GDN 299 กลุ่มปฏิบัติการลึกลับ

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 

ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/

ชายแดน องค์กรเหล่าเทพเจ้า

หัวหน้ากองทัพ วู้ด ลุกขึ้นยืนบนโขดหิน หูของเขายังคงหึ่งอยู่ราวกับว่าเขาโดนฟ้าผ่า

เขาลูบดวงตาของเขา แทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น กำแพงบริเวณขอบชายแดนถูกทำลาย ม่านพลังงานที่เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันทั้งหมดจะไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไป ภูเขาทั้งหมดถูกระเบิดพังทะลายจนราบเตียนไปกับพื้นดินและดินถูกพัดเข้าไปในหุบเขาลึก

หลังจากการระเบิดครั้งใหญ่นี้ชายแดนระหว่าง องค์กรเหล่าเทพเจ้าและ องค์กรเหล่าปีศาจ ก็หายไปอย่างสมบูรณ์ มันเป็นการระเบิดทำลายของทั้งสองฝ่าย หรืออาจจะเกิดจากการระเบิดซุปเปอร์พัลส์หรือคลื่นกระแทกที่ย้อนกลับ

การระเบิดทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนสถานการณ์ปัจจุบันของทั้งสององค์กร จากนี้ไปองค์กรเหล่าปีศาจอาจบุกเข้าไปในดินแดนขององค์กรเหล่าเทพเจ้า ได้ทุกเมื่อ และองค์กรเหล่าเทพเจ้า ยังสามารถส่งกองกำลังของพวกเขาเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้ตลอดเวลา

ในระหว่างการสู้รบระหว่างทั้งสององค์กร แม้ว่าจะมีความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตลอด แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยก่อสงครามที่แท้จริง หลังจากที่ทั้งสององค์กร ต่างมีกองทัพในปริมาณที่เท่ากัน ซึ่งทั้งสองไม่สามารถกำจัดซึ่งกันและกันได้

วู้ดสงสัยว่าระเบิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้อย่างไร มันสามารถทำลายอาณาเขตใกล้ชายแดนหรือพรมแดนทั้งหมดได้หรือไม่?

น่าเสียดายที่วู้ด ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ระบบการเชื่อต่อของดาร์คเน็ตกับองค์กรเหล่าเทพเจ้าเกิดปัญหา สัญญาณเชื่อมต่อทั้งหลายได้ขาดหายไป รวมทั้งการเคลื่อนย้ายอนุภาคก็ใช้การไม่ได้

"เราต้องต่อสู้จนจบ!" วู้ดกล่าวออกมาพร้อมกับกอดอก ทหารสำรองที่รอดชีวิตจากการระเบิดยังปีนขึ้นไปและรวมตัวกันทั้งหมดที่ด้านข้างของหัวหน้ากองทัพ

โชคไม่ดีแม้ว่า วู้ดและกองกำลังทหารใหม่ของเขาจะมีขวัญกำลังใจสูงแต่พวกเขาก็ไม่ได้เห็นศัตรูใด ๆ ในสนามรบ ดูเหมือนว่าองค์กรเหล่าปีศาจ เพิ่งพยายามสร้างการระเบิดนี้เพียงเพื่อก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายแทนที่จะสร้างโอกาสให้ทหารบุกเข้ามาในดินแดนขององค์กรเหล่าเทพเจ้า

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ วู้ดรู้สึกสับสน มันมีทหารของฝ่ายตรงข้ามหรือไม่

ถึงกับลงทุนไปมากขนาดนี้เพียงเพื่อทำลายกำแพงระหว่างองค์กรเหล่าปีศาจและองค์กรเหล่าเทพเจ้าหรือไม่? ศัตรูต้องการอะไร?

เพื่อรุกรานดินแดนของศัตรู?

เป็นไปไม่ได้

กองทัพที่สาม ไม่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้า พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะบุกเข้าไปในอาณาเขตของ องค์กรเหล่าปีศาจ พวกเขาทุกคนรู้ว่าการบุกเข้าไปในดินแดนนี้โดยที่ไม่คิดเรื่องการเตรียมตัวก่อน ก็เหมือนกับการเตรียมตัวตายของพวกเขา

สิ่งที่วู้ดสามารถทำได้ในตอนนี้คือตั้งฐานที่มั่นและปกป้องดินแดนรอกลุ่มเทคนิคและทีมสำรองเพื่อแก้ไขหลุมร้าวขนาดใหญ่ที่ยังคงอยู่ทั้งสองด้านของชายแดน

หลุมร้าวนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นผลร้ายแรงต่อทั้งสององค์กร เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีระบบขนส่งอนุภาคที่สามารถขนส่งกองกำลังไปยังดินแดนของอีกฝ่ายได้ มันเป็นไปได้หรือไม่ที่สิ่งที่องค์กรเหล่าปีศาจต้องการจะไม่ใช่ชายแดน แต่เป็นดินแดนภายในขององค์กรเหล่าเทพเจ้า?

ถุย~

วู้ดถ่มเลือดออกมา การสั่นสะเทือนที่รุนแรงส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในตัวเขา ในฐานะที่เป็นทหาร เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการเมืองหรือเทคนิคการต่อสู้ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือรักษาดินแดนไว้

...

กาแลคซี บริเวณนอกวงแหวนเกลียวที่สวยงาม พื้นที่บางแห่งใกล้กับบริเวณป่าดวงดาว

รูหนอนขนาดมหึมาเปิดออกมา เนื่องจากมีการคิดค้นเครื่องมือแปลงเชิงพื้นที่แล้วยังมีรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์อื่น ๆ เช่น เครื่องสร้างรูหนอนที่ประณีต

รูหนอนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในกาแลคซี มันมีขนาดใหญ่พอที่จะส่งกองทัพเรือขนาดใหญ่เดินทางผ่านเข้าไปภายในได้

ชูวว ~

เรือรบดวงดาวลำแรกเดินทางออกจากรูหนอนไปที่ด้านนอกของกาแลคซี

ณ บริเวณศูนย์บัญชาการ ชายชราท่าทางสง่ายืนอยู่บนดาดฟ้าของศูนย์บัญชาการ เขาสวมมงกุฎบนศีรษะของเขาซึ่งครอบคลุมตาที่สามของเขา

เมื่อหันหน้าเข้าหากาแลคซีอันงดงาม ชายชรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ตาของเขาเปิดกว้างขณะที่เขาพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นสะท้านว่า "ทางช้างเผือกบ้านของเรา ในที่สุดเราก็กลับมา!"

วู้ ~

คนอื่น ๆ บนเรือต่างก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อมีเรือรบดวงดาวเดินทางออกจากรูหนอนมากขึ้น พวกมันเป็นเรือรบดวงดาวที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ พวกมันมีกำลังมากพอที่จะบดขยี้ทางช้างเผือกทั้งหมดได้ในพริบตา

นอกจากชายชราแล้วยังมีชายสองคนในชุดสีดำที่มีลักษณะแปลก ๆ ในศูนย์บัญชาการ พวกเขาเดินไปที่ด้านข้างของชายชรา พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "เราได้ทำในสิ่งที่เราสัญญาไว้แล้ว เจ้าและเผ่าพันธุ์ของเจ้าได้กลับมาที่กาแลคซีภายในเวลาสองปีกับอีกสามเดือน ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้

ชายชราสามตาพยักหน้าเบา ๆ เขาไม่สนใจว่าคนสองคนที่อยู่ในชุดสีดำมาจากที่ใด เขาสนใจก็แต่เพียงการควบคุมกาแลคซี และขจัดมนุษย์ที่ด้อยกว่าเหล่านี้ออกไป

หากจะพูดไป เผ่าพันธุ์สามตาเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสงสารที่สุดในจักรวาล หลังจากทำความรู้จักกับความลึกลับของดาร์คเน็ตแล้ว พวกเขาก็เริ่มคิดที่จะครอบครองดาร์คเน็ตด้วยพลังที่จำกัดของพวกเขา

แต่น่าเสียดายที่เผ่าพันธุ์เล็ก ๆ นี้ยังห่างไกลเกินกว่าจะเป็นคู่ต่อสู้กับองค์กรเหล่าเทพเจ้า หลังจากเสียเวลาไปแล้วสามร้อยปี เผ่าพันธุ์สามตาก็กลับมาที่กาแลคซีในฐานะผู้พ่ายแพ้ กลับมายังสถานที่ที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เริ่มแรก

เผ่าพันธุ์สามตาได้สูญเสียความทะเยอทะยานของพวกเขาที่จะควบคุม ดาร์คเน็ต พวกเขาเพียงต้องการที่จะเตะมนุษย์ทุกคนออกไป และครอบครองดูแลกาแลคซีเช่นก่อนหน้านี้

ในเวลานั้น ชายสองคนในชุดสีดำได้มาถึง พวกเขาอ้างว่าพวกเขามีความสามารถในการลดระยะเวลาเพื่อเดินทางกลับมายังกาแลคซีโดยการตั้งค่ารูหนอนขนาดใหญ่พิเศษ

ความคิดนี้ค่อนข้างดึงดูดเผ่าพันธุ์สามตา ถ้าพวกเขาเดินทางด้วยตัวเองก็จะใช้เวลามากกว่าสองปี เดินทางกลับไปที่กาแลคซีด้วยเรือบิน แต่ด้วยความช่วยเหลือของคนเหล่านี้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

ดังนั้น ข้อตกลงลับได้ถูกจัดตั้งขึ้น ชายในชุดสีดำจะช่วยให้เผ่าพันธุ์สามตา กลับมาที่กาแลคซีได้อย่างรวดเร็วและส่วนที่เหลือของเผ่าพันธุ์สามตา จะให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาในหุบเขาลี้ลับ

"ข้าสงสัยว่าการเชื่อมต่อของดาร์คเน็ตที่ถูกตัดขาดไปแล้ว พวกเจ้ายังสามารถติดต่อกับคนอื่น ๆ ในหุบเขาได้อย่างไร?" ชายในชุดสีดำถามออกไป

"มันง่ายมาก เราใช้ตาที่สามของเรา" ชายชราที่สวมมงกุฎบนศีรษะกล่าวออกมา

จากนั้นเขาก็เอามงกุฎทองคำออกจากศีรษะ มีรอยแตกที่เห็นได้ชัดบนหน้าผากของเขา

เขาหลับตาลงขณะที่ดวงตาที่สามของเขาค่อย ๆ เปิดออก

ดวงตาที่สามเปล่งประกายสว่างสดใสเหมือนไข่มุกที่เปล่งแสงแพรวพราว

ชูวว ~

ชายชรากางแขนออก ในขณะที่ร่างของเขาค่อย ๆ ลอยขึ้นไปที่ดาดฟ้า รัศมีเรืองแสงเปล่งออกมาจากดวงตาที่สามของเขา ยิ่งทำให้มันดูมีความลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ

"โอ้ มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ ..จักรวาลแท้จริงเต็มไปด้วยสิ่งที่แตกต่างกัน เผ่าพันธุ์สามตาสามารถถ่ายทอดข้อความโดยใช้ตาที่สามผ่านระยะไกล นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อ" ชายคนหนึ่งในชุดสีดำพยักหน้าและพูดออกมา

อีกคนหนึ่งกล่าวว่า "ข้าไม่คิดว่าตาที่สามของพวกเขาจะเรียบง่าย มันต้องมีความสามารถอื่น ๆ อีกที่พวกเขาสามารถทำได้"

หลังจากนั้นไม่นาน ชายชรากลับมาที่พื้น เขาดูอ่อนล้าและพูดว่า "ข้าได้แจ้งเตือนคนของข้าในหุบเขาลี้ลับแล้ว พวกเขาจะตั้งตาข่ายเหนี่ยวนำในเร็ว ๆ นี้และจะให้กองทัพของเจ้าเข้าสู่หุบเขา"

ชายในชุดสีดำยิ้มและพูดว่า "ไม่ใช่กองทัพ มันคือกลุ่มปฏิบัติการ"

“กลุ่มปฏิบัติการ?” ชายชราถามออกไปว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่พวกเจ้ายังรักษาสัญญาของเจ้าได้ และมอบศพของฮั่นหลางให้กับเรา"

"ไม่ต้องกังวล" ชายในชุดดำกล่าวว่า "เราไม่ต้องการร่างกายของเขา เราเพียงต้องการชีวิตที่ตายแล้วของเขา"

...

ในสถานที่ลับ ๆ ในด้านลึกของจักรวาล หุบเขาลี้ลับขององค์กรเหล่าเทพเจ้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หุบเขากับดัก

ทีมของเผ่าพันธุ์สามตาไม่ได้ออกไปข้างนอก พวกเขาทำเพียงแค่มองหาที่ไหนสักแห่งเพื่อซ่อนและรอคำสั่งจากศูนย์บัญชาใหญ่

ในขณะนี้ ไห่หยวนได้รับข้อความผ่านตาที่สามที่ส่งมาจากหัวหน้าเผ่า เผ่าพันธุ์สามตา จากนั้นเขาก็หยิบของชิ้นหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ มันดูเหมือนปิรามิด

มันเป็นสิ่งที่สามารถสร้างตาข่ายเหนี่ยวนำ มันมีขนาดเล็กมากและละเอียดอ่อน แต่ยังมีพลังงานฟิวชั่นที่สามารถควบคุมได้

ไห่หยวนวางตาข่ายเหนี่ยวนำนี้ลงบนพื้นแล้วเปิดขึ้น

ชูวว ~

ประตูอวกาศปรากฏขึ้นในทันที อุโมงค์อวกาศมีขนาดเล็กพอที่จะหลีกเลี่ยงการจับภาพของเรดาร์ใด ๆ

กลุ่มของนักรบในชุดสีดำก้าวออกมาจากประตูอวกาศ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในชุดเกราะและหน้ากากที่ดูไร้ความปราณี

“ข้าสัมผัสได้! วิญญาณของคนทรยศอยู่ที่นี่ เราต้องทำลายมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่งข่าวให้ชายชรารู้เมื่อเรากลับไปแล้ว"  ชายในชุดสีดำที่เป็นผู้นำเงยหน้าขึ้นขึ้นมาและกล่าวออกไป “คนทรยศคนนี้คือที่ซ่อนตัวอยู่ในองค์กรเหล่าเทพเจ้า เราใช้ความพยายามอย่างมาก และแม้แต่เสี่ยงที่จะเข้าไปในดินแดนขององค์กรเหล่าปีศาจ เพื่อจับกุมตัวเขา"

"คนทรยศมักจะสร้างเรื่องยุ่งยากให้เสมอ" ชายในชุดสีดำพูดออกมา

ได้มีการกล่าวว่าพวกเขาเป็นกลุ่มปฏิบัติการที่ลึกลับ พวกเขามาที่นี่เพื่อฆ่าจิตวิญญาณ แม้ว่าไห่หยวนจะได้รับข้อความจากหัวหน้า เขายังคงถูกบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากเหล่านักรบนั้นกดดัน พวกเขาทั้งหมดมีสิบเอ็ดคนและทุกคนดูเหมือนว่าจะมาจากนรก

ไห่หยวนนำนักรบจากเผ่าพันธุ์สามตา และเดินตามหลังกลุ่มปฏิบัติการ

ตามข้อตกลงนั้น กลุ่มปฏิบัติการจะฆ่าวิญญาณที่เรียกว่า "ผู้ทรยศ" ซึ่งติดอยู่ภายในร่างกายของฮั่นหลาง ในทางตรงกันข้ามไห่หยวนก็จะได้ร่างของฮั่นหลาง