เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 385 สิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตา

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/





ยุนซานกลืนน้ำลายและถามออกไปว่า "ขอโทษนะ ใครเป็นหัวหน้าเผ่าหน้าปีศาจ ลอร์ด  ฟานฉินใช่หรือไม่?"

ยุนซานกล่าวถามออกไปด้วยความสุภาพ แม้ว่าจะมีปัญหาอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา

ท่ามกลางนักรบของเผ่าหน้าปีศาจนับพันคน พวกเขาล้วนเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ผิวดำที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น พวกเขาสวมหน้ากากปีศาจทาสีที่มีเขาสีดำอยู่ด้านบนสองข้าง

ฟานฉินยืนอยู่ตรงข้ามกับยุนซาน "ข้าคือปู่ของเจ้า ฟานฉิน เจ้าต้องการที่จะถามอะไรอีก?"

ยุนซานหยุดชะงักชั่วครู่ก่อนตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า "ข้าคือยุนซาน หัวหน้าเผ่าเทพเจ้าต้นไม้ หลานชายของผู้นำคนแรกของเผ่ายุนจากเผ้าเทพเจ้าต้นไม้ ไม่ใช่หลานของเจ้า"

ฮ่าฮ่าฮ่า

นักรบเผ่าหน้าปีศาจ หัวเราะเสียงดัง เผ่าป่าเถื่อนนี้ ไม่เคยเห็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีและเป็นคนดีอย่างยุนซาน ดังนั้นพวกเขาจึงถือว่า นี่เป็นเรื่องตลก

ฟานฉินยิ้มออกมาจนเห็นฟันสีเหลืองอ่อน ก่อนกล่าวออกไปว่า "ยุนซานเจ้ามีอะไรจะพูดก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้าหรือไม่?"

"ข้าไม่เข้าใจว่า ทำไมเผ่าของเจ้าถึงทำร้ายเรา เราทำอะไรผิด? เราจ่ายเครื่องบรรณาการตามเวลาเสมอ เราแน่ใจว่าเผ่าของเจ้าได้รับการยกย่องอย่างครบถ้วน แม้ว่าเราจะต้องอดอาหารก็ตาม"

"เจ้าจะไม่เคารพสนธิสัญญาสันติภาพหรืออย่างไร? เจ้าจะได้รับประโยชน์อะไรจากการที่เจ้าทำลายเผ่าเทพเจ้าต้นไม้ของเรา?"

ฟานฉินเกาจมูกของเขาและหัวเราะเยาะว่า "ก่อนอื่น เราไม่ได้สนใจที่จะกำจัดคนอ่อนแออย่างเผ่าของเจ้า การที่เรามีพวกเจ้าไว้คอยดูแลสวนของเรา นั้นนับว่าเป็นความคิดที่ฉลาด มันแย่ไปหน่อยที่ใครบางคนได้เปิดเผยความลับให้ข้าได้รับรู้ ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจที่จะกำจัดพวกเจ้าทั้งหมด "

"ความลับ?" ยุนซาน สับสน "เผ่าเทพเจ้าต้นไม้ของเรามีความลับ? ทุกคนต่างรู้ว่าเราดำรงชีพด้วยการเพาะปลูก และเราเชี่ยวชาญในด้านดูแลสวนผลไม้เท่านั้น"

ฟานฉินสะบัดมือเขาก่อนกล่าวออกไปว่า "เจ้าไม่สำคัญพอที่จะรู้ว่าใครบอกข้า แต่ข้ารู้แล้วว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ 2 ตัวในเผ่าของเจ้าได้ให้กำเนิดลูกของมัน!"

"ปลาหมึกยักษ์ทั้งสองตัวนี้ถูกเรียกว่าเป็นอสูรใต้น้ำ พวกมันนับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตาจากด้านหลังของจักรวาล และมีพลังอำนาจของเทพเจ้า

"ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตา อสูรใต้น้ำจะถึงวาระแห่งชีวิตที่แสนเศร้า ..สมาชิกในแต่ละรุ่นของมันจะน้อยลงไปเรื่อย ๆ จนถึงรุ่นที่เก้า ที่อสูรใต้น้ำจะเหลือสมาชิกตัวสุดท้ายเท่านั้น ตัวอื่นจะได้พบกับความตายที่น่าเศร้า"

"แต่อย่างไรก็ตามรุ่นที่เก้าของอสูรใต้น้ำที่ต่ำต้อยจะมีความสามารถที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของตระกูลแห่งโชคชะตา!"

"ในตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือของเจ้า อสูรใต้น้ำได้ประสบความสำเร็จมาถึงรุ่นที่เก้าแล้ว สมาชิกคนสุดท้ายและแข็งแกร่งที่สุดของตระกูลของพวกมันได้ถือกำเนิดขึ้น มันจบแล้ว ชนเผ่าของเจ้าอ่อนแอเกินกว่าที่จะมีสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตา อสูรใต้น้ำรุ่นที่เก้าจะต้องเป็นของข้า!"

"เจ้าต้องการเสี่ยวบ่าว ?!" ยุนซานตกใจและหันไปหาฮ่องและฉิน

ฮ่องและภรรยาของมัน ฉิน ยอมรับคำพูดของฟานฉินโดยไม่ปฏิเสธ

ย้อนกลับไปในอดีต เผ่าเทพเจ้าต้นไม้ที่ใจดีได้พบกับฮ่องและฉินที่เต็มไปด้วยบาดแผล พวกเขาได้นำฮ่องและฉินกลับมาที่เผ่าและดูแลรักษา  ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดแห่งโชคชะตา ฮ่องได้กลายเป็นที่ปรึกษาของยุนซาน พวกเขาอาศัยอยู่ในชนเผ่าของ เผ่าเทพเจ้าต้นไม้ และให้กำเนิดเสี่ยวบ่าว

สำหรับยุนซานแล้ว เสี่ยวบ่าวก็เหมือนกับลูกของเขาเอง!

หึ!

ฟานฉินกล่าวออกมาด้วยความรังเกียจ "ปลาหมึกโง่ เพียงคนโง่เท่านั้นที่จะมีเวลาที่จะตั้งชื่อให้มัน! ตอนนี้มอบอสูรใต้น้ำที่ชื่อว่าเสี่ยวบ่าวมาให้ข้า มิฉะนั้นข้าจะจัดการพวกเจ้าด้วยตัวเอง"

ยุนซานสั่นสะท้านและถามออกไปว่า "เจ้าวางแผนจะทำอะไรกับเสี่ยวบ่าว?"

ฟานฉินยิ้มเยาะ "ในเมื่อมันเป็นสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตาแล้ว แน่นอนมันจะต้องเป็นทาสของข้า นี่คือชะตากรรมของมัน และมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้!"

"คนที่บอกข้า ได้กล่าวว่าสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตาก็คือทาส พวกมันจะใช้ชีวิตของพวกมันในฐานะนักเดินทางที่น่าสงสาร ..พวกมันทรยศต่อพระเจ้าแห่งการสร้าง และพระเจ้าแห่งการสร้างรู้สึกว่ามันง่ายเกินไปที่จะฆ่าพวกมัน ดังนั้นพระองค์จึงกำหนดบทลงโทษที่โหดร้ายให้กับพวกมัน ทุกชั่วอายุของสิ่งมีชีวิตแห่งโชคชะตาจะได้รับการตัดสินชะตากรรมของพวกมัน และจำนวนของพวกมันจะลดลงในแต่ละรุ่นจนกระทั่งรุ่นสุดท้าย พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อชะตากรรมของทุกรุ่น จนตายในที่สุด!"

"เป็นไปไม่ได้!" ยุนซานกรีดร้องออกมา "เสี่ยวบ่าวเป็นเด็กดี เขาจะทนทุกข์ทรมานกับโชคชะตาที่น่าสยดสยองได้อย่างไร ไม่ เป็นไปไม่ได้และมันไม่ยุติธรรม!"

ถุย!

ฟานฉินถ่มน้ำลายออกมาอย่างใจร้อน "มีแต่เพียง พวกคนอ่อนแอ เช่นเจ้าที่จะพูดถึงความเป็นธรรม ไม่มีอะไรที่เป็นธรรมในโลกนี้ มีเพียงกำปั้นที่แข็งแรงเท่านั้น!

"บางทีเจ้าอาจจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเราทั้งสองเป็นเผ่าพันธุ์อัจฉริยะ ทำไม เผ่าเทพเจ้าต้นไม้ ถึงได้อดอาหารและส่งผลไม้ที่เจ้าได้รับเพื่อเผ่าของเราเป็นเครื่องบรรณาการ นอกจากนี้ลองอธิบายสิว่า ทำไมเราทั้งสองที่เป็นเผ่าพันธุ์อัจฉริยะ ทำไมข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ทุกเวลาที่ข้าต้องการ และไม่มีอะไรที่เจ้าสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้?"

"ความเป็นธรรม! นั่นเป็นผ้าม่านที่น่าอับอายสำหรับเจ้าที่อ่อนแอ เมื่อเจ้ามีพลังเท่าเรา เราไม่ชอบความเป็นธรรม เราชอบที่จะข่มขู่เจ้า และฆ่าเจ้า เราจะถอนรากถอนโคนเผ่าของเจ้าในวันนี้!"

แปะ แปะ!

เมื่อเสียงของฟานฉินจางหายไป สมาชิกในเผ่ายุนซานต่างตกอยู่บนความสิ้นหวัง ในทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงปรบมือจากที่ไกล ๆ

ทุกคนต่างหันกลับไปมองตามทิศทางของเสียง และได้เห็นกลุ่มคนแปลกหน้าปรากฏขึ้นมาจากบริเวณผนึกตราประทับ ผู้นำของพวกเขาเป็นชายหนุ่มที่อายุราว ๆ ยี่สิบ เขามีรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความรังเกียจในขณะที่เดินเข้ามาพร้อมกับตบมือ ข้าง ๆ เขาเป็นชายชราที่มีสีหน้าที่ดูจริงจังเห็นได้จากที่เขาขมวดคิ้วอย่างหนัก

มันเป็นฮั่นหลางและพี่น้องของเขา!

วู้ ~

ฮั่นหลางมองเห็นเสี่ยวบ่าว จากเสียงเรียกของมันจากที่ไกล ๆ คนของยุนซานได้พยายามซุกซ่อนเสี่ยวบ่าวไว้บนของต้นไม้ใหญ่ เมื่อเสี่ยวบ่าวเห็นฮั่นหลางและพี่น้องมาช่วยเหลือ มันก็พยายามจะวิ่งไปหาฮั่นหลาง แต่มันก็ถูกคุมขังโดยคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวมัน

ฮั่นหลางมองไปที่เสี่ยวบ่าว แล้วหันไปหาพี่น้องของเขาและพูดอย่างไม่เป็นทางการว่า "พี่น้องทั้งหลาย เขาบอกว่าถ้าเจ้าคิดว่ามันไม่ยุติธรรม เจ้าก็สามารถใช้กำปั้นได้ พวกเจ้าได้ยินเขาพูดแล้วใช่หรือไม่?"

"ตอนแรกข้าคิดว่ามันจะโหดร้ายเกินไป เหี้ยมโหดเกินไปที่จะฆ่าทุกคนในเผ่า ..แต่ถ้าพวกเขาเองก็คิดเช่นนี้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากอีกต่อไป!"

ฮั่นหลางกล่าวออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องตลก มันทำให้นักรบจากเผ่าหน้าปีศาจรู้สึกโกรธ

"เจ้ามาจากชนเผ่าไหน?" ฟานฉินกล่าวถามออกไป เขารับรู้ถึงเจตจำนงที่แข็งแกร่งของซือหม่าฮันเฟิงที่แผ่ออกมา และไม่แน่ใจเกี่ยวกับระดับพลังในปัจจุบันของชายชรา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้โจมตีกลุ่มของฮั่นหลางอย่างฉับพลัน คนเหล่านี้เป็นขุนศึกชั้นยอด  ซือหม่าฮันเฟิงก็เป็นเหมือนสิงโตที่ยืนอยู่ข้างหลังของฝูงหมาป่าที่น่ากลัว

"เราไม่ได้มาจากชนเผ่าใด ๆ เราเป็นเรา ในเผ่ามีการแบ่งชนชั้น มีหัวหน้า มีผู้อาวุโสเป็นต้น เราเป็นเพียงกลุ่มของเหล่าพี่น้อง"

"มองไปที่คนที่อยู่ข้างหลังข้า พวกเขาไม่ใช่คนดี และพวกเขาไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้า เราแค่อยากอยู่ด้วยกันนั่นคือทั้งหมด ..พวกเขาจะเชื่อฟังข้าในสมรภูมิ แต่เมื่อกลับบ้าน พวกเขาไม่กลัวที่จะเอาชนะข้า

"ถ้าเจ้าต้องการที่จะรู้ ข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่าเมื่อเราอยู่ด้วยกัน เราต่างเรียกตัวเองว่า เขี้ยวหมาป่า"

ฟานฉินจ้องมองขณะที่เขารู้สึกสับสน หลังจากได้ฟังสิ่งที่ฮั่นหลางเพิ่งประกาศ ในขณะที่คนอื่น ๆ เช่นบ่อย่ารู้สึกพอใจกับวิธีที่ฮั่นหลางอธิบายถึงกลุ่มของพวกเขา

พวกเขาไม่เคยเป็นกองทัพหรือชนเผ่าเหมือนองค์กร พวกเขาเป็นเพื่อน กลุ่มเพื่อนที่มีสถานะเท่าเทียมกัน ไม่มีใครสั่งให้ใครอีกคนทำอะไรได้ พวกเขาจะต่อสู้กันได้ทุกเวลาหากใครไม่พอใจ

ฟานฉิน ไม่เคยเห็นกองทัพที่ได้รับการจัดการอย่างอิสระ และเขาไม่เชื่อว่ามันจะมีพลังมากในการสู้รบ

ถึงแม้ว่าซือหม่าฮันเฟิงจะดูน่ากลัว แต่ฟานฉินก็ยังไม่ได้คิดถึงฮั่นหลางและสหายของพวกเขา อีกอย่างพวกเขาทั้งหมดมีเพียงหนึ่งร้อยคนเท่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่ได้เดินออกไปรอบ ๆ เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของเสี่ยวบ่าว และบรรดาผู้ที่หลบอยู่ภายในบ้านก็ตัดสินใจที่จะออกมาเพื่อช่วยกัน

ฟานฉินพูดออกมาว่า "ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นชนเผ่าหรือไม่ ในเมื่อเจ้ากล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเผ่าหน้าปีศาจ เจ้าจะต้องจ่ายราคาด้วยชีวิตของเจ้า!"

ชูววว

นักรบของเผ่าหน้าปีศาจ นับพันรายได้ล้อมรอบกลุ่มของฮั่นหลาง

ฟานฉินขยิบตาส่งสัญญาณให้กับคนที่มีพลังมากที่สุดในเหล่านักรบของเขา เพือให้จัดการซือหม่าฮันเฟิงก่อน ซึ่งเป็นคนที่สำคัญและน่ากลัวที่สุดเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น ระดับพลังของซือหม่าฮันเฟิงมีระดับสูง ทำให้เกิดแรงกดดันต่อฟานฉินอย่างเห็นได้ชัด เขาคิดว่าศัตรูที่อันตรายที่สุดในสงครามครั้งนี้คือซือหม่าฮันเฟิง สำหรับฮั่นหลางและคนอื่น ๆ ฟานฉิน ไม่ได้คิดถึงพวกเขามากนัก

"ฮั่นหลาง เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เจ้าเป็นบุคคลภายนอก โปรดอย่าเข้ามามีส่วนร่วมในสงครามระหว่างเผ่า! เมื่อเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว นั่นหมายความว่าเจ้ากำลังประกาศสงครามกับชนเผ่าทั้งหมด!" ยุนซานรีบร้องห้ามออกไป

"จะให้พวกเรานั่งดูพวกเขาฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ! ท่าทางของฮั่นหลางก็เปลี่ยนไปและตำหนิยุนซานอย่างรุนแรง "อะไรคือสิ่งที่พิเศษสำหรับชนเผ่า? ทำไมเราไม่สามารถประกาศสงครามกับพวกเขา พวกเรามาที่นี่โดยก้าวข้ามเลือดขององค์กรเหล่าเทพเจ้า!"

ถ้าเรากล้าที่จะต่อต้านองค์กรเหล่าเทพเจ้า เราก็กล้าที่จะสู้กับชนเผ่า กล้าที่จะเป็นศัตรูกับทั้งจักรวาล!"

"ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ลองถามพี่น้องที่อยู่ข้างหลังข้า ดูสิว่าใครจะสนใจ!"

ทุกคนทำท่าทางรังเกียจออกมา ไม่ว่าจะเป็นบ่อยาไปจนถึงซือหม่าฮันเฟิง แม้แต่ลั่วอิ๋ง พวกเขาทั้งหมดต่อสู้กับองค์กรเหล่าเทพเจ้า และถ้าพวกเขาไม่กลัวสัตว์ประหลาดยักษ์เช่นองค์กรเหล่าเทพเจ้า นับประสาอะไรกับชนเผ่าไม่กี่เผ่า!

มือข้างหนึ่งของฮั่นหลางยกขึ้นและชี้ไปที่ฟานฉิน ก่อนตะโกนออกไปว่า "ข้าจะบอกอะไรให้!  มันไม่มีอะไรที่เรียกว่าโชคชะตา หรือเคราะห์กรรมในจักรวาลนี้! พวกเขาต่างบอกว่าดาวเคราะห์บ้านเกิดของข้ากำลังจะตาย ข้าไม่เชื่อ ในวันนี้เจ้าบอกว่า เสี่ยวบ่าวจะตายอย่างน่าสังเวช ข้าก็ไม่เชื่อเช่นกัน"

ชูวว

ฮั่นหลางชูนิ้วสามนิ้วของเขา

"สามนาที!" ฮั่นหลางตะโกนใส่ฟานฉิน "ข้าจะใช้เวลาแค่ 3 นาทีเพื่อฆ่าเจ้า!"

หยิ่งยโส!

อวดดี!

หัวหน้าฟานฉินของเผ่าหน้าปีศาจ ไม่เคยถูกข่มขู่เช่นนี้ เขาโกรธพร้อมกับโบกมือไปที่กองทัพของเขาเพื่อเริ่มต้นการโจมตีของพวกเขา

"เขตแดนสิ้นสลาย เปิด!" กำปั้นด้านขวาของฮั่นหลางก็เปิดออก ในขณะที่เขาพึมพำออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น