ภายในห้องเหลือเพียงเฉินหยานเซียวและเฉินซืออู๋สองคน
"อย่ากลัวเลย"
เฉินซืออู๋ตบบนบ่าของเฉินหยานเซียว เมื่อเห็นว่ากองของขวัญถูกเผาเป็นขี้เถ้าแล้ว
เขาก็กล่าวว่า "หยานเซียว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง
ข้าจะให้คนเอาของขวัญมาให้เจ้าใหม่ในวันพรุ่งนี้”
"ใครจะห่วงเรื่องเหล่านั้นกันล่ะ?"
เฉินหยานเซียวกลอกลูกตาของเธออย่างเงียบ ๆ
เธอรู้สึกเสียดายก็แต่พวกอาหารที่กินได้ สำหรับของเล่นเด็ก
เธอก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร พวกมันล้วนเป็นของเด็กเล่นก่อนวัยเรียน
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับพวกมัน
ความโชคร้ายของเฉินเจียอี้
ทำให้สารเลวน้อยทั้งสองคนนี้ไม่ได้มาทำร้ายเฉินหยานเซียวในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้
เนื่องจากเหตุผลที่ว่า เฉินเฟิง เฉินซืออู๋ มีเวลาน้อยมากที่จะมายุ่งเกี่ยวกับ
เฉินหยานเซียว เพราะฉะนั้นเฉินหยานเซียวที่ไม่ได้ถูกรบกวนใด ๆ
ก็ถูกซิวลากไปทำการฝึกฝนที่ชั่วร้าย
สำหรับการฝึกบ่มเพาะครั้งแรกของพลังลมปราณและพลังเวท
เธอสามารถผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าใกล้ระดับขั้นที่หก
ความเร็วก็เริ่มช้าลงเมื่อพยายามเข้าถึงระดับขั้นถัดไป
แม้จะมีการฝึกฝนเพียงแค่สี่วัน
แต่ก็แทบจะไม่ได้ทำพลังลมปราณและพลังเวทของเฉินหยานเซียว
ทะลวงผ่านระดับขั้นสี่และระดับขั้นห้าตามลำดับ
จากมุมมองของคนธรรมดาความเร็วนี้น่าประหลาดใจ แต่สำหรับเฉินหยานเซียว
ก็อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นเต่าคลาน เมื่อเธอเทียบความเร็วของวันนี้กับวันก่อน
ซึ่งเธอสามารถทะลวงผ่านได้หนึ่งระดับ
"บ้าจริง
ทำไมความคืบหน้าของการบ่มเพาะไปได้น้อยมาก" ในช่วงเวลากลางคืน
เฉินหยานเซียวสรุปได้ว่าวันหนึ่งของการบ่มเพาะของเธอ อาจกล่าวได้ว่าความก้าวหน้าในปัจจุบันเป็นเหมือนการ
"ติดขัดของกระสุนปืน"
พลังลมปราณยังสามารถพิจารณาได้ว่ามีความก้าวหน้าเล็กน้อย
แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับเดิม
เช่นเดียวกับพลังเวทของเธอที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย
สิ่งเหล่านี้ทำให้เฉินหยานเซียวผู้ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วมาตลอด
เกิดความไม่คุ้นเคย
'การยกเลิกชั้นแรกของตราประทับของข้าจะช่วยให้เจ้ามีร่างกายที่จะบ่มเพาะทั้งพลังเวทและพลังลมปราณ
ตราบใดที่ชั้นที่สองของตราประทับไม่ได้ถูกยกเลิก
ความก้าวหน้าของเจ้าจะคงอยู่ในระดับหลัง ๆ และจะช้าลงไปเรื่อย ๆ เท่านั้น เมื่อถึงระดับที่แน่นอนแล้วเจ้าก็จะไม่สามารถก้าวหน้าได้อีกต่อไป"
เสียงของซิวดังสะท้อนออกมาในเวลาที่เหมาะสม
"แค่ตราประทับนี้? เฉินหยานเซียวรู้สึกหดหู่นิดหน่อยที่ไม่ได้บอกว่าเธอจะทำ 'ตอบโต้ต่อจุดอันตราย' และจะปีนขึ้นไปเพื่อจะกลายเป็นหัวหน้าของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ
ถ้ามันเป็นเหมือนอย่างที่ซิวพูดแล้ว
มันคงจะเป็นไปได้มากว่าหลังจากที่เธอก้าวเข้าสู่อีกระดับแล้วเธอก็จะไม่สามารถก้าวหน้าได้อีกต่อไป
ความรู้สึกในการยกเลิกการประทับตราเป็นเรื่องสนุก แต่คำถามตามมาก็ไม่น่าจะเล็กนัก
'ข้าไม่ได้บอกว่ามันจะมีการยับยั้งความแข็งแกร่งของเจ้า
การยกเลิกชั้นแรกของตราประทับเป็นเพียงแต่จุดเริ่มต้น
ถ้าเจ้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเจ้าจะต้องยกเลิกตราประทับทั้งหมดในภายหลัง
ด้วยวิธีนี้เจ้าจะสามารถก้าวต่อไปได้ต่อไป
ไม่เพียงแต่พลังที่ถูกยับยั้งไว้ก่อนหน้านี้ก็จะพุ่งออกมาด้วย" เสียงของ
ซิวยังคงเหมือนเดิม ราบเรียบและเย็นชา
"แล้ว
สิ่งใดที่จำเป็นในการยกเลิกชั้นที่สองของตราประทับ?" เฉินหยานเซียวถามออกไป
ซิวเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดออกมาเพียงคำเดียวว่า
'สัตว์ปีศาจ'
สัตว์ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายที่มีอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่วทวีปคังหมิงและอาศัยอยู่ในที่มืด
พวกมันไม่ใช่มนุษย์ สัตว์เวทและไม่ใช่สัตว์สามัญทั่วไปเหล่านั้น
พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย กินสัตว์เลี้ยงและมนุษย์
ยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าใดก็ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
เช่นเดียวกับสัตว์ปีศาจสามัญทั่วไปเหล่านั้นพวกมันเป็นแค่โหดเหี้ยม
แต่สำหรับเหล่าสัตว์ปีศาจระดับสูงพวกมันอาจกลายร่างเป็นมนุษย์ได้
พวกมันสามารถซ่อนตัวเองภายในพื้นที่ที่มนุษย์อาศัยอยู่และใช้โอกาสนี้เพื่อค้นหาเป้าหมายของตนเอง
เกี่ยวกับสัตว์ปีศาจ
มนุษย์นับว่าเป็นอาหารโปรดของพวกมันมากที่สุด
ซึ่งคล้ายคลึงกับสิ่งล่อใจเหล่านั้นจากอาหารรสเลิศ ใน ทวีปคังหมิง
จำนวนมนุษย์นับไม่ถ้วนได้ตายไปภายในปากของสัตว์ปีศาจ
มีบางช่วงเวลาที่จำนวนของสัตว์ปีศาจได้เข้าถึงจำนวนที่วิกฤต
จนพวกมันสามารถที่จะเป็นอันตรายต่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์
สิ่งนี้ทำให้หลายอาณาจักรในทวีปคังหมิงต้องร่วมมือกันเพื่อโจมตี
พวกเขารวมกองทัพของพวกเขาในการดำเนินการกำจัดสัตว์ปีศาจเหล่านั้น
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณสำหรับการแปลค่ะ
ตอบลบ