เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

EGT 1274-1276 ความแปลกประหลาดในหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์

EGT 1274

การรับรู้ของเอลฟ์เกี่ยวกับพืชเป็นสิ่งที่ได้มาแต่กำเนิด แม้แต่ต้นไม้ที่เสียชีวิตไปแล้วพวกเขาก็ยังสามารถเข้าใจได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

เธอทำทุกขั้นตอนด้วยระดับที่แม่นยำที่สุด และเวลาที่ เฉินหยานเซียวใช้เพื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ให้เสร็จก็น้อยกว่าเมื่อเธอเป็นมนุษย์

ความแตกต่างนี้ทำให้ เฉินหยานเซียวรู้สึกผ่อนคลายมาก ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมพวกเอลฟ์ทุกคนถึงสามารถปรุงยาได้อย่างง่ายดาย

ต้องขอบคุณความสามารถโดยธรรมชาติของพวกเอลฟ์ ความเข้าใจของสมุนไพรแต่ละชนิดนั้นมีความแม่นยำมาก โดยไม่จำเป็นต้องมองหรือดมกลิ่นของพวกมันอย่างระมัดระวังเหมือนที่มนุษย์ทำ พวกเขาเพียงแค่จำเป็นต้องปฏิบัติตามการรับรู้ทางจิตและทุกอย่างก็จะง่ายมาก

เมื่อหยานเซียวได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างที่น่าประหลาดใจของการปรุงยาระหว่างเอลฟ์กับมนุษย์ เฉินหยานเซียวก็เริ่มครุ่นคิดที่จะฉกฉวยนักปรุงยาเอลฟ์สองสามคนกลับไปยังทวีปคังหมิง

ไม่ว่าจะพิจารณาความเร็วของกระบวนการกลั่นสกัดหรือการกรองความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละขั้นตอน มันดีกว่าสิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้สำเร็จ!

มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดหากเธอสามารถนำเอลฟ์เพียงคนเดียวกลับสู่เมืองตะวันไม่เคยลับ!

อย่างไรก็ตาม การที่เฉินหยานเซียวกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ โดยไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเอลฟ์เป็นศัตรูกับมนุษย์ นั่นก็ยังคงเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดอยู่ดี ดังนั้นเฉินหยานเซียวจึงไม่กล้าที่จะแสดงท่าที

มลพิษ…

อันตรายที่ซ่อนอยู่ภายในตัวพวกเอลฟ์ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะปะทุออกมาในวันไหน

เฉินหยานเซียวยังคงทำการปรุงยาอย่างสงบ ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะยาในมือของเธอจะประสบผลสำเร็จ

เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ ความเร็วของกระบวนการทั้งหมดลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ความบริสุทธิ์ก็เพิ่มขึ้นอีกกว่าเดิมถึงสองระดับ!

เฉินหยานเซียวหลงไหลในความสามารถในการรับรู้ของเอลฟ์เมื่อทำการปรุงยา หลังจากนั้น ยาปรุงที่ปรุงโดยเธอเริ่มทยอยวางเรียงเป็นแถว พวกมันค่อยๆสะสมต่อหน้าต่อตาเธอ จิตใจของเฉินหยานเซียวก็เกิดความคิดหาวิธีที่ดีเพื่อจัดการกับพวกมัน

เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะปล่อยให้หงส์ไฟนำยาเหล่านี้ไปยังเรือพ่อค้าของตระกูลกิเลน เพื่อนำพวกมันกลับไปยังเมืองตะวันไม่เคยลับ และส่งมอบให้กับฉีเซีย

ในขณะที่เธอสามารถพัฒนาทักษะด้านการปรุงยาของเธอ เธอยังสามารถจัดหายาไปให้เมืองตะวันไม่เคยลับ ได้อย่างมากมาย

ในเวลาเดียวกัน เฉินหยานเซียวไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ

ในขณะที่เธอกำลังจมอยู่ในกระบวนการปรุงยา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เฉินหยานเซียวไม่ได้หยุดแม้แต่สักครู่

ร่างกายของเธอกำลังดูดซับพลังชีวิตรอบตัวเธอ มือของเธอยุ่งอยู่กับการปรุงยา เธอยังช่วยซิ่วดูดซับองค์ประกอบธาตุแห่งความมืดและในเวลากลางคืนเธอยังคงเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณที่มั่นคงกับหงส์ไฟ

เฉินหยานเซียวยุ่งมาก แต่เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด

เธอเป็นเหมือนเด็กที่ค้นพบโลกใหม่ เธอมีความสุขมากที่ได้ปรุงยาและดูเหมือนว่าเธอจะไม่เบื่อแม้กระทั่งความตาย

เจ็ดวันผ่านไปในพริบตา เฉินหยานเซียวยุ่งมากมาเจ็ดวันเจ็ดคืนแล้ว

จริง ๆ แล้วเธอไม่รู้สึกเหนื่อย เมื่อมองดูยาที่จัดเรียงเป็นแถวอย่างประณีตภายในแหวนมิติของเธอ หยานเซียวก็รู้สึกพึงพอใจมากเป็นพิเศษ!

ฮะ! การปรุงยานั้นเป็นเหมือนการปลอกกล้วยเข้าปากสำหรับพวกเอลฟ์ ถ้าข้าทำแบบนี้อาจจะไม่นานนัก ที่ข้าจะสามารถไปถึงระดับของนักปรุงยาเชี่ยวชาญ!” เฉินหยานเซียว ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระดูกของเธอและจินตนาการที่ยิ้มแย้ม
(ระดับนักปรุงยา ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นปลาย ขั้นสูง เชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์)

เกี่ยวกับอนาคตอันสดใสของเธอ ระยะเวลาของการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องของเธอในชั้นสามของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์เสร็จสิ้นแล้ว เฉินหยานเซียวเก็บข้าวของของเธอและวิ่งออกจากหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เพื่อตามหา ชิวเอ๋อสำหรับการผ่านไปยังชั้นสี่

ความเร็วของเฉินหยานเซียวที่ใช้บ่มเพาะแต่ละชั้นนานหนึ่งสัปดาห์ มันได้ทำให้พวกเอลฟ์ทั้งหมดต่างตกใจมึนงง

เมื่อพวกเขามองดูเฉินหยานเซียวรับบัตรผ่านชั้นสี่จากมือของชิวเอ๋อพร้อมด้วยรอยยิ้มแล้วหันกลับเข้าสู่หอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์อีกครั้ง การแสดงออกของเอลฟ์เหล่านี้อาจอธิบายได้ว่า น่ากลัว!

เจ้าจะกลับมาที่นี่อย่างรวดเร็วได้อย่างไร?

อย่างน้อยเจ้าก็ให้เหตุผลเล็กน้อยกับพวกเขาเพื่อที่จะได้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!!!

ความก้าวหน้าของหยานเซียวที่เป็นเหมือนความเร็วของจรวดไม่เพียงแต่กลัวกลุ่มเอลฟ์ในชุดเดียวกันกับเธอ แต่ก็ยังได้ไปถึงหูของพวกเอลฟ์ที่มาที่นี่เมื่อเดือนก่อน




EGT 1275

จากกลุ่มเอลฟ์รุ่นที่มานานที่สุดไปจนถึงเอลฟ์กลุ่มใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้าค่ายฝึกขั้นสูงทั้งหมด

พวกเขารู้แล้วว่ามีเอลฟ์ที่ท้าทายสวรรค์ในค่ายฝึกขั้นสูง แม้ว่าจะมีอายุน้อย แต่เธอมีพละกำลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

หลังจากเข้าค่ายฝึกขั้นสูงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หนึ่งเดือนเธอก็มาถึงชั้นสี่ของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์แล้ว

แม้แต่ในหมู่เอลฟ์ของชุดก่อนหน้า ในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่มีใครสามารถบรรลุได้ในความเร็วเช่นนี้

ตามปกติเอลฟ์ที่มีพรสวรรค์สามารถเข้าสู่ชั้นสองหลังจากทำการบ่มเพาะในชั้นแรกของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์นานประมาณหนึ่งเดือนหลังจากที่เข้าสู่ค่ายฝึกขั้นสูง

โดยทั่วไปจะมีเอลฟ์ที่มีความสามารถเพียงหนึ่งหรือสองคนในทุกชุด

เช่นเดียวกับอันหราน: หลังจากผ่านการฝึกบ่มเพาะมาหนึ่งเดือน ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการได้รับบัตรผ่านเพื่อเข้าสู่ชั้นสองของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์  ในบรรดากลุ่มเอลฟ์นอกเหนือจากเฉินหยานเซียว เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะเข้าสู่ชั้นสองของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์

ความเร็วของความคืบหน้าของอันหรานนั้นเร็ว แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่พวกเอลฟ์สามารถยอมรับได้

แต่สำหรับเฉินหยานเซียว!

เธอเป็นคนผิดปกติ!

หนึ่งชั้นต่อสัปดาห์! โดยไม่ต้องแม้แต่หายใจ!

พวกเขาคิดว่าถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ใบผ่านเข้าไปในแต่ละชั้น เธอก็คงอยู่แต่ภายในหอคอยตลอดห้าเดือนจนกระทั่งสิ้นสุดระยะเวลาการฝึก!

น่าเกรงขาม น่ากลัวเกินไป!

เหล่าเอลฟ์ทุกคนในค่ายฝึกขั้นสูงถือว่าเฉินหยานเซียว เป็นคนผิดปรกติ

แม้แต่อาวุโสเย่วก็แสดงอาการตกใจอย่างมากหลังจากทราบความเร็วของการขึ้นสวรรค์ของเฉินหยานเซียว

อาจกล่าวได้ว่านับตั้งแต่การก่อตั้งค่ายฝึกขั้นสูงจนถึงปัจจุบัน

ความเร็วของเฉินหยานเซียว ในการก้าวหน้าใน หอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ได้ทำลายสถิติที่เคยมีมาในค่ายฝึกขั้นสูงลงไปที่พื้นอย่างสมบูรณ์!

เมื่อเฉินหยานเซียวปรากฏตัวอีกครั้งและหยิบบัตรผ่านชั้นห้าของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ พวกเอลฟ์ก็เป็นเช่นเดิม มองดูอย่างมึนงง

มันไม่ใช่แค่ชั้นห้าหรือไม่!

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่

อย่างไรก็ตามในอีกสัปดาห์ถัดมา สหายคนเดิมก็จะกลับมาอีกครั้งเพื่อขอป้ายผ่านชั้นหก

พวกเขาคุ้นเคยกับมันแล้ว!!!

เนื่องจากความก้าวหน้าของเฉินหยานเซียวนั้นเร็วผิดปกติ ผู้อาวุโสเย่วจึงค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับระดับความแข็งแกร่งของหยานเซียว

อาวุโสเย่วจึงเรียกเธอมาพบเป็นพิเศษเมื่อเฉินหยานเซียวเข้ามาขอรับป้ายผ่านชั้นห้า เป็นผลให้เขาพบว่าในเวลาเพียงครึ่งเดือน เฉินหยานเซียวได้เลื่อนระดับจากเอลฟ์ระดับสีแดงไปเป็นเอลฟ์ระดับสีขาว เขาพูดอะไรไม่ออกในทันที

เมื่อมองดูที่ผิวพรรณที่ผุดผ่องและเป็นประกายของ เฉินหยานเซียว และลมหายใจที่มั่นคง ความกังวลภายในใจของผู้อาวุโสถูกถล่มเป็นตะกรอนในไม่ช้า ในที่สุดเขาสามารถอยู่เงียบ ๆ แล้วอนุญาตให้เฉินหยานเซียวกลับไปทำการฝึกต่อยังชั้นบนของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ต่อไป

เฉินหยานเซียวยังคงตั้งใจที่จะทำการบ่มเพาะแบบคู่อย่างต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่ชั้นห้าของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์

แม้กระนั้นทันทีที่เธอก้าวขึ้นไปบนชั้นห้า เธอก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันก้อนโตปะทะบนใบหน้าของเธอ

ซึ่งเกือบทำให้เธอรู้สึกเวียนศีรษะ

บรรยากาศที่นี่แข็งแกร่งมาก” เฉินหยานเซียว จงใจชะลอการดูดซับพลังเข้าสู่แหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอในครั้งเดียว ชั้นที่ห้าของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ นั้นแตกต่างอย่างมากจากสี่ชั้นก่อนหน้านี้

พลังชีวิตที่นี่มีพลังมากและบริสุทธิ์ แม้ว่าพลังชีวิตของสี่ชั้นก่อนหน้าจะรวมกันและเพิ่มเป็นสองเท่า พวกมันก็ยังคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับกองกำลังในชั้นห้าได้

เฉินหยานเซียวขมวดคิ้วจนเป็นรอยย่นเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะชะลออัตราการดูดซับ แต่พลังชีวิตก็ลดทอนลงไปแล้วก็ยังพุ่งเข้าสู่ไปในร่างกายของเธอ มันทุบอย่างบ้าคลั่งไปที่แหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอ

ราวกับว่ากองกำลังรอบตัวเธอต้องการที่จะบุกเข้าไปในร่างกายของเธออย่างกระตือรือร้น

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือเมื่อพลังชีวิตเหล่านี้หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอ เฉินหยานเซียวรู้สึกว่า

แหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอสั่นไหวและเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด จากการปะทะ มันแพร่กระจายไปทั่วแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอและตลอดร่างกายทั้งหมด




EGT 1276

ความเจ็บปวดนี้เข้าสู่ประสาทของเธอก่อนที่จะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ

เฉินหยานเซียวขมวดคิ้วแน่น เธอรู้สึกอึดอัดจนทนไม่ได้

ทันใดนั้นหมอกสีเทาก็ไหลล้นออกมาจากหน้าอกของ เฉินหยานเซียว และค่อยๆก่อร่างเป็นมนุษย์ต่อหน้าต่อตาเธอ

ร่างกายของเฉินหยานเซียวสั่นเล็กน้อย ซิ่วเหยียดแขนออกแล้วดึงร่างสหายตัวน้อยที่สั่นเทาไว้ในอ้อมแขนของเขา

อย่าดูดซับพลังงานที่นี่" เสียงของซิ่วดังที่ข้างหูของเฉินหยานเซียว

ซิ่ว ข้ารู้สึกแย่มาก” เฉินหยานเซียวกัดฟันของเธอและทำตามคำพูดของซิ่ว ตัดการเชื่อมต่อระหว่างแหล่งกำเนิดพลังชีวิตกับสภาพแวดล้อมภายนอก แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่สามารถหยุดยั้งการไหลเข้าของพลังชีวิตที่อยู่รอบ ๆ

ความเจ็บปวดคลี่คลายลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเจาะเข้าไปเหมือนเดิม

ซิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อยดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยและม่านแสงสลัวปกคลุมร่างทั้งสอง

มีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับพลังที่นี่” ซิ่วกอดเฉินหยานเซียวไว้แนบแน่นกับอกของเขา

พลังแผ่จากซิ่วเข้าสู่ร่างกายของเฉินหยานเซียวเพื่อปัดเป่าพลังชีวิตที่ห้ำหั่นเธอตลอดเวลา

ในที่สุดสหายตัวน้อยในอ้อมแขนของเขาก็หยุดตัวสั่น ซิ่วโล่งใจเล็กน้อย

"เกิดขึ้นที่นี่คืออะไร? ข้าไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน” ในที่สุดสีหน้าของเฉินหยานเซียวปรับตัวดีขึ้น พลังชีวิตในชั้นห้านี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสี่ชั้นแรก ก่อนหน้านี้ ถ้าหากเธอไม่ต้องการที่จะฝึกฝนต่อไป เธอเพียงแต่ต้องปิดแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอ ตัดการเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมภายนอก แต่ตอนนี้แม้หลังจากผนึกแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอไว้แล้ว พลังชีวิตในชั้นห้าของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ ยังคงไหลเข้าสู่ร่างกายของเธอ

พลังการกัดเซาะเหล่านี้ทำให้เฉินหยานเซียวรู้สึกแย่มาก

ข้ายังไม่แน่ใจ แต่พลังชีวิตในที่นี่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม แต่สำหรับสามัญสำนึก พลังเหล่านี้ไม่ควรทำให้เจ้ารู้สึกเจ็บปวด” ซิ่วหรี่ตาของเขาแคบลงเมื่อเขามองดูหมอกจาง ๆ ที่ล้อมรอบพวกเขา เขาตั้งม่านเวทอาคมครอบคลุมพวกเขาทั้งสองเพื่อป้องกันการไหลบ่าเข้ามาของพลังชีวิตในห้อง

พลังที่นี่แปลกเกินไป เฉินหยานเซียวก็แทบจะทนไม่ได้จนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

เป็นที่เข้าใจได้ว่าความเจ็บปวดที่เธอเผชิญนั้นรุนแรงมาก

หอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์แต่ละแห่งให้พลังที่มาจากลำต้นของต้นไม้ที่หนาและแข็งแรง ซึ่งตรงมาจากพื้นถึงยอดหอคอย บนสี่ชั้นแรกจะเห็นเฉพาะลำต้นเปลือยเปล่าเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ตรงกลางของชั้นที่ห้ากิ่งที่ยื่นออกมาด้านนอก เริ่มสามารถมองเห็นได้แล้วและมีใบสีเขียวอ่อน ๆ ประปรายตามกิ่งก้าน ผ่านหมอกสีเขียวเล็ก ๆ น้อย ๆ มันเห็นได้ชัดเจนมาก

หากเจ้าต้องการทราบเหตุผลเราต้องดูกิ่งก้านเหล่านี้”

เฉินหยานเซียวพยักหน้า เมื่อเธอเข้าไปในหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เธอสังเกตเห็นลำตัวหนาในใจกลางของหอคอย ในเรื่องนี้ ชิวเอ๋อเพียงกล่าวว่ามันงอกออกมาจากเมล็ดผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิต นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพลังชีวิตที่ปล่อยออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าที่อื่น ๆ

ก่อนหน้าเฉินหยานเซียวไม่ได้คิดมากเกินไป แต่ตอนนี้หลังจากก้าวเข้าไปในชั้นห้าของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เธอรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายอย่างที่คิด

แม้ว่าเธอไม่เคยเห็นต้นไม้แห่งชีวิตที่แท้จริงถ้าต้นไม้ในหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เป็นแค่ส่วนที่แยกออกมาเพียงบางส่วนจากต้นไม้แห่งชีวิต จากนั้นพลังที่พวกมันสร้างขึ้นก็จะไม่น่ากลัวนัก

ถึงกระนั้นพลังที่นี่ก็แข็งแกร่งมากแล้วและนี่ก็เป็นเพียงชั้นห้า ถ้าเธอเข้าไปถึงในชั้นเจ็ด มันจะทรงพลังแค่ไหน?

ต้นไม้นี้เป็นเพียงส่วนแยกจากต้นไม้แห่งชีวิตจริงหรือ?

แม้ว่าเธอจะสามารถเข้าไปในเมืองรัศมีจันทร์ได้ แต่ เฉินหยานเซียว ก็ยังกลัวความแข็งแกร่งของพลังชีวิตที่นั่นจะคล้ายกับชั้นบนของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น