหยานเซียวมองดูการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีน้ำใจของเทาเที่ย และปากของเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เทาเที่ย ข้ามีอะไรจะบอกเจ้า” เฉินหยานเซียวนั่งลงต่อหน้าเทาเที่ย และพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

อะไร?” เทาเที่ยถามแล้วกลืนอาหารเข้าไปในปากของมัน

ข้าจะต้องไปจากที่นี่ในเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากข้าออกไป ข้าจะไม่สามารถให้อะไรเจ้ากินได้อีกต่อไป” ใบหน้าของเฉินหยานเซียวเผยให้เห็นว่าหมดหนทาง

เทาเที่ยมองดูโง่เง่าโดยตรง

คนป้อนอาหารของเขาจะไป?

ไปไหน…

ไป……

วา! วูวู! อย่าไป! ข้าจะเชื่อฟังและประพฤติตัวให้ดีมาก ๆ ข้าจะเชื่อฟังทุกสิ่งที่เจ้าบอก ข้าจะไม่ทำให้เจ้ามีปัญหา! ข้าจะไม่สร้างความวุ่นวายอีกต่อไป อย่าไป ... วูวู... ข้าจะไม่สร้างปัญหาอีกต่อไป อย่าจากไป ตกลงนะ…” เทาเที่ยดึงชายเสื้อของเฉินหยานเซียว และร้องไห้ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่บอบบางของมันปกคลุมไปด้วยน้ำตาและดวงตาโตของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว

ข้า…ข้าจะกินน้อยลงในอนาคต ข้ารู้ว่าเจ้า เอลฟ์ใช้จ่ายเงินเพื่อสิ่งของ ข้าจะกินน้อยลง ข้าจะประหยัดอาหาร … อย่าปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียว ถ้าเจ้าจากไปแล้ว ... ไม่มีใครจะเลี้ยงข้าอีกต่อไป ... ข้าจะอดตาย ... " ตามความคิดของมัน มันหิวมานานกว่าร้อยปี เทาเที่ยถูกครอบงำด้วยความกลัวอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

มันไม่กลัวความมืดและไม่กลัวความเหงา สิ่งที่มันกลัวคือความหิว

เมื่อเฉินหยานเซียวไปแล้วจะไม่มีใครให้มันกินอะไรอีก ในเวลานั้นมันจะตกอยู่ในความสิ้นหวังไม่มีที่สิ้นสุด

เทาเที่ยกลัว มันกลัวจริงๆ มันไม่เคยกลัวที่จะสูญเสียอะไรแบบนี้มาก่อน

ตอนนี้มันรู้วิธีที่จะกลัว กลัวการสูญเสียอาหาร กลัวที่จะสูญเสีย 'เจ้าของ' ของมัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น