เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562

EGT 085 เจ้าแน่ใจว่าตาไม่ฝาดส่วนที่ 3




นอกเหนือจากสาขาหลักของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟในเมืองหลวงของจักรพรรดิแล้วยังมีอีก 3 สาขาที่อยู่ใน จักรวรรดิหลงซวน ทุกปี ทุกสาขาจะรายงานสถานการณ์ของพวกเขาต่อเฉินเฟิง เงินและสมบัติที่เก็บเกี่ยวโดยพวกเขาต้องถูกส่งไปยังสาขาหลักที่จะแจกจ่าย ในความเป็นจริงนอกเหนือจากครอบครัวตระกูลกิเลน อีกสี่ตระกูลใหญ่ที่อยู่ในเมืองหลวงของจักรพรรดิก็ทำได้แต่เพียงจัดเก็บภาษี จากสาขาของตระกูลของตน

นี่เป็นเหมือนกับกลุ่มทางการเงินในยุคสมัยใหม่ ที่คนที่ขายผลิตภัณฑ์จริง ๆ คือพนักงานด้านล่าง นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับประธานที่เพียงแค่นั่งอยู่ในที่ทำงานและวางแผนกลยุทธ์ของเขา

เฉินหยานเซียว เห็นโครงสร้างอย่างหยาบ ๆ และสถานการณ์ภายในครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเธอทั้ง เฉินหยิวและเฉินทวนแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยอุปสรรคจากการปราบปรามของเฉินเฟิงและการมีอยู่ของเฉินซืออู๋ พวกเขาไม่กล้าแสดงความไม่พอใจใด ๆ ต่อ เฉินหยานเซียว ยิ่งไปกว่านั้นจากช่วงเวลานี้เป็นต้นไปหงส์ไฟเริ่มเดินไปรอบ ๆ ภายใน ครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวเขาก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย

นี่คือหงส์ไฟที่จำศีลมาหลายศตวรรษ เมื่อได้ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง ทุกคนต่างมองมันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของพวกเขา เป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่  ทุกครั้งที่พวกเขามองเห็นหงส์ไฟ มันก็จะมีใครบางคนที่พยายามจะตามเขามาจากด้านหน้าหรือจากด้านหลังและพยายามที่จะอยู่กับสัตว์ในตำนานให้นานมากขึ้น  แม้กระทั่งเส้นผมที่ร่วงของหงส์ไฟ ผู้คนก็จะตะลุมบอลต่อสู้กันเพื่อมัน เพื่อที่จะได้มีสิทธิ์เก็บเส้นผมเส้นนั้น เพื่อเป็นมรดกตกทอดสืบทอดต่อไปในเชื้อสายของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถมองไปที่มันด้วยความประหลาดใจ

เหล่าคนโง่ที่บ้าคลั่งแบบนี้ มันทำให้เฉินหยานเซียวเกิดความเชื่อมโยงพวกเขากับบรรดาผู้บ้าคลั่งของศตวรรษที่ 24

เฉพาะหลังจากที่เฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ย ได้กลับมา พวกเขาสามารถลุกขึ้นได้อย่างอิสระจากเตียงและเดินได้ หลังจากที่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ห้าวัน ทันทีที่พวกเขาสามารถเดินออกไปได้ พวกเขาก็พบว่าเฉินเฟิงได้กำหนดให้ เฉินหยานเซียว เป็นทายาทที่จะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป สักครู่ต่อมาพวกเขาทั้งสองต่างรู้สึกเสียใจอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ในขณะนั้นพวกเขาก็ตระหนักว่า คนปัญญาอ่อนที่เคยชินกับการถูกกลั่นแกล้งจะกลายเป็นผู้นำตระกูลในอนาคต ด้วยการก้าวกระโดดเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็อดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้ว่า นี่เป็นเช่นบุคคลที่สามที่ก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์อันนี้

และหลังจากประสบปัญหาด้านความโหดร้ายของหงส์ไฟ อย่างลึกซึ้งแล้ว พวกเขาก็ระมัดระวังตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะทำอะไรในช่วงเวลานี้ เมื่อพวกเขาเห็นหงส์ไฟปรากฏตัว ทุกครั้งในทันทีพวกเขาก็จะวิ่งหนีห่างออกไป เพราะพวกเขากลัวว่า เฉินหยานเซียวซึ่งได้รับการฟื้นฟูให้เป็นปกติแล้วมีหงส์ไฟ จะมาเอาคืนกับพวกเขา

เฉินอี้เฟิง ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ แต่ไม่นานหลังจากที่เขากลับมาที่บ้าน เขาก็รีบออกจากครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ และไม่มีใครทราบว่าเขาจะวิ่งหนีไปที่ใด

เฉินหยานเซียวก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะหลังจากที่ยกเลิกตราประทับชั้นที่สอง ซิว ได้เปิดการฝึกอบรมที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้นกับเธอ ในระหว่างวัน เธอเดินตามเฉินซืออู๋เพื่อที่จะทำความคุ้นเคยกับกิจการทั้งหมดของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ แต่ในตอนกลางคืนเธอจะอยู่ในห้องของเธอ และฝึกปฏิบัติตามที่ ซิว กำหนด

ตลอดทั้งยี่สิบวัน ไม่มีคืนไหนที่เฉินหยานเซียวได้นอนหลับสบาย แต่ทว่าพลังลมปราณของเธอก็ผ่านทะลวงไปถึงระดับหก และคราวนี้เส้นทางระหว่างนักดาบและนักธนู เธอก็เลือกนักธนู - มันเป็นเส้นทางที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นในการพัฒนา อย่างไรก็ตามเนื่องจากซิวไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นจนจบเธอยังคงไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเส้นทางที่เธอได้เลือก นักเวทมนต์ดำและนักธนู เพื่อพัฒนา เธอสามารถทำการบ่มเพาะเพิ่มความสะอาดความเข้มข้นของพลังเวทและพลังลมปราณได้ในทุกวัน

สำหรับด้านการศึกษาของเส้นทางวิชาชีพเฉพาะทาง เธอก็มอบหมายให้สำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน ที่นี่เป็นหนึ่งในสำนักที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิหลงซวน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าอาจารย์ที่มีคุณวุฒิ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นี่ก็มีมาตรฐานสูงทั้งหมดใน ทวีปคังหมิง แม้ว่าสิ่งที่ เฉินเฟิงจะจัดให้เธอเข้าสู่เส้นทางอาชีพในฐานะนักปรุงยาตราบเท่าที่เธอสามารถเข้าสู่ สำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน ได้โดยการหยิบคัมภีร์ทักษะพิเศษของพลังลมปราณและพลังเวทออกมา สำหรับเธอมันเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น