แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
ในที่สุดฮั่นหลางก็รู้ว่าชายชราที่มีจมูกเหยี่ยวในเครื่องแบบทหารเป็นศัตรูของอาจารย์บ้าสามคนที่พวกเขาเกรงกลัวมาก
มันเป็นสิ่งที่บังคับให้ผู้คนมากมายหลบหนีไปสู่อาณาจักรที่ถูกลืม
ฮั่นหลางหันไปมองเขาอย่างระมัดระวัง
เขาต้องการทราบถึงความแข็งแกร่งของชายชราที่อยู่ในชุดทหาร ที่ถึงกับสามารถคุกคามชีวิตของคนที่แข็งแกร่งในทางช้างเผือกได้
ว่าเป็นอย่างไร
"ชายชราคนนี้แข็งแกร่งมาก"
เจียนเจียกระซิบที่หูของฮั่นหลาง ด้วยโทนเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
เจียนเจียมักมองดูคนอื่นต่ำกว่าอยู่เสมอ แต่เมื่อมองไปที่ชายชราคนนี้เธอดูเหมือนจะยกเขาขึ้นมาอีกระดับ
เขาเป็นนักรบชั้นนำของกาแลคซีทางช้างเผือก
ขุนศึกระดับแปดดาว ซือหม่า ฮันเฟิง อี่เว่ยเว่ยพูดกับฮั่นหลาง
"ระดับแปดดาว!?
ฮั่นหลางรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง
เพราะช่องว่างระหว่างระดับชั้นนั้นมีขนาดใหญ่มาก
ขุนศึกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับปานกลางมักมีปัจจัยบางอย่าง เช่นมีแหล่งพลังงานมากขึ้น
ยิ่งเป็นระดับขุนศึกก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะยกระดับขึ้นไป มีช่องว่างระหว่างระดับหกดาวและเจ็ดดาว
อย่างไรก็ตามระหว่างเจ็ดดาวและแปดดาว มันยิ่งเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
ในตอนนี้ระดับของ
ซือหม่า ฮันเฟิง ก็เข้าถึงระดับแปดดาว? นั่นหมายความว่าสักวันหนึ่งในอนาคตเขาอาจได้เข้าถึงระดับเก้าดาวที่มหัศจรรย์!
สำหรับระดับเก้าดาวทองคำ
นักรบที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับเจ็ดดาวเช่นฮั่นหลาง เขาไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของนักรบระดับเก้าดาวที่ควรจะเป็น!
มันแปลกเหลือเกินที่ฮั่นหลางไม่เคยรู้เรื่องของคนที่มีพลังอำนาจเช่นคนนี้ว่ามีอยู่ในกาแลคซีทางช้างเผือก
และไม่มีใครได้ยินชื่อของชายคนนี้ในที่ใด ๆ มาก่อน
แม้แต่อาจารย์ทั้งสามคนที่ไม่กลัวความตาย
หากแต่พวกเขากลัวเพียง ซือหม่า ฮันเฟิง เท่านั้น คนที่เป็นคนแปลกหน้า
อีกด้านหนึ่งผู้เล่นยามค่ำคืน
หรือคืนทะลายผู้บ้าคลั่งยาพิษ ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า
"ดังนั้นเจ้าอยากจะฆ่าเราเพราะเราออกจากอาณาจักรที่ถูกลืม?"
ซือหม่า ฮันเฟิง
ไม่เห็นด้วย "ไม่ อย่างน้อยตอนนี้ข้าไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเจ้า
ข้าแค่อยากจะเตือนเจ้าว่า ข้อตกลงก็ยังเป็นข้อตกลง
เจ้าได้ละเมิดข้อตกลงระหว่างเจ้ากับข้า ดังนั้นแม้ว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้าในตอนนี้
ข้าอาจฆ่าเจ้าได้ตลอดเวลาในอนาคต"
คำพูดเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
ทั้งสามคนบ้าไม่ได้ปฏิเสธ พวกเขาพยักหน้าซึ่งหมายความว่าพวกเขาเข้าใจ
ฮั่นหลางไม่เคยห่วงเรื่องของคนอื่น
แต่ในตอนนี้มันเกี่ยวกับอาจารย์ทั้งสามของเขา พวกเขาไม่ใช่แค่แขกของฮั่นหลางเท่านั้น
แต่ยังเป็นอาจารย์ของเขา
ฮั่นหลางลุกขึ้นยืน
ส่งยิ้มออกไปให้เขาและพูดว่า "ถึงแม้ว่าท่านจะมีข้อตกลงกันมาบ้าง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพวกมันใช่หรือไม่? อีกทั้งพวกเขาอยู่ที่ชั้นลึกของดาร์คเน็ต และไม่ได้กลับไปที่กาแลคซีทางช้างเผือก
ในทางกลับกัน เหล่าศัตรูของเรา เผ่าพันธุ์พระเจ้ากำลังใกล้เข้ามา เราจำเป็นต้องร่วมมือกัน
ร่วมพลังจากทุกคนเพื่อช่วยกาแล็กซีทางช้างเผือกให้ผ่านวิกฤตินี้
อะไรคือจุดยึดมั่นในข้อตกลงที่ผ่านมานี้? ข้าขอแนะนำให้เราลืมอดีตและรวมตัวกันเพื่อยืนหยัดร่วมกันเพื่อป้องกันภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา"
หลังจากฟังคำพูดของฮั่นหลางที่ไม่ค่อยมีน้ำหนัก
ซือหม่า ฮันเฟิง เหลือบตามองฮั่นหลางและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"ประการแรก ข้าไม่รู้ว่าข้อตกลงของคนอื่นจะเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ แต่ข้อตกลงของข้าไม่เคยเปลี่ยน”
"ประการที่สอง
เผ่าพันธุ์พระเจ้าไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะมาถึงที่ของเรา
เช่นที่เจ้าพูดแล้วก็ตาม แต่ข้าก็จะส่งพวกเขาไปยังนรก"
ฮั่นหลางตกตะลึงเขาไม่เคยได้ยินคำพูดที่ดูหยิ่งยโสเช่นนี้มาก่อน
ซือหม่า ฮันเฟิง
เป็นคนหยิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ! เพราะเขา เผ่าพันธุ์พระเจ้าจึงไม่กล้าที่จะโจมตีทางช้างเผือก? เขาคิดเช่นนี้ได้อย่างไร?
ทุกคนที่ไม่รู้จัก
ซือหม่า ฮันเฟิง หรือไม่คุ้นเคยกับเขา
ต้องรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับชายชราผู้นี้ ท่ามกลางสายตาที่จ้องมอง ซือหม่า
ฮันเฟิงกับกลุ่มลูกน้องของเขาที่อยู่ในเครื่องแบบทหาร พวกเขาทั้งหมดควรจะเข้าถึงระดับขุนศึก
เพราะ ซือหม่า ฮันเฟิง
การชุมนุมท่ามกลางบรรยากาศที่ดูอบอุ่นได้กลายเป็นหนาวเหน็บและไม่มีความสุข งานชุมนุมต้องจบลงก่อน
ทุกคนต่างเห็นว่า สามคนบ้าและแขกอื่น ๆ
อีกไม่กี่คนที่มาจากอาณาจักรที่ถูกลืมต่างกังวลใจ พวกเขาไม่มีความรู้สึกที่จะร่วมชุมนุมอีกต่อไป
คนส่วนใหญ่จากไป
เหลือเพียงเพื่อนที่ดีที่สุดของฮั่นหลางและเพื่อน ๆ จากอาณาจักรที่ถูกลืม
ผู้เล่นยามค่ำคืนฝืนยิ้มออกมาและบอกฮั่นหลางว่า
"ข้าเกือบจะลืมบอกเจ้าว่า ข้าได้นำสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์ที่เจ้าต้องการ
เพื่อนคนนี้เป็นคนใจดีมากทีเดียว เขาฝากสายฟ้าเพลิงพันตัวและราชาเถาสวรรค์อีกยี่สิบเมล็ดมาให้เจ้า
มันควรที่จะเพียงพอสำหรับเจ้าไปอีกช่วงระยะหนึ่ง"
ฮั่นหลางดีใจ
สายฟ้าเพลิงและราชาเถาสรรค์เป็นผลงานชิ้นเอกของผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรที่ถูกลืม
มันไม่มีขายในตลาดและก็ไม่ง่ายที่จะได้มันมา
ฮั่นหลางทำการเก็บพวกมันไว้ก่อนจะกล่าวออกไป
"ฝากขอบคุณผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ และบอกเขาว่าถ้าเขาต้องการความช่วยเหลือใด ๆ
โปรดบอกข้า ข้าจะช่วยเหลือเขา"
อู้หวินกัดริมฝีปากของเขาและกล่าวว่า
"มีคนจำนวนมากที่ต้องการทำงานให้เขา เขาไม่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือใด ๆ อีก
ในทางกลับกัน เหตุผลที่ทำให้เขามอบสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสรรค์
เป็นเพราะพวกข้าออกหน้าให้ และการทำงานหนักของเจ้าเอง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือการที่เจ้าทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด
อย่ามาเสียเวลาช่วยเขาเลย"
ฮั่นหลางพยักหน้าอย่างหนักและพูดว่า
"อย่ากังวลข้าอยากพบเขา
ถ้ามีโอกาสข้าอยากเห็นว่าเขาทำสายฟ้าเพลิงและราชาเถาสวรรค์อย่างไร"
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรีบโบกมือออกมาแล้วพูดว่า
"อย่าคิดถึงเรื่องนี้
ไม่มีใครจะแสดงทักษะที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริงของพวกเขาให้กับผู้อื่น
ถ้าเจ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเขา”
ฮั่นหลางไม่ตอบ
ในแง่นี้ คนบ้าทั้งสามก็เสียสละ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะไม่ได้เป็นอาจารย์กับศิษย์อย่างเป็นทางการ
แต่พวกเขาก็ยังคงถ่ายทอดทักษะเฉพาะด้านมาให้ฮั่นหลาง ด้วยทักษะความสามารถพิเศษเฉพาะด้านของสามคนบ้า
ได้ทำให้ฮั่นหลางกลายเป็นคนที่น่ากลัว หากจะพูดไป
พวกเขาทั้งหมดแทบจะเป็นอาจารย์ที่แท้จริงของฮั่นหลาง และมันอยู่เหนือกว่าผลประโยชน์ของพวกเขา
ฮั่นหลางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า "ข้าเก็บคำถามนี้ไว้ในใจเป็นเวลานานแล้ว ซือหม่า
ฮันเฟิงเป็นใคร?"
สามคนบ้าและเพื่อนคนอื่น
ๆ จากอาณาจักรที่ถูกลืมทั้งหมดถอนหายใจ ผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวว่า "ซือหม่า
ฮันเฟิง เป็นบุคคลพิเศษในทางช้างเผือก
เขาเรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์จิตวิญญาณของกาแลคซีทางช้างเผือก คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นเขา
เพราะทุกคนที่ได้เห็นเขาได้ตายไปแล้ว"
"มันเป็นเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ผู้พิทักษ์ชูหลีได้รับรู้ถึงภาวะวิกฤติในกาแลคซีทางช้างเผือก
เขาจึงขอร้องไม่ให้ซือหม่าฆ่าทุก ๆ คนที่ทำผิดกฎหมายในกาแลคซีทางช้างเผือก
ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของเขาก็แผ่กระจายออกไปและตอนนี้ คนอื่น ๆ เริ่มได้ยิน
ชื่อของเขา"
"ก่อนหน้านั้นแม้แต่พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ในกาแลคซีทางช้างเผือก
จนกระทั่งเขาจับพวกเราได้ เขาให้สองทางเลือกแก่พวกเรา ตายหรือไปพึ่งพิงชูหลี่และห้ามมาวุ่นวายกาแลคซีทางช้างเผือก"
"พวกเราไม่กลัวความตาย
ทุกคนจากอาณาจักรที่ถูกลืมไม่ได้กลัวเข่นกัน แต่ต่างกับซือหม่า ฮันเฟิง
เมื่อเขามองตาเรา ความตายแทบจะเป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกับการไปสวรรค์
นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่อยากยุ่งกับเขา"
"เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป
ในตอนนี้พวกเรากล้าที่จะไปตามเส้นทางเหล่าเทพเจ้าแล้ว
พวกเราก็พร้อมที่จะพบเขาที่นี่ มันเป็นเพียงแต่ข้าไม่คิดว่า ซือหม่า ฮันเฟิง จะมาจริง
ๆ และก็มาเร็วกว่าที่คาด”
ฮั่นหลางยังงงว่าทำไมทุกคนถึงกลัว
ซือหม่า ฮันเฟิง แต่เขาพบว่าไม่เหมาะที่จะขัดจังหวะที่ผู้เล่นยามค่ำคืนกำลังพูด
ผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวต่อมาว่า
“ได้มีการกล่าวกันว่าเมื่อตอนที่ ซือหม่า ฮันเฟิง ยังเด็ก
ครอบครัวของเขาได้มอบหมายหน้าที่ให้เขาดูแลรักษาสุสานบรรพบุรุษของพวกเขา
สุสานของคนแข็งแกร่งจะอยู่ในพื้นที่จำกัด
ผู้บุกรุกทุกคนจะต้องถูกสังหารและสุสานของตระกูลซื่อหม่าก็ไม่มีข้อยกเว้น
อยู่มาวันหนึ่ง เรือพร้อมผู้ลี้ภัยลำหนึ่ง
เครื่องยนต์ของเรือเกิดเสีย และพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องร่อนลงจอดในวงโคจรรอบดาวเคราะห์เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ซือหม่า ฮันเฟิง
ได้รับสัญญาณและขึ้นเรือ ในทันทีที่เขาอยู่บนเรือ เขาได้มอบยาและอาหารแก่พวกเขา
แล้วก็ฆ่าผู้ลี้ภัยครึ่งหนึ่งรวมถึงทารกที่ยังอยู่ในครรภ์
เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวของเขาโกรธเพราะวิธีการที่โหดร้ายและเลือดเย็น
มันไม่สอดคล้องกับคำแนะนำในครอบครัวของตระกูลซือหม่า และมันก็มีอิทธิพลต่อชื่อเสียงของพวกเขา
แต่ ซือหม่า ฮันเฟิง
ยืนยันในสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง เขาช่วยผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเพราะพวกเขาเป็นคนน่าสงสารและฆ่าผู้ลี้ภัยเหล่านั้นเพราะพวกเขาได้ละเมิดกฎ
ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ถูก จำกัด
ซือหม่า ฮันเฟิง
ฆ่าทุกคนในเรือครึ่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่จำกัด
ซือหม่า ฮันเฟิง
มีอายุยี่สิบปีเมื่อเขาทำอย่างนั้น
ตั้งแต่นั้นมาทุกคนก็ตระหนักว่า
ซือหม่า ฮันเฟิง คนนี้เป็นใคร ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าในกฎของโลกมากเท่าเขา
ต่อมาเมื่อ ซือหม่า
ฮันเฟิง โตขึ้นและเดินผ่านความซับซ้อนของมนุษย์จำนวนมาก
สถานการณ์เริ่มดีขึ้นนิดหน่อย เขาเริ่มมีเหตุผลมากขึ้น ดังนั้นผู้พิทักษ์ชูหลี่สามารถช่วยคนอย่างสามคนบ้าที่ฝ่าฝืนกฎของกาแลคซีทางช้างเผือกจาก
ซือหม่า ฮันเฟิง ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังหนุ่ม
มันอาจเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว
นั่นเป็นหัวข้อที่หนักหน่วง
ผู้เล่นยามค่ำคืนเตือนฮั่นหลางด้วยเสียงต่ำ "มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากให้เจ้าจำไว้
ถ้าวันหนึ่งพวกเราตายด้วยมือของซือหม่า ฮันเฟิง เจ้าไม่ต้องแก้แค้น
ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันเพราะเจ้าจะไม่มีทางเอาชนะเขาได้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น