เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 290 ซือหม่า ฮันเฟิง

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/



ในที่สุดฮั่นหลางก็รู้ว่าชายชราที่มีจมูกเหยี่ยวในเครื่องแบบทหารเป็นศัตรูของอาจารย์บ้าสามคนที่พวกเขาเกรงกลัวมาก มันเป็นสิ่งที่บังคับให้ผู้คนมากมายหลบหนีไปสู่อาณาจักรที่ถูกลืม

ฮั่นหลางหันไปมองเขาอย่างระมัดระวัง เขาต้องการทราบถึงความแข็งแกร่งของชายชราที่อยู่ในชุดทหาร ที่ถึงกับสามารถคุกคามชีวิตของคนที่แข็งแกร่งในทางช้างเผือกได้ ว่าเป็นอย่างไร

"ชายชราคนนี้แข็งแกร่งมาก" เจียนเจียกระซิบที่หูของฮั่นหลาง ด้วยโทนเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เจียนเจียมักมองดูคนอื่นต่ำกว่าอยู่เสมอ แต่เมื่อมองไปที่ชายชราคนนี้เธอดูเหมือนจะยกเขาขึ้นมาอีกระดับ

เขาเป็นนักรบชั้นนำของกาแลคซีทางช้างเผือก ขุนศึกระดับแปดดาว ซือหม่า ฮันเฟิง อี่เว่ยเว่ยพูดกับฮั่นหลาง

"ระดับแปดดาว!?

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เพราะช่องว่างระหว่างระดับชั้นนั้นมีขนาดใหญ่มาก ขุนศึกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับปานกลางมักมีปัจจัยบางอย่าง เช่นมีแหล่งพลังงานมากขึ้น ยิ่งเป็นระดับขุนศึกก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะยกระดับขึ้นไป มีช่องว่างระหว่างระดับหกดาวและเจ็ดดาว อย่างไรก็ตามระหว่างเจ็ดดาวและแปดดาว มันยิ่งเป็นอะไรที่มากกว่านั้น

ในตอนนี้ระดับของ ซือหม่า ฮันเฟิง ก็เข้าถึงระดับแปดดาว? นั่นหมายความว่าสักวันหนึ่งในอนาคตเขาอาจได้เข้าถึงระดับเก้าดาวที่มหัศจรรย์!

สำหรับระดับเก้าดาวทองคำ นักรบที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับเจ็ดดาวเช่นฮั่นหลาง เขาไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของนักรบระดับเก้าดาวที่ควรจะเป็น!

มันแปลกเหลือเกินที่ฮั่นหลางไม่เคยรู้เรื่องของคนที่มีพลังอำนาจเช่นคนนี้ว่ามีอยู่ในกาแลคซีทางช้างเผือก และไม่มีใครได้ยินชื่อของชายคนนี้ในที่ใด ๆ มาก่อน

แม้แต่อาจารย์ทั้งสามคนที่ไม่กลัวความตาย หากแต่พวกเขากลัวเพียง ซือหม่า ฮันเฟิง เท่านั้น คนที่เป็นคนแปลกหน้า

อีกด้านหนึ่งผู้เล่นยามค่ำคืน หรือคืนทะลายผู้บ้าคลั่งยาพิษ ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า "ดังนั้นเจ้าอยากจะฆ่าเราเพราะเราออกจากอาณาจักรที่ถูกลืม?"

ซือหม่า ฮันเฟิง ไม่เห็นด้วย "ไม่ อย่างน้อยตอนนี้ข้าไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเจ้า ข้าแค่อยากจะเตือนเจ้าว่า ข้อตกลงก็ยังเป็นข้อตกลง เจ้าได้ละเมิดข้อตกลงระหว่างเจ้ากับข้า ดังนั้นแม้ว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้าในตอนนี้ ข้าอาจฆ่าเจ้าได้ตลอดเวลาในอนาคต"

คำพูดเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ทั้งสามคนบ้าไม่ได้ปฏิเสธ พวกเขาพยักหน้าซึ่งหมายความว่าพวกเขาเข้าใจ

ฮั่นหลางไม่เคยห่วงเรื่องของคนอื่น แต่ในตอนนี้มันเกี่ยวกับอาจารย์ทั้งสามของเขา พวกเขาไม่ใช่แค่แขกของฮั่นหลางเท่านั้น แต่ยังเป็นอาจารย์ของเขา

ฮั่นหลางลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มออกไปให้เขาและพูดว่า "ถึงแม้ว่าท่านจะมีข้อตกลงกันมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพวกมันใช่หรือไม่? อีกทั้งพวกเขาอยู่ที่ชั้นลึกของดาร์คเน็ต และไม่ได้กลับไปที่กาแลคซีทางช้างเผือก ในทางกลับกัน เหล่าศัตรูของเรา เผ่าพันธุ์พระเจ้ากำลังใกล้เข้ามา เราจำเป็นต้องร่วมมือกัน ร่วมพลังจากทุกคนเพื่อช่วยกาแล็กซีทางช้างเผือกให้ผ่านวิกฤตินี้ อะไรคือจุดยึดมั่นในข้อตกลงที่ผ่านมานี้? ข้าขอแนะนำให้เราลืมอดีตและรวมตัวกันเพื่อยืนหยัดร่วมกันเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา"

หลังจากฟังคำพูดของฮั่นหลางที่ไม่ค่อยมีน้ำหนัก ซือหม่า ฮันเฟิง เหลือบตามองฮั่นหลางและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ประการแรก ข้าไม่รู้ว่าข้อตกลงของคนอื่นจะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ แต่ข้อตกลงของข้าไม่เคยเปลี่ยน

"ประการที่สอง เผ่าพันธุ์พระเจ้าไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะมาถึงที่ของเรา เช่นที่เจ้าพูดแล้วก็ตาม แต่ข้าก็จะส่งพวกเขาไปยังนรก"

ฮั่นหลางตกตะลึงเขาไม่เคยได้ยินคำพูดที่ดูหยิ่งยโสเช่นนี้มาก่อน

ซือหม่า ฮันเฟิง เป็นคนหยิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ! เพราะเขา เผ่าพันธุ์พระเจ้าจึงไม่กล้าที่จะโจมตีทางช้างเผือก? เขาคิดเช่นนี้ได้อย่างไร?

ทุกคนที่ไม่รู้จัก ซือหม่า ฮันเฟิง หรือไม่คุ้นเคยกับเขา ต้องรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชายชราผู้นี้ ท่ามกลางสายตาที่จ้องมอง ซือหม่า ฮันเฟิงกับกลุ่มลูกน้องของเขาที่อยู่ในเครื่องแบบทหาร พวกเขาทั้งหมดควรจะเข้าถึงระดับขุนศึก

เพราะ ซือหม่า ฮันเฟิง การชุมนุมท่ามกลางบรรยากาศที่ดูอบอุ่นได้กลายเป็นหนาวเหน็บและไม่มีความสุข งานชุมนุมต้องจบลงก่อน ทุกคนต่างเห็นว่า สามคนบ้าและแขกอื่น ๆ อีกไม่กี่คนที่มาจากอาณาจักรที่ถูกลืมต่างกังวลใจ พวกเขาไม่มีความรู้สึกที่จะร่วมชุมนุมอีกต่อไป

คนส่วนใหญ่จากไป เหลือเพียงเพื่อนที่ดีที่สุดของฮั่นหลางและเพื่อน ๆ จากอาณาจักรที่ถูกลืม

ผู้เล่นยามค่ำคืนฝืนยิ้มออกมาและบอกฮั่นหลางว่า "ข้าเกือบจะลืมบอกเจ้าว่า ข้าได้นำสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์ที่เจ้าต้องการ เพื่อนคนนี้เป็นคนใจดีมากทีเดียว เขาฝากสายฟ้าเพลิงพันตัวและราชาเถาสวรรค์อีกยี่สิบเมล็ดมาให้เจ้า มันควรที่จะเพียงพอสำหรับเจ้าไปอีกช่วงระยะหนึ่ง"

ฮั่นหลางดีใจ สายฟ้าเพลิงและราชาเถาสรรค์เป็นผลงานชิ้นเอกของผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรที่ถูกลืม มันไม่มีขายในตลาดและก็ไม่ง่ายที่จะได้มันมา

ฮั่นหลางทำการเก็บพวกมันไว้ก่อนจะกล่าวออกไป "ฝากขอบคุณผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ และบอกเขาว่าถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือใด ๆ โปรดบอกข้า ข้าจะช่วยเหลือเขา"

อู้หวินกัดริมฝีปากของเขาและกล่าวว่า "มีคนจำนวนมากที่ต้องการทำงานให้เขา เขาไม่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือใด ๆ อีก ในทางกลับกัน เหตุผลที่ทำให้เขามอบสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสรรค์ เป็นเพราะพวกข้าออกหน้าให้ และการทำงานหนักของเจ้าเอง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือการที่เจ้าทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด อย่ามาเสียเวลาช่วยเขาเลย"

ฮั่นหลางพยักหน้าอย่างหนักและพูดว่า "อย่ากังวลข้าอยากพบเขา ถ้ามีโอกาสข้าอยากเห็นว่าเขาทำสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์อย่างไร"

ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรีบโบกมือออกมาแล้วพูดว่า "อย่าคิดถึงเรื่องนี้ ไม่มีใครจะแสดงทักษะที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงของพวกเขาให้กับผู้อื่น ถ้าเจ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเขา

ฮั่นหลางไม่ตอบ ในแง่นี้ คนบ้าทั้งสามก็เสียสละ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะไม่ได้เป็นอาจารย์กับศิษย์อย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาก็ยังคงถ่ายทอดทักษะเฉพาะด้านมาให้ฮั่นหลาง ด้วยทักษะความสามารถพิเศษเฉพาะด้านของสามคนบ้า ได้ทำให้ฮั่นหลางกลายเป็นคนที่น่ากลัว หากจะพูดไป พวกเขาทั้งหมดแทบจะเป็นอาจารย์ที่แท้จริงของฮั่นหลาง และมันอยู่เหนือกว่าผลประโยชน์ของพวกเขา

ฮั่นหลางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า "ข้าเก็บคำถามนี้ไว้ในใจเป็นเวลานานแล้ว ซือหม่า ฮันเฟิงเป็นใคร?"

สามคนบ้าและเพื่อนคนอื่น ๆ จากอาณาจักรที่ถูกลืมทั้งหมดถอนหายใจ ผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวว่า "ซือหม่า ฮันเฟิง เป็นบุคคลพิเศษในทางช้างเผือก เขาเรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์จิตวิญญาณของกาแลคซีทางช้างเผือก คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นเขา เพราะทุกคนที่ได้เห็นเขาได้ตายไปแล้ว"

"มันเป็นเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ผู้พิทักษ์ชูหลีได้รับรู้ถึงภาวะวิกฤติในกาแลคซีทางช้างเผือก เขาจึงขอร้องไม่ให้ซือหม่าฆ่าทุก ๆ คนที่ทำผิดกฎหมายในกาแลคซีทางช้างเผือก ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของเขาก็แผ่กระจายออกไปและตอนนี้ คนอื่น ๆ เริ่มได้ยิน ชื่อของเขา"

"ก่อนหน้านั้นแม้แต่พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ในกาแลคซีทางช้างเผือก จนกระทั่งเขาจับพวกเราได้ เขาให้สองทางเลือกแก่พวกเรา ตายหรือไปพึ่งพิงชูหลี่และห้ามมาวุ่นวายกาแลคซีทางช้างเผือก"

"พวกเราไม่กลัวความตาย ทุกคนจากอาณาจักรที่ถูกลืมไม่ได้กลัวเข่นกัน แต่ต่างกับซือหม่า ฮันเฟิง เมื่อเขามองตาเรา ความตายแทบจะเป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกับการไปสวรรค์ นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่อยากยุ่งกับเขา"

"เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป ในตอนนี้พวกเรากล้าที่จะไปตามเส้นทางเหล่าเทพเจ้าแล้ว พวกเราก็พร้อมที่จะพบเขาที่นี่ มันเป็นเพียงแต่ข้าไม่คิดว่า ซือหม่า ฮันเฟิง จะมาจริง ๆ และก็มาเร็วกว่าที่คาด

ฮั่นหลางยังงงว่าทำไมทุกคนถึงกลัว ซือหม่า ฮันเฟิง แต่เขาพบว่าไม่เหมาะที่จะขัดจังหวะที่ผู้เล่นยามค่ำคืนกำลังพูด

ผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวต่อมาว่า ได้มีการกล่าวกันว่าเมื่อตอนที่ ซือหม่า ฮันเฟิง ยังเด็ก ครอบครัวของเขาได้มอบหมายหน้าที่ให้เขาดูแลรักษาสุสานบรรพบุรุษของพวกเขา สุสานของคนแข็งแกร่งจะอยู่ในพื้นที่จำกัด ผู้บุกรุกทุกคนจะต้องถูกสังหารและสุสานของตระกูลซื่อหม่าก็ไม่มีข้อยกเว้น

อยู่มาวันหนึ่ง เรือพร้อมผู้ลี้ภัยลำหนึ่ง เครื่องยนต์ของเรือเกิดเสีย และพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องร่อนลงจอดในวงโคจรรอบดาวเคราะห์เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ซือหม่า ฮันเฟิง ได้รับสัญญาณและขึ้นเรือ ในทันทีที่เขาอยู่บนเรือ เขาได้มอบยาและอาหารแก่พวกเขา แล้วก็ฆ่าผู้ลี้ภัยครึ่งหนึ่งรวมถึงทารกที่ยังอยู่ในครรภ์

เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของเขาโกรธเพราะวิธีการที่โหดร้ายและเลือดเย็น มันไม่สอดคล้องกับคำแนะนำในครอบครัวของตระกูลซือหม่า  และมันก็มีอิทธิพลต่อชื่อเสียงของพวกเขา

แต่ ซือหม่า ฮันเฟิง ยืนยันในสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง เขาช่วยผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเพราะพวกเขาเป็นคนน่าสงสารและฆ่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเพราะพวกเขาได้ละเมิดกฎ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ถูก จำกัด

ซือหม่า ฮันเฟิง ฆ่าทุกคนในเรือครึ่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่จำกัด

ซือหม่า ฮันเฟิง มีอายุยี่สิบปีเมื่อเขาทำอย่างนั้น

ตั้งแต่นั้นมาทุกคนก็ตระหนักว่า ซือหม่า ฮันเฟิง คนนี้เป็นใคร ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าในกฎของโลกมากเท่าเขา

ต่อมาเมื่อ ซือหม่า ฮันเฟิง โตขึ้นและเดินผ่านความซับซ้อนของมนุษย์จำนวนมาก สถานการณ์เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย เขาเริ่มมีเหตุผลมากขึ้น ดังนั้นผู้พิทักษ์ชูหลี่สามารถช่วยคนอย่างสามคนบ้าที่ฝ่าฝืนกฎของกาแลคซีทางช้างเผือกจาก ซือหม่า ฮันเฟิง ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังหนุ่ม มันอาจเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว

นั่นเป็นหัวข้อที่หนักหน่วง ผู้เล่นยามค่ำคืนเตือนฮั่นหลางด้วยเสียงต่ำ "มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ ถ้าวันหนึ่งพวกเราตายด้วยมือของซือหม่า ฮันเฟิง เจ้าไม่ต้องแก้แค้น ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันเพราะเจ้าจะไม่มีทางเอาชนะเขาได้"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น