GDN 306 ครั้งนี้เราต้องใช้ทุกอย่าง!

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 

ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/

                                          

ความแตกต่างของพลังอำนาจเห็นได้ชัด เมื่อฮั่นหลางกำลังจะถอยออกเพราะมากกว่าครึ่งหนึ่งของทรัพยากรของเขาหายไป สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป

แมงมุมจำนวนมหาศาลได้ปรากฏออกมาราวกับน้ำท่วม มันมืดมิดและปกคลุมไปทั่วพื้นดิน

ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจ เขารู้ว่ากลุ่มแมงมุมจำนวนมากมายเหล่านี้มาจากอู้หวิ้น คนบ้าสัตว์อสูร เหตุผลที่ฮั่นหลางพยายามที่จะสร้างกองทัพทหารขนาดใหญ่โดยใช้ แมงมุงแสงดาวเจ็ดตา เพราะเขาพยายามจะเลียนแบบสิ่งที่อู้หวิ้นทำ

เงาดำทอดลงมาจากฟากฟ้า มันเป็นคลาร์ก อาจารย์บ้าทั้งสามคน และกองกำลังของบ่อยาก็ตามมาข้างหลังกลุ่มแมงมุม พวกเขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังที่ฮั่นหลางหนีไป แต่พวกเขาตั้งใจที่จะตามหาฮั่นหลาง และท้ายที่สุดตามมาจนถึงที่นี่

สิ่งหนึ่งที่ได้รับการยืนยันก็คือ กองทัพแมงมุมแสงดาวของอู้หวิ้นนั้นอยู่ไกลเกินกว่าพลังของฮั่นหลาง ในฐานะที่เป็นคนที่หลงใหลสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในทางช้างเผือก อู้หวิ้น เขาเป็นเจ้าของแมงมุมเพศเมียที่น่าทึ่ง ซึ่งสามารถปล่อยกองทัพได้อย่างมหาศาล

"ถ้าเราต้องการที่จะอยู่รอดเราต้องใช้ทุกอย่างที่เรามี!" ฮั่นหลางตะโกนเสียงดังออกไปให้กับเพื่อนของเขา

นั่นหมายความว่าอย่างไร?

มันอาจฟังดูสับสนสำหรับคนอื่น ๆ แต่เนื่องจากอาจารย์บ้าทั้งสามคนรู้จักฮั่นหลางดี พวกเขาจึงเข้าใจมันได้ในทันที

ระหว่างทางที่พวกเขามุ่งตรงเข้ามา ทั้งสามคนบ้ารู้สึกตกใจ พวกเขาไม่เคยเห็นกลุ่มปฏิบัติการมาก่อน ช่างเป็นศัตรูที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้

นักรบหน้ากากทั้งหมดสิบเอ็ดคน แต่ละคนอยู่ในระดับแปดดาว

นั่นหมายความว่าอย่างไร?

ทางช้างเผือกทั้งหมด รวมทั้งบริเวณพื้นที่รกร้าง หรือในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด มีเพียงซือหม่าฮันเฟิงที่เข้าถึงระดับแปดดาวขั้นสูงสุดเพียงคนเดียว  ส่วนคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเจ็ดดาวและยังคงมีอยู่ไม่เกินห้าคน

ซือหม่าฮันเฟิง จึงเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ ระดับเฉลี่ยสำหรับนักรบในทางช้างเผือกไม่สูงนัก นั่นเป็นเหตุผลที่แม้กระทั่งสามคนบ้าก็ไม่สามารถพูดได้ เมื่อพวกเขาเห็นนักรบหน้ากากระดับแปดดาวที่เรียงรายกันอยู่

สิ่งที่ทำให้พวกเขาหมดคำพูดมากขึ้นคือ ในตอนนี้ฮั่นหลางได้จับคู่กับซือหม่าฮันเฟิง ต่อสู้กับนักรบหน้ากากสัตว์ระดับแปดดาวทั้งเอ็ดสิบคน!

การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่ร้ายแรง

สัตว์พันธุกรรมของฮั่นหลางนั้นเป็นระเบิดภายในองค์กรเหล่าเทพเจ้า โดยมีการขายอย่างน้อย 100 ล้านคะแนน!

ทำไมมันถึงมีมูลค่ามากเช่นนั้น?

เนื่องจากกองทัพสัตว์พันธุกรรมของฮั่นหลางไม่เพียงแต่จะพิเศษ มันยังทรงพลังมากอีกด้วย

แต่แม้ว่าพวกสัตว์พันธุกรรมเหล่านี้จะทรงพลัง แต่พวกมันก็ยังพ่ายแพ้ล้มตายเกลื่อนพื้นดิน!

ภายในไม่กี่วินาที สัตว์พันธุกรรมของฮั่นหลางนับสิบได้ลดลงเหลือเพียงหกตัวเท่านั้น และแม้แต่จิ้งจอกเงิน ภูตกรงเล็บและปีศาจกรงเล็บ ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกมันทั้งหมดก็ยังได้รับบาดเจ็บ

เช่นเดียวกับซือหม่าฮันเฟิงและกองกำลังของเขา

ในฐานะที่เป็นคนที่มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในทางช้างเผือก ซือหม่าฮันเฟิง มีกลุ่มทหารที่ภักดีกับเขาอย่างสุดซึ้ง คนที่ติดตามตามเขามายังหุบเขาลี้ลับคือนักรบชั้นยอดทั้งหมด มีมากกว่าหกสิบคนและมากกว่าครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นขุนศึก

อย่างไรก็ตามภายในเวลาไม่ถึงสองสามนาที พวกเขาถูกสังหาร และเหลือน้อยนักรบน้อยกว่ายี่สิบคน

ตอนนี้มันก็อาจได้เห็นเหตุผลที่ฮั่นหลางและซือหม่าฮันเฟิง ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพราะพลังอำนาจของพวกเขา แต่เนื่องมาจากจำนวนทรัพยากรที่พวกเขาได้ใช้ไป

จนถึงขณะนี้ ซือหม่าฮันเฟิงสามารถทำให้นักรบหน้ากากงูเหลือมได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงคนเดียวเท่านั้น และอีกสองคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากทั้งหมด 11 คน ไม่มีใครจากกลุ่มปฏิบัติการที่เสียชีวิตตั้งแต่ทำการต่อสู้ และดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามยังคงได้เปรียบฮั่นหลางและซือหม่าฮันเฟิงอย่างมากมาย

นั่นเป็นเหตุผลที่ฮั่นหลางตะโกนออกมาดัง ๆ หากพวกเขาต้องการที่จะอยู่รอด พวกเขาจะต้องใช้ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขา!

คำพูดเหล่านั้น สำหรับอาจารย์บ้าทั้งสาม มันหมายความว่าหากพวกเขาไม่ได้ลงทุนด้วยทรัพยากรและกองกำลังทั้งหมดของพวกเขาในตอนนี้ทุกคนก็จะตาย!

อ้ากกก !!!

อู้หวิ้นตะโกนออกมาดัง ๆ กัดฟันและลูบแหวนมิติที่อยู่บนนิ้วของเขา!

"พวกเจ้าออกมาให้หมดในตอนนี้!" อู้หวิ้น ตะโกนดังขึ้น

กะกะกะกะ ~

ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที กลุ่มนักรบชั้นดีได้กระโดดออกมาจากแหวนมิติ พวกมันเป็นผลงานชิ้นเอกทั้งหมดจากอู้หวิ้น อสูรเทพพิทักษ์! แต่ละตัวมีพลังอำนาจที่เทียบเท่ากับขุนศึก

นอกจากนี้ ยังมีแมงมุมแสงดาว หมาป่าสองหัว อสูรเทพพิทักษ์บางส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ที่ยังเป็นร่างต้นแบบ และมีสัตว์พันธุกรรมมนุษย์ที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งยังขาดแขน ขา มากกว่าสิบตัว พวกมันก็ออกมาจากแหวนมิติพร้อมกัน

อู้หวิ้น ใช้ทรัพยากรทั้งหมดของเขาที่มีก่อนคนอื่น คนอื่น ๆ ต่างทำตาม ต้นกำเนิดไร้จุดหมายนำอาวุธ อุปกรณ์ระดับเทพสงคราม ที่ล้ำค่าของเขาออกมาด้วย ทุกชิ้นอยู่ในระดับชั้นเทพสงครามที่เขารวบรวมมาตลอดชีวิตของเขา ตอนนี้เขาขว้างปาพวกมันออกไปราวกับว่ามันไม่มีค่าอะไร

กระบี่ห้าสายฟ้าคำราม!

ออกมา!

คลื่นรุนแรงของตรีศูลโพรซีดอน!

ออกมา!

คลืนนนน!

สายฟ้าส่งเสียงคำรามลงมาจากฟากฟ้า มันคือพายุสายฟ้าผู้พิทักษ์ของ อี่เว่ยเว่ย

เห็นได้ชัดว่าอี่เว่ยเว่ยได้ให้ความสำคัญกับ ฮั่นหลางมาก เธอค่อยๆถอดถุงมือออกและแสดงตัวที่ด้านข้างของกลุ่มปฏิบัติการ

มนุษย์เลือดฟ้า บ่อยา ยังใช้เทคนิคลึกลับแยกตัวเองออกเป็นสองภาค  ร่างสีฟ้าสองร่างปรากฏตัวขึ้นบนสนามรบ

ทั้งหมดนี้หลังจากที่ฮั่นหลางได้เตือน ทุกคนก็ตระหนักดีว่าการสู้รบกับเหล่านักรบหน้ากากเพียงอย่างเดียวจะไร้ประโยชน์ ไม่มีใครยกเว้นซือหม่าฮันเฟิง ที่จะสามารถเป็นคู่มือกับนักรบหน้ากากได้

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ประโยชน์จากไพ่ทั้งหมดพวกเขา!

บ้าไปแล้ว!

สนามรบกลายเป็นบ้าคลั่ง!

อาวุธเทพสงครามจำนวนมากถูกดึงออกมาและโยนตรงไปยังกลุ่มปฏิบัติการ ราวกับพายุ

อาจารย์บ้าทั้งสาม มีลักษณะที่น่าสนใจ พวกเขาต่างล้วนเก็บไพ่ตายไว้เป็นจำนวนมากภายในแขนเสื้อของพวกเขา เมื่อพวกเขาซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรที่ถูกลืม เพื่อหลีกเลี่ยง ซือหม่าฮันเฟิง พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาอาจต้องทำการเก็บเทคนิคบางอย่างที่สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตรอดอยู่ได้ หากในวันหนึ่งซือหม่าฮันเฟิง จะกลับมาทำลายพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บอุปกรณ์เชิงกลที่มีประโยชน์มากมายเอาไว้

นอกจากนี้ นักรบชั้นยอดหลายคนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรที่ถูกลืม มันเป็นชีวิตที่ดูน่าเบื่อจริง ๆ ที่ต้องอยู่อาศัยอยู่ที่นั่นตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะทุกอย่าง เพื่อให้เวลาผ่านไป และพูดคุยเกี่ยวกับอุปกรณ์เชิงกลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าสนใจที่สามารถกำจัดคนออกไปได้ สายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์ซึ่งฮั่นหลางชอบใช้ ก็ถูกคิดค้นขึ้นในสถานการณ์นั้นเช่นกัน

แน่นอนว่า ก่อนที่อาจารย์บ้าทั้งสามจะมาถึง ฮั่นหลางได้ใช้ สายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์ไปจนหมดแล้ว

แต่ก็ไม่สำคัญ เมื่อสามคนบ้าก็ได้นำสิ่งเหล่านั้นมากับพวกเขา รวมทั้ง นักรบชั้นยอดอื่น ๆ ที่มาจากอาณาจักรที่ถูกลืมก็ยังนำอุปกรณ์เชิงกลที่ร้ายกาจต่าง ๆ ติดตัวมาด้วย

คนบ้าทั้งสามและคนอื่น ๆ รวมกันนับหลายร้อยคน พร้อมด้วยเทคนิคและอุปกรณ์เชิงกลที่แต่ละคนนำออกมาทั้งหมด พลังที่ส่งผลออกมามันก็ยิ่งใหญ่มาก

ชิ้ง ~

ในขณะนั้น ผู้เล่นยามค่ำคืน นำมีดออกมาตัดผ่านแขนขวาของตัวเอง เขาดูดเลือดของเขาบางส่วนและถ่มน้ำลายใส่ตัวนักรบหน้ากาก เลือดของเขาพลันกลายเป็นหมอกและทุกสิ่งทุกอย่าเริ่มเปื่อยยุ่ยสลาย

คืนทะลาย เขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษ

ทุกคนรู้ดีว่าคืนทะลายมีความสามารถมาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายของเขา เขาสามารถใช้เป็นยาพิษ ผู้เล่นยามค่ำคืนได้ทดลองใช้สารพิษต่าง ๆ ในชีวิตของเขา เขาได้สะสมมันไว้ในร่างกายของเขามานานแล้ว

นี่คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าไพ่ตายในแขนเสื้อ!

คนคลั่งไคล้ยาพิษ สะสมพิษไว้ในเลือดของเขา!

พ่นออกไป!

ในช่วงเวลาที่จนมุม!

นับตั้งแต่ทำการต่อสู้ ฮั่นหลางและนักรบคนอื่น ๆ ได้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดของพวกเขา และพวกเขาก็ยังสามารถต่อสู้กับนักรบหน้ากากสัตว์ร้ายทุกคนได้อย่างสูสี

ถึงแม้ว่านักรบหน้ากากเหล่านี้จะมีพลังอำนาจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการล้อมรอบด้วยเทคนิคที่แตกต่างกันได้ ราชาเถาสวรรค์ได้แพร่กระจายไปรอบ ๆ พวกเขา จนเกือบจะขยายเข้าไปในป่า! เมล็ดพันธุ์ ราชาเถาสรรค์ทุกเม็ดที่ทุกคนนำมา ต่างถูกนำมาใช้ทั้งหมดในสนามรบโดยไม่มีเหลือแม้แต่เม็ดเดียว

ซือหม่าฮันเฟิงได้มองเห็นความยากลำบากและการดิ้นรนทั้งหมดเหล่านี้อย่างชัดเจน และเขาจดจำพวกมันไว้ในใจ

ซือหม่าฮันเฟิงมีพลังมากและเป็นเพียงคนเดียวในทางช้างเผือกที่แข็งแกร่งกว่านักรบหน้ากากคนใด ๆ

อย่างไรก็ตามเขาก็หยิ่งยโส เขาไม่เคยเงยหน้ามองใคร ไม่ต้องพูดถึงฮั่นหลางหรือสามคนบ้า เขาไม่แม้แต่จะสนใจองค์กรเหล่าเทพเจ้า ในขณะที่เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางเหล่าเทพเจ้าทั้งหมด นี่คือความหยิ่งยโสของเขา ซึ่งมันก็สมควรแล้ว

การต่อสู้ที่รุนแรงที่พวกเขากำลังประสบในวันนี้ แม้ว่ามันจะทำให้เขาตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เขาเป็นคนที่มีพลังอำนาจมากที่สุดคนหนึ่ง แต่คนที่มีส่วนร่วมมากที่สุดคือฮั่นหลาง

อะไรที่ทำให้ฮั่นหลางมีส่วนร่วมมากที่สุด?

มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น

แกร่งมาก! โหดมาก! เทคนิคมาก! พี่น้องมาก!

ก่อนที่ คนบ้าทั้งสามจะเข้ามาในสนามรบ ฮั่นหลางได้เปิดการใช้งานกองทัพสัตว์พันธุกรรม สายฟ้าเพลิง ราชาเถาสรรค์ รวมทั้งเทคนิคอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน

ด้วยตัวของฮั่นหลางเอง ก็มีพลังอำนาจที่ใกล้เคียงกับกองกำลังส่วนบุคคลของซือหม่าฮันเฟิง ที่มีมากกว่าหกสิบคน

เมื่อ อาจารย์บ้าสามคนมาถึง พวกเขาเป็นเพื่อนที่แท้จริงกับฮั่นหลาง พร้อมที่จะร่วมชะตากรรมความยากลำบากในการต่อสู้ด้วยกัน! พวกเขาเป็นผู้ชายที่แท้จริงทั้งหมด! นอกจากทักษะการต่อสู้ พวกเขาทั้งหมดยังสามารถนำอุปกรณ์จำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น อาวุธเทพสงคราม และอุปกรณ์เชิงกลออกมา!

ในสนามรบ อุปกรณ์ต่าง ๆ อาวุธเทพสงครามต่างบินว่อนไปทุกที่! กองทัพสัตว์ทางพันธุกรรมกระจายอยู่ทั่วพื้นดิน

ฮู่ ~

ซือหม่าฮันเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขาเป็นคนที่หยิ่งยโส หากแต่เขาในตอนนี้รู้สึกอับอายมาก

ด้วยที่เขายังไม่สามารถฆ่านักรบหน้ากากได้แม้แต่คนเดียว มันเป็นความอัปยศอดสูของเขา

ถ้าหากเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฮั่นหลางและคนอื่น ๆ ที่ต่างใช้อุปกรณ์เชิงกล อาวุธเทพสงครามของพวกเขา ตลอดจนการทุ่มเททำการต่อสู้อย่างหนัก เขาก็อาจจะตายไปแล้ว

จนถึงตอนนี้การสู้รบในสนามรบมีความสมดุลไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่คนที่มีประสบการณ์ จะรู้ว่าความสมดุลในสนามรบเป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนมากที่สุด ทันทีที่นักรบจากกลุ่มปฏิบัติการเพิ่มแรงผลักดันเพียงเล็กน้อย และสามารถฆ่านักรบในทีมของฮั่นหลางได้อีกสองสามคน หรือถ้าด้านฮั่นหลางมีอุปกรณ์หรืออาวุธหรือทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือน้อยลง  สถานการณ์จะกลายเป็นจุดสิ้นสุดอย่างสมบูรณ์

ดังนั้นเพื่อที่จะทำลายความสมดุลนี้ ต้องทำอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไป

เมื่อตระหนักถึงปัญหานี้ ซือหม่าฮันเฟิง คำรามออกมาและทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ

ในเวลาเดียวกันซือหม่าฮันเฟิง ได้ยินเสียงหนัก ๆ จากด้านหลังของเขา ไม่สิ เขาได้ยินเสียงติดต่อกันสองครั้ง! ฮั่นหลางทุบผลึกแห่งความมืดสองชิ้นและกลืนพวกมัน

ฮั่นหลางมักจะเก็บเคล็ดลับไว้เป็นความลับสำหรับการใช้งานครั้งสุดท้าย ในครั้งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน

แม้ว่ากองทัพสัตว์พันธุกรรม สายฟ้าเพลิง ราชาเถาสวรรค์ และอื่น ๆของฮั่นหลาง จะถูกใช้หมด แต่เขาก็ยังมีของที่สามารถใช้เพิ่มพลังอีกสองชิ้น ผลึกแห่งความมืด!

ฮั่นหลางมีความคิดและความเข้าใจที่ชัดเจน เขารู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะสู้ด้วยทุกอย่าง!

เกิดทางตันชั่วคราว ในช่วงเวลาไม่ถึงสิบวินาที ฮั่นหลางและซือหม่าฮันเฟิงก็ต่อสู้อีกครั้ง

คราวนี้พวกเขาทำการต่อสู้ด้วยพลังที่เต็มรูปแบบ!