GDN 319 ปีศาจร้ายแห่งสัตว์จิตวิญญาณ

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 

ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/

ที่ด้านหลังของจักรวาลโลกรังผึ้ง

ฮั่นหลางตามกลุ่มนักเดินทางที่เป็นนักล่าจิตวิญญาณไปตามท้องถนน มีนักล่าจิตวิญญาณราว ๆ 200 คนและพวกเขาล้วนนักล่าจิตวิญญาณชั้นสูงที่มีประสบการณ์และมีฝีมือทั้งหมด

ฮั่นหลางและเฟิงหว่านโจว เป็นทีมที่เพิ่มเข้ามา แต่ก็สามารถสังเกตได้ว่านักล่าจิตวิญญาณส่วนใหญ่เคารพนับถือเฟิงหว่านโจว แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกของพวกเขาออกมาเพราะหลี่เซียงและยาม 50 คนที่กำลังจับตามองจากด้านข้าง

แม้ว่าหลี่เซียงมักจะเรียกเฟิงหว่านโจวว่าอาจารย์เพื่อแสดงความเคารพ แต่ไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่ตำแหน่งของเฟิงหว่านโจวถูกผ่านไปยังหลี่เซียง เขาก็ยังรู้สึกกลัวมากแม้ว่าอิทธิพลของหลี่เซียงจะมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเฟิงหว่านโจวมีลูกชายที่มีพรสวรรค์สามคน พวกเขายังอายุน้อยและมีพ่อที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงของหลี่เซียง

ดังนั้นหลี่เซียงจึงคิดถึงแผนการที่ไร้ความปราณี และบอกกล่าวเรื่องที่มีสัตว์จิตวิญญาณระดับสูงสุดปรากฏตัวขึ้นในที่แห่งหนึ่งในรังผึ้งให้กับเฟิงหว่านโจว ซึ่งเฟิงหว่านโจวไว้ใจเขาอย่างเต็มร้อย ดังนั้นเขาจึงนำลูกชายทั้งสามคนของเขาไปล่าสัตว์ เป็นผลให้พวกเขาค้นพบว่าสิ่งที่พวกเขาเจอคือสัตว์จิตวิญญาณแห่งความมืดที่น่าสะพรึงกลัวและไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรได้

หลังจากการสู้รบครั้งใหญ่นั้น เฟิงหว่านโจวโชคดีที่รอดชีวิต แต่บุตรชายทั้งสามของเขาถูกสังหารในสนามรบ

ตั้งแต่นั้นมา เฟิงหว่านโจวก็หายตัวไปจนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาก็กลับมาที่เมืองล่าจิตวิญญาณพร้อมกับฮั่นหลาง แม้กระทั่งคนโง่ก็รู้ว่าราชาเฟิงกลับมาเพื่อแก้แค้น!

สงครามครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นหลี่เซียง หรือเฟิงหว่านโจวที่จะเปิดการโจมตีก่อน และจะเกิดเมื่อไหร่

ระหว่างช่วงพัก ฮั่นหลาง เฟิงหว่านโจว เจียนเจียและลั่วอิ๋ง นั่งอยู่ด้วยกันห่างจากคนอื่นออกมา

เดิมทีฮั่นหลางไม่ต้องการนำทั้งสองคนนี้ไปพร้อมกับพวกเขา แต่ทั้งสองสาวก็เป็นคนที่ดื้อรั้นและยืนกรานที่จะตามฮั่นหลาง นอกจากนี้หลังจากที่ฮั่นหลางได้ออกจากเมืองล่าจิตวิญญาณ แล้วสถานการณ์ที่โรงแรมก็อาจไม่ปลอดภัยเช่นกัน ดังนั้นฮั่นหลางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะนำพวกเธอมาด้วย

จากเมืองล่าจิตวิญญาณไปที่กำแพงถอนหายใจ ก็ไม่มีอันตรายใด ๆ ทีมสำรวจได้จัดตั้งขึ้นมาจากชนชั้นสูงของสมาคมล่าจิตวิญญาณ มีนักสะกดรอยอยู่ด้านหน้าและคอยดูแลที่ด้านหลัง

มีคนบอกว่าทีมแนวหน้าได้วิ่งเข้าไปในเหล่าสัตว์จิตวิญญาณสองสามตัว แต่พวกเขาก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง พวกมันเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ไม่เพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามใด ๆ แก่ชนชั้นสูงของนักล่าจิตวิญญาณ

ขณะที่ทีมเดินทางได้เดินเข้าไปใกล้กำแพงถอนหายใจ เหล่านักล่าจิตวิญญาณเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ข้อความถูกส่งต่อไปสำหรับแผนผังเส้นทางการเดินเพื่อเปลี่ยนเส้นทางในแต่ละช่วง

จนกระทั่งถึงวันที่หก ฮั่นหลางได้พบกำแพงหินสีฟ้า

กำแพงนี้สร้างขึ้นที่ทางแยกขนาดใหญ่ ปกติแล้วเส้นทางของรังผึ้งจะแคบและคดเคี้ยว แต่ถนนสายนี้มีขนาดใหญ่ มันมีความกว้างอย่างน้อย 500 เมตรและมีความสูงไม่น้อยกว่า 500 เมตร กำแพงถอนหายใจปิดกั้นขวางที่ทางแยกนี้

ชูวววว ~

คนทั้งหมดในกลุ่มต่างเงียบสงบ พวกเขาเดินไปที่กำแพงถอนหายใจ เพื่อพักผ่อนอย่างรวดเร็ว

หลี่เซียงกระตุ้นทหารในทีมหลังจากหยุดพัก เพื่อทำการข้ามกำแพงต่อไป

ฮั่นหลางเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก กำแพงยักษ์ดูเหมือนจะไม่มีประตูทางเข้า กองทัพจำนวน 200 คนจะผ่านกำแพงนี้ได้อย่างไร?

เฟิงหว่านโจวเดินมาหยุดที่ด้านข้างของฮั่นหลางโดยที่ฮั่นหลางไม่ได้สังเกตเห็น เขามองไปที่กำแพงและพูดออกมาว่า "กำแพงนี้ดูเสมือนจริงมันมีตราประทับอยู่หลังกำแพงนี้ เราสามารถเดินผ่านกำแพงนี้ได้ แต่ถ้าเจ้าต้องการกลับมาก็จะเป็นเรื่องยาก"

"นอกจากนี้ยังเป็นเพราะการป้องกัน ทำให้สัตว์จิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ไม่สามารถข้ามกำแพงนี้มาได้ ซึ่งปกป้องโลกรังผึ้งจากการบุกรุกขนาดใหญ่ได้"

"ในความเป็นจริง ทุกปีจะมีนักล่าจิตวิญญาณที่กล้าหาญมากพอที่จะเจาะกำแพงเข้าสู่โลกมหัศจรรย์อีกด้าน ดูเหมือนว่านักล่าจิตวิญญาณที่อยู่ข้างหลังพวกเราเหล่านี้คือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เคยอยู่ในอีกด้านหนึ่ง..ตอนที่ข้ายังเยาว์วัย ข้าก็อยู่ที่นั่นหลายสิบครั้งและทุกครั้งแทบจะไม่มีชีวิตรอดกลับมา ตอนนี้ข้าคิดถึงเรื่องนี้จริง ๆ”

“อย่างไรก็ตามแม้ชนชั้นสูงหลายคนจากชุมชนนักล่าจิตวิญญาณจะเคยไปที่อีกด้านหนึ่งของกำแพงมาแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นครั้งแรกที่เราเข้าสู่อีกฝั่งหนึ่งด้วยกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้..ตามการวิเคราะห์ของเราเกี่ยวกับสัตว์จิตวิญญาณ ยิ่งมีคนที่ข้ามกำแพงไปฝั่งตรงข้ามมากขึ้นการจลาจลก็จะรุนแรงมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยที่สุดคือไปด้วยตัวเอง”

"คราวนี้เรามีคนกว่า 200 คนบวกกับบางคนก็นำสัตว์จิตวิญญาณเหล่านั้นมาเป็นยามด้วยแล้ว พวกเราเป็นห่วงว่าสัตว์จิตวิญญาณเหล่านี้จะบ้าไปก่อนหรือเปล่า"

ฮั่นหลางขมวดคิ้ว "พวกเจ้าพูดคุยเกี่ยวกับสัตว์จิตวิญญาณเหล่านี้และสัตว์จิตวิญญาณเหล่านั้นอยู่เสมอ แต่ข้าไม่เคยเห็นมันแม้แต่ตัวเดียว และพวกเจ้าก็จะไม่ยอมให้ข้าได้เห็นมันที่ถูกจับได้ในแบบนี้ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่ามันมีลักษณะเป็นเช่นใด..."

เฟิงหว่านโจว ยิ้มและกระซิบออกมาว่า "สัตว์จิตวิญญาณขายได้ในราคาที่สูงมาก ใครก็ตามที่จับมันได้ พวกเขาจะซ่อนมันไว้ในที่เก็บของมิติ พวกเจ้าเป็นคนนอก มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ยอมให้เจ้าเห็น หลายคนที่อาศัยอยู่ในเมืองล่าจิตวิญญาณตลอดชีวิตของพวกเขา ก็ยังไม่เคยเห็นสัตว์จิตวิญญาณว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร"

"ไม่ต้องกังวลหลังจากเข้าสู่กำแพงถอนหายใจ เจ้าจะเห็นทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ นอกจากสัตว์จิตวิญญาณแล้วก็ยังมี..."

ขณะนั้น…

"อาจารย์! อาจารย์! เราควรจะไปในตอนนี้"

เฟิงหว่านโจวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาถูกขัดจังหวะโดย หลี่เซียง ทุกคนเตรียมพร้อมแล้วและทีมกำลังจะข้ามกำแพงถอนหายใจ

ฮั่นหลางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปหาทีมและอยู่กับเจียนเจียและลั่วอิ๋ง

เจียนเจียรู้สึกตื่นเต้นกับฮั่นหลาง แต่ลั่วอิ๋งดูเหมือนจะไม่สนใจเลย เธอพูดกับฮั่นหลางว่า "มีอะไรผิดปกติกับไข่ดำไหม?"

ฮั่นหลางส่ายหัวและพูดว่า "ไม่นี่..."

แล้วฮั่นหลางก็ลังเล ที่ไม่มีอะไรผิดปกติกับไข่ดำ ไม่ใช่ว่านั่นคือความผิดปกติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด?

นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ารังผึ้ง ไข่ดำตื่นเต้น ร้องคร่ำครวญเป็นประจำ สร้างความรำคาญให้กับฮั่นหลางแทบตาย

แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาอยู่หน้ากำแพงถอนหายใจ และกำลังจะเข้าสู่รังของ สัตว์จิตวิญญาณแล้ว ไข่ดำก็หยุดร้อง มันเงียบมากและนี่เป็นสิ่งที่ผิดปกติเกินไป!

ฮั่นหลางหันกลับมองและเปลี่ยนความสนใจไปสู่โลกจิตวิญญาณของเขา

นับตั้งแต่ฮั่นหลางดูดกลืนพลังอำนาจของไข่ดำ การเชื่อมโยงระหว่างเขากับชีวิตมหัศจรรย์ในไข่ก็ดีขึ้น ฮั่นหลางก็รู้สึกได้ถึงการดำรงอยู่ของไข่ดำ

กิกิกิกิกิ ~

กิกิกิกิกิ ~

ไข่สีดำไม่ได้ร้องไห้ แต่เริ่มมีเสียงแปลก ๆ เบา ๆ ออกมา มันคล้ายกับเสียงกัดฟัน

เพียงในขณะนั้นทีมนักล่าได้เริ่มเคลื่อนไหว ฮั่นหลางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดตาของเขาขึ้นมาและเดินตามหลังทีมไป

"แปลกมาก ไข่ดำหยุดหอน แต่กลับส่งเสียงกัดฟันออกมา" ฮั่นหลางพูดกับลั่วอิ๋ง

"โอ้" ลั่วอิ๋งพยักหน้าและพูดว่า "บางทีมันอาจจะหิว มันปิดผนึกตัวเองภายในไข่มานานแล้วโดยไม่ฟักไข่ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับสัตว์จิตวิญญาณ..เจ้าต้องเตรียมใจ หากวันหนึ่งไข่ดำฟักตัวออกมา เขาอาจจะมีความบกพร่องทางจิตใจหรือทางร่างกายบางอย่าง"

อะไรนะ?!

ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไข่ดำอาจจะมีปัญหาได้หากมันอยู่ในไข่นานเกินไป?

เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน มิฉะนั้นฮั่นหลางคงจะไม่ทำให้มันกลัวเช่นในครั้งที่แล้ว

จากนั้นด้วยคำสั่งของ หลี่เซียง ทีมระดับแนวหน้าจึงเริ่มเข้าสู่กำแพงถอนหายใจ

วิธีการนั้นยังทำให้ ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจ เขาเพิ่งเห็นวิธีที่นักล่าจิตวิญญาณเข้าหากำแพง พวกเขายื่นมือออกมาทาบเข้าไปในกำแพงหินสีเขียวก่อนที่ค่อย ๆ จางหายไป จากนั้นนักล่าจิตวิญญาณคนนั้นก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคน

ดูเหมือน กำแพงถอนหายใจนันเสมือนจริงจริง ๆ มันทำให้ ฮั่นหลาง รู้สึกประหลาดใจ

กลุ่มต่าง ๆ เริ่มวิ่งเข้าไป ในตอนนี้เหลือกลุ่มของฮั่นหลางและกลุ่มอื่น ๆอีกประมาณ 3 ถึง 4 คน

ทันใดนั้นนักล่าจิตวิญญาณคนหนึ่งที่มีหมัดกล้ามได้เดินเข้าไปในกำแพง แต่เมื่อร่างของเขาผ่านกำแพงไปเพียงครึ่งหนึ่ง เขาก็เริ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด! คนที่อยู่ข้างหลังเขาพยายามดึงแขนของเขา แต่เห็นได้ชัดเจนว่ามีพลังผลักร่างของเขาไปทางด้านอื่น

ชิ้ง ~

แขนของนักล่าจิตวิญญาณคนนี้ถูกดึงออกจากร่างกายของเขาและเลือดกระเซ็นไปโดนคนที่อยู่ข้างหลังเขา

ฮั่นหลางรีบไปดูนักล่าจิตวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บ และดูเหมือนว่าแขนของเขาจะถูกเคี้ยวโดยสัตว์ประหลาด บาดแผลเปิดจนมองเห็นเนื้อและกระดูกที่หัก

นักล่าจิตวิญญาณที่ยังไม่ได้เข้าไปอีกด้านหนึ่งเกิดอาการหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่ากองทัพขนาดใหญ่ดึงดูดสัตว์ประหลาดจำนวนมากมาที่ทางเข้าและทหารที่เข้าไปก่อนหน้านี้อาจจะได้พบกับพวกมัน!

จะทำอย่างไร?

ก้าวต่อไปหรือหนี?

คลืนนน ~

กำแพงถอนหายใจเริ่มสั่นและจนเกิดเสียงดังก้องอยู่ในโลกแห่งรังผึ้ง

ปัง ~

กำแพงถูกพัดออกไปอีกด้านหนึ่ง และหัวสัตว์ประหลาดได้โผล่ออกมาจากำแพง มันเหมือนกับโครงกระดูกที่มีผิวหนังบาง ๆหุ้ม ไม่มีเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้ออยู่บนใบหน้าหรือศีรษะ แต่ปากยักษ์ปากของมันอ้าออกมาแล้วกัดนักล่าจิตวิญญาณสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าฮั่นหลาง

ชิ้ง ~

นักล่าทั้งสองคนนี้โชคร้าย พวกเขาไม่ได้มีเวลาตอบสนองอันใด ร่างของพวกเขาถูกฉีกขาดเป็นสองชิ้นโดยสัตว์จิตวิญญาณที่มีฟันที่แหลมคม สัตว์จิตวิญญาณที่น่าสยดสยองนั้นดูเหมือนว่ามันตั้งใจจะพุ่งเข้าหากำแพงด้านข้างของนักล่าจิตวิญญาณ มันเคี้ยวเนื้อและเริ่มมีพลังมากขึ้น

"มันเป็นปีศาจร้าย จากกลุ่มของสัตว์จิตวิญญาณ! เร็วเข้า!"

เฟิงหว่านโจว ที่ยืนอยู่ข้างๆฮั่นหลางก็ตะโกนและเขาผลักดันให้ฮั่นหลางเจียงเจียและลั่วอิ๋งพุ่งเข้าสู่กำแพงถอนหายใจ

"ปีศาจร้ายนั้นน่ากลัวเกินไป! ถ้ามันออกมาแล้ว เราต้องเข้าไป!" เฟิงหว่านโจวตะโกนออกไป

พรึบ ~

ฮั่นหลางรู้สึกราวกับว่าเขาตกลงไปในน้ำ วิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำชั่วครู่เขาเดินผ่านกำแพงถอนหายใจ

เมื่อเขาลืมตาขึ้นความรู้สึกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง!