EGT 060 ปากพล่อยอาจทำให้เกิดปัญหามากมายส่วนที่ 3

ความพ่ายแพ้ของเฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ย ทำให้เฉินอี้เฟิง ผ่อนคลายและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แต่ "ก้อนเนื้อชิ้นใหญ่" กลับตกที่หน้าตักของเฉินหยานเซียว มันทำให้เขาเกือบจะหลุดอาการโกรธออกมา ทุกคนต่างสูญเสีย มันก็ดีแต่เขาไม่คาดคิดว่า ตัวอับอายของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ จะประสบความสำเร็จ

เฉินเจียอี้ตกตะลึงในขณะที่มองไปที่เฉินหยานเซียวด้วยความมึนงง พร้อมกับทีทเธอไม่กล้าที่จะเชื่อหูของเธอ

"ด้วยความเคารพ หงส์ไฟ! เธอก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน!" เฉินเจียอี้ตะโกนออกไปอย่างไม่เต็มใจ ทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้นด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่หงส์ไฟเคยใช้เพื่อปฏิเสธเธอ แล้วทำไมถึงไม่มีผลกับเฉินหยานเซียว?

หงส์ไฟขมวดคิ้วเพราะมนุษย์ใจแคบผู่นี้ อย่างไม่คาดฝันนี้ได้กล้าที่จะถามคำถามนี้ออกมา มันส่งเสียงเย็นขึ้นจมูก พร้อมกับที่มันกวาดตามองไปที่หน้าอกที่แบบราบของเฉินหยานเซียว อย่างตรงไปตรงมา

เฉินหยานเซียว แทบจะระเบิด!

เจ้ากำลังมองหาอะไร สารเลวน้อย! แม้ว่าข้า พ่อของเจ้า จะมีหน้าอกแบนราบในตอนนี้แล้วจะอย่างไร มันจะต้องมีวันที่มันจะเติบโตเท่ากับเทือกเขาแอลป์!

"หงส์ไฟที่เคารพ! โปรดพิจารณาใหม่เพราะเธอเป็นคนปัญญาอ่อน! นอกจากนี้เธอไม่สามารถบ่มเพาะพลังเวทใด ๆ หรือ พลังลมปราณได้ เธอไม่สามารถลงนามสัญญากับเจ้าได้!” คำพูดของเฉินเจียอี้ได้สร้างความหวังให้กับเฉินอี้เฟิงอีกครั้ง เพราะเฉินหยานเซียวที่เป็นเช่นนี้ ไม่อาจสามารถอยู่ในสายตาของหงส์ไฟ เขาไม่เชื่อว่าหงส์ไฟจะเลือกคนบ้าอย่างแท้จริง!

เสียงโวยวายและเสียงกรีดร้องเข้าหูของหงส์ไฟ จนมันรู้สึกอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่มีใครที่กล้าที่จะสร้างความรำคาญเมื่ออยู่ข้างกายของเขา เมื่อเขาเลือกผู้ทำสัญญา แต่มนุษย์สองสามคนนี้กำลังรนหาที่ตาย! พวกเขาปฏิบัติกับมันราวกับว่ามันเป็นโง่เขลา? ถึงแม้มนุษย์ที่อยู่ตรงหน้ามันจะดูน่าเกลียด แต่ก็มีพลังอำนาจทั้งพลังลมปราณและพลังเวท แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงถูกเก็บไว้ในร่างกายของเธอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นอัจฉริยะที่ไม่ค่อยพบเห็นนานมาแล้วในช่วงศตวรรษในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งบ่มเพาะทั้งพลังลมปราณและพลังเวทและพวกเขาก็กล้าที่จะพูดโกหกเขา ด้วยการบอกว่าคนนี้เป็นขยะ!

เมื่อหงส์ไฟลืมตาตื่นขึ้นมา เขาต้องตรวจสอบจุดแข็งของคนสองสามคนจากครอบครัวตระกูลหงส์ไฟอย่างละเอียด ในตอนแรก ความแข็งแกร่งของเฉินอี้เฟิงสูงมากที่สุด แต่เฉินหยานเซียวนั้นนับได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่หาได้ไม่ง่ายนัก ที่จะสามารถทำการบ่มเพาะได้ทั้งพลังเวทและพลังลมปราณ และใครจะสามารถทำลายเด็กผู้ชายผู้นี้ไปจนถึงจุดที่แม้แต่ขี้เถ้าก็ไม่เหลือ ทุกคนต่างคิดว่าหงส์ไฟ ได้เลือกเฉินหยานเซียว โดยปราศจากความตั้งใจ โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าหงส์ไฟได้ค้นพบสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มคนของพวกเขาแล้ว

นอกจากนี้เด็กสาวผู้นี้ดูเหมือนเป็นคนงี่เง่าตรงไหน? เขาเห็นได้ชัดว่ามีเปลวไฟโหมกระหน่ำและลุกโชนอยู่ในดวงตาของเธอ ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่าคนนี้เป็นคนที่มีภูมิปัญญาหรือมิฉะนั้นเธอจะไม่มีความสุขเช่นนี้ หลังจากรู้ว่าเธอได้รับการคัดเลือกจากเขา

อันเป็นผลมาจากนกบางตัวที่คิดว่าความโกรธในดวงตาของคนบางคนเป็นความสุข ความผิดพลาดที่สวยงามเช่นนี้จึงออกมาเป็นรูปร่างที่ชัดเจน

หงส์ไฟไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงเห่าจากสามคนและทัศนคติของหงส์ไฟก็ทำให้ทั้งสามคนรู้สึกกังวลมากขึ้น

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกไม่พอใจที่ฉายชัดออกมาจากแววตาของพวกเขา แต่มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาถูกบดขยี้โดยคนงี่เง่า ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะสามารถยอมรับได้

แม้ว่าเฉินเจียอี้จะรู้สึกเจ็บปวดร่างกาย เธอยังคงจ้องมองไปที่เฉินหยานเซียว ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่นั่นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบและไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ถ้าแสงจ้าในดวงตาของเธอสามารถฆ่าคนได้ มันมีโอกาสมากที่เธอจะเฉือนยัยงี่เง่าออกเป็นชิ้น ๆ

ทำไม สิ่งที่ดีของโลกใบนี้ถึงวิ่งเข้าหายัยโง่นี่? พี่ชายเฉินซืออู๋ก็ได้เอาใจใส่ยัยปัญญาอ่อนเป็นอย่างมากและท่านปู่ก็ได้อนุญาตให้ตัวอับอายขายหน้าอย่างไม่คาดคิดนี้มาร่วมในงานเลี้ยงของพวกเขา ในหัวใจของเฉินเจียอี้ มีความรังเกียจต่อเฉินหยานเซียวเป็นอย่างมากในขณะนี้ - เธอเพิ่งมีความเกลียดชังอย่างมากต่อเฉินหยานเซียว!

เธอไม่กล้าที่จะหยาบคายกับหงส์ไฟ แต่ต่อขยะที่เธอข่มขู่มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ซึ่งไม่เคยแม้แต่จะต่อต้านเธอก็ยังไม่มีความวิตกกังวัลใด ๆ

"เจ้า เป็นขยะ! เจ้าไม่ควรปรากฏตัวที่นี่! เจ้าเป็นความอับอายของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ และก็ไม่สมควรที่จะได้รับความกรุณาของหงส์ไฟที่น่ายกย่อง! ท่านพ่อพูดถูกสารเลวอย่างเจ้า ไม่ใช่ลูกของท่านอา! คนที่ดูดีเช่นท่านอาจะให้กำเนิดเจ้าที่โง่เง่าเช่นนี้ได้อย่างไร" เฉินเจียอี้ด่าว่า เฉินหยานเซียว เพราะหัวใจเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเฉินหยานเซียว